กำลังหาซื้ออาหารเสริมเห็ดหลินจือ ยี่ห้อไหนดี กันอยู่สินะคะ ?? ก็บอกเลยว่าคลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะที่นี่ ทางเราได้ไปรวบรวมผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยี่ห้อที่น่าสนใจ ยี่ห้อที่มีความเข้มข้นสูง มีทั้งแบบแคปซูล, เม็ดเจล หรือชาชงน้ำร้อน รวมถึงยี่ห้อที่มีราคาถูกหรือราคาแพง มาแนะนำให้รู้จักกันถึง 10 ยี่ห้อเลยทีเดียว ซึ่งถ้าทุกคนได้ลองอ่านเนื้อหากันจนจบล่ะก็ จะต้องอยากซื้อ ไม่ยี่ห้อใดก็ยี่ห้อหนึ่ง ไปทานบำรุงร่างกายกันอย่างแน่นอนค่ะ !
สารบัญ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว เห็ดหลินจือสกัด ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่อยากจะเห็นสินค้าทั้ง 10 ยี่ห้อ แบบพร้อม ๆ กัน รวมถึงสามารถเลื่อนตารางไปมา เพื่อทำการเปรียบเทียบรายละเอียด, ความเข้มข้นของเห็ด, สารอาหารเพิ่มเติมอื่น ๆ หรือราคากันได้แบบง่าย ๆ ทางเราก็อยากให้ลองคลิกที่ปุ่มสีแดงด้านล่างกันได้เลยค่ะ
1. Hi-Balanz
ราคาโดยประมาณ 550 บาท
ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพจากแบรนด์ดังอย่าง Hi-Balanz ที่ได้รับกระแสตอบรับดีจากผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน โดยเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบแคปซูลที่ภายใน 1 แคปซูล จะมีสารสกัดจากเห็ดหลินจือมากถึง 300 มิลลิกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับเห็ดหลินจือแบบปกติ 1.5 กรัม และยังอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ อย่าง สารโพลีแซคคาไรด์กว่า 30% และสารไตรเทอร์พีนอยด์ 3% ซึ่งทั้งคู่ล้วนเป็นสารที่มีความจำเป็นต่อกระบวนการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยบำรุงให้ร่างกายแข็งแรง ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพจากภายในด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ
และภายใน 1 กล่อง จะมีทั้งสิ้น 30 แคปซูล เพียงรับประทานวันละ 1 แคปซูลหลังอาหารเย็น ก็จะได้รับคุณประโยชน์จากเห็ดหลินจือได้อย่างเต็มทีแล้วค่ะ
ปริมาณ | 30 แคปซูล |
ส่วนประกอบสำคัญ | สารสกัดจากเห็ดหลินจือ 300 mg ให้สารโพลีแซกคาไรด์ Polysaccharides มากกว่า 30 %หรือมากกว่า 90 มิลลิกรัม/แคปซูล และสารไตรเทอร์ปินนอยด์ Triterpenoids มากกว่า 3% หรือมากกว่า 9 มิลลิกรัม/แคปซูล |
ขนาดรับประทาน | วันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเย็น |
ข้อควรระวัง | อ่านคำเตือนบนฉลากก่อนรับประทาน, ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค |
2. Zenji
ราคาโดยประมาณ 590 บาท
ผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือสกัดที่มีการเลือกใช้เห็ดหลินจือแดงคุณภาพดี สายพันธุ์พระราชทาน G2 ที่ได้ชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ที่ดีที่สุด นำมาสกัดเข้มข้นในปริมาณ 500 มิลลิกรัมต่อ 1 แคปซูล อีกทั้งยังผสานด้วยคุณค่าจากโรสฮิป หรือผลกุหลาบป่า ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เมื่อรับประทานควบคู่กันจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารคุณประโยชน์จากเห็ดหลินจือได้เต็มที่ยิ่งขึ้น ทั้งยังปราศจากส่วนประกอบที่เป็นแป้งและวิตามินสังเคราะห์อื่น ๆ เน้นคุณค่าสารสกัดจากธรรมชาติโดยเฉพาะ
และภายใน 1 กล่อง จะมีทั้งสิ้น 60 แคปซูล เหมาะสำหรับระยะเวลา 2 เดือน ก็เมื่อเทียบปริมาณและราคากับยี่ห้ออื่น ๆ แล้ว ก็ค่อนข้างคุ้มค่า คุ้มราคาสุด ๆ ค่ะ
ปริมาณ | 60 แคปซูล |
ส่วนประกอบสำคัญ | สารสกัดเห็ดหลินจือแดง 500 mg, สารสกัดโรสฮิป 50 mg |
ขนาดรับประทาน | รับประทานวันละ 1 แคปซูล ก่อนอาหารเช้า |
ข้อควรระวัง | ไม่แนะนำให้รับประทานพร้อมธาตุเหล็ก, ชา,กาแฟ เพราะจะไปขัดขวางการดูดซึม |
3. CORI
ราคาโดยประมาณ 490 บาท
อีกหนึ่งเห็ดหลินจือสกัดที่ตอบโจทย์สำหรับคนรักสุขภาพ โดยทางแบรนด์ได้เลือกใช้เป็นเห็ดหลินจือแดงสายพันธุ์ G2 ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นสายพันธุ์ที่ดีที่สุด อุดมไปด้วยสารโพลีแซคคาไรด์และไตรเทอร์พีนอยด์ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ผสานด้วยคุณค่าจากอะเซโรล่า เชอร์รี่ ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งวิตามินซี เพราะมีวิตามินซีที่สูงกว่าส้มถึง 30-80 เท่า พร้อมทั้งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และเป็นกระสายยาช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคุณประโยชน์จากเห็ดหลินจือได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
โดยผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะมาในรูปแบบแคปซูล ทำให้รับประทานง่าย ภายในมีสารสกัดจากเห็ดหลินจืออยู่ถึง 500 มิลลิกรัม และสารสกัดจากอะเซโรล่า เชอร์รี่ อีก 50 มิลลิกรัม และภายใน 1 กล่อง จะมีขนาดบรรจุอยู่ที่ 60 แคปซูล เหมาะสำหรับระยะเวลา 2 เดือน และแนะนำว่ารับประทานหลังตื่นนอนทันทีจะดีที่สุด ส่วนเรื่องความปลอดภัยก็วางใจได้ เพราะเขาผ่านมาตรฐาน GMP ทั้งยังปลอดภัยจากสเตียรอยด์และโลหะหนักอีกด้วยค่ะ
ปริมาณ | 60 แคปซูล |
ส่วนประกอบสำคัญ | เห็ดหลินจือแดงสกัด 500 มก. / อะเซโรล่า เชอร์รี่ สกัด 50 มก. |
ขนาดรับประทาน | รับประทาน ครั้งละ 1 แคปซูล ก่อนอาหาร แนะนำหลังตื่นนอนทันที |
ข้อควรระวัง | เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน |
4. โครงการหลวง
ราคาโดยประมาณ 200 บาท
สำหรับใครที่มีไลฟ์สไตล์ชอบจิบชายามบ่าย ผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือสกัดบรรจุซองชาจากโครงการหลวง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจนะคะ โดยทางโครงการหลวงได้เลือกใช้เห็ดหลินจือที่ทางทีมวิจัยได้พัฒนาดูแลและเพาะเลี้ยงเป็นอย่างดี มาผ่านกระบวนการแปรรูปที่ได้มาตรฐาน ทำให้มั่นใจได้เรื่องที่มาและคุณภาพของเห็ด เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการเพิ่มคุณค่าด้วยสารสกัดสมุนไพรอื่น ๆ อีกนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรจีน อย่าง เจียวกู้หลานและดอกเก๊กฮวย ไปจนถึงมะตูม, ใบเตย และใบหญ้าหวานเลยค่ะ
วิธีการชงดื่มนั้นก็ถือว่าไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ใส่ถุงชาเห็ดหลินจือ 1 ซอง ต้มในน้ำเดือด 1 ลิตร ทิ้งไว้อย่างน้อย 5 – 30 นาที ยิ่งทิ้งไว้นาน รสชาติจะยิ่งเข้มข้นขึ้น แนะนำให้จิบขณะอุ่นนะคะ และที่น่าสนใจคือ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ยังมาในรูปแบบแพ็คเกจจิ้งที่หรูหราทันสมัย 1 กล่องมีถุงชาทั้งหมด 15 ซอง น้ำหนักสุทธิ 30 กรัม ถือว่ากำลังดี เหมาะสำหรับให้เป็นของขวัญให้ญาติผู้ใหญ่โดยเฉพาะเลยค่ะ
ปริมาณ | 15 ซอง 30 g |
ส่วนประกอบสำคัญ | เห็ดหลินจือ 35% เจียวกู้หลาน 20% มะตูม 20% ใบเตย 10% ใบหญ้าหวาน 10% ดอกเก็กฮวย 5% |
ขนาดรับประทาน | ถุงชา 1 ซองต่อน้ำเดือด 1 ลิตร |
ข้อควรระวัง | เด็ก สตรีมีครรภ์ และคุณแม่ให้นมบุตรไม่ควรรับประทาน |
5. HandyHerb
ราคาโดยประมาณ 100 บาท
สำหรับใครที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนบ่อย ๆ ขอแนะนำตัวเลือกเป็นสมุนไพรแบบแผงขนาดพกพาจากแบรนด์ Handy Herb ที่ทำให้เราสามารถพกพาออกไปไหนได้ทุกที่ สบายกระเป๋าและราคาก็เข้าถึงง่าย เต็มไปด้วยคุณค่าสารสกัดธรรมชาติจากเห็ด 3 ชนิด คือ เห็ดหลินจือ, เห็ดไมตาเกะ และเห็ดยามาบูชิตาเกะ ก็ช่วยให้ร่างกายได้รับคุณประโยชน์อย่างเต็มที่ได้ดีกว่าการรับประทานเพียงเห็ดชนิดเดียว
และภายใน 1 แคปซูล จะประกอบไปด้วยเห็ดหลินจือ 400 มิลลิกรัม, เห็ดไมตาเกะ 20 มิลลิกรัม และเห็ดยามาบูชิตาเกะ 20 มิลลิกรัม อีกทั้งใน 1 แผง จะมีถึง 20 แคปซูล เพียงรับประทานวันละ 2 แคปซูลหลังอาหารมื้อเช้า ก็จะได้คุณประโยชน์จากเห็ดทั้ง 3 ชนิดอย่างเต็มที่แล้วค่ะ
ปริมาณ | 10 แคปซูล/ แผง |
ส่วนประกอบสำคัญ | เห็ดหลินจือ 400 mg, เห็ดไมตาเกะ 20 mg, เห็ดยามาบูชิตาเกะ 20 mg |
ขนาดรับประทาน | รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล หลังอาหารมื้อเช้า สามารถรับประทานได้เป็นประจำทุกวัน |
ข้อควรระวัง | อ่านคำเตือนบนฉลากก่อนรับประทาน, ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค |
6. morikami
ราคาโดยประมาณ 399 บาท
อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้แบรนด์อื่นก็คือ ผลิตภัณฑ์สารสกัดจากเห็ดหลินจือจาก Morikami ที่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ บรรจุมาในรูปแบบแคปซูล ทำให้รับประทานง่าย อุดมไปด้วยสารสกัดจากเห็นหลินจือถึง 250 มิลลิกรัม และมีสารประกอบสำคัญ อย่าง ไตรเทอร์พีนอยด์และโพลีแซคคาไรด์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะกับระบบภูมิคุ้มกัน และใน 1 กระปุกสามารถรับประทานได้ถึง 1 เดือน แนะนำให้รับประทานวันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 แคปซูล หลังอาหารเช้าหรือเย็นตามสะดวก ใครที่สนใจจะบำรุงร่างกายด้วยสมุนไพร แนะนำผลิตภัณฑ์จาก Morikami เลยค่ะ
ปริมาณ | 30 แคปซูล |
ส่วนประกอบสำคัญ | สารสกัดจากเห็ดหลินจือ 250 มิลลิกรัม |
ขนาดรับประทาน | รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง เช้าหรือเย็น หลังอาหาร |
ข้อควรระวัง | เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน |
7. Biocap
ราคาโดยประมาณ 480 บาท
อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนรักเห็ดหลินจือ ด้วยผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือสกัดในรูปแบบแคปซูลจากแบรนด์ Biocap ที่ให้สารสกัดจากเห็ดหลินจือเข้มข้นถึง 270 มิลลิกรัม และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยเฉพาะสารโพลีแซคคาไรด์, ไตรเทอร์พีนอยด์ และเยอร์มาเนียม ที่พบได้มากในเห็ดหลินจือ รับประทานก็ง่าย เพียงวันละ 1 แคปซูลหลังอาหารมื้อเช้าหรือมื้อเย็นตามสะดวก แต่ขอให้ระวังนิดหนึ่งว่าเด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทานนะคะ
ปริมาณ | 30 แคปซูล |
ส่วนประกอบสำคัญ | สารสกัดจากเห็ดหลินจือ 270 มก |
ขนาดรับประทาน | รับประทานวันละ 1 แคปซูล หลังมื้ออาหาร เช้าหรือเย็น |
ข้อควรระวัง | อ่านคำเตือนบนฉลากก่อนรับประทาน, ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค |
8. ดอยคำ
ราคาโดยประมาณ 912 บาท
เอาใจสายรักเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ด้วยเครื่องดื่มเห็ดหลินจือสกัดจากแบรนด์คุ้นหูอย่าง “ดอยคำ” ที่มีการเสริมรสชาติด้วยน้ำผึ้งและมะนาว ทำให้ดื่มง่าย ชุ่มคอ ทั้งยังให้วิตามินซีสูง ช่วยบำรุงร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทั้งยังไว้ใจได้ด้วยกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน สกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติ เข้มข้นด้วยคุณประโยชน์อย่างเต็มเปี่ยม ที่สำคัญคือไม่ใช้วัตถุกันเสีย ไม่เจือสี และไม่แต่งกลิ่นสังเคราะห์ บรรจุมาในรูปแบบขวด ขวดละ 45 มิลลิตร สามารถรับประทานได้ทุกวัน ส่วนแพ็กเกจจิ้งก็ถือว่าดูดี มาในรูปแบบกล่อง กล่องละ 24 ขวด เหมาะจะมีไว้ติดบ้าน หรือซื้อเป็นของฝากเลยละค่ะ
ปริมาณ | 45 ml |
ส่วนประกอบสำคัญ | น้ำเห็ดหลินจือสกัดเข้มข้น 90%, น้ำผึ้งและมะนาว |
ขนาดรับประทาน | สามารถรับประทานได้เป็นประจำทุกวัน |
ข้อควรระวัง | – |
9. LINHZHIMIN X-TRA
ราคาโดยประมาณ 3,600 บาท
เห็ดหลินจือสกัดจากแบรนด์ดังอย่าง “หลินจือมิน” ผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศเกาหลีที่ผ่านมาตรฐาน GMP มาในรูปแบบเจลแคปซูลเนื้อนิ่ม ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากจะอุดมไปด้วยสารสกัดจากเห็ดหลินจือแล้ว ทางแบรนด์เขายังเสริมคุณค่าด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อย่าง แอสตาแซนธิน, เสจ และน้ำมันปลา นอกจากนี้ยังมีวิตามิน บี1, วิตามิน บี2, วิตามิน บี12 และวิตามิน E อีกด้วย เรียกได้ว่ารับประทานเพียงเม็ดเดียวก็ได้รับคุณประโยชน์อย่างเต็มที่ แต่ด้วยความดีงามนี้เอง ก็ทำให้มีราคาที่แพงมากก แพงกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อเลยค่ะ
ปริมาณ | 30 แคปซูล |
ส่วนประกอบสำคัญ | น้ำมันปลา 566.50 mg, เห็ดหลินจือสกัด 230 mg, แอสตาแซนธิน 2 mg, เสจสกัด 30 mg |
ขนาดรับประทาน | รับประทานพร้อมมื้ออาหารหรือหลังอาหารทันที เพียงวันละ 1 แคปซูล |
ข้อควรระวัง | เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน, ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ปลาทะเลและอาหารทะเล, ควรระวังในผู้ที่เลือดแข็งตัวช้าหรือผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือแอสไพริน, ผู้ที่แพ้เห็ดหรือแพ้วิตามินไม่ควรรับประทาน |
10. ขาวละออ
ราคาโดยประมาณ 420 บาท
แบรนด์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีประสบการณ์มากว่า 90 ปี อย่าง แบรนด์ขาวละออเองก็ไม่น้อยหน้า เพราะเขาเองก็มีผลิตภัณฑ์สารสกัดจากเห็ดหลินจือเช่นกัน โดยตัวนี้เขาจะมีสารสกัดจากเห็ดหลินจือในปริมาณ 125 มิลลิกรัม เสริมด้วยคุณค่าจากวิตามินซีอีก 30 มิลลิกรัม ซึ่งวิตามินซีเขาจะทำหน้าที่เป็นกระสายยา ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารคุณประโยชน์จากเห็ดหลินจือได้มากขึ้น และใน 1 กระปุกจะมีปริมาณมากถึง 60 เม็ด ขนาดรับประทานอยู่ที่ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้าและเย็น ก็ใครที่สนใจจะดูแลสุขภาพด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ แบรนด์ขาวละออเขาไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ
ปริมาณ | 60 เม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | เห็ดหลินจือสกัด 125 mg. วิตามินซี 30 mg. |
ขนาดรับประทาน | รับประทานครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหาร เช้าและเย็น |
ข้อควรระวัง | เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน, ไม่มีผลในการป้องกันและรักษาโรค, อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค |
ก็จบไปแล้วกับการรีวิว เห็ดหลินจือ ยี่ห้อไหนดี ถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน ก็ไม่ทราบว่าสนใจ อยากจะซื้อยี่ห้อไหน ผลิตภัณฑ์แบรนด์ไหน ไปทานที่บ้าน ไปชงดื่ม หรือไปใช้เสริมภูมิคุ้มกัน กันบ้างคะ ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ก็มีทั้งยี่ห้อที่ราคาค่อนข้างแพงมากกก แต่สารอาหารและความเข้มข้นก็จัดเต็ม ไปจนถึงพวกยี่ห้อที่ราคาย่อมเยากว่า แต่ก็มีแต่เพียงสารสกัดจากเห็ดเท่านั้น ยังไงตอนเลือกซื้อ ก็อย่าลืมดูความต้องการและงบประมาณที่ตนมีกันด้วยค่ะ
จบการศึกษาด้านอักษรศาสตร์ รู้สึกสนุกกับการเขียนรีวิวสินค้าหลาย ๆ อย่างโดยเฉพาะหนังสือ ของใช้ในบ้าน เน้นการเขียนรีวิวที่อ่านเข้าใจง่าย เข้าถึงทุกคน