รูปภาพปกบทความ ตู้เย็น ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 ยี่ห้อ

ใครที่กำลังมองหาหรือกำลังจะมีแพลนซื้อตู้เย็นใหม่เข้าบ้านหรือคอนโด แต่ไม่รู้จะซื้อรุ่นไหนดี ยิ่งเดี๋ยวนี้ก็มีตู้เย็นมากมายหลากรุ่น หลายแบรนด์จนเลือกไม่ถูกกันใช่มั้ยละ ?? ทางเราก็ได้รวบรวมบทความ “ตู้เย็น” ยี่ห้อไหนดี มาให้ถึง 10 แบรนด์ มีทั้งแบรนด์ดัง ๆ และแบรนด์ใหม่ ๆ เพียบ รวมถึงใครที่เป็นสายแกดเจ็ต หรือสายเทคโนโลยีสุดล้ำ ก็มีรุ่นที่มีหน้าจอ พร้อมความสามารถพิเศษ ที่ช่วยให้ชีวิตของเรานั้นสะดวกสบาย ทำอะไรได้มากกว่าตู้เย็นทั่ว ๆ ไปอีกด้วย จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ตามมาอ่านกันเลยครับ

วิธีการเลือกซื้อตู้เย็น

เลือกจากขนาดคิว การเลือกขนาดบรรจุคิว วัดจากจำนวนสมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมห้อง ต่อตู้เย็น 1 ตัว เพื่อให้เพียงพอต่อการบรรจุสิ่งของสำหรับแช่ใน หากแช่ของจนแน่นมากเกินไป จะทำให้ความเย็นนั้นเข้าไม่ถึงทั่วพื้นที่ ส่งผลให้ของเน่าเสียเร็วกว่าปกติ รวมถึงจะส่งผลให้ตู้เย็นนั้นทำงานหนักและจะทำให้อายุการใช้งานไม่ยืนยาว ซึ่งทางเราก็จะขอแนะนำจำนวนคิวที่เหมาะสม ดังนี้ครับ

• ขนาด 3.5 คิว เหมาะสำหรับ สมาชิก 1 คน
• ขนาด 6.1 – 10 คิว เหมาะสำหรับ สมาชิก 2 คน
• ขนาด 11 – 18 คิว เหมาะสำหรับ สมาชิก 3-4 คน แต่หากสมาชิกมีมากกว่า 5 คน แนะว่าควรเลือกซื้อ ขนาด 15 คิวขึ้นไปครับ

เลือกจากฟังก์ชันของตู้เย็น

• ระบบ Inverter เป็นการควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์แปลงไฟฟ้ากระแสสลับให้เป็นไฟฟ้ากระแสตรง ช่วยให้ประหยัดพลังงานและประหยัดไฟมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยสร้างความเย็นได้รวดเร็ว ที่สำคัญยังลดเสียงที่ไม่พึงประสงค์ และทำได้งานเงียบอีกด้วย
• ระบบกำจัดกลิ่นและแบคทีเรีย เป็นการกำจัดกลิ่นอาหารแรง ๆ ที่ไม่พึงประสงค์ จากอาหารบางอย่างถึงแม้จะมัดแน่นหรือเก็บไว้ในกล่องสุญญากาศ ก็ยังมีกลิ่นนั้นเล็ดลอดออกมาได้ เช่น ของหมักของดองทั้งหลาย นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งแบคทีเรีย เพื่อคงความสดใหม่ให้กับผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ได้อย่างยาวนาน

• ระบบกระจายความเย็นรอบทิศทาง จะช่วยลดความผันผวนของอุณหภูมิภายในตู้ รักษาอุณหภูมิและทำให้ความเย็นในตู้ทั่วถึงเท่ากันทุกชั้น
• เลือกตู้เย็นประหยัดไฟ เราแนะนำให้คุณมองหา ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะได้ทำการทดลองและได้รับการรับรองจากทางการไฟฟ้าแล้ว ยิ่งถ้ามีจำนวนดาวบนฉลากถึง 3 ดวง ก็จะยิ่งประหยัดไฟได้มากครับ

ตารางเปรียบเทียบรีวิว “ตู้เย็น” ยี่ห้อไหนดี

หากคุณไม่มีเวลาที่จะอ่านแบบละเอียดแล้วล่ะก็ ทางเราก็ได้ทำ ตารางเปรียบเทียบรีวิว “ตู้เย็น” ยี่ห้อไหนดี สรุปให้แบบสั้น ๆ ทั้ง คิว ความจุ จำนวนประตู ขนาด การรับประกันและ จุดเด่นของแต่ละยี่ห้อมาให้แล้ว สามารถคลิกปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลยครับ…

1. Beko รุ่น RDNT271I50VK

ราคาโดยประมาณ 10,490 บาท

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

Beko ตู้เย็นจากสัญชาติตุรกี เราก็จะมาพูดถึงเจ้า Beko รุ่น RDNT271I50VK เป็นตู้เย็นแบบ 2 ประตู โดยตัวเครื่องจะเป็นสีดำตัดขอบประตูบานที่สองด้วยสีทองโรสโกลด์ ที่ให้รูปลักษณ์เรียบหรูดูแพง น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ เรียกได้ว่าเพิ่มความแพงให้กับบ้านได้แบบสุด ๆ ความจุ 9 คิว ขนาด 255 ลิตร ช่วยให้คุณแช่งของได้แบบจุใจ, Flexi Chiller ที่สามารถย้ายหรือปรับตำแหน่งได้ช่องแช่อาหารพร้อมปรุง ทำให้มีพื้นที่ระหว่างชั้นสำหรับแช่ของนั้นสูงขึ้น กว้างมากขึ้น ชั้นวางเป็นกระจกนิรภัยที่ให้ความทนทานเป็นพิเศษและขอบยางแบบป้องกันการสะสมแบคทีเรีย

จุดเด่นของเจ้าตัวนี้คือเทคโนโลยีล้ำสมัยจากยุโรปชื่อว่า HarvestFresh เป็นการจำลองการสังเคราะห์แสงธรรมชาติ ด้วยพลังแสง 3 สี เข้ามาช่วยคงคุณค่าวิตามิน A และ วิตามิน C ในผัก ผลไม้ ไม่ว่าคุณจะซื้อผัก ผลไม้เก็บหรือแช่ไว้นานแค่ไหน ก็ยังให้ความรู้สึกเสมือนได้เก็บผัก ผลไม้สดจากฟาร์มในตู้เย็นกันเลย Neofrost™ ระบบความเย็นแยกส่วนอัจฉริยะ ช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นปะปนในช่องแช่เย็นทั้งช่องบนและล่าง แน่นอนมาพร้อมกับระบบ ProSmart™ Inverter จะช่วยทำความเย็นให้เร็วขึ้น 2 เท่า ทำให้ สามารถเก็บความสดของผักได้นานมากกว่าตู้เย็นทั่วๆ ทำงานเงียบเพียง 39 เดซิเบล แถมยังประหยัดไฟแบบสุด ๆ ครับ

2. Hisense รุ่น RQ560N4TBU

ราคาโดยประมาณ 24,990 บาท

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

Hisense รุ่น RQ560N4TBU ตู้เย็น 4 ประตูแบบ Multidoor ที่สามารถเปิดพร้อมกันได้ทั้ง 4 ด้าน เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่กว้าง มาพร้อมสีดำด้าน ที่ความสุขุม นุ่ม ลึก ดีไซน์ Pure Flat ให้ความล้ำสมัยแบบสุด ๆ มีความจุมากถึง ความจุ 16.1Q ขนาด 455 ลิตร โดย 2 ช่องด้านบนสามารถแช่ของได้แบบจุใจ ส่วน 2 ช่องด้านล่างเป็นช่องแช่แข็งที่มีระบบ My Fresh Choice ซึ่งเราสามารถปรับตั้งอุณหภูมิ ให้ตรงตามประเภทของอาหารได้ ตัวอย่างเช่น ไอศกรีม ที่ต้องความเย็น -12 องศา ผลไม้แช่แข็ง -5 องศา หรือ เนื้อ -18 องศา เป็นต้น มี Bigger and Deeper LED Lighting 3 จุด ที่ช่วยให้แสงสว่างทั่วทั้งตู้ แม้แช่ของในที่ลึก ๆ ก็ยังมองเห็นได้ทั่วถึง

จุดเด่นของรุ่นนี้คือ Total No Frost Technologies ที่ช่วยรักษาถนอมอาหาร และความสดใหม่ได้ยาวนานขึ้น, Metal Cooling and Air Flow Cooling บอร์ดกระจายความเย็นแบบหลายทิศทาง จะช่วยทำให้ความเย็นกระจายได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงช่วยปรับให้มีอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมทั่วทั้งช่องแช่เย็น, ระบบ Inverter Technology ที่ช่วยให้ตู้เย็นนั้นทำงานเงียบ ประหยัดพลังงาน และประหยัดไฟอีกด้วยครับ

3. Candy รุ่น RD15HTCRFD1OL

ราคาโดยประมาณ 3,750 – 4,499 บาท

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

Candy แบรนด์ที่ไม่ค่อยคุ้นชินนักในไทย เป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านชั้นนำจากอิตาลี และปัจจุบันมี Haier เป็นเจ้าของ ซึ่งเค้าจะเน้นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งานง่าย ราคาเข้าถึงได้ง่าย ดังนั้นจึงมั่นใจในคุณภาพและสินค้าของแบรนด์นี้ได้เลยครับ เราจะมาพูดถึงเจ้า Candy รุ่น RD15HTCRFD1OL ที่มีดีไซน์เรียบง่าย สีขาว ตัดขอบบนด้วยสีชมพู เป็นตู้เย็น แบบ 1 ประตู ขนาด 5.2 คิว เหมาะสำหรับวัยนักเรียน นักศึกษาอย่างยิ่ง

ถึงแม้จะเป็นตู้เย็นที่มีขนาด 5.2 คิว แต่ก็สามารถแช่ของได้เยอะไม่แพ้กัน มีช่องแช่ผักขนาดใหญ่ ใส่ผักได้เยอะ จุใจ และช่องวางไข่ได้มากถึง 10 ฟอง อีกทั้งชั้นวางกระจก ยังมีความทนทาน แข็งแรง สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 120 กิโลกรัมกันเลย มีระบบละลายน้ำแข็งแบบ Low frost และถึงแม้ว่าจะไม่มีระบบ Inverter เหมือนรุ่นราคาสูง ๆ แต่เค้าก็ยังมีน้ำยา R600 ที่ช่วยให้ประหยัดพลังงาน ที่คำนวณค่าไฟโดยประมาณ 726/ปี และยังเป็นมิตรกับธรรมชาติอีกด้วยครับ

4. CHiQ รุ่น CSS562NIG 

ราคาโดยประมาณ 18,990 บาท

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

CHiQ ตู้เย็นจากสัญชาติจีน ที่ได้รางวัลการันตีมากมายระดับโลก เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ เรื่องคุณภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเราได้หยิบ CHiQ ตู้เย็นไซด์ บาย ไซด์ รุ่น CSS562NIG ซึ่งเป็นรุ่นที่มีความน่าสนใจ ด้วยการออกแบบดีไซน์แบบไร้รอยต่อ จึงทำให้ตัวเครื่องดูโมเดิร์น สวย ทันสมัย เหมาะกับบ้านทุกสไตล์ ภายในตู้เย็นมีระบบทำความเย็นด้วยลมเย็นแบบ 3 มิติ มีเซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิภายในได้อย่างแม่นยำ ทำให้เราสามารถทราบถึงอุณหภูมิ และสามารถควบคุมหรือปรับอุณหภูมิผ่านหน้าแบบจอสัมผัสได้ทันที เพื่อคงความสดใหม่ของอาหาร

ความใหญ่ของตู้ให้มามากถึง 19.8 คิว มีช่องสำหรับแช่อาหารมาหถึง 20 ช่อง แบบจุก ๆ ชั้นวางกระจกมีความแข็งแรง ทนทาน เรียกว่า CHiQ รุ่น CSS562NIG ตอบโจทย์มากสำหรับครอบครัวใหญ่ ๆ และยังมีราคาที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับแบรนด์ดัง ๆ ตัวยางขอบประตูสามารถดึงออกมาทำความสะอาดได้ มีโหมดแช่แข็งแบบรวดเร็ว ที่ให้ความเย็นมากถึง -32 องศา เหมาะสำหรับการทำน้ำแข็ง หรืออาหารที่ต้องการความเย็นทันที เช่น เนื้อ หรือ เค้ก (สายเบเกอรีต้องเลิฟเลยหละ) คอมเพรสเซอร์อินเวอร์เตอร์อัจฉริยะ นอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังมีเสียงรบกวนแค่เพียง 39 เดซิเบล ที่เรียกได้ว่าเงียบแบบสุด ๆ และยังช่วยให้ไม่มีน้ำค้างแข็งบนตัวอาหารอีกด้วยครับ

5. Electrolux รุ่น EBB3702K-A

ราคาโดยประมาณ 15,490 บาท

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

มาถึงแบรนด์ Electrolux กันบ้าง แบรนด์นี้คุ้นหู คุ้นตากันเป็นอย่างดี เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำจากประเทศสวีเดน ซึ่งก็ได้รับความนิยมไม่น้อยในไทยไม่แพ้แบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ เช่นกัน Electrolux รุ่น EBB3702K-A มาพร้อมกับสี Arctic Silver ที่ให้ความเรียบหรู ลงตัวแบบสุด ๆ จุดที่เห็นได้ชัดของรุ่นนี้คือ การนำช่องฟรีซไว้ที่ด้านล่าง และเอาช่องแช่เย็นมาไว้ด้านบนแทน สำหรับบางคนอาจจะดูแปลกตาไปซักนิดและไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก ข้อดีของมันคือให้ความสะดวกกับคนที่ไม่ค่อยได้ใช้ช่องฟรีซ ไม่ต้องคอยก้มตัวเวลาหยิบจับของบริเวณช่องแช่

ภายในตู้จะมีสารทำความเย็น R600a และมีระบบกระจายความเย็นรอบทิศทาง ช่วยให้อาหารได้รับความเย็นสม่ำเสมอและคงความสดใหม่ไว้ได้นาน มีฟังก์ชัน FlexStor ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนชั้นวางช่องแช่เย็น ให้มีพื้นที่สำหรับแช่ระหว่างช่อง สูง หรือต่ำได้ตามใจที่ต้องการ มีช่อง TasteSeal เป็นช่องเก็บความเย็นแบบ -2 องศาเซลเซียส สำหรับเก็บเนื้อ และผลไม้แช่แข็งต่าง ๆ พร้อมถาดสเตนเลสที่ช่วยเร่งความเย็นให้เย็นได้ทันใจ ช่องแช่เย็นมีระบบ DoorAlarm เป็นเสียงเตือนกรณีประตูปิดไม่สนิท ในส่วนของช่องฟรีซนั้นมีช่องเก็บน้ำแข็งแบบลูกบิด พร้อมกล่องเก็บน้ำแข็ง 2 ชุด และที่ขาดไม่ได้คือระบบ Inverter ที่ช่วยให้ตัวเครื่องทำงานเงียบและประหยัดพลังงานอีกด้วยครับ

6. SAMSUNG Multidoor รุ่น RF65A9771B1/ST Family Hub

ราคาโดยประมาณ 119,990 บาท

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

SAMSUNG SIDE BY SIDE Multidoor รุ่น RF65A9771B1/ST Family Hub ตู้เย็นแบบ 4 ประตู ขนาด 22.6 คิว 640 ลิตร ใหญ่เบิ้มสุด ๆ หน้าตาสวยงามทันสมัย มาพร้อมกับ Triple cooling system ระบบทำความเย็นแบบแยกอิสระ ลดปัญหากลิ่นปะปนระหว่างช่องแช่ ใครที่ต้องการทำน้ำแข็งก็มีโหมด Power Freeze มาให้ หากเพิ่งซื้อผลไม้หรือเครื่องดื่มมา แต่อยากกินแบบเย็นฉ่ำ ๆ แค่กด Power Cool ก็ช่วยให้ผลไม้หรือเครื่องดื่มนั้นเย็นแบบรวดเร็ว, Metal Cooling เป็นแผงรักษาอุณหภูมิที่ทำมาจากเหล็ก มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาอุณหภูมิ ภายในตู้เย็น ในเรื่องการความเย็นนั้นให้เต็มสิบไม่หัก

มีหน้าจอแบบสัมผัส ใหญ่เต็มตา ขนาด 21.5″ ช่วยให้ตู้เย็นธรรมดา กลายเป็นตู้เย็นอัจฉริยะ ที่สามารถทำงานได้มากกว่าตู้เย็นทั่ว ๆ ไป คือ Home Entertainment แชร์หน้าจอจากทีวีหรือเลือกฟังเพลง เพิ่มความบันเทิงในห้องครัวขณะที่ทำอาหาร, Food Management เช็คของแช่ภายในตู้ผ่านหน้าจอตู้เย็นและสมาร์ทโฟน อีกทั้งยังสามารถจดรายการพร้อมแจ้งเมื่อของหมดอายุผ่านมือถือได้อีกด้วย, Beverage Center™ เข้าถึงจุดเครื่องดื่มได้ง่าย พร้อมกับโถทำน้ำหมักผลไม้ ปราศจากสาร BPA ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ อีกทั้งยังสามารถควบคุมอุปกรณ์ Smart Devices อื่น ๆ ภายในบ้าน ผ่าน Wi-Fi ด้วยแอพลิเคชัน SmartThing ได้อีกด้วยครับ

7. LG รุ่น GN-F372PXAK

ราคาโดยประมาณ 15,790 บาท

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

มาถึงแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันบ้างกับ LG รุ่น GN-F372PXAK ตู้เย็นแบบ 2 ประตู ขนาด 13.2 คิว 374 ลิตร รูปลักษณ์ทันสมัยและมีช่องแช่ภายในที่ใหญ่ จุของแช่ได้หลากหลาย LG Smart Inverter Compressor™ ที่ช่วยให้ตู้เย็นของเรานั้นทำงานได้เงียบ ลดเสียงรบกวน ประหยัดพลังงานและเพิ่มความทนทานอีกด้วย บานประตูมาพร้อมกับพร้อมที่กดน้ำ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการกดน้ำโดยไม่ต้องเปิดตู้เย็นบ่อย ๆ อีกทั้งเจ้าตู้เย็นตัวนี้ ยังสามารถควบคุมสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน ผ่าน Smart WI-FI control ได้

มีระบบ LinearCooling™ ลดความผันผวนของอุณหภูมิ ช่วยรักษาความสดใหม่ของรสชาติได้นานถึง 7 วัน Door Cooling+™ ช่วยทำให้อาหารคงความสด ได้อย่างสม่ำเสมอและเครื่องดื่มเย็นฉ่ำในทุกชั้นวาง Hygiene Fresh ช่วยดับกลิ่นและขจัดแบคทีเรียได้ถึง 99.99% Fresh O Zone ลิ้นชักพิเศษช่วยให้ถนอมอาหารพวก เนื้อสัตว์และปลา โดยไม่ต้องนำไปแช่แข็งและละลายน้ำแข็ง และ Smart Fresh Air โดยที่ตู้เย็นนั้นจะเรียนรู้การใช้งานของตัวผู้ใช้ จากการเปิดปิดตู้เย็น พร้อมทั้งคำนวณและปรับแต่งการทำความเย็นให้เหมาะสม เพื่อให้อาหารคงความสดอยู่เสมอครับ

8. Hitachi รุ่น R-M600VAG9THX 

ราคาโดยประมาณ 70,100 บาท

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

Hitachi ตู้เย็น ไซด์ บาย ไซด์ รุ่น R-M600VAG9THX 20.1 คิว 569 ลิตร ตู้เย็นแบบ 3 บานประตูออกแบบและดีไซน์ด้วยกระจก มาให้เลือกถึง 2 แบบ คือ GBZ สีกลาส บรอนซ์ และ MIR สีกระจกเงา ทั้งสองผลิตจากกระจก Tempered Glass เป็นวัสดุกระจกที่คงทนกว่าปกติทั่วไป ทนต่อรอยขีดข่วน รวมถึงแรงกระแทกต่าง ๆ ขอบยางประตูเป็นแบบกันเชื้อรา มี Water & Ice Dispenser จุดกดน้ำเย็น จุดกดและทำน้ำแข็งแบบอัตโนมัติ จะน้ำแข็งก้อนเล็ก ก้อนใหญ่ ก็สั่งได้เพียงปลายนิ้ว เพียงแค่เติมน้ำในแทงก์น้ำภายในตู้ ไม่ต้องเดินสายน้ำให้ยุ่งยาก รวมถึงมีแผงควบคุมแบบสัมผัส ที่สามารถเพิ่มหรือลดความเย็นภายในตู้ได้ เรียกว่าเพิ่มความสะดวกแบบสุด ๆ

Compressor เป็นแบบ Inverter ช่วยให้ประหยัดพลังงาน ประหยัดไฟ และยังมีระบบ Stabiliser ที่ช่วยป้องกันจากไฟตก ไฟกระชาก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานสุด ๆ Dual Fan Cooling ระบบทำความเย็นแบบพัดลมคู่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเย็น ทั้งในช่องแช่แข็ง และช่องแช่เย็น VIP มีเทคโนโลยีแผงฉนวนสุญญากาศ ที่ช่วยกันความร้อนจากภายนอก ช่วยให้ตู้เย็นทำงานหนักน้อยลง รวมถึงคงความเย็นภายในช่วงที่ไฟดับได้นาน ถึง 15 ชั่วโมง Vacuum Compartment ช่องแช่อาหารระบบสุญญากาศ ช่วยถนอมอาหารได้นานขึ้น มีฟังก์ชั่น Auto Door ระบบเปิดประตูอัตโนมัติเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส เพิ่มความสะดวกสบายอีกด้วยครับ

9. MITSUBISHI ELECTRIC รุ่น MR-FC26ES

ราคาโดยประมาณ 9,990 บาท

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

MITSUBISHI อีกหนึ่งแบรนด์ ที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้ กับ MITSUBISHI ELECTRIC รุ่น MR-FC26ES ตู้เย็น 8.6 คิว ขนาด 243 ลิตร แบบ 2 ประตู ที่มาให้เลือกถึง 2 สี คือ ซิลกี้ซิลเวอร์ และ สีน้ำตาลคอปเปอร์ ที่ให้ความสวย ความเท่ ไม่เหมือนใคร มาพร้อมกับคอนเซ็ป FC SERIES DESIGN INVERTER ให้ความสบายที่มากกว่า กับพื้นที่ความจุที่ใหญ่ขึ้น และฟังก์ชันที่ครบครัน ภายในมีช่องเก็บของอเนกประสงค์แบบมีฝาปิด จะเอาไว้แช่เครื่องสำอางหรือน้ำหอมก็สะดวก

มาพร้อมกับ NEURO INVERTER เป็นการนำ Multi Fan / Neuro fuzzy system / Inverter มาประสานการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยที่ Multi Fan มาช่วยกระจายความเย็น ให้ทั่วถึง และยังสามารถระบายความร้อนได้ดี Neuro fuzzy system เป็นการเรียนรู้และจดจำตามพฤติกรรมการใช้ของผู้ใช้ เพื่อปรับให้อุณหภูมิให้มีความเหมาะสม / Compressor Inverter ปรับการทำงานแบบอัตโนมัติ ถึง 10 ระดับ เพื่อการประหยัดงาน นอกจากนั้นยังมี HUMIDITY CONTROL ที่ช่วยควบคุมความชื้นด้วยปุ่มปรับเพื่อให้ผักและผลไม้คงความสดได้นาน ANTI-BACTERIA ผนังช่องแช่ ขอบยางประตูตู้เย็นผสมสารยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรีย มี FILTER ระบบกำจัดกลิ่นอัตโนมัติ และ MINUS-ION แผ่นแร่ธรรมชาติปล่อยประจุลบ เพื่ออากาศภายในตู้นั้นสะอาดอีกด้วยครับ

10. TOSHIBA รุ่น GR-AG66KA

ราคาโดยประมาณ 31,499 บาท

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Shopee

หาซื้อสินค้ากันได้ที่ Lazada

สุดท้ายกันแล้ว กับ TOSHIBA เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่คุ้นเคยและอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน TOSHIBA รุ่น GR-AG66KA ตู้เย็น 21.8 คิว แบบ 2 ประตู โดยตู้เย็นรุ่นนี้ มาให้เลือกถึง 2 สี คือ สี Black ดูเรียบง่าย และ สี Gradient Blue เป็นการไล่สีระหว่างสีกรมท่าไปเป็นสีเทา เท่ เก๋ ไม่เหมือนใครจริง ๆ บานประตูทำมาจากกระจก ให้ความสวยงาม ทนทาน กันรอยขีดข่วนและแรงกระแทกได้ดี ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่ากระจกจะแตกกันง่าย ๆ ภายในมีช่องใส่ผักขนาดใหญ่เพื่อความสดใหม่ของผักและผลไม้ และยังเลื่อนเข้าออกได้สะดวกอีกด้วย

ประหยัดพลังงานด้วยระบบ Inverter ที่จะปรับเปลี่ยนการทำงานไปตามรูปแบบการใช้งาน ทำให้ประหยัดพลังงาน และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ Dual Cooling Zone โซนเย็นพิเศษสำหรับแช่เครื่องดื่ม หรืออาหารที่ต้องการความเย็นแบบเร็วเป็นพิเศษ Quick Freezing Mode ระบบทำความเย็นแบบเร่งด่วน ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำน้ำแข็ง เครื่องดื่ม ให้เย็นได้เร็วทันใจ Ag+ Bio ระบบกำจัดกลิ่นสามารถกรองและสลายกลิ่นที่เกิดจากซัลเฟอร์ ไนโตรเจนจากอาหาร ทำให้อากาศภายในตู้แช่ และช่องแช่แข็ง สดชื่นขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารโลหะเงิน ยังช่วยย่อยสลายโมเลกุลของกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้อาหารสดนานยิ่งขึ้นครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับ “ตู้เย็น” ยี่ห้อไหนดี ที่ทางเราได้รวบรวมมาให้ถึง 10 แบรนด์ดัง มีหลากหลายราคาให้เลือกสรร ตั้งแต่หลักพัน หลักหมื่น ไปจนถึงหลักแสน หวังว่าคงจะได้รุ่นที่ถูกใจกันบ้างแล้วนะครับ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ควรเลือกขนาดตู้เย็นให้เหมาะสมกับสมาชิกภายในบ้าน ไม่เล็กจนเกินไปและไม่ใหญ่จนเกินความจำเป็น ที่สำคัญถึงแม้ว่าตู้เย็นบางรุ่นจะผสมสารที่ช่วยยับยั้งพวกเชื้อรา แบคทีเรีย มาแล้วก็ตาม เราก็ยังจะต้องหมั่นทำความสะอาดปีละ 2-4 ครั้ง และไม่ยัดของในตู้มากเกินไป เพื่อให้ตู้เย็นของเรานั้นสามารถกระจายความเย็นได้ทั่วถึง สะอาด น่าใช้ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นได้อีกนะครับ

พล

บรรณาธิการทางด้าน IT Gadget และของใช้อื่น ๆ มีประสบการณ์ด้าน IT Support และการขายอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์มานานกว่า 10 ปี นอกจากนี้ยังมีความเชี่ยวชาญทางด้านเน็ตเวิร์ก ชอบลองอุปกรณ์แกดเจ็ทใหม่ ๆ ขยันทดลองสกินแคร์ ศึกษาแพทย์แผนทางเลือก แล้วก็ยังเป็นนักเล่นเกม JRPG อีกด้วย