คนรักหนังชอบดูละครดูซีรียส์ยุคนี้ ต้องรู้จัก Netflix TrueID AISPlay VIU WeTV iQIYI Disney+ และอีกมากมายนับไม่ถ้วนแน่นอน ซึ่งการบริการแอปสตรีมมิ่งหนังเหล่านี้ ก็จำเป็นต้องมี Smart TV เพื่อใช้งานด้วย แต่ทว่าทีวีที่เราใช้ บางทีก็อาจจะเป็นรุ่นเก่าที่ยังไม่ใช่สมาร์ท หรือซอฟต์แวร์ในเครื่องเก่าเกิน ไม่รองรับการลงแอปใหม่ ๆ ที่เริ่มมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วละก็ การซื้อกล่องทีวีรุ่นใหม่ ๆ มาใช้งานน่าจะประหยัดกว่าการซื้อทีวีใหม่แน่ ๆ แล้วเราจะซื้อกล่องทีวี Android ยี่ห้อไหนดี ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกล่องทีวี Android และกล่อง Apple TV กันด้วยครับ
สารบัญ
วิธีการเลือกซื้อกล่องแอนดรอยด์ / Apple TV
CPU / RAM เนื่องจากเจ้ากล่องทีวี Android ค่อนข้างมีหลากหลายสเปค ตั้งแต่ถูก ๆ ไปจนแพง ความแตกต่างทางด้านสเปคจึงส่งผลต่อการใช้งานด้วย การเลือกกล่อง Android TV ที่มีราคาถูกเกินไป อาจจะมีการกั๊กสเปค CPU / RAM เหล่านี้ได้ เวลาซื้อต้องระวังกันด้วย แต่ถ้าชอบ Apple TV ละก็น่าจะไม่ต้องระวังเรื่องนี้ เพราะเค้าจัดเต็มจนล้นแน่ ๆ แล้วก็ระวัง Apple TV รุ่นย่อยไม่ว่าจะเป็น 4K หรือ HD และต้องสังเกตเป็นรุ่นของปีไหน ราคาและสเปคจะไม่เท่ากันครับ
Widevine DRM L1 ใครที่อยากดู Netflix แบบชัด ๆ ตั้งแต่ HD ไปจนถึง 4K อาจจะต้องสังเกตเจ้า Widevine Digital Right Management ตัวนี้ ทำหน้าที่ป้องกันการโจรกรรมไฟล์หนัง โดยจะมีระดับตั้งแต่ L3 ไปถึง L1 ซึ่ง L1 จะถือว่าปลอดภัยสูงสุด ถ้ากล่องไม่รองรับ L1 แล้วละก็ อาจจะต้องดูที่ความละเอียดระดับ 480p – 540p แทน ส่วนใครที่ไม่ซีเรียสเรื่องความละเอียด ก็สามารถผ่านข้อนี้ไปได้เลยครับ
Update Firmware ถ้าเป็นยี่ห้อดังอย่าง Xiaomi Mi Box S หรือ Apple TV แล้วล่ะก็ มักจะ Update โปรแกรม Firmware ได้แน่นอน แต่ความเห็นส่วนตัว Firmware ใหม่ ๆ บางทีก็อาจจะไม่ได้ดีกว่าตัวเก่าเสมอไปนะ เคยเจอฝรั่งบ่นเรื่อง Firmware ใหม่ก็มี ใช้แล้วไม่ถูกใจ แนะนำว่าให้ใช้งานจนพบปัญหาก่อน แล้วค่อยลองอัพเดตน่าจะดีกว่าครับ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “Android Box กล่องแอนดรอย” ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาอ่าน อยากดูกล่องแอนดรอยด์ และ Apple TV แบบสั้น ๆ วางเรียงเปรียบเทียบ ราคา, ความละเอียดของสัญญาณภาพ, โปรแกรมระบบปฏิบัติการ, การเชื่อมต่อ, พอร์ตเสียบสาย และอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลย หรือถ้าอยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็เลื่อนผ่านปุ่มสีแดง ไปดูรีวิวสินค้าต่อเลยครับ
1. GMM Z STREAM 5 กล่องแอนดรอยด์
ราคาโดยประมาณ 1,690 บาท
ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหากล่องแอนดรอยด์สักกล่องไปใช้กับทีวีคู่ใจ ที่สามารถเปลี่ยนทีวีแบบธรรมดาให้พิเศษมากขึ้น ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ ผมขอแนะนำเจ้าตัวนี้เลยครับ กับกล่องแอนดรอยด์ GMM Z STREAM 5 โดยกล่องแอนดรอยด์รุ่น GMM Z STREAM 5 นี้ถือว่าเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของทางค่ายนี้ จัดเต็มไปด้วยฟังก์ชั่นและของเล่นต่าง ๆ มากมาย และด้วยความที่อัพเกรด CPU ให้เป็นแบบ Quad-core ที่ถือว่ามาแรงในยุคนี้ พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่จะทำให้ทีวีของเพื่อน ๆ ลื่นไหลได้อย่างไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง หรือเข้าแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ พร้อมกับภาพคมชัดระดับ ULTRA HD 4K ที่จะทำให้เพื่อน ๆ ฟินไปกับการดูหนังผ่านทางระบบ streaming ได้มากขึ้น
เรื่องการเชื่อมต่อกับทีวีก็ง่ายเพียงแค่ใช้สาย HDMI ในการเชื่อมต่อ อีกทั้งการเชื่อมต่อกับไวไฟก็ทำได้อย่างเสถียร สามารถรองรับไวไฟได้สองสัญญาณ คือ wifi 2.4G และ 5G (Dual Band) นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบสายแลน ที่จะช่วยให้อินเตอร์เน็ตที่ต่อกับกล่องแอนดรอยด์ของเรานั้น เร็วขึ้นไปอีก ไม่อารมณ์เสียเวลาดูหนังแล้วจอค้างอีกต่อไป อีกทั้งยังมีช่องเสียบต่าง ๆ มากมาย เช่น USB 2 ช่อง ช่องเสียบ TF card 1 ช่อง ทำให้ใช้งานได้หลากหลาย ตัวรีโมทที่ให้มากับกล่องนั้นก็ใช้งานสะดวก ปุ่มต่าง ๆ ถูกออกแบบมาให้กดง่าย ส่วนหน้าตาแอปฯ ในทีวีนั้นก็ทำออกมาได้อย่างดี มีแอปฯ ต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย แอปฯ ยอดฮิตอย่างยูทูป เน็ตฟลิก วิว ก็มีให้เลือก มือใหม่ก็สามารถใช้ได้ ถือว่าเป็นกล่องแอนดรอยด์ที่ครบครันไปด้วยคุณภาพ ราคาเข้าถึงได้ มีไว้ติดบ้าน ติดทีวี ดูกันได้ทั้งวันเลยครับ
การรองรับสัญญาณภาพ | ULTRA HD (4K) |
หน่วยความจำ | RAM DDR3 2GB |
หน่วยปฏิบัติการ | Android TV11 |
ระบบ Bluetooth | ✘ |
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต | WIFI 2.4G + 5G (Dual Band) |
ช่องเสียบ USB | USB 3.0 1 PORT x USB 2.0 1 PORT |
เมนูภาษาไทย | ✓ |
การแสดงภาพหน้าจอมือถือผ่านทีวี | ✓ |
2. True ID TV GEN2 กล่องทรูไอดีทีวี กล่องเปล่า
ราคาโดยประมาณ 2,240 บาท
คอฟุตบอลต้องไม่พลาด ด้วยลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเพียงเจ้าเดียวของตลาด เพียงแค่มีกล่องนี้ก็สามารถนอนดูฟุตบอลที่บ้านได้อย่างเพลิดเพลินใจ กับกล่องทรูไอดีทีวี TrueID TV Gen2 ที่รอบนี้มาใน Gen2 ที่มีการอัพเกรดสเปคต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น หลังจากเสียงตอบรับใน Gen1 นั้น ออกมาค่อนข้างดี โดยได้มีการอัพเกรดกล่องแอนดรอยด์ เป็นเวอร์ชั่น Android 10.0 ที่จะช่วยให้การทำงานนั้นลื่นขึ้น ไวมากขึ้น และเป็นกล่องแรกที่ได้ certificate จากทาง Google สามารถสั่งการด้วยเสียงได้ รองรับความคมชัดสูงสุดระดับ 4K โดยการเชื่อมต่อผ่านสาย HDMI นอกจากนี้กล่องทรูไอดีทีวี TrueID TV Gen2 นี้ยังสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านระบบไวไฟได้ถึง 2 ระบบ และถ้ารู้สึกว่าอินเตอร์เน็ตยังแรงไม่พอก็สามารถเลือกเชื่อมต่อผ่านสายแลนได้อีกด้วย
ตัวเครื่อง gen2 นี้ทำออกมาคล้าย gen1 คือมีขนาดเล็กกระทัดรัด วางไว้ตรงไหนของทีวีก็ไม่รู้สึกติดขัด และตัวรีโมทที่วางคู่กัน ออกแบบมาได้ดูดีมาก ๆ วางไว้หัวเตียงข้างเตียงก็ไม่ทำให้ห้องของเราดูดรอป นอกจากนี้ยังมีปุ่มที่เข้าเน็ตฟลิกโดยเฉพาะ เพียงแค่กดปุ่มที่รีโมท ทีวีของเราก็นะเข้าแอปฯ เน็ตฟลิกโดยทันที นอกจากนี้ยังมีแอปฯ Chromecast ที่สามารถส่งสัญญาณจากโทรศัพท์ของเราเข้าไปที่กล่อง ฉายภาพจากโทรศัพท์ขึ้นจอทีวีได้อีกด้วย เรียกได้ว่าสะดวกสบายมากครับ ไม่ต้องต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มให้ยุ่งยากเลย และที่ถูกใจสาวกทรูอย่างผมอีกอย่างคือ ถ้าเราเป็นสมาชิกทรูอยู่แล้วด้วยนั้น สามารถโทรไปขอรับกล่องให้เค้ามาส่งฟรีถึงบ้านได้เลย พร้อมกับโปรโมชั่นแอปฯ สตรีมมิ่งต่าง ๆ อีกมากมาย เหมาะกับคนตัวเลือกงบน้อยอย่างเรา ๆ มากเลยครับ
การรองรับสัญญาณภาพ | 4K, 1080p/I, 720p |
หน่วยความจำ | RAM 2GB |
หน่วยปฏิบัติการ | Android TV 10 |
ระบบ Bluetooth | ✓ |
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต | WIFI 2.4G + 5G, Lan Cable |
ช่องเสียบ USB | USB 3.0 1 PORT x USB 2.0 1 PORT |
เมนูภาษาไทย | ✓ |
การแสดงภาพหน้าจอมือถือผ่านทีวี | ✓ |
3. Xiaomi Mi BOX S 4K Global Version
ราคาโดยประมาณ 1,999 บาท
มาต่อกันที่แบรนด์สามัญประจำบ้าน ที่ไม่ว่าจะออกสินค้าไหนมาก็ได้ทั้งคุณภาพและภาพลักษณ์ กับกล่องแอนดรอยด์ Xiaomi Mi BOX S 4K Global Version ที่รอบนี้มาในกล่องขนาดสีเหลี่ยมขนาดเล็ก สีดำ ไม่กินพื้นที่ขนาดของชั้นวางทีวี แถมยังเข้าได้กับชั้นวางทีวีทุกรูปแบบ มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android TV 8.1 สามารถอัพเดตระบบปฏิบัติการได้อีกด้วย ด้วยประสิทธิภาพที่เร็วสุด ๆ ช่วยเปิดแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถโหลดแอปพลิเคชั่นได้มากมาย เช่น ยูทูป เน็กฟลิก สปอตติฟาย และอื่น ๆ ให้เพื่อน ๆ เลือกใช้งานได้อย่างจุใจ นอกจากนี้ยังสามารถฉายภาพแบบ 4K ได้อีกด้วย ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมหนังหรือวิดิโอต่าง ๆ ของเพื่อนให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีระบบ Google Assistant ที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ เพียงกดปุ่มไมค์บนรีโมทเพื่อเริ่มต้นใช้งานคำสั่งเสียง ก็จะสามารถสั่งคำสั่งเสียงเพื่อใช้งานได้ อีกทั้งยังสามารถ Cast ส่งสัญญาณจากหน้าจอสมาร์ทโฟนเข้าไปที่ทีวีได้โดยตรง จะดูหนังหรือพรีเซ้นท์งาน ก็สามารถส่งสัญญาณจากมือถือของเรา เข้าไปยังทีวีผ่านกล่อง Xiaomi Mi BOX S ได้ และด้วยระบบเสียงระดับพรีเมี่ยม Dolby และ DTS ที่จะให้เสียงเซอร์ราวด์แบบสามมิติที่ดังกว่าและชัดกว่าที่เคยสัมผัสมา แถมยังสามารถเชื่อมต่อชุดลำโพงด้วยแจ็คไมค์ 3.5mm ได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นกล่องที่ถูกใจใครหลาย ๆ คนเลย ไม่ค่อยเจอปัญหาเรื่องเอ๋อเหมือนบางรุ่นด้วย ด้านยอดขายก็การันตีความดีงามของรุ่นนี้แล้วครับ
การรองรับสัญญาณภาพ | 4K |
หน่วยความจำ | RAM 2GB |
หน่วยปฏิบัติการ | Androind TV 8.1 (อัพเดตได้) |
ระบบ Bluetooth | ✓ |
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต | WIFI 2.4G + 5G |
ช่องเสียบ USB | USB 2.0 1 PORT |
เมนูภาษาไทย | ✓ |
การแสดงภาพหน้าจอมือถือผ่านทีวี | ✓ |
4. Android Box X96max
ราคาโดยประมาณ 1,450 บาท
เรียกได้ว่าเป็นกล่องแอนดรอยด์แบบ all in one สเปคสูง จัดจ้านกันเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะแอปพลิเคชั่นหรือสื่อสตีมมิ่งเจ้าไหน เจ้ากล่อง Android Box X96max ก็หามาได้หมดไม่ว่าจะเป็นที่ดูหนังประจำบ้านอย่าง netflix, ที่ดูวิดิโอออนไลน์อย่าง youtube, หรือแอปฯ ดูหนังที่ค่อนข้างหายากอย่าง Disney+ Horstar หรือแม้แต่ TrueID ที่ไว้ใช้สำหรับดูบอลก็มี เรียกว่าครบเครื่องจริง ๆ ครับ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Ultra 4K ที่ให้ทั้งความคมชัดและสีสันที่สวยงาม เพียงต่อเข้าทีวีด้วยสาย HDMI ก็สามารถเข้าถึงความบรรเทิงได้อย่างไม่รู้จบเลยครับ
นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมอินเตอร์เน็ตได้ทั้งแบบไวไฟและสายแลน อีกทั้งยังรองรับการส่งสัญญาณภาพจากมือถือขึ้นจอทีวี ผ่าน Air Play, Miracast อีกด้วย และยังมีช่องไว้สำหรับเสียบ USB ถึง 2 ช่อง ช่องเสียบการ์ดอีก 1 ช่อง ถือว่านอกจากแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ให้มาแล้ว ฟังก์ชั่นด้านอื่น ๆ ยังครบครันอีกด้วยครับ แต่ข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจจะอยู่ที่รีโมทครับ เพราะตัวรีโมทนั้นไม่มีปุ่มลัดไว้สำหรับเข้าแอปพลิเคชั่นหลัก ๆ อย่าง เน็ตฟลิกหรือยูทูป เลยทำให้ไม่ถูกใจสาวกบางท่าน แต่ก็ถือว่าใช้งานได้ดีครับ ก็ถือว่าเป็นกล่องแอนดรอยด์อีกตัวที่น่าสนใจ ด้วยขนาดของ RAM ที่มีมากกว่า พร้อมพอร์ต USB3.0 ครับ
การรองรับสัญญาณภาพ | 4K |
หน่วยความจำ | Ram 4 GB |
หน่วยปฏิบัติการ | OS Android 9.0 |
ระบบ Bluetooth | ✓ |
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต | Wifi 2.4G, Lan 100 |
ช่องเสียบ USB | USB 3.0 1 PORT x USB 2.0 1 PORT |
เมนูภาษาไทย | ✓ |
การแสดงภาพหน้าจอมือถือผ่านทีวี | ✘ |
5. GMM Z X-TREAM กล่องแอนดรอย
ราคาโดยประมาณ 1,899 บาท
อีกหนึ่งกล่องแอนดรอย์จากค่าย GMM Grammy ที่พร้อมจะมาให้ความบันเทิงเต็มรูปแบบ มาพร้อมกับฟังก์ชั่นต่าง ๆ มากมาย โดยตัวกล่อง GMM Z X-TREAM มาในรูปแบบกล่องสี่เหลี่ยมสีดำ โดยกล่อง GMM Z X-TREAM นี้นั้นถือว่าเป็นกล่องแอนดรอยด์แบบไฮบริดเจ้าแรกของไทย เพราะนอกจากจะสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทีวีได้แล้วละก็ ยังสามารถเชื่อมต่อกับจานดาวเทียมได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีของเจ้าตัวนี้เลยก็ว่าได้ ในบ้านที่อาจจะมีทั้งปู่ย่าตายายหรือคนแก่ ที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตไม่ค่อนถนัด ก็สามารถตั้งค่าให้เป็นดูแบบจานดาวเดียวแบบเมื่อก่อนได้ สามารถใช้ได้ทั้งจานดาวเทียวแบบ C-Band หรือ Ku-Band ก็ได้ครับ
ด้านแอปพลิเคชั่นก็ถือว่าทำได้ดี ให้แอปฯ หลักต่าง ๆ มาอย่างครบครัน และที่ถูกใจผมมาก ๆ อย่างนึงเลยคือ สามารถเสิร์ชภาษาไทยบนแอปฯ ยูทูปได้ ซึ่งบางครั้งกล่องแอนดรอยด์บางเจ้าพิมพ์ไทยไม่ได้ อาจจะทำให้เสียอารมณ์เวลาค้นหาได้ แต่กับเจ้า GMM Z X-TREAM นี้นั้นสามารถเสิร์ชเป็นภาษาไทยได้เลย นอกจากนี้ยังรองรับระบบภาพแบบ 4K ซึ่งช่วยให้ภาพคมชัดมาก ๆ และยังสามารถเสียบ USB เพื่อดูหนังผ่านกล่องได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกกล่องที่ทำงานได้อย่างเต็มระบบตัวนึงเลยก็ว่าได้ ด้วยขนาดที่กำลังพอเหมาะ สีดำด้านวางกับทีวีก็สวยงาม เหมาะไว้กับการมีติดบ้านไว้ดูทีวีมาก ๆ เลยครับ
การรองรับสัญญาณภาพ | ULTRA HD 4K + จานดาวเทียม C / Ku Band |
หน่วยความจำ | RAM DDR3 2GB |
หน่วยปฏิบัติการ | Android 7.1.2 |
ระบบ Bluetooth | ✘ |
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต | WIFI 2.4G + 5G (Dual Band) |
ช่องเสียบ USB | USB 3.0 1 PORT x USB 2.0 1 PORT |
เมนูภาษาไทย | ✓ |
การแสดงภาพหน้าจอมือถือผ่านทีวี | ✘ |
6. One Android Box
ราคาโดยประมาณ 1,100 บาท
One Android Box กล่องแอนดรอยด์ทรงกระบอกรูปแบบแปลกตา คล้ายกับตัว cpu ของเครื่องคอวพิวเตอร์ มีระบบปฏิบัติการ Android 9.0 ช่วยในการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมมาพร้อม RAM อีก 4GB ยิ่งทำให้การทำประมวลผลรวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังให้ภาพและเสียงในระดับความละเอียดถึง UltraHD 4K ทำให้การดูหนังหรือสตรีมมิ่งต่าง ๆ ของเพื่อน ๆ ฟินยิ่งขึ้นไปอีก การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก็ทำได้ง่าย เพียงแค่ต่ออินเตอร์เน็ตผ่านไวไฟหรือสายแลน ก็สามารถใช้งานได้ทันที
ตัวกล่องรองรับทั้ง USB, Bluetooth, HDMI หรือแม้กระทั่งสาย AV สามสีแบบกล่องสมัยก่อน ทำให้เพื่อน ๆ สามารถเลือกรับส่งสัญญาณได้อย่างหลากหลาย เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งในตัวกล่องยังมีแอปพลิเคชั่นให้เลือกใช้งานมากมาย แอปฯ ยอดฮิตอย่าง youtube, netflix ก็มีมาให้ครบ นอกจากนี้ยังรองรับหลายภาษาช่วยให้การใช้งานง่ายยิ่งขึ้น และที่ถูกใจอย่างมากคือกล่องนี้สามารถคอนโทรลได้ด้วยเมาส์อีกด้วย ซึ่งช่วยให้เราค้นหาหรือขยับหน้าจอไปมาได้อย่างสะดวก
การรองรับสัญญาณภาพ | UltraHD 4K |
หน่วยความจำ | RAM 4GB |
หน่วยปฏิบัติการ | Android 9.0 |
ระบบ Bluetooth | ✓ |
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต | WIFI 2.4G + 5G (Dual Band) |
ช่องเสียบ USB | USB 3.0 1 PORT x USB 2.0 1 PORT |
เมนูภาษาไทย | ✓ |
การแสดงภาพหน้าจอมือถือผ่านทีวี | ✘ |
7. MECOOL KM2
ราคาโดยประมาณ 1,899 บาท
และถ้าใครเป็นคอหนัง ชอบการรับชมภาพยนต์เป็นชีวิตจิตใจ กล่องแอนดรอย์ที่จะตอบโจทย์ได้ก็ต้องมีแอปฯ สตรีมมิ่งภาพยนต์ให้เลือกหลากหลายชนิด วันนี้ผมเลยอยากมานำแนะให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับกล้องแอนดรอย์ MECOOL KM2 ที่ไม่ได้มีแค่แอปฯ สตรีมมิ่งประจำบ้านอย่าง netflix ยังมีแอปฯ disneyplus สตรีมมิ่งเจ้าใหม่ที่ยกพลขนทัพจาก Marvel มาตีตลาดคอหนังบ้านเราด้วย ซึ่งจะเจ้า disneyplus เองก็ยังไม่มีแอปฯ บนสมาร์ททีวีหลายยี่ห้อ การหากล่อง Android TV มาเพื่อดูเจ้า disneyplus ก็ดูจะเป็นทางออกที่ดีครับ
ตัวกล่อง Mecool KM2 ใช้ระแบบของ Google และ Android 10.0 มี Google Assistant และ Chromecast Built-in สามารถต่อกับเข้า Google home ช่วยในการใช้งานคำสั่งระบบเสียง นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้ฉายภาพจากหน้าจอสมาร์ทโฟนเข้าไปยังทีวีได้อีกด้วย ตัวอุปกรณ์รองรับภาพขนาด 4K HDR, HDR10 และ Dolby Audio ซึ่งจะช่วยให้การทำงานของสีและไดนามิคของภาพคมชัดสมจริงยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าถ้าต่อเข้ากับทีวีจอยักษ์ ลำโพงสเตอริโอดี ๆ สักเครื่อง นอนดูหนังกันฟินเลยครับ
การรองรับสัญญาณภาพ | 4K HDR |
หน่วยความจำ | RAM DDR3 2GB |
หน่วยปฏิบัติการ | Android TV 10 |
ระบบ Bluetooth | ✓ |
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต | WIFI 2.4G + 5G (Dual Band) |
ช่องเสียบ USB | USB 3.0 1 PORT |
เมนูภาษาไทย | ✓ |
การแสดงภาพหน้าจอมือถือผ่านทีวี | ✓ |
8. TX6 เวอร์ชั่น 9 Android box
ราคาโดยประมาณ 1,100 บาท
กล่องแอนดรอยด์ที่ถือว่ามาแรง ณ ขณะนี้ กล่องทรงขนาดจิ๋วแต่แจ๋วมาพร้อมแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ให้เล่นมากมาย และด้วยหน่วยประมวล All Winner H6 ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 ช่วยให้ระบบการทำงานของตัวเครื่องนั้นมีประสิทธิภาพ รวดเร็วทันใจ สลับเปลี่ยนแอปฯ ไปมาได้ทันที ไม่มีดีเลย์ ลงแอปดูหนังได้หลายแอปฯ สบาย ๆ อีกทั้งยังรองรับการเล่นวิดีโอระดับ 4K (หรือที่เรียกกันอีกแบบว่า UltraHD) ใครที่มีทีวีรองรับภาพระดับ 4K และแอปฯสตรีมมิ่งที่ใช้งานอยู่ สามารถเลือกชมแบบ 4K ได้แล้ว ก็สามารถรับรายการได้แบบฟิน ๆ ภาพคมชัดยิ่งขึ้นไปอีกครับ
การใช้งานกล่องแอนดรอยด์ TX6 นั้นก็ง่าย เพียงแค่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านไวไฟก็จะสามารถใช้งานได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าเมนูแป้นพิมพ์เป็นภาษาไทยได้ ซึ่งกล่องแอนดรอย์บางกล่อง อาจจะไม่รองรับแป้นพิมพ์ภาษาไทย แม้จะมีเมนูภาษาไทย นอกจากนี้ข้อดีอีกอย่างนึงก็คือสามารถเล่นไฟล์ภาพยนต์ได้ทุกประเภทรวมทั้ง AVI, MKV, Fullrip ซึ่งบางครั้งหากเราต้องการดูหนังผ่าน USB กล่องบางเครื่องจะไม่สามารถอ่านไฟล์ได้ หรืออาจจะต้องหาแอปฯ อื่นๆมาเปิดดูแทน ก็ถือว่าเป็นกล่องที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากเลยครับ
การรองรับสัญญาณภาพ | 4K UltraHD |
หน่วยความจำ | RAM 4GB |
หน่วยปฏิบัติการ | Android 9 |
ระบบ Bluetooth | ✘ |
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต | WIFI 2.4G + 5G (Dual Band) |
ช่องเสียบ USB | USB 3.0 1 PORT x USB 2.0 1 PORT |
เมนูภาษาไทย | ✓ |
การแสดงภาพหน้าจอมือถือผ่านทีวี | ✘ |
9. Apple TV 4K 2021 iStudio
ราคาโดยประมาณ 6,700 บาท
ขึ้นชื่อว่า Apple แล้ว ก็ให้ความรู้สึกแล้วว่าต้องมีดีแน่ ๆ เพราะไม่ว่าจะออกสินค้าชนิดไหนมา จับอะไรก็ถือว่าปังไปหมด และก็รวมถึงกล่องทีวี Apple TV 4K 2021 นี้ด้วย (เวลาซื้อระวังสับสนกับ Apple TV HD เป็นอีกรุ่นที่หน้าตาเหมือนกัน ราคาถูกกว่า สเปคลดลง) โดยเจ้าตัว Apple TV 4K 2021 ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นการเปิดประสบการณ์การรับชมทีวีไปอีกขั้น เพราะประสิทธิภาพเค้าจัดเต็มทั้งเรื่องภาพ เสียง และยังรวมถึงเกมส์อีกด้วย โดยระบบเสียงที่เลือกใช้เป็นแบบ Dolby Atmos ที่จะให้เสียงที่เต็มอิ่ม สมจริง และยิ่งถ้าจับคู่กับลำโพงดี ๆ สักตัวละก็รับรองฟินกันทั้งวันเลยครับ ส่วนด้านระบบภาพก็เป็นแบบ 4K HDR ที่มีอัตราเฟรมเรทสูง ดูลื่นไหลในแบบฉบับของผลิตภัณฑ์จากทาง Apple อีกทั้งยังรองรับ Dolby Vision ที่ให้สีสันสดใส จะดูหนังเล่นเกมส์ก็เติมเต็มประสบการณ์ใช้งานได้ดีเลย
ที่สำคัญทาง Apple เค้ายังเลือกใช้ชิปประมวลผลแบบเดียวกับที่อยู่ในไอโฟนของ Apple อีกด้วย โดยเป็นการใช้ชิป A12 Bionic ที่ประมวลผลได้รวดเร็วมาก ๆ จะเปิดแอปดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมส์ก็ไม่มีสะดุดแน่นอน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ AirPlay เพื่อแชร์รูปภาพ วิดีโอ หน้าจอและอื่น ๆ ลงบนทีวีจาก iPhone, iPad และ Mac อีกด้วย และที่เหนือกว่ากล่องอื่น ๆ คือ นอกจากแอปฯ ยอดฮิตทั่วไปอย่าง Youtube, Netflix แล้ว จะมีการเพิ่มรายการและภาพยนตร์ของ Apple Original จาก Apple TV+3 เข้ามาด้วย ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์เจ้าเดียวในตลาดของ Apple
ก็ขอยกให้เป็นกล่องดูหนังเล่นเกมส์ที่มีสเปคเหนือกว่ากล่องแอนดรอยด์รุ่นอื่น ๆ ในตลาดเลยครับ ซึ่งแน่นอนทางด้านราคาก็เช่นกัน ใครที่เป็นสาวกจากฝั่งแอปเปิ้ล มีอุปกรณ์ของทาง Apple เยอะแล้ว ก็แนะนำให้เจ้าตัวนี้ในการดูทีวีแทนกล่องรุ่นอื่น ๆ จะได้เชื่อมต่อกันได้สะดวก บางทีความคุ้มค่าก็ไม่ได้มาในรูปแบบของราคา แต่เป็นความสะดวกในการใช้งาน จัดไปไว้กับทีวีคู่ใจ รับรองถูกใจแน่นอนครับ
การรองรับสัญญาณภาพ | 4K HDR |
หน่วยความจำ | A12 Bionic |
หน่วยปฏิบัติการ | tvOS |
ระบบ Bluetooth | ✓ |
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต | WIFI 2.4G + 5G (Dual Band) |
ช่องเสียบ USB | ✘ |
เมนูภาษาไทย | ✓ |
การแสดงภาพหน้าจอมือถือผ่านทีวี | ✓ |
10. T95 TV Box Android 10.0
ราคาโดยประมาณ 849 บาท
มาถึงกล่องแอนดรอย์ตัวม้ามืดกันครับ เห็นสเปคและฟังก์ชั่นครั้งแรกถึงกับต้องร้องว้าว และด้วยแบรนด์ที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักกันมาก ทำให้หลายคนอาจจะมองข้ามเจ้ากล่องแอนดรอยด์ตัวนี้ แต่ขอบอกเลยครับว่าเป็นอีกตัวที่คุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน เพราะต้องบอกเลยว่ากล่องแอนดรอยด์ตัวนี้มีขนาดความเร็วและความแรงถึงใจ เพิ่มเติมด้วย RAM ขนาด 4 GB และมีหน่วยประมวลผลระดับ Quad Core มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 10 อีกทั้งยังใช้ Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 รวมถึงระดับคุณภาพวิดิโอที่ให้มาถึง 6K UHD ให้มาขนาดนี้ยังนึกไม่ออกเลย ว่าสตรีมมิ่งค่ายไหนจะมีความละเอียด 6K สงสัยคงต้องเอาไว้ดูหนังที่ไปหาโหลดมาเองครับ
ทางด้านแอปพลิเคชั่น ก็สามารถโหลดเพิ่มเติมได้มากมายไม่ว่าจะเป็น YouTube, Netflix, Disney + Hotstar หรือแอปฯ ดูฟุตบอลอย่าง TrueID ก็ไม่มีปัญหา (ต้องสมัครสมาชิกเพื่อดูด้วยนะ) นอกจากนี้การใช้งานก็ง่ายเพียงแค่ต่ออินเตอร์เน็ตก็สามารถใช้งานได้ทันที อีกทั้งยังตั้งค่าเมนูเป็นภาษาไทย ใช้งานง่าย ไม่ต้องคอยงมภาษาอังกฤษกันอีกด้วย และยังสามารถใช้งานร่วมกับเม้าส์, คียบอร์ดหรือแม้กระทั่งรีโมทที่สั่งงานด้วยเสียงได้ จบครบในที่เดียวเลยครับ ก็นับว่าเป็นกล่องแอนดรอยด์ที่น่าสนใจอีกตัวนึงในราคาเท่านี้ ถ้าเพื่อน ๆ สนใจกล่องดี ๆ ในราคาเข้าถึงได้ก็เป็นอีกตัวที่แนะนำเลยครับ
การรองรับสัญญาณภาพ | 6K HD |
หน่วยความจำ | Ram DDR: 4GB |
หน่วยปฏิบัติการ | Android 10 |
ระบบ Bluetooth | ✘ |
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต | WIFI 2.4G + 5G (Dual Band) |
ช่องเสียบ USB | USB 3.0 1 PORT x USB 2.0 1 PORT |
เมนูภาษาไทย | ✓ |
การแสดงภาพหน้าจอมือถือผ่านทีวี | ✘ |
อ่านกันมาถึงตรงนี้คงจะได้คำตอบสำหรับกล่องทีวี Android ยี่ห้อไหนดี กันแล้วแน่เลย ส่วนตัวก็เชียร์เจ้า Xiaomi Mi Box S จากการใช้งานของหลายคน ให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่าใช้งานได้ดีเลย ในขณะที่เจ้า Mi Stick กลับเจอคนบ่นเยอะกว่า ส่วน True ID TV นี่คนชมก็เยอะเหมือนกัน (รู้สึกว่าจะผลิตโดย Skyworth ที่ทำ TV คุณภาพดีเลย) ยิ่งถ้าใช้เน็ททรูอยู่แล้ว ก็พ่วงข้างขอฟรีมาได้เลยจ้า แต่ระวังเรื่องโปรนิดหนึ่ง เคยเจอว่าบังคับใช้เน็ทต่ออีก 1-2 ปี แลกกับการได้กล่องฟรีจ้า ใครที่มีแพลนอาจจะต้องย้ายบ้านย้ายคอนโดก็อาจจะต้องคิดก่อน ส่วนใครงบเยอะ อยู่ในอาณาจักร Ecosystem ของ Apple ก็จัด Apple TV แทนได้เลย ไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะสเปคนั้นอลังการดาวล้านดวง สุดท้ายนี้ก็ขอให้เลือกได้อุปกรณ์ที่ถูกใจใช้งานทนทานกันนะครับ
นักเขียนอิสระ ที่มีประสบการณ์ในแวดวง IT Gadget มือถือ มากกว่า 5 ปี มีความรู้ความเข้าใจในรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้า IoT เป็นอย่างดี เลือกจัดอันดับสินค้าอย่างตั้งใจ ซื้อตามกันไม่มีผิดหวังแน่นอน