AMPLE N รีวิวเซรั่ม สูตรไหนดี รวมมาแล้วเจาะลึกทั้ง 6 สูตร

รูปภาพปกบทความ เซรั่ม AMPLE N รีวิว สูตรไหนดี รวมมาแล้วเจาะลึกทั้ง 6 สูตร

สำหรับใครที่กำลังมองหาเซรั่มดี ๆ เพื่อเอามาใช้บำรุงผิวหน้า ณ เวลา นี้ ต้องขอแนะนำให้รู้จักกับ “เซรั่ม AMPLE N” ของประเทศเกาหลีกันเลยค่ะ เพราะเป็นเซรั่มที่มีผลตอบรับในไทยที่ดีเอามาก ๆ เนื่องด้วยคุณภาพอันดีงาม พร้อมส่วนผสมที่จัดเต็ม มีความเข้มข้นในการบำรุงแบบสุด ๆ อีกทั้งราคาก็น่ารักน่าคบหาอีกด้วย และยังไม่พอ ยังเป็นเซรั่มที่มีให้เลือกซื้อกันหลายสูตร เพื่อเอาไปใช้แก้ปัญหาตามสภาพผิวหน้าอีกด้วยค่ะ คือเป็นเซรั่มที่ดีมาก ๆ จนใครหลาย ๆ คนก็ซื้อแต่เซรั่ม AMPLE N มาหลาย ๆ สูตรเพื่อเอามาใช้บำรุงผิวหน้า จนไม่ใช้สกินแคร์อื่น ๆ อย่าง น้ำตบ, ครีมบำรุง หรือแม้แต่โทนเนอร์กันอีกเลย อะไรจะดีขนาดนั้น ตามมาดูรีวิวกันเลยค่ะ



ตารางเปรียบเทียบ รีวิว เซรั่ม AMPLE N สูตรไหนดี และส่วนผสมของแต่ละตัว

เนื่องจากเนื้อหาข้างล่างยาวววววมากเลยค่ะ สำหรับใครที่ไม่มีเวลา หรืออยากดูสรุปเปรียบเทียบเซรั่ม AMPLE N แบบรวบรัด ว่าแต่ละตัวดียังไง เหมาะสมกับผิวหน้าแบบไหน มีสรรพคุณอะไรบ้าง แนะนำว่ากดดูตารางเปรียบเทียบที่ปุ่มด้านล่างเอาเลยดีกว่าค่ะ ได้ทำการสรุปไว้ให้แล้ว และก็ถ้าใครอยากดูส่วนผสมของแต่ละตัว ก็กดเข้าไปดูที่อีกปุ่มได้ค่ะ




1. เซรั่ม AMPLE N รีวิว สูตร Peptide Shot Ampoule

ขอเริ่มรีวิวเซรั่ม AMPLE N จากสูตรที่ขายดี ฮอตฮิตถล่มทลายมาก ๆ อย่าง Peptide Shot Ampoule กันก่อน โดยทางแบรนด์บอกมาว่าเป็นสูตรที่เน้นสำหรับช่วยลดเรือนริ้วรอยต่าง ๆ และพวกสัญญาณก่อนวัย อีกทั้งเติมความชุ่มชื้นให้กับใบหน้า และเสริมด้วยการช่วยให้หน้าขาวกระจ่างใสด้วย ผลลัพธ์ฟังแล้วดูดี แต่อย่าเพิ่งเชื่อนะคะ เราควรจะไปดูส่วนผสมตัวเด่น ๆ กันก่อนว่า แต่ละตัวจะช่วยในเรื่องที่ทางแบรนด์บอกมาหรือไม่ เพราะงั้นตามมาเลยค่ะ

  • Glycerin : เป็นส่วนผสมที่พบเจอได้มากในสกินแคร์ส่วนใหญ่ เพราะช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น โดยจะทำการกักเก็บน้ำไว้ ไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำออกจากใบหน้า หน้าจึงมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านอยู่เสมอนั้นเองค่ะ
  • Biosaccharide Gum-1 : ตัวนี้ไม่ใช่หมากฝรั่งนะคะ แต่จะเป็นกรดธรรมชาติที่หลัก ๆ ได้มาจากการหมักแป้ง โดยเป็นส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้นเพิ่มเติมจาก Glycerin และยังช่วยปลอบประโลมผิวด้วย
  • Niacinamide : หรือวิตามิน B3 เป็นส่วนผสมที่มีคุณสมบัติเป็น Anti-Aging ด้วยการกระตุ้นให้ผิวหน้าผลิตคอลลาเจนและเซราไมด์เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ Antioxidant จึงช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะรอบด้าน ไม่ให้ผิวถูกทำร้ายจนทำให้ดูแก่ก่อนวัย และช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นด้วย อีกทั้งยังช่วยให้ผิวดูขาวขึ้นด้วย เรียกว่าเป็นส่วนผสมที่บำรุงรอบด้านเลยค่ะ
  • Adenosine : เป็นสารอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่อยู่ในเซลล์ผิว โดยจะทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้ผิวผลิตคอลลาเจนและซ่อมแซมตัวเอง จึงช่วยให้ผิวหน้ายังดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ แต่เมื่อคนเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น แต่ปริมาณสาร Adenosine กลับลดต่ำลง พอมีน้อยหรือไม่พอ ก็ทำให้ผิวหน้าไม่ผลิตคอลลาเจน พอไม่มีคอลลาเจน ริ้วรอยต่าง ๆ และสัญญาณแห่งวัยก็ตามมา ดังนั้นการเติมสาร Adenosine ให้แก่ผิว จะช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้ค่ะ
  • Acetyl Hexapeptide-8 : เป็นเปปไทด์ชนิดหนึ่งที่จะมาช่วยลดการยึดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ ที่ชอบเกิดจากการยิ้ม, หัวเราะ, สงสัย, ดีใจ หรือเสียใจ เช่น พวกรอยย่นบนหน้าผาก หรือรอยตีนกาข้าง ๆ ดวงตา ไม่ยึดตัวกันแล้วกลายเป็นเส้น ๆ ร่องลึกที่เห็นได้ชัดเจนนั้นเองค่ะ
  • Panthenol : หรือวิตามิน B5 จะเป็นส่วนผสมที่ช่วยให้ใบหน้ามีความชุ่มชื้นเพิ่มเติมจากส่วนผสมอื่น ๆ ค่ะ
  • Arginine : จะเป็นกรดอะมิโน่ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติเป็น Anti-Aging ด้วยการกระตุ้นให้ผิวหน้าผลิตคอลลาเจนค่ะ
  • Beta-Glucans : เป็นส่วนผสมอีกตัวที่จะมาช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก เพราะมีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ช่วยปกป้องผิว ไม่ให้ผิวเสื่อมสภาพ และยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย อีกสาเหตุของการเกิดสิวด้วยค่ะ
  • Dipotassium Glycyrrhizate : หรือสารสกัดจากชะเอมเทศ ส่วนผสมตัวนี้จะทำหน้าที่เป็น Whitening Agent เพราะจะมายับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินบนผิวหน้า ทำให้หน้าดูขาวกระจ่างใส และมีสีเรียบเนียนเสมอกันด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาระดับกรดไฮยาลูโรนิกที่เป็นตัวช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นด้วยค่ะ
  • Palmitoyl Pentapeptide-4 : เป็นเปปไทด์สังเคราะห์ ที่เด่นมากในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ โดยเฉพาะพวกร่องลึกหรือพวกเส้นสัญญาณแห่งวัย และยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น พร้อมทั้งลดความหยาบกระด้างของผิวหน้า ผิวหน้าจึงดูเรียบเนียนมากขึ้น และดูอ่อนเยาว์สมวัยค่ะ
  • Pearl Extract : สารสกัดจากไข่มุก ที่จะมาช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใสขึ้น ถือว่าเป็น Whitening Agent อีกส่วนผสมค่ะ
  • Palmitoyl Oligopeptide : ตัวนี้ไม่ใช่เปปไทด์ตรง ๆ นะคะ แต่จะเป็นส่วนประกอบของเปปไทด์ โดยจะทำหน้าที่กระตุ้นให้ผิวหน้าผลิตคอลลาเจน และยังช่วยกันบำรุงผิวรวมกับ Palmitoyl Pentapeptide-4 ด้วยค่ะ

จากส่วนผสมตัวเด่นที่เรารีวิวให้ดูนั้น จะเห็นได้ว่ามีส่วนผสมที่เป็น Anti-Aging ถึง 7 ตัวด้วยกัน สมกับที่บอกว่าเป็นสูตรที่เด่นในเรื่องของการช่วยลดเลือนริ้วรอยจริง ๆ สำหรับเรื่องความกระจ่างใสจะมี Whitening Agent อยู่เพียงแค่ 3 ตัวเท่านั้น ก็ถือว่าช่วยให้ผิวขาวขึ้นอยู่ แต่คงไม่เท่ากับพวกเซรั่มที่เน้นในเรื่องความกระจ่างใสตรง ๆ นะคะ สุดท้ายเรื่องความชุ่มชื้นก็มีส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องนี้ถึง 5 ตัว ก็ถือว่าช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดีอยู่ แต่เอาจริง ๆ สกินแคร์ส่วนใหญ่จะไม่พลาดเรื่องความชุ่มชื้นอยู่แล้วค่ะ

ส่วนเนื้อเซรั่มก็จะมีความข้นเหนียวกำลังดี พร้อมด้วยสีใสออกเหลือง ๆ และจะเห็นเส้นใยสีขาว ๆ อยู่เต็มเนื้อเซรั่มไปหมด ซึ่งเส้นใยนี้ก็คือเส้นใยเปปไทด์ตัวเด็ดของสูตรนี้นั้นเองค่ะ ตอนเกลี่ยก็เกลี่ยง่าย พอนวดเบา ๆ ก็จะช่วยให้เนื้อเซรั่มซึมเข้าสู่ผิวได้ดี และพวกเส้นเปปไทด์ก็จะสลายตัวกลายเป็นสารบำรุงแก่ผิวหน้าด้วย ส่วนกลิ่นก็หอมแบบเบา ๆ จนถึงขั้นอ่อนมาก ไม่ได้รบกวนจมูกเท่าไร และหลังจากที่ใช้ไปสักพัก ก็รู้สึกว่าหน้าเด้งดี ผิวดูเด็กขึ้น ริ้วรอยต่าง ๆ ก็ดูจาง ๆ ลง โดยรวมแล้วประทับใจมาก ๆ ถ้าไม่เคยใช้มาก่อน อยากให้ลองหาซื้อมาใช้กันได้เลยค่ะ

จุดเด่นของสูตรลดเรือนริ้วรอยต่าง ๆ ให้หน้าดูอ่อนเยาว์ และป้องกันไม่ให้เกิดสัญญาณแห่งวัย
ประสิทธิภาพรองเพิ่มความขาวกระจ่างใสให้ใบหน้า และเติมความชุ่มชื้น
จำนวนส่วนผสมAnti-Aging 7 ตัว / Whitening Agent 3 ตัว / ความชุ่มชื้น 5 ตัว
ส่วนผสมหลักGlycerin / Biosaccharide Gum-1 / Niacinamide / Adenosine / Acetyl Hexapeptide-8 / Panthenol / Arginine / Β-Glucans / Dipotassium Glycyrrhizate / Palmitoyl Pentapeptide-4 / Pearl Extract / Palmitoyl Oligopeptide
เนื้อเซรั่มไม่เหลว มีความเข้มข้นกำลังดี มีสีเหลืองออกใส ๆ พร้อมด้วยเส้นใยเปปไทด์สีขาวเล็ก ๆ
กลิ่นหอมแบบเบา ๆ
ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แต่ผิวแพ้ง่ายต้องระวังเพราะมี Alcohol และน้ำหอม
ปราศจาก Paraben / Alcohol / น้ำหอม / /

2. เซรั่ม AMPLE N รีวิว สูตร 24K Gold Shot Ampoule

สำหรับสูตร 24K Gold Shot Ampoule จะเน้นช่วยในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย และป้องกันการกันเกิดสัญญาณแห่งวัยเหมือนกับสูตร Peptide Shot Ampoule เช่นกัน แต่ตัวนี้จะมีราคาแพงกว่า และมีราคาแพงมากที่สุดจากทุกสูตรด้วย ทำไมถึงมีราคาแพงมากที่สุด และจะช่วยเรื่องริ้วรอยได้ดีกว่าเซรั่มตัวแรกไหม ต้องมาดูส่วนผสมกันค่ะ

  • Glycerin / Niacinamide : อาจจะคุ้น ๆ ตาทั้งสองส่วนผสมจากเซรั่มตัวที่แล้วนะคะ เซรั่มตัวนี้ก็มีเช่นกันค่ะ
  • Morinda Citrifolia Fruit Extract : หรือสารสกัดจากผลลูกยอ เป็นส่วนผสมที่มีคุณสมบัติเป็น Anti-Oxidant และ Anti-Aging ไปพร้อม ๆ กัน จึงช่วยปกป้องผิวหน้าได้ดีจากมลภาวะต่าง ๆ และยังช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวหน้าด้วยค่ะ
  • Adenosine / Panthenol / Arginine : ถ้าจะให้พูดอีกรอบ ก็กลัวเนื้อหาจะยาวไป อยากจะอ่านรายละเอียดเชิงลึกก็ย้อนกลับไปเซรั่มตัวแรกเอานะคะ ย่อ ๆ ก็เป็น Anti-Aging และให้ความชุ่มชื้นกับใบหน้าค่ะ
  • Beta-Glucans / Dipotassium Glycyrrhizate : ทั้ง 2 ตัวก็มีเหมือนกันกับเซรั่มสูตร Peptide Shot โดยจะเป็น Anti-Oxidant และ Whitening Agent ค่ะ
  • Gold : เป็นส่วนผสมชูโรงของเซรั่มตัวนี้เลยค่ะ โดยทองคำในสกินแคร์ทั่ว ๆ ไปจะช่วยในเรื่องของการรักษาความชุ่มชื้นให้กับใบหน้า ไม่ให้ผิวหน้าแห้งกร้าน เท่านั้นยังไม่พอ ทองคำยังมีมีประจุไอออน ซึ่งจะตัวช่วยในการส่งต่อออกซิเจนโมเลกุลขนาดเล็กให้ซึมลึกลงไปยังใต้ชั้นผิวหนังได้ดีขึ้น พอมีออกซิเจนมากขึ้น ก็จะเป็นตัวกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิสาสติน ทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ ดูจางลง ใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้นนั้นเองค่ะ
  • Panax Ginseng Extract : หรือสารสกัดจากโสม หลาย ๆ คนก็น่าจะรู้นะคะว่า โสมเนี่ยได้ขึ้นชื่อว่าเป็นยาบำรุงของเมืองจีน ทานแล้วช่วยให้ร่างกายแข็งแรงสุขภาพดี พอนำมาใช้กับสกินแคร์แล้ว ก็จะมีคุณสมบัติเป็น Anti-Aging ที่ดีมากตัวหนึ่งเลยค่ะ
  • Palmitoyl Pentapeptide-4 และ Palmitoyl Oligopeptide : เป็นส่วนผสมเปปไทด์ที่มีเหมือนกับสูตร Peptide Shot แต่ Peptide Shot จะมี 3 เปปไทด์นะคะ ถึงแม้จะมีแค่ 2 แต่ก็ยังถือว่าบำรุงหน้าและช่วยเรื่องยกกระชับผิวได้ดีอยู่ และยังมีส่วนผสมเทพ ๆ ตัวอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติ Anti-Aging อีก รับรองว่าใช้แล้วดีไม่แพ้กันค่ะ

จบไปแล้วกับส่วนผสมหลัก ๆ ที่น่าสนใจของเซรั่ม 24 Gold Shot Ampoule โดยจะเห็นว่ามีส่วนผสมที่เป็น Anti-Aging อยู่ 8 ตัว (มีมากกว่า Peptide Shot 1 ตัว) ส่วนเรื่อง Whitening Agent จะมี 1 ตัว และด้านความชุ่มชื้นที่ 5 ตัวเช่นกัน แล้วถ้าถามว่าใช้สูตรจะช่วยเรื่องริ้วรอยได้ดีกว่ากัน อันนี้ก็ตอบยาก เพราะมันขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าด้วย เราแนะนำว่าลอง Peptide Shot Ampoule ก่อนก็ได้ค่ะ เพราะมีราคาถูกกว่า และเห็นจากหลาย ๆ คนใช้แค่สูตร Peptide ผิวหน้าก็ดีขึ้นมากแล้ว 24 Gold Shot อาจจะมากเกินความจำเป็น แต่เซรั่ม Gold มันดูหรูหรามีระดับ ใช้แล้วดูแพงจริง ๆ ค่ะ

จุดเด่นของสูตรลดเรือนริ้วรอยต่าง ๆ ให้หน้าดูอ่อนเยาว์ และป้องกันไม่ให้เกิดสัญญาณแห่งวัย
ประสิทธิภาพรองเพิ่มความขาวกระจ่างใสให้ใบหน้า และเติมความชุ่มชื้น
จำนวนส่วนผสมAnti-Aging 8 ตัว / Whitening Agent 2 ตัว / ความชุ่มชื้น 5 ตัว
ส่วนผสมหลักGlycerin / Niacinamide / Morinda Citrifolia Fruit Extract / Adenosine / Panthenol / Arginine / Β-Glucans / Dipotassium Glycyrrhizate / Gold / Panax Ginseng Extract / Palmitoyl Pentapeptide-4 / Palmitoyl Oligopeptide
เนื้อเซรั่มคล้าย ๆ Peptide Shot แต่มีเส้นเปปไทด์สีทองที่น้อยกว่า และเห็นทองคำผสมลอยอยู่ในเนื้อเซรั่ม
กลิ่นหอมแบบเบา ๆ
ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แต่ผิวแพ้ง่ายต้องระวังเพราะมี Alcohol และน้ำหอม
ปราศจาก Paraben / Alcohol / น้ำหอม / /

3. เซรั่ม AMPLE N รีวิว สูตร Hyaluron Shot Ampoule

สำหรับใครที่หน้าแห้งกร้าน จับแล้วผิวสาก ๆ ลอกเป็นขุย ๆ ผิวมีอาการขาดน้ำแบบสุด ๆ ต้องการความชุ่มชื้นอย่างเร่งด่วน เราขอแนะนำสูตร Hyaluron Shot Ampoule ตัวนี้เลยค่ะ เพราะสูตรนี้จะมีส่วนผสมหลากหลายตัวที่เน้นความชุ่มชื้นให้แก่ผิวมาก ๆ ทาแล้วเสมียนเป็นการเติมน้ำให้แก่ผิว แต่ก็ยังคงช่วยเรื่องลดและป้องกันการเกิดริ้วรอยเหมือนทั้ง 2 สูตรที่ผ่านมา เพียงแค่อาจจะไม่เด่นเท่าแค่นั้นเอง ตอนนี้ก็ไปดูส่วนผสมเด่น ๆ ของเซรั่มตัวนี้กันเลยค่ะ

  • Glycerin / Niacinamide : พลาดไม่ได้กับส่วนผสมอย่าง Glycerin ที่คิดว่าน่าจะเป็นส่วนผสมที่ทุกเซรั่มต้องมี และ Niacinamide (วิตามิน B3) ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของ Anti-Aging แต่ก็ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น พร้อมช่วยให้ผิวขาวขึ้นด้วยค่ะ ซึ่งส่วนผสมทั้ง 2 ก็มีในเซรั่ม AMPLE N สูตร 2 ตัวบนด้วยค่ะ
  • Propanediol : เป็นส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติ เช่น ข้าวโพด หรือได้จากการสังเคราะห์ก็ได้ โดยจะช่วยในเรื่องของการให้ความชุ่มชื้นกับผิว และป้องกันการสูญเสียน้ำด้วยค่ะ
  • Adenosine / Arginine : 2 ตัวนี้หลัก ๆ จะมีคุณสมบัติของ Anti-Aging รายละเอียดเพิ่มเติมกลับไปอ่านได้ที่สูตร Peptide Shot ค่ะ
  • Hyaluronic Acid : เป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นได้เอง และพบเจอได้ในร่างกายอยู่แล้ว โดยจะทำหน้าที่กักเก็บน้ำถึงระดับเซลล์ ช่วยให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ยิ่งเอามาใช้กับผิวหน้าก็ยิ่งทำให้หน้าดูอิ่ม ๆ มีน้ำมีนวล ไม่แห้งกร้าน เป็นตัวช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้ดีอันดับต้น ๆ เลยค่ะ
  • Sodium Hyaluronate : ตัวนี้จะคล้าย ๆ กับ Hyaluronic Acid โดยจะทำหน้าที่เรื่องช่วยกักเก็บน้ำ และเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว แต่จะพิเศษกว่าตรงที่มีโมเลกุลขนาดเล็กกว่า จึงสามารถซึมเข้าสู่ผิวเฉพาะจุด และซึมลึกได้ดีกว่า Hyaluronic Acid ค่ะ ปกติสกินแคร์ทั่ว ๆ ไปจะเจอส่วนผสมอย่างใดอย่างหนึ่งของ 2 ตัวนี้นะคะ แต่เซรั่มตัวนี้เหมาหมด เติมน้ำให้กับผิวแบบสุด ๆ ค่ะ
  • Ceramide 3 : หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกับเซราไมด์กันมาแล้ว ก็เป็นอีกส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้นเช่นกัน โดยจะเป็นสารที่พบได้มากในชั้นผิวหนังกำพร้า ซึ่งถ้าเซราไมด์มีปริมาณลดลง ก็จะทำให้ผิวหนังแห้งกร้าน ผิวหยาบ ๆ ผิวดูขาดน้ำและดูสุขภาพไม่ดีนั้นเองค่ะ การเติมเซราไมด์ลงสู่ผิวจะเป็นการช่วยแก้ปัญหา ณ จุดนี้ได้นั้นเอง
  • Hydrolyzed Viola Tricolor Extract : หรือสารสกัดจากดอกไม้ป่า เป็นสารที่อุดมไปด้วย Oligosaccharide ซึ่งเจ้าสาร Oligosaccharide  ก็จะไปช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้าง Hyaluronic acid จากนั้นก็ตามรายละเอียดด้านบนเลยค่ะ
  • Acetyl Glucosamine : เป็นน้ำตาลอะมิโน่ชนิดหนึ่งที่พบได้ในเซลล์ผิวของคนเรา โดยจะทำหน้าที่คงความชุ่มชื้นของผิว เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้าน นอกจากเรื่องความชุ่มชื้นแล้ว ยังทำงานรวมกันได้ดีกับ Niacinamide หรือวิตามิน B3 ที่จะช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติ ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ทำหน้าที่เป็น Whitening Agent ได้นั้นเองค่ะ
  • Caprylic/Capric Triglyceride : เป็นกรด 2 ตัวที่สกัดได้จากมะพร้าว เป็นส่วนผสมอีกตัวที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวค่ะ

ถ้าสังเกตจากส่วนผสมเด่น ๆ ของเซรั่มตัวนี้แล้ว จะเห็นมีส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้นถึง 8 ตัวเลยค่ะ ! ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำขนาดไหน เซรั่มตัวนี้เอาอยู่ ส่วนส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องของการชะลอวัยจะมีอยู่ 3 ตัว และผิวขาวอยู่ 2 ตัว โดยเนื้อเซรั่มก็จะมีสีใส ๆ ค่อนข้างมีความเหลวมากกว่าสูตรบน ๆ เกลี่ยหน้าที ลื่นปรื๊ดไปเลยค่ะ ส่วนกลิ่นก็หอมแบบบาง ๆ ตามสไตส์ของเซรั่มยี่ห้อนี้ ที่ไม่ได้เน้นเรื่องกลิ่นมากนัก และหลังจากที่ใช้ไปสักพัก หน้าก็ฟูดูมีน้ำมีนวลดีมาก ๆ ผิวหน้าที่ชอบแอบแห้งระหว่างวัน โดยเฉพาะเวลาที่ทำงานในห้องแอร์ก็ไม่เห็นเลย เป็นอีกตัวที่เราคิดว่า ต้องโดนค่ะ! แต่ไม่ช่วยเรื่องขาวใสเท่าไรนะคะ เรารู้สึกว่าสีผิวก็เดิม ๆ ตั้งแต่เริ่มใช้จนจบค่ะ

จุดเด่นของสูตรเติมน้ำให้แก่ผิว ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ ผิวดูนุ่มนิ่มเต่งตึง และป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้าน
ประสิทธิภาพรองเพิ่มความขาวกระจ่างใสให้ใบหน้า และชะลอวัย
จำนวนส่วนผสมAnti-Aging 3 ตัว / Whitening Agent 2 ตัว / ความชุ่มชื้น 8 ตัว
ส่วนผสมหลักGlycerin / Niacinamide / Propanediol / Adenosine / Arginine / Hyaluronic Acid / Sodium Hyaluronate / Ceramide 3 / Hydrolyzed Viola Tricolor Extract / Acetyl Glucosamine / Caprylic/Capric Triglyceride
เนื้อเซรั่มมีสีใส ๆ ค่อนข้างมีความเหลว
กลิ่นหอมแบบบาง ๆ
ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แต่ผิวแพ้ง่ายต้องระวังเพราะมี Alcohol และน้ำหอม
ปราศจาก Paraben / Alcohol / น้ำหอม / /


4. เซรั่ม AMPLE N รีวิว สูตร VC Shot Ampoule

ปัญหาผิวหน้าอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนหนักใจ และไม่ค่อยกล้าออกไปพบปะกับผุ้คนก็คือ หน้าตาดูหมองคล้ำเสีย ดูแล้วมืดมนจิตตก สีผิวก็ดูไม่สม่ำเสมอ ขาว ๆ ดำ ๆ เป็นย่อม ๆ หาความสดใสอยู่บนใบหน้าได้ยาก ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ เพราะยี่ห้อ AMPLE N เอง ก็มีสูตรเซรั่มที่จะมาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ อย่างสูตร VC Shot Ampoule อันโด่งดัง ที่จะมาช่วยให้ผิวหน้าดูขาวกระจ่างใส และฟื้นฟูสภาพผิวให้ดีขึ้น ด้วยส่วนผสมเด่น ๆ ที่ต้องตามไปดูกันค่ะ

  • Glycerin / Niacinamide : เจอกับส่วนผสมทั้งสองนี้กันอีกเช่นเคย สงสัยเป็นส่วนผสมพื้นฐานของเซรั่มยี่ห้อนี้ค่ะ
  • Propanediol : มีเหมือนกับเซรั่มสูตร Hyaluron Shot ที่ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้นค่ะ
  • Arbutin : เป็นส่วนผสมที่มีชื่อในเรื่องของการเป็น Whiteing Agent ที่ได้จากการสกัดพืชธรรมชาติหลายชนิด โดยจะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินบนใบหน้า ซึ่งพวกเม็ดสีเมลานินเป็นอีกตัวการร้ายที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำนั้นเองค่ะ
  • Macadamia Ternifolia Seed Oil : หรือน้ำมันถั่วแมคคาเดเมีย เป็นน้ำมันที่อุดมไปด้วยสารอาหารแบบสุด ๆ เช่น วิตามิน A, วิตามิน E และฟลาโวนอยด์ เป็นต้น จึงมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวหน้าได้หลายด้านมาก ๆ ทั้งเป็น Whitening Agent, Anti-Aging, Anti-Oxidant และเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า พูดได้ว่าครอบจักรวาลค่ะ
  • Ascorbyl Tetraisopalmitate : หรือวิตามิน C ในรูปแบบหนึ่งที่สามารถละลายในน้ำมันได้ จึงซึมเข้าสู่ผิวได้ดี เพราะผิวหนังของเรามีชั้นไขมันขวางอยู่ และเป็นตัวช่วยหลัก ๆ ในเรื่องของหน้าขาวกระจ่างใสค่ะ
  • Hippophae Rhamnoides (Seaberry) Fruit Extract : เป็นสารสกัดที่ได้จากผลไม้ตระกลูเบอร์รี่ ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามิน C เข้มข้นสูงมากกว่าพวกผลไม้ทั่ว ๆ ไป จึงเป็นอีกส่วนผสมที่เป็น Whitening Agent แบบสุด ๆ ค่ะ
  • Aureobasidium Pullulans Ferment : เป็นส่วนผสมที่ได้จากการหมักของยีนต์ โดยจะมีคุณสมบัติของการเป็น Whiteing Agent ด้วยการช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน และยังให้ความชุ่มชื้น พร้อมทั้งเป็น Anti-Oxidant อีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นอีกส่วนผสมที่ช่วยบำรุงได้หลายด้านมาก ๆ ค่ะ
  • Palmitoyl Oligopeptide : เป็นส่วนผสมเปปไทด์ที่มีเหมือนกับสูตร Peptide Shot และ 24 Gold Shot มีคุณสมบัติเป็น Anti-Aging ค่ะ

ถ้าดูจากส่วนผสมเด่น ๆ อาจจะน้อยกว่าสูตรอื่น ๆ ไปบ้าง แต่ก็เป็นเซรั่มที่มี Whitening Agent ถึง 6 ตัว ซึ่งมากกว่าสูตรอื่น ๆ ถึง 2-3 เท่าเลยค่ะ สมกับเป็นสูตรที่เน้นในเรื่องของการช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสจริง ๆ แต่ก็ยังช่วยในเรื่อง Anti-Aging อยู่บ้าง เพราะมีส่วนผสมด้านนี้อยู่ 3 ตัว ส่วนเรื่องความชุ่มชื้นก็มีอยู่ 4 ตัว ด้านเนื้อเซรั่มก็จะออกสีขาวขุ่น ๆ เห็นเนื้อขาว ๆ ผสมอยู่ด้วย แอบข้นเหนียวนิด ๆ แต่ก็ทาง่ายอยู่ และกลิ่นก็ยังบาง ๆ เบา ๆ เหมือนเดิม ส่วนด้านผลลัพธ์ก็ จากที่เราได้สังเกตหลาย ๆ คนที่ใช้ ก็เห็นว่ามีผิวหน้าที่ดูขาวกระจ่างใสขึ้นจริง เพื่อน ๆ เราชอบกันมาก และหลาย ๆ คนก็ยกให้เป็นเซรั่มผิวขาวในดวงใจกันเลยค่ะ

จุดเด่นของสูตรช่วยให้ผิวหน้าดูขาวกระจ่างใส ปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ ลดพวกรอยแดงรอยดำ
ประสิทธิภาพรองช่วยในการชะลอวัย และเติมความชุ่มชื้น
จำนวนส่วนผสมAnti-Aging 3 ตัว / Whitening Agent 6 ตัว / ความชุ่มชื้น 4 ตัว
ส่วนผสมหลักGlycerin / Niacinamide / Propanediol / Arbutin / Macadamia Ternifolia Seed Oil / Ascorbyl Tetraisopalmitate / Hippophae Rhamnoides (Seaberry) Fruit Extract / Aureobasidium Pullulans Ferment / Palmitoyl Oligopeptide
เนื้อเซรั่มสีขาวขุ่น ๆ เห็นเนื้อขาว ๆ ผสมอยู่ด้วย แอบข้นเหนียวนิด ๆ
กลิ่นบาง ๆ เบา ๆ
ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แต่ผิวแพ้ง่ายต้องระวังเพราะมี Alcohol และน้ำหอม
ปราศจาก Paraben / Alcohol / น้ำหอม / /

5. เซรั่ม AMPLE N รีวิว สูตร Ceramide Shot Ampoule 

สำหรับสูตร Ceramide Shot Ampoule ก็ตามชื่อสูตรเลยนะคะ ที่เป็นการเติมเซราไมด์เข้าสู่ผิวหน้า จึงช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นนั้นเอง แต่เอ๊ะ! แล้วยังงี้มันจะแตกต่างจากสูตร Hyaluron Shot ยังไง ในเมื่อช่วยเรื่องความชุ่มชื้นเหมือน ๆ กัน ซึ่งทั้ง 2 สูตรจะแตกต่างกันที่ Hyaluron Shot เป็นการเติมน้ำ ส่วน Ceramide Shot เป็นการเสริมเกราะป้องกันให้กับผิว ทำให้ผิวหน้าของเรา ๆ มีความแข็งแรงมากขึ้น และยังช่วยกักเก็บน้ำไว้ในผิวได้อย่างยาวนานตลอดวัน อีกทั้งพอผิวหน้ามีความแข็งแรง เวลาเจอกับมลภาวะหรือสิ่งระคายเคืองต่าง ๆ หน้าก็จะไม่แพ้ง่ายด้วยค่ะ และเช่นเคย ไปดูส่วนผสมหลัก ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อกันค่ะ

  • Glycerin / Niacinamide : ส่วนผสมคุ้นหน้าคุ้นตานะคะ มีเช่นเดิมค่ะ
  • Propanediol : มีเหมือนกับเซรั่มสูตร Hyaluron Shot และ VC Shot ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้นค่ะ
  • Diglycerin : มีคุณสมบัติคล้าย ๆ Glycerin ที่ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้น แต่เก็บกักน้ำได้ดีกว่า แปลกใจนิด ๆ ที่สูตร Hyaluron Shot ไม่มีส่วนผสมตัวนี้ค่ะ
  • Beta-Glucan : มีคุณสมบัติเป็น Anti-Oxidant ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่าง ๆ
  • Betaine : หรือสารสกัดจากต้นบีท จะช่วยในการสร้างความสมดุลให้ผิวมีความชุ่มชื้น และยังมีคุณสมบัติของ Anti-Aging ด้วยการช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลลาเจน อีกทั้งยังช่วยลดการระคายเคืองต่อผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าแข็งแรงไม่แพ้ง่ายด้วยค่ะ
  • Adenosine / Arginine : เป็นส่วนผสมที่พบได้ในเซรั่ม AMPLE N หลาย ๆ สูตร โดยเน้นในเรื่องของการเป็น Anti-Aging ค่ะ
  • Forsythia Suspensa Fruit Extract : หรือสารสกัดจากเมล็ดฟอร์ซิเทียที่เป็นพืชพบเจอได้มากในเกาหลี ที่จะมาช่วยป้องกันและยับยั้งการเกิดผิวอักเสบบนใบหน้า เป็นอีกตัวที่ช่วยให้หน้าแข็งแรง และยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของการเกิดสิวด้วย
  • Ceramide 3, 2, 1 : ชื่อสูตรว่า Ceramide Shot ก็ลากเอาเซราไมด์ทั้ง 3 ชนิด มาเติมให้กับผิวเลยค่ะ เพิ่มเติมเซราไมด์กันแบบสุด ๆ กักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นกันแบบสุด ๆ และยังเพิ่มความแข็งแรงให้กับใบหน้าแบบสุด ๆ ด้วยค่ะ
  • Allantoin : เป็นสารสกัดทางธรรมชาติได้จากต้นคอมเฟรย์ ที่จะมาช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่หยาบกร้าน อีกทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบบนใบหน้าได้ดี
  • Brassica Campestris (Rapeseed) Sterols : เป็นส่วนผสมที่ได้มาจากพืชตระกูลผักกาด ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการทำให้ผิวมีความนุ่มนิ่ม ไม่แข็งกระด้าง ทำให้น่าสัมผัสค่ะ
  • Macadamia Ternifolia Seed Oil : หรือน้ำมันถั่วแมคคาเดเมีย เป็นส่วนผสมที่มีเหมือนกับสูตร VC Shot สำหรับรายละเอียดเชิงลึกกลับไปอ่านได้ที่ด้านบนนะคะ สั้น ๆ ก็เป็นส่วนผสมที่บำรุงหลายด้านค่ะ
  • Caprylic/​Capric Triglyceride : เป็นกรดที่ได้จากมะพร้าว หลัก ๆ ก็จะช่วยในเรื่องความชุ่มชื้น

เป็นเซรั่มที่แอบมีส่วนผสมเยอะและเด่น ๆ หลายตัวเลยค่ะ โดยจะมีส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องของการปกป้องผิวหลายตัวมาก ๆ นับ ๆ ดูแล้วมีถึง 8-9 ตัว ส่วนเรื่องความชุ่มชื้นก็ทำได้ดีด้วยส่วนผสมถึง 8-9 ตัวเช่นกัน ส่วนด้าน Whitening ก็มีที่ 3-4 ตัว และ Anti-Aging ที่ประมาณ 5 ตัว ถือว่ารวม ๆ แล้ว ก็บำรุงได้หลาย ๆ ด้านดี และที่แปลกกว่าสูตรอื่น ๆ ก็คือ การไม่มีส่วนผสมของ Paraben, Alcohol และน้ำหอม ซึ่งเหมาะมาก ๆ กับคนที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะลดโอกาสการเกิดระคายเคือง และยังเป็นสูตรที่เพิ่มความแข็งแรงให้แก่ผิว ใครที่มีผิวหน้าอ่อนแอ บอบบาง แพ้ง่ายอยู่ แนะนำว่าใช้เถอะค่ะ!

จุดเด่นของสูตรเน้นในเรื่องการปกป้องผิวหน้าด้วยการเติมเซราไมด์ ทำให้ผิวหน้ามีความแข็งแรง และเก็บกักความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดี
ประสิทธิภาพรองเพิ่มความขาวกระจ่างใสให้ใบหน้า และชะลอวัย
จำนวนส่วนผสมAnti-Aging 5 ตัว / Whitening Agent 3-4 ตัว / ความชุ่มชื้น 8-9 ตัว
ส่วนผสมหลักGlycerin / Niacinamide / Propanediol / Diglycerin / Beta-Glucan / Betaine / Adenosine / Arginine / Forsythia Suspensa Fruit Extract / Ceramide 3, 2, 1 / Allantoin / Brassica Campestris (Rapeseed) Sterols / Macadamia Ternifolia Seed Oil / Caprylic/​Capric Triglyceride
เนื้อเซรั่มมีสีขาวออกขุ่น ๆ แบบใส ๆ ผสม ๆ กัน
กลิ่นเบา ๆ เช่นเดิม
ใช้ได้กับทุกสภาพผิว
ปราศจาก Paraben / Alcohol / น้ำหอม / /

6. เซรั่ม AMPLE N รีวิว สูตร Acne Shot Ampoule

เซรั่ม AMPLE N สูตร Acne Shot Ampoule จะเป็นตัวที่แปลกกว่าสูตรอื่น ๆ เพราะเป็นเซรั่มที่เน้นในเรื่องของการแก้ปัญหาสิวบนใบหน้าโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะ ทั้งสิวผด สิวอักเสบ หรือสิวอื่น ๆ ก็ตาม พูดง่าย ๆ ว่า ถ้าอยากให้หน้าใส ไร้สิวตัวร้าย ก็ต้องใช้เซรั่มสูตรนี้เลย ทำไมถึงเป็นเซรั่มที่จัดการกับสิวได้ดี ก็คงต้องไปดูส่วนผสมเด่น ๆ กันเลยค่ะ

  • Propolis Extract : หรือสารสกัดจากรังผึ้ง โดยเจ้าผึ้งทั้งหลายจะใช้สารตัวนี้ในการซ่อมแซมรังของพวกเขา และยังใช้ทำความสะอาด พร้อมทั้งป้องกันเชื้อต่าง ๆ เข้าสู่ภายในรังด้วย เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นสารฆ่าเชื้อตามธรรมชาติ จึงช่วยแก้ปัญหาสิวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียได้ดี อีกทั้งพรอพโพลิสเอง ก็ยังช่วยยับยั้งการอักเสบอีกด้วย ซึ่งเซรั่มสูตรนี้ ก็มีสารสกัดนจากรังผึ้งที่เข้มข้นสูงถึง 45% ถือว่าเป็นส่วนผสมสำคัญอันดับต้น ๆ ในการต่อสู้กับสิวเลยค่ะ
  • Propanediol : มีเหมือนกับเซรั่มสูตรหลาย ๆ สูตร โดยจะช่วยในเรื่องความชุ่มชื้นเป็นหลักค่ะ
  • Adenosine / Arginine : อาจจะคุ้น ๆ ตากับส่วนผสมสองตัวนี้กันแล้วนะคะ รายละเอียดสามารถไปอ่านได้ที่สูตร Peptide แต่ถ้าใครไม่อยากกลับไปอ่าน หลัก ๆ ก็เป็น Anti-Aging ค่ะ
  • Glycyrrhiza Glabra (licorice) Root Extract : หรือสารสกัดจากรากชะเอมเทศ จะช่วยลดการอักเสบที่เกิดขึ้นบนผิวหน้า และยังช่วยลดเลือนริ้วรอยแดงรอยดำจากพวกสิวได้ดีด้วยค่ะ
  • Centella Asiatica Extract : หรือสารสกัดจากใบบัวบก เป็นส่วนผสมตัวเด็ดที่มีคุณสมบัติเรียกว่า แทบจะครอบจักรวาลในการบำรุงใบหน้าเลยค่ะ โดยเริ่มจากการเป็น Anti-Aging ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และยังเด่นในเรื่องของการสมานแผลต่าง ๆ ทำให้พวกริ้วรอยจากสิวหรือรอยแผลเป็นดูเลือนลางลง อีกทั้งยังมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นอีกตัวการสำคัญในการเกิดสิว พร้อมทั้งให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และสุดท้ายยังมีคุณสมบัติเป็น Anti-Oxidant ด้วย บำรุงครบจบในส่วนผสมเดียวเลยค่ะ
  • Chamomile Recutita (matricaria) Flower Extract : หรือสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียเช่นกัน และยังลดการอักเสบ บวมแดง ที่เกิดขึ้นบนใบหน้าด้วยค่ะ
  • Glycine Soja (Soybean) Sprout Extract : หรือสารสกัดจากถั่วเหลือง ปกติจะไม่ค่อยเจอถั่วเหลืองเป็นส่วนผสมในสกินแคร์เท่าไรนัก แต่เอาจริง ๆ มีคุณสมบัติของการเป็น Anti-Aging ที่ดีมาก ๆ โดยจะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนัง ให้ผิวดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์นั้นเอง อีกทั้งยังเป็น Whitening Agent โดยการช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีด้วยค่ะ
  • Dipotassium Glycyrrhizate : หรือสารสกัดจากชะเอมเทศ รายละเอียดเต็ม ๆ หาอ่านได้ที่สูตร Peptide Shot นะคะ หลัก ๆ จะเป็น Whitening Agent และช่วยเรื่องความชุ่มชื้นค่ะ
  • Madecassoside : เป็นสารที่สกัดได้จากใบบัวบก ดูเผิน ๆ ก็เหมือนกับส่วนผสมอย่าง Centella Asiatica Extract แต่ Madecassoside ตัวนี้ จะเป็นสารที่อยู่ข้างในใบบัวบกอีกที แต่มีความเข้มข้นที่สูงมาก และมีคุณสมบัติเหมือน ๆ กับ Centella Asiatica Extract เลยค่ะ จึงช่วยบำรุงผิวหน้าได้อย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้นนั้นเอง
  • Capryloyl Salicylic Acid : ทำหน้าที่ในการผลัดเซลล์ผิวเก่า เพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกมาอุดตัน ซึ่งเป็นอีกสาเหตุของการเกิดสิวนั้นเอง และยังมีคุณสมบัติการเป็น Anti-Aging และ Whiteing Agent ด้วยค่ะ
  • Melia Azadirachta Leaf Extract : หรือสารสกัดจากใบต้นสะเดา จะเป็นตัวช่วยในเรื่องให้ผิวมีความอ่อนนุ่ม และยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ พร้อมทั้งป้องกันสิวขึ้นบนผิวหน้าด้วยค่ะ
  • Corallina Officinalis Extract : หรือสารสกัดจากสาหร่ายสีแดง เป็นอีกส่วนผสมที่ช่วยบำรุงในหลาย ๆ ด้าน โดยเป็นทั้ง Anti-Aging ช่วยลดเลือนริ้วรอย, Whiteing Agent ด้วยการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไป เผยเซลล์ผิวใหม่ที่กระจ่างใสมากขึ้น และยังช่วยเรื่องของความชุ่มชื้น อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้เกิดสิวบนใบหน้าได้ด้วย เรียกว่าประโยชน์เยอะครบจบในตัวเลยค่ะ
  • Gaultheria Procumbens (wintergreen) Leaf Extract : หรือสารสกัดจากใบระกำ มีคุณสมบัติเหมือน ๆ Capryloyl Salicylic Acid ที่ช่วยในการต่อสู้กับสิว แต่จะเป็นส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติค่ะ

เราว่าเซรั่ม AMPLE N หลาย ๆ สูตรก็มีส่วนผสมที่เยอะแล้ว แต่ตัวนี้ มีเยอะยิ่งกว่าอีกค่ะ กว่าจะหาข้อมูลได้ครบเล่นเอาเหนื่อยเลย หลัก ๆ ก็จะมีส่วนผสมที่เน้นในเรื่องของการต่อสู้กับสิว ลดเลือนริ้วรอยจากสิว และป้องกันสิวไม่ให้กลับมา ส่วนทางด้าน Anti-Aging จะมีอยู่ประมาณ 9 ตัว, Whiteing Agent 5 ตัว และความชุ่มชื้น 6 ตัว ก็ถือว่านอกจากเรื่องสิว ๆ แล้ว เรื่องอื่น ๆ ก็ยังบำรุงช่วยได้ดีอยู่ แต่เราว่า ถ้าจะเน้นบำรุงด้านอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องสิว ไปใช้สูตรอื่น ๆ ดีกว่าค่ะ

นอกจากนี้ ก็เป็นเซรั่มที่ไม่มีส่วนผสมของพวก Paraben, Alcohol และน้ำหอม เหมือนสูตร Ceramide Shot ด้วย คนที่มีผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ แต่มีพวกส่วนผสมผลัดเซลล์ผิวอยู่เยอะ ยังไงจะใช้ก็แอบระวังตัวกันด้วย ส่วนเรื่องการจัดการกับสิว ผลลัพธ์ที่ได้มันขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าจริง ๆ ค่ะ บางคนก็บอกว่าใช้แล้วเฉย ๆ สิวยังมีเหมือนเดิม แต่บางคนใช้แล้วสิวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ของแบบนี้ มันต้องลองค่ะ

จุดเด่นของสูตรเน้นในเรื่องของการต่อสู้กับสิวเป็นหลัก ช่วยให้สิวหาย หน้าฟื้นคืนสภาพจากพวกรอยสิวต่าง ๆ และยังป้องกันไม่ให้สิวกลับมาด้วย
ประสิทธิภาพรองเพิ่มความขาวกระจ่างใสให้ใบหน้า ชะลอวัย และเติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิว
จำนวนส่วนผสมAnti-Aging 9 ตัว / Whitening Agent 5 ตัว / ความชุ่มชื้น 6 ตัว
ส่วนผสมหลักPropolis Extract / Propanediol / Adenosine / Arginine / Glycyrrhiza Glabra (licorice) Root Extract / Centella Asiatica Extract / Chamomile Recutita (matricaria) Flower Extract / Glycine Soja (Soybean) Sprout Extract / Dipotassium Glycyrrhizate / Madecassoside / Capryloyl Salicylic Acid / Melia Azadirachta Leaf Extract / Corallina Officinalis Extract / Gaultheria Procumbens (wintergreen) Leaf Extract
เนื้อเซรั่มบางเบา มีสีเหลืองออกใส ๆ
กลิ่นเบา ๆ เช่นเดิม
ใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวที่เป็นสิวง่าย
ปราศจาก Paraben / Alcohol / น้ำหอม / /

โอ้ยยยย เหนื่อยค่ะ กว่าจะรีวิว “เซรั่ม AMPLE N” จนจบครบทั้ง 6 สูตร เอาจริง ๆ เซรั่ม AMPLE N ตอนนี้มีสูตรใหม่ ๆ มาเพิ่มเติมแล้วนะคะ อย่างสูตร Centel Calming Shot Ampoule สีเขียวเข้มที่เน้นส่วนผสมของสารสกัดใบบัวบกแบบสุด ๆ หรือสูตร 24K Rosegold ที่เน้นในเรื่องของทองคำเช่นเดียวกับกับสูตร 24K Gold แต่ตัวนี้จะเป็นทองคำสีชมพู ๆ สวย ๆ ถ้าได้ใช้แล้วแอบดูดีดูแพงแน่ ๆ ไว้โอกาสหน้าจะกลับมารีวิวพวกสูตรอื่น ๆ ให้ทราบกันอีกนะคะ สำหรับวันนี้ก็ขอให้ได้เซรั่ม AMPLE N ตัวสูตรที่ใช้แล้วตอบโจทย์เรื่องสภาพผิวหน้าได้ดี สวย ๆ หล่อ ๆ กันทุกคนค่ะ



Leave a Comment