ขอบคุณภาษาอังกฤษ ขอบคุณยังไงดี รวมมาให้แล้ว

รูปภาพปกบทความ ขอบคุณภาษาอังกฤษ  ขอบคุณยังไงดี รวมมาให้แล้ว

เอาจริง ๆ คำว่า “Thank you” เป็นคำขอบคุณภาษาอังกฤษที่ถูกใช้กันมากที่สุด มีความคลาสสิคมากที่สุด และสามารถใช้คำนี้ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะขอบคุณเพื่อน, เด็ก, ผู้ใหญ่, พ่อแม่ หรือแม้แต่ลูกค้าก็สามารถใช้ได้เช่นกัน แต่คำว่า Thank you ก็ดูจะเป็นคำที่น่าเบื่อมากที่สุดด้วยนะครับ จะให้พูดแต่คำว่า Thank you อยู่ตลอด มันก็คงไม่ใช่แนว และบางเวลาบางสถานการณ์การพูดแค่ Thank you นั้น ก็ไม่เหมาะสมด้วยครับ แล้วจะพูด “ขอบคุณภาษาอังกฤษ” ในรูปแบบอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากคำว่า Thank you อย่างไรดี และจะใช้ให้ถูกต้องเหมาะสมได้อย่างไร ตามมาดูกันเลยดีกว่าครับ



1. ขอบคุณภาษาอังกฤษ ขอบคุณแบบ ย่อ ๆ น่ารัก ๆ คูล ๆ ตรงประเด็น ขอบคุณแบบวัยรุ่น ในสถานการณ์ที่เป็นกันเอง ง่าย ๆ สบาย ๆ ชิล ๆ

1. ขอบคุณภาษาอังกฤษ ขอบคุณแบบ ย่อ ๆ น่ารัก ๆ คูล ๆ ตรงประเด็น ขอบคุณแบบวัยรุ่น ในสถานการณ์ที่เป็นกันเอง ง่าย ๆ สบาย ๆ ชิล ๆ

ก็คงเป็นไปตามสากลโลกนะครับ ที่คนรุ่นใหม่จะพยายามทำอะไรต่าง ๆ ให้สะดวกรวดเร็วที่มากขึ้น ซึ่งแม้แต่การพูดคำขอบคุณเองก็เช่นกัน มีการพูดที่ย่อมากขึ้น กระชับมากขึ้น และสั้นยิ่งกว่าเดิม แต่ก็ยังมีการพูดประโยคที่ยังคงปนความน่ารัก ๆ คูล ๆ ผสมอยู่ด้วย จะมีประโยคแบบไหน รูปแบบใดบ้างนั้น ตามมาดูกันเลยครับ

  • THX, TNX = Thanks / TQ = Thank you / TYVM = Thank you very much
  • ขอบคุณนะ, ขอบคุณครับ, ขอบคุณมาก ๆ นะครับ เป็นตัวย่อที่ใช้ในการพิมพ์คุยกับเพื่อน ๆ, คนสนิท หรือพวกกึ่งทางการ จะไม่นิยมใช้ในภาษาพูดนะครับ
  • Thanks so much / Thanks a lot / Thanks a bunch. / Thanks a ton. / Thanks! / Thanks a million
  • ทั้งหมดมีความหมายประมาณว่า “ขอบคุณมาก ๆ เลยนะ” สามารถใช้ประโยคไหนพูดแทนกันก็ได้ครับ ถ้าอยากเท่ ๆ หน่อยก็ Thanks a million ประโยคนี้จะแอบดูดีกว่าประโยคอื่น ๆ ครับ
  • ตัวอย่างประโยค เช่น Thanks a million for your help. ขอบคุณมาก ๆ ที่มาช่วยเรานะ (สามารถใช้รูปแบบประโยคอื่นวางไว้แทน Thanks a million ได้ทั้งหมด เช่น Thanks a ton for your help.)
  • หรือใช้ในกรณีตอบแบบทีเล่นทีจริงหรือประชดก็ได้ครับ เช่น เพื่อนคนแรกพูดว่า I’m going to let you do the dishes today. วันนี้เราจะให้นายล้างจานนะ อีกคนตอบ Thanks a million! ขอบคุณมากกกกกกก! (เสียงสูงงงงง)
  • You’re the best. / You’re awesome! / You Rock.
  • “คุณนี้มันเยี่ยมจริง ๆ / นายมันสุดยอด! / นายมันแน่มาก” จะเป็นประโยคที่ใช้ขอบคุณแบบเท่ ๆ คูล ๆ ตอบกลับไปหาอีกฝ่าย แต่จะเหมาะใช้กับคนที่สนิท ๆ เท่านั้น ไม่เหมาะกับการใช้สำหรับคนทั่ว ๆ ไปเท่าไรนะครับ
  • ตัวอย่างประโยค เช่น A : Hey, here’s your beer. B : Dude, You’re awesome! เพื่อน A : อะ นี้เบียร์ของนาย เพื่อน B : แมร่ง นายมันสุดยอด! (ประมาณว่า รู้ใจมาก ๆ ที่เอาเบียร์ที่ชอบมาให้) หรือถ้าอยากให้มันดูเท่มากขึ้น แต่ไม่เหลือความสุภาพนะครับ สามารถพูดประมาณว่า B : Damn you rock! จะแปลว่า เชี่ย มึงมันแน่มาก (ที่เอาเบียร์มาให้)
  • Cheers
  • เป็นคำแสลงที่มีความหมายว่า “ขอบคุณ” แต่จะใช้ในแค่แถบ ๆ ประเทศอังกฤษเท่านั้น ถ้าเอาไปใช้ที่อเมริกาหรือประเทศอื่น ๆ คนเขาจะงงได้นะครับ เขาอาจจะนึกว่า จะดื่มเบียร์หรอ? จะเชียร์กีฬาหรอ? มากกว่า แต่ในอังกฤษถือว่าเป็นอีกคำขอบคุณที่จะได้ยินบ่อยพอ ๆ กับการใช้คำว่า Thank you เลยครับ
  • I really appreciate it.
  • คำว่า appreciate มีความหมายประมาณว่า ซาบซึ้ง, เห็นคุณค่า หรือสำนึกบุญคุณ แนวทำนองนี้ครับ จึงเป็นการพูดขอบคุณที่ขั้นกว่าพวกประโยคในรูปแบบด้านบน ๆ และส่วนใหญ่จะใช้เวลาที่ มีใครสักคนมาทำสิ่งดี ๆ ให้แบบเซอร์ไพรส์, ให้ของขวัญมีค่าสักชิ้น หรือได้รับการช่วยเหลือจากอีกคนเป็นอย่างมาก
  • ตัวอย่างประโยค เช่น I really appreciate everything you’ve done. ผมซาบซึ้งใจมาก ๆ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณได้ทำมานะครับ / I really appreciate your gift. ขอบคุณสำหรับของขวัญมาก ๆ เลยนะ เราชอบ (ซาบซึ้ง) มาก ๆ เลย
  • You shouldn’t have.
  • เป็นสำนวนที่ไม่ได้สื่อว่า ขอบคุณตรง ๆ เหมือนประโยคด้านบน ๆ จะเป็นการขอบคุณแบบอ้อม ๆ แนวเกรงอกเกรงใจซะมากกว่า ส่วนใหญ่จะใช้ขอบคุณสำหรับสิ่งที่จริง ๆ ไม่ต้องทำก็ได้ เช่น การซื้อของให้ หรือการช่วยทำสิ่งต่าง ๆ เป็นต้น
  • ตัวอย่างประโยค เช่น You bring me coffee?! You shouldn’t have. โหยซื้อกาแฟมาให้เราหรอ แต่จริง ๆ ไม่ต้องก็ได้ เราเกรงใจอะ
  • I don’t know what to say!
  • เป็นสำนวนที่จะใช้คล้าย ๆ กับกรณีของ You shouldn’t have. ที่มีคนมาทำอะไรดี ๆ หรือซื้อของขวัญมาให้ แต่จะมีแนวโน้มที่ยิ่งใหญ่กว่า หรือเซอร์ไพรส์เว่อร์ ๆ
  • ตัวอย่างประโยค เช่น Wow! this gift is such a surprise. I don’t know what to say. Thank you. โหยย เป็นของขวัญที่เซอร์ไพรส์มาก ๆ เราไม่รู้จะพูดอะไรออกมาเลย (สื่อว่าซาบซึ้งมาก ๆๆ) ขอบคุณนะ
  • That’s very kind of you.
  • เป็นสำนวนที่จะใช้ในเวลาที่มีคนมาช่วยเหลือ หรือทำสิ่งต่าง ๆ ให้ ไม่ว่าจะช่วยเรื่องงาน, เรื่องส่วนตัว, หรือแม้แต่เรื่องทั่ว ๆ ไป เช่น การยกของหนักให้ หรือขับรถพาไปส่ง เป็นต้น
  • ตัวอย่างประโยค เช่น A : Do you need a ride? B : That’s very kind of you. Thank you. นาย A พูดว่า ผมไปส่งไหมครับ นางสาว B ตอบว่า คุณใจดีจังเลย ขอบคุณนะคะ
  • You made my day.
  • จะสื่อความหมายประมาณว่า คุณทำให้วันนี้เป็นวันพิเศษของฉันเลย สามารถใช้ในการขอบคุณได้ในหลาย ๆ สถานการณ์ เช่น มีคนชมคุณว่าดูดีจัง, หรือทำให้คุณหัวเราะ มีความสุขมาก ๆ เป็นต้น ลองไปดูตัวอย่างกันครับ
  • ตัวอย่างประโยค เช่น A : You look so gorgeous today. B : Thanks! You made my day. นาย A พูดว่า วันนี้คุณดูสวยเป็นพิเศษมาก ๆ เลยครับ นางสาว B ตอบว่า ขอบคุณนะคะ ชมซะเราเขินเลยนะ (ประมาณว่า วันนี้พิเศษขึ้นแล้วนั้นเอง)
  • What would I do without you? 
  • เห็นว่าเป็นประโยคคำถาม อาจจะงง ๆ ว่าแล้วจะใช้ขอบคุณได้ยังไง โดยประโยคจะมีความหมายประมาณว่า “ฉันจะอยู่ได้ยังไงเนี่ยถ้าไม่มีคุณ” จึงค่อนข้างจะใช้ขอบคุณสำหรับกลุ่มคนที่สนิทกันมาก ๆ ในระดับความสัมพันธ์เดียวกัน เช่น เพื่อนสนิทกับเพื่อนสนิท, สามีภรรยา, เพื่อนร่วมงานที่สนิทกันมาก ๆ เป็นต้น ลองไปดูตัวอย่างกันครับ
  • ตัวอย่างประโยค เช่น A : I already cooked your dinner. B : Thank you Darling. What would I do without you? สามี A พูดว่า ผมทำอาหารเย็นไว้เรียบร้อยแล้วนะ ภรรยา B ตอบว่า โหยย ขอบคุณค่ะที่รัก ฉันจะอยู่ได้ยังไงเนี่ยถ้าไม่มีคุณ
  • I can’t thank you enough. / To say thank you is not enough.
  • “แค่ฉันขอบคุณมันคงไม่พอ / แค่คำขอบคุณเฉย ๆ มันคงไม่พอ” จะเป็นประโยคที่เอาไว้ใช้พูดขอบคุณเวลาที่รู้สึกว่า อีกฝ่ายช่วยเหลือเรามาก ๆ ช่วยจนแบบ ไม่รู้จะตอบแทนยังไงดีเลย ซาบซึ้งใจมาก ๆ
  • ตัวอย่างประโยค เช่น You did clean all the house by yourself! To say thank you is not enough. คุณทำความสะอาดบ้านทั้งหมดแล้วหรอ! แค่คำขอบคุณมันอาจจะไม่พอนะเนี่ย
  • This means a lot to me. / Thanks for having my back.
  • “สิ่งที่คุณทำมันมีค่ากับผมมาก ๆ / ขอบคุณมากที่อยู่ข้างผม” จะเป็นประโยคที่ใช้พูดขอบคุณเวลาที่อีกฝ่ายช่วยให้ตัวเรานั้นผ่านสถานการณ์ยากลำบาก หรือเวลาเหนื่อย ท้อแท้ สิ้นหวัง เช่น เวลาไปทำงานแล้วเพื่อนร่วมงานคุณหรือเจ้านายคุณอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ก็สามารถพูดตอบพวกเขาไปได้ว่า Thanks for having my back. ครับ
  • I owe you one.
  • “ผมติดหนี้บุณคุณนะ” จะเป็นประโยคที่ใช้พูดตอบไปเมื่อรู้สึกว่า เราติดหนี้บุญคุณคนที่ช่วยเหลือเรา และอยากจะหาทางตอบแทนคืนในอนาคต ส่วนใหญ่จะใช้กันมากตอนทำงานครับ เช่น เพื่อนร่วมงานได้เข้ามาช่วยทำงานของเราจนเสร็จ เราก็พูดบอกเขาไปได้ว่า Thank you for your help. I owe you one. ขอบคุณมาก ๆ ที่ช่วยนะครับ ผมติดหนี้คุณที่มาช่วยผมนะ (ผมจะช่วยคืนแน่ ๆ ในอนาคต)


2. ขอบคุณภาษาอังกฤษ “ทางการ” ขอบคุณอย่างไรดี ให้ดูสุภาพและเหมาะสมกาลเทศะ

2. ขอบคุณภาษาอังกฤษ "ทางการ" ขอบคุณอย่างไรดี ให้ดูสุภาพและเหมาะสมกาลเทศะ

ในหลาย ๆ สถานการณ์ โดยเฉพาะในที่ทำงานที่ต้องพูดขอบคุณเจ้านาย, ลูกค้า, เพื่อนร่วมงานที่ไม่ค่อยสนิทนัก หรือแม้แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ก็ตาม การพูดขอบคุณต้องใช้สำนวนที่ดูเป็นทางการมากขึ้น มีความสุภาพมากขึ้น จะไปใช้ประโยคบน ๆ ที่ได้อ่านผ่านมาแล้วนั้น จะไม่เหมาะสมเท่าไรนัก เดี๋ยวจะโดนด่าโดนว่าเอาได้ว่า ไม่มีความเป็นมืออาชีพ อีกทั้งการขอบคุณภาษาอังกฤษแบบทางการ ส่วนใหญ่จะต้องระบุรายละเอียดลงไปด้วยว่า ขอบคุณในเรื่องอะไร เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกดีมากขึ้น เดี๋ยวลองไปดูตัวอย่างประโยค และการใช้กันครับ

  • I’m so grateful for … / I’m so thankful for… 
  • ทั้งสองประโยคจะมีความหมายประมาณว่า “ผมรู้สึกขอบคุณมาก ๆ สำหรับ…”
  • ตัวอย่างประโยค เช่น I just wanted to say that I’m so grateful for the time and effort you put into explaining how to use this program for me. “ผมแค่อยากจะบอกว่า ผมรู้สึกขอบคุณมาก ๆ สำหรับเวลาและความพยายามของคุณที่ได้มาช่วยอธิบายวิธีการใช้โปรแกรมตัวนี้ให้ผมครับ” เห็นไหมครับว่า ดูเป็นทางการมากขึ้น เป็นมืออาชีพมากขึ้น รู้สึกถึงความใส่ใจในการขอบคุณมากขึ้น ซึ่งดีกว่าการตอบแค่ Thank you for all that you’ve done for me. “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่คุณทำให้ผมครับ” อ่านประโยคนี้แล้วอาจจะรู้สึกว่า มันสั้น ๆ ห้วน ๆ ไป เหมือนตอบแบบส่ง ๆ ให้รู้ว่า ขอบคุณแล้วนะ อะไรประมาณนั้นครับ
  • I truly appreciate it. / I genuinely appreciate it / I greatly appreciate it.
  • ทั้งหมดจะมีความหมายประมาณว่า “ผมรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก” มีความหมายเหมือนกับประโยคด้านบน I really appreciate it. เลยครับ แต่คำว่า Really จะเป็นคำไม่ค่อยเป็นทางการ โดยเฉพาะในภาษาเขียนเวลาแสดงความขอบคุณจะไม่เจอคำ Really นี้เลยครับ ส่วนใหญ่จะใช้คำว่า Truly, Genuinely และ Greatly ซึ่งทำให้รูปประโยคมีความเป็นทางการมากกว่านั้นเองครับ
  • It’s so kind of you to …
  • “คุณเป็นคนมีน้ำใจมาก ๆ ที่คุณ…” จะเป็นประโยคทางการของประโยค That’s very kind of you. ที่อยู่ด้านบนครับ
  • ตัวอย่างประโยค เช่น Boss A :If you need more time to finish the job, just let me know. B : It’s so kind of you to offer me more time. I’ll think about it. เจ้านาย A เสนอว่า ถ้าคุณต้องการเวลาเพิ่มมากขึ้นเพื่อทำงานให้เสร็จ ก็บอกผมนะ ลูกน้อง B เจ้านายใจดีมาก ๆ เลยครับที่เสนอเรื่องเวลาให้ ผมจะไปคิดดูนะครับ
  • I want you to know how much I value …
  • “ผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่า ผมเห็นค่า…” จะเป็นประโยคขอบคุณแบบทางการที่จะใช้ขอบคุณกับบุคคลที่มีความสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง เช่น เจ้านายลูกน้อง, เจ้าของกับเมเนเจอร์ เป็นต้น
  • ตัวอย่างประโยค เช่น  I want you to know how much I value all of your hard work and leadership. This company can’t succeed with out you. ผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่า ผมเห็นค่างานที่คุณทำมาทั้งหมดและการเป็นผู้นำของคุณ บริษัทนี้คงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้หากไม่มีคุณ
  • Words cannot describe how grateful I am
  • “คำพูดคงไม่สามารถบรรยายได้ว่า ผมรู้สึกขอบคุณขนาดไหน” เป็นประโยคทางการของประโยค I don’t know what to say ที่อยู่ด้านบน แต่จะเป็นประโยคที่ค่อนข้างจะโอเวอร์ไปมาก ๆ ประมาณว่า รู้สึกขอบคุณแบบสุด ๆ จนมันพูดไม่ออก พูดขอบคุณไม่ได้ ประมาณนั้นครับ โดยปกติจะไม่ค่อยเห็นคนใช้ประโยคนี้กันเท่าไรนัก ถ้าใช้แล้วคนรับสารอาจจะรู้สึกว่า เยอะไป แทนที่จะดูจริงใจ แต่อาจจะกลายเป็นดูเฟคได้ อีกทั้งไม่เหมาะกับการใช้ในภาษาพูดอย่างแรง ถ้าจะใช้ประโยคนี้ ต้องค่อนข้างมั่นใจในภาษาอังกฤษของตัวเองพอสมควรนะครับ
  • ตัวอย่างประโยค เช่น Words cannot describe how grateful I am for the love and compassion they have always given me. คำพูดคงไม่สามารถบรรยายได้ว่า ผมรู้สึกขอบคุณขนาดไหนสำหรับความรักและความกรุณาที่พวกเขาได้มอบให้กับผมอยู่เสมอมา


3. ขอบคุณภาษาอังกฤษ “Email” เขียนตอบอย่างไรดี ให้ดูเป็นพนักงานมืออาชีพ ดูแล้วมีความโปรแบบสุด ๆ

3. ขอบคุณภาษาอังกฤษ "Email" เขียนตอบอย่างไรดี ให้ดูเป็นพนักงานมืออาชีพ ดูแล้วมีความโปรแบบสุด ๆ

Email ถือว่าเป็นอีกเครื่องมือที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการติดต่อสื่อสาร และยังช่วยให้การติดต่อสื่อสารสามารถทำได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ไม่ว่าจะใช้ติดต่อกับเจ้านาย, หัวหน้า, เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่ลูกค้าเองก็ตาม และด้วยการที่คนไทยหลาย ๆ คนเอง ก็ต้องทำงานกับเจ้านายหรือลูกค้าที่เป็นคนต่างชาติ การเขียน Email ภาษาอังกฤษจึงมีความจำเป็นเพิ่มมากขึ้น แล้วจะเขียนขอบคุณภาษาอังกฤษใน Email ยังไงดีนั้น ก็ข้างล่างเลยครับ

  • Thank you for contacting us
  • “ขอบคุณสำหรับการติดต่อพวกเรานะครับ” เป็นประโยคที่ใช้ขอบคุณลูกค้าหรือผู้อื่น ๆ ที่เวลาพวกเขาได้ส่ง Email มาหาเราครับ ส่วนใหญ่ก็จะใช้เป็นประโยคขึ้นต้น Email ครับ
  • Thank you for your prompt reply
  • “ขอบคุณสำหรับการตอบกลับอย่างรวดเร็วนะครับ” เป็นประโยคที่ใช้ขึ้นต้น Email เช่นกัน แต่จะใช้ตอนที่เวลาเราส่ง Email หาคนอื่น ๆ แล้ว พวกเขาตอบกลับมาไวมากภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือภายในวันนั้นเลย ก็ใช้รูปแบบประโยคนี้ จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่า เราใส่ใจ เราสนใจ Email ของพวกเขาครับ
  • Thank you for the information
  • “ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ” ก็ถ้าเราได้ขอข้อมูลจากอีกฝ่าย แล้วอีกฝ่ายส่งข้อมูลมาให้ ก็ใช้ประโยคนี้ตอบขอบคุณกลับไปได้ครับ แต่ถ้าจะให้ดีควรมีคำว่า About หรือ Regarding จะได้ดูเป็นการเป็นงานมากขึ้น
  • ตัวอย่างประโยค เช่น Thank you for the information about your current pricing. ขอบคุณสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับราคาสินค้าที่ขายอยู่ตอนนี้นะครับ
  • Thank you for all your assistance
  • “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือทั้งหมดด้วยนะครับ” เวลาที่มีคนมาช่วยเหลือ ช่วยงานต่าง ๆ แล้วอยากจะขอบคุณ ก็ใช้ประโยคนี้ ตอบขอบคุณไปใน Email ได้ครับ
  • Thank you raising your concerns
  • “ขอบคุณที่บอกเรื่องกังวลต่าง ๆ มาให้นะครับ” ปกติจะใช้ก็ต่อเมื่อ เวลาที่เจ้านาย, หัวหน้า หรือลูกค้าดู ๆ งานที่ทำแล้ว อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ จึงได้ส่ง Email มาเตือนหรือมาแนะนำในการรับมือ เราก็ใช้ประโยคนี้ตอบกลับไปได้ หรือจะใช้ Thank you for your feedback. ได้เช่นกันครับ
  • Thank you for your understanding
  • “ขอบคุณที่เข้าใจนะครับ” ส่วนใหญ่จะใช้ก็ต่อเมื่อ เวลางานมีปัญหา หรืออีกฝ่ายได้รับความไม่สะดวก เราจึงต้องอธิบายถึงสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร สุดท้ายจึงจบด้วยประโยคนี้ เช่น ส่งของให้ลูกค้าไม่ทัน เพราะรถยนต์ยางแตก หลังจากอธิบายทุกอย่างจบแล้ว ก็จบด้วย Thank you for your understanding ให้อารมณ์เหมือน ๆ ขอความเห็นใจด้วย ประมาณนี้ครับ
  • Thank you for your consideration
  • “ขอบคุณสำหรับการพิจารณาด้วยนะครับ” ประโยคนี้หลาย ๆ คนน่าจะเคยใช้ใน Email กันมาแล้ว โดยเฉพาะเวลาใช้ Email สมัครงาน ส่วนใหญ่ก็จะลงท้ายด้วยประโยคนี้ เพื่อบอกผู้รับสมัครเป็นนัย ๆ ว่า ช่วยพิจารณาผมด้วยนะครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับ หลังจากอ่าน “ขอบคุณภาษาอังกฤษ” ในรูปแบบต่าง ๆ และการใช้ในหลาย ๆ สถานการณ์จนจบแล้ว คำว่า Thank you เฉย ๆ ดูธรรมดา ๆ ไปเลย ตอนนี้ต้องลองหัดใช้ประโยคขอบคุณภาษาอังกฤษที่นอกเหนือจาก Thank you กันแล้วละ แต่เอาจริง ๆ แล้ว มันยังมีคำหรือประโยคขอบคุณภาษาอังกฤษอีกเยอะมากกก แต่ไม่ได้เอามาเขียนไว้ให้ได้ดูกัน ถ้ายังไงมีประโยคขอบคุณภาษาอังกฤษแบบอื่น ๆ ที่คิดว่าใช้แล้วดูดี ดูน่ารัก หรือดูเป็นการทาง มีความสุภาพเหมาะสม ก็บอก ๆ มากันได้ ผมจะได้ลองเอาไปใช้บ้างครับ

ถ้าสนใจบทความเกี่ยวกับ การพูด / เขียน ภาษาอังกฤษแบบอื่น ๆ ก็ลองไปดูที่ด้านล่างได้นะครับผม



เราใช้คุกกี้เพื่อนับผู้เข้าชมและพัฒนาเว็บไซต์ อ่านรายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัวและคุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    สำหรับวิเคราะห์สถิติของผู้ชมเว็บไซต์ เพื่อช่วยตัดสินใจ การปรับปรุงบทความ - ข้อมูลแหล่งที่มาของผู้ใช้งาน เช่น. ผู้ใช้เข้าสู่เว็บไซต์ Plus Around จาก Google Search หรือ Social Network - ข้อมูลพฤติกรรม เช่น. ระยะเวลา, เวลา, หน้า landing page และการติดตามกิจกรรมอื่น ๆ - ข้อมูลเนื้อหา เช่น. ผู้ใช้อ่านบทความเครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี - ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เช่น. ผู้ใช้แบ่งปันบทความบนเครือข่ายโซเชียล - ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ Google Analtics สามารถดูในระดับภาพรวม แต่ไม่สามารถเจาะจงเป็นรายบุคคลได้ เช่น. เพศ , อายุ , สถานที่ตั้ง - การทดสอบ A/B test สำหรับการปรับปรุงเว็บไซต์

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา

    การโฆษณาตามความสนใจ - แสดงโฆษณาที่สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้งาน โดยอ้างอิงตามกิจกรรมของผู้ใช้ บนเว็บไซต์ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ ผู้ใช้งานสนใจ ในเชิงพาณิชย์ - อนุญาตให้ผู้เผยแพร่โฆษณา นำเสนอโฆษณาต่างๆ แก่ผู้ใช้งาน และยังให้ผู้เผยแพร่โฆษณา สามารถประมูลค่าของโฆษณา เพื่อเสนอราคาที่เหมาะสม ก่อนที่จะนำโฆษณาเสนอแก่ผู้ใช้งาน - การกำหนดความถี่สูงสุดในการมองเห็นโฆษณา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานเห็นโฆษณาเดียวกันหลายครั้งเกินไป - รวบรวมข้อมูลบราวเซอร์และอุปกรณ์: ประเภทและรุ่นของอุปกรณ์, ผู้ผลิต, ประเภทระบบปฏิบัติการ และรุ่น (เช่น iOS หรือ Android) ประเภท และรุ่นของเว็บบราวเซอร์ (เช่น Chrome หรือ Safari), user-agent, ชื่อผู้ให้บริการ, เขตเวลา ประเภทการเชื่อมต่อเครือข่าย (เช่น Wi-Fi หรือ เซลลูลาร์), ที่อยู่ IP, ตำแหน่งทั่วไปที่อนุมานจากที่อยู่ IP หรือ บราวเซอร์ หรือ เว็บแคช)

บันทึกการตั้งค่า