รองเท้าวิ่งผู้ชาย Nike รุ่นไหนดี ใส่วิ่ง ไลฟ์สไตส์ เท่ ๆ รีวิว 10 รุ่น

รูปภาพปกบทความ รองเท้าวิ่งผู้ชาย Nike รุ่นไหนดี ใส่วิ่ง ไลฟ์สไตส์ เท่ ๆ รีวิว 10 รุ่น

ก็ถ้าหนุ่ม ๆ ได้คลิกเข้ามาอ่านที่บทความนี้ “รองเท้าวิ่งผู้ชาย Nike” รุ่นไหนดี แสดงว่า หนุ่ม ๆ กำลังอยากจะหาซื้อรองเท้าวิ่งของ Nike ดี ๆ สักรุ่น ไปใช้ใส่วิ่ง ไปใช้ใส่เดิน หรือไปใช้ใส่เดินเล่นกันอยู่สินะคะ ?? ก็บอกเลยว่าคลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะที่นี่ ทางเราได้ไปรวบรวมรุ่น Nike ที่น่าสนใจ ที่ได้รับความนิยมสูง ใส่วิ่งได้ดี รวมถึงมีความสวย ดีไซน์ดีงาม มารีวิวให้ดูกันถึง 10 รุ่น 10 คู่กันเลยทีเดียว และถ้าทุกคนได้ลองอ่านเนื้อหากันจนจบล่ะก็ จะได้ไอเดียเลือกซื้อสักรุ่นสองรุ่นกันอย่างแน่นอนค่าา



ตารางเปรียบเทียบรีวิว รองเท้าวิ่งผู้ชาย Nike รุ่นไหนดี

ตารางเปรียบเทียบรีวิว รองเท้าวิ่งผู้ชาย Nike รุ่นไหนดี

ก็เผื่อใครที่อยากจะเห็นรองเท้า Nike แบบพร้อม ๆ กัน รวมถึงสามารถเลื่อนตารางไปมา เพื่อทำการเปรียบเทียบรายละเอียด, ดีไซน์ หรือราคากันได้แบบง่าย ๆ ทางเราก็ขอแนะนำให้ลองกดที่ปุ่มด้านล่างกันได้เลยค่า



1. Nike Air Vapormax 360 

พูดถึงรองเท้าวิ่ง Nike ก็ต้องมีชื่อของเจ้า Air Vapormax เข้าประกวด ด้วยรูปทรงที่กระชับเท้า น้ำหนักเบา มาพร้อมกับเนื้อผ้า Flyknit เทคโนโลยีเฉพาะของ Nike ที่ได้อินสไปร์มาจากความต้องการของนักวิ่งในเรื่องของความกระชับพอดีเท้า โดยเจ้า Flyknite นี้เขามีจุดเด่นตรงที่เป็นเส้นใยถักทอที่กระชับ แข็งแรง แต่ยืดหยุ่น มีน้ำหนักเบาจนให้ความรู้สึกเหมือนกำลังใส่ถุงเท้ามากกว่ารองเท้า ทั้งยังระบายอากาศได้ดี ตัวแผ่นรองเท้า (insole) ก็เป็นโฟมที่แข็งเข้ารูป ยากต่อการพับบิดงอมากกว่า insole รุ่นอื่น ๆ ทำให้ Nike รุ่นนี้โดดเด่นในเรื่องของความแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี ให้ความรู้สึกมั่นคงในทุกย่างก้าวค่ะ

อีกส่วนหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ นวัตกรรม Vapormax Air พื้นรองเท้าแบบอัดอากาศอันเป็นเอกลักษณ์ที่จะช่วยเพิ่มแรงส่งและลดแรงกระแทกสะท้อนกลับในการวิ่ง รวมถึงมีการตัดพื้นรองเท้าชั้นกลางออกเพื่อลดความเทอะทะ ให้ผู้สวมใส่ได้รู้สึกเหมือนกำลังวิ่งอยู่บนอากาศ นอกจากนี้ในส่วนของ Outsole หรือพื้นรองเท้าชั้นนอกยังมีปุ่มล้อมรอบไว้เพื่อเพิ่มความทนทานและช่วยกันลื่น และด้วย Air ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าจะช่วยให้ความรู้สึกเหมือนมีสปริงมาช่วยซัพพอร์ตทุกก้าวเดิน ช่วยเพิ่มความรู้สึกอยากวิ่งออกกำลังกายขึ้นมาได้เยอะเลยค่ะ

วัสดุSynthetics leather
พื้นรองเท้าVapormax Air
เหมาะสำหรับวิ่งระยะสั้นและระยะไกล

2. Nike React Element 55 SE

อีกหนึ่งรองเท้าวิ่งผู้ชาย Nike ที่ห้ามพลาด เป็นรองเท้าวิ่งที่ให้กลิ่นอายสไตล์วินเทจ ด้วยดีไซน์ที่หยิบยืมจากรองเท้าวิ่งในตำนานอย่าง Nike Internationalist ที่โด่งดังสุด ๆ ในยุค 80s มาผสานเข้ากับ React Technology นวัตกรรมเม็ดโฟมที่จะช่วยในการดีดตัวเวลาเคลื่อนไหว ซึ่งตัวนี้ทางแบรนด์เขาเคลมมาเลยว่า เป็นเม็ดโฟมที่ทนทานที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา ทำให้ใส่แล้วมีแรงเด้งกลับ ช่วยซัพพอร์ตการวิ่ง ให้ความรู้สึกสนุกจนอยากวิ่งทุกวันไปเลยค่ะ

ถามว่าทำไมรุ่นนี้ต้องเป็นเลข 55 ? คำตอบนั้นอยู่ในตารางธาตุค่ะ เพราะธาตุลำดับที่ 55 นั้นคือ Caesium ธาตุที่มีความอ่อนนุ่มและทำปฏิกิริยาต่อสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว คล้ายกับรองเท้าคู่นี้ที่ใส่แล้วนุ่มสบายเท้า ทั้งยังมีแรงเสริมช่วยซัพพอร์ตในทุกย่างก้าว ถือเป็นกิมมิคเล็ก ๆ ที่ถือว่าสร้างสรรค์ใช่เล่น นอกจากนี้ทาง Nike เขายังเปิดช่องทาง Nike by you ที่จะให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการออกแบบรองเท้าของตัวเองได้ตามใจชอบอีกด้วย ถือเป็นรองเท้าที่ผสานความเก่าและใหม่ไว้ได้อย่างลงตัว และตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างดีเลยค่ะ

วัสดุSynthetics leather
พื้นรองเท้าNike React
เหมาะสำหรับวิ่งระยะสั้นและระยะไกล

3. Nike Air Max AP 

3. Nike Air Max AP 

ราคาโดยประมาณ 3,600 บาท

รองเท้าวิ่งผู้ชาย Nike ที่มาในดีไซน์โฉบเฉี่ยวแนวสปอร์ตคู่นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ผสานความเก๋าของยุคคลาสสิกและเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ด้วยดีไซน์แล้วดีเทลยิบย่อยที่ชวนให้นึกถึงรุ่น Air Max 97 รุ่นในตำนานที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในอดีต มีความเพรียวที่ส่วนบน และมาพร้อมตาข่ายโปร่งที่ช่วยระบายอากาศ ส่วนพื้นรองเท้าชั้นล่างก็นุ่มขึ้น ทำให้รองเท้าคู่นี้เบาสบาย ใส่แล้วแมตต์ได้กับทุกชุด แถมยังมีส่วนหุ้มข้อบุนวมที่ช่วยป้องกันการเลื่อนหลุดได้อย่างดีอีกด้วยค่ะ

และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ พื้นรองเท้าแบบ Air หรือพื้นรองเท้าแบบอัดอากาศ ที่คราวนี้เขามาเต็มแผ่นความยาวเท้า พร้อมกับโครงพื้นที่ต่ำกว่า เพื่อความรู้สึกแปลกใหม่และให้ลุคที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้น อีกทั้งยังเสริมด้วยพื้นโฟมชั้นกลางที่ให้ความรู้สึกนุ่มสบายเท้าและเพิ่มแรงส่งตัวทุกครั้งที่ออกวิ่ง ส่วนพื้นรองเท้าชั้นนอกสุดยังมาพร้อมพื้นผิวกันลื่นที่เพิ่มความโดดเด่นด้วยการเจาะรูสะท้อนแสง ถือเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่โดดเด่นทั้งในแง่ดีไซน์และคุณสมบัติจริง ๆ ค่ะ

วัสดุPremium leather
พื้นรองเท้าAir Max
เหมาะสำหรับวิ่งระยะสั้นและระยะไกล


4. Nike Air Zoom Pegasus 39 Prm รุ่น DX1627-100

แค่ชื่อก็เท่แล้ว กับรองเท้าวิ่งผู้ชาย Nike รุ่นม้าบิน อย่าง Pegasus 39 ที่คราวนี้มาพร้อมกับนวัตกรรม Air Zoom หรือนวัตกรรมช่วยลดแรงกระแทกที่ดีไซน์มาเพื่อความคล่องตัวในการวิ่งโดยเฉพาะ โดยเทคโนโลยีตัวนี้จะใช้ส่วนอัดอากาศกับเส้นใยที่ยืดจนตึงเพื่อดูดซับแรงกระแทก และส่งแรงดีดตัวกลับ จึงช่วยลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และเส้นเอ็น ดู ๆ ไปก็ชวนให้นึกถึงเวลาม้าออกวิ่งเลยค่ะ ซึ่งเหมาะมากสำหรับนักวิ่งมือใหม่ เพราะเขาจะช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บระหว่างวิ่งได้ด้วย ส่วน Air Zoom ก็มีติดตั้งไว้ 2 จุด คือส่วนปลายและส้นเท้าค่ะ

ด้วยการติด Air Zoom ตรงส่วนปลายและส่วนส้น นอกจากจะช่วยลดอาการบาดเจ็บแล้ว ยังช่วยเปลี่ยนถ่ายน้ำหนักจากส้นเท้าไปสู่ปลายเท้าได้ง่ายขึ้น และรุ่นนี้ยังมีส่วนบนที่มีน้ำหนักเบากว่ารุ่น Pegasus 38 เพราะผ้าที่ใช้เป็นเอนจิเนียร์แมช เส้นใยก็ Flywire ระบายอากาศได้ดี ทนทาน กระชับเท้า บริเวณลิ้นรองเท้าและคอลลาร์ก็มีการบุเสริมทำให้นุ่มใส่สบายเท้ายิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา เป็นรองเท้าที่ช่วยซัพพอร์ตนักวิ่งมือใหม่ได้ดี ใครกำลังเริ่มหัดวิ่งออกกำลังกาย แนะนำมาบินคู่นี้ไปช่วยเลยค่า

วัสดุFlywire
พื้นรองเท้าAir Zoom
เหมาะสำหรับวิ่งระยะสั้นและระยะไกล

5. Nike Air Winflo 9 รุ่น DD6203-100

5. Nike Air Winflo 9 รุ่น DD6203-100

ราคาโดยประมาณ 3,700 บาท

รองเท้าวิ่งแนว Daily Trainer ที่มาพร้อมพื้นรองเท้าชั้นนอกลายวาฟเฟิล ที่จะให้การยึดเกาะที่ดี พร้อมลุยบนท้องถนน โดยรุ่นนี้จะเปลี่ยนจากการใช้เส้นใย Flywire ไปเป็นสายรัดตรงกลางเท้าแทน โดยสายรัดจะผูกติดกับรูร้อยเชือก เมื่อดึงแน่นความกระชับก็จะมากขึ้น ทำให้สามารถวิ่งได้อย่างไหลลื่นกระฉับกระเฉง พร้อมทั้งมีการนำ Zoom Air แบบ Dot Weld ที่มักใช้ในรองเท้าบาสเกตบอลมาช่วยกระจายแรงกระแทกและตอบสนองทุกการเคลื่อนไหว เสริมพลังในทุกการย่างก้าวค่ะ

และรองเท้ารุ่นนี้ มองเผิน ๆ อาจมีรูปลักษณ์คล้าย Pegasus 39 แต่เขาจะมีการเพิ่มชั้นโฟมนุ่มที่ปรับปรุงมาจาก Winflo 8 มาช่วยเพิ่มแรงสปริงตัวในการวิ่ง ส่วนบนของรองเท้าก็เป็นแบบตาข่าย เพื่อความเบาสบายเท้าและระบายอากาศได้ดี เป็นอีกหนึ่งรองเท้าน้ำหนักเบา ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความกระชับตลอดการวิ่ง ไม่เลื่อนหลุด ทั้งยังมีนวัตกรรมช่วยกระจายแรงกระแทกเพื่อเซฟตัวผู้สวมใส่ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกรองเท้าวิ่งผู้ชาย Nike ที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ

วัสดุFlywire
พื้นรองเท้าAir Zoom
เหมาะสำหรับวิ่งระยะสั้นและระยะไกล

6. Nike Air Max Dawn

ความเรโทรมันอยู่ในสายเลือด! กับรองเท้าวิ่งผู้ชาย Nike Air Max Dawn อีกหนึ่งรองเท้าน้องใหม่ในตระกูล Air Max ที่ยังคงคอนเซปต์ตามรอยพี่ ๆ ด้วยการผสมผสานความเก๋าแบบคลาสสิกกับนวัตกรรมสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว โดยเริ่มจากการออกแบบที่อิงดีไซน์แบบดั้งเดิมที่เป็นที่นิยมเอาไว้ แต่เพิ่มมาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างพื้นรองเท้าแบบอัดอากาศ (Air) ที่จะรองรับแรงกระแทกพร้อมช่วยส่งแรงสปริงตัวระหว่างวิ่งค่ะ

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้รองเท้าคู่นี้ไม่เหมือนรุ่นพี่ ๆ ในตระกูลก็คือ ตัวรองเท้าเขาผลิตมาจากวัสดุรีไซเคิลอย่างน้อย 20% ของน้ำหนัก จึงมีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัวด้วย นอกจากนี้ในส่วนของ Air-Sole ยังเป็นแบบกว้าง มาพร้อมกับพื้นรองเท้าชั้นกลางแบบโฟม จึงช่วยลดแรงกระแทกไปอีกขั้น และพื้นรองเท้าชั้นนอกสุดก็ยังช่วยให้การยึดเกาะกับถนนได้ดี รวม ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งรองเท้า Nike ในตระกูล Air Max ที่น่าสนใจทีเดียวค่า

วัสดุวัสดุรีไซเคิล
พื้นรองเท้าAir Max
เหมาะสำหรับวิ่งระยะสั้นและระยะไกล


7. NIKE Zoom Fly 4

7. NIKE Zoom Fly 4

ราคาโดยประมาณ 5,800 บาท

รองเท้าวิ่งผู้ชาย Nike ที่มาพร้อมกับอัปเปอร์ที่ผลิตจากวัสดุ Flyknite หรือผ้าตาข่ายน้ำหนักเบา เอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ Nike ที่ขึ้นชื่อเรื่องความกระชับและระบายอากาศได้ดี รวมถึงมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนใส่ถุงเท้ามากกว่ารองเท้า ซึ่งในรุ่นนี้จะพิเศษตรงที่เส้นใย Flyknite  เขาจะไม่ได้ห่อหุ้มแค่ส่วนอัปเปอร์เพียงอย่างเดียว  แต่เขายังห่อหุ้มส่วนข้อเท้าอีกด้วย ช่วยให้เราสามารถถอด-ใส่ได้ง่าย และช่วยเซฟข้อเท้าได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

ในส่วนของกลางเท้า รุ่นนี้เขาจะเพิ่มความกระชับขึ้นด้วยสายรัดเท้าจำนวน 4 ชิ้น  ที่จะผูกติดกับเชือกรองเท้า ทำให้รองเท้าไม่เลื่อนหลุดระหว่างวิ่ง มาพร้อมกับนวัตกรรม Nike React  ระบบลดแรงกระแทกที่ทำจากโฟมน้ำหนักเบาและทนทาน ให้การตอบสนองที่ดีในทุกย่างก้าว ทั้งยังช่วยส่งแรงดีดตัวขณะเคลื่อนไหว ให้ผู้สวมใส่รู้สึกสนุกไปกับทุกจังหวะการวิ่ง ก็เป็นรองเท้าวิ่ง Nike สุดเท่มากประสิทธิภาพที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดเลยค่ะ

วัสดุFlyknite
พื้นรองเท้าNike React
เหมาะสำหรับวิ่งระยะสั้นและระยะไกล

8. NIKE React Miler 3

8. NIKE React Miler 3

ราคาโดยประมาณ 4,700 บาท

รองเท้าวิ่งที่มาในคอนเซ็ปต์ “มอบประสบการณ์ความนุ่มและลื่นไหลได้ทุกย่างก้าว” ด้วยพื้นรองเท้าที่ดีไซน์มาแบบคานโค้งเฉพาะตัว  ซึ่งรับกับรูปเท้าได้ดีและช่วยในเรื่องของการกระจายน้ำหนัก ตัวอัพเปอร์ก็ทำจากผ้าตาข่ายที่มีคุณสมบัติช่วยระบายอากาศ  ทั้งยังให้ความรู้สึกเบาสบาย ไม่เทอะทะ มีความยืดหยุ่นสูงและทนทาน ตรงส่วนหุ้มข้อจะมีการบุนวมเพิ่มเป็นพิเศษเพื่อการถอด-ใส่ที่สะดวก แถมช่วยเซฟข้อเท้าของผู้สวมใส่ได้อีกด้วยค่ะ

ในส่วนของพื้นเท้าชั้นนอก (Outsole) จะมีการติดตั้งเอาไว้ในจุดที่เท้ามีการลงน้ำหนัก เพื่อให้มั่นใจว่าการถ่ายเทน้ำหนักจากส้นสู่ปลายเท้าสามารถทำได้อย่างลื่นไหล และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ สายรัดเท้าเพิ่มความกระชับและนวัตกรรม Nike React โฟมลดแรงกระแทกที่จะให้สัมผัสนุ่มนวลสบายเท้า ทั้งยังช่วยส่งแรงสปริงขณะวิ่ง ก็เป็นรองเท้าวิ่ง Nike ที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงสรีระและความนุ่มสบายของผู้สวมใส่เป็นหลักเลยค่ะ

วัสดุFlyknite
พื้นรองเท้าNike React
เหมาะสำหรับวิ่งระยะสั้นและระยะไกล

9. Nike Flex Experience Run 10

9. Nike Flex Experience Run 10

ราคาโดยประมาณ 2,100 บาท

ขอนำเสนอรองเท้าที่จะใส่วิ่งก็ได้ หรือใส่สบาย ๆ ลำลองก็เท่ดี โดยรุ่นนี้จะมาในดีไซน์เรียบง่าย แต่เขาก็ให้ความคล่องตัวได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างมาเพื่อนักวิ่งสายแคชชวลโดยเฉพาะ ตัวพื้นรองเท้าจะเคลื่อนที่ไปกับเท้าอย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่ปลายเท้าจะมีส่วนยืดหยุ่นช่วยให้ความรู้สึกคล่องตัว ทั้งยังมาพร้อมชิ้นส่วนลดแรงกระแทกที่ส้นเท้า และส่วนซัพพอร์ตที่กลางเท้า ให้ความรู้สึกกระชับปลอดภัย เหมาะใส่วิ่งสบาย ๆ ไม่ซีเรียส แถมยังสามารถแมทช์กับเสื้อผ้าได้หลายลุคด้วยค่ะ

อิงจากผู้ใช้งานจริงบอกได้ว่า รองเท้าคู่นี้มีความนุ่มใส่สบาย มีความยืดหยุ่นและส่งแรงซัพพอร์ตขณะวิ่งได้ดี ทั้งยังมีรูปลักษณ์สวยงามใส่เดินเล่นก็ได้ แต่ข้อเสียของรุ่นนี้ก็มีเหมือนกัน เหตุเพราะเขาไม่ใช่รองเท้าสำหรับวิ่งระยะไกลเหมือนรุ่นอื่น ๆ ส่วนอัพเปอร์จึงค่อนข้างแน่นเมื่อเทียบกับรุ่นที่เป็นรองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ อีกทั้งตัว Outsole  ยังมีความมั่นคงในการยึดเกาะที่ด้อยกว่า อาจไม่ตอบโจทย์ในการใช้วิ่งเป็นหลัก แต่ถ้าจะใส่วิ่งจ๊อกกิ้งสบาย ๆ ชิล ๆ ก็ถือว่าเป็นรองเท้า Nike ที่ตอบโจทย์เลยค่า

วัสดุSynthetics leather
พื้นรองเท้าโฟม
เหมาะสำหรับวิ่งระยะสั้น

10. NIKE React Infinity Run Flyknit 3

10. NIKE React Infinity Run Flyknit 3

ราคาโดยประมาณ 5,600 บาท

รองเท้าวิ่งที่ได้ชื่อว่าตอบสนองความต้องการของนักวิ่งได้ดีที่สุด มาพร้อมเทคโนโลยี Nike React โฟมน้ำหนักเบาที่จะช่วยลดแรงกระแทก ให้ความรู้สึกนุ่มนวลสบายเท้า และตอบสนองได้ดีทุกย่างก้าว ตัวอัพเปอร์ก็ทำมาจากเส้นใย Flyknite ที่มอบความรู้สึกเบาสบายราวใส่ถุงเท้า ระบายอากาศได้ดี อีกทั้งยังยืดหยุ่นและกระชับ ให้เท้าได้เคลื่อนไหวได้โดยไม่ติดขัด ส่วนหุ้มข้อมีการบุเสริมความนุ่ม ช่วยลดแรงกระแทกบริเวณข้อเท้า อีกทั้งยังมีส่วนล่างที่กว้างเพื่อช่วยในการทรงตัวอีกด้วยค่ะ

พื้นรองเท้าก็เป็นแบบดีไซน์คานโค้ง ทำให้มีรูปทรงที่รองรับการเคลื่อนไหวได้ดี อีกทั้งยังให้สัมผัสยืดหยุ่นในทุกย่างก้าว รวมถึงช่วยลดแรงกระแทกในจังหวะที่เท้าสัมผัสพื้น ในส่วนของกลางเท้าจะใช้นวัตกรรมเส้นใย Flywire  ที่จะช่วยความรู้สึกกระชับมั่นคง ไม่มีเคลื่อนหลุดขณะวิ่ง ก็ถือเป็นรองเท้าที่รวมเอาข้อดีของทุกรุ่นเอาไว้ด้วยกัน ทั้งความนุ่มสบาย ช่วยลดแรงกระแทก และเสริมแรงในการวิ่งได้ดี สมเป็นรุ่นรองเท้าวิ่งผู้ชาย Nike ที่ตอบโจทย์นักวิ่งได้ดีเป็นอันดับต้น ๆ เลยค่า

วัสดุFlyknite, Flywire
พื้นรองเท้าNike React
เหมาะสำหรับวิ่งระยะสั้นและระยะไกล

เป็นยังไงกันบ้างคะ หลังจากที่ได้เห็นรีวิว “รองเท้าวิ่งผู้ชาย Nike” รุ่นไหนดี กันไปแล้วถึง 10 รุ่น 10 คู่ด้วยกัน ก็ไม่ทราบว่าสนใจ อยากจะซื้อรุ่นไหน คู่ไหน ไปใช้ใส่วิ่ง ไปใช้ใส่เดินเล่น หรือไปใช้ใส่เป็นรองเท้าในชีวิตประจำวันกันบ้างคะ ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ทาง Nike เขาก็มีรองเท้าวิ่งหลากหลายรุ่นเลยทีเดียว มีทั้งรู่นที่ราคาค่อนข้างแรงมาก แต่ก็รวมข้อดี จุดเด่นของ Nike เอาไว้ทุกอย่าง ไปจนถึงรุ่นที่ย่อมเยากว่า ราคาสบายกระเป๋ากว่าด้วย ยังไงตอนเลือกซื้อ ก็อย่าลืมดูงบประมาณและความต้องการที่หนุ่ม ๆ มีกันด้วยค่าา


Leave a Comment