หลาย ๆ คนที่ตอนเป็นเด็ก ๆ น่าจะเคยได้ทาน “น้ำมันตับปลา” (Cod Liver Oil) กันมาบ้างใช่ไหมล่ะครับ เพราะคุณพ่อคุณแม่ชอบซื้อมาให้ลูก ๆ ทาน (แอบแกมบังคับกันนิด ๆ) เพื่อเสริมสารอาหาร และที่สำคัญยังช่วยให้เด็ก ๆ เจริญอาหารกันอีกด้วย เด็กคนไหนที่เลือกกิน ทานยาก ไม่ชอบทานข้าว เจอน้ำมันตับปลาเข้าไป หิวข้าวเจริญอาหารกันเกือบทุกรายเลย แต่จริง ๆ อาหารเสริมตัวนี้ ผู้ใหญ่เองก็สามารถทานได้นะครับ ไม่ใช่เฉพาะสำหรับเด็ก ๆ เท่านั้น แต่ก็อาจจะงง ๆ ว่า มันคือตัวเดียวกันกับ “น้ำมันปลา” (Fish Oil) หรือเปล่า? ตัวไหนดีกว่ากัน? แล้วจะซื้อน้ำมันตับปลายี่ห้อไหนดี? ถ้างั้นตามมาเลยครับ
สารบัญ
น้ำมันตับปลา (Cod Liver Oil) กับน้ำมันปลา (Fish Oil) จริง ๆ แล้วคือ คนละตัวกัน
ถึงแม้ว่า อาหารเสริมทั้งสองจะมีชื่อที่คล้าย ๆ กัน แต่จริง ๆ แล้วถือว่าเป็น คนละตัว คนละชนิดกันนะครับ โดย “น้ำมันตับปลา” จะสกัดจากตับของปลาทะเล เช่น พวกปลาคอดหรือปลาทะเลน้ำลึกแถมฝั่งทะเลเหนือ ส่วน “น้ำมันปลา” จะสกัดได้จากส่วนหัว, หนัง, หาง และเนื้อของปลา ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมใช้ปลาทะเลน้ำลึกเช่นกัน อย่าง แซลมอน, ปลาแอนโชวี่ หรือปลาทูน่า เป็นต้น
| ที่ 1,000 mg | น้ำมันตับปลา | น้ำมันปลา |
| Omega 3 | 170 mg จะให้ DHA : 100 mg EPA : 70 mg ชนิดอื่น ๆ : – | 300 mg จะให้ DHA : 120 mg EPA : 180 mg ชนิดอื่น ๆ : – |
| วิตามิน A | 50 mcg | – |
| วิตามิน D | 10 mcg | – |
| วิตามิน E | – | 9.09 mg |
โดยอาหารเสริมทั้งสอง ก็จะให้สารอาหารที่มีความสำคัญต่อการบำรุงสมองเหมือนกันก็คือ กรดไขมัน Omega-3 โดยเจ้า Omega-3 ก็จะประกอบไปด้วย DHA และ EPA ซึ่งสาร 2 ตัวนี้แหละ จะมาช่วยกันบำรุงทั้งระบบประสาทและสมองให้มีสุขภาพดีนั้นเองครับ อย่างไรก็ตาม น้ำมันตับปลาจะให้กรด Omega-3 ที่น้อยกว่าน้ำมันปลา แต่ก็จะให้สารอาหารอย่าง วิตามิน A และวิตามิน D ในปริมาณที่ค่อนข้างสูงมาด้วย ทำให้เวลาทานน้ำมันตับปลาก็จะช่วยบำรุงร่างกายในหลาย ๆ ด้านมากกว่า ไม่ว่าจะสมอง, ดวงตา, กระดูก รวมถึงช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และยังช่วยลดความดันในกระแสเลือดได้ด้วยครับ
แล้วแบบนี้ จะเลือกซื้อน้ำมันตับปลายี่ห้อไหนดีละ?
ขอแนะนำว่าให้ดูที่ สารอาหารและปริมาณของแต่ละยี่ห้อที่ให้ก่อน เพราะบางยี่ห้อ จะให้น้ำมันตับปลาค่อนข้างน้อย จึงทำให้กรดไขมัน Omega-3, วิตามิน A และ D น้อยตามไปด้วย แต่พวกนี้ก็จะมีราคาที่ย่อมเยากว่าด้วยเช่นกัน ในขณะที่ยี่ห้อที่มีราคาค่อนข้างสูง ก็จะจัดเต็มด้าน Omega-3 อย่างเห็นได้ชัด ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แนะนำให้ซื้อแบบพวกนี้เลยครับ เวลาทานแล้วได้ Omega-3 แบบเน้น ๆ เต็ม ๆ ยิ่งเหมาะกับเด็กช่วงวัยเจริญเติบโตอีกด้วยครับ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “น้ำมันตับปลา” Cod Liver Oil ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่คิดว่า ไม่มีเวลาอ่านเนื้อหาทั้งหมด หรือต้องการอ่านแบบโดยรวมสรุปรวบยอดแล้วซะมากกว่า งั้นลองกดเข้าไปดูตารางเปรียบที่ปุ่มด้านสิครับ ทางผมได้ทำการสรุปแบบคร่าว ๆ ไว้ให้แล้ว ยี่ห้อไหนจะน่าสนใจ ให้สารอาหารอะไรบ้าง ดูตารางกันเลยครับ
1. ยี่ห้อ ChildLife® Pure Arctic Cod Liver Oil
ราคาโดยประมาณ 1,275 บาท ต่อ 237 ml
ถ้ากำลังมองหาน้ำมันตับปลาสำหรับเด็กคุณภาพระดับ Premium ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัยสูง ต้องขอแนะนำยี่ห้อ ChildLife® Pure Arctic Cod Liver Oil ตัวนี้เลยครับ เพราะให้กรดไขมัน Omega-3 ในปริมาณที่สูงมากกกกกก (ดูได้จากด้านล่าง) ซึ่งถือว่าสูงกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อเลยทีเดียว รวมถึงมีวิตามิน A และ D ที่สูง อีกทั้งยังเสริมเพิ่มวิตามิน E มาให้อีก และยังมีรสชาติสตรอว์เบอร์รีหวานอร่อยอีกด้วย เรียกได้ว่า เด็ก ๆ ทานแล้ว ได้รับการบำรุงแบบจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว แต่ด้วยสรรพคุณที่มากมายขนาดนี้ ก็ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างแพงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ แต่ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ต้องจัดแล้วครับ
| ประเภท | ของเหลว |
| Omega-3 ต่อ 1 ช้อนชา (5 ml) | 1,225 mg ให้ DHA : 600 mg EPA : 400 mg ชนิดอื่น ๆ : 225 mg |
| วิตามิน A | 67.5 mcg |
| วิตามิน D | 1 mcg |
| สารอาหารอื่น ๆ | วิตามิน E, 5.36 mg |
| ปริมาณที่ควรทาน | – เด็กทารก 6 เดือน จนถึง 1 ปี วันละ ½ ช้อนชา – เด็กอายุ 2-12 ปี วันละ 1-2 ช้อนชา |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
2. ยี่ห้อ Nordic Naturals Children's DNA
ราคาโดยประมาณ 790 บาท ต่อ 119 ml
Nordic Naturals Children's DNA อีกหนึ่งยี่ห้อน้ำมันตับปลาสำหรับเด็กที่น่าสนใจ เพราะให้ปริมาณกรดไขมัน Omega-3 ที่สูงเช่นกัน และยังมีวิตามิน A อีก 40 mcg ด้วย แต่ไม่มีสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติม และราคาเมื่อคิดออกมาเป็นราคาต่อหน่วยแล้ว ก็แอบแพงกว่ายี่ห้อด้านบนด้วย แต่เป็นน้ำมันตับปลาที่ทำมาจากปลาอาร์กติกธรรมชาติแถบทะเลเหนือ 100% น้ำมันตับปลาจึงมีคุณภาพที่สูงมาก ๆ นอกจากนี้ ก็มีรสชาติให้เลือกซื้อกัน 2 รสด้วยคือ รสส้มกับรสสตรอว์เบอร์รี ซึ่งหวานอร่อย ไม่มีกลิ่นคาวปลา ถูกใจเด็ก ๆ อย่างแน่นอนครับ
| ประเภท | ของเหลว |
| Omega-3 ต่อ 1 ช้อนชา (5 ml) | 1,060 mg ให้ DHA : 510 mg EPA : 340 mg ชนิดอื่น ๆ : 210 mg |
| วิตามิน A | 40 mcg |
| วิตามิน D | – |
| สารอาหารอื่น ๆ | – |
| ปริมาณที่ควรทาน | ทางแบรนด์แนะนำว่า เด็กอายุ 1-6 ปี วันละ ½ ช้อนชา |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
3. ยี่ห้อ SEVEN SEAS OCEAN GOLD
ราคาโดยประมาณ 99 บาท ต่อ 100 ml
ถ้าคิดว่า น้ำมันตับปลาสำหรับเด็ก 2 ยี่ห้อด้านบนนั้นแพงเกินไป งั้นลองมาดูยี่ห้อของคนไทย SEVEN SEAS OCEAN GOLD ที่มีราคาย่อมเยากันดีกว่าครับ แต่ด้วยการที่มีราคาย่อมเยากว่า ก็ต้องทำใจด้วยว่า กรดไขมัน Omega-3 ก็จะให้ปริมาณน้อยกว่าด้วย โดยจะให้เพียงแค่ 17 mg เท่านั้น แตกต่างจาก 2 ยี่ห้อด้านบนแบบลิบลับ แต่ก็ทดแทนด้วยสารอาหารอื่น ๆ โดยเฉพาะวิตามิน A และ D ที่ให้มาในปริมาณมาก และยังมีวิตามิน B อีกหลายชนิด รวมถึง C และ E ด้วย เรียกได้ว่า มีสารอาหารที่หลากหลายกว่า ครบถ้วนกว่า เพียงแค่ Omega-3 น้อยไปหน่อยเท่านั้นเองครับ
| ประเภท | ของเหลว |
| Omega-3 ต่อ 1 ช้อนชา (5 ml) | 17 mg ให้ DHA : 9 mg EPA : – ชนิดอื่น ๆ : 8 mg |
| วิตามิน A | 100 mcg |
| วิตามิน D | 5 mcg |
| สารอาหารอื่น ๆ | วิตามิน E 1.5 mg / วิตามิน B1, 0.7 mg / B2, 0.85 mg / B3, 9.00 mg / วิตามิน C 17.5 mg |
| ปริมาณที่ควรทาน | – เด็กอายุ 1-12 เดือน รับประทานวันละ ½ ช้อนชา (2.5 ml) – เด็กอายุ 1-4 ปี รับประทานวันละ 1 ช้อนชา (5 ml) – เด็ก 4 ปีขึ้นไป รับประทานวันละ 1½ ช้อนชา (7.5 ml) |
| สัญชาติ | ไทย |
4. ยี่ห้อ Cody Plus Cod Liver Oil
ราคาโดยประมาณ 50 บาท ต่อ 120 ml
Cody Plus Cod Liver Oil อีกหนึ่งยี่ห้อน้ำมันตับปลาสำหรับเด็กของคนไทยที่น่าสนใจ และมียอดขายที่ดีใช้ได้ในอินเทอร์เน็ต โดยถ้าดูจากสารอาหารที่ให้จากตารางด้านล่างจะเห็นว่า คุณค่าทางสารอาหารน้อยกว่าพวกยี่ห้อบน ๆ ทั้ง Omega-3 ที่น้อยกว่า, วิตามิน A และ D ก็น้อยกว่า อีกทั้งไม่มีสารอาหารเพิ่มเติมที่หลากหลายเหมือน SEVEN SEAS OCEAN GOLD ด้วย แต่ก็มีราคาที่ย่อมเยากว่ามาก ๆ ตกขวดละประมาณ 50 บาทเท่านั้น ส่วนรสชาติก็รสส้ม หวาน อร่อย ไม่เป็นสองรองใคร และยังไม่พอ มีคุณพ่อคุณแม่หลายคนได้บอกว่า ตั้งแต่ให้เด็ก ๆ ที่บ้านทานน้ำมันตับปลาตัวนี้ เด็ก ๆ ดูเจริญอาหารขึ้นกันมาก ๆ เลยครับ
| ประเภท | ของเหลว |
| Omega-3 ต่อ 1 ช้อนชา (5 ml) | 23.5 mg ให้ DHA : 13.0 mg EPA : 10.5 mg ชนิดอื่น ๆ : – mg |
| วิตามิน A | 5.25 mcg |
| วิตามิน D | 0.31 mcg |
| สารอาหารอื่น ๆ | – |
| ปริมาณที่ควรทาน | ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ 15 ml (เท่ากับ 3 ช้อนชา) วันละ 3 ครั้ง |
| สัญชาติ | ไทย |
5. ยี่ห้อ Scott's Emulsion Cod Liver Oil
ราคาโดยประมาณ 99 บาท ต่อ 200 ml
Scott's Emulsion เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อน้ำมันตับปลาราคาย่อมเยา รสชาติอร่อย และมีขนาดขวดค่อนข้างใหญ่ ซื้อทีทานได้นาน ๆ แต่ยี่ห้อนี้เขาไม่ได้ระบุมาว่า ให้ Omega-3 ที่เท่าไร เพียงแต่ระบุมาว่า ที่การทาน 17.25 กรัม (ประมาณช้อนโต๊ะนิด ๆ) ให้น้ำมันตับปลาคอด 17.25 mg ในขณะที่ยี่ห้อ Cody Plus+ ตัวด้านบน ที่ 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม) จะมีน้ำมันตับปลา 0.3 กรัม หรือ 300 mg ซึ่งมากกว่ายี่ห้อนี้ถึง 300-17.25 = 282.75 mg แสดงว่า ยี่ห้อนี้ มี Omega-3 ที่น้อยที่สุด แต่ก็ชดเชยด้วยแคลเซียมที่จะมาช่วยให้เด็ก ๆ มีกระดูกแข็งแรงและตัวสูงใหญ่ขึ้น ถ้าไม่อยากคิดมาก ก็ซื้อทั้งยี่ห้อบน ๆ และยี่ห้อนี้ ไปให้เด็ก ๆ ทานวนไปสิครับ
| ประเภท | ของเหลว |
| Omega-3 ต่อ 1 ช้อนชา (5 ml) | N/A (ค่อนข้างน้อยที่สุด) |
| วิตามิน A | 14.16 mcg |
| วิตามิน D | 0.7 mcg |
| สารอาหารอื่น ๆ | แคลเซียม 32.51 mg |
| ปริมาณที่ควรทาน | – เด็ก 1-6 ปี 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 1 ครั้ง – เด็ก 7-12 ปี 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 2 ครั้ง – เด็กและผู้ใหญ่ 12 ปีขึ้นไป 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 3 ครั้ง |
| สัญชาติ | มาเลเซีย |
6. ยี่ห้อ Puritan's Pride Flaxseed & Cod Liver Oil
ราคาโดยประมาณ 370 บาท ต่อ 100 เม็ด
ได้เห็นน้ำมันตับปลาสำหรับเด็ก ๆ ไปหลายยี่ห้อแล้ว คราวนี้ลองมาดูแบบเม็ด ๆ ที่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่กันบ้างกับ Puritan's Pride Flaxseed & Cod Liver Oil ที่นอกจากจะได้ประโยชน์ของน้ำมันตับปลาแล้ว ยังได้เพิ่มน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์เข้ามาด้วย จึงให้สารอาหารที่หลากหลายกว่ายี่ห้ออื่น ๆ (สามารถดูได้จากตารางด้านล่างที่มีการเพิ่ม Omega-6 และ 9) แต่ถ้าดูจากปริมาณของ DHA และ EPA แล้ว จะแอบน้อยกว่ายี่ห้อ Premium ChildLife® และ Nordic Naturals 2 ตัวด้านบน แต่ราคาก็ถูกกว่ามาก ๆ ตกเม็ดละประมาณ 4 บาทเท่านั้น อีกทั้งมีคุณภาพและมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกาด้วย ซึ่งถ้าอยากประหยัดเงิน ก็ซื้อยี่ห้อนี้ให้เด็ก ๆ ทานก็ได้ แต่ ๆๆๆๆๆ ต้องระวังเรื่องเม็ดติดคอเด็ก ๆ ด้วย ถ้าเด็กตัวเล็กเกินไป ก็ให้ทานแบบน้ำจะดีกว่าครับ
| ประเภท | เม็ดนิ่ม |
| Omega-3 ต่อ 1 เม็ด | 335 mg ให้ DHA : 50 mg EPA : 35 mg ชนิดอื่น ๆ : ALA 250 mg |
| วิตามิน A | 62.5 mcg |
| วิตามิน D | 3.125 mcg |
| สารอาหารอื่น ๆ | Omega-6, 60 mg / Omega-9, 71 mg |
| ปริมาณที่ควรทาน | สำหรับผู้ใหญ่ ทานวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
7. ยี่ห้อ 21st Century Cod Liver Oil
ราคาโดยประมาณ 195 บาท ต่อ 110 เม็ด
21st Century เป็นอีกยี่ห้อขายอาหารเสริมของสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทางตัวแบรนด์เขาได้ขายอาหารเสริมที่หลากหลายเอามาก ๆ ไม่ว่าอยากจะซื้ออาหารเสริมแบบไหน ก็มีให้เลือกซื้ออย่างแน่นอน ซึ่งรวมถึงน้ำมันตับปลาด้วยเช่นกัน โดยถ้าเทียบสารอาหารกับยี่ห้อ Puritan's Pride ตัวด้านบนแล้ว จะเห็นว่า Omega-3, DHA, EPA จะน้อยกว่า ส่วนวิตามิน A จะเท่ากัน และวิตามิน D จะมากกว่านิดหนึ่ง ดูรวม ๆ แล้ว เหมือน Puritan's Pride จะน่าสนใจกว่า แต่ยี่ห้อนี้ จะมีราคาที่ถูกกว่า โดยตกเม็ดละประมาณ 2 บาทเท่านั้น ถูกกว่าครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่ต้องการบำรุงทั้งสมอง, กระดูก และดวงตาแบบประหยัดเงินครับ
| ประเภท | เม็ดนิ่ม |
| Omega-3 ต่อ 1 เม็ด | 76 mg ให้ DHA : 24 mg EPA : 28 mg ชนิดอื่น ๆ : 24 mg |
| วิตามิน A | 62.5 mcg |
| วิตามิน D | 3.375 mcg |
| สารอาหารอื่น ๆ | – |
| ปริมาณที่ควรทาน | สำหรับผู้ใหญ่ ทานวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
8. ยี่ห้อ now foods Cod Liver Oil
ราคาโดยประมาณ 875 บาท ต่อ 90 เม็ด
ถ้าอยากทานน้ำมันตับปลาแบบเม็ด ๆ แต่คิดว่า 2 ยี่ห้อบนนั้นให้ DHA และ EPA น้อยไปหน่อย กลัวว่าจะบำรุงสมองได้ไม่ดีพอ งั้นก็ขอแนะนำยี่ห้อ now foods Cod Liver Oil ตัวนี้เลยครับ โดยจะให้ DHA สูงถึงเม็ดละ 100 mg! และ EPA อีก 70 mg ซึ่งถือว่า สูงกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ แต่จะแพ้ตัว Premium แบบน้ำ 2 ยี่ห้อบนสุดเท่านั้น อีกทั้งยังให้วิตามิน D ที่สูงมาก ๆ ถึง 10 mcg ด้วย แต่ด้วยการที่ให้ปริมาณสารอาหารมาค่อนข้างสูง จึงมีราคาที่ค่อนข้างแพงด้วยเช่นกัน โดยจะตกเม็ดละประมาณ 10 บาท ถ้าคิดว่าสู้ไหว ก็จัดเลยครับ
| ประเภท | เม็ดนิ่ม |
| Omega-3 ต่อ 1 เม็ด | 170 mg ให้ DHA : 100 mg EPA : 70 mg ชนิดอื่น ๆ : – |
| วิตามิน A | 50 mcg |
| วิตามิน D | 10 mcg |
| สารอาหารอื่น ๆ | – |
| ปริมาณที่ควรทาน | สำหรับผู้ใหญ่ ทานวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
9. ยี่ห้อ Healthy Care Squalene
ราคาโดยประมาณ 790 บาท ต่อ 200 เม็ด
สำหรับใครที่คิดว่า น้ำมันตับปลาจากปลาคอดทั่ว ๆ ไป ดูแล้วธรรมดา ๆ ไม่น่าสนใจไม่น่าทานเท่าไร อยากหาอะไรที่แปลก ๆ ใหม่ ๆ มาทานมากกว่า ถ้ายังงั้นต้องลองมาทานน้ำมันตับปลาที่ได้จาก “ปลาฉลาม” อย่างยี่ห้อ Healthy Care Squalene ของออสเตรเลียกันแล้วละครับ แต่ยี่ห้อนี้ เขาไม่มีรายละเอียดของพวกสารอาหารหรือปริมาณต่าง ๆ ระบุไว้เลย แต่ทางแบรนด์เขาเคลมไว้ว่า มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก จึงช่วยปกป้องผิวและเซลล์ต่าง ๆ ได้ดี อีกทั้งยังช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวมอีกด้วย ถ้ามีความอยากรู้อยากลองละก็ ขอแนะนำครับ
| ประเภท | แคปซูล |
| Omega-3 ต่อ 1 เม็ด | N/A |
| วิตามิน A | N/A |
| วิตามิน D | N/A |
| สารอาหารอื่น ๆ | N/A |
| ปริมาณที่ควรทาน | สำหรับผู้ใหญ่ ทานวันละ 1-3 เม็ด ก่อนมื้ออาหาร |
| สัญชาติ | ออสเตรเลีย |
10. ยี่ห้อ ORIHIRO Squalene
ราคาโดยประมาณ 700 บาท ต่อ 360 เม็ด
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ลองมาดูน้ำมันตับปลาฉลามกันอีกสักยี่ห้อกับ ORIHIRO Squalene ที่แค่เห็นจากรูปแพ็กเกจ ก็น่าจะพอเดาได้ว่า มาจากดินแดนปลาดิบประเทศญี่ปุ่นครับ โดยทางแบรนด์ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดของสารอาหารเช่นเดียวกันกับยี่ห้อ Healthy Care Squalene แต่ถ้าเทียบจากราคาแล้ว ยี่ห้อนี้ดูจะถูกกว่า และจากที่ไปดูรีวิวของคนที่ได้ทานมา ก็มีหลายคนบอกว่า สินค้าคุณภาพดี ผู้สูงอายุทานแล้วรู้สึกพวกอาการปวดข้อต่อต่าง ๆ ลดน้อยลง สุขภาพโดยรวมก็ดีขึ้น ต้องลองซื้อกันมาทานดูแล้วละครับ
| ประเภท | แคปซูล |
| Omega-3 ต่อ 1 เม็ด | N/A |
| วิตามิน A | N/A |
| วิตามิน D | N/A |
| สารอาหารอื่น ๆ | N/A |
| ปริมาณที่ควรทาน | สำหรับผู้ใหญ่ ทานวันละ 6 เม็ด พร้อมน้ำสะอาด |
| สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
ก็จบไปแล้วกับรีวิว “น้ำมันตับปลา” Cod Liver Oil ยี่ห้อไหนดี ถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน เห็นแล้วสนใจหรืออยากจะซื้อยี่ห้อไหนไปให้เด็ก ๆ หรือผู้ใหญ่ที่บ้านทานกันบ้างครับ? เอาจริง ๆ น้ำมันตับปลาสำหรับเด็กเนี่ย ผู้ใหญ่เองก็สามารถทานได้เช่นกันนะครับ ยิ่งพวกยี่ห้อ Premium มีกรดไขมัน Omega-3 แบบจัดหนักจัดเต็มไม่แพ้น้ำมันปลา Fish Oil กันเลยทีเดียว หรือถ้าคิดว่าแพงเกินไป ก็ซื้อยี่ห้อที่มีราคาย่อมเยามาก็ได้ ยังช่วยเสริมสารอาหารได้อยู่ ยังไงก็ขอให้ได้ยี่ห้อที่ถูกใจ ทานแล้วบำรุงทั้งสมอง, กระดูก และดวงตาให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วยนะครับผม
บรรณาธิการที่มีประสบการณ์ในการเขียนรีวิวสินค้าหลายชนิด
- สุขภาพ: อาหารเสริม, ออกกำลังกาย, การดูแลผิวพรรณ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: สมาร์ทโฮม, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องใช้ในบ้าน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- ของกิน: ขนมหวาน เครื่องดื่ม, อาหารสุขภาพ, และเทรนด์อาหารอื่น ๆ