ถ้ากำลังรู้สึกว่า ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง ปวดหัว คิดงานต่าง ๆ ไม่ค่อยออก รวมถึงนอนไม่พอ นอนไม่ค่อยหลับ นอนมากแค่ไหนก็รู้สึกว่านอนไม่อิ่ม อีกทั้งยังรู้สึกว่า ชีวิตไม่มีความสุข รู้สึกจม ๆ ดาว ๆ แล้วกำลังเริ่มที่จะเป็นซึมเศร้า สาเหตุเหล่านี้ที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะว่า ร่างกายกำลังขาดสารอาหารอย่างวิตามิน B อยู่ก็ได้ครับ ซึ่งเจ้าวิตามิน B เนี่ยก็ดันแบ่งออกเป็นหลายชนิดด้วยกัน แล้วจะทำยังไงให้ร่างกายได้รับวิตามิน B แบบง่าย ๆ ดีละ? ถ้างั้นก็คงต้องลองมาพึ่งพาอาหารเสริม วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) กันแล้ว ส่วนจะซื้อยี่ห้อไหนดีนั้น ลองไปดูรีวิวด้านล่างได้เลยครับ
สารบัญ
ตารางเปรียบเทียบ วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) ยี่ห้อไหนดี
เผื่อใครที่ไม่มีเวลา หรืออยากจะเห็นวิตามินบีรวมของแต่ละยี่ห้อมาเรียงเปรียบเทียบกันไปเลยว่า ยี่ห้อไหนให้วิตามิน B อะไรบ้าง และให้ปริมาณเท่าไร มีความน่าสนใจซื้อบ้างไหม เทียบกันให้เห็นแบบจะ ๆ ก็กดเข้าไปดูตารางที่ปุ่มด้านล่างได้เลยครับ
1. ยี่ห้อ PARADIGM Vitalozenge
ราคาโดยประมาณ 80 บาท ต่อ 14 เม็ด
สำหรับใครที่กำลังมองหาอาหารเสริมวิตามินบีรวมที่ทานได้ง่าย ๆ และพกพาติดตัวได้สะดวก ๆ อยากให้ลองยี่ห้อ PARADIGM Vitalozenge กันเลยครับ เพราะตัวอาหารเสริม เขาทำมาในรูปแบบของเม็ดอมละลายในปาก จึงทำให้ทานง่ายมากกก เพียงแค่เปิดฝาแล้วหยิบอมใส่ปากก็จบ ไม่ต้องละลายน้ำ หรือดื่มน้ำตามให้ยุ่งยากเลย และที่สำคัญ มีรสชาติที่อร่อยให้เลือกซื้อกันอีกด้วย !! ไม่ว่าจะ กลิ่นมะม่วงและเสาวรส หรือกลิ่นสตรอเบอร์รีและเชอร์รี่ ซึ่งทั้งสอง ก็อร่อย หอมหวาน มีประโยชน์ รวมถึงดูดซึมง่าย และไม่มีน้ำตาล ไม่ต้องกลัวทำให้ฟันผุกันเลยครับ
ส่วนเรื่องสารอาหารก็แน่นอนว่า มีวิตามินบีรวมอย่างครบถ้วนนน (ดูวิตามิน B ทั้งหมดได้ที่ตารางเปรียบเทียบด้านบน) เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีวิตามิน C และ วิตามิน E เพิ่มเสริมมาให้ด้วย จึงให้ประโยชน์ที่ดีกว่า มากกว่า ยี่ห้อที่ให้แค่เฉพาะวิตามิน B รวมเท่านั้น นอกจากนี้ ตัวอาหารเสริมก็นำเข้าจากประเทศเยอรมัน จึงมั่นใจในเรื่องของมาตรฐานและคุณภาพของสินค้ากันได้ ก็รวม ๆ แล้ว พกพาง่าย รสชาติอร่อย ช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีชีวิตชีวา สามารถทานเสริมวิตามินได้ทุกที่ทุกเวลา หรือจะมีติดไว้ประจำที่โต๊ะทำงานก็ได้ เหมาะสำหรับทั้งวัยเรียนและวัยทำงานมาก ๆ ครับ
จุดเด่น
- เม็ดอมละลายปาก อร่อย ทานง่าย
- มีรสชาติให้เลือกตามความชอบ
- พกพาง่าย เหมาะกับพกไปทำงาน
- มีวิตามิน C, E เสริม
ข้อเสีย
- มีรสชาติให้เลือกน้อย
2. ยี่ห้อ Mivolis DM Multivitamin
ราคาโดยประมาณ 60 บาท ต่อ 20 เม็ดฟู่
ถ้ากำลังมองหาวิตามินบีรวมเม็ดฟู่ที่มีราคาย่อมเยาอยู่ละก็ ผมขอแนะนำยี่ห้อ Mivolis DM จากเยอรมันเลยครับ โดยยี่ห้อนี้เขาก็มีขายวิตามินเม็ดฟู่กันหลากหลายประเภท ถ้าอยากได้วิตามินบีรวมต้องรุ่น Multivitamin ฝาสีม่วงนะครับ อย่าซื้อผิดสีนะ
อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาที่ย่อมเยานี้เอง (เม็ดฟู่ละประมาณ 3 บาท) ก็ทำให้ปริมาณของวิตามิน B แต่ละชนิดค่อนข้างน้อยด้วย แต่ที่เด่นกว่าใครก็คือมีวิตามิน C และ E ในปริมาณเล็กน้อยเสริมเพิ่มเข้ามา ซึ่งด้วยการที่ปริมาณของวิตามินทั้งหมดมีค่อนข้างน้อยนี่เอง ก็ถือว่าเป็นข้อดีที่ทำให้เหมาะมาก ๆ สำหรับการแบ่งทาน 2-3 เม็ดใน 1 วัน ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินต่าง ๆ ไปใช้ได้ทันด้วย และยังเหมาะสำหรับใครที่เบื่อการดื่มน้ำจืด ๆ ก็เอาวิตามินยี่ห้อนี้ไปละลายสิครับ จากน้ำจืด ๆ จะได้มีรสชาติและประโยชน์เพิ่มเติมขึ้นมาเลยนะครับผม
จุดเด่น
- เม็ดฟู่ละลายน้ำ รสชาติดื่มง่าย อร่อย
- ราคาไม่แพงมาก
- ยอดขายสูงโคตร
ข้อเสีย
- ความเข้มข้นค่อนข้างน้อย
3. ยี่ห้อ Kirkland Signature Super B Complex
ราคาโดยประมาณ 769 บาท ต่อ 500 เม็ด
อีกหนึ่งยี่ห้อวิตามินบีรวมที่น่าสนใจจากสหรัฐอเมริกากับ Kirkland Signature โดยถ้าดูจากชนิดและปริมาณของวิตามิน B ที่ตารางด้านล่างแล้ว จะเห็นว่ามีบางชนิดก็มากกว่าหรือน้อยกว่ายี่ห้ออื่น ๆ และไม่มีวิตามิน B8 เช่นกัน แต่ที่โดดเด่นกว่าใครคือมี B12 ค่อนข้างสูงมาก จึงแอบช่วยบำรุงระบบประสาทและสมองได้ดีกว่า
อีกทั้งนอกจากวิตามิน B แล้ว ยังมีวิตามิน C เสริมเพิ่มเข้ามาด้วย จึงเป็นยี่ห้อที่เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่อยากทานทั้งวิตามินบีรวมและวิตามิน C พร้อม ๆ กันโดยไม่ต้องไปหาซื้อแยก และที่พิเศษยิ่งกว่าคือมี โซเดียมและโพแทสเซียมซึ่งทั้งสองเป็นอิเล็กโทรไลต์ โดยสารอิเล็กโทรไลต์จะมาช่วยส่งสัญญาณของระบบประสาทจากสมองไปสู่กล้ามเนื้อต่าง ๆ ให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ และยังช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายอีกด้วย ประโยชน์เยอะขนาดนี้ รีบ ๆ ไปหาซื้อมาทานกันเถอะครับ
จุดเด่น
- ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความเข้มข้น
- ได้ปริมาณเยอะ ขวดเดียวทานได้นาน ๆ
- มีวิตามิน C, โซเดียม และโพแทสเซียมเสริม
- มี B12 เข้มข้น
ข้อเสีย
- เม็ดค่อนข้างใหญ่
- ไม่มีขวดเล็กแบ่งขาย หากทานไม่หมด หรือเก็บไม่ดี อาจจะทำให้เสียของทั้งหมดได้เลย
4. ยี่ห้อ Clover Plus Multi B+ Ginkgo
ราคาโดยประมาณ 199 / 359 บาท ต่อ 30 / 60 แคปซูล
หลาย ๆ คนน่าจะรู้ว่าวิตามิน B นั้นมีหลายชนิดที่บำรุงสมอง แต่ถ้าอยากบำรุงเพิ่มเติมมากกว่าแค่วิตามิน B แนะนำว่าต้องลองยี่ห้อ Clover Plus ตัว Multi B+ Ginkgo เลยครับ เพราะนอกจากมีวิตามิน B รวมหลายชนิดแล้ว ยังเสริมสารสกัดจากใบแปะก๊วย 100 mg และโคลีน 100 mg ที่จะมาช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทเพิ่มเติมแบบสุด ๆ อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับสมอง เช่น อัลไซเมอร์, ขี้หลงขี้ลืม หรือสมองเสื่อมได้ด้วย เรียกได้ว่าบำรุงสมองได้ดีกว่าวิตามินบีรวมหลาย ๆ ยี่ห้อที่ผ่านมา แต่ก็ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างแรงด้วยเช่นกัน ถ้าอยากเน้นบำรุงสมองและเรื่องงบไม่ใช่ปัญหา ก็จัดยี่ห้อนี้ได้เลยครับ
จุดเด่น
- มีทั้งวิตามินบีรวม, สารสกัดจากใบแปะก๊วย และโคลีน
- เน้นบำรุงสมองและระบบประสาทแบบสุด ๆ
ข้อเสีย
- ราคาต่อหน่วยจะสูงกว่าบางยี่ห้อ
- เม็ดค่อนข้างใหญ่
5. ยี่ห้อ Voost Performance Vitamin B+
ราคาโดยประมาณ 169 บาท ต่อ 20 เม็ดฟู่
เบื่อกับการทานวิตามินแบบเม็ด ๆ เดิม ๆ กันอยู่หรือเปล่า? ถ้างั้นลองมาทานวิตามินบีรวมเม็ดฟู่กันดีกว่ากับยี่ห้อ Voost จากออสเตรเลีย ซึ่งเป็นยี่ห้อที่มีวิตามินเม็ดฟู่ขายอยู่หลากหลายประเภท ถ้าต้องการวิตามิน B รวมต้องซื้อรุ่น Performance Vitamin B+ นะครับ โดยถ้าดูจากปริมาณวิตามิน B ของแต่ละชนิดที่ได้จากตารางด้านล่างแล้ว ก็ถือว่ามีปริมาณที่เหมือน ๆ กับยี่ห้อบน ๆ แต่นอกจากวิตามิน B จะยังมีสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกเพียบโดยเฉพาะวิตามิน C 500 mg ทำให้แค่ทานเม็ดฟู่ยี่ห้อนี้เม็ดเดียว ก็สามารถได้รับทั้งวิตามิน B รวม และวิตามิน C ไม่ต้องไปหาซื้อแยกเพิ่มเติมให้เสียเงินเลยครับ
จุดเด่น
- เม็ดฟู่ละลายน้ำ รสชาติอร่อย
- ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไว
- แพ็กเกจมีสีสัน
- นอกจากวิตามิน B รวม ยังมีสารอาหารหลายอย่างเพิ่มเสริมมาด้วย
ข้อเสีย
- ราคาต่อหน่วยค่อนข้างแรง
6. ยี่ห้อ DHC Vitamin B-Mix
ราคาโดยประมาณ 84 / 129 บาท ต่อ 40 / 120 เม็ด
ยี่ห้อ DHC จากประเทศญี่ปุ่น น่าจะเป็นยี่ห้ออาหารเสริมวิตามินและเกลือแร่ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในบ้านเรา เพราะด้วยราคาที่ย่อมเยาและหาซื้อได้ง่าย ๆ ซึ่ง DHC ก็มีวางขายอยู่เช่นกัน โดยจะมีแพ็กเกจเป็นซองพลาสติกสีขาวม่วงที่มาพร้อมซิปล็อคจึงช่วยให้พกพาและจัดเก็บได้สะดวก ส่วนตัววิตามินบีก็จะมาในรูปแบบเม็ดสีเหลืองขนาดเล็กจึงช่วยให้กลืนได้ง่าย อีกทั้งยังมีวิตามินบีรวมกันถึง 9 ชนิดด้วย ส่วนปริมาณของแต่ละชนิดก็กำลังพอเหมาะ ไม่มากจนเกินไป ทำให้ร่างกายสามารถพอดูดซึมไปใช้ได้ทันอยู่ ถ้าใครกำลังมองหาวิตามินบีรวมยี่ห้อที่มีคุณภาพและมีความคุ้มค่า DHC Vitamin B-Mix ตัวนี้ ถือว่าตอบโจทย์เลยครับ
จุดเด่น
- แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่คนไทยนิยม
- ราคาต่อหน่วยไม่แพง
- วิตามินบีค่อนข้างเข้มข้นเมื่อเทียบกับราคา
- ยอดขายสูง
ข้อเสีย
- มีแต่วิตามินบีรวมเท่านั้น ไม่มีสารอาหารเพิ่มเติม
7. ยี่ห้อ 21st Century B-50 Complex
ราคาโดยประมาณ 185 บาท ต่อ 60 เม็ด
21st Century เป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียงในเรื่องอาหารเสริมจากสหรัฐอเมริกา จึงมั่นใจในเรื่องของคุณภาพได้อย่างแน่นอน โดยทางแบรนด์เขาจะมีวิตามินบีรวมวางขายกันอยู่สองแบบคือ B-50 และ B-100 โดยผมอยากแนะนำให้ซื้อตัว B-50 มาทาน เพราะมีปริมาณของวิตามิน B แต่ละชนิดที่กำลังพอดี ๆ ไม่มากจนเกินไป ทำให้ร่างกายยังพอสามารถดูดซึมไปใช้ทันได้อยู่ ถ้าเลือกซื้อแบบ B-100 อาจจะดูดซึมไม่ทันแล้วกลายเป็นฉี่สีเหลือง ๆ เสียเงินไปซะเปล่า ๆ
อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบกับ DHC แล้ว จะมีปริมาณวิตามิน B รวมที่มากกว่าพอสมควร ถ้ากลัวว่าร่างกายจะดูดซึมไม่ทันแน่ ๆ ก็ซื้อ DHC แทนได้ แต่ถ้าคิดว่า DHC นั้นน้อยเกินไป ก็ B-50 ตัวนี้จะดีกว่าครับ แต่ยี่ห้อนี้จะไม่มีวิตามิน B8 เหมือน DHC แต่จะเสริมแคลเซียมเข้ามาทดแทน ก็ลองตัดสินใจดูเอานะครับ
จุดเด่น
- ราคาสมเหตุสมผลกับความเข้มข้น
- ความเข้มข้นดี
- ถ้าอยากได้ความเข้มข้นสูง มีรุ่น 100 ให้เลือก
- ยอดขายสูง
- มีเสริมแคลเซียม
ข้อเสีย
- บางคนอาจจะดูดซึมไม่ทัน แล้วปล่อยกลายเป็นฉี่สีเหลือง
8. ยี่ห้อ Life Extension BioActive Complete B-Complex
ราคาโดยประมาณ 371 บาท ต่อ 60 แคปซูล
Life Extension เป็นยี่ห้ออาหารเสริมที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ในสหรัฐอเมริกา เพราะด้วยการใช้วัตถุดิบกับกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ จึงทำให้เป็นยี่ห้อที่มีความพรีเมี่ยมกว่า และมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าด้วย โดยอาหารเสริมวิตามิน B รวมอย่าง BioActive Complete B-Complex ก็มีราคาที่ค่อนข้างแรงตกแคปซูลละประมาณ 6 บาท (พอ ๆ กับ Clover Plus ยี่ห้อด้านบน) ในขณะที่ยี่ห้ออื่น ๆ จะตกเม็ดแคปซูลละ 2-3 บาทเท่านั้น
แต่ด้วยราคาแพงนี่เอง ก็จัดปริมาณวิตามิน B แต่ละชนิดมาให้แบบจัดหนักจัดเต็มเช่นกัน และยังมีการเสริมแคลเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูกกับ PABA หรือกรดพารา-อะมิโนเบนโซอิกที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย และทำให้ผิวดูสุขภาพดีเพิ่มเติมเข้ามาด้วย ถ้าคิดว่าทานวิตามิน B รวมยี่ห้ออื่น ๆ ไม่ค่อยเห็นผล งั้นต้องลองตัวนี้เลยครับ
จุดเด่น
- แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา
- วิตามินบีรวมเข้มข้นมาก
- มีแคลเซียมและ PABA เสริม
ข้อเสีย
- เม็ดค่อนข้างใหญ่
- ราคาต่อหน่วยค่อนข้างแรงกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ
9. ยี่ห้อ Swiss Energy Magnesium +B Complex
ราคาโดยประมาณ 378 บาท ต่อ 20 เม็ดฟู่
Swiss Energy Magnesium +B Complex เป็นวิตามินเม็ดฟู่ที่ได้รับความนิยมและมียอดขายที่ดีมาก ๆ อันดับต้น ๆ ในบ้านเรา แต่ถ้าดูจากชนิดและปริมาณของวิตามิน B แล้ว จะเห็นว่าน้อยกว่ายี่ห้ออื่นเอามาก ๆๆๆ เนื่องมาจากจะเน้นไปที่สารอาหารอย่างแมกนีเซียม ส่วนวิตามิน B รวม (4 ชนิด) จะเป็นตัวช่วยเสริมให้แมกนีเซียมออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ซึ่งเมื่อสารอาหารทั้งสองทำงานรวมกันแล้ว จะช่วยให้ร่างกายลดความเครียด, ความเหนื่อยล้า, ความวิตกกังวล, ความหงุดหงิด และความเฉื่อยชาได้ อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายนอนหลับได้ดีขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ราคาแรงมาก ๆ (ตกเม็ดละประมาณ 18-19 บาท) ถ้ามีเงินไม่มากพอ ลองดูยี่ห้อ Voost ตัวด้านบนก็ได้ มีทั้งวิตามิน B รวมและแมกนีเซียมเหมือนกันด้วย เพียงแค่แมกนีเซียมจะมีปริมาณน้อยกว่าเท่านั้นเองครับ
จุดเด่น
- เม็ดฟู่ละลายน้ำ ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไว
- มีเสริมแมกนีเซียม
- มีหลายรีวิวบอก ทานแล้วหลับสบายดี
- ยอดขายสูง
ข้อเสีย
- วิตามินบีรวมมีไม่ครบทุกชนิด
- ความเข้มข้นค่อนข้างน้อย
- ราคาค่อนข้างแรงมาก
10. ยี่ห้อ Berocca Performance
ราคาโดยประมาณ 180 บาท ต่อ 15 เม็ดฟู่
เจอแต่วิตามินบีรวมยี่ห้อของต่างชาติไปกันเยอะแล้ว ลองมาดูยี่ห้อของคนไทยกันบ้างกับ Berocca Performance ที่ถึงจะบอกว่าเป็นของคนไทยแต่ก็แอบมีราคาที่ค่อนข้างแพง โดยจะตกเม็ดฟู่ละประมาณ 12 บาท แต่ด้วยราคาที่แพงแบบนี้ ก็จัดเต็มไปด้วยวิตามินบีหลายชนิดและปริมาณที่ให้มาก็ถือว่าค่อนข้างสูงเป็นอันดับต้น ๆ อีกทั้งยังมีสารอาหารเพิ่มเติมอย่างวิตามิน C, แคลเซียม, แมกนีเซียม และสังกะสีอีกด้วย ดูรวม ๆ แล้วมีสารอาหารที่ค่อนข้างจัดเต็มกว่ายี่ห้ออื่น ๆ สมกับที่ราคาแพงกว่าชาวบ้านเขาเลยครับ แต่แพ็กเกจดันแอบดูธรรมดามาก ๆ ซะงั้น
จุดเด่น
- เม็ดฟู่ละลายน้ำ ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไว
- มีความเข้มข้นค่อนข้างสูง
- มีวิตามิน C, แคลเซียม, แมกนีเซียม และสังกะสีเสริม
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างแรง
- หาซื้อออนไลน์ยาก
วิตามินบีรวม ช่วยอะไร ?
ก็ได้เห็นรีวิวสินค้า Vitamin B Complex ยี่ห้อไหนดีกันไปแล้ว ก็เผื่อใครที่ยังไม่รู้ว่า วิตามินบีรวม ช่วยอะไร ? แต่ละชนิดให้ประโยชน์แก่ร่างกายอย่างไรบ้าง ก็มาทำความรู้ความเข้าใจตามด้านล่างเลยครับ
- B1 (Thiamine) : ร่างกายต้องการวิตามิน B1 เพื่อช่วยในการเปลี่ยนอาหารที่คนเราทานเข้าไปให้กลายเป็นพลังงาน โดยการสร้าง Adenosine Triphosphate (ATP) ซึ่งเป็นโมเลกุลที่จะช่วยลำเลียงพลังงานไปให้แก่เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายครับ
- B2 (Riboflavin) : จะช่วยในการผลิตเม็ดเลือดแดงเพื่อช่วยในการลำเลียงออกซิเจนไปสู่ทุกส่วนของร่างกาย และกระตุ้นเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานให้แก่ร่างกายให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
- B3 (Niacin) : เป็นอีกตัวที่มีส่วนช่วยในการเปลี่ยนอาหารให้กลายเป็นพลังงานแก่เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย และยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของโคเอนไซม์สองชนิด NAD และ NADP ซึ่งช่วยในกระบวนการเผาผลาญของเซลล์ให้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยในการสร้างและซ่อมแซม DNA และยังทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะทำร้ายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายอีกด้วย
- B5 (Pantothenic Acid) : ก็ยังคงช่วยเรื่องแปลงอาหารให้กลายเป็นพลังงานเช่นเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยการบำรุงผิวหนัง, เส้นผม และดวงตาให้มีสุขภาพดี และยังเสริมให้การทำงานของระบบการย่อยอาหาร, ระบบประสาท และตับทำหน้าที่ได้ดีขึ้นด้วย
- B6 (Pyridoxine) : นอกจากเรื่องช่วยเปลี่ยนอาหารให้กลายเป็นพลังงานแล้ว ยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย และยังช่วยพัฒนาสมองของเด็กในระหว่างตั้งครรภ์และวัยทารก อีกทั้งยังเป็นตัวสร้างสารสื่อประสาทอย่าง Serotonin และ Dopamine ที่จะช่วยทำให้คนเรานั้นมีความสุข และไม่เกิดความเครียด สุดท้ายก็ช่วยสร้าง Hemoglobin ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนครับ
- B7 (Biotin) : ยังคงมีหน้าที่ในการช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานจากอาหาร นอกจากนี้จะช่วยส่งเสริมให้ผิวหนัง, เส้นผม, เล็บมือ, ดวงตา, ตับ และระบบประสาทให้มีสุขภาพดี อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการช่วยการเจริญเติบโตของเด็กในครรภ์ให้ปลอดภัย และมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ครับ
- B8 (Inositol) : ถึงแม้ว่าจะมีการเรียก Inositol ว่าวิตามิน B8 แต่จริง ๆ แล้ว Inositol ไม่ใช่วิตามินนะครับ จะเป็นน้ำตาลชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์แก่ร่างกาย โดยจะเป็นส่วนประกอบหลักของเยื่อหุ้มเซลล์ และกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินที่ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งยังช่วยรักษาสมดุลของสารเคมีในสมองโดยเฉพาะพวกสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์อย่าง Serotonin และ Dopamine เพื่อพยายามให้ร่างกายมีความสุขครับ
- B9 (Folic acid) : จะมีส่วนสำคัญในการช่วยเจริญเติบโตของเซลล์, การแบ่งเซลล์ที่เหมาะสม และการสร้าง DNA ในร่างกาย รวมถึงการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวด้วย และจะมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ซึ่งหากมีการขาดแคลนวิตามิน B9 จะเพิ่มโอกาสในการแท้งลูกมากขึ้นครับ
- B12 (Cobalamin) : มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการช่วยให้ระบบประสาทและสมองทำงานได้อย่างปกติ จนถึงมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง และช่วยในการสร้างกับวางระเบียบของ DNA ด้วยครับ
จากที่ดูรวม ๆ ประโยชน์ของวิตามินบีแต่ละชนิดแล้ว จะเห็นว่า ส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องของการช่วยแปลงอาหารให้กลายเป็นพลังงานแก่ร่างกาย จึงทำให้หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีเรี่ยวมีแรง หลังจากที่ได้ทานวิตามิน B รวมเลยครับ อีกทั้งยังช่วยบำรุงกับดูแลในเรื่องของสมองและระบบประสาท รวมถึงเรื่องความงามอย่างผิวพรรณ, เล็บมือ, และเส้นผม ให้ดูมีสุขภาพดีอีกด้วย เห็น ๆ กันแบบนี้แล้ว ต้องรีบไปหาวิตามิน B รวมมาทานกันแล้วครับ
วิตามินบีรวม กินตอนไหน ?
ก็ด้วยคุณสมบัติของ Vitamin B Complex ที่มีสรรพคุณในการเสริมพลังงาน ช่วยกระตุ้นร่างกายให้กระปี้กระเปร่า ทำให้ถ้าถามว่า วิตามินบีรวม กินตอนไหน ? ก็เวลาที่ดีที่สุดจะเป็นช่วงตอนเช้า ๆ หรือหลังตื่นนอน จะได้ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว พร้อมเริ่มต้นวันใหม่นั่นเอง และด้วยการที่วิตามินบีรวมเป็นกลุ่มวิตามินที่ละลายในน้ำ เวลาทานแล้วก็อย่าลืมดื่มน้ำพอประมาณตามไปด้วย ส่วนช่วงเวลาที่ไม่ควรทานเลยก็คือ ช่วงบ่าย ๆ หรือตอนเย็น ๆ ดึก ๆ เพราะด้วยฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท กระตุ้นร่างกาย อาจจะทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง แล้วกลายเป็นไม่ยอมนอนครับ
ปริมาณวิตามิน B ที่ร่างกายต้องการ
จากข้อมูลของสถาบันสหรัฐอเมริกา NIH ( National Institute of Health) ได้บอกไว้ว่า
ชนิด | ผู้ชายควรทาน ต่อ 1 วัน | ผู้หญิงควรทาน ต่อ 1 วัน |
B1 | 1.2 mg | 1.1 mg |
B2 | 1.3 mg | 1.1 mg |
B3 | 16 mg NE | 14 mg NE |
B5 | 5 mg | 5 mg |
B6 | 1.3 mg | 1.3 mg |
B7 หรือ Biotin | 30 mcg | 30 mcg |
B9 หรือ Folate | 400 mcg DFE | 400 mcg DFE |
B12 | 2.4 mcg | 2.4 mcg |
แต่หากเป็นผู้สูงอายุ หรือผู้หญิงที่มีการตั้งครรถ์ อาจจะต้องการปริมาณวิตามิน B ที่มากกว่าปกติ ซึ่งอาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อหาว่าต้องการที่ปริมาณเท่าไร แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ต้องกังวลกันมากนัก หากทานอาหารให้ครบ 5 หมู่อยู่แล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนวิตามิน B ครับ
ก็จบไปแล้วกับการรีวิว วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) ยี่ห้อไหนดี ทั้งแบบเม็ด/แคปซูล 5 ยี่ห้อ และแบบวิตามินบีรวมเม็ดฟู่ 5 ยี่ห้อ สนใจอยากจะซื้อยี่ห้อไหน ตัวไหนไปทานเสริมสารอาหารกันบ้างไหมครับ? ถ้าเลือกซื้อแบบเม็ดก็จะดีตรงทานง่าย ไม่ยุ่งยาก จับใส่เข้าปากแล้วดื่มน้ำตามก็จบ แต่ก็จะไม่อร่อยและให้ความรู้สึกเหมือนกับการทานยามาก ๆ ส่วนถ้าแบบเม็ดฟู่ก็ดูมีอะไรดี ตอนละลายในน้ำก็ส่งเสียงฟู่ ๆ ซู่ ๆ ด้วย พอดื่มแล้วก็อร่อย มีรสชาติ และยังให้ประโยชน์แก่ร่างกายด้วย ยังไงทาง PlusAround ก็ขอให้ได้วิตามินบีรวมยี่ห้อที่ถูกใจ และตรงต่อความต้องการกันด้วยนะครับผม
ข้อมูลและแหล่งอ้างอิง
- Dietary Supplement Fact Sheets จาก NIH ( National Institute of Health) สถาบันของสหรัฐอเมริกา
- มหาวิทยาลัย harvard
- โรงพยาบาลวิภาวดี
- healthline.com
บรรณาธิการที่มีประสบการณ์ในการเขียนรีวิวสินค้าหลายชนิด
- สุขภาพ: อาหารเสริม, ออกกำลังกาย, การดูแลผิวพรรณ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: สมาร์ทโฮม, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องใช้ในบ้าน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- ของกิน: ขนมหวาน เครื่องดื่ม, อาหารสุขภาพ, และเทรนด์อาหารอื่น ๆ
ข้อมูลตรงไหนผิดพลาด แจ้งได้นะครับ