หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินโฆษณา หรือมีคนมาบอกว่า ทานคอลลาเจนสิ ช่วยให้ผิวขาวได้นะ ทานแล้วผิวดีขึ้น ผิวสวยขึ้น ผิวดูสุขภาพดีขึ้นด้วย ก็เอาจริง ๆ ถือเป็นความเข้าใจที่ “ทั้งถูกและไม่ถูก” ปน ๆ กันอยู่ อีกทั้งเดี๋ยวนี้ ก็มีคอลลาเจนหลาย ๆ ยี่ห้อ บอกตัวเองว่าเป็น “คอลลาเจนผิวขาว” ทานแล้วขาวขึ้นชัวร์ แต่จะขาวขึ้นจริงหรือ ? วันนี้จึงอยากจะมาไขข้อข้องใจให้ทุก ๆ คนได้ทราบกันว่า สรุปคอลลาเจนผิวขาวช่วยให้ผิวขาวขึ้นจริงไหม ? สมควรที่จะทานหรือเปล่า ? ถ้าอยากจะทานควรจะซื้อ ยี่ห้อไหนดี ? ก็ที่บทความนี้ มีคำตอบไว้หมดแล้ว ไปเคลียร์ปมประเด็นต่าง ๆ พร้อม ๆ กันที่ด้านล่างเลยค่าา
สารบัญ
มาดูผลลัพธ์และสรรพคุณของคอลลาเจนจากงานวิจัยกันสักนิด
ได้มีงานวิจัยชื่อ “A Collagen Supplement Improves Skin Hydration, Elasticity, Roughness, and Density: Results of a Randomized, Placebo-Controlled, Blind Study” (อ่านงานวิจัยตัวเต็มได้ที่นี้) ที่จะทำการศึกษาว่า เมื่อทานอาหารเสริมคอลลาเจนแล้ว จะสามารถช่วยบำรุงผิวพรรณในเรื่องของ ความชุ่มชื้น, ความยืดหยุ่น, ความหยาบกร้าน และความเต่งตึงของผิว ได้หรือไม่ โดยจะทำการทดลองกับกลุ่มผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ทานอาหารเสริมจริง ๆ กับอีกกลุ่มที่ทานแบบยาหลอก (หรือของปลอม) ค่ะ
ก็จากการทำการทดลอง เก็บค่าสถิติ เป็นระยะเวลาประมาณ 12-16 สัปดาห์ ก็สามารถสรุปถึงผลลัพธ์ของการทานคอลลาเจนได้ว่า กลุ่มผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป เมื่อทานอาหารเสริมคอลลาเจนเพิ่มเติมจากการทานอาหารปกติแล้ว จะเห็นว่า มีผิวพรรณที่ดีขึ้นในทุกด้านที่ทำการทดสอบ ไม่ว่าจะ เรื่องของความชุ่มชื้นในผิวที่ดีขึ้น (แต่ไม่มากนัก) และผิวก็มีความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงความหยาบกร้าน ริ้วรอยต่าง ๆ ก็แลดูลดน้อยลง เต่งตึงกระชับมากขึ้นด้วย อีกทั้งไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ที่เกิดขึ้นต่อร่างกาย แต่ต้องทานอย่างน้อยนานถึง 3 เดือน ถึงจะเริ่มเห็นผลของผิว ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า การทานอาหารเสริมคอลลาเจนช่วยให้ผิวพรรณดูแข็งแรง ดูสุขภาพดี ดูสวยขึ้นได้ค่ะ
แล้ว “คอลลาเจนผิวขาว” ช่วยให้ผิวขาวจริงไหม ?
ถ้าตอบตามหลักวิทยาศาสตร์ งานค้นคว้า และงานวิจัยแล้วล่ะก็ สามารถตอบได้แบบเต็มปากเต็มคำเลยล่ะค่ะว่า คอลลาเจนนั้น “ไม่สามารถช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นได้แต่อย่างใด” (แม้แต่งานวิจัยด้านบนเอง ก็ไม่แสดงถึงผลลัพธ์เรื่องผิวขาว) แต่การที่คอลลาเจนบางยี่ห้อโฆษณาว่า ทานแล้วช่วยให้ผิวขาว หรือหลาย ๆ คนอาจจะซื้อยี่ห้อนั้น ๆ มาทานแล้วเห็นผลเรื่องผิวขาวได้จริง นั้นก็เป็นเพราะว่า ยี่ห้อเหล่านั้นมี “ส่วนผสมของสารอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นได้” เช่น มีการเพิ่มส่วนผสมของวิตามิน C หรือกลูต้าไธโอน เป็นต้น
ดังนั้นถ้าถามว่า ควรจะซื้อพวกยี่ห้อที่โฆษณาว่าเป็น คอลลาเจนผิวขาวทานดีไหม ?? โดนส่วนตัวมองว่า ก็สามารถหาซื้อไปทานกันได้ ทานแล้วได้คุณสมบัติของทั้งคอลลาเจนที่ช่วยเรื่องปัญหาริ้วรอย รวมถึงได้เรื่องความขาวกระจ่างใสจากส่วนผสมอื่น ๆ แต่ถ้าเทียบกับการทานยี่ห้ออาหารเสริมที่เป็นคอลลาเจนโดยตรง หรืออาหารเสริมผิวขาวโดยตรงแล้ว การทานคอลลาเจนผิวขาวดูจะ “ไม่ค่อยคุ้มค่า” สักเท่าไรนัก เพราะคอลลาเจนผิวขาวยี่ห้อส่วนใหญ่จะมี “ปริมาณ” ของทั้งคอลลาเจนที่ค่อนข้างน้อย รวมถึงส่วนผสมเรื่องผิวขาวก็น้อยด้วย หรือถ้ายี่ห้อไหนที่มีคอลลาเจนเข้มข้น ส่วนผสมผิวขาวเข้มข้น ก็จะมีราคาที่แร๊งงงมากก แพงมากกกกค่ะ
แต่ถ้าคิดว่าโอเค ไม่เป็นไร อยากทานยี่ห้อที่เป็นคอลลาเจนผิวขาวนี้แหละ เพราะง่ายดี สะดวก ไม่ต้องทานอาหารเสริมหลายตัว และเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แต่แค่ไม่รู้ว่าจะซื้อ ยี่ห้อไหนดี ถ้ายังงั้นเราขอแนะนำเป็นยี่ห้อ 21st Century Super Collagen Plus Vitamin C จาก USA เลยค่ะ โดยปริมาณคอลลาเจนจะอยู่ที่เม็ดละ 1,000 mg ก็ไม่ได้เข้มข้นมากที่สุด แต่ก็อยู่ในระดับที่ดี ส่วนการ Plus Vitamin C (สารอาหารที่จะช่วยให้ผิวขาว) ที่เม็ดละ 10 mg ก็ถ้าเทียบกับพวกอาหารเสริมวิตามิน C โดยตรงแล้ว ถือว่าน้อยมากมากกกกกก แต่ถ้าเทียบกับคอลลาเจนผิวขาวยี่ห้ออื่น ๆ 21st Century ตัวนี้ถือว่า ค่อนข้างคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดค่ะ
ขอแนะนำ คอลลาเจนผิวขาว ยี่ห้อ 21st Century Super Collagen Plus Vitamin C
ราคาโดยประมาณ 500 บาท ต่อ 180 เม็ด
ประเภท | เม็ด |
Collagen ต่อ 1 เม็ด | 1,000 mg |
สารอาหารอื่น ๆ | วิตามิน C 10 mg |
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน | 6 เม็ด แบ่งออกเป็นสามเวลาอย่างละ 2 เม็ด และควรทานตอนท้องว่าง |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
แนะนำทางเลือกอาหารเสริมอื่น ๆ นอกจาก “คอลลาเจนผิวขาว”
ก็ถ้าคิดว่า อาหารเสริมที่เป็นคอลลาเจนผิวขาวโดยตรงนั้นไม่คุ้ม อยากจะหาซื้ออาหารเสริมผิวขาวโดยเฉพาะทานมากกว่า มีความเข้มข้นของส่วนผสมมากกว่า เราขอแนะนำว่า ก็ไปทานพวกวิตามิน C หรือกลูต้าไธโอนโดยตรงเลยก็ได้ หรือถ้าอยากจะรู้ว่า อาหารเสริมผิวขาวมีอะไรบ้าง และควรจะซื้อ ยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำให้เข้าไปอ่านที่บทความด้านล่างได้เลย ทางเราได้เขียนแยกไว้ให้โดยเฉพาะอยู่แล้วค่าา
แต่ถ้าไม่มีเวลากดเข้าไปอ่าน หรืออยากจะให้เราแนะนำมาเลยว่า ทานอาหารเสริมผิวขาวชนิดไหนดี ยี่ห้อไหนดี เราก็ขอแนะนำว่า ให้ทาน “วิตามิน C” ก่อนเลยค่ะ เพราะถือเป็นสารอาหารที่บำรุงผิวได้ทั้ง ครอบคลุม ครอบจักรวาลมากกก ทั้งช่วยทำให้ผิวขาว (แต่ต้องทานนานหน่อยนะ อย่างน้อยสัก 14 วัน ถึงจะเริ่มเห็นผล) และยังช่วยปกป้องผิวจากสารอนุมูลอิสระตัวร้ายที่ก่อให้เกิดริ้วรอย รวมถึงยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และที่สำคัญหาซื้อง่าย ราคาไม่แพง โดยรวมถือเป็น สารอาหารที่ช่วยบำรุงผิวได้แบบคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุดตัวหนึ่ง ส่วนจะซื้อยี่ห้อไหนดีนั้น ขอแนะนำตัวด้านล่างเลยค่ะ ( มีวิตามิน C ที่เข้มข้นถึง 500 mg สูงกว่า คอลลาเจนผิวขาวเยอะะะะะ)
ขอแนะนำ วิตามิน C ยี่ห้อ + Kirkland Signature +
ราคาโดยประมาณ 850 บาท ต่อ 500 เม็ด
ประเภท | เม็ด เคี้ยวหรืออมละลายในปากได้ |
ปริมาณ Vitamin C ต่อหน่วยบริโภค | 500 mg |
สารอาหารเพิ่มเติม | – |
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน | 2 เม็ด ตอนเช้า 1 และตอนเย็น 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
ลักษณะของแพ็กเกจ | ขวดพลาสติก มีฝาเปิดปิด |
สัญชาติ | สหรัฐ |
ปราศจากน้ำตาล | ✓ ใช้สารให้ความหวานทดแทน |
เป็นยังไงกันบ้างคะ จากที่ได้อ่านเนื้อหามาเนี่ย ก็น่าจะได้ความรู้ความเข้าใจถึงเจ้า “คอลลาเจนผิวขาว” กันมากขึ้นแล้วเนาะ สรุปก็คือ คอลลาเจนเป็นสารอาหารที่ไม่ได้ช่วยเรื่องผิวขาวเลย แต่จะไปช่วยบำรุงผิวด้านอื่น ๆ แทน แต่ที่ทำให้ผิวขาวขึ้นได้ก็คือ ส่วนผสมเพิ่มเติมที่ใส่เข้ามา ดังนั้นจึงต้องแยกความต้องการก่อนว่า อยากจะบำรุงผิวด้านไหน ถ้าเน้นแต่เรื่องผิวขาว ก็ไปทานอาหารเสริมผิวขาวไปเลยดีกว่า แต่ถ้าผิวเริ่มมีริ้วรอย หรือมีอายุมากขึ้นแล้ว (ลองสังเกตผู้สูงอายุที่มีผิวเหี่ยวย่น ก็เพราะผิวเกิดการสูญคอลลาเจนนั่นเอง) ก็ควรที่จะทานคอลลาเจนเพิ่มเติม แต่ถ้าอยากได้ทั้ง 2 ก็เลือกเอาว่าจะทาน คอลลาเจนผิวขาวไปเลย หรือจะทานคอลลาเจน 1 และอาหารเสริมผิวขาวอีก 1 ค่าา
ส่วนใครยังอยากเพิ่ม่ความขาวอยู่แนะนำให้อ่านบทความอื่นต่อตามด้านล่าง
บรรณาธิการที่มีประสบการณ์ในการเขียนรีวิวสินค้าหลายชนิด
- สุขภาพ: อาหารเสริม, ออกกำลังกาย, การดูแลผิวพรรณ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: สมาร์ทโฮม, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องใช้ในบ้าน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- ของกิน: ขนมหวาน เครื่องดื่ม, อาหารสุขภาพ, และเทรนด์อาหารอื่น ๆ