เดี๋ยวนี้โรคปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เป็นโรคยอดฮิตในปัจจุบันนะครับ ไม่ว่าจะเกิดจาก การออกกำลังกายที่หนักเกินไป หรือการปวดหลังปวดคอเนื่องจากนั่งทำงานหน้าคอมเป็นระยะเวลานาน เอาจริง ๆ ถ้าอยากลดอาการปวดเหล่านี้ วิธีการที่ดีที่สุดคือ การเปลี่ยนพฤติกรรมครับ เช่น ออกกำลังกายพอประมาณ ไม่ยกของหนักจนเกินไป หรือตอนทำงานก็ลุกไปยืดเส้นยืดสายซะบ้าง แต่ถ้าทำแล้วอาการยังไม่ทุเลาลง อาจจะต้องพึ่ง “ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ” กันครับ หลาย ๆ คนน่าจะเกิดคำถามว่า แล้วจะซื้อยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อยี่ห้อไหนดี? ดันมีขายหลายยี่ห้อซะด้วย งั้นลองมาอ่านรีวิว 8 ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ กันดีกว่าครับ ตัวไหนใช้แล้วได้ผลดี ลดอาการปวดได้ชะงัก ตัวไหนใช้แล้วรู้สึกร้อนผ่าว ๆ หรือเย็นวูบ ๆ ก็ตามไปอ่านกันได้เลยครับ
สารบัญ
คำแนะนำจากประสบการณ์ในการเลือกซื้อ “ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ”
อาการบาดเจ็บ อาการปวด เป็นของคู่กันกับคนเรานะครับ ยิ่งอายุมากขึ้น ก็ยิ่งปวดง่ายเข้าไปอีก ไม่ฟื้นตัวไวเหมือนตอนเด็ก ๆ ด้วย และถ้าชอบเล่นกีฬา ออกกำลังกาย มันมีโอกาสเกิดการบาดเจ็บได้เสมอ จากที่ผมได้ซื้อ ๆ มาใช้หลายยี่ห้อ ลองมาอ่านคำแนะนำจากตัวผมเองกันครับ
1. ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ สูตรร้อนและสู้เย็น โดยยาพวกนี้จะมีหลักการคล้าย ๆ กับการ “ประคบร้อนและประคบเย็น” ครับ ซึ่งมีวิธีการใช้งานแตกต่างกัน โดย
- สูตรเย็น เหมาะสำหรับ เพิ่งเกิดอุบัติเหตุ เพิ่งเจ็บ หรือใช้ในช่วงแรกของการเกิดการบาดเจ็บ ซึ่งยาสูตรเย็นนี่เองจะช่วยทำให้อาการปวดและอาการบวมช้ำลดลง
- สูตรร้อน เหมาะสำหรับ อาการปวดเรื้อรัง ปวดเคล็ดขัดยอก เบาๆ แต่ไม่หายสักที โดยยาสูตรร้อนจะช่วยให้เลือดสามารถไหลเวียนได้ดีขึ้น ด้วยการขยายหลอดเลือดบริเวณที่ทา ทำให้ลดอาการปวดลงได้
ถ้าเล่นกีฬา หรือออกกำลังกายบ่อย ๆ เป็นประจำ ควรซื้อทั้ง 2 แบบไว้ติดตัวนะครับ เวลาเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะได้เลือกใช้ได้ถูกจุด
2. ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อที่มีส่วนผสมของตัวยา NSAID (Non-Steroidal Anti-Inflammatory) หรือเรียกกันง่าย ๆ ว่า “เอ็นเสด” เป็นกลุ่มยาที่มีไว้เพื่อรักษาและลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อโดยไม่มีสเตียรอยด์ผสมอยู่ จึงไม่ต้องกลัวผลข้างเคียงของสเตียรอยด์ครับ ส่วนใหญ่จะพบเจอตัวยา Diclofenac หรือ Piroxicam เป็นส่วนผสมส่วนหนึ่งของยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ โดยยาเหล่านี้จะช่วยยับยั้งการเกิดสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดอาการอักเสบนั้นเองครับ
แต่การทายาที่มีส่วนผสมของตัวยา NSAID บ่อย ๆ จะทำให้ผิวหนังบาง พอบริเวณที่ทายาโดนชน, เกา หรือกระแทกก็อาจจะเกิดบาดแผล เช่น แผลถลอกหรือผิวหนังลอกได้ แต่ไม่ร้ายแรงครับ เพียงแค่เวลาทายาก็ระวัง ๆ ในจุดนี้ด้วย
ผมเจ็บข้อมือ เลยทายาที่มี NSAID บ่อยครั้ง พอใส่ปอกข้อมือ มันเลยเสียดสีกันจนเป็นแผล ก่อนหน้านี้ที่ใส่แค่ปอกข้อมือเฉย ๆ ไม่เกิดแผลเลยครับ
แล้วจะเลือกซื้อยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อแบบเบอร์ 1 หรือ 2 ดี ? จากประสบการณ์ของผมเอง ผมแนะนำว่า ถ้าอาการมันปวดแบบเมื่อย ๆ ไม่ได้รู้สึกเจ็บมากนัก ก็ใช้แบบยาทาปวดกล้ามเนื้อสูตรร้อนก็ได้ครับ ส่วนถ้ามีอาการปวดแบบเจ็บ ๆ มันอาจจะเป็นเพราะกล้ามเนื้ออักเสบ ก็ให้เลือกใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของ NSAID ครับ เช่น อาการข้อเท้าพลิก เป็นต้น
3. ถ้าไม่อยากคิดมากเลือกซื้อแบบ 2 in 1 เลยก็ได้ มียาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อหลายยี่ห้ออยู่นะครับ ที่มีส่วนผสมของตัวยา NSAID และเวลาใช้แล้วจะให้ความรู้สึกเย็น ๆ เหมือนกับโดนประคบเย็นด้วย จึงเป็นกลุ่มที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายกว่าและดีที่สุดครับ แต่ราคาก็จะค่อนข้างแรงด้วยเช่นกัน
4. อยากเน้น ๆ ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก แนะนำให้เลือกซื้อแบบสเปรย์ การใช้แบบสเปรย์มันสะดวกสบายมาก ๆ เลยครับ เวลาปวด ๆ ก็แค่เอายามาฉีดพ่น ๆ บริเวณที่ต้องการ มือไม่เปื้อน ไม่เลอะ ไม่สกปรก และไม่มีกลิ่นของตัวยาที่ปกติจะมีกลิ่นค่อนข้างแรงติดมืออีกด้วย อีกทั้งคนที่ชอบเอามือไปโดนหน้า โดนตา ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนยาจนแสบหน้าแสบตาไปหมดครับ เหมาะกับคนที่ขี้เกียจแบบสุด ๆ ด้วย
5. ถ้าใช้ “ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ” แล้วรู้สึกว่าไม่ดีขึ้น ใช้แล้วสองถึงสามวันอาการยังไม่หายบวม ยังรู้สึกถึงอาการปวดที่เจ็บมากอยู่ ถ้าเป็นที่บริเวณขาและเท้ารู้สึกว่าไม่สามารถเดินลงน้ำหนักได้ เดินไม่ปกติ หรือถ้าเป็นตามมือหรือแขนก็ไม่สามารถใช้งานได้ อย่ารอช้านะครับ ให้รีบไปพบแพทย์จะดีกว่า เพื่อหาสาเหตุในการรักษาให้ตรงจุด ถ้าทิ้งไว้นานอาจจะเรื้อรังแล้วรักษาหายยากกว่าเดิมครับ และอย่าลืมว่า การทายาแก้ปวดกล้ามเนื้อเป็นเพียงการบรรเทาอาการเท่านั้นครับ
ตารางเปรียบเทียบรวมรีวิว “ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ” ยี่ห้อไหนดี
ก็เผื่อใครที่อยากจะเห็นตัวยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อพร้อม ๆ กันทั้ง 8 ยี่ห้อ ก็สามารถกดเข้าไปดูที่ปุ่มด้านล่างได้นะครับ ก็น่าจะช่วยให้เห็นภาพรวมทั้งหมด รวมถึงเปรียบเทียบตัวยา และอาจจะช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นครับ
1. ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ ยี่ห้อ Voltaren Emulgel
ราคาโดยประมาณ 380 / 590 บาท ต่อ 50 / 100 g
ขอเริ่มกับยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อคุณภาพดีที่มีแต่คนแนะนำให้ใช้ แต่ราคาโหดเอาเรื่องเลยทีเดียวครับกับ Voltaren Emulgel ที่ตอนเปิดฝาต้องระวังนิดนึงนะครับ เพราะตัวยาที่เป็นเนื้อเจลสีขาวขุ่นค่อนข้างเหลว จะไหลพุ่งออกมาจากหลอดแล้วหยดเลอะเทอะเต็มมือได้ พอเอาตัวยาไปทาลงบนผิวแล้วก็เกลี่ยง่ายมาก และก็ซึมลงสู่ชั้นผิวได้เร็วด้วย ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะผิวเลย แต่กลิ่นค่อนข้างแรง ถึงแม้ว่ากลิ่นจะสะอาด ๆ เหมือนอยู่ในโรงพยาบาลก็ตาม ถ้าเป็นคนไม่ชอบยากลิ่นฉุน ๆ น่าจะไม่ถูกใจตัวนี้ครับ
โดยที่ Voltaren Emulgel 1 g จะมี diclofenac diethylammonium ผสมอยู่ 11.6 mg ซึ่งเจ้าตัวนี้จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มยา NSAID และช่วยแก้อาการอักเสบได้ดี ตัวผมเองและเพื่อน ๆ ที่ได้ลองใช้ต่างก็บอกกันว่า ใช้แล้วได้ผลดี รู้สึกถึงอาการเจ็บ ๆ ปวด ๆ ลดลงได้ แต่มีหลายคนไม่ชอบเพราะทาแล้วไม่รู้สึกถึงความร้อนหรือเย็นใด ๆ เพื่อนผมบอกว่าฟิลลิ่งมันไม่ได้ เวลาทายาแก้ปวดกล้ามเนื้อมันต้องได้ฟิลลิ่งด้วย จะได้รู้สึกว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับอาการปวดอยู่ครับ และที่ไม่ชอบอีกเรื่องก็ตรงราคา เนื่องจากเป็นยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อที่แทบจะแพงที่สุดในกลุ่มเลยครับ
ส่วนใครที่คิดว่า diclofenac แค่ 11.6 mg นั้นเอาไม่อยู่ เดี๋ยวนี้ Voltaren Emulgel เขามีขายแบบสูตร Double Strength ที่มีส่วนผสมของ diclofenac ถึง 23.2 mg ด้วย อยากหายปวด หายเจ็บไว ๆ ก็ลองตัวนี้ได้ แต่ราคาก็เอาเรื่องเช่นกันครับ
สารออกฤทธิ์ | diclofenac diethylammonium 11.6 mg / 1 g |
NSAID | ✓ |
เนื้อยา | แบบเจล |
ใช้แล้วจะรู้สึก | – |
2. ยี่ห้อ Uniren Spray
ราคาโดยประมาณ 200 บาท ต่อ 60 ml
ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ Uniren Spray เป็นอีกตัวที่มีการพูดถึงกันมาก และได้รับความนิยมค่อนข้างสูง ซึ่งผมชอบมาก พกตัวติดตลอดเลยครับ เพราะขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาก็ง่าย และที่ชอบมากคือ ไม่ต้องทาไม่ต้องนวด มือไม่เปื้อนเลอะครีม และไม่มีกลิ่นติดมืออีกด้วย เพียงแค่ฉีดพ่นบริเวณที่ปวดแล้วปล่อยให้ตัวยาซึมเข้าไปใต้ผิวหนังได้เอง ซึ่งก็ซึมเร็วอยู่นะครับ ทำให้เหมาะกับคนขี้เกียจอย่างผมแบบสุด ๆ เลย
โดยเจ้า Uniren Spray จะมีสารออกฤทธิ์คือ diclofenac sodium 1% w/w ที่ช่วยในการแก้อักเสบ และเวลาฉีดแล้วก็จะให้ความรู้สึกเย็น ๆ ซึ่งความเย็นก็จะช่วยลดอาการปวดและทำให้รู้สึกสดชื่น อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเมนทอลผสมอยู่ เวลาฉีด ๆ ไปก็ผ่อนคลายอารมณ์ดีครับ ส่วนเรื่องแก้อาการปวดก็ทำได้ดีเลย ผมชอบปวดน่องเนื่องมาจากการเดินเยอะ พอฉีดแล้วรู้สึกดีขึ้นมาก ๆ พักสักแป๊บก็เดินต่อได้ยาว ๆ พอลองถามเพื่อน ๆ ที่ใช้ต่างก็บอกกันว่า ดี ๆๆ และดี มีแต่คนชมครับ แต่ก็มีหลายคนบ่นว่าราคาแอบแพง ถ้ายิ่งฉีดบ่อย ๆ จะใช้ได้ประมาณ 1 เดือน – 2 เดือนเอง และถ้าฉีดมาก ๆ ผิวอาจจะเป็นขุยลอกออกได้ด้วย ต้องระวังด้วยครับ
สารออกฤทธิ์ | diclofenac sodium 1% w/w |
NSAID | ✓ |
เนื้อยา | แบบสเปรย์ |
ใช้แล้วจะรู้สึก | เย็น |
3. ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ ยี่ห้อ Difelene gel
ราคาโดยประมาณ 45 / 75 / 115 บาท ต่อ 30 / 60 / 100 g
สำหรับใครที่กำลังหายาทาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของ NSAID แต่คิดว่า 2 ตัวบนนั้นราคาแอบแรงเกินไป ผมขอแนะนำตัวนี้เลยครับกับ Difelene gel โดยบนตัวหลอดจะระบุว่า มีส่วนผสมของ diclofenac diethylammonium อยู่ที่ 1.16 g ต่อปริมาณทั้งหลอด 100 g ครับ ซึ่งพอคิดเปลี่ยนหน่วยแล้ว ก็จะได้ diclofenac ที่ 11.6 mg / 1 g เหมือนกับ Voltaren Emulgel แต่ราคาต่างกันคนละเรื่องเลยครับ โดยที่ปริมาณเท่ากัน 100 g Difelene gel จะราคาประมาณ 115 บาท ขณะที่ Voltaren Emulgel จะราคา 590 ต่างกันเกือบ 5 เท่าเลยครับ
ส่วนเนื้อเจลเป็นแบบเหลว สีขาวขุ่น เวลาทาแล้วได้กลิ่นสะอาด ๆ ของตัวยาชัดเจน พอทาไปแล้วก็ไม่รู้สึกร้อนหรือเย็นเลยครับ ให้อารมณ์เดียวกับ Voltaren Emulgel เลย แต่ก็ลดอาการปวดได้ดีเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังมีหลาย ๆ คนบ่นตรงมันไม่ร้อนหรือเย็น ส่วนผมนั้น เฉย ๆ ครับ ขอแค่แก้ปวดได้ดีก็พอ และที่สำคัญ ได้ยาทาแก้ปวดแบบมี diclofenac ในราคาถูกอีกด้วยครับ หลาย ๆ คนจึงซื้อมาเก็บติดไว้เป็นยาสามัญประจำบ้านกันเลยทีเดียว
สารออกฤทธิ์ | diclofenac diethylammonium 11.6 mg / 1 g |
NSAID | ✓ |
เนื้อยา | แบบเจล |
ใช้แล้วจะรู้สึก | – |
4. ยี่ห้อ Counterpain สูตรร้อน / สูตรเย็น
ราคาโดยประมาณ 119 / 139 / 189 บาท ต่อ 30 / 60 /120 g
เวลาเจ็บปวดกล้ามเนื้อแล้วอยากหาซื้อยามาทาแก้ปวด หลาย ๆ คนต้องนึกถึงชื่อ Counterpain มาก่อนยี่ห้ออื่น ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งเจ้า Counterpain ก็จะมี 2 สูตรให้เลือกซื้อกันครับคือ สูตรแบบร้อนหลอดสีขาวแดง และแบบเย็นหลอดสีขาวน้ำเงิน เหมือนจะแตกต่างกันมากใช่ไหมครับ? แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองตัวแทบจะเหมือนกันเลย โดยมีส่วนผสมที่เหมือนกันคือ Menthol และ Eugenol แต่สีแดงจะมี Methylsalicylate ที่ทำให้เวลาทาผิวแล้วรู้สึกร้อนเพิ่มเติมครับ ซึ่งตัวยาเวลาออกฤทธิ์ก็จะเหมือน ๆ กันครับ
แล้วสรุปแตกต่างกันที่ตรงไหน? แตกต่างกันตรงเรื่องความร้อนกับเย็นนี่แหละครับ โดยเวลาจะใช้ให้นึกถึงหลักการประคบร้อนและประคบเย็นนั้นเองครับ ถ้าง่าย ๆ ก็ ปวดหลังออกกำลังกายให้ใช้หลอดเย็น หลังจากนั้นถ้ายังปวดอยู่ให้ใช้แบบร้อนครับ แต่ทั้ง 2 ไม่มีส่วนผสมของตัวยา NSAID จึงไม่สามารถบรรเทาอาการปวดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อได้ แต่เวลาทาแล้วจะรู้สึกฟิน ๆ ร้อน ๆ หรือเย็น ๆ สะใจดี และก็ยังบรรเทาอาการปวดได้อยู่ครับ
แต่ถ้าอยากได้ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อที่มีตัวยา NSAID ผสมอยู่ของ Counterpain ต้องซื้อตัว Counterpain Plus นะครับ โดยมีส่วนผสมเหมือนตัวสูตรร้อนเลย ทาแล้วก็รู้สึกร้อน ๆ ด้วย แต่มีตัวยา Piroxicam ผสมเพิ่มเติมที่ช่วยในการรักษาอาการอักเสบ ตัวนี้จึงดีกว่าแบบธรรมดา แต่ราคาก็แพงกว่านั้นเองครับ
สารออกฤทธิ์ | สูตรร้อน Methylsalicylate, Menthol และ Eugenol สูตรเย็น Menthol และ Eugenol |
NSAID | ✘ |
เนื้อยา | แบบครีม / แบบเจล |
ใช้แล้วจะรู้สึก | ร้อน / เย็น |
5. ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ ยี่ห้อ Perskindol Classic / Cool
ราคาโดยประมาณ 200-240 บาท ต่อ 150 ml
ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ Perskindol เป็นยี่ห้อที่คุณหมอตามโรงพยาบาลจะชอบแนะนำให้คนไข้ใช้ครับ โดยจะมีด้วยกันอยู่ 2 แบบคือ แบบกระป๋องสเปรย์และแบบเนื้อเจล และจะมี 2 สูตรด้วยกันคือ สีเหลืองแบบ Classic ที่เวลาฉีดพ่นหรือทาแล้วจะรู้สึกร้อน ส่วนสีน้ำเงินแบบ Cool ที่จะรู้สึกเย็นครับ ส่วนจะใช้สีเหลืองหรือสีฟ้านั้น ก็คล้าย ๆ กับ Counterpain สูตรร้อน / เย็นคือ ใช้เหมือนกับการประคบร้อนประคบเย็นนั้นเอง โดยตัวสีเหลืองจะมีส่วนผสมของ Levomenthol และน้ำมันหอมระเหยที่หลากหลาย ส่วนสูตรเย็นจะมีแค่ Levomenthol เท่านั้น และทั้งสองตัวไม่มีส่วนผสมของตัวยา NSAID นะครับ
โดยตัวที่ผมอยากให้ลองใช้กันก็คือแบบกระป๋องสเปรย์ เพราะใช้งานง่ายมาก เพียงแค่พ่นลงบนบริเวณที่ปวด มื้อก็ไม่เปื้อนและไม่สกปรกเลอะเทอะติดเสื้อผ้าด้วย ตัวยาก็ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว ช่วยระงับอาการปวดได้ดีมาก ยิ่งถ้าไปออกกำลังกายเช่น เล่นฟุตบอลแล้วโดนเตะจนขาเจ็บ ให้เอาสีน้ำเงินฉีดเลยครับ ความเย็นจะช่วยบรรเทาอาการปวดแบบเฉียบพลันได้ดี แต่กลิ่นของ Alcohol จะค่อนข้างแรงไปหน่อย และกระป๋องค่อนข้างใหญ่อาจจะทำให้พกพาลำบากครับ อีกทั้งเวลาฉีดต้องฉีดห่าง ๆ หน่อยนะครับ ถ้าฉีดใกล้มาก ด้วยแรงดันของสเปรย์จะทำให้เหมือนผิวโดนอะไรมากระทบอย่างแรงแล้วทำให้เจ็บได้ครับ
สารออกฤทธิ์ | สูตรร้อน L-Menthol, Pine Needle Oil, Orange Oil, Wintergreen Oil, Lemon Oil, Bergamot Oil (without furocumarin), Rosemary Oil, Lavender Oil, Terpineol, Terpenyl Acetate สูตรเย็น L-Menthol |
NSAID | ✘ |
เนื้อยา | แบบสเปรย์ |
ใช้แล้วจะรู้สึก | ร้อน / เย็น |
6. ยี่ห้อ Painelief cool gel
ราคาโดยประมาณ 160 บาท ต่อ 60 g
ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อที่มีส่วนผสมของ NSAID และเวลาทาแล้วก็รู้สึกเย็น ๆ เหมือนกับกำลังประคบเย็นอยู่ เหมือนได้การรักษาแบบ 2 in 1 อย่างนี้ ต้องลอง Painelief cool gel กันเลยครับ เป็นยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อที่มีส่วนผสมของตัวยา diclofenac diethylammonium 10 mg / 1 g ถึงแม้ว่าปริมาณยาจะมีน้อยกว่าของ Voltaren Emulgel และ Difelene gel ที่ 1.6 mg / 1 g แต่เวลาทาแล้วจะรู้สึกเย็น ๆ ให้ฟิลลิ่งได้ดีกว่า เหมือนมันกำลังช่วยระงับอาการปวดที่เกิดขึ้นในทันทีเลยครับ
เนื้อยาก็เป็นเจลสีฟ้าบีบออกง่าย ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะผิว ซึมก็ค่อนข้างไว และได้กลิ่นหอมของลาเวนเดอร์แบบอ่อน ๆ อีกด้วย ใช้แล้วก็แอบผ่อนคลายดีครับ ส่วนเรื่องราคาก็อยู่กลาง ๆ ไม่ถึงกับแพงมาก แต่ก็ไม่ได้ถูกเท่า Difelene gel ก็ถือเป็นอีก 1 ทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหายาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อยี่ห้อใหม่ ๆ มาลองใช้กันนะครับ
สารออกฤทธิ์ | diclofenac diethylammonium 10 mg / 1 g, Menthol |
NSAID | ✓ |
เนื้อยา | แบบเจล |
ใช้แล้วจะรู้สึก | เย็น |
7. ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ ยี่ห้อ Ammeltz Yoko Yoko
ราคาโดยประมาณ 165 บาท ต่อ 48 ml
สำหรับ Ammeltz Yoko Yoko แค่ชื่อก็บอกแล้วนะครับว่า เป็นยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นครับ ตัวขวดและวิธีการใช้งานจะค่อนข้างแตกต่างจากยี่ห้ออื่น ๆ โดยตัวขวดจะมีหัวฟองน้ำสีน้ำเงินที่เอาไว้กด ๆ หรือทาแบบวน ๆ บริเวณที่ปวดได้เลย จากนั้นน้ำยาเนื้อเหลวสีใสจะไหลออกมาจากหัวขวดตรงนี้ครับ คิดภาพเหมือนกับการใช้กาวน้ำนั้นเองครับ และเนื่องจากน้ำยาไหลออกจากขวดได้เอง ทำให้มือไม่เปื้อนน้ำยา ไม่มีกลิ่นติดมือ ซึ่งเป็นอะไรที่ผมชอบมากเลยครับ
แต่เวลากดหัวต้องเบา ๆ มือหน่อย ถ้ากดแรง ๆ น้ำยาจะไหลออกมาเยิ้มมาก ส่วนกลิ่นก็ฉุนแบบยาหม่องมาก ๆ ค่อนข้างแสบจมูกเลยทีเดียว แต่เห็นว่ามีตัวใหม่ออกมาแล้วตัวฟองน้ำสีแดงและมีกลิ่นลดน้อยลง ผมยังไม่เคยได้ลองใช้นะครับ ใครใช้แล้วมาบอกกันด้วย
ส่วนเรื่องส่วนผสมของ Ammeltz Yoko Yoko ที่ 100 ml จะมีตัวยา Methyl Salicylate ผสมอยู่ 5,000 mg และยังมี Menthol 5,200 mg, การบูร 5,200 mg และ Vanillylamide Nonylate 8 mg ผสมอยู่ด้วย ซึ่งทั้งหมดมีส่วนช่วยในการลดอาการปวดที่เกิดขึ้นได้ครับ จากที่ได้ทดลองใช้เอง รู้สึกว่าลดอาการปวดได้ดีครับ ไปเล่นตีแบตมาปวด ๆ ทา Yoko Yoko สองสามวันก็ดีขึ้นมากครับ แต่ ๆ ราคาแอบแรงครับ
สารออกฤทธิ์ | Methyl Salicylate, Menthol, การบูร, Vanillylamide Nonylate |
NSAID | ✘ |
เนื้อยา | แบบน้ำ |
ใช้แล้วจะรู้สึก | เย็น |
8. ยี่ห้อ Reparil Ice Spray
ราคาโดยประมาณ 210 บาท ต่อ 200 ml
สเปรย์ Reparil Ice Spray พอดีตัวนี้ผมไม่เคยใช้ แต่เพื่อนผมชอบมาก เพื่อนเขาบอกว่า เป็นยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อที่นักกีฬาจะชอบพกติดตัวกัน จะเห็นได้บ่อยตามสถานที่เล่นกีฬา ไม่ว่าจะสนามฟุตบอล สนามแบต สนามบาสเป็นต้น โดยรวมเมื่อฉีดพ่นแล้วจะให้ความรู้สึกเย็น ๆ พอประมาณ ช่วยระงับอาการปวดจากการออกกำลังกายได้ดี ฉีดพ่นทิ้งไว้สักพัก ก็รู้สึกอาการปวดลดน้อยลงเลย และยังมีกลิ่นหอมสดชื่นด้วย ฉีดพ่นได้สบาย ๆ ไม่แสบจมูกเลยครับ
พอไปดูที่ส่วนผสมของ Reparil Ice Spray จะมี Butane, Pentane, Isobutane และ Propane สี่ตัวนี้จะช่วยในการพ่นสเปรย์ครับ จากนั้นมี Isopropyl alcohol ตัวนี้จะช่วยในการฆ่าเชื้อ, menthol และการบูร จะช่วยให้รู้สึกเย็น ๆ แล้วยังช่วยลดอาการปวดที่เกิดขึ้นได้ ดูจากส่วนผสมและรีวิวจากเพื่อนแล้ว ก็ถือว่าน่าสนใจอยู่นะครับ แต่กระป๋องค่อนข้างใหญ่ ทำให้พกพาลำบากอยู่ และไม่มีส่วนผสมของตัวยา NSAID ทำให้ไม่ช่วยรักษาในเรื่องของการอักเสบ ถ้าได้ลองใช้แล้วมีผลยังไง ก็บอก ๆ กันด้วยนะครับ
สารออกฤทธิ์ | Isopropyl alcohol, menthol, การบูร |
NSAID | ✘ |
เนื้อยา | แบบสเปรย์ |
ใช้แล้วจะรู้สึก | เย็น |
ก็จบไปแล้วกับ “ยาทาแก้ปวดกล้ามเนื้อ” ยี่ห้อไหนดี กันถึง 8 ยี่ห้อ แต่ละตัวก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปนะครับ บางตัวก็ราคาถูกบางตัวก็แพงจัง สำหรับผมเองจะชอบ Difelene gel เพราะมีตัวยา diclofenac และราคาค่อนข้างถูกมาก กับ Ammeltz Yoko Yoko ตัวนี้ก็ดีครับ ไม่เปื้อนมือดี ทาแล้วเหมือนทายาหม่องน้ำเย็น ๆ กลิ่นแรง ๆ รู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อกำลังได้รับการรักษาอยู่
อย่างไรก็ตาม ถ้าอาการปวดไม่ดีขึ้น ยังไงก็ต้องไปพบคุณหมอนะครับ อย่าฝืน เดี๋ยวมันจะเกิดอาการเรื้อรังขึ้นมาจะยิ่งเป็นปัญหาใหญ่กว่าเดิมครับ ถ้ามีความคิดเห็นอย่างไร หรือเคยใช้ตัวอื่นนอกเหนือจากในนี้ ก็แชร์ ๆ กันบ้างนะครับ คนอื่นเขาจะได้รับรู้ และไปลองหาซื้อมาใช้กันครับ
บรรณาธิการที่มีประสบการณ์ในการเขียนรีวิวสินค้าหลายชนิด
- สุขภาพ: อาหารเสริม, ออกกำลังกาย, การดูแลผิวพรรณ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: สมาร์ทโฮม, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องใช้ในบ้าน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- ของกิน: ขนมหวาน เครื่องดื่ม, อาหารสุขภาพ, และเทรนด์อาหารอื่น ๆ