หลาย ๆ คนเบื่อไหมครับ? กับการที่ซื้อเครื่องดื่มมาไม่ว่าจะเป็น ชา, กาแฟ, ชานมไข่มุก หรือพวกเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นสารพัด ที่พอซื้อมาแล้ว อยากจะค่อย ๆ ดื่มนาน ๆ หลายชั่วโมง แต่แป๊บ ๆ กาแฟร้อนก็กลายเป็นกาแฟเย็นชืดซะงั้น ส่วนพวกเครื่องดื่มเย็นก็กลายเป็นเครื่องดื่มอุ่น ๆ น้ำแข็งละลายกันเลยทีเดียว ถ้าเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ กันแบบนี้ ผมขอแนะนำให้ลองใช้เจ้า “แก้วเก็บความเย็น, แก้ว Tumbler หรือ กระติกเก็บความเย็น” กันดีกว่าครับ ซึ่งช่วยเก็บกักรักษาความร้อนหรือเย็นของเครื่องดื่มได้ดีมาก ๆ แล้วจะรู้ว่า รู้งี้ซื้อของพวกนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดี งั้นลองไปดูยี่ห้อที่น่าสนใจของแก้วหรือกระติกน้ำเก็บความเย็นที่ด้านล่างได้เลยครับ
สารบัญ
มาทำความรู้จักกับ “แก้วเก็บความเย็น / กระติกเก็บความเย็น” กันสักนิด
แก้วเก็บความเย็น / กระติกเก็บความเย็น ที่สามารถเก็บกักอุณหภูมิภายในได้ดีนั้น เป็นเพราะว่ามีการออกแบบให้ภายในมีความแน่นหนาเป็นพิเศษ และมีการใช้ฉนวนแบบสุญญากาศที่ช่วยป้องกันไม่ให้อาการไหลเข้ามาภายในได้ดีกว่าแบบแก้วทั่ว ๆ ไป ซึ่งการไหลเข้าของอากาศก็จะเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เครื่องดื่มเกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ และอีกส่วนที่สำคัญก็คือ การใช้สเตนเลสในการผลิต เพราะสามารถทนต่อความร้อนเย็นได้ดี มีความทนทาน ไม่เกิดการผุกร่อนได้ง่าย ๆ และปลอดภัยไม่มีสารพิษตกค้างเวลาดื่มด้วย แต่สเตนเลสเองก็จะมีหลายเกรด ซึ่งบางเกรดนั้นไม่เหมาะสำหรับการนำมาทำภาชนะใส่อาหารหรือเครื่องดื่ม ไปดูเกรดของสเตนเลสกันครับ
- สเตนเลสเกรด 200 จะเป็นเกรดต่ำสุด มีราคาถูกที่สุด และมีความคงทนน้อยสุดด้วย เมื่อใช้ไปนาน ๆ แล้ว จะเกิดการผุกร่อนของสเตนเลสได้ ถ้าเจอแก้วหรือกระติกเก็บความเย็นที่ทำจากสเตนเลสเกรดนี้ ไม่ควรซื้ออย่างเด็ดขาดครับ
- สเตนเลสเกรด 304 เป็นสเตนเลสที่มี โครเมียม 18% และ นิกเกิล 8% เป็นส่วนผสม หรือมีอีกชื่อว่า สเตนเลส 18/8 ซึ่งเป็นสเตนเลสเกรดดีมีคุณภาพ มีความคงทนสูง ทนต่อความร้อนความเย็นได้ดี ไม่ผุกร่อนได้ง่าย ๆ อีกทั้งไม่ทิ้งสารตกค้างอีกด้วย จึงเป็นเกรดที่ถูกนำมาใช้ผลิตแก้วหรือกระติกน้ำเก็บความเย็นมากที่สุดครับ
- สเตนเลสเกรด 316 เป็นเกรดที่ดีที่สุด มีคุณภาพมากที่สุด ทนต่อความร้อนความเย็นได้ดีที่สุด แต่ก็มีราคาแพงมากที่สุดเช่นกัน นาน ๆ ทีถึงจะเจอแก้วหรือกระติกน้ำที่ทำมาจากสเตนเลสเกรดนี้ครับ
แล้วจะเลือกซื้อแก้วหรือกระติกดีละ? ต้องเข้าใจถึงความแตกต่างของทั้งสองก่อน
โดยแบบกระติกน้ำจะสามารถเก็บความเย็นและความร้อนได้ดีกว่าแบบแก้ว เพราะตรงฝาปิดจะออกแบบมาได้หนาแน่นมากกว่า บางยี่ห้อเป็นแบบเกลียว 2-3 ชั้น ทำให้ไม่มีรูให้อาการไหลเข้าได้เลย และโอกาสน้ำหกเลอะออกมาก็ยากมาก ในขณะที่แบบแก้วจะชอบมีรูตรงฝาเพื่อให้เสียบหลอดดูดน้ำ จึงเกิดการสูญเสียอุณหภูมิได้ง่ายกว่า แต่ก็ทำให้ดื่มเครื่องดื่มได้ง่ายกว่ามาก ๆ เช่นกัน ผมแนะนำว่า ถ้าเน้นเปิดฝาง่าย ๆ ดื่มเครื่องดื่มภายในได้ง่าย ๆ แบบแก้วจะดีกว่า ส่วนแบบกระติกจะได้คะแนนตรงยกเคลื่อนย้ายไปมาได้ง่ายกว่าครับ
ต่อไปก็คือเรื่อง ขนาดความจุ โดยส่วนใหญ่ทั้งแก้วและกระติกจะพบเจอความจุได้หลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็ก 10 oz จนถึง 40 oz เลยก็มี ซึ่งตอนซื้อต้องระวังนิดหนึ่ง เพราะขนาดเล็กเกินไปก็ใส่เครื่องดื่มได้น้อยมาก ยิ่งถ้าใส่น้ำแข็งเต็ม ๆ ด้วยแล้วละก็ ดูดปรี๊ด ๆ แป๊บเดียว น้ำก็หมดแล้ว ดูไม่ค่อยคุ้มที่จะซื้อมาใช้สักเท่าไร แต่ถ้าขนาดใหญ่ก็จะมีปัญหาเรื่องน้ำหนัก อย่างแก้ว 40 oz ส่วนใหญ่จะหนักประมาณ 550-600 กรัม ซึ่งหนักกว่ามือถืออีกนะครับ และยิ่งถ้าใส่เครื่องดื่มลงไปแบบเต็ม ๆ ด้วยแล้วละก็ จะทำให้หนักเป็นกิโลกว่า ๆ เลยทีเดียว ถ้าคุณผู้ชายอาจจะไม่เท่าไร แต่คุณผู้หญิงอาจจะลำบากตอนยกได้ ถ้าไม่แน่ใจว่าซื้อขนาดความจุไหนดี ผมแนะนำ 20-30 oz เป็นความจุที่กำลังเหมาะสมครับ
นอกจากเรื่องน้ำหนักแล้ว ก็ต้องระวังเรื่องขนาดของแก้วหรือกระติกกันด้วย เพราะบางยี่ห้อจะชอบทำแก้วอ้วนออกด้านข้าง ทำให้คนที่มือเล็ก ๆ อาจจะจับได้ไม่ถนัดมือ หรือไม่งั้นก็ซื้อแบบที่มีหูจับก็ดีครับ ช่วยให้ถือได้ง่าย ยกดื่มได้สะดวกดีด้วย และก็อย่าลืมดูว่า แก้วกับกระติกที่จะซื้อเป็น BPA FREE หรือไม่ ซึ่งเจ้า BPA (Bisphenol) เป็นสารเคมีที่พบได้มากในพลาสติกบรรจุอาหาร ที่หากสะสมในร่างกายมาก ๆ อาจจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพขึ้นได้ แต่ตรงจุดนี้ไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะแก้วหรือกระติกเก็บความเย็นในปัจจุบันจะเป็นแบบ BPA FREE กันหมดแล้วครับ
สุดท้ายคือเรื่อง ราคา เนื่องจากแก้วหรือกระติกน้ำบางยี่ห้อก็มีราคาที่ค่อนข้างแพงหลายพันบาท จึงทำให้บางยี่ห้อมีของก๊อปของปลอบมาวางขายกันด้วย เวลาซื้อก็ดูกันดี ๆ นิดหนึ่ง เพราะของปลอมที่มีราคาถูก อาจจะใช้สเตนเลสเกรดต่ำ ทำให้มีความคงทนน้อย ใช้ได้ไม่นานก็พัง อีกทั้งยังอาจจะมีสารปนเปื้อนออกมาจากตัวแก้วหรือกระติก และถ้าดื่มแล้ว อาจจะก่อให้เกิดปัญหาเรื่องสุขภาพตามมาด้วย ผมแนะนำว่า ถ้าเงินไม่พอ ซื้อยี่ห้อดัง ๆ แพง ๆ ก็ไปซื้อพวกของยี่ห้อที่มีราคาย่อมเยาแต่เป็นของแท้ก็ได้ มีความปลอดภัยมากกว่า และมั่นใจได้ว่าใช้ได้อย่างยาวนานด้วยครับ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “แก้ว Tumbler / กระติกน้ำเก็บความเย็น” ยี่ห้อไหนดี
ถ้าใครที่ไม่มีเวลาอ่าน หรืออยากดูแบบรวมยอด สรุปมาให้เลยมากกว่า ก็ลองกดเข้าไปดูที่ตารางเปรียบเทียบตรงปุ่มด้านล่างได้เลยครับ ทางผมได้ทำการสรุปไว้ให้แล้ว เปรียบเทียบให้เห็นกันแบบช็อตต่อช็อตกันเลย
1. แก้วเก็บความเย็น / กระติกเก็บความเย็น ยี่ห้อ YETI
ราคาโดยประมาณ 1,790 – 2,590 บาท
ถ้าพูดถึงเรื่องแก้วเก็บความเย็น, แก้ว Tumbler หรือกระติกน้ำเก็บความเย็นแล้วละก็ คนไทยหลาย ๆ คนน่าจะนึกถึงยี่ห้อ YETI แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกากันก่อนเลยใช่ไหมล่ะครับ? เพราะเป็นยี่ห้อแรก ๆ ที่ได้เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย แล้วทำให้แก้วเก็บความเย็นเริ่มเป็นที่รู้จัก และเริ่มได้รับความนิยมใช้ในบ้านเรากันมากขึ้นด้วย แต่ก็ทำให้มีของปลอมของก๊อปแก้ว YETI ออกมาวางขายตามท้องตลาดเป็นจำนวนมากเช่นกัน ตอนเลือกซื้อก็ดูกันดี ๆ ด้วยนะครับ
โดย YETI จะใช้สเตนเลสคุณภาพดีเกรด 304 มาใช้ในการผลิต ซึ่งจะช่วยให้เก็บความเย็นและความร้อนได้นานหลายชั่วโมง อีกทั้งยังเป็นยี่ห้อที่มีขายทั้งแบบแก้วและแบบกระติกน้ำ ไม่พอยังมีหลายขนาดความจุให้เลือกซื้อกันด้วย โดยมีตั้งแต่ 10-30 oz อยากได้ไซส์ใหญ่หรือเล็กก็เลือกซื้อกันได้ ส่วนทีเด็ดของ YETI ที่ดีกว่ายี่ห้ออื่น ๆ จะอยู่ตรงที่ฝาเปิดปิดของแก้วที่จะเลือนเปิดปิดด้วยระบบแม่เหล็ก จึงช่วยให้ปิดฝาได้แน่นสนิท ไม่มีน้ำหกออกมาจากแก้วได้เลย และยังสามารถถอดแยกชิ้นส่วนของฝาออกมาได้ด้วย ช่วยให้ล้างทำความสะอาดได้อย่างหมดจน ไม่เหมือนยี่ห้ออื่น ๆ ที่อาจจะมีคาบของเหลวติดตามซอกของฝาครับ ส่วนฝาของแบบกระติกน้ำก็จะเป็นแบบเกลียวสองชั้น ก็ปิดได้แน่นหนายิ่งกว่าแบบแก้วเลยครับ
ความจุ | 10-30 oz |
น้ำหนัก | ขนาด 10 oz หนัก 269 g / 20 oz หนัก 360 g / 30 oz หนัก 453 g |
สเตนเลส | เกรด 304 |
เก็บความเย็นได้นาน | ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำแข็ง ถ้าโดยทั่ว ๆ ไป จะเก็บได้นานประมาณ 18-24 ชั่วโมง |
เก็บความร้อนได้นาน | ประมาณ 5-6 ชั่วโมง |
PBA Free | ✓ |
2. แก้วเก็บความเย็น / กระติกน้ำเก็บความเย็น ยี่ห้อ HYDRO FLASK
ราคาโดยประมาณ 1,790 – 2,590 บาท
HYDRO FLASK เป็นอีกยี่ห้อที่ขึ้นชื่อในเรื่องของทั้งแก้วเก็บความเย็นและกระติกเก็บความเย็นใน USA เอามาก ๆ ครับ โดยมีสโลแกนสุดเจ๋งอย่าง “Colder Hotter Longer Happier” เย็นกว่า ร้อนกว่า ยาวนานมากกว่า ก็มีความสุขที่มากขึ้น ซึ่งตัวแก้วก็สามารถทำได้ตามนั้นเลยครับ โดยจะใช้สเตนเลสคุณภาพดีเกรด 304 มาผลิตเช่นเดียวกันกับ YETI แต่จะมีเทคโนโลยีขึ้นสูงของ HYDRO FLASK โดยเฉพาะอย่าง TempShield™ ที่เป็นการทำฉนวนแบบสุญญากาศถึง 2 ชั้น จึงช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียทั้งความเย็นและร้อนได้ดี โดยรักษาความเย็นได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง และความร้อนได้ถึง 6 ชั่วโมงด้วย จะกาแฟเย็นกาแฟร้อน HYDRO FLASK ก็เก็บอุณหภูมิไว้ให้ได้ครับ
นอกจากนี้ ภายนอกยังถูกเคลือบด้วยสีแบบด้านที่ช่วยให้จับได้ถนัดมือ และยังช่วยปกป้องพร้อมทั้งยืดอายุการใช้งานของแก้วหรือกระติกให้ยาวนานขึ้น อีกทั้งมีหลากหลายสีสันมาก ๆ จะสีแดง, ดำ, เหลือง, เขียว หรือสีอื่น ๆ ก็มีให้เลือกซื้อกันด้วยครับ ส่วนเรื่องความจุก็ไม่ต้องเป็นห่วงเลย เพราะมีหลายขนาดเช่นเดียวกันกับ YETI ตั้งแต่ 16 จนถึง 32 oz ขนาดใหญ่สุดแอบใหญ่กว่า YETI นิดหนึ่ง รวม ๆ แล้ว ถ้าเรื่องคุณภาพทั้ง HYDRO FLASK และ YETI ถือว่าทำได้ดีทั้งคู่ จะเลือกซื้อแก้วหรือกระติกจากยี่ห้อไหนก็ได้ครับ
ความจุ | 16-32 oz |
น้ำหนัก | ขนาด 16 oz หนัก 257 g / 22 oz หนัก 354 g / 32 oz หนัก 476 g |
สเตนเลส | เกรด 304 |
เก็บความเย็นได้นาน | ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำแข็ง ถ้าโดยทั่ว ๆ ไป จะเก็บได้นานประมาณ 24 ชั่วโมง |
เก็บความร้อนได้นาน | ประมาณ 6 ชั่วโมง |
PBA Free | ✓ |
3. แก้ว Tumbler ยี่ห้อ OZARK TRAIL
ราคาโดยประมาณ 120 – 349 บาท
ถ้าคิดว่าแก้วหรือกระติกเก็บความเย็นของทั้ง YETI และ HYDRO FLASK นั้นแพงเกินไป ลองมาดูแก้วของยี่ห้อ OZARK TRAIL กันดีกว่าครับ แต่ยี่ห้อนี้จะไม่มีแบบกระติกเก็บความเย็นให้เลือกซื้อนะครับ จะมีแต่เฉพาะแก้วเท่านั้น โดยมีหลายขนาดให้เลือกซื้อเช่นกัน ซึ่งมีตั้งแต่ขนาดเล็ก 10 oz จนถึงขนาดใหญ่โคตร 40 oz หรือใส่เครื่องดื่มได้ถึง 1.18 ลิตรกันเลยทีเดียว มีความจุที่ใหญ่มาก แต่ก็หนักมากด้วยเช่นกัน โดยหนักถึง 576 g หนักกว่ามือถือซะอีก ยิ่งถ้าใส่เครื่องดื่มลงไปอีกยิ่งหนัก ยังไงถ้าจะซื้อไซส์ใหญ่สุด ก็ขอให้คิดดี ๆ ก่อนนะครับ
อีกทั้งแก้ว Tumbler OZARK TRAIL ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่ย่อมเยากว่า 2 ยี่ห้อบน แต่ก็ยังใช้สเตนเลสคุณภาพดีเกรด 304 ในการผลิตด้วยเช่นกัน มี PBA Free เหมือนกัน และยังสามารถเก็บความร้อน/เย็นได้อย่างยาวนานอีกด้วย เพียงแค่ดีไซน์, สีสัน และฝาปิดอาจจะออกแบบได้ไม่ดีและไม่สวยเท่า 2 ยี่ห้อบน แต่ถ้าอยากได้แก้วเก็บความเย็นที่เน้นใช้งานและเน้นความคุ้มค่า OZARK TRAIL น่าจะเป็นยี่ห้อที่ตอบโจทย์เลยครับ
ความจุ | 10-40 oz |
น้ำหนัก | ขนาด 10 oz หนัก 229 g / 20 oz หนัก 317 g / 30 oz หนัก 480 g / 40 oz หนัก 576 g |
สเตนเลส | เกรด 304 |
เก็บความเย็นได้นาน | ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำแข็ง ถ้าโดยทั่ว ๆ ไป จะเก็บได้นาน 18-24 ชั่วโมง |
เก็บความร้อนได้นาน | ประมาณ 6 ชั่วโมง |
PBA Free | ✓ |
4. กระติกน้ำเก็บความเย็น ยี่ห้อ Xiaomi moka coffee tumbler
ราคาโดยประมาณ 740 บาท
Xiaomi น่าจะเป็นอีกแบรนด์ขายสินค้าไอทีที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จัก และมีสินค้าขายที่หลากหลายมาก ๆ ซึ่งเจ้ากระติกเก็บความเย็นเอง ทาง Xiaomi เขาก็มีขายเช่นกันครับ (แต่ไม่มีแบบแก้วขาย) โดยจะมีดีไซน์เป็นทรงกระบอกแนวสูง มีสายรัดหนังสีน้ำตาลเด่นช่วยให้พกพาได้ง่าย และใช้สเตนเลสเกรด 304 ในการผลิตเช่นเดียวกันกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่จะมีสีสันให้เลือกเพียงแค่ 2 สีเท่านั้นคือ สีขาวกับสีเงิน และจะมีขนาดเดียวให้ซื้อคือ 14.5 oz หรือ 430 ml สีสันอาจจะน้อยไปนิด และขนาดอาจจะเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ ครับ
แต่กระติกน้ำตัวนี้จะมีความพิเศษอยู่ตรงที่เป็นกระติกอัจฉริยะ โดยตรงฝาของกระติกจะเป็นแบบ Touch Screen สามารถจับเวลา และบ่งบอกอุณหภูมิของเครื่องดื่มที่อยู่ภายในได้! พร้อมด้วยตัวชั้นกรองตาข่ายที่มีความละเอียดสูง จึงเหมาะสำหรับใช้ชงพวกเครื่องดื่มที่มีผง ๆ กาก ๆ เช่น ชาหรือกาแฟอีกด้วย และช่วยทำความสะอาดได้ง่ายมาก ถ้าใครเป็นคอชาหรือกาแฟร้อน ผมว่า Xiaomi moka coffee tumbler ตัวนี้ตอบโจทย์ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับการซื้อให้เป็นของขวัญแก่เพื่อน ๆ หรือคนวัยทำงานด้วยนะครับ
ความจุ | 14.5 oz |
น้ำหนัก | 310 g |
สเตนเลส | เกรด 304 |
เก็บความเย็นได้นาน | ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำแข็ง ถ้าโดยทั่ว ๆ ไป จะเก็บได้นาน 24 ชั่วโมง |
เก็บความร้อนได้นาน | ประมาณ 6 ชั่วโมง |
PBA Free | ✓ |
5. กระติกเก็บความเย็น ยี่ห้อ Xiaomi Viomi
ราคาโดยประมาณ 499 บาท
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ลองมาดูกระติกน้ำเก็บความเย็น ของยี่ห้อ Xiaomi กันอีกสักรุ่นนะครับกับ Xiaomi Viomi ที่คราวนี้อาจจะไม่ได้เป็นกระติกน้ำอัจฉริยะเหมือนตัวด้านบน จะเป็นเพียงกระติกที่เหมือน ๆ กับยี่ห้ออื่น ๆ และมีขนาดให้เลือกซื้อคือ 300 ml หรือ 10 oz และ 460 ml หรือ 15.5 oz (ไม่แนะนำให้ซื้อขนาด 300 ml เพราะเล็กเกินครับ) พร้อมด้วยสีสันที่มีให้เลือกค่อนข้างน้อยเพียงแค่สามสี ดำ, ขาว, ทอง แต่แอบดูสวยแบบเรียบ ๆ ดี รวม ๆ แล้วดูไม่ค่อยมีความพิเศษกว่ายี่ห้ออื่น ๆ เท่าไร ขนาดความจุก็แอบค่อนข้างเล็กไปนิด
แต่กระติกตัวนี้ใช้สเตนเลสเกรด 316! ที่ถือว่าเป็นเกรดที่ดีเยี่ยมกว่า 304 มีความทนทานต่อสนิมและการผุกร่อนที่ดีกว่า จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าด้วยครับ เท่านั้นยังไม่พอ ตัวกระติกมีการดีไซน์ให้มีฉนวนสุญญากาศถึง 8 ชั้น จึงช่วยรักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่มไม่ว่าจะร้อนหรือเย็นได้อย่างยาวนาน โดยยี่ห้ออื่น ๆ เครื่องดื่มร้อนจะอยู่ได้ประมาณ 4-6 ชั่วโมง แต่กระติกนี้ ทางแบรนด์เคลมว่า สามารถเก็บได้นานถึง 24 ชั่วโมงเลยครับ นานมาก ๆ ตัวฝาก็ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบสปริงที่เปิดปิดง่าย และยังออกแบบมาให้พอดีกับริมฝีปากอีกด้วย จึงช่วยให้การดื่มน้ำเป็นไปได้อย่างสะดวก และไม่มีน้ำหกออกมาให้เลอะเทอะด้วยครับ
ความจุ | 10 / 15.5 oz |
น้ำหนัก | 180 / 300 g |
สเตนเลส | เกรด 316 |
เก็บความเย็นได้นาน | ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำแข็ง ถ้าโดยทั่ว ๆ ไป จะเก็บได้นาน 24-36 ชั่วโมง |
เก็บความร้อนได้นาน | ประมาณ 24 ชั่วโมง |
PBA Free | ✓ |
6. แก้วเก็บความเย็น / กระติกเก็บความเย็น ยี่ห้อ Stanley
ราคาโดยประมาณ 790-1,450 บาท
Stanley เป็นแบรนด์ที่ดังในเรื่องอุปกรณ์ช่าง, อุปกรณ์ก่อสร้าง และพวกสินค้ากลางแจ้งต่าง ๆ แต่ Stanley ก็มีแก้ว/กระติกน้ำเก็บความเย็นวางขายด้วยเช่นกัน และยังได้ผลตอบรับดี มียอดขายที่สูงในอินเทอร์เน็ตอีกด้วย โดยจะมีหลายสีสันและหลายขนาด (23-44 oz)ให้เลือกเช่นเดียวกันกับพวกยี่ห้อแก้วดัง ๆ อย่าง YETI หรือ HYDRO FLASK ตัวด้านบน แต่จะมีดีไซน์ที่เน้นความสูงมากกว่าด้านข้าง ทำให้ทรงแก้ว/กระติกจะดูผอมสูง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องความใหญ่เทอะทะของแก้วยี่ห้ออื่น ๆ ที่เมื่อเทียบขนาด 30 oz เท่ากันแล้ว แก้ว Stanley จะจับได้ถนัดมือกว่านั้นเองครับ
ส่วนเรื่องวัสดุที่ใช้ในการผลิตก็เป็นสเตนเลสเกรด 304 เหมือนกับหลาย ๆ ยี่ห้อ มีมาตรฐาน PBA Free เช่นเดียวกัน พร้อมด้วยตัวฝาที่ออกแบบมาให้เป็นเกลียวแบบ 3 ชั้น รวมกับฉนวนสุญญากาศแบบ 2 ชั้น จึงช่วยให้การกักเก็บอุณหภูมิได้ดี เครื่องดื่มร้อนก็ยังคงร้อนได้นาน เครื่องดื่มเย็นก็เย็นได้นานด้วย โดยทางแบรนด์เคลมมาว่า ถ้าใส่น้ำแข็งแน่น ๆ จะสามารถเย็นได้นานกว่า 40 ชั่วโมง ++ เลย อีกทั้งราคาก็อยู่ในระดับกลาง ๆ ที่ไม่แพงจนเกินไป ก็ถือว่าเป็นแก้ว/กระติกน้ำเก็บความเย็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าเล่นมากครับ
ความจุ | 23-44 oz |
น้ำหนัก | ขนาด 23 oz หนัก 308 g / 34 oz หนัก 498 g / 44 oz หนัก 635 g |
สเตนเลส | เกรด 304 |
เก็บความเย็นได้นาน | ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำแข็ง ถ้าโดยทั่ว ๆ ไป จะเก็บได้นาน 24-40 ชั่วโมง ++ |
เก็บความร้อนได้นาน | ประมาณ 4-6 ชั่วโมง |
PBA Free | ✓ |
7. แก้วเก็บความเย็น / กระติกน้ำเก็บความเย็น ยี่ห้อ Lock&Lock
ราคาโดยประมาณ 790-1,450 บาท
ถ้าพูดถึงแก้วหรือกระติกน้ำเก็บความเย็นความร้อนที่มีขายหลากหลายรุ่นมากที่สุด และมียอดขายในอินเทอร์เน็ตที่ดีมากด้วย คงต้องขอยกให้กับยี่ห้อ Lock&Lock ที่เป็นยี่ห้อจากดินแดนเกาหลีกันเลยครับ เพราะมีตั้งแต่รุ่นขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ มีให้เลือกหลายรูปทรงทั้งแบบแก้วและแบบกระติก อีกทั้งยังมีหลายสีสันทั้งสีแบบด้านหรือสีแบบเงาให้เลือกซื้อกันด้วย ส่วนเรื่องคุณภาพก็มั่นใจได้ด้วยสเตนเลสเกรด 304 ที่ช่วยให้เก็บอุณหภูมิได้อย่างยาวนาน อาจจะเก็บได้ไม่นานเท่าพวกยี่ห้อดัง ๆ แพง ๆ แต่ผมว่าก็เพียงพอต่อการใช้งาน และราคาก็อยู่ในช่วงที่ไม่แพงมากประมาณ 499-799 บาท (ขึ้นอยู่กับความจุ) ยังไงถ้ากำลังมองหาแก้วหรือกระติกเก็บความเย็นดี ๆ สักยี่ห้อที่ราคาไม่แพงมาก ลองเลือกจาก Lock&Lock ได้เลยครับ
ความจุ | หลายขนาด (มีให้เลือกเยอะมาก) |
น้ำหนัก | ขึ้นอยู่กับความจุ |
สเตนเลส | เกรด 304 |
เก็บความเย็นได้นาน | ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำแข็ง ถ้าโดยทั่ว ๆ ไป จะเก็บได้นาน 6-8 ชั่วโมง ++ |
เก็บความร้อนได้นาน | ประมาณ 4-6 ชั่วโมง |
PBA Free | ✓ |
8. กระติกเก็บความเย็น ยี่ห้อ KAXIFEI
ราคาโดยประมาณ 139 บาท
ถ้ากำลังมองหากระติกเก็บความเย็นคุณภาพดีราคาสุดถูก ผมขอแนะนำให้รู้จักกับยี่ห้อ KAXIFEI กันเลยครับ เพราะมีราคาที่ถูกมาก ๆๆๆๆ เพียงแค่ประมาณ 139 บาทเท่านั้น แต่คุณภาพคับกระติก ด้วยดีไซน์แบบมินิมอลแนวทันสมัยที่แอบดูดี ดูแพงกว่าราคาที่ขายมาก ๆ ยิ่งถ้าเป็นคนชอบสีพื้น ๆ อย่างสีดำ, เงินแล้วละก็ จะยิ่งดีต่อใจแบบสุด ๆ พร้อมทั้งยังมีชั้นกรองไว้สำหรับใส่ใบชา ชงเป็นเครื่องดื่มร้อนได้ด้วยครับ
และถึงจะเห็นราคาถูกแบบนี้ ก็ยังใช้สเตนเลสเกรด 304 พร้อมด้วยเทคโนโลยีฉนวนสุญญากาศเช่นเดียวกันกับยี่ห้ออื่น ๆ จึงช่วยในการเก็บรักษาอุณหภูมิได้ดี เพียงแต่อาจจะเก็บได้ไม่ดีเท่ากับพวกยี่ห้อรุ่นพี่ที่ขายแพง ๆ และก็จะมีแค่แบบกระติกให้เลือกซื้อเท่านั้น ถ้าอยากได้แบบแก้ว ยี่ห้อนี้ไม่มีขายนะครับ อีกทั้งยังมีแค่ขนาดเดียวคือ 380 ml หรือ 12.8 oz ให้ซื้อด้วย ซึ่งขนาดอาจจะค่อนข้างเล็กไปนิด แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างถูกมาก ๆ ดูรวม ๆ ก็ถือว่า KAXIFEI เป็นอีกยี่ห้อที่น่าสนใจ และน่าลองซื้อมาใช้เล่น ๆ ยังได้เลยครับ
ความจุ | 12.8 oz |
น้ำหนัก | N/A |
สเตนเลส | เกรด 304 |
เก็บความเย็นได้นาน | ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำแข็ง ถ้าโดยทั่ว ๆ ไป จะเก็บได้นาน 6-8 ชั่วโมง ++ |
เก็บความร้อนได้นาน | ประมาณ 4-6 ชั่วโมง |
PBA Free | ✓ |
9. แก้ว Tumbler / กระติกน้ำเก็บความเย็น ยี่ห้อ TYESO
ราคาโดยประมาณ 176-279 บาท
TYESO เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่มีทั้งแบบแก้วและแบบกระติกน้ำเก็บความเย็นให้เลือกซื้อ แต่ที่น่าสนใจกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ตรงที่มีราคาค่อนข้างย่อมเยามากประมาณ 176-279 บาทเท่านั้น โดยราคาก็ขึ้นอยู่กับขนาดความจุของแก้วหรือกระติก และถึงจะเห็นถูกแบบนี้ แต่ก็มีการใช้สเตนเลสเกรด 304 เช่นเดียวกันกับหลาย ๆ ยี่ห้อ จึงสามารถเก็บอุณหภูมิของทั้งน้ำร้อนและเย็นได้อย่างยาวนาน แต่อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าพวกยี่ห้อดัง ๆ ราคาแพง ๆ แต่ถ้าเทียบกับเงินที่จ่ายแล้ว ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก นอกจากนี้ อีกจุดเด่นที่หลาย ๆ คนน่าจะสนใจก็คือ “สี” ที่เป็นสีแบบพาสเทลที่ดูสวยน่ารักมาก ๆ และยังมีให้เลือกซื้อถึง 13 สีกันด้วย สาว ๆ น่าจะถูกใจสีชมพู, ม่วง, ชมพูอ่อน ส่วนหนุ่ม ๆ ก็ซื้อสีดำ, ขาว, เงิน สีเรียบ ๆ มาใช้ได้ครับ
ความจุ | 18-30 oz |
น้ำหนัก | N/A |
สเตนเลส | เกรด 304 |
เก็บความเย็นได้นาน | ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำแข็ง ถ้าโดยทั่ว ๆ ไป จะเก็บได้นาน 6-8 ชั่วโมง ++ |
เก็บความร้อนได้นาน | ประมาณ 4-6 ชั่วโมง |
PBA Free | ✓ |
10. แก้ว Tumbler หมีบราวน์สวัสดี
ราคาโดยประมาณ 300 บาท
สำหรับแก้วเก็บความเย็นตัวนี้ ไม่มีอะไรมาก คุณสมบัติก็คล้าย ๆ กับแก้วเก็บความเย็นทั่ว ๆ ไปที่มีราคาย่อมเยา มีการใช้สเตนเลสเกรด 304 เหมือนกัน เก็บความร้อนเย็นได้นานพอ ๆ กัน แต่ที่พิเศษกว่าแก้วอื่น ๆ ก็คงตรงลายหมีบราวน์สวัสดีที่เอาใจสาวก Line กันนั้นเองครับ โดยตัวแก้วก็จะมีสีให้เลือกซื้อกันอยู่ 3 สีคือ สีดำ, เงิน และขาว ซึ่งผมอยากจะบอกว่า สีดำฝาทองดูสวยเด่นดีมาก ๆๆ เห็นแล้วผมยังอยากได้เองเลยครับ ถ้ายังไงใครเป็นสาวกหมีบราวน์แล้วกำลังหาแก้วเก็บความเย็นไว้ใช้อยู่ ก็คงต้องจัดแก้วใบนี้กันสักหน่อยแล้ว หรือจะซื้อไปเป็นของขวัญให้กับเพื่อน ๆ หรือคุณแฟน ก็แอบดูน่ารักดีด้วยนะครับ
ความจุ | 16 oz |
น้ำหนัก | N/A |
สเตนเลส | เกรด 304 |
เก็บความเย็นได้นาน | ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำแข็ง ถ้าโดยทั่ว ๆ ไป จะเก็บได้นาน 6-8 ชั่วโมง ++ |
เก็บความร้อนได้นาน | ประมาณ 4-6 ชั่วโมง |
PBA Free | ✓ |
เป็นยังไงกันบ้างครับ ได้เห็น “แก้วเก็บความเย็น กระติกน้ำเก็บความเย็น ยี่ห้อไหนดี” กันไปแล้วถึง 10 ยี่ห้อ สนใจอยากจะซื้อยี่ห้อไหนไปใช้ใส่เครื่องดื่มกันบ้างครับ?จากที่ดูจะเห็นว่า ราคาช่างมีความหลากหลายจริง ๆ ตั้งแต่ราคาแพงหลายพันบาท จนถึงราคาย่อมเยาหลักร้อย ยังไงก่อนซื้อก็อย่าลืมคำนวณเงินในกระเป๋ากันให้ดีก่อนด้วยนะครับ แต่ของพวกนี้ ถ้ารักษาการใช้งานดี ๆ มันอยู่ได้นานหลายปีมาก ๆ ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มอยู่ ได้ดื่มเครื่องดื่มร้อน ๆ หรือเย็น ๆ เป็นเวลานาน ๆ หลายชั่วโมง โดยเฉพาะสายทำงานเข้าออฟฟิศ ต้องถูกใจกับของพวกนี้แน่ ๆ ยังไงก็ขอให้ได้แก้ว Tumbler หรือกระติกน้ำเก็บความเย็นที่ถูกใจด้วยนะครับผม
บรรณาธิการที่มีประสบการณ์ในการเขียนรีวิวสินค้าหลายชนิด
- สุขภาพ: อาหารเสริม, ออกกำลังกาย, การดูแลผิวพรรณ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: สมาร์ทโฮม, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องใช้ในบ้าน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- ของกิน: ขนมหวาน เครื่องดื่ม, อาหารสุขภาพ, และเทรนด์อาหารอื่น ๆ