เบื่อ ๆ พวกยุง ๆ ตัวร้ายกันบ้างไหมครับ? ทั้งที่ปิดประตู ปิดหน้าต่าง ปิดมุ้งลวดก็แล้ว แต่อยู่ ๆ เจ้ายุ่งเหล่านี้ก็ดันโผล่มาจากไหนกันก็ไม่รู้ และไม่ชอบมาตัวเดียวนะ มาทีชอบพาเพื่อนฝูงมาด้วย จะไปจุดยากันยุงก็ไม่ไหว สำลักควันเวียนหัวตายกันพอดี จะเอาไม้มาไล่ตี เดี่ยวก็โผล่มาอีก สงสัยได้ไล่ตีกันทั้งคืน จะไปใช้แบบเครื่องฆ่ายุงด้วยไฟฟ้า ก็แอบอันตรายน่ากลัว เสียวมีประกายไฟเกิดเพลิงไหม้ได้อีก จะใช้โลชั่นกันยุงทา เด็ก ๆ ที่มีผิวบอบบางก็อาจจะเกิดการแพ้ระคายเคืองได้ ถ้ายังงั้น ลองมาใช้ “เครื่องดักยุง” แบบลมดูด กันดูไหมล่ะครับ แล้วที่ดักยุ่งแบบนี้มีลักษณะอย่างไร จะสามารถจัดการยุงได้จริงไหม ปลอดภัยหรือเปล่า แล้วจะซื้อยี่ห้อไหนดี? ที่นี่มีคำตอบครับ
สารบัญ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว เครื่องดักยุง แบบลมดูด ยี่ห้อไหนดี
เผื่อว่าใครที่ไม่มีเวลาอ่านเนื้อหาทั้งหมด หรืออยากจะเห็นสินค้าที่ดักยุงของแต่ละยี่ห้อ มาวางเรียบเปรียบเทียบกันแบบช็อตต่อช็อต ก็ลองกดเข้าไปที่ปุ่มด้านล่างเพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบได้นะครับ
1. ยี่ห้อ MOSZERO
ราคาโดยประมาณ 2,790 บาท
เครื่องดักยุงทั่ว ๆ ไป จะเป็นการล่อให้ยุงมาติดกับอยู่ในเครื่อง ทำให้บางทียุงไม่ยอมมาติด หรือบินหนีไปที่อื่น สร้างความรำคาญกันต่อไป แต่สำหรับเจ้าเครื่องนี้ MOSZERO จะไม่เป็นการดักยุง แต่จะเป็นการไล่ยุงออกจากพื้นที่แทน ซึ่งดูเผิน ๆ อาจจะเหมือนกับเครื่องไล่ยุงทั่ว ๆ ไป แต่ยี่ห้อนี้เขาพิเศษกว่า เพราะเป็นการไล่ยุงด้วยน้ำถึง 99.9% !! จึงดีต่อร่างกายมากกว่า อีกทั้งเขายังได้รับรางวัล Innovation จาก ThaiSynergy, 7 Innovation Awards ซึ่งถือเป็นรางวัลที่การันตีถึงประสิทธิภาพและความดีงามของเจ้าเครื่องนี้กันเลยครับ
โดยหลักการทำงาน จะต้องผสมน้ำยาไล่ยุง MOSZERO 10 หยด และน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน จากนั้นเครื่องจะทำการปล่อยหมอกขนาดเล็กออกมา และเมื่อยุงมาซูดดมแล้ว จะทำให้ยุงมึนเมา และไม่สามารถกัดเรา รวมถึงสืบพันธุ์ต่อได้ !! จึงทำให้ยุงในพื้นที่ค่อย ๆ น้อยลงไปเรื่อย ๆ ด้วย ส่วนตัวน้ำยาก็สะกัดจากสารสังเคราะห์เลี่ยนแบบดอกไพรีทรัม รวมถึงผ่านการรับรองจาก อย. ก็มั่นใจกันได้ และตอนใช้งานก็ไม่มีเสียง ไม่มีกลิ่น ปกป้องพื้นที่ได้ถึง 30 ตารางเมตรอีก คือถ้าใช้เครื่องอื่น ๆ แล้วยังมีปัญหาเรื่องยุงอยู่ล่ะก็ อยากให้ลองยี่ห้อ MOSZERO กันเลยครับ
จุดเด่น | ไล่ยุงแบบน้ำ 99.9% / พื้นที่ใช้งานกันยุงได้มากถึง 30 ตรม. / ไม่มีเสียงไม่มีกลิ่น / รับรองด้วย อย. |
ขนาด / น้ำหนัก | 185 x 165 x 390 มม. / NA |
ชาร์จไฟ | ปลั๊กไฟบ้าน |
2. ยี่ห้อ Xiaomi, Sothing
ราคาโดยประมาณ 275 บาท
ถ้าอยากได้ที่ดักยุงแบบลมดูดที่มีดีไซน์ดูเป็นเอกลักษณ์ ดูสวยเด่น และสามารถใช้เป็นของแต่งบ้านได้ด้วยแล้วละก็ ต้องขอแนะนำยี่ห้อ Sothing (แบรนด์ในเครือของ Xiaomi) กันเลยครับ โดยดีไซน์ได้ทำออกมาเป็นต้นกระบองเพชรดูสวยแปลกตา ที่ไม่ว่าจะเอาไปวางไว้ในห้องไหน ๆ ก็แต่งเข้ากับห้องนั้น ๆ ได้หมด อีกทั้งยังได้ออกแบบให้หลอดไฟ UV ที่ใช้ล่อยุงและช่องท่อลมดูดเป็นแบบ 360 องศา ทำให้ไม่ว่าเจ้าตัวร้ายจะบินมาจากทิศไหน ๆ ก็ถูกดูดลงไปในกล่องได้อย่างแน่นอน
ส่วนขนาดเครื่องก็เล็ก กะทัดรัด เคลื่อนย้ายไปไหนมาได้สะดวก และไม่ต้องพะวงกับการเสียบไฟบ้าน เพราะมีการชาร์จไฟแบบ USB จะเอาต้นกระบองเพชรไปวางไว้ในบ้าน นอกบ้าน หรือที่ไหน ๆ ก็ได้ทั้งนั้น (แต่อย่าลืม Power Bank ไปด้วยนะ) เห็นกันแบบนี้แล้ว สงสัยต้องจัดกันสักเครื่องแล้วครับ
จุดเด่น | ดีไซน์โดดเด่นต้นกระบองเพชร / พกพาเคลื่อนย้ายไปมาได้ง่าย / การทำงานแบบ 360 องศา / ไม่ต้องใช้สายไฟฟ้า |
ขนาด / น้ำหนัก | 120 x 120 x 150 มม. / 307 กรัม |
ชาร์จไฟ | USB |
3. ยี่ห้อ Remax รุ่น RT-MK04
ราคาโดยประมาณ 768 บาท
ถ้าคิดว่าเครื่องดักยุง Xiaomi ต้นกระบองเพชรนั้นเล็กเกินไป กลัวว่าจะดักจับยุงได้ไม่ดีพอ งั้นลองมาดูของยี่ห้อ Remax รุ่น RT-MK04 ที่ตัวเครื่องมีขนาดที่ใหญ่มากขึ้น และน้ำหนักก็มากขึ้นด้วย อีกทั้งเมื่อดูจากรูปทรงแล้ว ก็ดูจริงจังเอามาก ๆ พร้อมที่จะทำงานล่อยุงได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหลักการทำงานก็ยังคงเดิม ๆ คือการเปิดแสงไฟสีม่วงเพื่อล่อยุงให้เข้ามาติดกับครับ
แต่เครื่องนี้จะพิเศษตรงที่ตลับด้านบน จะมีการปล่อยสารที่ยุงชอบ (ไม่เป็นอันตรายต่อคน) เพิ่มเติมด้วย จึงล่อยุงได้ดีมากขึ้นกว่าเครื่องอื่น ๆ ที่ใช้เพียงแค่แสงไฟเท่านั้น แต่กลิ่นล่อยุงจะใช้ได้ประมาณ 45 วัน หลังจากนั้นจะเป็นแค่แสงไฟเฉย ๆ ถ้ายังอยากให้มีกลิ่นมาล่อเหมือนเดิม ก็ต้องไปซื้อซองกลิ่นมาเปลี่ยนเอาครับ ส่วนเรื่องการล่อยุง จากที่ได้ไปดูรีวิวของคนใช้งานจริง ก็พบว่า ล่อยุงให้มาติดกับได้ดีมาก ๆ แต่ต้องเปิดในห้องมืด ๆ กับตอนที่ไม่มีคนอยู่ ถึงจะล่อยุงได้ครับ
จุดเด่น | ดีไซน์ดูจริงจัง / ถึงจะหนักกว่าเครื่องอื่น ๆ แต่ก็ยังพกพาเคลื่อนย้ายไปมาได้สะดวกอยู่ / ไม่ต้องใช้สายไฟฟ้า / มีกลิ่นล่อยุงเพิ่มเติม |
ขนาด / น้ำหนัก | 255 x 130 x 130 มม. / 695 กรัม |
ชาร์จไฟ | USB |
4. ยี่ห้อ Xiaomi, Cooperation Brand 3 Life
ราคาโดยประมาณ 339 บาท
Cooperation Brand 3 Life เป็นอีกแบรนด์ที่อยู่ในเครือของ Xiaomi ที่มีเครื่องดักยุงที่น่าสนใจวางขายอยู่ โดยถ้าดูจากดีไซน์ อาจจะดูเรียบ ๆ ธรรมดา ๆ ไปนิดเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่ก็ดูเรียบง่าย สีขาวหรือดำตามสไตล์มินิมอล และตัวเครื่องจะมีทรงเหมือนเป็นหม้อหุงข้าวขนาดเล็ก มาพร้อมกับหูหิ้วทำให้หิ้วไปไหนมาไหนได้สะดวก และที่เหมือนจะเป็นไฮไลท์ก็คือ หลอดแสงไฟจะลอยเหนืออยู่บนกล่องดักจับยุง ทำให้ไม่ไปกินเนื้อที่ของตะแกรงบนกล่อง เวลายุงบินมาแล้ว จึงโดนดูดเข้ากล่องได้ง่าย อีกทั้งยังทำให้แสงส่องเป็นจุด จึงแอบล่อยุงได้ดีกว่าด้วย ถ้ายังไงเป็นคนชอบของเรียบ ๆ เครื่องนี้แอบตอบโจทย์เลยครับ
จุดเด่น | เคลื่อนย้ายไปมาได้สะดวกด้วยหูหิ้ว / ไม่ต้องใช้สายไฟฟ้า / แสงไฟลอยอยู่บนตะแกรง ไม่กินพื้นที่ และส่องไฟเป็นจุด ทำให้ล่อยุงได้ดี |
ขนาด / น้ำหนัก | 112 x 121 x 131 มม. / 315 กรัม |
ชาร์จไฟ | USB |
5. ยี่ห้อ YAGE-M002
ราคาโดยประมาณ 479 บาท
YAGE รุ่น M002 ถือว่าเป็นเครื่องดักยุงที่มียอดขายที่ใช้ได้เลยในอินเตอร์เน็ทครับ โดยตัวเครื่องก็มีรูปทรงดูทันสมัย ดีไซน์มาในสไตล์สีขาว แนวมินิมอลเช่นเดียวกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่ถ้าเทียบเรื่องการใช้งานแล้ว อาจจะไม่สะดวกสบายเท่าไรนัก เพราะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และต้องคอยเสียบกับปลั๊กไฟบ้าน ทำให้ไม่สามารถวางไว้ที่ตำแหน่งไหนก็ได้ แต่ด้วยการที่ใช้ไฟบ้านก็จะมีข้อดีตรงที่ ลมดูดแรงมาก และแรงดีไม่มีตกครับ
อีกทั้งเครื่องนี้ ยังมีความแรงลมให้เลือกปรับกันได้ 2 ระดับคือ ระดับ Strong ไว้ใช้เปิดตอนแรก ๆ และตอนที่ไม่มีคนอยู่ และระดับ Sleep ไว้ใช้เปิดตอนที่เราจะนอน ซึ่งจะมีเสียงการทำงานที่เบากว่า ส่วนเรื่องการดักยุงนั้น ก็มีหลาย ๆ รีวิวบอกมาว่า ใช้ดักได้ดีเลย แต่แสงไฟค่อนข้างสว่างมาก ถ้าเป็นคนที่ต้องนอนแบบห้องมืดสนิท ๆ เครื่องตัวนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์ครับ
จุดเด่น | การทำงานแบบ 360 องศา / เครื่องทำงานได้แรง / สามารถปรับระดับลมดูดได้ |
ขนาด / น้ำหนัก | 140 x180 x 190 มม. / NA |
ชาร์จไฟ | ไฟบ้าน |
6. ยี่ห้อ Xiaomi, DOKIY
ราคาโดยประมาณ 390 บาท
เอาใจเด็ก ๆ และคนชอบของน่ารัก ๆ กันสักนิดกับ Xiaomi, DOKIY (ยี่ห้อในเครือ Xiaomi อีกแล้ว) ที่ออกแบบเครื่องมาเป็นตัวเป็ดน้อยสีเหลืองสดใส ดูเด่น ดูน่ารักมากกกก ถ้าได้เอาไปเปิดใช้งานในห้องของเด็ก ๆ พวกเขาคงจะฟินกันน่าดู แต่เห็นว่าน่ารักแบบนี้ วัสดุที่ใช้ผลิตก็แข็งแรง ทนไม้ทนมืออยู่นะครับ ส่วนการทำงานก็ถือว่าทำได้ดี และโดยรวม ๆ แล้ว ก็มีแต่เสียงรีวิวไปในทาง ++++ โดยเฉพาะเรื่องของความน่ารัก แต่ถ้าเปิดในห้องที่สว่าง ก็มีคนบอกว่า ยุงก็บินผ่านแบบไม่แคร์แต่อย่างใด ยังไงก็อย่าลืมเปิดก่อนล่วงหน้าและปิดไฟให้ห้องมืดสนิทด้วยครับ
จุดเด่น | เป็ดน้อยสีเหลืองน่ารักมาก |
ขนาด / น้ำหนัก | 130 x 130 x 230 มม. / NA |
ชาร์จไฟ | USB |
7. ไม่มียี่ห้อ เครื่องดักยุงหูกระต่ายหรือเขากวาง
ราคาโดยประมาณ 390 บาท
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว มาลองดูเครื่องดักยุงที่เน้นความน่ารักกันอีกสักรุ่น (แต่ไม่มียี่ห้อนะ เป็นของจากประเทศจีน ก่อนซื้อก็คิดดี ๆ เน้อ) โดยตัวเครื่องจะมีให้เลือกซื้ออยู่ 2 แบบด้วยกันคือ แบบหูกระต่ายที่มีสีชมพูพาสเทลสวย กับแบบเขากวางที่มีสีขาว ก็ถ้าชอบแบบไหน ก็จัดแบบนั้นได้เลยครับ ส่วนทางด้านการทำงานก็ตามหลักของที่ดักยุงทั่ว ๆ ไป ที่ใช้การเปิดไฟล่อยุงมาให้โดนลมดูด ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือด้อยกว่าเครื่องอื่น ๆ แต่จะเน้นเรื่องดีไซน์และความน่ารักเป็นจุดเด่นเท่านั้นครับ
จุดเด่น | ดีไซน์น่ารักแบบหูกระต่ายหรือเขากวาง |
ขนาด / น้ำหนัก | 130 x 130 x 230 มม. / NA |
ชาร์จไฟ | USB |
8. ยี่ห้อ Xiaomi, Mijia 3 Life
ราคาโดยประมาณ 329 บาท
Xiaomi, Mijia 3 Life ที่ความน่ารักและความโดนเด่น อาจจะสู้กับ 2 ยี่ห้อด้านบนไม่ได้ แต่ Mijia 3 Life (แบรนด์ลูกของ Xiaomi) ขอเอาใจทาสแมวกันสักนิด เพราะตัวเครื่องได้รับเรื่องบันดาลใจการออกแบบมาจากน้องเมี้ยว โดยจะมีหูแมว 2 หู อยู่ด้านบน และมีเข็มสามแฉกที่ติดอยู่ด้านหน้าแทนปากกับจมูก พอมองรวม ๆ แล้ว ก็จะเห็นเป็นเหมือนกับหน้าน้องแมวนั้นเองครับ และยังมีสีขาวกับสีชมพูให้เลือกซื้อกันด้วย นอกจากนี้ ตัวเครื่องก็เป็นแบบแคบและเตี้ย จึงสามารถนำไปใช้วางในพื้นที่แคบ ๆ ได้ เช่น ตามชั้นหนังสือ ตามซอกต่าง ๆ เป็นต้น ก็ถ้าใครที่เป็นทาสแมวหรือชอบน้องแมว สงสัยต้องจัดเครื่องนี้ไปใช้กันละครับ
จุดเด่น | ดีไซน์แบบน้องเมี้ยว / เครื่องแคบเตี้ยวางที่ไหนก็ได้ |
ขนาด / น้ำหนัก | 112 x 121 x 131 มม. / 315 กรัม |
ชาร์จไฟ | USB |
9. ยี่ห้อ Xiaomi, Vortex
ราคาโดยประมาณ 440 บาท
เอาไปเอามา เครื่องดักยุง Xiaomi นี้มีเยอะมากกกหลายตัวจริง ๆ แต่ละตัวก็เป็นแบรนด์ในเครือทั้งนั้น รวมถึงตัวนี้ด้วยเช่นกันกับ Vortex โดยถ้าดูจากดีไซน์ก็จะเรียบ ๆ ทันสมัย แนวมินิมอล และจากดีไซน์นี้เอง ก็ได้รับรางวัลการออกแบบปี 2019 ของ Golden PIN Design Award ด้วยนะครับ อีกทั้งมาพร้อมสายหนังเทียมที่สามารถใช้เป็นหูหิ้ว หิ้วพกพาได้สะดวก, ไปห้อยตามเสาหรือแขวนตามผนัง หรือจะเอาไปห้อยใช้งานที่สวนนอกบ้านก็ได้ และยังสามารถถอดเข้าถอดออกเวลาที่ไม่ต้องการใช้ได้ด้วย ส่วนเครื่องก็ขนาดกะทัดรัด ไม่กินพื้นที่ วัสดุที่ใช้ก็ดูดีสมกับราคา โดยรวม ๆ แล้ว ก็ถือว่าเป็นอีกที่ดักยุงที่ถูกใจใครหลาย ๆ คนเลยครับ
จุดเด่น | รางวัลการออกแบบปี 2019 ของ Golden PIN Design Award / มีสายหนังเทียมไว้ใช้หิ้วห้อยได้ / ไม่ต้องใช้สายไฟฟ้า |
ขนาด / น้ำหนัก | 120 x 120 x 220 มม. / NA |
ชาร์จไฟ | USB |
10. ยี่ห้อ Xiaomi, DYT-X6
ราคาโดยประมาณ 299 บาท
อีกเครื่องจากแบรนด์ลูก Xiaomi รุ่น DYT-X6 ที่ดูจากดีไซน์แล้ว ค่อนข้างเรียบ ๆ ไม่โดดเด่นเท่าตัวอื่น ๆ แต่กลับเป็นตัวที่มีคนรีวิวไปในทางด้านบวกเยอะมาก มีแต่คนบอกว่าใช้งานได้ดี ล่อยุงได้จริง ขนาดเล็กกะทัดรัดแบบสุด ๆ และน้ำหนักก็เบามากด้วย ที่เครื่องสามารถล่อยุงได้ดีกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อนั้น ก็น่าจะเป็นเพราะว่า นอกจากจะล่อยุงด้วยแสงไฟสีม่วงแล้ว ยังได้ใช้กลิ่นที่ทำจากสมุนไพรมาช่วยล่อยุงเพิ่มเติมด้วยนั้นเอง แต่ก็มีคนบ่น ๆ มาเหมือนกันว่า ตัวกลิ่นใช้งานได้แค่ประมาณ 30 วันเท่านั้น และเมื่อกลิ่นหมดแล้ว ก็จะเหลือแค่การล่อยุงจากแสงเท่านั้น ก็อาจจะล่อยุงได้พอ ๆ กับเครื่องอื่น ๆ ครับ
จุดเด่น | เครื่องเล็กน้ำหนักเบา / มีกลิ่นสมุนไพรล่อยุงเพิ่มเติม / ไม่ต้องใช้สายไฟฟ้า |
ขนาด / น้ำหนัก | 115 x 115 x 112 มม. / 46 กรัม |
ชาร์จไฟ | USB |
มาทำความรู้จักกับ เครื่องดักยุง แบบลมดูด กันสักนิด
เครื่องดักยุงแบบลมดูด จะมีการทำงานหลัก ๆ ก็คือ การเปิดแสงไฟนีออนสีม่วง ๆ ทิ้งไว้เผื่อล่อยุงให้บินเข้ามาหาเครื่อง เมื่อยุงบินมาถึงบริเวณระยะแสงไฟแล้ว ก็จะถูก “ลมดูด” ดูดเข้าไปเก็บไว้ในกล่องทึบด้านล่าง โดยยุงจะยังไม่ตาย แต่ก็ไม่สามารถบินหนีออกไปจากกล่องได้ เพราะยังคงถูกลมดูดอยู่ ต้องเปิดไปสักระยะหรือประมาณอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง แล้วยุงถึงจะตายอยู่ในกล่อง แต่ถ้าอยากจะปิดการทำงานของเครื่องก่อน ก็เพียงแค่หาอะไรมาปิดฝาด้านบนไว้ หรือจะนำยุงไปปล่อยด้านนอกบ้านให้เป็นอิสระต่อไป ก็ทำได้ครับ
โดยเครื่องดักยุงแบบลมดูดนี้ จะมีข้อดีหลายอย่างเลยทีเดียว ไม่ว่าจะ มีความปลอดภัยสูงมาก เพราะไม่ได้ใช้สารเคมีในการไล่ยุง ไม่ส่งกลิ่นเหม็น และไม่แผ่รังสีใด ๆ ทั้งนั้น อีกทั้งไม่ได้ใช้ไฟฟ้าในการช็อตยุงให้ตาย จึงลดโอกาสในการเกิดเพลิงไหม้ รวมถึงไร้ควันและไร้กลิ่น ก็ทำให้ไม่ต้องทนปวดหัวเวียนหัวจากน้ำยากันยุงอีกด้วย นอกจากนี้ การเคลื่อนย้ายเครื่องก็สะดวก และการทำงานก็ค่อนข้างเสียงเบามาก สามารถเปิดไว้ในห้องนอนก็ไม่รบกวนการนอนแต่อย่างใด และยังประหยัดเงิน ไม่ต้องคอยมาเติมน้ำยาหรือสารเคมีให้ยุ่งยากด้วยครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบประสิทธิภาพในการกันยุงหรือไล่ยุงแล้ว อาจจะสู้แบบพวกเครื่องอื่น ๆ ไม่ได้ เพราะไม่ได้เปิดปุ๊ป จัดการกับยุงได้ปั๊บ ต้องใช้เวลาในการล่อยุงให้มาติดกับดัก ซึ่งส่วนใหญ่ควรจะเปิดล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนที่จะเข้าห้องนั้น ๆ และควรสูงจากพื้นอย่างน้อย 1 เมตร อีกทั้งตัวเครื่องไม่ได้เป็นแบบมีแบตเตอรี่ในตัว เวลาจะใช้งานยังไงก็ต้องต่อไฟ USB กับ Power Bank หรือไฟบ้านอยู่เสมอ และต้องเปิดเครื่องไว้ค่อนข้างนานกว่ายุงจะตาย รวมถึงพื้นที่ที่ใช้ควรจะเป็นห้องปิดทึบ, มืด และมีขนาดไม่ควรเกิน 20 ตรม. แต่ถ้าเอาไปใช้พื้นที่เปิดโล่งหรือภายนอกบ้าน ก็ต้องให้เครื่องอยู่ใกล้ชิดกับตัวคนมาก ๆ ถึงพอจะจัดการกับยุงได้บ้างครับ
ได้เห็นกันไปแล้วกับ เครื่องดักยุง ยี่ห้อไหนดี แบบลมดูดทั้ง 10 เครื่องด้วยกัน สนใจอยากจะซื้อเครื่องไหนไปใช้จัดการกับเจ้ายุ่งตัวร้ายที่บ้านกันบ้างครับ ดูไปดูมาแล้ว ชักอยากจะซื้อเครื่องมาตั้งโชว์ หรือเอามาประดับในห้องเพราะดีไซน์ของเครื่องมากกว่าการทำงานจริง ๆ ซะอีก ดีไซน์ดูดี ดูสวย ดูโดดเด่นกันมาก ๆ ส่วนเรื่องการทำงาน ก็ควรจะใช้ตามที่ทางผู้ผลิตแนะนำมาก็คือ เปิดเครื่องล่วงหน้า, ห้องมืด, ขนาดไม่เกิน 20 ตารางเมตร และวางสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร เพื่อให้เครื่องทำงานได้มีประสิทธิภาพล่อยุงได้ดีมากที่สุด ยังไงก็ขอให้ได้ที่ดักยุงที่ชอบ ดีไซน์ที่ถูกใจ ใช้แล้วสามารถดักจับเจ้ายุงตัวร้ายให้หมดไปจากห้องกันด้วยนะครับผม
บรรณาธิการที่มีประสบการณ์ในการเขียนรีวิวสินค้าหลายชนิด
- สุขภาพ: อาหารเสริม, ออกกำลังกาย, การดูแลผิวพรรณ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: สมาร์ทโฮม, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องใช้ในบ้าน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- ของกิน: ขนมหวาน เครื่องดื่ม, อาหารสุขภาพ, และเทรนด์อาหารอื่น ๆ