เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ

รูปภาพปกบทความ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ

คนที่ชอบดื่มกาแฟเป็นประจำ ก็คงจะมีอาการขี้เกียจกับการไปซื้อกาแฟบ่อย ๆ ต้องเสียเวลาเดินทาง และอาจจะต้องรอคิวนาน ๆ ด้วย ครั้นจะชงกาแฟเองก็อาจจะได้รสชาติไม่เหมือนกันในแต่ละครั้งที่ชง จะดีกว่าไหมถ้าเราจะหา เครื่องชงกาแฟแคปซูล มาติดบ้านติดออฟฟิศของเรา ช่วยประหยัดเวลาอันมีค่า และลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว แถมยังได้ดื่มกาแฟหลากหลายรสชาติอีกด้วย แล้วเราจะซื้อ เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี ในบทความนี้เราได้รวบรวมเปรียบเทียบสเปคจากหลากหลายยี่ห้อ รวมถึงวิธีการเลือกซื้อเครื่องให้ด้วย ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาอ่านกันเลยครับ



กาแฟแคปซูล และเครื่องชงกาแฟแคปซูล คืออะไร

กาแฟแคปซูล และเครื่องชงกาแฟแคปซูล คืออะไร

กาแฟแคปซูล คือ กาแฟคั่วบด แบบที่เราไปซื้อตามร้านกาแฟสด ที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ซึ่งถูกดีไซน์มาเป็นพิเศษ ช่วยให้รสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี เมื่อใช้งานร่วมกับเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีแรงดันและความร้อนสูง ก็จะช่วยดึงรสชาติพร้อมกลิ่นหอม ๆ ให้คุณได้ทานกันแบบไม่เสียเวลา นอกจากนี้ตัวเครื่องและแคปซูลก็ยังเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการชงกาแฟอีกด้วย แถมยังมีกาแฟแคปซูลรสชาติใหม่ ๆ ออกมาให้ได้ลิ้มลองกันอยู่เรื่อย ๆ แล้วก็ยังมีแคปซูลบางสูตรของ Nescafe ที่เป็นกาแฟสกัดทำให้มีรสชาติแตกต่างกันออกไปอีก สร้างความแปลกใหม่ได้ดีเลยครับ


วิธีการเลือกซื้อ เครื่องชงกาแฟแคปซูล

วิธีการเลือกซื้อ เครื่องชงกาแฟแคปซูล

ขนาดถังน้ำ เนื่องจากเราจำเป็นต้องเติมน้ำเพื่อชงกาแฟอยู่เสมอ โดยเฉพาะถ้าอยู่ในออฟฟิศหรือในบ้านที่มีคนดื่มกาแฟหลายคน การเลือกซื้อรุ่นที่ถังน้ำมีขนาดใหญ่ จะช่วยลดความถี่ในการเติมน้ำได้ ยิ่งถ้าสามารถมองเห็นระดับน้ำได้ชัด ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะถ้าเผลอน้ำหมดนอกจากจะเสียแคปซูลกาแฟแล้ว ตัวเครื่องยังอาจจะพังได้ด้วยนะครับ

ความดันบาร์ บาร์จะเป็นหน่วยแรงดัน บางคนอาจจะคิดว่ายิ่งมากก็น่าจะยิ่งดี เพราะสามารถดันรสชาติและความหอมที่อยู่ในกาแฟแคปซูลออกมาได้มากยิ่งขึ้น พร้อมกับช่วยให้ชงกาแฟได้เร็วขึ้นอีกด้วย แต่ในความเป็นจริงจะทำให้รสชาติที่ได้มีความเข้มข้นมาก ซึ่งก็จะติดความขมมามากด้วย ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนชอบกาแฟรสนุ่มนวล ลองดูรุ่นที่แรงดันบาร์น้อย ๆ จะดีกว่าครับ

เลือกรุ่นที่ใส่แคปซูลได้หลากหลาย ตอนนี้รูปแบบแคปซูลที่เห็นในท้องตลาดส่วนใหญ่จะมี Nespresso, Dolce Gusto (Nescafe), Boncafe และ Illy ซึ่งจะมีขนาดหรือรูปทรงที่แตกต่างกันไป ทำให้ใช้แคปซูลข้ามยี่ห้อกันไม่ได้ ดังนั้นถ้าอยากข้ามค่าย ก็ลองซื้อยี่ห้อที่รองรับหลาย ๆ แบบแทนนะ เค้าจะมีถาดเปลี่ยนมาให้ใช้งานได้ครับ

เลือกแคปซูลให้ถูกรุ่น สำหรับใครที่ชื่นชอบ StarBuck หรือ DoiChang เค้าก็มีกาแฟแคปซูลวางขายด้วย อย่าลืมเช็คว่าแคปซูลที่ซื้อใช้กับค่ายไหนได้บ้าง และสุดท้ายสำหรับแคปซูลกาแฟ Illy นอกจากจะมีแคปซูลแบบที่ต้องใช้กับเครื่องของ Illy เองแล้ว ยังมีแคปซูลแบบที่ใช้กับเครื่อง Nespresso ได้ด้วย เวลาซื้อดูแคปซูลกันดี ๆ นะครับ เตือนแล้วน้า


ตารางเปรียบเทียบรีวิว “เครื่องชงกาแฟแคปซูล” ยี่ห้อไหนดี 2021

อยากดูข้อมูลของเครื่องชงกาแฟแคปซูลแต่ละยี่ห้อแบบสรุป ๆ อ่านง่าย วางเรียงเปรียบเทียบสเปค แรงดัน, ความจุถังน้ำ, ระดับความเข้มของกาแฟที่ทำได้ และที่สำคัญคือตัวเครื่องใช้กับแคปซูลกาแฟรูปแบบไหนได้บ้าง เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลย หรือถ้าอยากอ่านข้อมูลแบบเต็ม ๆ ก็เลื่อนผ่านปุ่มสีแดง ไปอ่านต่อแบบละเอียด ๆ เลยครับ



1. Xiaomi Scishare Capsule Coffee Machine Mini

แค่นาทีเดียว กาแฟสดก็พร้อมเสิร์ฟ ด้วยเครื่องชงกาแฟแคปซูล Xiaomi Scishare Capsule Coffee Machine Mini ซึ่งเป็นการ Co-Branding ระหว่าง Xiaomi และ Scishare ด้วยตัวเครื่องไซส์เล็ก แต่ดีไซน์มินิมอลสวยสะดุดตามากครับ ใช้แรงดันสกัด 19 บาร์ ที่ดึงกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อมของกาแฟแคปซูลออกมาได้เป็นอย่างดี มีระดับความเข้มให้เลือก 2 ระดับ คือ 40 ml. และ 110 ml. รวมทั้งยังปรับระดับตามความชอบเองได้ด้วยนะครับ แค่กดปุ่มระดับ 110 ml. ค้างไว้ เครื่องจะสกัดกาแฟตั้งแต่ 25-180 ml. สามารถสร้างสรรค์รสชาติกาแฟของตัวคุณเองได้ ไม่ว่าจะดื่มช็อต เติมนม หรือไซรัป ก็ได้ครับ

ด้วยความที่เป็นรุ่น Mini ฟังก์ชันการใช้งานอาจไม่มากเท่ารุ่นอื่น ๆ แต่ก็ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย สะดวก ถาดรองแก้วสามารถถอดออก เพื่อรองรับแก้วกาแฟได้หลายขนาดครับ ตัวเครื่องน้ำหนักเพียง 4 กิโลกรัม ประหยัดพื้นที่ใช้สอย แต่โดดเด่นด้วยดีไซน์สวยที่ถูกใจคนรักการแต่งบ้านแน่นอนครับ และยังรองรับกาแฟแคปซูลยี่ห้อต่าง ๆ ได้หลายยี่ห้อ รวมไปถึงแคปซูลที่ใช้กับเครื่อง Nespresso ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน สำหรับคอกาแฟที่อยากดื่มด่ำกาแฟสดหอมนุ่ม แบบไม่ต้องชงยากซับซ้อน รุ่นนี้ก็นับว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ

แรงดันสกัด19 บาร์
ความจุถังน้ำ620 มิลลิลิตร
น้ำหนัก4 กิโลกรัม
ระดับความเข้มกาแฟ2 ระดับ (40, 110 มล.)
ขนาด30 x 8.5 x 21.5 CM
กำลังไฟ1200 W
แรงดันไฟฟ้า220-240 V / 50 Hz
วัสดุABS
สีBlack, Rose Gold
ประหยัดพลังงานปิดเครื่องอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้ 10 นาที
รูปแบบแคปซูลNespresso

2. Nescafe Dolce Gusto Genio

เอาใจคนรักกาแฟไซส์ XL ด้วยเครื่องชงกาแฟแคปซูล Nescafe Dolce Gusto Genio โดย Krups แบรนด์เครื่องชงกาแฟชั้นนำ กับเครื่องชงรุ่น Genio ด้วยฟังก์ชันใช้งานที่แสนสะดวกมาก ๆ ครับ ตัวเครื่องกะทัดรัด พร้อมดีไซน์เอกลักษณ์ที่หลายคนมักจะเรียกหน้าตาของเจ้าเครื่องรุ่นนี้กันว่าเพนกวินครับ ใช้แรงดันสูง 15 บาร์ สามารถสกัดกาแฟได้ Crema นุ่มนวล ถังน้ำจุได้มากถึง 1 ลิตร ถาดรองน้ำปรับได้ 3 ระดับเพื่อรองรับถ้วยทุกขนาด รวมทั้งยังปรับความร้อน, เย็น และปรับระดับน้ำได้ง่าย ๆ ด้วยก้านควบคุม 4 ทิศทาง เลือกปรับได้สูงสุดถึงระดับเครื่องดื่มไซส์ XL ใหญ่พิเศษด้วยครับ

ตัวแคปซูลของ Nescafe Dolce Gusto ค่อนข้างมีเมนูหลากหลาย จึงเป็นตัวเลือกที่หลายคนนิยมเป็นอย่างมากนะครับ สามารถชงเครื่องดื่มได้ทั้งกาแฟดำ กาแฟนม ไม่ว่าจะเป็น Cappuccino, Latte, Mocha และอื่น ๆ ได้สะดวก ด้วยการใช้แคปซูลที่มี ไม่ต้องเติมนมเพิ่มเองเลยครับ และนอกจากกาแฟแล้ว ยังมีเครื่องดื่มอื่น ๆ ให้เลือก ทั้งช็อคโกแลต ชาเขียว อีกทั้งยังรองรับแคปซูลแบรนด์อื่น ๆ รวมถึง Starbucks ที่ใช้กับ Dolce Gusto ได้ด้วยเช่นกันครับ เรียกว่าเป็นเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่เหมาะอย่างยิ่งที่จะมีติดบ้านไว้สักเครื่องนะครับ

แรงดันสกัด 15 บาร์
ความจุถังน้ำ 1 ลิตร
น้ำหนัก 2.68 กิโลกรัม
ระดับความเข้มกาแฟ ปรับได้ 7 ระดับ
ขนาด 39 x 19.4 x 37.5 CM
กำลังไฟ 1500 W
วัสดุ N/A
สี Red, Pink Gold
ประหยัดพลังงาน ปิดเครื่องอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้ 5 นาที
รูปแบบแคปซูลDolce Gusto

3. Nescafe Dolce Gusto Mini Me

เครื่องชงกาแฟแคปซูลตัวจิ๋ว แต่โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน จาก Nescafe Dolce Gusto โดย Krups รุ่น Mini Me ซึ่งเครื่องตัวนี้เขารวบรวมฟังก์ชันใช้งานหลัก ๆ มาครบครับ ไม่ว่าจะเป็นการสกัดกาแฟด้วยแรงดัน 15 บาร์ ให้ได้กลิ่นหอมและความ Crema เนียนนุ่ม ใช้งานง่าย แค่ใส่แคปซูล แล้วปรับระดับน้ำตามต้องการด้วยฟังก์ชัน Play & Select ซึ่งสามารถปรับเลือกได้ถึง 7 ระดับ เลยครับ เลือกชงแบบร้อนหรือเย็นง่าย ๆ ด้วยก้านควบคุม ถาดรองน้ำสามารถปรับได้ 3 ระดับ ตามขนาดแก้วที่ใช้ หรือถอดออกเพื่อรองรับแก้วไซส์ใหญ่กว่าก็ได้ครับ

ตัวเครื่องรุ่น Mini Me ออกแบบมาให้ไซส์เล็กลงกว่ารุ่น Genio ที่ฟังก์ชันคล้ายกัน น้ำหนักเบาลง เคลื่อนย้ายสะดวก ถังใส่น้ำขนาด 0.8 ลิตร ทำความสะอาดง่าย รวมทั้งการปรับระดับน้ำที่ทำได้ง่ายขึ้นด้วยการขยับแถบอุปกรณ์ที่ระดับน้ำได้เลยครับ ไม่ต้องโยกที่ก้านควบคุมแบบเดิม และความโดดเด่นของเจ้าเครื่อง Nescafe Dolce Gusto ก็คือมีเมนูเครื่องดื่มแคปซูลที่มีหลากหลายนั่นเองครับ ตัวแคปซูลจะแนะนำระดับน้ำที่ต้องใช้ไว้แล้ว เรียกว่าง่ายและสะดวกมาก ๆ ไม่ว่าจะมือใหม่แค่ไหน ก็ชงเครื่องดื่มอร่อย ๆ ได้เลยครับ

แรงดันสกัด15 บาร์
ความจุถังน้ำ800 มิลลิลิตร
น้ำหนัก2.55 กิโลกรัม
ระดับความเข้มกาแฟปรับได้ 7 ระดับ
ขนาด30.5 x 20.7 x 38.2 CM
กำลังไฟ1500 W
วัสดุN/A
สีCherry Black, Black, White
ประหยัดพลังงานปิดเครื่องอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้ 5 นาที
รูปแบบแคปซูลDolce Gusto


4. Nescafe Dolce Gusto Picolo XS

ใครรักความ Manual ต้องรักเครื่องชงกาแฟแคปซูลตัวนี้ครับ Nescafe Dolce Gusto Picolo XS ถ้าเทียบฟังก์ชันการใช้งานของเครื่องชง Nescafe Dolce Gusto โดย Krups แต่ละรุ่นแล้ว รุ่น Picolo XS นี้จะมีความแตกต่างที่ชัดเจนในเรื่องของการปรับระดับน้ำครับ ผู้ชงต้องควบคุมเองแบบ Manual ไม่มีระบบตัดน้ำอัตโนมัติ ต้องการระดับน้ำเท่าไหร่สามารถเปิดปิดได้ตามใจเลยครับ ในส่วนของขนาดเครื่องมาแบบไซส์เล็กกะทัดรัดกว่าทุกรุ่น น้ำหนักเพียง 2 กิโลกรัม แต่ยังคงใช้แรงดัน 15 บาร์ เพื่อสกัดกาแฟให้ได้กลิ่นหอมและความ Crema ไม่แพ้เครื่องชงกาแฟระดับมืออาชีพครับ

นอกจากระบบควบคุมน้ำแบบ Manual ที่ให้อิสระในการชงแล้ว ยังสามารถเลือกชงร้อน, เย็น ได้สะดวกด้วยก้านควบคุม ถาดรองน้ำปรับได้ 3 ระดับ รองรับถ้วยได้หลายขนาด ใช้งานง่าย ตัวเครื่องชงไซส์เล็กทำให้ไม่กินพื้นที่ เพียงแค่เสียบปลั๊ก เครื่องจะเริ่มทำงานอัตโนมัติครับ จากนั้นก็เปิดฝาครอบและดึงที่ใส่แคปซูลออกมา ก็พร้อมใช้งานภายใน 40 วินาที ให้คุณสนุกกับการชงเครื่องดื่มด้วยมือของคุณเอง ไปกับแคปซูลอัจฉริยะของ Nescafe Dolce Gusto ที่มีให้เลือกหลากหลาย ให้รสชาติกาแฟเต็มเปี่ยมถูกใจคอกาแฟแน่นอนครับ

แรงดันสกัด15 บาร์
ความจุถังน้ำ800 มิลลิลิตร
น้ำหนัก2 กิโลกรัม
ระดับความเข้มกาแฟปรับแบบ manual
ขนาด14 x 28 x27 cm
กำลังไฟ1340 -1600 W
วัสดุN/A
สีBlack, White
ประหยัดพลังงานปิดเครื่องอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้ 1 นาที
รูปแบบแคปซูลDolce Gusto

5. Xiaomi Miija Capsule Coffee Machine S1301

เรียกว่าเอาใจสาวกแบรนด์ Xiaomi ที่หลงรักในความ Minimal ได้แน่นอนครับ กับเครื่องชงกาแฟแคปซูล Xiaomi Miija Capsule Coffee Machine S1301 ดีไซน์เรียบง่าย ใช้สีขาวสะอาดตา ไซส์เล็กกะทัดรัด จะวางมุมไหนของบ้านก็ดูเก๋ แต่ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้นนะครับ การใช้งานยังโดดเด่นไม่แพ้แบรนด์อื่น ๆ ด้วยแรงดันสกัดสูง 20 บาร์ ให้รสชาติกาแฟและกลิ่นหอมที่เทียบเท่าเครื่องชงกาแฟใหญ่ ๆ ใช้งานง่าย ด้วยปุ่มเลือกระดับน้ำ 40 และ 110 มิลลิลิตร แค่กดปุ่มเดียวก็ได้ดื่มด่ำกาแฟสดรสชาตินุ่มในทุกวันแล้วล่ะครับ

ถึงจะมีระดับน้ำอัตโนมัติแค่ 2 ระดับ แต่ก็มีการเพิ่มฟังก์ชันความจำ ให้สามารถปรับระดับน้ำที่ต้องการได้ด้วยครับ โดยการกดปุ่มบนตัวเครื่องเพื่อจดจำระดับน้ำที่ใช้ ซึ่งจะทำให้ได้ปริมาณกาแฟที่เท่ากันในทุกครั้ง ถาดรองน้ำปรับได้ 2 ระดับ และถอดออกได้ เพื่อรองรับถ้วยหลายขนาด สำหรับเครื่องชงกาแฟแคปซูลของ Xiaomi จะรองรับแคปซูลที่ใช้กับเครื่อง Nespresso ซึ่งมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกครับ เรียกว่าสามารถชงเครื่องดื่มเองได้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะชงที่บ้าน หรือที่ทำงานก็สบายหายห่วงเลยครับ

แรงดันสกัด20 บาร์
ความจุถังน้ำ600 มิลลิลิตร
น้ำหนัก2.4 กิโลกรัม
ระดับความเข้มกาแฟ2 ระดับ (40, 110 มล.)
ขนาด32 x 8.5 x21.3 cm
กำลังไฟ1150 W
วัสดุABS
สีWhite
ประหยัดพลังงานปิดเครื่องอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้ 10 นาที
รูปแบบแคปซูลNespresso

6. Xiaomi Scishare Capsule Coffee Machine

ไม่ว่าคุณจะเป็นคอกาแฟระดับไหน Xiaomi Scishare Capsule Coffee Machine ก็จัดให้คุณได้ถึง 9 ระดับไปเลยครับ แม้จะเป็นเครื่องชงกาแฟแคปซูลตัวเล็ก แต่ด้วยแรงดันสกัดสูง 19 บาร์ ทำให้ดึงรสชาติความหอมของกาแฟได้แบบมืออาชีพ และสามารถปรับระดับน้ำเพื่อเลือกความเข้มของกาแฟได้มากถึง 9 ระดับ ตั้งแต่ 15 ถึง 85 ml. และตั้งค่าเองได้สูงสุดถึง 180 ml. เรียกว่าชอบกาแฟเข้มน้อย-กลาง-มาก ก็เลือกได้ตามใจครับ ด้วยก้านคันโยกที่ใช้งานง่าย เพียง 1 นาที โยกแล้วกด เท่านี้กาแฟสดหอม ๆ ก็พร้อมเสิร์ฟตรงหน้าได้ทันที

ในส่วนของการใช้งานอื่น ๆ ก็จัดว่าให้มาครบนะครับ ไม่ว่าจะเป็นถาดรองน้ำที่ปรับได้ 2 ระดับ หรือจะถอดออก เพื่อรองรับถ้วยได้หลายขนาด ถังน้ำจุ 580 มิลลิลิตร และฟังก์ชันประหยัดพลังงานที่จะปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้ 15 นาที ในส่วนของแคปซูลที่ใช้ สามารถรองรับแบรนด์ที่ใช้กับเครื่อง Nespresso ครับ ด้วยราคาที่จับต้องได้ และคุณภาพของแบรนด์ Xiaomi ก็น่าจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่คอกาแฟจะตัดสินใจเลือกซื้อได้ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ

แรงดันสกัด19 บาร์
ความจุถังน้ำ580 มิลลิลิตร
น้ำหนัก2.9 กิโลกรัม
ระดับความเข้มกาแฟปรับได้ 9 ระดับ
ขนาด34 x 10 x26 cm
กำลังไฟ1200 W
วัสดุN/A
สีWhite
ประหยัดพลังงานปิดเครื่องอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้ 15 นาที
รูปแบบแคปซูลNespresso


7. illy X9 iperEspresso Machine

ถ้าจะมีเครื่องชงกาแฟสักเครื่องที่ทำให้คุณสะดุดตาได้ illy X9 iperEspresso Machine น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นครับ ด้วยรูปลักษณ์ทรงรี และดีไซน์ที่หรูหราล้ำสมัย ทำให้เครื่องรุ่นนี้มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ถังน้ำจุ 700 ml. ที่สามารถถอดเติมน้ำได้ระหว่างใช้เครื่อง การกดปุ่มตั้งโปรแกรมปรับระดับน้ำได้ 2 ระดับ เพื่อเลือกช็อตกาแฟเข้มข้นที่ชอบได้ และยังมีลูกเล่นฉายไฟ LED ส่องถ้วยกาแฟในระหว่างชง รวมทั้งสามารถอุ่นถ้วยกาแฟบนเครื่องได้อีกด้วยครับ

ในส่วนของระบบแคปซูล illy นั้นมีความพิเศษกว่าแคปซูลแบรนด์อื่น ๆ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ได้มีการจดสิทธิบัตรเฉพาะด้วยนะครับ โดยใช้การทำเอสเพรสโซ่ 2 ขั้นตอน ทำให้ได้เอสเพรสโซ่เข้มข้น หอมนุ่ม คงความ Crema ยาวนานกว่ากาแฟทั่วไป แต่ในข้อดีนี้ก็นับว่ามีข้อด้อยที่ทำให้ไม่อยู่ในตัวเลือกของคอกาแฟหลาย ๆ คนครับ เพราะเครื่องชง illy นี้ไม่สามารถใช้แคปซูลร่วมกับแบรนด์อื่น ๆ ได้ ต้องใช้กับแคปซูลของ illy เท่านั้นครับ  

แรงดันสกัด15 บาร์
ความจุถังน้ำ23.7 ออนซ์ (700 มิลลิลิตร)
น้ำหนัก5 กิโลกรัม
ระดับความเข้มกาแฟปรับได้ 2 ระดับ
ขนาด27 x 12.2 x 26.7 cm
กำลังไฟ1200 W
วัสดุอะลูมิเนียมชุบโครเมียม
สีSilver, Red, Black
ประหยัดพลังงานปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน 30 นาที
รูปแบบแคปซูลIlly

8. illy Y3.3 iperEspresso Machine

เครื่องชงกาแฟแคปซูล illy Y3.3 iperEspresso Machine นับว่าเป็นเครื่องชง illy รุ่นที่หลายคนนิยมกันนะครับ ด้วยดีไซน์มินิมอล (Minimal) เรียบหรูดูดี เพราะได้สถาปนิกชื่อดังของอิตาลี Piero Lissoni เป็นผู้ออกแบบให้ แต่ถึงจะหน้าตามินิมอลแบบนี้ ก็มีฟังก์ชันมาให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นแรงดันสกัด 19 บาร์ ที่ทำให้ชงกาแฟได้หอมและมีความ Crema นุ่ม ๆ ถูกใจคอกาแฟแน่นอนครับ รวมทั้งสามารถปรับระดับน้ำ เพื่อเลือกความเข้มของกาแฟ 2 ระดับ คือ Espresso หรือ Lungo พร้อมสำหรับการชงเมนูต่าง ๆ ได้อย่างที่ต้องการเลยครับ

และสำหรับเอกลักษณ์ของเครื่องชงกาแฟแคปซูล illy นั้น ก็คือระบบแคปซูลที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งมีการจดสิทธิบัตรเฉพาะของ illy เท่านั้นครับ ทำให้ได้เอสเพรสโซ่รสเข้มข้น กลิ่นหอม มีความ Crema ยาวนานกว่ากาแฟทั่วไป รวมทั้งเป็นแคปซูลที่ง่ายต่อการทำความสะอาด และการจัดการรีไซเคิลด้วย แต่ข้อจำกัดก็อยู่ตรงนี้เช่นกันครับ เพราะใช้ได้แค่แคปซูลเฉพาะของ illy เท่านั้น หากอยากได้รสชาติหลากหลายจากแคปซูลกาแฟแบรนด์อื่นๆ ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้นะครับ

แรงดันสกัด19 บาร์
ความจุถังน้ำ750 มิลลิลิตร
น้ำหนัก4.15 กิโลกรัม
ระดับความเข้มกาแฟปรับได้ 2 ระดับ
ขนาด29.8 x 10 x 25.4cm
กำลังไฟ850 W
วัสดุABS
สีWhite, Red, Blue
ประหยัดพลังงานปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน 15 นาที
รูปแบบแคปซูลIlly

9. Capristta U

ถ้าให้พูดถึงเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก หนึ่งในนั้นก็ต้องเป็นเครื่องรุ่นนี้เลยครับ Capristta U เรียกว่าใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน เครื่องนี้มีแรงดันน้ำ 15 บาร์ แน่นอนว่าดึงรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟได้ไม่ต่างกับเครื่องชงกาแฟรุ่นใหญ่ ๆ ครับ และสามารถปรับระดับน้ำได้ 2 ระดับ แบบ Espresso Shot 30-40 ml. หรือแบบปกติ 70-90 ml. ก็เลือกได้เลย จะชงกาแฟเมนูไหนก็อร่อยได้ทุกเมนูครับ แค่เติมนม ไซรัป (Syrup) หรือจะผสมน้ำผลไม้ ส้มยูซุ เลมอนโซดา ก็สามารถสร้างสรรค์ได้ตามชอบเลยล่ะครับ

สำหรับเครื่องรุ่นนี้จะรองรับแคปซูลของ Boncafe และ Segafredo (ที่จำหน่ายโดย Boncafe เท่านั้น) ซึ่งก็มีหลายรสชาติพอสมควร ในส่วนของตัวถังน้ำจุได้ถึง 1 ลิตร เรียกว่าเติมครั้งเดียวก็ชงได้หลายแก้วครับ ซึ่งอย่างที่บอกว่าเครื่องรุ่นนี้ไม่ซับซ้อน ไม่ได้มีฟังก์ชันอะไรให้เลือกมากนัก อาจไม่ได้มีเอกลักษณ์โดดเด่นเท่าเครื่องชงกาแฟแคปซูลรุ่นอื่น ๆ แต่ถ้าสำหรับคอกาแฟที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก หรือคิดพลิกแพลงเมนูมากมาย ตัวเครื่องนี้ก็ค่อนข้างตอบโจทย์สำหรับการใช้งานที่ง่ายและสะดวกได้ดีครับ

แรงดันสกัด15 บาร์
ความจุถังน้ำ1 ลิตร
น้ำหนัก3.1 กิโลกรัม
ระดับความเข้มกาแฟปรับได้ 2 ระดับ
ขนาด26 x 16.2 x 30.5 cm
กำลังไฟ1200-1400 W
วัสดุN/A
สีWhite, Red, Black
ประหยัดพลังงานปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน 10 นาที
รูปแบบแคปซูลBoncafe

10. Oggi Mc2

ต้องบอกว่าน่าสนใจมาก ๆ สำหรับเครื่องชงกาแฟแคปซูลรุ่นนี้ Oggi Mc2 สำหรับคอกาแฟที่ต้องการความหลากหลาย ถูกใจแน่นอนครับ เพราะแค่เครื่องนี้เครื่องเดียว สามารถชงได้ทั้งแคปซูล Nespresso, Dolce Gusto รวมถึง Coffee POD และยังชงกาแฟคั่วบดได้ด้วย เรียกว่า 4 in 1 กันไปเลยครับ นอกจากนี้ถ้าอยากใช้กับกาแฟอื่น ๆ ก็ยังซื้อ Adapter เพิ่มได้อีก สำหรับคนรักกาแฟที่ไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ ต้องไม่พลาดเครื่องรุ่นนี้แล้วล่ะครับ

นอกเหนือจากความหลากหลายแล้ว ฟังก์ชันต่าง ๆ ก็ไม่ต่างกับเครื่องรุ่นอื่น ๆ นะครับ ไม่ว่าจะเป็นแรงดันสกัด 19 บาร์ ซึ่งเขาใช้ ULKA Pump ของอิตาลี เพื่อดึงรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟแบบมืออาชีพ การปรับระดับน้ำทำได้ 2 ระดับ ในเรื่องดีไซน์หน้าตาเครื่องมีความสนุกสนานเหมือนกับฟังก์ชันการชงเครื่องดื่มที่หลากหลาย แต่เนื่องจากไม่ใช่แบรนด์ดังในท้องตลาด บางคนจึงอาจจะยังไม่มั่นใจในเรื่องคุณภาพของตัวเครื่องมากนัก แต่เท่าที่ลองค้นหาข้อมูลใน Pantip ก็พบว่าไม่มีใครบ่นถึงปัญหาของเครื่องรุ่นนี้เลย แบบนี้ก็ต้องลองซื้อมาพิสูจน์ด้วยตัวเองกันแล้วล่ะครับ

แรงดันสกัด19 บาร์
ความจุถังน้ำ600 มิลลิลิตร
น้ำหนัก2.4 กิโลกรัม
ระดับความเข้มกาแฟปรับได้ 2 ระดับ
ขนาด27 x 11 x 25 cm
กำลังไฟ1450 W
วัสดุN/A
สีWhite, Red
ประหยัดพลังงานปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน 15 นาที
รูปแบบแคปซูลDolce Gusto / Nespresso / กาแฟบด / Illy , Kimbo Coffee Pod

11. Nespresso Inissia

Nespresso Innissia เป็นเครื่องชงกาแฟแคปซูล ที่มีความน่าสนใจในเรื่องแคปซูลกาแฟที่ใช้ได้กับเครื่องยี่ห้อนี้มีเยอะเอามาก ๆ หลายยี่ห้ออย่าง StarBuck Illy หรือแม้กระทั่งแบรนด์ไทยอย่าง Doi Chang ก็ออกแคปซูลมาให้ใช้กับรุ่นนี้ได้ด้วย แถมแคปซูลกาแฟ Nespresso เองก็ได้รับการยอมรับว่าดีเอามาก ๆ ขยันออกตัวลิมิตเต็ดเด็ด ๆ มาให้ลิ้มลองรสชาติใหม่ ๆ กันบ่อย ๆ ตัวเครื่องดีไซน์สวยงาม การันตีงานดีไซน์ด้วยการชนะเลิศการประกวด Red Dot Design 2014 จะวางไว้มุมไหนในบ้านหรือออฟฟิศก็ดูดีไปหมดแน่นอน แถมตัวเครื่องก็ยังมีขนาดเล็ก ไม่เปลืองพื้นที่ สามารถโยกย้ายได้สะดวกจากหูหิ้วอีกด้วย มีที่ใส่น้ำขนาด 700 มิลลิลิตร เพียงต่อการชง 4-5 แก้วต่อการเติมน้ำ 1 ครั้ง

ทางด้านสเปคนั้น ตัวเครื่องจะใช้ไฟฟ้า 1260 Watt ให้แรงดันน้ำสูงถึง 19 Bar ช่วยให้ดึงรสชาติและกลิ่นออกมาจากแคปซูลได้อย่างเต็มที่ เพียงแค่กดสวิตช์ก็จะได้กาแฟภายใน 25 วินาที สามารถเลือกชงกาแฟแบบ Espresso หรือ Lungo ได้ โดยโหมด Lungo จะทำให้น้ำออกมามากขึ้นนั้นเอง ทำให้ความเข้มข้นถูกเจือจางโดยน้ำมากกว่าโหมด Espresso จุดเด่นอีกอย่างของ Nespresso Inissia ที่สำคัญคือ สามารถพับถาดรองแก้วขึ้นได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวก เมื่อเราต้องการใช้แก้วทรงสูง หรือกระบอกน้ำ ใครอยากจะได้สูตรกาแฟ ก็คลิกไปดูได้ที่เว็บ Nesspresso เลยครับ

แรงดันสกัด19 บาร์
ความจุถังน้ำ700 มิลลิลิตร
น้ำหนัก2.4 กิโลกรัม
ระดับความเข้มกาแฟ2 ระดับ (40, 110 มล.)
ขนาด12 x 23 x32.1 cm
กำลังไฟ1260 W
วัสดุN/A
สีRed, Black
ประหยัดพลังงานปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน 9 นาที
รูปแบบแคปซูลNespresso

อ่านกันมาถึงตรงนี้น่าจะหาเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่ถูกใจได้แล้วใช่ไหมครับ ส่วนใหญ่เครื่องชงกาแฟจะมีสเปคที่ไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก มีเพิ่มเติมลูกเล่น สามารถปรับระดับความเข้มข้นกาแฟได้มากน้อย แต่ที่น่าสนใจคือเรื่องระดับแรงดันน้ำ ที่อาจจะส่งผลต่อรสชาติกาแฟให้เข้มข้นหรือนุ่มนวล รวมถึงรูปแบบของแคปซูลกาแฟที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ ดังนั้นก่อนซื้อเครื่องชงกาแฟแคปซูล หรือเจ้าแคปซูลกาแฟ จะต้องละเอียดรอบคอบในการเลือกกันสักนิด ซึ่งรูปแบบแคปซูลที่ได้รับความนิยมสูงจะเป็นแบบที่ใช้ได้กับเครื่องของ Nespresso รองลงมาก็จะเป็น Dolce Gusto ส่วนใครที่อยากลองเครื่องชงที่สามารถใช้แคปซูลได้หลายค่าย ก็ต้องเป็น Oggi Mc2 เลยครับ ขอให้มีความสุขกับการดื่มกาแฟกันนะครับ



Leave a Comment