แนะนำ มือถือราคาไม่เกิน 5000 รุ่นไหนดี

แนะนำ มือถือราคาไม่เกิน 5000 ซื้อรุ่นไหนดี 2023

ยุคนี้ต้องบอกว่ามือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท มีหลายรุ่นที่สเปคน่าสนใจเอามาก ๆ ด้วยพลังของหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ที่มีความเร็วสูงขึ้น การพัฒนาในส่วนของกล้อง ที่หลาย ๆ รุ่นก็จัดกล้องหลังมาให้ถึง 3 ตัวหรือ 4 ตัวเลยก็มี นอกจากนี้ตัวเครื่องเอง ก็ออกแบบได้ดูดี มีราคา ดูแพงเอามาก ๆ อีกด้วย จอรุ่นใหม่สีสวยมากขึ้นแถมยังให้ภาพที่เนียนตา ดูสมูทมากขึ้นอีก ด้วยการแข่งขันที่เข้มข้นทำให้เราได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ สเปคสูงขึ้น แต่ราคาถูกลง แล้วจะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้างนั้น ตามมาหากันในบทความนี้เลยครับ เราคัดเลือกมาให้คุณเลือก พร้อมวิธีเลือกกันแล้วครับ



วิธีเลือกซื้อ มือถือราคาไม่เกิน 5000

อะไรบ้างที่เราต้องดูก่อนซื้อ มือถือราคาไม่เกิน 5000 และ มือถือราคาไม่เกิน 10000

อันดับแรกที่เราควรจะดูก็คือ CPU และ GPU มือถือราคาไม่เกิน 5000 บางรุ่นก็ให้มาเกินราคา ใครที่เป็นสายเล่นเกม หรือชอบความเร็วสูง ต้องเลือกสเปคดี ๆ แนะนำให้ดูคะแนนทดสอบความเร็วจากแอป Antutu ที่อยู่ช่องสุดท้ายในตารางสินค้า จะดูง่ายกว่าไม่ต้องไปปวดหัวกับชื่อหรือรุ่นหน่วยประมวล พอเราได้เห็นคะแนนแล้วจะได้เทียบถูกว่าตัวไหนเร็วกว่าหรือใกล้เคียงกัน บางทีการเก็บเงินเพิ่มอีกสักนิดก็จะได้เครื่องที่เร็วกว่าพอสมควร ลองเปรียบเทียบความเร็วกับราคาดี ๆ นะครับ

อันดับที่ 2 เลือกรุ่นที่มี RAM 3 GB ขึ้นไป เพราะแอปในปัจจุบันกิน RAM มากขึ้น ซึ่ง RAM ก็คือที่เก็บข้อมูลชั่วคราว ถ้า RAM น้อย เครื่องก็จะต้องไปดึงข้อมูลจาก Storage ที่ทำงานได้ช้ากว่า แทนที่จะดึงจาก RAM เลย เปรียบโต๊ะเป็น RAM ตู้หนังสือเป็น Storage คนนั่งทำงานบนโต๊ะเล็ก ๆ ต้องคอยไปหยิบหนังสือจากตู้หนังสือที่เป็น Storage ทีละเล่ม แต่ถ้าเรามีโต๊ะที่ใหญ่มาก ๆ เราก็จะหยิบหนังสือมาได้ครั้งละหลาย ๆ เล่ม ไปวางบนโต๊ะ ทำให้ไม่ต้องเดินไปหยิบที่ตู้หนังสือซึ่งช้ากว่า หลายคนเข้าใจผิดคิดว่ามี RAM มาก จะทำให้เครื่องจะเร็วขึ้น ถ้าอยากให้เครื่องเร็วขึ้นต้องเลือก CPU และ GPU แรง ๆ แต่ถ้าขาด RAM ก็จะมีผลทำให้เครื่องทำงานช้า เป็นอีกจุดที่ควรดูก่อนซื้อมือถือราคาไม่เกิน 5000

อันดับที่ 3 เลือกหน่วยความจำแบบ Storage สำหรับลงแอปให้เพียงพอ โชคดีที่เดี๋ยวนี้เค้าให้มา 64 GB กันแล้วปัญหาเรื่องพื้นที่ไม่พอเลยลดลง ใครที่คิดจะเก็บใส่ SD Card ต้องบอกก่อนว่าส่วนใหญ่ก็จะเก็บได้แต่รูปภาพ วิดีโอ และไฟล์อื่นๆ แต่พวกแอปทั้งหลายย้ายลงไม่ได้นะ แล้วก็แนะนำให้ดูรุ่นที่ใช้ หน่วยความจำ Storage แบบ UFS 2.1 ขึ้นไป เพราะช่วยให้เครื่องอ่านเขียนไฟล์ข้อมูลได้เร็วมากยิ่งขึ้น ระยะเวลาในการโหลดน้อยลง 2-3 เท่าเลยทีเดียว

ส่วนที่เหลือ ก็จะเป็นเรื่องความละเอียดของกล้องจะได้ถ่ายรูปสวย ๆ มีกล้อง Ultrawide ไว้ถ่ายภาพมุมกว้าง กล้อง Macro ไว้ถ่ายระยะใกล้อย่างเหรียญหรือเกสรดอกไม้ บางรุ่นยังรองรับเครือข่ายแบบใหม่อย่าง 5G ได้ด้วย แบตเตอรี่ใหญ่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น รองรับ Micro SD และ ใส่ 2 ซิมได้พร้อมกัน แบบ 3 Slot ถ้าเป็น Hybrid Slot จะต้องเลือกระหว่างซิมที่ 2 หรือ Micro SD (ใส่พร้อมกันไม่ได้เหมือน 3 Slot) รองรับ Wi-Fi 5 หรือที่เรียกว่า Wi-Fi AC ก็จะดีกว่า เพราะมีคลื่น 2.4GHz และ 5 GHz (เร็วขึ้น แต่ไม่ไกล เมื่อเทียบกับ 2.4 GHz) ให้เชื่อมต่อตามความต้องการ ซึ่ง Wi-Fi Router รุ่นใหม่ ๆ ตามบ้านใช้มาตรฐาน Wi-Fi 5 กันหมดแล้ว



1. Infinix Hot 10S มือถือราคาไม่เกิน 5000 สเปคดี

Infinix Hot 10S เป็นมือถือราคาไม่เกิน 5000 บาทที่น่าสนใจมาก ๆ ด้วยสโลแกน “ตัวจริงเรื่องเกม” ที่มาในราคาสุดคุ้มจนต้องอ้าปากค้าง ตั้งแต่ หน่วยประมวลผล Helio G85 สิ่งสำคัญที่ช่วยการเล่นเกมไหลลื่นได้ดี การันตีความเร็วด้วยคะแนนทดสอบความจาก Antutu ระดับ 240,000 คะแนน ส่วนจอเป็นแบบ IPS ขนาด 6.82 นิ้วใหญ่เต็มตา จับเต็มมือ แถมจอเองยังมีค่า Refresh Rate ที่ 90 Hz ภาพดูเนียนลื่นสุด ๆ และที่เกมเมอร์หลายคนให้ความสนใจคือ Touch Sampling Rate ระดับ 180 Hz ช่วยตอบสนองการควบคุมได้รวดเร็วลดการดีเลย์ ส่วนตัวแบตเตอรี่ก็ใหญ่ถึง 6000 mAh เล่นเกมกันได้ยาว ๆ ออกแบบเอาใจคอเกมเกินหน้าเกินตายี่ห้ออื่นขนาดนี้

ในด้านการถ่ายภาพก็ไม่น้อยหน้า ให้กล้องหลังความละเอียด 48 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว ส่วนกล้องอื่นทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์ วัดระยะ และ AI เพื่อช่วยให้การทำงานของกล้องหลักนั้นฉลาดมากยิ่งขึ้น พร้อมโหมด Super Night เพื่อการถ่ายภาพกลางคืนที่เหนือชั้น ดูโปรกว่าที่เคย พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ช่วยให้การเซลฟี่ดูคมชัดยิ่งขึ้น ส่วนระบบปฏิบัติการเป็น Android 11 ที่มีการครอบทับด้วย XOS 7.6 ปรับแต่งหน้าและลูกเล่นสไตล์ Infinix แล้วยังรองรับการแสกนด้วยใบหน้า ไปพร้อมกับการแสกนด้วยลายนิ้วทางด้านหลังของตัวเครื่อง

ในด้านซอฟท์แวร์สำหรับการเล่นเกมนั้น ตัวเครื่องมีระบบ Game Zone และ Dir-Link Engine ที่จะทำหน้าที่ปิดการแจ้งเตือน รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลขณะที่เรากำลังเล่นเกม แถมยังสามารถบันทึกวิดีโอในขณะที่เรากำลังเล่นเกมได้อีกด้วย ด้วยสเปคทั้งหมดของมือถือรุ่นนี้ และราคาก็ประหยัดเอามาก ๆ ทำให้กลายเป็นมือถือราคาประหยัดที่เราแนะนำสำหรับการเล่นเกมเอามาก ๆ เลย เวลาซื้อใน Online ดูชื่อรุ่นดี ๆ นะครับ เพราะมีรุ่น HOT10 ที่สเปคเก่ากว่าด้วย


2. Redmi Note 10 5G มือถือราคาไม่เกิน 5000

มือถือ Redmi Note 10 5G ถึงแม้ราคาจะสูงกว่ารุ่นอื่น ๆ แต่ทว่าสเปคก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวด้วยเหมือนกัน แถมยังรองรับคลื่น 5G ที่เราจะเริ่มสามารถใช้งานกันได้แล้วโดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้า หรือจุดที่มีคนพลุกพล่านมาก ๆ กลางใจเมือง ฝาหลังแบบพลาสติก ตัวกล้องดีไซน์นูนพอสมควร ต้องใช้เคสดี ๆ หนา ๆ หน่อย จะช่วยลดปัญหาหล่น แล้วกระจกกล้องแตกได้ เห็นคนในกลุ่ม Mi กล้องแตกเยอะเหมือนกัน หน้าจอเป็นแบบ IPS ขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว ใช้งานสบายตาทุกวัย มีความละเอียดแบบ Full HD+ และ Contrast Ratio จะอยู่ที่ 1500 : 1 ให้ภาพที่สีสันสดใสและมีคมชัดเอามาก ๆ มาพร้อมกับเทคโนโลยี AdaptiveSync Display ที่มักจะเห็นในรุ่นแพง ๆ ช่วยให้ภาพดูสมูทแบบสุด ๆ ด้วยการปรับอัตราการรีเฟรชเรทให้สูงสุดถึง 90Hz หรือจะปรับให้ต่ำกว่าเพื่อประหยัดพลังงานก็ทำได้ แต่ถ้าใครได้ใช้ 90Hz แล้ว เราเชื่อเลยว่าไม่ปรับลดแน่นอน ภาพไหลลื่นดูนวลตามากจริง ๆ ขอคอนเฟิร์ม

รุ่นนี้มีถาดใส่ซิมเป็นแบบ Hybrid Slot คือมี 2 ช่อง ช่องแรกไว้ใส่ซิม ช่องสองไว้ใส่ซิม 2 หรือจะเลือกใส่ MicroSD Card ใครที่อยากใส่ซิม 2 อันและ MicoSD การ์ดพร้อมกันด้วยจะทำไม่ได้นะ ต้องไปซื้อรุ่นที่เป็น 3 ช่อง Dedicated Slot แทน หน่วยประมวลผล Dimensity 700 เป็นแบบ 8 แกน ความเร็ว 2.2 GHz มาพร้อม RAM ขนาด 4 GB และ หน่วยความจำ Storage ขนาด 128 GB แบบ UFS2.2 ที่มีความเร็วในการอ่าน-เขียนมากกว่ารุ่นอื่น ๆ 2-3 เท่า ช่วยให้เวลาเปิดแอปพลิเคชั่นรวดเร็วขึ้นมากจริง ๆ ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย MIUI 12 มีฟีเจอร์การใช้งานครบครัน ทั้งโคลนแอป ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่น ๆ อีกเพียบ แบตเตอรี่ก็ใส่มาถึง 5000 mAh เพียงพอต่อการใช้ ถ้าใครใช้ไม่พอ ตัวเครื่องยังมาพร้อมหัวชาร์จ 18 W เอามาชาร์จแป๊บเดียวขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์เลย

ส่วนเรื่องการถ่ายภาพก็จัดมาให้ไม่น้อยหน้าใคร ๆ ด้วยกล้องความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ที่ขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่ถึง 1/2 นิ้ว ยี่ห้ออื่นอาจจะใส่ 48 ล้านมาให้เหมือนกันแต่เซ็นเซอร์ไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้ เลยเป็นจุดที่ทำให้ 48 ล้านตัวนี้ดีกว่าอีกหลาย ๆ ยี่ห้อ เสริมกล้อง Macro 2 ล้านพิกเซลสำหรับถ่ายระยะใกล้ และกล้อง Depth 2 ล้านพิกเซลไว้ทำหน้าที่วัดระยะสำหรับการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียดที่ 8 ล้านพิกเซล โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นมือถือที่ตอบโจทย์การใช้งานทุกด้านเลย รองรับ 5G หน่วยประมวลผลก็เร็ว ดูคะแนน Antutu ก็ถือว่าดีเลย แต่ถ้าเน้นเล่นเกมลองดู Redmi Note 9T 5G ที่ใช้ชิปหน่วยประมวล Dimensity 800 จะเร็วกว่าอีกหน่อยในราคาเท่ากัน หรือจะเพิ่มงบอีกนิดไปเล่น POCO X3 Pro ที่ใช้ชิป Snapdragon 860 ก็จะแรงกว่าแบบเอาเรื่องเลย ส่วนเรื่องกล้องก็ถือว่าทำได้ดีมากโดยเฉพาะกล้องหลัง ในช่วงราคานี้คงไม่มีใครเทียบอีกแล้ว


3. Oppo A74 5G มือถือราคาไม่เกิน 5000

ด้วยราคาเพิ่มเติมจากตัวด้านบน แต่ถ้าใครอยากได้มือถือ 5G ที่กล้องหน้าดีงามเอามาก ๆ พร้อมทั้งศูนย์บริการคุณภาพ ระดับเดียวกับแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Apple หรือ Samsung ก็ขอแนะนำรุ่นนี้เลยครับกับ Oppo A74 5G ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย ColorOS 11.1 ของทาง Oppo เอง ใช้หน่วยประมวลผลจาก Snapdragon 480 ที่แรงเอาเรื่องอยู่ เล่นเกมได้สบาย ๆ มีแรมขนาด 6 GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 128 GB แบบ UFS 2.1 ที่เร็วกว่าหน่วยความจำแบบทั่วไป 2-3 เท่า ตัวหน้าจอแบบ LCD ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว สามารถแสดงผลด้วยอัตรารีเฟรชสูงถึง 90 Hz ให้ภาพดูสมูทเอามาก ๆ มีกล้องหน้า 16 ล้าน เซลฟี่ได้คมชัดสวยงาม มาพร้อม Ai Beautification 2.0 ที่จะทำให้ภาพสวยขึ้นไปอีกขั้น ช่วยปรับให้หน้าดูเนียนใส แต่ยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่

ทางด้านกล้องหลัง มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มาพร้อมกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพมุมกว้างถึง 119 องศา รวมถึงยังมีกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซลสำหรับถ่ายระยะใกล้ และกล้องตัวที่ 4 สำหรับวัดระยะตื้น-ลึก ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์ สามารถปลดล็อคหน้าจอได้ด้วยลายนิ้วมือ โดยการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มเปิดเครื่องด้านข้าง ทางด้านแบตเตอรี่ก็ใหญ่ถึง 5000 mAh ใช้งานได้ยาวนาน แถมยังมีหัวชาร์จเร็ว 18 W อีกด้วย โดยรวม ๆ ถึงราคาจะสูงกว่าอีกหลายยี่ห้อในบทความนี้ แต่ด้วยความน่าเชื่อถือ ศูนย์บริการ รวมถึงสินค้าไม่ค่อยมีปัญหา ก็ทำให้ใครหลายคนยอมจ่ายเงินเพิ่มอีกนิดเพื่อความสบายใจระดับเดียวกับแบรนด์ดังครับ



4. Samsung Galaxy A02s มือถือราคาไม่เกิน 5000

มือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท ที่สุดแห่งความคุ้มค่าพร้อมความมาตรฐานที่มั่นใจได้จาก Samsung Galaxy A02s เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงจากรุ่น Galaxy A01 ไม่ว่าจะดีไซน์ที่สวยงาม ขอบเครื่องโค้งมนพอดีมือ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว มีความละเอียดระดับ HD+ ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 10 มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาและลูกเล่นในแบบฉบับของ Samsung ด้วย One UI ที่ง่ายต่อการใช้งาน และหลายคนก็พูดว่าซอฟต์แวร์เร็วขึ้นกว่ารุ่นเก่า ๆ ที่ยังไม่เป็น One UI มีด้วยโหมดกลางคืน (Night Mode) ช่วยให้สบายตามากยิ่งขึ้น ลดแสงสีฟ้าที่อันตราย มาพร้อมชิปเซ็ตหน่วยประมวลผลจาก Qualcomm Snapdragon 450 แบบ Octa-Core หรือ 8 แกนประมวลผล ที่ความเร็ว 1.8 GHz

มี RAM ขนาด 4 GB ความจุ Storage ภายในเครื่อง 64 GB แถมยังเพิ่มใส่การ์ด Micro SD สูงสุดถึง 1 TB เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน แต่ถ้าใครมีแอปพลิเคชั่นเยอะมากอาจจะลองรุ่นที่มีความจุมากกว่านี้แทน ส่วนแบตเตอรี่ก็มีความจุถึง 5,000 mAh ใช้งานได้ยาว ๆ และรองรับชาร์จเร็ว 15W อีกด้วย ตัวกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องหลังก็ใส่มาถึง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, เลนส์มาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ไว้ถ่ายระยะใกล้ และกล้องที่ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์วัดระยะความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เพื่อช่วยในการถ่ายภาพหน้าชัด หลังเบลอ ทำให้รุ่นนี้มีความน่าสนใจทั้งความเร็ว ราคา และการบริการหลังการขายเลยทีเดียว


5. Vivo Y20 มือถือราคาไม่เกิน 5000 กล้องดี

มือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท ที่ได้มาตรฐานทั้งบริการและคุณภาพอย่าง Vivo Y20 ที่รังสรรค์ออกมาอย่างสวยงามน่าใช้ ด้วยกระจกตัวเครื่องโค้งแบบ 2.5D ทำดูหรูหรา สวยงาม มีให้เลือก 2 สีได้แก่ สีขาว Dawn White ที่ได้ไอเดียจากแสงในตอนเช้า และ สีน้ำเงิน Nebula Blue ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูเนบิวลาในห้วงจักรวาล มาพร้อมหน้าจอแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว ใหญ่สบายตา ใครที่สายตาเริ่มมีปัญหาถือว่าตอบโจทย์ได้ดี มีความละเอียดระดับ HD+ ด้วยเทคโนโลยี In-cell ทำให้จอแสดงผลคมชัด เห็นรายละเอียดชัดเจน และมีสีสันสวยงาม แล้วยังช่วยลดแสงสีฟ้า เพื่อถนอมดวงตาเรา ตัวเครื่องจะมีสแกนลายนิ้วมืออยู่ตรงด้านข้าง สามารถปลดล็อกได้ภายใน 0.22 วินาที รวดเร็วเอามาก ๆ แถมยังมีเทคโนโลยี Face Wake สามารถสแกนใบหน้าเพื่อทำการปลดล็อคโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย

ส่วนหน่วยประมวลผลก็ใช้ Snapdragon 460 ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการเป็น Android 10 ครอบหน้าตาด้วย Funtouch OS 10.5 ของทาง Vivo มาพร้อม RAM ขนาด 4 GB ความจุ Storage ภายในเครื่อง 64 GB เพียงพอต่อแอปพลิเคชั่นในปัจจุบัน แล้วยังเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 256 GB ในขณะที่แบตเตอรี่ก็ให้มาถึง 5,000 mAh เพียงพอต่อการใช้งานยาว ๆ เอาใจคนชอบเล่นเกมด้วยเทคโนโลยี Multi-Turbo ที่มีส่วนช่วยลดอาการ lag หรือกระตุก ในขณะเล่นเกม มาพร้อม Ultra Game Mode ช่วยให้การสั่นตอบสนองสมจริงยิ่งขึ้น

ตัวกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เพิ่มพลังความสวยให้เว่อร์วังด้วย AI Face Beauty ปรับหน้าเราให้ดูเป็นนายแบบนางแบบกันได้เลย ส่วนกล้องหลังให้มาไม่น้อยหน้ามี 3 ตัวด้วยกันคือ กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับการถ่ายแบบมาโคร สามารถถ่ายได้ที่ระยะ 4 cm. และเซ็นเซอร์วัดระยะความละเอียด 2 ล้านพิกเซลไว้ช่วยถ่ายโบเก้ หน้าชัด หลังเบลอ แล้วก็ยังมีฟีเจอร์อื่นที่ช่วยในการถ่ายภาพ แถมยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกอีกมากมาย จัดเต็มทุกฟังก์ชั่นแบบราคาเบา ๆ


6. Xiaomi Poco M3 มือถือราคาไม่เกิน 5000

Xiaomi POCO M3 เป็นมือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาท ที่ขายดีมาก ๆ ถึงแม้จะออกวางจำหน่ายมาสักระยะแล้ว แต่ทว่าด้วยความคุ้มค่าของสเปคที่ให้มาแบบไม่กั๊กนั้น ก็ทำให้เราต้องหยิบมานำเสนอกัน ด้วยการออกแบบที่สวยทันสมัย ดีไซน์ฝาหลังได้โดดเด่นสะดุด มีหน้าจอแบบ IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ไซส์นิยมของทั้งเด็กและแก่ แถมสีสันก็สวยงาม มีความคมชัดระดับ Full HD+ โดยมีพื้นที่หน้าจอเทียบกับตัวเครื่องใหญ่ถึง 90.34% แล้วก็ยังผ่านมาตรฐานที่รับรองโดย TÜV Rheinland ช่วยถนอมดวงตา ด้วยการลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย มาพร้อมโหมด Sunlight ทำหน้าที่เพิ่มแสงพิเศษเมื่อใช้งานกลางแจ้ง แล้วก็ยังมี Reading Mode ที่จะช่วยเพิ่มความสบายตาในการอ่านควบคู่กับการถนอมสายตา อีกทั้งมีเซ็นเซอร์ปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มด้านข้าง หรือจะปลดล็อคด้วยการแสกนใบหน้าก็รองรับด้วยเช่นกัน

ในส่วนของกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มาพร้อมโหมด AI Beautify ที่จะความเสริมสวย เติมความหล่อกันแบบสุด ๆ สามารถสั่งกดชัตเตอร์ด้วยการแสดงฝ่ามือ (Palm Shutter) มาดูกล้องหลังที่จัดเต็มจัดหนัก จัดให้เกินราคารุ่นอื่น ๆ แบบไม่มีจกตากับกล้องหลักที่มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล แถมลูกสมุนอย่างเลนส์มาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องที่เป็นเซ็นเซอร์วัดระยะเวลาถ่ายโบเก้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ฮอตฮิตที่ก่อนหน้านี้ให้มาแต่ในรุ่นแพง ๆ อย่าง Night Mode เตรียมขากล้องหรือทำมือนิ่ง ๆ รับรองว่าการถ่ายภาพกลางคืนของคุณจะดีงามเทียบเท่าถือกล้องตัวโต ๆ เลย(ต้องมีฝีมือการถ่ายภาพช่วยด้วยนะ) มาพร้อม AI Scene Detection ที่จะช่วยปรับแต่งภาพอัตโนมัติ รวมถึงยังสามารถบันทึกวิดีโอ Slow Motion ที่ 120 fps

ตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลจาก Snapdragon 662 ที่เร็วกว่า พร้อมด้วย RAM ขนาด 4 GB และพื้นที่เก็บข้อมูล Storage ขนาด 64 GB และ 128 GB แถมยังเพิ่ม MicroSD ได้มากถึง 512 GB อีกด้วย ซอฟต์แวร์ภายในเครื่องเป็น Android 10 ที่พัฒนาลูกเล่นและหน้าตาโดย Xiaomi หรือที่เรียกว่าครอบทับด้วย MIUI 12 เพิ่มเติมด้วยลำโพงสเตอริโอ เพิ่มอรรถรสในการดูหนัง เล่นเกมส์แบบจุก ๆ ด้วยแบตเตอรี่ความจุ 6,000 mAh สามารถเล่นได้ยาวนาน แล้วยังรองรับการชาร์จเร็ว 18W สรุปได้ว่า Xiaomi Poco M3 สเปคดีมาก โหดจัดหลายด้านจริง ๆ ในราคาช่วงราคา 4000


7. Realme C12 มือถือราคาไม่เกิน 5000

มือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท Realme C12 มีคอนเซ็ปท์ในการดีไซน์ที่เรียกเท่ ๆ ว่า Geometric Gradient Design เป็นลายกราฟิกไล่ระดับสีด้านหลัง มีหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาดใหญ่โตถึง 6.5 นิ้ว พร้อมความคมชัดระดับ HD+ ที่มีความสว่างสูงสุด 420 nits กล้องหน้าเป็นสไตล์ Mini Drop Fullscreen เสียดายที่รุ่นนี้ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek Helio G35 octa-core ความเร็ว 2.3 GHz ที่ค่อนข้างช้าไปเมื่อเทียบกับรุ่นบน ๆ หน่วยประมวลผลมาพร้อมเทคโนโลยี HyperEngine ที่ช่วยให้เล่นเกมได้ดีขึ้น มี RAM ขนาด 3 GB และพื้นที่ Storage สำหรับเก็บข้อมูลภายในเครื่อง 32 GB แล้วยังเพิ่มได้ด้วยการ์ด MicroSD สูงสุด 256 GB ซอฟท์แวร์เป็นระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ผ่านการปรับแต่งหน้าตาที่มีชื่อว่า Realme UI 1.0

ในส่วนของกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องเซ็นเซอร์ขาวดำความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และมีกล้องมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่ระยะในการถ่ายใกล้สุด 4 เซนติเมตร แถมฟีเจอร์ Super Nightscape ไว้ถ่ายภาพกลางคืนหรือที่แสงน้อย และฟีเจอร์ Chroma Boost เพิ่มสีสันให้ดูสดใสยิ่งขึ้น มีแบตเตอรี่ 6,000 mAh ใช้งานได้ยาวนานทีเดียว รวม ๆ แล้วสเปคนี้ค่อนข้างไม่น่าสนใจ ตั้งแต่หน่วยประมวลผลไปจนถึงกล้องหน้ากล้องหลัง ถ้าไม่ติดใจเรื่องศูนย์บริการที่ให้บริการดี ก็แนะนำเพิ่มเงินอีกนิดไปดูรุ่นอื่นก็ได้ครับ


8. Nokia 3.4 มือถือราคาไม่เกิน 5000

Nokia 3.4 เป็นมือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท ที่ดูเรียบง่าย พร้อมความพรีเมี่ยมหรูหรา สัมผัสแข็งแกร่ง ด้วยฝาหลังแบบนาโน 3 มิติ โดดเด่นสะดุดตาด้วยสีสันสดใส จับได้กระชับถนัดมือ สเปคเครื่องตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี มีหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด HD+ จอใหญ่ คมชัด ตอบสนองทุกการใช้งาน เพิ่มความบันเทิงในการรับชมอย่างเต็มอรรถรส ขับเคลื่อนการทำงานด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 460 แบบ 8 แกน มีความเร็ว 1.8 GHz มาพร้อมกับ RAM ขนาด 3 GB ความจุ Storage ภายในเครื่อง 64 GB ที่ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบัน ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10 แบบไม่มีการปรับแต่งใด ๆ การันตีการอัพเดตซอฟแวร์ 2 ปีแน่นอน รวมถึงมียังการปรับปรุงระบบความปลอดภัยเรื่อย ๆ นานถึง 3 ปี ใครที่ชอบความเสถียรขั้นสุดของ Pure Android แนะนำให้ซื้อรุ่นนี้เลยครับ

ตัวเครื่องมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh แล้วก็ยังมี Adaptive Battery ช่วยให้ประหยัดแบตมากยิ่งขึ้น ด้วยการเรียนรู้การใช้แอปพลิเคชั่นของเรา แล้วควบคุมการใช้พลังงานของแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ให้เหมาะสม ส่วนกล้องหน้าก็ให้มา 8 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหลักด้านหลัง ความละเอียด 13 กล้องมุมกว้างพิเศษ 5 ล้าน เก็บภาพวิวได้กว้างกว่าที่เคย รวมถึงกล้องสำหรับวัดระยะ 2 ล้านพิกเซลเพื่อการถ่ายภาพโบเก้โดยเฉพาะ เพิ่มเติมแอปพลิเคชั่น Family Link ที่มาช่วยดูแลบุตรหลานของท่านในด้านต่าง ๆ ทั้งการเรียน การเล่น สามารถตั้งค่าเพื่อจำกัดสำหรับเนื้อหาที่มีความรุนแรงและเรื่องเพศได้ รวมถึงควบคุมระยะเวลาการใช้งานมือถือของเด็ก ๆ ได้อีกด้วยครับ


9. Motorola Moto G9 Play มือถือราคาไม่เกิน 5000

มือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท อย่าง Motorola Moto G9 Play ถือเป็นอีกรุ่นที่ทำการบ้านมาค่อนข้างดี ลงตัวทั้งสเปคและราคา มีหน้าจอ Max Vision ขนาด 6.5 นิ้ว ที่ใหญ่โต เหมาะกับการดูหนัง เล่นเกม และทำงาน จอภาพมีอัตราส่วนอยู่ที่ 20:9 และความละเอียดระดับ HD+ เหมือนรุ่นอื่น ๆ ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลจาก Qualcomm รุ่น Snapdragon 662 แบบ 8 แกน ทำงานที่ความเร็ว 2.0 GHz ตัวเครื่องให้ RAM ขนาด 4 GB พร้อมความจุ Storage ภายในเครื่อง 128 GB ใช้ระบบปฏิบัติการ Android

มีแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 2 วัน แต่ถ้าเล่นเกมส์น่าจะแค่ 1 วัน แถมยังรองรับชาร์จเร็วอย่าง TurboPower 15W ด้านข้างมีปุ่มไว้สำหรับเรียกใช้ Google Assistant ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลักด้านหลังมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มาพร้อมเลนส์มาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องที่ทำหน้าที่วัดระยะความละเอียด 2 ล้านพิกเซล แถมโหมด Night Vision ช่วยให้การถ่ายภาพกลางคืนสวยงาม มีรายละเอียดมากยิ่งขึ้น รวม ๆ ก็ถือว่าสเปคถือว่าน่าใช้งานเลยครับ


10. Redmi Note 9T 5G มือถือราคาไม่เกิน 5000

มือถือ Xiaomi สำหรับคนงบน้อยแต่สเปคไม่น้อยตาม ถึงจะออกมาก่อนรุ่น Redmi Note 10 5G แต่ทว่าก็ยังน่าสนใจด้วยพลังของหน่วยประมวลผลจาก Dimensity 800U 5G (7nm) ที่ถือเป็นไฮไลต์ กราฟิกทำความเร็วได้มากกว่า Dimensity 700 พอสมควร ถ้าดูจากคะแนนทดสอบ Antutu ในตาราง ควรจะไปจัดอันดับอยู่กับพวกรุ่นกลาง ๆ ราคา 9000 บาทด้วยซ้ำ ทำให้มือถือ Xiaomi รุ่น Redmi Note 9T 5G นี้คุ้มค่าคุ้มราคาแบบสุด ๆ เลยทีเดียว ตัวเครื่องให้ RAM 4 GB มาพร้อมกับหน่วยความจำ Storage ขนาด 64 GB แบบ UFS 2.1 หรือ 128 GB UFS2.2 ซึ่งข้อดีของ UFS คืออ่าน-เขียนได้เร็วกว่า ลดเวลาเปิดแอปได้ 2-3 เท่าเลยทีเดียว แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh ใช้งานได้ยาวนาน มีจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้ว เหมาะสำหรับทุกวัยไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ใช้ก็ดีงาม จอเป็นแบบ IPS สีสันสดใสมาพร้อมอัตราการรีเฟรชถึง 90 Hz ช่วยภาพดูเนียน ๆ ลื่น ๆ ให้กันมาแบบไม่มีกั๊กกันเลยทีเดียว

กล้องหลักด้านหลังมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมกล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล และ Macro 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าจะอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล ถ่ายรูปได้ดีเกินราคา พร้อมโหมดกลางคืนที่คุณภาพดีเลยทีเดียว ตัวเครื่องยังสามารถปลดล็อคด้วยลายนิ้ว หรือจะแสกนใบหน้าก็ได้ ส่วนถาดซิมเป็นแบบ 3 Slot ใส่ซิม 1 และ 2 พร้อมกับ MicroSD การ์ดได้เลย ส่วนจุดอ่อนของมือถือ Xiaomi เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ก็คือกระจกที่ยังแข็งแรงสู้ยี่ห้ออื่นไม่ได้ บวกกับเรื่องศูนย์บริการที่ยังมีน้อย เมื่อเทียบแบรนด์ตัวท็อปอย่าง Samsung แต่ด้วยราคา 6,000 บาท สเปคดีมาก เล่นเกมส์ก็ได้ แถมยังรองรับ 5G ก็ทำให้รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว คำเตือน* เนื่องจากรุ่นออกมาสักระยะแล้วต้องรีบไปซื้อกันหน่อยนะ ก่อนสินค้าจะหมดครับ


ตารางเปรียบเทียบรีวิว มือถือราคาไม่เกิน 5000

ได้เห็นมือถือกันไปทั้ง 10 ตัวแล้ว แต่อาจจะจำสเปคของมือถือแต่ละตัวไม่ได้ หรืออยากเห็นมือถือทั้งหมดมาวางเปรียบเทียบสเปคกันเลยมากกว่า ถ้างั้นก็ไปดูตารางเปรียบเทียบที่ปุ่มด้านล่างได้เลยครับ ทางผมได้นำมาเทียบให้เห็นกันแบบช็อตต่อช็อตแล้ว ชอบสเปคแบบไหน ก็จัดไปครับ


ผ่านไปแล้วกับ 10 รุ่นเด็ด มือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาท ที่เรารวบรวมมาให้คุณพิจารณาเลือกใช้งานกัน โดยแต่ละรุ่นก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ทั้งในเรื่องของดีไซน์ ขนาดหน้าจอ ความสามารถในการถ่ายภาพหรือเล่นเกม ความจุของแบตเตอรี่ ลองเทียบกันในรายละเอียดอีกครั้งว่ารุ่นไหนที่น่าจะลงตัวกับการใช้งานของคุณมากที่สุดครับ ส่วนใครที่ทำมือถือเสียบ่อย กลัวปัญหาเรื่องศูนย์บริการ ก็เลือกยี่ห้อที่มีศูนย์ซ่อมใกล้บ้านดีกว่า เวลามีปัญหาติดขัดการใช้งาน จะได้ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ ก็หวังว่าจะได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ช่วยเลือกมือถือที่โดนใจและคุ้มค่ากันนะครับ

ส่วนใครที่อยากได้มือถือที่ดีกว่านี้อีกลงดูลิงก์ข้างใต้เลยได้ครับ

ใครที่อยากดูคะแนน Antutu รุ่นอื่นลองไปดูที่นี่ครับ