ถ้าได้หลงเข้ามาอ่านที่บทความนี้ “น้ำมันกระเทียม” / “กระเทียมสกัด” ยี่ห้อไหนดี แสดงว่า กำลังมอง ๆ หาอาหารเสริมประเภทกระเทียม เพื่อทานเพิ่มเติมการบำรุงแก่ร่างกายกันอยู่ใช่ไหมล่ะครับ? ก็ถือว่า มาได้ถูกที่แล้ว เพราะทางผมได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาหารเสริมทั้ง 2 ประเภทมาให้ดูกันว่า มีความแตกต่างกันอย่างไร มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร เลือกซื้อแบบไหนดี รวมถึงมีรีวิวให้ดูอีก 10 ยี่ห้อที่น่าสนใจ น่าเลือกซื้อไปทานกันด้วย ก็รับรองว่า เมื่ออ่านจนจบแล้ว มีสิทธิได้เสียเงินซื้อน้ำมันกระเทียมหรือกระเทียมสกัด 1 ใน 10 ยี่ห้อนี้แหละ ไปทานกันแน่ ๆ ครับ
สารบัญ
ความแตกต่างของ “น้ำมันกระเทียม” กับ “กระเทียมสกัด”
หลัก ๆ เลยทั้ง 2 จะแตกต่างกันที่ กระบวนการผลิตและกระบวนการสกัด โดยถ้าเป็นน้ำมันกระเทียม ก็จะทำการสกัดกระเทียมจนให้ได้น้ำมันออกมา แล้วนำไปผสมกับน้ำมันพืชชนิดต่าง ๆ กลายมาเป็นเม็ดนิ่มที่ให้คนเราได้ทานกัน ส่วนกระเทียมสกัด ก็จะไม่ใช่น้ำมัน แต่จะสกัดกระเทียมจนเป็นผง ๆๆ ซึ่งเหมาะมากสำหรับการนำไปใช้ประกอบอาหาร หรือถ้าเป็นอาหารเสริมก็มักจะบรรจุอยู่ในรูปแบบแคปซูล แต่ปัจจุบันนี้ กระเทียมสกัดไม่ได้มีแต่รูปแบบเป็นผง ๆ เท่านั้น ทางผู้ผลิตอาหารเสริมส่วนใหญ่ก็ได้นำสารสกัดผง ๆ นี้ ไปผสมกับน้ำมันพืชต่าง ๆ กลายออกมาเป็นแบบเม็ดนิ่มที่เหมือนกับน้ำมันกระเทียม จนอาจจะแยกทั้ง 2 ออกจากกันไม่ได้เลยครับ
แล้วถ้าถามว่า แบบไหนมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่ากัน? ขอบอกเลยว่า มีประโยชน์ทั้งคู่ สามารถเลือกซื้อแบบไหนมาทานก็ได้ โดยถ้าพูดถึงประโยชน์ของกระเทียมเนี่ย จะมีประโยชน์เยอะมากกก ไม่ว่าจะ มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายอย่างหลากหลาย เช่น วิตามิน B6, C แมงกานีส, ซิลิเนียม และไฟเบอร์ รวมถึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้การเป็นหวัดหายได้ไวขึ้น (ดูงานวิจัยได้ที่นี้)
และที่สำคัญเลยที่หลาย ๆ คนทานกระเทียมกันก็เพื่อ ช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดไขมันคอเลสเตอรอลและไขมันไตรกลีเซอไรด์ จึงช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจได้ดี นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยสาร Anti-Oxidant ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ต่าง ๆ จากการเสื่อมของสารอนุมูลอิสระได้ด้วย เท่านั้นยังไม่พอ สำหรับใครที่ชอบออกกำลังกาย, สายนักกีฬา และสายนักเล่นกล้าม การทานกระเทียมเสริม จะช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นด้วย (ดูจากวิจัยได้ที่นี้) ก็เห็นประโยชน์กันเยอะขนาดนี้แล้ว ต้องทานกระเทียมกันเพิ่มเติมแล้วละครับ
เลือกซื้ออาหารเสริม “น้ำมันกระเทียม” / “กระเทียมสกัด” อย่างไรดี?
ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่า ไม่ว่าจะอาหารเสริมชนิดใด ๆ ก็ตาม การได้ทาน “ของสด” จะมีประโยชน์และดีต่อร่างกายมากที่สุด เพราะฉะนั้น ถ้าชอบทานกระเทียมสด ๆ เป็นประจำ ทำอาหารที่ใช้กระเทียมสดเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว หรือสามารถหาซื้อกระเทียมสด ๆ ทานได้ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้ออาหารเสริมน้ำมันกระเทียมกับกระเทียมสกัดมาทานให้เปลืองเงินเลยครับ แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ การซื้ออาหารเสริมกระเทียมมาทานก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีความสะดวก, ทานง่าย ไม่ยุ่งยาก อีกทั้งกลิ่นไม่แรงเท่าพวกของสด และไม่ทำให้ปากเหม็น (หลังจากกินกระเทียมสด ๆ เข้าไป ปากเหม็นทุกคนเน้อ) รวมถึงยังจัดเก็บได้ง่ายมากอีกด้วย
ส่วนจะเลือกซื้ออาหารเสริมกระเทียมแบบไหนดีนั้น หลัก ๆ ให้ดูที่ “ความเข้มข้น” ของปริมาณกระเทียมดูก่อน ยิ่งมีความเข้มข้นสูง ๆ ก็จะยิ่งดีต่อร่างกาย แต่ระวังนิดหนึ่ง เพราะแต่ละยี่ห้อใช้น้ำมันหรือสารสกัดกระเทียมที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ความเข้มข้นหลาย ๆ ยี่ห้อจะดูแตกต่างกันเยอะมาก แล้วดูเหมือนไม่เข้มข้น แต่พอนำมาเทียบเท่ากับปริมาณการทานกระเทียมสดแล้ว จะพอ ๆ กันครับ เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากคิดมาก ให้เน้นดูที่ค่า “เทียบเท่ากับปริมาณการทานกระเทียมสด” เป็นหลักเลยครับ
นอกจากเรื่อง ความเข้มข้นกันแล้ว อาจจะลองดูที่ “ส่วนผสมเพิ่มเติม” กันสักนิด เพราะน้ำมันกระเทียมหรือกระเทียมสกัดหลาย ๆ ยี่ห้อ จะชอบใช้น้ำมันถั่วเหลืองเป็นหลัก แต่จะมีบางยี่ห้อที่จะใช้น้ำมันพืชชนิดอื่นที่มีประโยชน์มากกว่าและคุณภาพดีกว่า เช่น น้ำมันดอกทานตะวันหรือน้ำมันดอกคำฝอย เป็นต้น ก็ถ้าอยากได้ประโยชน์ที่มากกว่า บำรุงร่างกายได้ดีกว่า ให้เล็ง ๆ ซื้อยี่ห้อเหล่านี้ครับ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “น้ำมันกระเทียม” / “กระเทียมสกัด” ยี่ห้อไหนดี
ก็ถ้าใครอยากจะเห็นสินค้าแต่ละยี่ห้อ มาวางเรียงเปรียบเทียบกันให้เห็นสเปค เห็นความเข้มข้น เห็นราคากันแบบหมัดต่อหมัดไปเลยละก็ แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มด้านล่างได้เลยครับ
1. ยี่ห้อ MEGA We Care Garlic oil
ราคาโดยประมาณ 229 บาท ต่อ 100 เม็ด
น้ำมันกระเทียมยี่ห้อไทย อย่าง MEGA We Care Garlic oil ที่ทางแบรนด์ได้บอกมาว่า ใน 1 แคปซูลนิ่มจะมี Garlic Oil อยู่ 0.625 mg ก็ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ แล้ว จะมีความเข้มข้นค่อนข้างต่ำที่สุด แต่อย่าเพิ่งดูแค่ค่านี้เท่านั้น เพราะเมื่อนำไปเทียบเท่ากับปริมาณกระเทียมสดจะสูงถึง 1,875 mg เลยทีเดียว ก็ถือว่าสูง ๆ มาก ๆ สูงกว่ายี่ห้อจากสหรัฐหลายยี่ห้อเลย
แล้วที่สำคัญยี่ห้อนี้เค้ามีมาตรฐานรองรับคุณภาพการผลิตจาก BfArM จากประเทศเยอรมัน และ TGA จากประเทศออสเตรเลียเลยนะ อีกอย่างที่หลาย ๆ คนน่าจะชอบก็คือ ราคาถูกแบบสุด ๆ เพราะตกที่เม็ดละประมาณ 2 บาท นิดหน่อยเท่านั้น! ก็ถ้าอยากจะเริ่มลองทานน้ำมันกระเทียม และยังไม่รู้จะซื้อยี่ห้อไหนดี เริ่มจากตัวนี้ก่อนเลยครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Garlic Oil ต่อเม็ด | 0.625 mg |
ความเข้มข้นของ Garlic Extract ต่อเม็ด | – |
เทียบเท่ากับปริมาณกระเทียมสด | 1,875 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | N/A |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 3-8 เม็ด ครั้งละ 1-2 เม็ด หลังมื้ออาหาร 3 เวลา |
สัญชาติ | ไทย |
2. น้ำมันกระเทียม ยี่ห้อ Puritan's Pride Garlic Oil
ราคาโดยประมาณ 275 / 499 บาท ต่อ 100 / 250 เม็ด
Puritan's Pride เป็นยี่ห้อขายอาหารเสริมที่มีชื่อเสียงจากสหรัฐอเมริกา และมีขายอาหารเสริมกันหลากหลายชนิดเอามาก ๆ หนึ่งในนั้นก็คือ น้ำมันกระเทียมนั้นเองครับ โดยผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์จะมีความเข้มข้นสูงถึง 10 mg ต่อเม็ดเลยทีเดียว! ซึ่งค่อนข้างสูงกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ และยังเทียบเท่ากับการทานกระเทียมสดถึง 5,000 mg อีกด้วย แต่ถ้าใครคิดว่า 10 mg นั้นเยอะเกินไป ทางแบรนด์เขาก็มีขายความเข้มข้นแบบ 2 mg ด้วยนะครับ ก็หาซื้อแบบนี้มาลองทานดูก่อนได้
แต่ถ้าอยากจัดหนักจัดเต็ม ต้องจัดตัว 10 mg ไปเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทานหลายเม็ด และราคาก็ไม่แพงมากด้วย ตกเม็ดละประมาณ 2 บาทเท่านั้นเอง แต่ ๆ ขอเตือนนิดหนึ่งว่า แบบ 10 mg จะมีกลิ่นค่อนข้างรุนแรง ถ้าเป็นคนไม่ชอบของมีกลิ่น ก็แนะนำซื้อยี่ห้ออื่น ๆ ที่กลิ่นน้อยกว่า หรือซื้อยี่ห้อนี้แบบ 2 mg เพราะจะเป็นแบบไม่มีกลิ่นครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Garlic Oil ต่อเม็ด | 10 mg |
ความเข้มข้นของ Garlic Extract ต่อเม็ด | – |
เทียบเท่ากับปริมาณกระเทียมสด | 5,000 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันพืช |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหารใดก็ได้ |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
3. ยี่ห้อ Garlic Pearls
ราคาโดยประมาณ 165 บาท ต่อ 100 เม็ด
ถ้าพูดถึงน้ำมันกระเทียมที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงมากในบ้านเรา มียอดขายที่สูงเกินกว่า 10K ++ ในอินเตอร์เน็ทเลยทีเดียว ต้องยกให้กับยี่ห้อ Garlic Pearls จากประเทศอินเดียเลยครับ โดยถ้าดูจากตารางด้านล่าง จะเห็นว่ามีความเข้มข้นของกระเทียมที่ 0.5%w/w ผสมในน้ำมันพืช 250 mg ก็ถ้าเทียบเป็นน้ำหนักของน้ำมันกระเทียมออกมา จะตกที่ความเข้มข้น 1.25 mg ต่อเม็ดเท่านั้น ความเข้มข้นสู้ยี่ห้อด้านบนแบบไม่ได้เลย
แต่ทางแบรนด์เอง เขาก็แนะนำให้ทานครั้งละ 1-2 เม็ด หลังมื้ออาหาร 3 เวลา ก็จะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นถึง 3.75 – 7.5 mg ต่อวัน ก็เหมาะสำหรับคนที่อยากทานน้ำมันกระเทียมที่ความเข้มข้นไม่สูงมาก แล้วไปทานเพิ่มโดสเอาเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบเรื่องราคาแล้ว ก็ดูจะแพงกว่ายี่ห้อด้านบน เพราะต้องทานหลายเม็ดถึงจะได้ความเข้มข้นเท่ากันครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Garlic Oil ต่อเม็ด | 0.5%w/w ผสมในน้ำมันพืช 250 mg เทียบเท่าเป็นน้ำหนักที่ 1.25 mg |
ความเข้มข้นของ Garlic Extract ต่อเม็ด | – |
เทียบเท่ากับปริมาณกระเทียมสด | N/A |
ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันพืช |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 3-6 เม็ด ทาน 1-2 เม็ด หลังมื้ออาหาร 3 เวลา |
สัญชาติ | อินเดีย |
4. ยี่ห้อ Mason Natural Garlic Oil
ราคาโดยประมาณ 180 บาท ต่อ 100 เม็ด
Mason Natural Garlic Oil เป็นน้ำมันกระเทียมอีกหนึ่งยี่ห้อจากสหรัฐอเมริกาที่มียอดขายใช้ได้เลยในบ้านเรา โดยถ้าดูเรื่องของความเข้มข้นแล้วละก็ จะตกที่เม็ดละ 2 mg ก็ถือว่าน้อยกว่า Puritan's Pride ตัวด้านบน แต่ก็มากกว่า Garlic Pearls นิดหนึ่ง โดยรวมจะมีความเข้มข้นอยู่ในช่วงกลาง ๆ ซึ่งก็เหมาะสำหรับการเริ่มลองทานอาหารเสริมน้ำมันกระเทียมมาก ส่วนราคาก็ถือว่าไม่ได้ถูกไม่ได้แพง ตกเม็ดละประมาณ 1.8 บาท ก็ยังพอจับจ่ายซื้อกันได้สบาย ๆ อยู่ครับ
แต่จุดเด่นที่ไม่เหมือนกับยี่ห้ออื่น ๆ ก็คือ ทาง Mason ได้ใช้ “น้ำมันดอกทานตะวัน” เป็นส่วนผสม ซึ่งถือว่าเป็นน้ำมันพืชชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ก็สำหรับใครที่อยากได้ประโยชน์เพิ่มเติมมากกว่าแค่การทานน้ำมันกระเทียม แนะนำยี่ห้อ Mason เลยครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Garlic Oil ต่อเม็ด | 2 mg |
ความเข้มข้นของ Garlic Extract ต่อเม็ด | – |
เทียบเท่ากับปริมาณกระเทียมสด | 1,000 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันดอกทานตะวัน |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหารใดก็ได้ ถ้าน้อยไปให้เพิ่มเป็น 2-3 เม็ด |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
5. ยี่ห้อ Now Foods Garlic Oil
ราคาโดยประมาณ 235 / 399 บาท ต่อ 100 / 250 เม็ด
มาดูอีกหนึ่งยี่ห้อน้ำมันกระเทียมจากสหรัฐอเมริกาที่น่าสนใจ และมีความเข้มข้นที่อาจจะไม่ได้สูงที่สุด แต่ก็มากกว่าหลาย ๆ ยี่ห้ออย่าง Now Foods Garlic Oil กันเลยครับ โดยจะมีความเข้มข้นของ Garlic Oil ต่อเม็ดที่ 3 mg (เทียบเท่ากับการทานกระเทียมสด 1,500 mg) ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ก็เดิม ๆ ไม่มีอะไรแตกต่างกันมากนัก แต่ราคาแอบน่าสนใจ เพราะถ้าซื้อกระปุกใหญ่ที่ 250 เม็ด จะตกเม็ดละประมาณ 1.6 บาทเท่านั้น ถูกกว่า Mason และได้ความเข้มข้นมากกว่าด้วย ก็ยังไงถ้าไม่อยากได้ความเข้มข้นสูงมากอย่างยี่ห้อ Puritan's Pride และไม่อยากได้ความเข้มข้นต่ำเกิน ยี่ห้อนี้ ตอบโจทย์ครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Garlic Oil ต่อเม็ด | 3 mg |
ความเข้มข้นของ Garlic Extract ต่อเม็ด | – |
เทียบเท่ากับปริมาณกระเทียมสด | 1,500 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันถั่วเหลือง |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 3 เม็ด ครั้งละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
6. ยี่ห้อ Healthy Care Garlic Oil
ราคาโดยประมาณ 369 บาท ต่อ 150 เม็ด
เบื่อกับยี่ห้อจากสหรัฐกันอยู่หรือเปล่า? ถ้ายังงั้นลองมาดูยี่ห้อจากดินแดนทางใต้อย่าง Healthy Care Garlic Oil จากออสเตรเลียกันเลยครับ โดยถ้าดูจากตารางด้านล่างจะเห็นว่า มีความเข้มข้นของ Garlic Oil เพียงแค่ 1.67 mg เท่านั้น ซึ่งก็น้อยกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ แต่ ๆๆ ต้องดูที่ค่าเทียบเท่ากับกระเทียมสดด้วย เพราะยี่ห้อนี้เมื่อเทียบเท่าแล้ว จะสูงถึง 5,000 mg เท่ากับ Puritan's Pride ตัวด้านบนเลยทีเดียว และที่พิเศษกว่าใคร ๆ ก็คือ มีกลิ่นค่อนข้างอ่อนมาก จึงช่วยให้ทานได้ง่ายดี (ยี่ห้ออื่น ๆ จะค่อนข้างมีกลิ่นแรงตามสไตล์ของกระเทียม) ก็ถ้าใครที่ทนกลิ่นเหม็น ๆ ไม่ไหว แนะนำยี่ห้อนี้เลยครับ แต่ราคาต่อเม็ดค่อนข้างแพงเน้อ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Garlic Oil ต่อเม็ด | 1.67 mg |
ความเข้มข้นของ Garlic Extract ต่อเม็ด | – |
เทียบเท่ากับปริมาณกระเทียมสด | 5,000 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันถั่วเหลือง |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหารใดก็ได้ |
สัญชาติ | ออสเตรเลีย |
7. ยี่ห้อ Solgar Garlic Oil Perles
ราคาโดยประมาณ 1,075 บาท ต่อ 250 เม็ด
ยี่ห้อ Solgar เป็นน้ำมันกระเทียมที่ต้องขอบอกเลยว่า ถ้างบมีจำกัดละก็ ข้ามผ่านไปได้เลยครับ เพราะมีราคาที่แพงมากกกก โดยจะตกเม็ดละประมาณ 4 บาทกว่า ๆ เลยทีเดียว ซึ่งแพงกว่ายี่ห้อบน ๆ 2-3 เท่า แต่ด้วยความที่ราคาแพงก็ทำให้มีคุณภาพสูง และมีเกรดค่อนข้าง Premium กว่าด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าดูจากตารางด้านล่าง จะเห็นว่ามีความเข้มข้นแค่ 1 mg ต่อเม็ดเท่านั้น และยังเทียบเท่ากระเทียมสดเพียงแค่ 500 mg อีกด้วย เรียกได้ว่า เรื่องความเข้มข้นแพ้ชิดซ้ายแพ้หลาย ๆ ยี่ห้อเลยครับ
แล้วมีดีที่ตรงไหน? ก็ตรงที่ใช้ “น้ำมันดอกคำฝอย” เป็นส่วนผสมเพิ่มเติมเท่านั้น ในขณะที่ยี่ห้ออื่น ๆ ยี่ห้อทั่ว ๆ ไปจะใช้น้ำมันถั่วเหลืองเป็นหลัก ซึ่งน้ำมันดอกคำฝอยเนี่ย ก็จะมีคุณภาพและประโยชน์ที่ดีกว่าน้ำมันถั่วเหลือง โดยจะมาช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด, ลดคลอเลสเตอรอล, ป้องกันการเกิดอาการอักเสบต่าง ๆ และช่วยส่งเสริมสุขภาพของหัวใจ ก็พูดง่าย ๆ ว่า จะมาช่วยกันบำรุงร่างกายเพิ่มเติมจากน้ำมันกระเทียมนั้นเอง เท่านั้นยังไม่พอ น้ำมันดอกคำฝอยยังดีต่อผิว ช่วยให้ผิวพรรณมีความชุ่มชื้นนุ่มนวลอีกด้วย สมกับเป็นของเกรด Premium จริง ๆ ก็ถ้ามีงบละก็ อยากให้ลองทานกันดู แต่ถ้าไม่มี ก็ซื้อยี่ห้ออื่นทานเถอะครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Garlic Oil ต่อเม็ด | 1 mg |
ความเข้มข้นของ Garlic Extract ต่อเม็ด | – |
เทียบเท่ากับปริมาณกระเทียมสด | 500 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันดอกคำฝอย |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 2 เม็ด ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนหรือหลังมื้ออาหารเช้ากับเย็น |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
8. กระเทียมสกัด ยี่ห้อ Puritan's Pride Garlic Extract
ราคาโดยประมาณ 390 บาท ต่อ 100 เม็ด
เจอกับน้ำมันกระเทียมไปหลายยี่ห้อแล้ว คราวนี้ลองมาดูแบบกระเทียมสกัดกันบ้างดีกว่าครับ โดยจะขอเริ่มกับยี่ห้ออย่าง Puritan's Pride ที่นอกจากจะมีขายน้ำมันกระเทียมกันแล้ว (ที่ด้านบน) แบบกระเทียมสกัดก็มีขายกันด้วย แต่จะไม่ได้เป็นแบบผง ๆ นะครับ จะเป็นแบบนำสารสกัดผสมลงในน้ำมันถั่วเหลือง แล้วทำออกมาเป็นเม็ดนิ่ม ช่วยให้สะดวกในการทานไปเลย และยังทานง่ายกว่าพวกแบบที่เป็นแคปซูลเก็บผงไว้ภายในด้วย
แต่ถ้าดูจากความเข้มข้นที่ตารางด้านล่างแล้ว จะเห็นว่า มี Garlic Extract ต่อเม็ดที่ 10 mg ดูเหมือนจะความเข้มข้นสูงกว่าแบบพวกน้ำมันกระเทียม แต่เมื่อนำไปเทียบเท่ากับปริมาณกระเทียมสดแล้ว จะอยู่ที่ 1,000 mg เท่านั้น ก็จะแอบน้อยกว่าแบบน้ำมันกระเทียมหลายยี่ห้อเลยทีเดียว ส่วนราคาก็แอบแพงกว่าด้วย ตกเม็ดละประมาณ 3-4 บาท โดยรวมไม่ค่อยแนะนำให้ซื้อเท่าไร ซื้อยี่ห้ออื่น ๆ ทานจะดีกว่า แต่ยี่ห้อนี้มีข้อดีตรง ไม่มีกลิ่นเหม็น ๆ ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนไม่ชอบกลิ่นเหม็นครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้นของ Garlic Oil ต่อเม็ด | – |
ความเข้มข้นของ Garlic Extract ต่อเม็ด | 10 mg |
เทียบเท่ากับปริมาณกระเทียมสด | 1,000 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันถั่วเหลือง |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 4 เม็ด ครั้งละ 1-2 เม็ด พร้อมกับมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
9. กระเทียมสกัด ยี่ห้อ Nature's Bounty Garlic Extract
ราคาโดยประมาณ 299 บาท ต่อ 100 เม็ด
Nature's Bounty เป็นอีกยี่ห้อจากสหรัฐอเมริกา ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า เรื่องอาหารเสริมเนี่ย หนีไม่พ้นประเทศนี้จริง ๆ ครับ โดยถ้าสังเกตข้อมูลจากตารางด้านล่างละก็ จะเห็นว่า มีรายละเอียดที่เหมือนกับยี่ห้อ Puritan's Pride Garlic Extract ตัวด้านบน แบบเหมือนกันเด๊ะ ๆ ทั้งเรื่องความเข้มข้นและส่วนผสมอื่น ๆ แต่ยี่ห้อนี้จะค่อนข้างมีกลิ่นเหม็นที่มากกว่า (แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก) และมีราคาที่ถูกกว่า ก็ถ้าไม่แคร์เรื่องกลิ่นอะไรมาก และสนใจอยากจะทานกระเทียมสกัด ก็เริ่มจากตัวนี้ดูก่อนก็ได้ครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้นของ Garlic Oil ต่อเม็ด | – |
ความเข้มข้นของ Garlic Extract ต่อเม็ด | 10 mg |
เทียบเท่ากับปริมาณกระเทียมสด | 1,000 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันถั่วเหลือง |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 4 เม็ด ครั้งละ 1-2 เม็ด พร้อมกับมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
10. กระเทียมสกัด ยี่ห้อ Kyolic Garlic Extract Cardiovascular Formula
ราคาโดยประมาณ 987 / 1,295 บาท ต่อ 100 / 200 เม็ด
ถ้ากำลังมองหากระเทียมสกัดที่มีความเข้มข้นสูง ๆ อยู่ละก็ ต้องขอแนะนำยี่ห้อ Kyolic สูตร Cardiovascular กันเลยครับ เพราะมีความเข้มข้นของสารสกัดกระเทียมที่สูงถึง 300 mg ต่อเม็ด และยี่ห้อนี้ ไม่ได้เป็นเม็ดนิ่ม เม็ดน้ำมันเหมือนยี่ห้ออื่น ๆ แต่จะเป็นแคปซูลที่บรรจุผง ๆ สกัดกระเทียมไว้ภายในเลย ทานแล้วคือได้สารอาหารจากกระเทียมแบบเต็ม ๆ แต่ก็อาจจะทำให้ทานยากกว่า และข้อเสียอีกอย่างก็คือ ราคาโหดร้ายมาก ตกเม็ดละเกือบ 10 บาทเลยครับ
อย่างไรก็ตาม ถึงจะแพงแต่ก็แลกมากับคุณภาพที่จัดเต็ม โดยได้มีรีวิวจากหลาย ๆ ท่านที่ได้ซื้อไปทาน ต่างก็บอกกันว่า ทานแล้วรู้สึกร่างกายกระชุ่มกระชวยมาก ๆ เห็นผลชัดเจนมากกว่ายี่ห้ออื่น ๆ พอไปตรวจสุขภาพ ผลการตรวจทั้งความดัน, น้ำตาลในเลือด และอีกหลาย ๆ อย่าง ก็มีผลไปในทางบวก ๆ กันด้วย ก็ถ้าไม่ติดเรื่องงบ ต้องขอแนะนำให้ทานครับ
ประเภท | แคปซูล |
ความเข้มข้นของ Garlic Oil ต่อเม็ด | – |
ความเข้มข้นของ Garlic Extract ต่อเม็ด | 300 mg |
เทียบเท่ากับปริมาณกระเทียมสด | N/A แต่น่าจะสูงมาก |
ส่วนผสมอื่น ๆ | ผงเวย์ |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 4 เม็ด ครั้งละ 1-2 เม็ด พร้อมกับมื้ออาหารเช้ากับเย็น |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เป็นยังไงกันบ้างครับ? ได้เห็น “น้ำมันกระเทียม” กับ “กระเทียมสกัด” ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วทั้งหมด 10 ยี่ห้อ 10 ตัวด้วยกัน สนใจอยากจะซื้อยี่ห้อไหน ไปทานเพื่อบำรุงร่างกายกันบ้าง?? ก็จากที่เห็น ๆ มา ก็จะมีความเข้มข้นที่หลากหลายเลยทีเดียว ก็ถ้าคิดว่า พวกความเข้มข้นสูง ๆ นั้นมากไป ก็เลือกซื้อแบบความเข้มข้นต่ำ ๆ มาทานดูก่อน แล้วค่อยทานจำนวนเม็ดเพิ่ม เพื่อเพิ่มความเข้มข้นเอาทีหลังก็ได้ ยังไงก็ขอให้ได้ยี่ห้อที่ถูกใจ ทานแล้วร่างกายแข็งแรงขึ้น ดีขึ้นกันด้วยครับผม
บรรณาธิการที่มีประสบการณ์ในการเขียนรีวิวสินค้าหลายชนิด
- สุขภาพ: อาหารเสริม, ออกกำลังกาย, การดูแลผิวพรรณ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: สมาร์ทโฮม, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องใช้ในบ้าน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- ของกิน: ขนมหวาน เครื่องดื่ม, อาหารสุขภาพ, และเทรนด์อาหารอื่น ๆ