
หุ ๆๆ ก็ถ้าคลิกเข้ามาอ่านที่บทความนี้ “ล็อกซิทาน” (L'Occitane) ตัวไหนดี แสดงว่า กำลังสนใจ อยากจะซื้อสกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ของทางล็อกซิทานไปใช้กันอยู่สินะคะ แต่ด้วยความที่ทางแบรนด์เขาก็มีผลิตภัณฑ์กันหลายตัวหลายไลน์เอามาก ๆ จะไปเลือกซื้อเอง ก็มึน ๆ งง ๆ ไม่รู้จะซื้อตัวไหนดี ก็คลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้วล่ะค่า เพราะที่นี่ เราได้รวบรวมสกินแคร์ล็อกซิทานตัวที่น่าสนใจ ตัวเด็ดที่ต้องซื้อมารีวิวให้ดูกันถึง 10 ตัวเลยทีเดียว และขอบอกเลยว่า ทั้ง 10 ตัวเนี่ย คัดมาให้แล้ว ได้รับความนิยม และมีการซื้อใช้ซ้ำกันสูงมากกกก ตอนนี้คงอยากจะรู้จักเจ้าล็อกซิทานกันแล้วสินะคะ ก็ตามมาเลยค่าา
สารบัญ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “L'Occitane” ตัวไหนดี

ก็เผื่อใครที่ไม่มีเวลาอ่านเนื้อหารีวิวทั้งหมด หรืออยากจะอ่านแบบสั้น ๆ สรุปรวบรัดมาให้เลยซะมากกว่า ก็สามารถกดเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบที่ปุ่มด้านล่างได้นะคะ จะได้เห็นถึงเจ้าล็อกซิทานทั้ง 10 ตัว มาวางเรียงเทียบกัน พร้อมทั้งมีสรุปรายละเอียด จุดเด่น และข้อมูลที่น่าสนใจกันให้ด้วย ซึ่งอาจจะช่วยให้เห็นภาพรวมและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นค่าา
1. L'Occitane Immortelle Reset Oil-In-Serum
ใครอยากเข้าสู่วงการผิวผู้ลากมากดีแบบฉบับ L'Occitane ต้องมาทำความรู้จักกับเซรั่มตัวดังที่ทำให้คุณแบรนด์คนนี้เค้าโด่งดังขายดีเป็นเทน้ำเทท่ากันสักหน่อย นั้นก็คือคุณ L'Occitane Immortelle Reset Oil-In-Serum ค่าาา (ชีเป็นเซรั่มที่ขายดีที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก เป็นไอเท็มที่มีการซื้อซ้ำบ่อยมากกก) และถึงจะเป็นไอเท็มที่อยู่คู่แบรนด์มานาน แต่ก็มีการพัฒนาอยู่ตลอด ๆ เด้ออ ล่าสุดปรับสูตรใหม่เข้มข้นยิ่งกว่าเก่า 20% ไปเลยจ้าา ชีเน้นช่วยในเรื่องฟื้นฟูและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวแบบเร่งด่วน มีทั้งการบำรุง ปลอบประโลม และฟื้นฟูภายในขวดเดียว ใครรู้ตัวว่าแต่งหน้าหนา ใช้หน้าเยอะ หรือมีความเครียด นอนน้อยจนหน้าโทรม อ่อนล้าอ่อนแรงอยู่บ่อยครั้ง เจ้าขวดนี้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณอย่างแน่นอนค่ะ
มากันที่ส่วนผสมชีกันนิดนึง จุดเด่นเลยก็คือเรื่องของ Immortelle Essential Oil ค่ะ ซึ่งรุ่นใหม่แบรนด์เขาก็ใส่เพิ่มเข้ามาให้เข้มข้นมากขึ้น เน้นในเรื่องสารต้านอนุมูลอิสระ ปรับผิวให้อ่อนเยาว์ ดูเด็ก ต่อต้านความร่วงโรยของผิว และยังเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างยาวนานอีกด้วย นอกจากนี้เค้ายังมี Immortelle SAP-LIKE extract เน้นการปลอบประโลมผิว มีการกักเก็บสารอาหารด้วย Microencapsulated technology ทำให้ส่วนผสมทำงานเข้ากันได้อย่างลงตัว ซึมไวมากขึ้น พร้อมทั้งให้ความชุ่มชื้นได้ในทันทีที่ใช้ค่ะ เนื้อก็ดี กลิ่นหอมลักซูมากก ส่วนตัวรู้สึกว่าหน้าดีขึ้นตั้งแต่วันแรก ๆ ที่ใช้เลย เหมาะกับสาว ๆ Working Women ที่ต้องทำงานหนัก ๆ เราขอแนะนำจริง ๆ ค่าา
จุดเด่น | ทั้งการบำรุง ปลอบประโลม และฟื้นฟูภายในขวดเดียว ฟื้นฟูผิวจากความเครียด หน้าโทรม อ่อนแอเร่งด่วน ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟูตั้งแต่ครั้งแรก |
ประเภท | เซรั่มบำรุงผิวหน้า |
สารสกัด | Immortelle Essential Oil, Immortelle SAP-LIKE extract และ Microencapsulated technology |
วิธีใช้ | ทาลงบนผิวหน้า หลังจากเช็ดด้วยโทนเนอร์ หรือลงน้ำตบเสร็จ |
เหมาะสำหรับ | เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้ง ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย |
2. L'Occitane Almond Shower Oil
สายแบรนด์ สายลักซูหรือใครที่อยากอาบน้ำด้วยความรู้สึกหรูหรา เหมือนฉันกำลังอาบน้ำอยู่ในสปาหรือโรงแรมสุดหรู อยากให้ได้ลองครีมอาบน้ำ L'Occitane Almond Shower Oil ขวดนี้เลยค่าา ที่แค่เห็นขวดในห้องน้ำก็รับรู้ได้ทันทีว่า เจ้าของห้องมีคลาสแบบสุด ๆ ไหนจะกลิ่นหอมของคุณชีเค้าที่หอมเด่นกลิ่นอัลมอนด์เป็นเอกลักษณ์ ละมุนละตุ้นกลิ่นช่วยผ่อนคลายความเครียด หอมฟุ้งติดตัว แถมยังทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด ผิวสะอาดแต่คงความชุ่มชื้น แตกต่างจากครีมอาบน้ำตัวอื่นที่ใช้แล้วผิวแห้ง ผิวเอี๊ยดอย่างสิ้นเชิง รางวัลการันตีก็เพียบ หลายสำนักยกให้เป็นครีมอาบน้ำที่ดีอันดับต้น ๆ เลยละค่าาา
มาที่ส่วนผสมของเค้ากันบ้าง จุดเด่นของชีคือคุณสมบัติของ “สวีท อัลมอนด์” มีการใช้เมล็ดอัลมอนด์ที่มาจากเกษตรกรทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เน้นช่วยปรับผิวให้นุ่มเรียบลื่น คงความชุ่มชื้นให้ผิว สามารถใช้ได้กับทั้งผิวธรรมดา ผิวผสม ผิวมัน และยิ่งใครที่มีผิวแห้งถึงแห้งมากเป็นพิเศษได้ลองต้องเลิฟฟฟแน่นอน ตัวครีมอาบน้ำจะมีลักษณะเป็นเนื้อออยล์ใส แต่ตอนใช้ถูตัวเนื้อออยล์จะแตกตัวกลายเป็นครีมน้ำนมละเอียด แต่ต้องทำใจหน่อยนะเพราะราคาคุณเค้าค่อนข้างแรงเอาเรื่องหากเทียบกับครีมอาบน้ำ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายยี่ห้ออื่น ๆ แต่ถ้าได้ลองเมื่อไรจะติดใจจนลืมเรื่องราคาไปอย่างแน่นอนค่า
จุดเด่น | ครีมอาบน้ำเนื้อออยล์ใช้แล้วจะค่อย ๆ แตกเป็นเนื้อน้ำนม ผิวสะอาดแต่คงความนุ่มชุ่มชื้นตลอดวัน กลิ่นหอมช่วยผ่อนคลาย |
ประเภท | ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว |
สารสกัด | สวีท อัลมอนด์ |
วิธีใช้ | ใช้สำหรับอาบน้ำ ทำความสะอาดผิวในขณะที่ผิวเปียก |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนผิวแห้ง |
3. L'Occitane Almond Milk Concentrate

ราคาโดยประมาณ 2,590 บาท ต่อ 200 ml
ใครที่ติดใจความดีงานของคุณ Almond Shower Oil ขอบอกเลยว่า คุณต้องชื่นชอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวตัวอื่น ๆ ในไลน์อัลมอนด์ จนอยากจะเหมาไปใช้ให้มันจบ ครบทั้งเซ็ตให้มันรู้แล้วรู้รอด ตัวต่อไปที่เราอยากจะอวย ขอยกให้น้องโลชั่นดูแลผิวอย่าง L'Occitane Almond Milk Concentrate ตัวนี้เลยค่ะ และแน่นอนว่า พอเป็นโลชั่นแบบ Concentrate ชีเลยให้การบำรุงที่ล้ำลึกระดับตัวแม่ ซึ่งทางแบรนด์เองเค้าก็อวยแร๊งงงง แค่สาว ๆ ได้ลองใช้เจ้าโลชั่นตัวนี้ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือน จะรู้สึกได้ว่า ผิวแลดูกระชับขึ้น นุ่มนวล ละเอียด มีความสวยชุ่มชื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนกันเลยค่าา
มากันที่ตัวผลิตภัณฑ์กันสักหน่อย คุณคนนี้เป็นโลชั่นทางผิวกายเนื้อครีมน้ำมัน และที่เห็นมาเป็นกระปุก ดูแล้วน่าจะต้องแน่น ๆ ทำผิวให้เหนอะหนะแน่เลย แต่พอได้ลองจริง ๆ ไม่มีปัญหาเรื่องนี้สักนิด เนื้อโลชั่นซึมไวเวอร์ แต่ตัวครีมยังเคลือบผิวทำให้รู้สึกถึงความยืดหยุ่น มอบความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว ส่วนสารสกัดหลัก ๆ ก็จะเป็นน้ำนมอัลมอนด์และอัลมอนด์ออยล์ ใช้เฉพาะอัลมอนด์จากที่ราบสูงโพรวองซ์คัดมาอย่างดี คุณภาพเยี่ยม ใครที่อยากได้การดูแลผิวที่ดีที่สุดอยากให้ลองด้วยตัวเอง ไม่มีผิดหวังกับความล็อกซิทาน ฟันธงค่ะ!
จุดเด่น | มอบความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมง ผิวนุ่ม ยืดหยุ่น ใช้ต่อเนื่อง 1 เดือน รู้สึกได้ถึงความกระชับ |
ประเภท | โลชั่นทาผิว |
สารสกัด | น้ำนมอัลมอนด์ และอัลมอนด์ออยล์ ใช้เฉพาะอัลมอนด์จากที่ราบสูงโพรวองซ์ |
วิธีใช้ | ทาโลชั่นให้ทั่วทั้งตัว หรือเฉพาะจุดที่แห้งกร้านเป็นพิเศษ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนผิวแห้ง – แห้งมากเป็นพิเศษ |
4. L'Occitane Immortelle Reset Triphase Essence

ราคาโดยประมาณ 2,600 บาท ต่อ 150 ml
กลับมาที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้ากันซะหน่อย นอกจากเซรั่ม Immortelle ตัวดังที่ขายดิบขายดีไปทั่วโลกแล้ว ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นจากไลน์ Immortelle เดียวกัน ชีก็ขอไม่น้อยหน้านะ ส่งน้ำตบสุดปังมาท้าชิงความเด้งใสอิ่มน้ำอย่างคุณ L'Occitane Immortelle Reset Triphase Essence ที่เค้ายังคงไม่ทิ้งความปังเรื่องการปรับผิวให้กลับมาชุ่มชื้น เน้นการฟื้นฟู ดูแล และปลอมประโลมภายในขวดเดียวอยู่เหมือนเดิม แต่ยังช่วยปรับผิวให้กลับมามีสุขภาพดีที่สุด เหมือนการ Reset ผิวเริ่มใหม่ตามชื่อรุ่นเลยละค่ะ
ส่วนคุณสมบัติต่าง ๆ ของชี นางถือเป็น Essence แบบน้ำตบ 3 เนื้อผสาน Prebiotics เพื่อให้ได้การบำรุง ฟื้นฟู และปลอบประโลมได้แบบครบทั่ว ไม่ตี ไม่หนี ไม่หายค่ะ โดยออยล์ชั้นที่ 1 จะเน้นช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างผิวแข็งแรง, ออยล์ชั้นที่ 2 ช่วยเติมน้ำและความชุ่มชื้นให้กับผิว ส่วนสุดท้ายจะช่วยเน้นปรับสมดุลให้ผิวแข็งแรง ซึ่งรับรองเลยว่า ผิวจะนุ่มชุ่มชื้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยล่ะ และที่สำคัญสารสกัดต่าง ๆ เน้นในเรื่องคุณค่าจากธรรมชาติกว่า 99% มีส่วนผสมของ IMMORTELLE ESSENTIAL OIL และ NATURAL ORIGIN PREBIOTIC ไม่มีซิลิโคน มิเนรัล ออยล์ และสารกันเสีย ใครแพ้ง่ายใช้ได้แน่นอนค่าา
จุดเด่น | ปรับสมดุลให้ผิวแข็งแรง ผิวนุ่มชุ่มชื้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ฟื้นฟู ดูแล และปลอมประโลมภายในขวดเดียว เหมือนเป็นการรีเซ็ตผิว |
ประเภท | เอสเซ้นต์ (น้ำตบ) |
สารสกัด | IMMORTELLE ESSENTIAL OIL, NATURAL ORIGIN PREBIOTIC, ไม่มีซิลิโคน มิเนรัล ออยล์ และสารกันเสีย ใครแพ้ง่ายใช้ได้แน่นอน |
วิธีใช้ | ใช้ตบเบาลงบนผิว หลังจากเช็ดทำความสะอาดด้วยโทนเนอร์ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนผิวแห้ง |
5. L'Occitane Shea Butter Intensive Foot Balm

ราคาโดยประมาณ 850 บาท ต่อ 50 ml
บอกก่อนเลยว่า ไอเท็มที่พาดิฉันเข้าสู่วงการ L'Occitane ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสายลักซูก็ติดมาจากผลิตภัณฑ์ประเภททามือ ทาเท้าเนี่ยแหละจ้าา สำหรับใครที่กำลังมองหาโลชั่นสำหรับทาเท้า เน้นเติมเต็มความชุ่มชื้น เปลี่ยนผิวแห้ง แข็ง ด้านของเท้าโดยเฉพาะ มันก็ต้องคุณ L'Occitane Shea Butter Intensive Foot Balm ตัวนี้เลย ลองทาทิ้งไว้ แล้วใส่ถุงเท้านอน (กันลื่นด้วยนะ) ตื่นเช้ามาเท้าคุณจะนุ่มนิ่มอย่างเห็นได้ชัด แค่จับก็สัมผัสได้จริง ๆ พวกคราบขาวจากอาการผิวแห้งคือหายเกลี่ยง มันดีมากกกกเด้ออ
ส่วนเรื่องส่วนผสมนั้น ปกติล็อกซิทานชีจะเน้นผลิตภัณฑ์จากฝรั่งเศส จากโพรวองซ์เนอะ แต่คุณคนนี้ของฉีกกฎนิดนึงง เพราะชีจะมีส่วนผสมหลักเป็น “เชีย บัตเตอร์” จากแถบซาฮาร่าในแอฟริกา ซึ่งเราก็รู้กันดีอยู่แล้วเนอะว่า เจ้าเชียบัตเตอร์เป็นสารสกัดที่ใช้กันค่อนข้างยาวนานและแพร่หลาย เด่นเรื่องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวโดยเฉพาะ ใครผิวเท้าแห้งแตกลองหาคุณคนนี้ใช้ ถูกใจ ตอบโจทย์แน่นอน แถมเนื้อครีมก็ค่อนข้าวนุ่มละเอียดมาก และถึงจะเห็นหลอดเล็ก ๆ ราคาแรงน้ำตาไหลแบบนี้ แต่พอใช้จริง ๆ ใช้ได้นานเอาเรื่องเลยนะ ถือว่าคุ้มอยู่ หากเทียบกับระยะเวลาและผลลัพธ์ที่ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ค่า
จุดเด่น | เน้นเติมเต็มความชุ่มชื้น เปลี่ยนผิวแห้ง แข็ง ด้านของเท้าโดยเฉพาะ |
ประเภท | บาล์มทาส้นเท้า |
สารสกัด | เชีย บัตเตอร์ จากแถบซาฮาร่าในแอฟริกา |
วิธีใช้ | ทาให้ทั่วทั้งเท้า เน้นจุดที่แห้งกร้านโดยเฉพาะ, แนะนำให้ใช้ก่อนนอน |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว, มีปัญหาเรื่องส้นเท้าแตก |
6. L'Occitane Amande Supple Skin Oil

ราคาโดยประมาณ 1,850 บาท ต่อ 100 ml
ใครที่เป็นสายใช้ออยล์ทาตัวเป็นชีวิตจิตใจ เชื่อเลยว่าร้อยทั้งร้อยจะต้องมีคุณคนนี้อยู่ในลิสต์บอดี้ออยล์ในฝันอย่างแน่นอนค่ะ สำหรับ L'Occitane Amande Supple Skin Oil ที่เป็นออยล์ทาตัวมาจากเมล็ดอัลมอนด์ เรื่องฟื้นบำรุงผิวไม่ต้องพูดถึง งานดีงานปัง ใครที่ผิวแห้งมาก หรือมีส่วนไหนของผิวที่แห้งกร้านด้านมากเป็นพิเศษ มาลองใช้คุณคนนี้ทาตอนพึ่งอาบน้ำเสร็จตัวยังหมาด ๆ อยู่ ใช้ติดกันสัก 2 – 3 วัน รู้เรื่อง! ผิวคุณจะอ่อนนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมยังมีความชุ่มชื้น ผิวเด้งฟู กระชับจากความอิ่มน้ำเลยละค่าา
มาดูสารสกัดในการดูแลผิวของชีกันบ้าง อย่างแรกที่เป็นทั้งจุดขายและเป็นกลิ่นที่หอมหรูลักซูรี่ชัดเจนจนใครก็รู้คือ สารสกัดจากอัลมอนด์ค่ะ ซึ่งอัลมอนด์ของคุณคนนี้มีมากกว่า 50% เลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ ยังมาพร้อมกับสารสกัดอื่น ๆ อย่าง คาเมลลินาออยล์, โอเมก้า 3, โอเมก้า 6 และซิลิเซี่ยม ที่จะมารวมพลังช่วยกันทำให้ผิวกระชับและแน่นขึ้นโดยเฉพาะ ส่วนตัวเนื้อออยล์ก็ค่อนข้างซึมไว ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ ทาแล้วให้ความชุ่มชื้นจัดเต็ม พร้อมมีลุคผิวดูใสใส เงาโกลว์แบบผิวสุขภาพดีอีกด้วย เห็นกันแบบนี้แล้ว ต้องตำกันด่วน ๆ ค่าา
จุดเด่น | เปลี่ยนผิวให้อ่อนนุ่มอย่างชัดเจน ผิวนุ่มเด้งฟูจากความอิ่มน้ำ ปรับผิวให้มีความโกลว์ ลุคผิวใสสุขภาพดี |
ประเภท | บอดี้ออยล์ |
สารสกัด | สารสกัดจากอัลมอนด์, คาเมลลินาออยล์, โอเมก้า 3, โอเมก้า 6 และซิลิเซี่ยม |
วิธีใช้ | หลังอาบน้ำเสร็จ ทาออยล์ให้ทั่วทั้งตัว ขณะที่ผิวกำลังเปียกหมาด |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนผิวแห้ง – แห้งมากเป็นพิเศษ |
7. L'Occitane Immortelle Divine Cream

ราคาโดยประมาณ 3,150 บาท ต่อ 30 ml
ใครที่ติดใจกับความดีงามของเซรั่มสุดปังอย่างอิมอคแตล หรือกำลังมองหาครีมทาผิวหน้าดี ๆ ที่เด่นในเรื่องผิวหน้าอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอยโดยเฉพาะ เราขอแนะนำคุณ L'Occitane Immortelle Divine Cream ขวดสีทองสุดหรูหราตัวนี้เลยค่าาา พอขึ้นชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากไลน์ Immortelle ก็ชัดเจนเลยว่า เน้นในเรื่องการคืนความอ่อนเยาว์ ลดปัญหาริ้วรอย ปรับผิวให้แข็งแรงได้อย่างเป็นธรรมชาติแน่นอน ซึ่งเจ้าขวดนี้เองชีก็ได้รางวัลชนะเลิศ มาการันตีว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ต่อสู้กับปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ ได้ดีมากก และเค้าก็มีการทดลองกับสาว ๆ พบว่า 9 ใน 10 เลิฟชีมากกก ผิวกระชับขึ้นภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือนค่ะ
ส่วนส่วนผสมต่าง ๆ นั้น คุณคนนี้จะใช้ ‘Divine' ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากล็อกซิทาน รวมตัวกับสารอาหารที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดอย่าง Immortelle Super Extract และ Immortelle Aqueous Extract ซึ่งสารสกัดเหล่านี้หาไม่ได้ในแบรนด์อื่นด้วยเด้ออ ล็อกซิทานเค้าจดสิทธืบัตรไว้แต่เพียงผู้เดียวเรียบร้อยแล้วแม่ ส่วนทางด้านเนื้อครีมเค้าจะมีความนุ่ม แน่น แต่ซึมไว ทำให้ผิวรู้สึกฟู กระชับ รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ก็ใครที่ไม่อยากแก่ก่อนวัย หรือกำลังอยากหาตัวช่วยปัง ๆ สตาฟหน้าก่อนจะเหี้ยวลงไปซะก่อนแนะนำเลยค่ะ!
จุดเด่น | ผิวนุ่มฟูกระชับได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ใช้ต่อเนื่องจะช่วยเรื่องคืนความอ่อนเยาว์ ปัญหาริ้วรอย ปรับผิวให้แข็งแรงได้อย่างเป็นธรรมชาติ |
ประเภท | มอยเจอร์ไรเซอร์ทาหน้า |
สารสกัด | Immortelle Super Extract และ Immortelle Aqueous Extract |
วิธีใช้ | ทาลงบนผิวหลังจากที่ใช้เซรั่มเสร็จ |
เหมาะสำหรับ | กลุ่มคนที่มีปัญหาริ้วรอย หรือกังวลเรื่องปัญหาผิวแก่ก่อนวัย |
8. L'Occitane Intensive Repair Shampoo

ราคาโดยประมาณ 1,350 บาท ต่อ 500 ml
บอกก่อนเลยนะ ว่าคุณล็อกซิทานเค้าไม่ได้มีดีแค่ไอเท็มดูแลผิวกาย ผิวหน้าเท่านั้นนะจ้ะะะ แต่งานดูเส้นผมเค้าก็ไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน ซึ่งจริง ๆ แล้ว ชีมีแชมพูสระผมหลายสูตรอยู่นะ แต่เท่าที่ได้ลองใช้แล้วรู้สึกชอบมากที่สุด ขอแนะนำเป็น L'Occitane Intensive Repair Shampoo เลยจ้าาา ใครที่ผมแห้งเหมือนกำลังจะโคฟเวอร์ตัวเองเป็นไม้กวาดเข้าไปทุกที หรือใครที่ผมเสียอย่างหนักจากการทำเคมี ไม่ว่าจะ กัด ดัด ทำสี ทำอะไรก็ตาม มาลองเจอคุณคนนี้คือตอบโจทย์ นางจะเน้นเรื่องการฟื้นบำรุงเส้นผม ซ่อมแซม เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผมที่แห้งเสีย แตกปลาย และถูกทำลายได้อย่างอยู่หมด ปรับเส้นผมให้แข็งแรงจากเดิมได้มากถึง 3 เท่าเลยละค่ะ
โดยส่วนผสมหลัก ๆ ก็จะเน้นไปที่การใช้น้ำมันหอมระเหยค่ะ ซึ่งในแชมพูตัวนี้มีมากถึง 5 ชนิดด้วยกัน ตั้งแต่ แองเจลลิก้า, กระดังงา, สวีทออเร้นจ์, ลาเวนเดอร์ และเจอเรเนียม เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีส่วนประกอบของกรดอะมิโนจากข้าวโอ๊ต โปรวิตามินบี 5 และน้ำมันดอกทานตะวัน มารวมพลังช่วยกันฟื้นฟูไฟเบอร์ให้กับมาสู่เส้นผม ผมแข็งแรงตั้งแต่โคนจรดปลาย ให้เส้นผมของสาว ๆ นุ่มลื่นเป็นประกาย มีชีวิตชีวาได้แบบที่ไม่เคยเป็นแน่นอนค่าาา
จุดเด่น | แก้ปัญหาผมเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะแห้งเสียจากเคมี ฟื้นฟูไฟเบอร์ให้ผมแข็งแรงขึ้นถึง 3 เท่าจากเดิม |
ประเภท | แชมพูทำความสะอาดผม |
สารสกัด | น้ำมันหอมระเหยแองเจลลิก้า, กระดังงา, สวีทออเร้นจ์, ลาเวนเดอร์ และเจอเรเนียม |
วิธีใช้ | ใช้สระผมให้ทั่ว แล้วล้างออก |
เหมาะสำหรับ | คนที่มีปัญหาผมแห้งเสีย |
9. L'Occitane Intensive Repair Conditioner

ราคาโดยประมาณ 1,500 บาท ต่อ 500 ml
ใครติดใจ หรือกำลังโดนฤทธิ์ป้ายยาจากเรา อยากใช้แชมพู L'Occitane Intensive เข้าให้แล้ว จะให้ดีที่สุด เห็นผลชัดเจนมากที่สุดก็ต้องใช้ควบคู่กับครีมนวดผมของเค้า ถ้าซื้อแชมพูก็ต้องซื้อคอนดิชินเนอร์ด้วยนะสู สำหรับตัวที่ควรใช้ควบคู่ก็จะเป็น L'Occitane Intensive Repair Conditioner เรื่องคุณสมบัติคล้ายกับตัวแชมพูเลยค่ะ เน้นแก้ปัญหาผิวแห้งเสียอย่างหนัก หรือใครที่ผมเสียจากการทำเคมี คุณคนนี้จะเข้ามาฟื้นฟูผมให้แข็งแรงมากกว่าเดิมถึง 3 เท่า ปรับเส้นผมที่แห้งกร้านพันกันเก่งให้กับมาเรียบลื่น ผมตรงสวยหวีง่าย ไม่ต้องกระฉากจนผมขาดหลุดปวดใจแน่นอนค่าาา
และส่วนผสมหลัก ๆ ของชีนั้น ชีก็จะมีความคล้ายกับตัวแชมพูล็อกซิทานเลยค่ะ หลัก ๆ ก็จะเป็นน้ำมันหอมระเหยแองเจลลิก้า, กระดังงา, สวีทออเร้นจ์, ลาเวนเดอร์ และเจอเรเนียม แต่สำหรับแชมพูจะเน้นในเรื่องการชำระล้าง ทำความสะอาดเส้นผมให้สะอาดหมดจด ส่วนตัวครีมนวดผมจะเน้นเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมมากกว่า ความเริ่ดคือเค้าไม่ต้องใช้เยอะก็สามารถชะโลมได้ทั่วทั้งเส้นผม แถมบำรุงได้ลึก เส้นผมกลับมาดูสุขภาพดีได้ในเร็ววันค่าาา
จุดเด่น | แก้ปัญหาผมเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะแห้งเสียจากเคมี ฟื้นฟูไฟเบอร์ให้ผมแข็งแรงขึ้นถึง 3 เท่าจากเดิม |
ประเภท | ครีมนวดผม, คอนดิชิเนอร์ |
สารสกัด | น้ำมันหอมระเหยแองเจลลิก้า, กระดังงา, สวีทออเร้นจ์, ลาเวนเดอร์ และเจอเรเนียม |
วิธีใช้ | ใช้ชะโลมบริเวณปลายผมให้ทั่ว ทิ้งไว้ 3 – 5 นาที ค่อยล้างออก |
เหมาะสำหรับ | คนที่มีปัญหาผมแห้งเสีย |
10. L'Occitane Shea Nail & Cuticle Nourishing Oil

ราคาโดยประมาณ 750 บาท ต่อ 7.5 ml
บอกเลยว่า ตัวนี้ถือเป็นไอเท็มที่ไม่รีวิวไม่ได้จริง ๆ ค่ะ เพราะหายากมากกกก ชีคือ L'Occitane Shea Nail & Cuticle Nourishing Oil ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมันบำรุงเล็บและจมูกเล็บโดยตรงค่ะ (ส่วนตัวไม่เคยเจอแบรนด์ไหนทำเลยนะ) ตัวนี้จะเหมาะสำหรับใครที่ทำเล็บเก่ง หน้าเล็บถูกเจีย ถูกทำร้ายบ่อย ๆ หรือใครที่มีปัญหาเล็บบางมาก ฉีกง่าย แตกหักง่าย ออยล์ตัวนี้จะเข้ามาบำรุงทั้งผิวส่วนมือ และเล็บมือได้อย่างอ่อนโยน แต่มีประสิทธิภาพมากที่สุด จมูกเล็บเนียนขึ้น นุ่มขึ้น เล็บแข็งแรงไม่บิดอ่อน หรือแตกหักง่าย ๆ แน่นอน
และทางด้านส่วนผสมนั้น จะเน้นไปที่การใช้น้ำมันเชียซะส่วนใหญ่ค่ะ มีส่วนผสมของเซียบัตเตอร์เข้มข้นสูงถึง 30% ส่วนวิธีใช้ก็ง่าย ๆ แค่ทาออยล์ลงบนหน้าเล็บแต่ละนิ้ว ค่อย ๆ นวดวนเป็นวงกลมตามจมูกเล็บแค่นั้นเอง แต่สำหรับใครที่จะตัดแต่งเล็บต่อ ก็รอให้เนื้อออยล์ซึมลงผิวก่อนสักนิดนึงนะ ไม่งั้นเสียดายของแย่ เพราะชีราคาแพงเรียกแม่เอาเรื่องอยู่ แต่ 1 หลอดก็ใช้งานได้นาน ใครรักเล็ก อยากมีเล็กสวย ก็คุ้มอยู่ค่าา
จุดเด่น | บำรุงมือและเล็บมืออย่างอ่อนโยน จมูกเล็บเนียนขึ้น นุ่มชึ้น เล็บแข็งแรงไม่บิดอ่อน หรือแตกหักง่าย ๆ |
ประเภท | น้ำมันบำรุงเล็บ และจมูกเล็บ |
สารสกัด | เชีย บัตเตอร์ |
วิธีใช้ | ทาน้ำมันลงบริเวณจมูกเล็บ นวดจนกว่าน้ำมันจะซึมลงสู่เล็บและผิว |
เหมาะสำหรับ | คนที่มีปัญหาเล็บแตก ฉีกง่าย, คนที่ทำเล็บเป็นประจำ |
ไงจ๊ะสาว ๆ หลังจากที่ได้เห็นรีวิว “ล็อกซิทาน” (L'Occitane) ตัวไหนดี กันไปแลัวถึง 10 ตัว ด้วยกัน ไม่ทราบว่า สนใจ อยากจะซื้อ ตัวไหน สกินแคร์แบบไหน ไปใช้งาน ไปใช้บำรุงกันบ้างคะ ??? ก็เรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพของทางแบรนด์ล็อกซิทานนั้น ไม่ต้องเป็นห่วง ดีงามดีเลิศกันอย่างแน่นอน แต่ราคาก็แพงมากด้วยเช่นกันเด้ออออ ยังไงก่อนซื้ออาจจะดูเรื่องงบกันสักนิด สุดท้ายก็ขอให้ได้ล็อกซิทานตัวที่ถูกใจ ใช้แล้วบำรุงผิว บำรุงผม บำรุงเล็บ หรือบำรุงส่วนอื่น ๆ ให้มีสภาพที่ดีขึ้น ตอบโจทย์กันด้วยค่าาา

Beauty Blogger ที่จะมารีวิวเครื่องสำอางแบบติดตลก ด้วยความชื่นชอบในการเขียนและแต่งหน้า ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันสินค้าตัวที่คิดว่าใช้แล้วดี แต่งแล้วสวย ไม่ทำลายผิว บางอันก็เลือกจากยอดขาย แบรนด์ไหนจัดโปรลดสุดปังก็จะได้รับเลือกอยู่บ่อย ๆ บางอันก็เลือกจากคุณภาพที่ได้ลองใช้แล้วดี มีคนเค้าบอกต่อ การันตีกันขนาดนี้ก็ต้องเอามาเล่าผ่านรีวิวกันหน่อยให้ผู้อ่านได้ไปลองใช้ดูบ้าง