มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 ยี่ห้อ

รูปภาพปกบทความ Moisturizer ยี่ห้อไหนดี

ถ้าได้หลงเข้ามาอ่านที่บทความนี้ มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) ยี่ห้อไหนดี แสดงว่า กำลังมีปัญหากับผิวหน้าทรุดโทรม ผิวหน้าแห้งกร้านกันอยู่ใช่ไหมล่ะคะ? อีกทั้งก็อาจจะกำลังงง ๆ ว่า มอยเจอร์ไรเซอร์ คืออะไร? ช่วยอะไรกันแน่? ก็มาได้ถูกที่แล้ว เพราะที่บทความนี้ จะมาช่วยให้คำตอบเกี่ยวกับสกินแคร์ชนิดนี้ อีกทั้งทางเรายังได้ไปคัดสรรมอยเจอร์ไรเซอร์ยี่ห้อปัง ๆ เน้น ๆ มาถึง 10 ยี่ห้อ มารีวิวให้ได้ดูกัน ซึ่งขอบอกเลย ถ้าอ่านจนจบแล้ว มีโอกาสเสียเงินซื้อค่อนข้างสูงเลยล่ะค่ะ ก็เผื่อเป็นการไม่เสียเวลา ไปดูเนื้อหาข้างล่างกันเลยค่ะ



มาทำความรู้จักกับ Moisturizer กันสักนิด

รูปกำลังใช้มอยส์เจอไรเซอร์

ถ้าเอาแบบง่าย ๆ เลยนะคะ มอยเจอร์ไรเซอร์ คือ ครีม, น้ำมัน, โลชั่น, เซรั่ม หรือสกินแคร์ต่าง ๆ ที่ใช้ทาบนผิว โดยมีจุดประสงค์หลัก ๆ เพื่อให้ผิว มีความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ลอกเป็นขุย ๆ เป็นแผ่น ๆ หรือไม่ดูขาดน้ำกันนั้นเอง แต่เอาจริง ๆ แล้ว ร่างกายของคนเราเนี่ย สามารถผลิตมอยเจอร์ไรเซอร์ขึ้นได้เองตามธรรมชาติ หรือที่เขาเรียกกันว่า Sebum ซึ่งเจ้า Sebum ก็คือ ความมัน ที่เกิดขึ้นบนผิวที่ถูกผลิตโดยต่อมไขมันในร่างกายของคนเรา ก็ถ้าร่างกายผลิต Sebum น้อยเกินไป ก็จะทำให้ผิวแห้งกร้าน แต่ถ้าผลิตมากเกินไป ก็จะทำให้ผิวมันเยิ้มนั้นเองค่ะ

อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่อายุเพิ่มมากขึ้น, การดูแลร่างกายที่ไม่ดีพอ เช่น ทำงานหนัก, นอนน้อย หรือแม้แต่ไม่ออกกำลังกาย รวมถึงการทานอาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ และไม่ค่อยดื่มน้ำ ก็เป็นการทำให้ร่างกายสูญเสียความชุ่มชื้นได้ทั้งนั้น จะมาหวังพึ่งเจ้า Sebum ในร่างกายอย่างเดียว มันไม่พอค่ะ จึงจำเป็นต้องหันมาใช้ Moisturizer ช่วยในการบำรุงผิวเพิ่มเติมกันด้วย และยิ่งถ้าดูแลตัวเองดี ๆ ดื่มน้ำสะอาดอย่างพอเหมาะ นอนพักผ่อนเต็มที่ พร้อมกับใช้ Moisturizer ทาผิวหน้าแล้วละก็ หน้าจะดูอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี ดูปัง ๆๆๆ กันอย่างแน่นอนค่ะ

แต่ขอฝากสำหรับคนผิวมันกันสักนิด ถึงแม้คนผิวมันอาจจะคิดว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ Moisturizer หรอก เพราะมีความมันช่วยเก็บความชุ่มชื้นได้อยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่า ความมันเป็นบ่อเกิดแห่งสิว พอสิวมาก็ล้างหน้า ทีงี้ความมันหาย หน้าก็แห้ง ร่างกายก็ผลิตน้ำมันเพิ่มเข้าไปอีก กลับกลายเป็นวงจรอุบาทว์ต่อไป หน้าอิ่มน้ำ แต่เต็มไปด้วยสิว มันก็ไม่ไหวนะคะ ดังนั้นถ้าหลังล้างหน้ามีการใช้ Moisturizer บำรุงเพิ่มเติมละก็ จะช่วยให้ร่างกายไม่ผลิต Sebum ส่วนเกิน ก็จะช่วยลดสิวได้นั้นเองค่ะ


จะเลือกซื้อ “มอยเจอร์ไรเซอร์” (Moisturizer) อย่างไรดีนะ?

ก็อย่างที่กล่าวไปว่า มอยเจอร์ไรเซอร์จะมีคุณสมบัติในการช่วยเติมความชุ่มชื้นหรือเติมน้ำให้กับผิว ดังนั้นการจะเลือกซื้อเนี่ย หลัก ๆ เลย ก็ให้เลือกซื้อจาก สภาพของผิวหน้าที่ตนมี ค่ะ โดยที่

  • ผิวธรรมดา : เป็นผิวที่โชคดีสุด ไม่ต้องคิดมากอยากใช้อะไรก็ใช้ได้เลย
  • ผิวแห้ง : เป็นผิวที่ควรจะใช้มอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงเพิ่มเติมแบบสุด ๆ โดยควรจะเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อครีม เพราะจะมีความเข้มข้นกับความมันค่อนข้างสูง ซึ่งจะเหมาะกับผิวแบบนี้มากที่สุด แต่ถ้าไม่ชอบเนื้อครีมมัน ๆ ก็ใช้เนื้อแบบอื่น ๆ ได้ เพียงแค่อาจจะต้องทาเยอะขึ้น หรือใช้มอยเจอร์ไรเซอร์มากกว่า 1 ตัว ในการบำรุงผิวค่ะ
  • ผิวมัน : ควรจะเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่หนักหน้า อย่างเนื้อเจลหรือเนื้อเซรั่ม ถ้าให้ดีใช้พวกที่ปราศจากน้ำมันจะยิ่งดีค่ะ
  • ผิวผสม : เป็นผิวที่จัดการค่อนข้างลำบาก เพราะมีทั้งโซนมันและโซนแห้งอยู่ในใบหน้าเดียวกัน ก็แนะนำว่า ให้เลือกซื้อเหมือนกับผิวมัน เพราะจะได้สามารถใช้ทั้งใบหน้าได้เลย ส่วนที่เป็นโซนแห้ง ก็อาจจะต้องทาให้หนาขึ้น หรือซื้อผลิตภัณฑ์เนื้อครีมมาทาในโซนแห้งโดยเฉพาะค่ะ
  • ผิวแพ้ง่าย : เป็นอีกผิวที่น่าหนักใจ ใช้อะไรก็อาจจะเกิดการระคายเคือง ทำให้ผิวแพ้ได้ ยิ่งแพ้หน้าก็ยิ่งลอกแห้งเข้าไปใหญ่ เพราะฉะนั้นต้องเลือกกันดี ๆ นิดหนึ่ง อยากให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารที่อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองอย่าง พาราเบน, น้ำหอม และแอลกอฮอล์ หลีกหนีพวกนี้ให้ดีที่สุด หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ ให้ทดลองทาที่ท้องแขน, หลังหู และผิวคอบริเวณใต้คางดูก่อน ถ้าไม่เกิดอาการแพ้ ค่อยใช้ต่อไปค่ะ
  • ผิวเป็นสิว : จะเลือกซื้อออกแนว ๆ คล้าย ๆ กับผิวมันค่ะ แต่อยากให้ดูเพิ่มตรงเรื่อง มีส่วนผสมที่ช่วยในการจัดการกับสิว ถ้ายังไม่ชัวร์ ก็เลือกซื้อหัวข้อ มอยเจอร์ไรเซอร์สิว ที่เรากำกับไว้ก็ได้ค่ะ พวกยี่ห้อเหล่านี้ เขามีส่วนผสมที่ช่วยในการต่อสูกับสิว หรือลดโอกาสการเกิดสิวค่ะ

ตอนนี้ ก็น่าจะรู้หลักการเลือกซื้อ Moisturizer กันไปบ้างแล้ว แต่ถ้าคิดว่า ใช้แค่นี้มันไม่พอ บำรุงผิวหน้าไม่อยู่ หรือใช้แล้วหน้ายังแห้งกร้าน ไม่อิ่มน้ำ ถ้ายังงั้น คงต้องซื้อเซรั่มไฮยาลูรอน ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการเติมน้ำแก่ผิว มาใช้บำรุงผิวเพิ่มเติมรอบแรกก่อน จากนั้นค่อยมาจบด้วยครีมหรือเจล จะช่วยให้ผิวหน้าได้รับการเติมน้ำแบบ x 2 3 4 เลย ถ้ายังไงสนใจในเซรั่มไฮยาลูรอนละก็ ขอฝากบทความด้านล่างด้วยค่ะ



1. MizuMi Dry Rescue Intense Melt-In Cream

สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับภาวะผิวขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น จับไปตรงไหนแตะไปตรงไหนบริเวณผิวหน้าก็พบเจอแต่ความแห้งกร้าน แถมบางครั้งรุนแรงถึงขั้นลอกเป็นขุย และเกิดอาการระคายเคืองแพ้ง่าย เราขอแนะนำให้ลองมาทำความรู้จักกับที่สุดแห่งมอยเจอร์ไรเซอร์ที่จะช่วยเก็บล็อกและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนานกว่า 48 ชั่วโมงอย่าง MizuMi Dry Rescue Intense Melt-In Cream ที่มาในรูปแบบของเนื้อครีมบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว พร้อมบำรุงให้ผิวมีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำในแทบจะทันทีที่ใช้ด้วยค่ะ

อีกทั้งยังโดดเด่นด้วย AQUAXYL™ หรือ Natural Sugar Complex เข้มข้นถึง 3% ที่ถือเป็นส่วนผสมหลักที่จะช่วยล็อกความชุ่มชื้นในผิวได้อย่างยาวนาน 48 ชั่วโมง ทั้งยังทำงานร่วมกับ 3D Hyaluron ที่จะช่วยเสริมสร้างปราการป้องกันการสูญเสียน้ำของผิวร่วมด้วย ทำให้เมื่อใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ตัวนี้แล้ว ผิวของคุณก็จะแลดูอิ่มน้ำและสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น และเมื่อผิวมีความยืดหยุ่นมากพอแล้ว ริ้วรอยร่องลึกที่เคยมีก็จะค่อย ๆ จางลงตามไปด้วยเช่นกันค่ะ

นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่าง ๆ ที่เผชิญในแต่ละวันด้วยการผสานการทำงานของ Bio-P Exopolysaccharide อีกด้วย ซึ่งถ้าเช็คลิสต์แล้วพบว่า ผิวหน้ากำลังขาดน้ำขาดความชุ่มชื้นอยู่ละก็ ลองเปิดใจให้มอยเจอร์ไรเซอร์ MizuMi กันดูสิคะ และที่สำคัญยังเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ใช้ได้ด้วยค่ะ

เนื้อสัมผัสเนื้อครีมบางเบา ซึมเร็ว
จุดเด่นให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวยาวนานกว่า 48 ชั่วโมง / บรรเทาอาการแห้งระคายเคืองผิว / ใช้แล้วริ้วรอยแลดูจางลง / ปกป้องผิวจากมลภาวะ
ส่วนผสมสำคัญAQUAXYL™ / 3D Hyaluron / Bio-P Exopolysaccharide
ปราศจากน้ำหอม/แอลกอฮอล์/พาราเบน✓ / ✘ (ชนิดไม่ระคายเคืองผิว) / ✓
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ

2. La Roche-Posay CICAPLAST BAUME B5+

ใครที่แสบผิวง่าย หรือใช้เรตินอลแรง ๆ อยู่ แม้กระทั่งเพิ่งทำเลเซอร์มา ก็ยังมีคนแนะนำหน้าใช้เจ้าตัวนี้กันเลยทีเดียว ผิวเป็นแผล น้ำร้อนลวก แมลงกัดต่อย ก็ยังไหว ลดการระคายเคืองผิวได้ดีจริง ๆ เนื้อสัมผัส La Roche-Posay CICAPLAST BAUME B5+ ค่อนข้างแปลก เป็นเนื้อบาล์มเหนียว ๆ ทาแล้วอาจจะรู้สึกฝืด ๆ แถมยังเติมความโกลว์บนหน้าได้มากเป็นพิเศษ จนแอบรู้สึกว่าดูหน้ามันเป็นเมือกมากกว่า เหมาะกับทุกสภาพผิวรวมถึงเด็กเล็กด้วย ลูกน้อยใครมีผื่นผ้าอ้อม ก็แนะนำให้ลองทาตัวนี้ดูนะคะ

มาดูทางด้านส่วนผสม เค้ามี Tribioma ที่เป็นพรีไบโอติกซึ่งอุดมไปด้วยสารแห่งการบำรุง มี Vitamin B5 ถึง 5% ช่วยบำรุงผิวไปพร้อมกับสร้างเกราะป้องกันผิว และ Madecassoside ที่จะช่วยปลอบประโลมผิว ฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดี นอกจากนี้ยังไม่มี พาราเบน น้ำหอม อีกด้วยค่ะ

เนื้อสัมผัสเนื้อบาล์ม เข้มข้น
จุดเด่นศาสตร์ Microbiome บำรุงผิวด้วยพรีไบโอติก, ส่วนผสมไม่แสบผิว หัตถการ ผื่นผ้าอ้อม แมลงกัดต่อยก็ใช้ได้
ส่วนผสมสำคัญTribioma / 5% Vitamin B5 / Madecassoside
ปราศจากน้ำหอม/แอลกอฮอล์/พาราเบน✓ / ✓ / ✓
เหมาะสำหรับสำหรับผิวแห้งและผิวที่มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย

3. CERAVE Facial Moisturizing Lotion

ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้สกินแคร์สายเวชสำอางที่ดูแลเรื่องการเสริมสร้างปราการป้องกันผิวโดยเฉพาะ จะต้องรู้จักมอยเจอร์ไรเซอร์ยี่ห้อนี้อย่างแน่นอน เพราะเขาโดดเด่นมาด้วยส่วนผสมหลักอย่าง Ceramide ที่อัดแน่นมาถึง 3 ชนิด ได้แก่ Ceramide NP, Ceramide AP และ Ceramide EOP ซึ่งถือเป็นสารสำคัญที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมและป้องกันปราการผิว หากขาดไปเมื่อไหร่ จะทำให้ผิวของคุณแห้งกร้านและง่ายต่อระคายเคืองมากยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมกับ Niacinamide หรือวิตามิน B3 ที่จะช่วยปลอบประโลมผิวจากอาการระคายเคืองต่าง ๆ โดยเฉพาะความแห้งกร้านได้เป็นอย่างดีค่ะ

และที่สำคัญ CERAVE Facial Moisturizing Lotion ยังมีส่วนผสมของ Sodium Hyaluronate ที่มีคุณสมบัติช่วยเคลือบผิวชั้นบนเพื่อคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิว มอบผิวที่แลดูอิ่มน้ำสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนผสมแต่ละชนิดที่ใส่ลงมานั้น ก็ถูกอัดแน่นมาใน MVE Delivery Technology เทคโนโลยีที่จะช่วยให้ส่วนผสมแต่ละชนิดกระจายตัวได้อย่างช้า ๆ และต่อเนื่อง ทำให้สามารถบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกและยาวนานมากถึง 24 ชั่วโมง อีกทั้งเนื้อมอยเจอร์ไรเซอร์เอง ก็ค่อนข้างบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว และขอบอกเลยว่าอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวสุด ๆ เพราะปราศจากส่วนผสมของน้ำหอม, แอลกอฮอล์ และพาราเบนนั่นเองค่ะ (มีแบบ AM ให้เลือกซื้อด้วยนะ)

เนื้อสัมผัสเนื้อครีม ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ
จุดเด่นชดเชยความชุ่มชื้นให้ผิวยาวนาน 24 ชั่วโมง / ฟื้นบำรุงปราการผิวตามธรรมชาติ / ปกป้องผิวจากมลภาวะในชีวิตประจำวัน
ส่วนผสมสำคัญNiacinamide / Ceramide NP / Ceramide AP / Ceramide EOP / Sodium Hyaluronate
ปราศจากน้ำหอม/แอลกอฮอล์/พาราเบน✓ / ✘ (ชนิดไม่ระคายเคืองผิว) / ✓
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว


4. Physiogel Daily Moisture Therapy Cream

เสริมสร้างและฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ยาวนานกว่าที่เคยด้วย Physiogel Daily Moisture Therapy Cream มอยเจอร์ไรเซอร์สูตรอ่อนโยนที่แม้กระทั่งผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้อย่างไร้กังวล เพราะปราศจากสารเคมีอันตรายที่อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว พร้อมทั้งปลอบประโลมจากความแห้งกร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเนื้อครีมสีขาวบริสุทธิ์ที่อัดแน่นมาด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติอย่าง น้ำมันมะพร้าวและเชียบัตเตอร์ที่จะช่วยกันให้ผิวของคุณชุ่มชื้นอิ่มน้ำแบบขั้นสุด ขณะเดียวกันยังมีส่วนผสมของ Squalane หรือสารสกัดจากมะกอกช่วยให้ผิวนุ่มนิ่มน่าสัมผัส และยังมีหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยได้เช่นกันค่ะ

นอกจากนี้ ยังเสริมทัพการเสริมสร้างปราการป้องกันการสูญเสียน้ำของผิวจาก Ceramide 3 ทั้งยังสามารถช่วยปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะที่เราเผชิญในแต่ละวันก็ดี หรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ก็ดี ทำให้ผิวที่เคยแห้งกร้านแพ้ง่ายกลับมาสุขภาพดีและแข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกครั้ง และแม้ว่าหลายคนจะบอกว่าเนื้อครีมค่อนข้างหนาเมื่อทาในช่วงแรก และทิ้งความมันเล็กน้อย แต่ทางแบรนด์ก็เคลมไว้ชัดเจนเลยว่า ใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขนอย่างแน่นอนค่ะ แต่ถ้าใครกังวลเรื่องความมันมาก ๆ เราก็ขอแนะนำให้ใช้เป็นไนท์ครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในระหว่างนอนแทน รับรองว่าตื่นขึ้นมาผิวหน้าจะนุ่มชุ่มชื้นอิ่มน้ำสุด ๆ เลยล่ะค่ะ

เนื้อสัมผัสเนื้อครีมสีขาว ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีความหนา และทิ้งความมันเล็กน้อย
จุดเด่นช่วยฟื้นฟูและปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอก / เสริมเกราะกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวยาวนาน / ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขม
ส่วนผสมสำคัญCocos Nucifera Oil / Shea Butter / Squalane / Ceramide 3
ปราศจากน้ำหอม/แอลกอฮอล์/พาราเบน✓ / ✓ / ✓
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

5. Neutrogena Hydro Boost Water Gel

เพิ่มความชุ่มชื้น เติมความอิ่มน้ำให้ผิวอย่างยาวนานตลอดวันด้วย Neutrogena Hydro Boost Water Gel มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อเจลเกลี่ยง่าย ซึมเข้าสู่ผิวไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะผิว แถมมีกลิ่นหอมน่าใช้งาน และพร้อมที่จะบูสท์ผิวให้นุ่มเด้งอิ่มเอิบมากกว่าเดิมด้วยส่วนผสมลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์อย่าง Yeast Extract ที่อัดแน่นไปด้วย Prebiotic ตรงเข้าบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก และผสานการทำงานควบคู่ไปพร้อม ๆ กับ Trehalose หรือสารสกัดที่ได้จากยีสต์ช่วยปกป้องเซลล์ผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้นค่ะ

นอกจากนี้ ยังเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่อาศัย Sodium Hyaluronate เคลือบผิวชั้นบนเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ พร้อมช่วยมอบผิวที่อิ่มน้ำห่างไกลความแห้งกร้านและอาการระคายเคืองแพ้ง่ายอีกครั้ง ซึ่งสำหรับใครที่กังวลว่าใช้แล้วหน้าจะมัน หรืออุดตันรูขุมขนจนเกิดปัญหาสิวตามมา ก็ขอบอกเลยว่าหายห่วงได้เลย เพราะเขาปราศจากส่วนผสมของน้ำมัน และผ่านการทดสอบมาแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน แถมก่อให้เกิดอาการแพ้ต่อผิวที่ค่อนข้างต่ำด้วย ถึงแม้ว่าจะมีส่วนผสมของน้ำหอมที่ชาวผิวแพ้ง่ายต้องระวังกันก็ตาม ก็ถ้าผิวแพ้ง่ายอยากใช้ อาจจะลองใช้ที่ท้องแขน, หลังหู หรือตรงบริเวณคางก่อนนะคะ ถ้าไม่มีเกิดอาการแพ้ ก็ใช้งานได้ปกติค่ะ

เนื้อสัมผัสเนื้อเจลเกลี่ยง่าย มีกลิ่นหอม
จุดเด่นล็อกความชุ่มชื้นให้ผิวยาวนาน 48 ชม. / ทำให้ผิวแลดูนุ่มเด้ง เรียบเนียน สุขภาพดีมากยิ่งขึ้น
ส่วนผสมสำคัญTrehalose / Yeast Extract / Sodium Hyaluronate
ปราศจากน้ำหอม/แอลกอฮอล์/พาราเบน✘ / ✓ / ✓
เหมาะสำหรับผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม

6. INGU Green Tea Calming Cream

INGU Green Tea Calming Cream มีส่วนผสมหลักอย่าง ใบชาเขียวออร์แกนิค 3% ทำหน้าที่ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ Ceramide Liposomes 2% แคปซูลที่จะนำพาเซราไมด์ 3 ชนิดเข้าสู่ผิวหนัง เสริมเกราะป้องกันให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังมี Glyceryl Glucoside 2.0% ช่วยให้ผิวอุ้มน้ำ มีความชุ่มชื้น พร้อมด้วย AquaxylTM 1.5% ทำหน้าที่ช่วยสร้าง Hyaluron กับ NMF มีส่วนกระตุ้น Ceramides ให้เก็บน้ำไว้ในผิว

เรียกได้ว่าใส่มาให้จริง ใส่กี่ % ก็บอกอย่างชัดเจน จริงใจกับคนใช้มาก ๆ ต่างกับบางยี่ห้อใส่น้อยจนไม่เห็นผล หรือไม่ก็ใส่เยอะเกิน จนผิวหน้ารับไม่ไหวอีก เกิดผลข้างเคียงที่เราไม่ค่อยปรารถนา ความรู้สึกส่วนตัวจากการได้ลองใช้มาสักระยะ รู้สึกเลยว่า INGU ใช้นาน ๆ สิวไม่ค่อยขึ้น เมื่อเทียบกับ Cerave สุดฮิตที่เค้าว่ากันว่าดี๊ดี ส่วนใครที่มีผิวบอบบาง แห้งมากเป็นพิเศษ INGU เค้าก็มีสูตรใหม่เป็นเนื้อครีมแน่น ๆ กระปุกสีเขียวเข้มให้เลือกใช้อีกด้วยค่ะ

เนื้อสัมผัสเนื้อครีม บางเบา
จุดเด่นมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดผลเสียจากมลภาวะ, สร้างเกาะป้องกันผิวให้แข็งแรง, ลดจุดด่างดำ, เติมความชุ่มชื้น
ส่วนผสมสำคัญForest Green Tea 3.0% / Ceramide Liposomes 2.0% / Niacinamide 3.0%
ปราศจากน้ำหอม/แอลกอฮอล์/พาราเบน✓ / ✓ / ✓
เหมาะสำหรับสำหรับผิวผสมและผิวมัน


7. Hada Labo Hydrating Perfect Gel 

มอยเจอร์ไรเซอร์กระปุกทองระดับตำนานที่ไม่ว่าจะสาวผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ หรือสาวสภาพผิวไหน ๆ ก็ต้องเคยคุ้นหูคุ้นตาอย่างแน่นอนกับ Hada Labo Hydrating Perfect Gel ที่ผสานพลัง Hyaluronic Acid 3 ชนิด ที่จะช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก ประกอบไปด้วย Hydrolyzed Hyaluronic Acid โมเลกุลจิ๋วเติมความชุ่มชื้นได้ลึกถึงใต้ชั้นผิว และ Sodium Hyaluronate ดูดซับความชุ่มชื้นพร้อมป้องกันการระเหยน้ำในผิว รวมถึง Sodium Acetylated Hyaluronate เสริมทัพฟิล์มเคลือบผิวให้แน่นหนา เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นยาวนาน และมอบสัมผัสที่นุ่มเนียนน่าสัมผัสกันค่ะ

นอกจากนี้ยังได้ Glucosyl Ceramide ช่วยรักษาระดับความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างเหมาะสม พร้อมฟื้นฟูผิวที่แห้งเสียให้สุขภาพดีมากยิ่งขึ้น และที่พิเศษกว่าใคร ก็ได้ส่วนผสมของคอลลาเจน มาช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นตึงกระชับให้แก่ผิว มอบผิวที่ปราศจากริ้วรอยแห่งวัย และทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มาพร้อมคุณสมบัติการปกป้องผิวจากความแห้งกร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีคุณค่าการบำรุงเทียบเท่ากับการใช้เอสเซนส์หรือสลีปปิ้งมาสก์ทั่วไปเลยทีเดียว ที่สำคัญมีเสียงรีวิวบอกว่าใช้บำรุงผิวก่อนลงเมคอัพก็ช่วยให้เมคอัพติดทนนาน ไม่เป็นคราบระหว่างวันอีกด้วย น่าสนใจขนาดนี้ คงต้องซื้อมาใช้สักกระปุกกันค่ะ

เนื้อสัมผัสเนื้อเจลซึมซาบรวดเร็ว
จุดเด่นช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มและกระชับมากขึ้น / เติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นได้ล้ำลึก
ส่วนผสมสำคัญSqualane / Glucosyl Ceramide / Hydrolyzed Collagen / Hydrolyzed Hyaluronic Acid / Sodium Acetylated Hyaluronate / Sodium Hyaluronate
ปราศจากน้ำหอม/แอลกอฮอล์/พาราเบน✓ / ✓ / ✘
เหมาะสำหรับผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม

8. FACELABS Oil Free Moisturizer For Dry Skin

มอยเจอร์ไรเซอร์สิวสูตรออยล์ฟรี มั่นใจได้เลยว่าใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดความมันเยิ้ม และอุดตันรูขุมขนจนปัญหาสิวตามมาอย่างแน่นอน ซึ่ง FACELABS Oil Free Moisturizer For Dry Skin ก็อุดมไปด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์สกัดจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น Shea Butter ช่วยเติมเต็มและล็อกเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้อย่างยาวนาน Imperata Cylindrica Root Extract หรือสารสกัดจากรากต้นหญ้า ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวแล้ว ยังมีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ให้ผิวแลดูกระชับเต่งตึงและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เป็นต้น

รวมถึงเสริมทัพเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ล้ำลึกและยาวนานด้วยส่วนผสมของ Sodium Hyaluronate ที่สามารถช่วยล็อกเก็บความชุ่มชื้น ไม่ให้ผิวเกิดการสูญเสียน้ำร่วมด้วย ขณะเดียวกันมอยเจอร์ไรเซอร์สิวหลอดนี้ ยังมีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมผิวจากอาการระคายเคืองเนื่องจากมลภาวะและความแห้งกร้านด้วย Allantoin หรือสารสกัดจากต้นคอมฟรีย์ และสิ่งที่ทำให้มอยเจอร์ไรเซอร์สิวสูตรออยล์ฟรีหลอดนี้เป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คนก็เพราะว่า ปราศจากสารอันตรายนานาชนิด ใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองแต่อย่างใด แถมทำให้ผิวแข็งแรงมากกว่าเดิมนั่นเองค่ะ

เนื้อสัมผัสเนื้อครีมขาวเข้มข้น ทว่าเกลี่ยง่าย
จุดเด่นเติมเต็มน้ำให้ผิวที่เคยแห้งกร้าน / คืนความนุ่มเด้งและยืดหยุ่นแก่ผิว / ปลอบประโลมผิวจากความแห้งระคายเคือง
ส่วนผสมสำคัญSodium Hyaluronate / Shea Butter / Imperata Cylindrica Root Extract / Allantoin
ปราศจากน้ำหอม/แอลกอฮอล์/พาราเบน✓ / ✓ / ✓
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้ง ขาดน้ำ เป็นสิว

9. Cetaphil Daily Facial Moisturizer SPF15/PA++

สำหรับใครที่กำลังมองหามอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับใช้ระหว่างวันที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่ทำให้ผิวหน้ามันเยิ้ม หรือก่อให้เกิดการอุดตันจนเป็นปัญหาสิวอยู่นั้น เราขอแนะนำ Cetaphil Daily Facial Moisturizer SPF15/PA++ มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อสัมผัสบางเบา และซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ที่จะช่วยให้คุณพร้อมลงเมคอัพหรือบำรุงผิวขั้นตอนถัดไปได้ในทันที มาพร้อม 2 คุณสมบัติในขวดเดียว คือ กักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างยาวนานห่างไกลจากปัญหาผิวแห้งกร้าน และมีคุณสมบัติช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อีกด้วยค่ะ

โดยส่วนผสมออกฤทธิ์หลัก ๆ เลยก็คือ การผสานการทำงานระหว่าง Avobenzone เข้มข้น 3% และ Octocrylene เข้มข้น 10% เสริมทัพประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV ได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะ UVA I, UVA II หรือ UVB ก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของวิตามิน E หรือ Tocopheryl Acetate ทำหน้าที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ ที่มาจากมลภาวะและแสงแดดตัวการที่ทำให้ผิวของเราแห้งกร้านอีกด้วย ซึ่งใครที่สนใจ มอยเจอร์ไรเซอร์ขวดนี้ เขาก็สามารถนำมาใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายเลยนะคะ ซื้อขวดเดียว ใช้ได้ทุกส่วนเลยค่ะ

เนื้อสัมผัสเนื้อครีมสีขาวเบาบาง ไม่เหนียวเหนอะหนะ
จุดเด่นกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวยาวนาน / ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB / ไม่อุดตันรูขุมขน
ส่วนผสมสำคัญAvobenzone 3% / Octocrylene 10% / Tocopheryl Acetate
ปราศจากน้ำหอม/แอลกอฮอล์/พาราเบน✓ / ✘ / ✓
เหมาะสำหรับผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม

10. SKINTIFIC 5X Ceramide Barrier Moisturizer Gel

SKINTIFIC 5X Ceramide Barrier Moisturizer Gel เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ขายดี เหมาะกับทุกสภาพผิว เนื้อบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว เพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี มีเซราไมด์ถึง 5 ชนิดช่วยบำรุงผิวและสร้างเกราะป้องกันผิว พร้อมด้วยส่วนผสมสุดฮิตอย่างกรดไฮยาลูโรนิกที่เติมความชุ่มชื้นได้ดี มีใบบัวบก Centella Asiatica ช่วยปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง ลดการระคายเคือง เพิ่มเติมด้วยคอลลาเจนที่ได้จากทะเล ช่วยรักษาความยืดหยุ่น บำรุงผิวให้แข็งแรงดูสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ

นอกจากนี้ใครที่กำลังตั้งครรภ์ รวมถึงอยู่ในช่วงให้นมบุตรก็สามารถใช้ได้ ทาง SKINTIFIC การันตีว่าปลอดภัยอย่างแน่นอน ส่วนตัวได้ทดลองใช้แล้วมีอาการแสบหน้า (ถ้าใครทาแล้วแสบ แนะนำให้รีบล้างหน้าก่อน) คนที่หน้าบางจากการใช้เพียวเรตินอลเข้มข้นสูง หรือกรดวิตามินเอ แนะนำให้ลองใช้ La Roche-Posay CICAPLAST BAUME B5+ แทนจะดีกว่า ส่วนคนที่ใช้เรตินอลอ่อน ๆ หรือพวกเรตินอลที่ผ่านการ encapsulated อาจจะไม่แสบผิวนะคะ

เนื้อสัมผัสเนื้อเจลบางเบา ซึมซาบเร็ว
จุดเด่นสร้างเกราะป้องกันผิว ลดอาการระคายเคือง พร้อมบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นรักษาความยืดหยุ่น
ส่วนผสมสำคัญมี Ceramide 5 ชนิด / กรดไฮยาลูโรนิก / ใบบัวบก / คอลลาเจนทะเล
ปราศจากน้ำหอม/แอลกอฮอล์/พาราเบน✓ / ✓ / ✓
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

เป็นยังไงกันบ้างคะ? ได้เห็นไปแล้วกับ Moisturizer ยี่ห้อไหนดี กันถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน สาว ๆ หนุ่ม ๆ สนใจอยากจะซื้อตัวไหน ยี่ห้อไหน ไปใช้งานบำรุงผิวกันที่บ้านบ้าง??? บอกเลย ทั้ง 10 ยี่ห้อเนี่ย เราคัดมาให้แล้วเน้น ๆ ใช้แล้วช่วยบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ไม่ดูแห้งกร้านกันอย่างแน่นอน แต่ ๆๆๆ เวลาจะซื้อก็ขอให้ดูกันดี ๆ นิดหนึ่ง โดยเฉพาะสาว ๆ หนุ่ม ๆ ผิวแพ้ง่าย ถ้าขืนเลือกซื้อยี่ห้อที่คิดว่าดี แต่ใช้แล้วทำให้ผิวแห้งเสีย คือจบเลยนะคะ กลายเป็นของเสียเปล่าเลย ส่วนผิวหน้าแบบอื่น ๆ ก็เลือกซื้อยี่ห้อที่เหมาะสมกับผิวด้วยนะ ยังไงก็ขอใหได้ยี่ห้อที่ถูกใจ ใช้แล้วผิวดีขึ้นแบบปัง ๆๆๆ กันเลยค่ะ

ใครมีปัญหาผิวมันแนะนำ Moisturizer สำหรับผิวมัน ยี่ห้อไหนดี ไปอ่านเพิ่มกันนะค่ะ



Leave a Comment