หึ ๆๆ ก็ถ้าคลิกเข้ามาอ่านที่บทความนี้ “เครื่องตัดหญ้า” ยี่ห้อไหนดี แสดงว่า กำลังมีปัญหากับพวกหญ้าตามบ้าน พวกวัชพืชตามสวน จนอยากจะได้เครื่องไม้เครื่องมือไปจัดการพวกหญ้าตัวร้ายกันสินะครับ ก็บอกเลยว่า คลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะที่นี่ ทางผมได้รวบรวมเครื่องที่น่าสนใจ เครื่องที่เด็ด ๆ ปัง ๆ มีรีวิวดีงาม มาให้ดูกันถึง 10 เครื่อง 10 ยี่ห้อเลยทีเดียว ซึ่งถ้าได้ลองอ่านรีวิวให้จบกันล่ะก็ จะต้องอยากซื้อไม่เครื่องใดก็เครื่องหนึ่งกันอย่างแน่นอน ส่วนจะมีเครื่องยี่ห้อไหนมาให้ดูกันบ้างนั้น ก็เลื่อนลงไปด้านล่างได้เลยครับ
สารบัญ
มาทำความรู้จักกับ “ประเภทของเครื่องตัดหญ้า” กันสักนิด
เดี๋ยวนี้อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ เขาก็มีการพัฒนา มีการทำออกมาให้เลือกใช้กันแบบหลากหลาย ให้ตรงต่อความต้องการกันมากขึ้น ซึ่งรวมถึงเครื่องตัดหญ้าเอง เขาก็มีหลายประเภทด้วยเช่นกัน โดยหลัก ๆ จะมีตามด้านล่างครับ
1. สะพายข้าง
ก็ประเภทนี้ จะเป็นประเภทที่หลาย ๆ คนคุ้นหน้าคุ้นตากันมากที่สุด ได้รับความนิยมใช้งานมากที่สุด สามารถตัดหญ้า ตัดวัชพืชต่าง ๆ ได้ดี เพราะตัวเครื่องทำงานค่อนข้างแรง อีกทั้งการที่มีน้ำหนักประมาณ 8-10 กก. และมีสายไว้สำหรับการสะพายข้าง จึงเป็นประเภทที่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ง่าย และยังสามารถนำไปใช้งานได้ทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะ สวนที่บ้าน, สวนเกษตร หรือพื้นที่รกร้างต่าง ๆ ที่มีระดับไม่เรียบเสมอกัน เป็นต้น แต่การที่ต้องสะพายเวลาใช้งานตลอดเวลา ก็ทำให้ร่างกายต้องรับภาระค่อนข้างเยอะ รวมถึงต้องมีการเติมน้ำมันเพื่อให้เครื่องทำงาน ก็จะมีค่าใช้จ่ายในจุดนี้ด้วยครับ
2. ไร้สาย
จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับประเภทสะพายข้างที่เป็นแท่งยาว ๆ และมีใบพัดตัดหญ้าติดไว้ที่ปลายแท่ง แต่จะมีข้อดีกว่าตรงที่ มีน้ำหนักที่เบากว่า ทำให้การเคลื่อนย้ายสะดวกว่า รวมถึงร่างกายไม่ต้องรับภาระหนักเวลาใช้งานนาน ๆ และที่สำคัญ ตัวเครื่องไม่ต้องการใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง แต่จะใช้การชาร์จไฟฟ้าเก็บไว้ในแบตเตอรี่แทน ก็ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาน้ำมันมาเติมกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม จะมีข้อเสียตรงที่ มีเวลาการใช้งานที่ค่อนข้างจำกัด ส่วนใหญ่ประมาณ 1-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความจุไฟของแบตเตอรี่ และถ้าแบตเตอรี่เสื่อม ก็เหมือนกับเครื่องเสีย ต้องซื้อเครื่องใหม่กันเลยครับ
3. รถตัดหญ้าไฟฟ้า
ก็ตามรูปเลยครับ มาเป็นแนวรถเข็นที่สามารถตัดหญ้าได้ ทำให้เวลาใช้งาน จะไม่เป็นภาระต่อร่างกายมากมายนัก เพราะใช้การเข็นแทนที่จะเป็นการสะพายไว้กับตัว แต่มีความคล่องตัวต่ำ ไม่เหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่รกร้าง หรือพื้นที่ที่มีระดับไม่สม่ำเสมอ จะเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่เรียบ ๆ เช่น สวนตามบ้าน, สวนตามโรงแรม หรือสนามกอล์ฟ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังต้องคอยเสียบปลั๊กไฟตลอดเวลา ทำให้ถ้าปลั๊กไม่ยาวมาก ก็จะไม่สามารถนำไปใช้งานตัดที่ไกล ๆ ได้ ต้องหาปลั๊กพ่วงมาเชื่อมเสริมครับ (จะซื้อแบบรถเข็นใช้น้ำมันแทนก็ได้ ถ้าไม่อยากยุ่งยากเรื่องสายไฟ)
4. ใช้มือเข็น
จะเป็นประเภทที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการออกกำลังกาย หรือไม่อยากสิ้นเปลืองในเรื่องของเชื้อเพลิงต่าง ๆ เพราะเป็นเครื่องที่ไม่มีมอเตอร์ ไม่มีเครื่องยนต์ แต่จะเป็นการใช้แรงคน ในการเข็นรถเข็นเพื่อให้ล้อหมุน พอล้อหมุน ตัวใบพัดใต้ท้องเครื่องก็จะหมุนตาม แล้วจะเกิดการตัดหญ้านั่นเอง แต่ก็เป็นอีกประเภทที่เหมาะสำหรับพื้นที่เรียบ ๆ เท่านั้นครับ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว เครื่องตัดหญ้า ยี่ห้อไหนดี
ก็เผื่อใครที่อยากจะเห็นสินค้าแบบพร้อมกัน ๆ สามารถเลื่อนไปมาซ้ายขวา เพื่อทำการเปรียบเทียบประเภท, สเปค รวมถึงราคาได้แบบง่าย ๆ ก็ขอแนะนำให้กดที่ปุ่มด้านล่าง เพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบกันก่อน ก็อาจจะช่วยให้เห็นภาพรวม และทำการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นครับ
1. ยี่ห้อ MITSUIFUJI รุ่น MF-411MKT
ราคาโดยประมาณ 1,690 บาท
เครื่องตัดหญ้า MITSUIFUJI รุ่น MF-411MKT ถือเป็น เครื่องตัดหญ้าสะพายข้างรุ่นยอดนิยม สำหรับใช้ทั้งในครัวเรือน สวนหญ้า หรือแม้แต่สวนเกษตร เพราะมีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย ระบบไม่ซับซ้อน อุปกรณ์ในกล่องก็ให้มาอย่างครบครัน เพียงแค่ประกอบและเติมน้ำมัน ก็พร้อมใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมเลยครับ
โดยตัวเครื่องยนต์ จะเป็นแบบ 2 จังหวะ คลัช 3 ก้อน พร้อมด้วยความจุกระบอกสูบที่ 40.2 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 2.4 แรงม้า รวมถึงทำความเร็วรอบหมูนได้มากถึง 7,500 รอบ/นาที !! ก็ด้วยความเร็วขนาดนี้ ทำให้สามารถตัดวัชพืชตามพื้น ถางพง หรือเถาไม้ที่ไม่ใช้ไม้เนื้อแข็งได้ดี ช่วยลดระยะเวลาในการถางได้เยอะ ส่วนน้ำหนักของเครื่องก็อยู่ที่ 8 กก. ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เคลื่อนย้ายไปมายังพอทำไหว และที่สำคัญ น้ำมันเชื้อเพลิงก็หาเติมได้ง่าย สามารถใช้ได้ทั้งเบนซิน 91 / 95 หรือแม้แต่แก๊สโซฮอล์ 91 / 95 ก็ได้ด้วย แต่ต้องเติมออโต้ลูป 2T ผสมลงไปตามสัดส่วนที่กำหนด และอีกจุดที่น่าพิจารณาก็คือ เป็นเครื่องที่มีลานสตาร์ทที่เบา ทำให้ดึงสตาร์ทได้ง่าย ไม่ต้องหัวร้อนตั้งแต่เริ่มใช้ครับ
ประเภท | สะพายข้าง |
เครื่องยนต์ | คาร์บูเรเตอร์ 2 จังหวะ (แบบลูกลอย) |
ขนาด/กระบอกสูบ | 1 สูบ 40.2 ซีซี 2.4 แรงม้า |
รอบสูงสุด | 7,500 รอบ/นาที |
น้ำหนัก | 8 กก. |
พลังงาน | เบนซิน 91/95 +2T |
2. ยี่ห้อ KANTO รุ่น KT-BC-411R
ราคาโดยประมาณ 1,800 บาท
KANTO รุ่น KT-BC-411R ถือเป็นเครื่องตัดหญ้าสะพายข้างที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้อีกหนึ่งรุ่น (ยอดขายในโลกออนไลน์ระดับ 1,000 ++) ที่เน้นด้านการใช้งานตัดหญ้าตามพื้นทั่วไป หญ้าเหนียว ถางพง หรือตัดไม้เนื้ออ่อนที่ลำต้นเล็ก ๆ ได้ โดยตัวเครื่องยนต์จะมีรูปทรง Robin ซึ่งมีข้อดีคือ มีกระปุกน้ำมันทรงก้อนอยู่ด้านบน ทำให้น้ำมันไม่กระฉอกไปมาเวลาเหวี่ยงใช้งานเหมือนกระปุกน้ำมันทรงโค้งแบบยี่ห้อทั่ว ๆ ไป
อีกทั้งตัวเครื่องยนต์ก็เป็นแบบ คาร์บูเรเตอร์ลูกลอย 2 จังหวะ ความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 41 ซีซี มีแรงม้า 2.4 รวมถึงมีรอบหมุนสูงสุดทำได้ที่ 7,000 รอบ/นาที ก็ถือว่า เครื่องทำงานแรงใช้ได้ ตัดหญ้าต่าง ๆ ได้เรียบอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ก็มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เบนซิน 91 / 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 / 95 ก็ได้ แต่ต้องเติมออโต้ลูป 2T ผสมตามสัดส่วนเหมือนเครื่องยนต์ 2 จังหวะทั่วไป ก็แอบทำให้ลำบากนิดหนึ่ง ส่วนในกล่องสินค้ามีอุปกรณ์มาให้ครบชุด ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่อง เพลา หัวเกียร์ มือจับ ใบมีด สายสะพาย และประแจ 6 เหลี่ยมที่ต้องใช้ขันให้มาครบทุกตำแหน่ง ประกอบใช้งานง่ายเพียงไม่กี่นาที และเพียงเติมน้ำมัน ดึงสตาร์ท ก็พร้อมออกรอบตัดหญ้าได้แล้วครับ
ประเภท | สะพายข้าง |
เครื่องยนต์ | คาร์บูเรเตอร์ 2 จังหวะ (แบบลูกลอย) |
ขนาด/กระบอกสูบ | 1 สูบ 41.1 ซีซี 2.4 แรงม้า |
รอบสูงสุด | 7,000 รอบ/นาที |
น้ำหนัก | 8.3 กก. |
พลังงาน | เบนซิน 91/95 +2T |
3. ยี่ห้อ EARTH รุ่น BC350
ราคาโดยประมาณ 2,250 บาท
หลายคนอาจจะเคยเห็นเครื่องตัดหญ้าแบบสะพายข้าง ที่มีกระปุกน้ำมันเครื่องติดตั้งอยู่บนตัวเครื่องยนต์กันมาแล้ว คราวนี้เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่มีกระปุกน้ำมันเครื่องอยู่ด้านล่าง ซึ่งการจัดวางในลักษณะนี้จะมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำกว่า ทำให้รู้สึกเบาสบายเวลาสวิงใช้งาน ก็แกว่งไปมาซ้ายขวาได้ง่ายขึ้น ต้องขอแนะนำยี่ห้อ EARTH รุ่น BC350 ที่เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานตามบ้านทั่วไป และที่สำคัญ เครื่องรุ่นนี้ทำงานได้เงียบมากกก เงียบกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อครับ
โดยตัวเครื่องยนต์ จะใช้เป็นคาร์บูเรเตอร์แบบไดอะเฟรม 4 จังหวะ ควบคุมการจุดระเบิดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ CDI อัตราการสั่นสะเทือนต่ำมาก ซึ่งต้นเหตุของความเงียบก็คือเจ้านี่แหละ มีการทำงานที่ไม่ดังมากเหมือนเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์เลย อีกทั้งตัวเครื่องก็มีขนาดความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 39 ซีซี พร้อมแรงม้า 1.9 ตัว ความเร็วรอบสูงสุดที่ทำได้คือ 7,000 รอบ/นาที และมีขนาดเครื่องที่เล็กกว่าเครื่อง 2 จังหวะทั่วไปเล็กน้อย ทำให้มีน้ำหนักที่เบาเพียง 7.9 กก. เท่านั้น นอกจากข้อดีที่กล่าวไปแล้ว เครื่องตัดหญ้ารุ่นนี้ยังเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน 91 / 95 หรือแก๊สโซฮอล์ 91 / 95 ได้ทันทีโดยไม่ต้องเพิ่มออโต้ลูป! ก็ช่วยให้เวลาเติมเชื้อเพลิงทำได้ง่ายขึ้นมาก ๆ ครับ
ประเภท | สะพายข้าง |
เครื่องยนต์ | คาร์บูเรเตอร์ 4 จังหวะ (แบบไดอะเฟรม) |
ขนาด/กระบอกสูบ | 1 สูบ 39 ซีซี 1.9 แรงม้า |
รอบสูงสุด | 7,000 รอบ/นาที |
น้ำหนัก | 7.5 กก. |
พลังงาน | เบนซิน 91/95 |
4. ยี่ห้อ INGCO รุ่น LM385
ราคาโดยประมาณ 3,450 บาท
เครื่องตัดหญ้ายี่ห้อ INGCO รุ่น LM385 เป็นเครื่องตัดในรูปแบบของรถเข็นไฟฟ้า ที่มีเครื่องยนต์แบบมอเตอร์ขนาดใหญ่ ให้กำลังอยู่ที่ 1,600 วัตต์ สามารถทำความเร็วรอบการหมุนได้สูงสุดที่ 3,500 รอบ / นาที ซึ่งถ้าเทียบกับพวกแบบเครื่องสะพายข้างยี่ห้อบน ๆ จะถือว่า ความเร็วรอบหมุนน้อยกว่า ตัดหญ้าได้ไม่แรงสะใจเท่า แต่ก็จะมีการใช้งานที่ง่าย ไม่ต้องเหนื่อยแบกเอง แค่ไถล ๆ ไปตามพื้นท้องหญ้าก็จบ และที่สำคัญ ด้วยความที่ตัวเครื่องเป็นมอเตอร์ ทำให้เวลาใช้งาน จะมีเสียงรบกวนของเครื่องยนต์ที่เบามากกก เบากว่าพวกแบบสะพายข้างอย่างชัดเจน ก็ช่วยให้สบายหูแบบสุด ๆ ครับ
และในส่วนของเรื่องการตัดหญ้า จะมี ความกว้างของใบมีดใต้เครื่องอยู่ที่ 38 ซม. ที่สามารถปรับความสูงของใบมีดได้ 3 ระดับคือ 28, 48 และ 68 มม. รวม ๆ จึงเหมาะสำหรับการตัดหญ้าเตี้ย ๆ ตามสวนหย่อมสวนหญ้าเท่านั้น และไม่สามารถใช้ถางหญ้าสูง หรือถางพงได้เหมือนแบบสะพายข้าง อีกทั้งข้อสังเกตอยู่นิดหนึ่งตรงที่ เวลาใช้งานจะต้องทำการเสียบปลั๊กไฟตลอดเวลา เพราะตัวเครื่องไม่มีแบตเตอรี่ในตัว และไม่ได้แถมสายไฟเสริมมาให้ แต่ถ้าคุณมีปลั๊กพ่วงยาว ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องกังวลครับ
ประเภท | รถเข็นไฟฟ้า |
เครื่องยนต์ | มอเตอร์ (แบบ Carbon Brush) |
ขนาด/กระบอกสูบ | 1,600 วัตต์ |
รอบสูงสุด | 3,500 รอบ/นาที |
น้ำหนัก | 6 กก. |
พลังงาน | ไฟฟ้า 220 V 50/60 Hz |
5. ยี่ห้อ Einhell รุ่น GC-EM 1030/1
ราคาโดยประมาณ 2,790 บาท
เครื่องตัดหญ้าแบบรถเข็นไฟฟ้าตัวนี้ มีการออกแบบได้สวยงาม ดูสวย ดูเท่ สีแดงตัดดำ ที่คุณพ่อบ้านทั้งหลายต้องชื่นชอบกันอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีจุดเด่นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การวางตำแหน่งให้ใบมีดอยู่ในจุดที่เหมาะสม ปลายสุดของใบมีดจะอยู่ในจุดที่เกือบชิดขอบข้างของตัวรถ ทำให้สามารถตัดแบบชิดเส้น หรือชิดริมกำแพงได้มากที่สุด รวมถึงตัวเครื่องก็มีน้ำหนักเบาเพียง 6.18 Kg จึงสามารถหอบหิ้วย้ายเครื่องไปไหนมาไหนได้ง่าย และยังสามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางขณะใช้งานได้ง่ายด้วยมือเพียงข้างเดียว นี่คือเครื่องตัดหญ้ายี่ห้อ Einhell รุ่น GC-EM 1030/1 จากเยอรมันครับ
นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะทำงานด้วยมอเตอร์ที่มีขนาดเพียง 1,000 วัตต์ แต่เป็นมอเตอร์ที่ให้แรงบิดสูงในรอบต่ำ จึงสามารถทำความเร็วรอบสูงสุดได้ที่ 3,600 รอบ/นาที อีกทั้งใบมีดใต้เครื่องมีขนาดกว้าง 30 ซม. รวมถึงสามารถปรับระดับความสูงในการตัดได้ถึง 3 ระดับ จึงช่วยให้การตัดแต่งสวนหญ้าทำได้สวยตามความต้องการ แต่กล่องเก็บหญ้าด้านหลังให้มาเพียง 24 ลิตรเท่านั้น ก็ถือว่าน้อยไปนิด ก็ต้องขยันเอาเศษหญ้าไปทิ้งกันนิดหนึ่ง ส่วนเรื่องพลังงาน ก็เป็นการใช้ไฟบ้าน ซึ่งใครที่กังวลเรื่องความยาวของสายไฟจะไม่เพียงพอ ก็อย่าเพิ่งรีบออกไปซื้อปลั๊กพ่วงนะ เพราะตัวเครื่องมาพร้อมของแถมสุดประทับใจเป็นชุดสายไฟยาว 20 เมตร ก็เรียกว่า รู้ใจผู้ใช้งานจริง ๆ ครับ
ประเภท | รถเข็นไฟฟ้า |
เครื่องยนต์ | มอเตอร์ (แบบ Carbon Brush) |
ขนาด/กระบอกสูบ | 1,000 วัตต์ |
รอบสูงสุด | 3,600 รอบ/นาที |
น้ำหนัก | 6.18 กก. |
พลังงาน | ไฟฟ้า 220 V 50/60 Hz |
6. ยี่ห้อ Hyundai รุ่น HLM-1100F
ราคาโดยประมาณ 3,300 บาท
การตัดหญ้าในสนามจะเป็นเรื่องง่ายถ้าเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสม และรถตัดหญ้าไฟฟ้าทุกรุ่นมีล้อก็จริง แต่ขนาดของล้อก็สำคัญ เพราะมีผลโดยตรงต่อการเคลื่อนที่บนสภาพพื้นที่ที่ไม่เรียบ ทำให้รถตัดหญ้ายี่ห้อ Hyundai รุ่น HLM-1100F จึงออกแบบให้มีขนาดล้อที่ค่อนข้างใหญ่ รองรับการเคลื่อนที่ได้ทั้งบนพื้นเรียบและพื้นขรุขระ อีกทั้งยังเสริมฟังก์ชันการปรับระดับของคันบังคับที่ยืดหดได้ ก็ไม่ว่าจะผู้ใช้งานสูงเท่าไร ก็ใช้งานได้โดยสะดวกครับ
โดยเครื่องตัดหญ้าแบบรถเข็นไฟฟ้ารุ่นนี้ จะมีมอเตอร์ขนาด 1,100 วัตต์ ทำความเร็วรอบได้สูงสุด 3,300 รอบ/นาที เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นอื่น ๆ อาจดูว่ารอบการหมุนน้อยกว่า แต่เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างเวลาใช้งานจริงเท่าไรนัก ส่วนใบมีดใต้ท้องเครื่อง ก็มีขนาดกว้าง 32 ซม. และสามารถปรับระดับความสูงของใบมีดได้ 3 ระดับคือ 28, 48 และ 68 มม. แถมด้านหลังมีกล่องเก็บเศษหญ้าขนาดใหญ่จุใจถึง 30 ลิตร ถ้าดูตรงสเปคก็พอ ๆ กับรถตัดหญ้าไฟฟ้าคันอื่น ๆ แต่จุดที่น่าสนใจ นอกจากเรื่องมีขนาดล้อที่ใหญ่แล้ว ตัวเครื่องก็ยังมีสายไฟพื้นฐานที่ยาวถึง 15 เมตร และมีสวิตช์เซฟตี้ที่คันโยกปิด/เปิด เพื่อป้องกันอันตรายจากเด็กครับ
ประเภท | รถเข็นไฟฟ้า |
เครื่องยนต์ | มอเตอร์ (แบบ Carbon Brush) |
ขนาด/กระบอกสูบ | 1,100 วัตต์ |
รอบสูงสุด | 3,300 รอบ/นาที |
น้ำหนัก | 6.8 กก. |
พลังงาน | ไฟฟ้า 220 V 50/60 Hz |
7. ยี่ห้อ Yongtai รุ่น 1880W
ราคาโดยประมาณ 1,060 บาท
รูปแบบของเครื่องตัดหญ้าที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน คือ แบบไร้สาย ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่า แบบสะพายข้างก็เรียกไร้สายได้เหมือนกัน แต่สำหรับเครื่องตัดหญ้าในรูปแบบนี้จะใช้แบตเตอรี่ ไม่ต้องเสียบปลั๊ก ไม่มีสายไฟ ไม่มีแม้แต่สายสะพาย เพียงแค่เปิดสวิตช์ก็ใช้งานได้ทันที ซึ่งเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าไร้สาย Yongtai รุ่น 1880W นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ เพราะใช้งานง่าย น้ำหนักเบา อุปกรณ์ครบครัน และราคาสบายกระเป๋าครับ
โดยหน้าตาของเครื่อง ถึงแม้ว่าจะละม้ายคล้ายคลึงกับม็อบถูพื้น จะมีการใช้งานได้ดีไหมนะ ก็บอกเลยว่า ประสิทธิภาพที่ทำได้น่าทึ่งเลยทีเดียว โดยมอเตอร์ทองแดงเทคโนโลยีจากเยอรมันพลังแรงจัดถึง 1,880 วัตต์ สามารถทำความเร็วรอบได้สูงสุดถึง 21,000 รอบ/นาที! คือไวมาก และยังใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเทียมความจุ 13,000 mAh ที่เพียงชาร์ทไฟ 1 ชม. ก็สามารถใช้งานตัดได้ต่อเนื่องนานถึง 3 ชม. ส่วนตัวก้านก็สามารถสไลด์ยืดปรับระดับได้อิสระ 90-125 ซม. และที่สำคัญ น้ำหนักโดยรวมขณะใช้งานเพียง 1.8 กก. เท่านั้น ก็ถือว่าเบามากกกก แม้แต่คุณแม่บ้านก็ยังสามารถยกถือได้สบาย ๆ ก็ถ้ายังไม่รู้จะซื้อ เครื่องตัดหญ้า ยี่ห้อไหนดีล่ะก็ ขอแนะนำครับ!
ประเภท | ไร้สาย |
เครื่องยนต์ | มอเตอร์ (แบบ Copper) |
ขนาด/กระบอกสูบ | 1,880 วัตต์ |
รอบสูงสุด | 21,000 รอบ/นาที |
น้ำหนัก | 1.8 กก. |
พลังงาน | แบตเตอรี่ 13,000 mAh |
8. ยี่ห้อ Jingsida รุ่น 1680W
ราคาโดยประมาณ 899 บาท
เชื่อไหมว่าในงบประมาณไม่เกิน 1 พันบาท คุณก็สามารถเป็นเจ้าของเครื่องตัดหญ้าคุณภาพสูงได้แล้ว ขอแนะนำ Jingsida รุ่น 1680W เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าแบบไร้สายที่ใช้เทคโนโลยีจากเยอรมัน มาพร้อมกับคุณสมบัติโดยรวมที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนักตัวเครื่องที่เบาเพียง 1.8 kg ช่วยลดการเมื่อยล้าขณะใช้ ความแรงที่เพียงพอต่อการใช้งาน และเสียงรบกวนที่ต่ำมาก ไม่ว่าจะเล็มหญ้าเตี้ย ถางพง หรือตัดแต่งกิ่งไม้อ่อน เครื่องนี้ตอบสนองได้เป็นอย่างดีครับ
โดยตัวเครื่อง ก็จะใช้มอเตอร์ทองแดง ให้พละกำลังถึง 1,680 วัตต์ สร้างรอบหมุนสูงสุดที่ 6,000 รอบ/นาที อาจจะน้อยไปนิด แต่ด้วยจำนวนรอบหมุนที่ต่ำ ก็ทำให้เกิดเสียงรบกวนขณะเครื่องทำงานนั้นต่ำลงไปด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แบบลิเทียม ความจุ 13,000 mAh ใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 3 ชม. ต่อการชาร์ท 2 ชม. ก็ถือว่า ใช้งานได้นาน พอเหมาะสำหรับบ้านหลังไม่ใหญ่มาก ส่วนตัวก้านก็กดสวิตช์เลื่อนปรับความยาวได้อิสระ และหัวมอเตอร์ใบมีดยังสามารถปรับมุมตัดได้อีกด้วย ในชุดก็มีใบเลื่อยวงเดือน และใบมีดอีก 3 แบบให้เลือกเปลี่ยน พร้อมประกันซ่อมฟรีอีก 1 ปีเต็ม ก็เป็นเครื่องตัดหญ้าราคาดีที่น่าเก็บไว้เพื่อพิจารณาครับ
ประเภท | ไร้สาย |
เครื่องยนต์ | มอเตอร์ (แบบ Copper) |
ขนาด/กระบอกสูบ | 1,680 วัตต์ |
รอบสูงสุด | 6,000 รอบ/นาที |
น้ำหนัก | 1.8 กก. |
พลังงาน | แบตเตอรี่ 13,000 mAh |
9. ยี่ห้อ Husqvarna รุ่น Manual54
ราคาโดยประมาณ 4,440 บาท
สำหรับสายออกกำลังกายน่าจะชอบเครื่องตัดหญ้าประเภทใช้มือเข็น หรือจะเรียกว่าแบบเดินตามก็ได้ โดยเป็นเครื่องที่ไม่มีเครื่องยนต์ ไม่มีมอเตอร์ ไม่ต้องเติมน้ำมัน ไม่ต้องชาร์ทแบตเตอรี่ ทั้งระบบมีเพียงล้อขนาดใหญ่ด้านข้าง 2 ล้อ ใบมีดตรงกลางแบบพวงเกลียวพร้อมเฟืองทดแรงเพิ่มรอบหมุน และด้ามจับ ส่วนวิธีการใช้งานก็เพียงแค่ประกอบตัวเครื่อง กินข้าวให้อิ่ม แล้วนำลงไปเข็นในสนามหญ้าที่ต้องการตัดได้เลยครับ
ซึ่งใบมีดของตัวเครื่อง ก็จะมีความคมและความทนทานสูงระดับมาตฐานสวีเดนถึง 5 ใบ มาพร้อมความกว้างของหน้าใบตัดขนาด 40 ซม. และสามารถปรับระดับความสูงของใบมีดได้ 4 ระดับ ก็อยากจะตัดหญ้าได้ความสูงแบบไหนก็จัดได้ และเมื่อทำการเข็นไปข้างหน้า รอบหมุนของใบมีดจะเร็วกว่ารอบหมุนของล้อ ยิ่งเข็นไวเท่าไร ใบมีดก็จะหมุนไวขึ้น ตัดได้คมมากขึ้น แต่ถ้ายังไม่หมด ก็สามารถดึงถอยกลับเพื่อตัดซ้ำจุดเดิมได้ อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ไม่มีกล่องเก็บหญ้าแถมมาให้ ต้องซื้อเพิ่มเติมครับ
ประเภท | มือเข็น |
เครื่องยนต์ | ไม่มี |
ขนาด/กระบอกสูบ | ไม่มี |
รอบสูงสุด | ไม่มี |
น้ำหนัก | 8.6 กก. |
พลังงาน | แรงจากผู้ใช้ |
10. ยี่ห้อ Gardena รุ่น Grasser54
ราคาโดยประมาณ 2,799 บาท
Gardena รุ่น Grasser54 ถือเป็นเครื่องตัดหญ้าแบบมือเข็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าสนใจ เพราะมีราคาที่ไม่แพงมาก มีการดีไซน์ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย รวมถึงให้อุปกรณ์มาค่อนข้างครบ มีกระทั่งกระบะเก็บหญ้าแถมมาให้ด้วย ก็ไม่ต้องไปหาซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมอื่น ๆ มาเสริมเหมือนบางยี่ห้อครับ
และในเรื่องคุณสมบัติของเครื่องนั้น ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี มีคุณภาพใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น การใช้ใบมีดแบบพวงเกลียวคุณภาพสูงจากสวีเดน 5 ใบ ที่แต่ละใบก็มีความกว้างถึง 40 ซม. และยังสามารถปรับระดับความสูงของใบมีดได้ถึง 4 ระดับด้วย ก็ช่วยให้เวลาเข็นที จึงตัดหญ้าได้ค่อนข้างกว้างและทั่วถึง ส่วนน้ำหนักของตัวเครื่องก็ประมาณ 8.6 กก. มาพร้อมกับล้อขนาดใหญ่ 8 นิ้ว ก็ทำให้เข็นเคลื่อนย้ายและควบคุมทิศทางได้ง่าย แม้แต่คุณแม่บ้านก็สามารถใช้ได้ ไม่ต้องออกแรงเข็นกันมากมายนัก (แต่เข็นนาน ๆ ก็มีหมดแรงได้อยู่เน้อ) รวม ๆ ก็ได้ทั้งตัดหญ้า, ออกกำลังกาย และไม่ต้องเสียค่าไฟค่าน้ำมัน ก็ถ้าจะดีกันขนาดนี้ สงสัยต้องจัด Gardena กันสักเครื่องแล้วล่ะครับ
ประเภท | มือเข็น |
เครื่องยนต์ | ไม่มี |
ขนาด/กระบอกสูบ | ไม่มี |
รอบสูงสุด | ไม่มี |
น้ำหนัก | 8.6 กก. |
พลังงาน | แรงจากผู้ใช้ |
เป็นยังไงกันบ้างครับ หลังจากที่ได้เห็นรีวิว “เครื่องตัดหญ้า” ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วถึง 10 เครื่อง 10 ยี่ห้อด้วยกัน ไม่ทราบว่า สนใจ อยากจะซื้อเครื่องไหน ยี่ห้อไหน ไปใช้จัดการกับหญ้าที่บ้านหรือหญ้าที่สวนกันบ้าง ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ก็มีกันหลายประเภทเลยทีเดียว ทั้งแบบที่เป็นสะพายข้าง สามารถยกย้ายไปใช้ที่ไหนก็ทำได้ง่าย หรือแบบรถเข็นที่อาจจะเคลื่อนย้ายลำบาก แต่ก็เหมาะกับพื้นที่เรียบ ๆ กว้าง ๆ เข็น ๆ ไม่ต้องยกให้ปวดตัวกันด้วย ยังไงก็ขอให้ได้ยี่ห้อที่ถูกใจ ใช้แล้วตอบโจทย์ ตัดหญ้าเรียบ ทำสวนสวย กันด้วยครับ
นักเขียนอิสระ ที่มีประสบการณ์ในแวดวง IT Gadget มือถือ มากกว่า 5 ปี มีความรู้ความเข้าใจในรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้า IoT เป็นอย่างดี เลือกจัดอันดับสินค้าอย่างตั้งใจ ซื้อตามกันไม่มีผิดหวังแน่นอน