ใครที่ชื่นชอบการทำสีผม ดัด ลอน หรือผ่านการทำสารเคมีบ่อย ๆ บอกเลยว่า แค่บำรุงด้วยเซรั่ม ทรีทเม้นต์หรืออบไอน้ำยังคงไม่เพียงพอ หากต้องการบำรุงแบบขั้นสุดตั้งแต่โครงสร้างภายในแล้วละก็ ต้องใช้คู่กับเคราติน เพราะเขาจะโดดเด่นในเรื่องการซ่อมแซม ฟื้นฟู เส้นผมที่เสียหาย ให้กลายเป็นเส้นผมนุ่มสวย เงางาม อย่างเป็นธรรมชาติ และจะมี “ครีมหมักผมเคราติน” ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนปังกันบ้าง เรามาดูรีวิวกันเลยค่า
สารบัญ
เคราติน คืออะไร ? แล้วช่วยอะไรบ้าง ?
เคราติน (Keratin) คืออะไร ? เคราตินเป็นเส้นใยโปรตีนที่ร่างกายของเรานั้นสามารถสร้างขึ้นได้เอง โดยเคราตินจะอยู่บริเวณผิวหนังกำพร้า ช่วยบำรุงเส้นผม ผิวหนัง และเล็บ ให้แข็งแรงมีสุขภาพดีอยู่เสมอ และยังเป็นโปรตีนที่สำคัญที่สุดสำหรับเส้นผม จึงทำให้เคราตินกลายเป็นอาหารเสริมสุดฮิตสำหรับเส้นผมและผิวนั่นเองค่ะ
ประโยชน์ของเคราติน
- ช่วยปกป้องผิวและเส้นผมจากรังสี UV
- ช่วยให้เส้นผมเกิดใหม่และเจริญเติมโตได้อย่างแข็งแรง
- ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเส้นผมและผิวหนัง
- ช่วยควบคุมปริมาณในการดูดซึมสารอาหารให้พอดีต่อร่างกาย
ตารางเปรียบเทียบรีวิว ครีมหมักผมเคราติน ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่อยากจะเห็นครีมหมักผมเคราตินแบบพร้อม ๆ กัน รวมถึงสามารถเลื่อนตารางไปมา เพื่อทำการเปรียบเทียบ ปริมาณ ส่วนผสม หรือราคากันได้แบบง่าย ๆ ทางเราก็อยากให้ลองคลิกที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลยค่า
1. KERASTASE Discipline Maskeratine
ราคาโดยประมาณ 1,995 บาท
เพื่อนสาวคนไหนมีปัญหาผมเส้นเล็ก ชี้ฟูเป็นไม้กวาด แถมจัดทรงยาก อยากจะกรี๊ดดัง ๆ เราขอแนะนำให้รู้จักกับครีมหมักผมเคราตินสูตรเข้มข้นจากฝรั่งเศส ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม มอร์ฟอร์ – เคราติน ที่สุดของสารบำรุงเคราตินที่จะช่วยเติมเต็มเส้นใยของผมที่ขาดหาย พร้อมเคลือบปิดเกล็ดผมที่แห้งแตกปลาย ทำให้ผมไม่ลีบแบน นุ่มลื่นเรียงเส้นสวย สปริงตัวได้ดีอย่างเป็นธรรมชาติ และยังช่วยป้องกันปัญหาผมชี้ฟูได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมง ให้สาว ๆ หยุดกรี๊ดเพราะผมเสีย แล้วมาร้องว้าวเพราะผมสวยไปเลยค่ะ
นอกจากจะช่วยให้เส้นผมกับมานุ่มลื่นได้ดั่งใจแล้ว ตัวนี้เขายังมีส่วนช่วยปกป้องเส้นผมจากมลภาวะอีกด้วยนะ เพราะชีวิตประจำวันเราจะต้องเจอมลภาวะเยอะมากกก ไหนจะไอเสียรถยนต์ ไหนจะ PM 2.5 จะเลี่ยงก็เลี่ยงไม่ได้ พอฝุ่นพวกนี้มาโดนเส้นผม ผมก็เสียอีก หลังจากนี้ไปก็สบายใจได้ ที่สำคัญมาส์กตัวนี้เขายังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในเส้นผม ไม่ให้ผมกลับไปแห้งเสียเป็นไม้กวาดเหมือนเดิมอีกด้วย ถือเป็นตัวช่วยชั้นดีในการบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึกที่สาว ๆ จะต้องชอบแน่นอนค่า
ปริมาณ | 200 ml |
ส่วนประกอบสำคัญ | มอร์ฟอร์-เคราติน คอมเพล็กซ์ |
เหมาะสำหรับ | ปัญหาผมลีบแบนและผมแห้งเสีย |
2. JOJI Secret Young Charcoal Keratin Treatment Mask
ราคาโดยประมาณ 189 บาท
เป็นสาวรักการทำสี ทั้งยืด ทั้งดัด ประโคมเคมีใส่เส้นผมมาซะนาน รู้ตัวอีกทีผมก็เสียชี้ฟูไปซะแล้ว แบบนี้มันต้องดีท็อกซ์ ! ด้วยครีมหมักผมเคราตินสูตรเข้มข้นมีส่วนผสมของผงชาร์โคล ที่จะมาช่วยดูดซับสิ่งสกปรกและสารเคมีตกค้างจากการยืด ดัด ทำสีต่าง ๆ นานา นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนหนังศีรษะ ให้ผมของเราสะอาด เปลี่ยนจากผมแห้งกรอบมาเป็นผมสุขภาพดีได้ในพริบตาเลยค่ะ
อีกส่วนประกอบหลักที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ เคราติน ที่จะมาช่วยฟื้นฟูผมเสียที่แตกปลาย ขาดหลุดร่วง ให้กลับมาแข็งแรงไม่ชี้ฟู ทั้งยังเสริมความแข็งแรงให้กับรากผม ผสานด้วยคุณค่าจากสารสกัดเมล็ดมะรุม ที่จะเขามาช่วยแปลงโฉมให้ผมของสาว ๆ อ่อนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน พร้อมช่วยดูแลหนังศีรษะ ช่วยลดเปอร์เซ็นต์การขาดหลุดร่วงซึ่งเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับสาว ๆ ได้อีกด้วย ใครที่รู้สึกอยากดีท็อกซ์ผมตัวเองพร้อมบำรุงเส้นผมไปในตัว ก็ขอแนะนำทรีทเม้นท์ JOJI ตัวนี้เลยค่า
ปริมาณ | 300 g |
ส่วนประกอบสำคัญ | ผงชาร์โคล, เคราติน, สารสกัดเมล็ดมะรุม |
เหมาะสำหรับ | ผมแห้งเสียจากการทำเคมี |
3. NIGAO Hair Treatment Guardian
ราคาโดยประมาณ 450 บาท
ไฮบริดทรีทเม้นท์แบรนด์ชื่อญี่ปุ่น (แต่เจ้าของไทยนะจ๊ะ) ที่สาว ๆ ผู้รักการทำเคมีจะต้องหลงรัก เพราะเขามาพร้อมกับนวัตกรรมไมโครโมเลกุล LPP Keratin คุณภาพสูงที่สามารถแทรกซึมลึกได้ถึงแกนชั้นใน ทำให้สามารถเข้าปกป้องและฟื้นฟูสภาพผมเสียจากการยืด ดัด ทำสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมอีกหนึ่งส่วนผสมที่น่าสนใจอย่าง Hydroxyethyl Urea ที่มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บและให้ความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างยาวนาน ให้ผมที่แห้งเป็นไม้กวาดกลับมานุ่มสลายได้ดั่งใจอีกครั้งค่ะ
ยัง ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ยังมีส่วนผสมของ Hydrolyzed Vegetable Protein หรือโปรตีนสกัดจากเมล็ดธัญพืชและถั่ว จำพวกถั่วเหลือง, ข้าวสาลี และข้าวโพด ที่จะมีส่วนช่วยปกป้องเส้นผมให้ดูเงางาม และช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้เส้นผมดูมีน้ำหนัก ไม่แห้งกรอบลีบแบนอย่างที่เคยเป็น เท่านี้เส้นผมของสาว ๆ ที่เคยเสื่อมสภาพเพราะการทำเคมีก็จะคืนสภาพเป็นเส้นผมที่แข็งแรงดังเดิมโดยไม่ต้องพึ่งพาซาลอนกันเลยค่า
ปริมาณ | 500 ml |
ส่วนประกอบสำคัญ | LPP Keratin, Hydroxyethyl Urea, Hydrolyzed Vegetable Protein |
เหมาะสำหรับ | ผมแห้งเสียจากการทำเคมี |
4. Dove advanced keratin treatment hair mask
ราคาโดยประมาณ 159 บาท
พูดถึงผลิตภัณพ์ดูแลเส้นผมก็ต้องนึกถึง โดฟ มาเป็นชื่อแรก ๆ มาทำความรู้จักกับครีมหมักผมโดฟ สูตร แอดวานซ์ เคราติน ที่จะเข้ามาช่วยฟื้นฟูบำรุงเส้นผมลึกจนถึงแกน พร้อมช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกัน ทำให้เส้นผมแข็งแรง ช่วยลดปัญหาผมเปราะขาดได้ถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับสูตรทั่วไป อีกทั้งทางแบรนด์เคลมว่า แค่มีกระปุกนี้กระปุกเดียวก็สามารถเทียบได้กับการทำเคราตินที่ร้านทำผมได้เลย เอาอยู่หมดทุกปัญหาผมเสีย ไม่ว่าจะเป็นผมชี้ฟู, ผมแตกปลาย, ผมพังเพราะทำสี, ผมแห้งเป็นไม้กวาด ไปจนถึงขั้นผมช็อตเลยค่ะ
เท่านั้นยังไม่พอ โดฟกระปุกนี้เขายังมาพร้อมกับดับเบิ้ลพลังกู้ผมพังอย่างแอดวานซ์ เคราตินและไฮโดรฟิลเลอร์ ที่จะเข้าช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผมที่เสียจากการกัด ดัด ยืด และทำสี ให้เส้นผมกลับมาแข็งแรงและยืดหยุ่น นุ่มลื่นอิ่มน้ำ สวยสุขภาพดี ลดปัญหาผมแห้งและพันกัน มีรีวิวกระซิบมาว่าใช้แล้วสัมผัสได้ถึงความนุ่มลื่นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ดีงามมากกก ก็สมชื่อแบรนด์โดฟที่สาว ๆ หลายคนต้องเทใจให้จริง ๆ
ปริมาณ | 180 ml |
ส่วนประกอบสำคัญ | แอดวานซ์ เคราติน, ไฮโดรฟิลเลอร์ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพเส้นผม |
5. โลแลน อินเทนซ์ แคร์ เคราติน รีแพร์ มาส์ก
ราคาโดยประมาณ 135 บาท
อีกหนึ่งตัวช่วยคู่ใจสำหรับสาว ๆ ผู้รักการทำผมที่จะไม่พูดถึงไม่ได้อย่าง โลแลน ที่คราวนี้เขามาพร้อมกับครีมหมักผมเคราตินโมเลกุลฟื้นบำรุงลึกถึง 3 ชั้นผม ตั้งแต่ชั้นนอกไปจนถึงระดับโครงสร้างชั้นในสุด โดยเริ่มตั้งแต่ช่วยปิดรูพรุนและซ่อมแซมเกล็ดผมชั้นนอกให้สมบูรณ์มีสภาพดี รวมไปถึงเข้าไปช่วยเสริมสร้างความชุ่มชื่นและบำรุงเส้นผมชั้นในให้มีความหนาแน่น แปรสภาพผมเส้นเล็กที่แห้งเสียราวไม้กวาดให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งค่ะ
เขายังมีนวัตกรรม Oxidized keratin ที่จะซึมลึกถึงระดับโครงสร้างผมในชั้นโปรตีนและกรดอะมิโนให้มีความแข็งแรง ส่วนเนื้อครีมของเขาก็ยังให้เนื้อสัมผัสที่เข้มข้นและมีกลิ่นที่หอมน่าใช้ การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้งานจริงว่าใช้แล้วรู้สึกผมแข็งแรงขึ้นทันตาตั้งแต่ใช้งานครั้งแรก เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องก็จะรู้สึกได้ถึงผมที่มีวอลลุ่มมากขึ้น ไม่แตกปลาย ไม่เปราะหักง่าย ทั้งยังเงางามเป็นประกายอย่างมีสุขภาพดีอีกด้วย ส่วนราคาก็ไม่แรงเลย ก็แอบเหมาะสำหรับใช้เป็นยี่ห้อแรก ๆ กันเลยค่า
ปริมาณ | 200 g |
ส่วนประกอบสำคัญ | Pro – Keratin EX |
เหมาะสำหรับ | ผมแห้งเสียจากการทำเคมี |
6. Carebeau Keratin Treatment
ราคาโดยประมาณ 129 บาท
ครีมหมักผมเคราตินเคลือบแก้วที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี ใช้ขนแกะที่อิมพอร์ตมาไกลจากอเมริกา มาผ่านกระบวนการ Hydrolyzed Alpha-Keratin เพื่อให้ได้เคราตินที่มีคุณภาพสูง และมีน้ำหนักโมเลกุลถึง 2,500 Da เข้าฟื้นฟูเส้นผมได้อย่างล้ำลึก รวมถึงซ่อมแซมเส้นผมได้จากทุกสภาพปัญหา เอาใจสาวนักทำสีด้วยการปรับสภาพผมที่เสียจากการทำเคมีให้กลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง ทั้งยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ลดโอกาสขาดหลุดร่วงอีกด้วยนะคะ
นอกจากเคราตินคุณภาพดีแล้ว ทรีทเม้นท์ตัวนี้เขายังอุดมไปด้วยโปรวิตามิน B5 และโจโจ้บาออยล์ สารอาหารที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมที่แห้งกร้านให้กลับมานุ่มสลาย เคลือบเส้นผมให้ดูเงางาม พร้อมทั้งฟื้นบำรุงหนังศีรษะและลดปัญหารังแค ก็รู้สึกได้เลยว่าผมกลับมาสวยสุขภาพดีราวเพิ่งออกจากซาลอนมาไม่มีผิด เพียงแค่สาว ๆ ชโลมเนื้อเนื้อครีมนี้ให้ทั่วหลังจากสระผม โดยเน้นบริเวณปลายผมเป็นพิเศษ ก็เป็นอันใช้ได้ค่า
ปริมาณ | 500 ml |
ส่วนประกอบสำคัญ | เคราตินจากขนแกะ, โปรวิตามิน B5, โจโจ้บาออยล์ |
เหมาะสำหรับ | ผมแห้งเสียจากการทำเคมี |
7. CARISTA – Goat Milk Premium Keratin Mask
ราคาโดยประมาณ 389 บาท
ครีมหมักผมเคราตินสูตรพรีเมี่ยมที่กำลังมาแรงในโลก TikTok ด้วยเสียงลือเสียงเล่าอ้างแบบปากต่อปาก ว่าตัวนี้เขากู้สภาพผมพังได้อย่างอยู่หมัด ด้วยเนื้อครีมเคราตินสูตรนมแพะที่นำเข้าจากออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ สาว ๆ ที่มีผิวหัวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ ไม่มีปัญหา ทั้งยังมาพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ น่าใช้ แถมกระปุกก็ใหญ่ ใช้งานได้นานจุใจอีกด้วยนะคะ
อีกทั้งครีมหมักผมเคราตินตัวนี้ไม่ได้มีดีแค่เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่ายเท่านั้น แต่ยังสามารถฟื้นฟูสภาพเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เส้นผมมีความดกดำเงางาม บำรุงรากผมและลดอาการขาดหลุดร่วง คืนความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมได้อย่างยาวนานถึง 72 ชั่วโมง ให้ผมนุ่มลื่นสวย มีน้ำหนัก จัดทรงง่ายอย่างเป็นธรรมชาติจนรู้สึกเหมือนเพิ่งไปทำที่ร้านแพง ๆ เลยค่า
ปริมาณ | 500 g |
ส่วนประกอบสำคัญ | เคราตินจากนมแพะ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพเส้นผม |
8. DAENG GI MEO RI Glamo Keratin Treatment
ราคาโดยประมาณ 1,190 บาท
เคราตินสูตรพิเศษที่จะเข้าช่วยแก้ปัญหาผมลีบแบนและผมแห้งเสียโดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มวอลลุ่มและคืนความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ให้ผมไม้กวาดกลับมาเงางาม นุ่มสลวย คืนความมีชีวิตชีวาให้กับเส้นผมอีกครั้ง และบอกเลยว่าตัวนี้เขาไม่ได้มีดีแค่เคราตินเท่านั้นนะ แต่ยังอุดมไปด้วยคุณค่าสารสกัดจากสมุนไพรที่ผ่านการหมักบ่มตามตำราแพทย์แผนตะวันออก อย่างสมุนไพรเกาหลีกว่า 19 ชนิด พืชธรรมชาติอีก 5 ชนิด และปิดท้ายด้วยสารสกัดจากดอกเบญจมาศป่าบนเกาะเชจู ออกมาเป็นทรีทเม้นท์สูตรพรีเมี่ยมที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวค่ะ
และนอกจากการบำรุงเส้นผมอย่างจัดเต็มแล้ว เขายังช่วยดีท็อกซ์เส้นผมและหนังศีรษะ เสริมความแข็งแรงและยืดหยุ่นให้กับเส้นผม ช่วยลดปัญหาผมขาดหลุดร่วง ปัญหากวนใจระดับชาติของสาว ๆ รับรองเลยว่าถ้าใช้อย่างต่อเนื่อง สุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ด้วยความที่ดีงาม คุณภาพจัดเต็ม ก็ทำให้มีราคาที่แอบแรงกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ แต่ถ้างบไม่ใช่ปัญหา จัดไป เส้นผมดีขึ้นจริง ๆ ค่า
ปริมาณ | 400 ml |
ส่วนประกอบสำคัญ | เคราติน, สารสกัดจากสมุนไพร, สารสกัดจากดอกเบญจมาศป่า |
เหมาะสำหรับ | ปัญหาผมลีบแบนและผมแห้งเสีย |
9. FULUKO ครีมหมักผมเคราติน ชนิดไม่ต้องล้างออก
ราคาโดยประมาณ 78 บาท
ในวันรีบ ๆ จะให้มาทำผมแบบฟูลคอร์สทั้งทีก็คงไม่มีเวลา แต่ผมแห้งเสียแบบนี้จะให้ออกไปเจอหน้าใคร ๆ ก็กระไรอยู่ งั้นมาทำความรู้จักกับครีมหมักผมเคราตินสูตรไม่ต้องล้างออก แถมไม่ต้องอบไอน้ำ รับรองชีวิตง่ายขึ้นเยอะ ทั้งยังช่วยฟื้นฟูเส้นผมได้อย่างด่วนจี๋ทันใจ ซึมลึกถึงภายใน ไม่ก่อให้เกิดฟิล์มระเหย ช่วยให้ผมแห้งกลับมายืดหยุ่น ลดอาการชี้ฟูหรือแตกปลาย ช่วยซ่อมแซมผมเสียจากการการทำเคมีแบบครบสูตร ไม่ว่าจะเป็นทำสี, ดัด, ยืด หรือแม้แต่หนีบไดร์ก็เอาอยู่ค่ะ
นอกจากเคราตินแล้วเขายังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่จำเป็นต่อเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหอมระเหยจากโรสแมรี่, น้ำมันเมล็ดคามีเลีย, น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันโรสฮิป, น้ำมันโจโจ้บา และน้ำมันอาร์แกน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผม ซ่อมแซมเกล็ดผมตั้งแต่รากจนถึงปลาย ให้ผมเปล่งประกาย จัดทรงง่าย และเงางาม เหมาะสำหรับคนที่รักสะดวกและในวันรีบ ๆ อย่างยิ่งเลยค่ะ
ปริมาณ | 200 g |
ส่วนประกอบสำคัญ | เคราติน, น้ำมันหอมระเหยจากโรสแมรี่, น้ำมันเมล็ดคามีเลีย, น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันโรสฮิป, น้ำมันโจโจ้บา และน้ำมันอาร์แกน |
เหมาะสำหรับ | ผมแห้งเสียจากการทำเคมี |
10. MISTINE KERATIN HAIR TREATMENT
ราคาโดยประมาณ 179 บาท
อีกหนึ่งแบรนด์ที่คนไทยคุ้นหูกันดีอย่าง MISTINE มาพร้อมกับทรีทเม้นท์เคราตินสูตรเข้มข้น ที่ช่วยปรับสภาพผมที่เคยเสียจากการทำผมให้กลับมาสุขภาพดีได้ทันตา ด้วยเทคโนโลยีแบบพิเศษพร้อมคุณค่าของ 3 Size Keratin Protein ซึมลึกเข้าสู่แกนผมได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดความหยาบกระด้างของเส้นผม ลดโอกาสการเปราะขาดหลุดร่วง ทั้งยังผสานด้วยเนื้อ Aloe butter ที่ช่วยให้เส้นผมที่ผ่านการทำสี, ยืด หรือดัดลอน ได้คงสีสัน, ผมเรียบตรงสวย และลอนคงรูปอย่างที่สาว ๆ วาดหวังเอาไว้ค่ะ
ครีมหมักผมเคราตินของ MISTINE เขายังมีตัวช่วยมากประสิทธิภาพ อย่าง Animo Acid Moisturizer และ Gold Omega Oil ที่จะเข้าช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ให้ผมดูสลวย ไม่แห้งกรอบแม้ผ่านการทำเคมีมา พร้อมทั้งยังช่วยให้เส้นผมสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดียิ่งขึ้น หมดปัญหาผมแห้งเสียเป็นไม้กวาด เหลือแค่ผมที่นุ่มสลวยอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมสู้ทุกการทำเคมีต่อจากนี้เลยค่ะ
ปริมาณ | 200 g |
ส่วนประกอบสำคัญ | เคราติน, Animo Acid Moisturizer และ Gold Omega Oil |
เหมาะสำหรับ | ผมแห้งเสียจากการทำเคมี |
เป็นยังไงกันบ้างกับ ครีมหมักผมเคราติน ยี่ห้อไหนดี ที่ทางเราได้รวบรวมมารีวิวให้ดูกันถึง 10 ยี่ห้อ ก็ไม่ทราบว่าสาว ๆ สนใจ อยากจะซื้อผลิตภัณฑ์ตัวไหน ยี่ห้อไหน ไปใช้หมักผมกันบ้างคะ ? ถึงแม้ว่าเคราตินจะช่วยให้เส้นผมกลับมาสุขภาพดี นุ่มฟูได้ แต่หากเราเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับลักษณะเส้นผมแล้วละก็ อาจจะทำให้เส้นผมเสียหายได้ในระยะยาว ดังนั้นก่อนเลือกซื้ออาจจะต้องเลือกซื้อให้ตรงกับสภาพของเส้นผมของเราด้วยค่ะ ก็เตือนกันแล้วน้าาา สาว ๆ
จบการศึกษาด้านอักษรศาสตร์ รู้สึกสนุกกับการเขียนรีวิวสินค้าหลาย ๆ อย่างโดยเฉพาะหนังสือ ของใช้ในบ้าน เน้นการเขียนรีวิวที่อ่านเข้าใจง่าย เข้าถึงทุกคน