มีผิวแห้งเสีย ผิวแห้งกร้าน ผิวดูแตกลายงาอย่างชัดเจน จนทนไม่ไหว ความมั่นใจร่วงตุบ จนไม่กล้าออกไปเจอผู้คนนอกบ้านกันใช่ไหมล้าา ก็เข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้วล่ะค่ะ เพราะปัญหาผิวแห้งเสียเนี่ย หนึ่งในวิธีการหลัก ๆ ที่จะแก้ปัญหาผิวได้ ก็ต้องใช้ “โลชั่นผิวแห้ง” ไปทาบำรุงผิวกันเนาะ แต่จะเลือกซื้อยี่ห้อไหนดี? ดันมีขายกันหลากหลายยี่ห้อในท้องตลาดจนงงไปหมด ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเด้ออออ เราไปคัดมาให้แล้วถึง 10 ยี่ห้อ ที่ต้องขอบอกเลย แต่ละยี่ห้อเนี่ย เด็ด ๆ ปัง ๆ น่าโดนน่าใช้กันทั้งนั้น จนเรามั่นใจว่า หลังจากอ่านกันจนจบ เตรียมเสียเงินซื้อไม่ยี่ห้อใดก็ยี่ห้อหนึ่งอย่างแน่นอนค่าา
สารบัญ
เลือกซื้อ “โลชั่นผิวแห้ง” ยังไงดีนะ ?
คือต้องบอกก่อน การที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวเสียเนี่ย การได้ใช้โลชั่นทาบำรุงผิว ไม่ว่าจะ แบบไหน ๆ หรือยี่ห้อไหนก็ตาม ก็ถือว่าดีกว่า “ไม่ใช้” อยู่แล้วค่ะ ยังไงก็ช่วยบำรุงผิวได้ แต่เพียงแค่พวกโลชั่นทั่ว ๆ ไปจะบำรุงและเติมความชุ่มชื้นไม่ได้ล้ำลึกและดีเท่ากับพวกโลชั่นสูตรที่ทำออกมาสำหรับพวกผิวแห้งโดยเฉพาะ (ถ้าสังเกตที่ขวดว่ามี For Dry Skin, Extra Dry Skin เนี่ยแหละ ชาวผิวแห้งทั้งหลาย หยิบกันไปใช้ได้เลย) ซึ่งโลชั่นสูตรสำหรับผิวแห้งเนี่ย บอกเลยว่า ทุกยี่ห้อจัดหนักจัดเต็มเน้นเรื่องส่วนผสมในการฟื้นฟูความชุ่มชื้นให้กับผิวแบบสุด ๆ อยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องส่วนผสมกันเลยจ้าา
แต่ถ้าถามว่า จะรู้ได้ไง โลชั่นผิวแห้ง ยี่ห้อไหนดีกับผิวของสาว ๆ มากที่สุด? คำตอบก็คือ “ต้องทดลองใช้” ด้วยตัวเองค่า (คำตอบมันอาจจะกวน ๆ ไปนิด แต่มันจริงนะ แงง อย่าว่าเค้า) เนื่องมาจาก ผิวของคนเรานั้นมีสภาพไม่เหมือนกันเนาะ บางคนอาจจะมีผิวแห้งมาก บางคนอาจจะมีผิวแห้งไม่มากนัก อีกทั้งยังมีเรื่องของความแข็งแรงของผิวที่แตกต่างกันไปอีก ทำให้บางคนอาจจะใช้ยี่ห้อนี้แล้วตอบโจทย์ แต่กับอีกคน ก็บำรุงอยู่ แต่อาจจะได้ผลที่ไม่ค่อยดีเท่าไร ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำ “ให้ซื้อไซส์เล็ก ๆ มาทดลองใช้ดูก่อน” ถ้าใช้แล้วชอบ ดีต่อใจดีต่อผิวยังไง ก็ค่อยไปอัพไซส์เป็นขวดใหญ่ก็ได้ค่า
และอีกเหตุผลสำคัญที่อยากให้ซื้อไซส์เล็ก ๆ มาลองดูก่อนก็คือ “เรื่องของเนื้อครีมกับกลิ่น” ค่ะ ก็เนื่องมาจากโลชั่นสูตรสำหรับผิวแห้งเนี่ย ส่วนใหญ่จะมีเนื้อครีมที่ค้นเหนียวมากกกกกก ทาทีเหมือนกับมีชั้นครีมมาเคลือบผิวไว้เลยทีเดียว ก็สาว ๆ บางคนอาจจะไม่ชอบเนื้อครีมแบบนี้ หรือถ้าทาแบบพวกที่บางเบา ก็อาจจะไม่รู้สึกเหนอะหนะผิว แต่ก็ดันอาจจะบำรุงได้ไม่ดี (เรื่องเยอะจริง ๆ ) อีกทั้งยังมีเรื่องของกลิ่นที่ชอบไม่เหมือนกันอีก ซึ่งการได้ซื้อไซส์ขนาดเล็กมาลอง จะเป็นการช่วยแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ได้นั่นเองค่า (ถ้าซื้อขวดใหญ่แล้วไม่ชอบ ไม่ดี ต้องทนใช้ไปให้หมด หรือไม่งั้นก็เสียเงินเปล่าเน้อ)
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “โลชั่นผิวแห้ง” ยี่ห้อไหนดี
ก็ด้วยการที่มีโลชั่นมีตั้ง 10 ยี่ห้อ มารีวิวให้ดูกัน ทำให้เนื้อหาจะมีค่อนข้างเยอะ และการไถ ๆ เลื่อนลงไปอาจจะทำให้ดูเปรียบเทียบแต่ละยี่ห้อกันไม่ได้ง่ายนัก เราจึงได้ไปจัดทำตารางเปรียบเทียบมาไว้ที่ปุ่มด้านล่างให้แล้วค่า ก็กดเข้าไปจะเห็นทั้ง 10 ยี่ห้อ มาวางเรียงเทียบกันให้ดู พร้อมทั้งมีสรุปแบบคร่าว ๆ ไว้ให้ด้วยนะ ก็ถ้าอยากดูข้อมูลแบบง่าย ๆ ก็กดเลยค่า
1. โลชั่นผิวแห้ง ยี่ห้อ Jergens Ultra Healing Extra Dry Skin Moisturizer Body Lotion
ราคาโดยประมาณ 199 / 360 บาท ต่อ 295 / 621 ml
เปิดมาด้วยโลชั่นสุดปัง ใครเป็นสายดูแลผิวพรรณโดยเฉพาะ Body Skin ไม่มีใครไม่รู้จักคุณ Jergens อย่างแน่นอน โดยคุณ Jergens นางก็มีหลายสูตรให้เลือกอยู่นะ แต่ถ้าใครที่กำลังเผชิญปัญหาความแห้งกร้านของผิว อยากได้โลชั่นผิวแห้งดี ๆ ซักตัว ขอแนะนำเป็นรุ่น Ultra Healing Extra Dry Skin Moisturizer Body Lotion เลยค่ะ ที่แค่ชื่อก็ชัดเจนแล้วเนาะว่า เป็นเอกซ์ตร้า เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับ Dry Skin ผิวแห้งจุก ๆ มีเนื้อครีมเหนียวข้น ทาแล้วแอบเหมือนเคลือบผิวอยู่ แต่ก็สามารถมอบความชุ่มชื้น เติมความอิ่มน้ำให้ผิวได้ในทันที ใครที่ผิวแห้งมาก หรือมีส่วนที่แห้งเฉพาะจุดอย่างพวกข้อศอกด้าน เข่าด้านต่าง ๆ ชีเอาอยู่ เริ่ด!
โดยถ้าดูเรื่องส่วนผสมของชี นางจะเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้นที่ผสมผสานเทคโนโลยี HYDRALUCENCE (เฉพาะของแบรนด์) ที่จะช่วยผลักดันเนื้อครีมและสารบำรุงต่าง ๆ ให้ซึมลึกไปจนถึงระดับชั้นผิว ก็เรียกได้ว่า บำรุงกันตั้งแต่ชั้นภายใน สู่ชั้นภายนอกเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีส่วนผสมของตระกูลวิตามินต่าง ๆ อย่าง วิตามิน C, E และ B5 ที่จะมารวมพลังช่วยกันปรับผิวให้ดูสว่างกระจ่างใส อิ่มน้ำ และป้องกันสารอนุมูลอิสระตัวร้าย พร้อมกับป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรอีกด้วย ก็บอกเลย ผิวแห้งขนาดไหน ใช้ขวดนี้ขวดเดียวรู้เรื่อง ผิวดีขึ้นอย่างแน่นอนจ้าาา
จุดเด่น | มอบความชุ่มชื้น เติมความอิ่มน้ำให้ผิวได้ทันที กลิ่นหอม ใช้ต่อเนื่องช่วยปรับผิวให้ดูสว่างกระจ่างใส ผิวดีขึ้น |
วิตามิน/มอยเจอร์ไรเซอร์ | มอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น วิตามิน C, E และ B5 |
ส่วนผสมอื่น | เทคโนโลยี HYDRALUCENCE |
เนื้อครีม | เนื้อมีความแน่น เหนียวข้น แต่นุ่ม และซึมไว |
สัญชาติ | ออสเตรเลีย |
2. โลชั่นผิวแห้ง ยี่ห้อ Lubriderm Advanced Therapy
ราคาโดยประมาณ 545 / 706 บาท ต่อ 473 / 709 ml
ใครผิวแห้งแตกเป็นดินหน้าแล้ง อยากได้ตัวช่วยแบบจัดหนักจัดเต็ม อยากให้มาลองทำความรู้จักกับโลชั่นผิวแห้ง Lubriderm ตัวนี้เลยค่าา หลายคนที่เคยใช้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า เป็นโลชั่นสวรรค์โปรดที่ทำมาให้คนที่ผิวแห้งหนักมากโดยเฉพาะ (ส่วนตัวคิดว่าชุ่มหนักกว่า Jergens) โดยสูตรที่เราจะมาแนะนำให้ใช้ จะเป็นสูตรสีแดง Advanced Therapy แห้งแค่ไหนก็เอาอยู่เด้ออ บอกเลย!
โดยขวดสีแดงเนี่ย ชีแปะไว้หน้าขวดเลยนะ ว่าเป็น Intensely Hydrates Extra – dry skin ซึ่งอุดมไปด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์แบบเข้มข้นมากกก แต่ชีก็ไม่ได้เหนียวเหนอะหนะอย่างที่คิด สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ลึก และช่วยแก้ปัญหาความแห้งกร้านได้ดี พร้อมทั้งมีส่วนผสมของวิตามิน E, วิตามิน B5 และไขมันที่จำเป็นต่อผิวมาบำรุงผิวเพิ่มเติมด้วย และที่สำคัญ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนานถึง 24 ชม. ไปเลยจ้าาา เหมาะกับใครที่ผิวแห้งหนักจนคัน ผิวเกิดรอยแตกด้วย ส่วนสำหรับใครที่อาจจะไม่ได้ผิวแห้งแตกอย่างหนักเบอร์นั้น แต่ก็ยังอยู่ในกลุ่มผิวแห้ง อยากได้อะไรที่เบาลงมา เนื้อครีมไม่ได้หนักมากจนเกินไป แนะนำรุ่นขวดสีฟ้าเลยค่าา งานดีพอกันเด้อ
จุดเด่น | แก้ปัญหาผิวที่แห้งอย่างหนักจนเกิดการระคายเคือง แดง คัน เพิ่มความชุ่มชื้นทันที |
วิตามิน/มอยเจอร์ไรเซอร์ | มอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น |
ส่วนผสมอื่น | วิตามินE วิตามิน B5 และไขมันที่จำเป็นต่อผิว |
เนื้อครีม | เนื้อครีมค่อนข้างแน่น หนัก แต่เติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี |
สัญชาติ | แคนาดา |
3. โลชั่นผิวแห้ง ยี่ห้อ Physiogel Soothing Care A.I. Lotion
ราคาโดยประมาณ 690 บาท ต่อ 400 ml
ถ้าพูดกันเรื่องงานผิว โดยเฉพาะการแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ จะขาดคุณคนนี้ไปไม่ได้เลยค่าา สำหรับแบรนด์ Physiogel นางถือเป็นแบรนด์ดูแลผิวทั้งผิวหน้าและผิวกายเวชสำอางชื่อดังอันดับโลกเลยนะ ซึ่งสำหรับใครที่ผิวแห้งจนเริ่มคัน แห้งจนระคายเคือง ขอแนะนำเป็นคุณ Physiogel Soothing Care A.I. Lotion ตัวนี้เลย ชีสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ลดแห้ง ลดคัน ลดการระคายเคืองจากผิวแห้งได้แบบเร่งด่วนตอบโจทย์ อีกทั้งยังลดปัญหาผิวแห้งตึงที่ใช้เล็บขูดแล้วเป็นรอยเส้นขาวได้แบบทันทีที่ใช้เลยนะ คอนเฟิร์มจากผู้ใช้จริงหลายคนเลยล่ะจ๊ะ
โดยส่วนผสมของคุณคนนี้ ก็จะมี Triple relief ที่จะเน้นช่วยลดปัญหาผิวแห้ง ลดการระคายเคือง และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นแบบ 3 ขั้นตอน พร้อมทั้งมี BioMimic Technology นวัตกรรมสำคัญที่ตัวสารบำรุงจะมีความคล้ายคลึงกับไขมันที่พบได้ในผิวสุขภาพดีตามธรรมชาติ จึงช่วยให้บำรุงผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ ทางแบรนด์เค้าก็มีการทดสอบเรื่องผลลัพธ์ด้วยนะ ซึ่งคนที่ได้ใช้โลชั่นผิวแห้งตัวนี้ ต่างก็มีชั้นผิวที่ดี มีเกราะป้องกันผิวที่ดีขึ้น และยังกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้เป็นอย่างดี ส่วนผิวที่เคยแดง ชั้นผิวที่เคยยุบตัวก่อนใช้ครีม ก็ฟื้นขึ้นมาจนแทบจะใกล้เคียงกับผิวสุขภาพดีเลย (เค้าส่องกล้องดูเลยล่ะ) ราคาอาจจะแรงไปซะหน่อย แต่ถ้าใครไหวก็แนะนำ เชียร์สุดใจเลยค่าา
จุดเด่น | เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ลดแห้ง ลดคัน ลดการระคายเคืองจากผิวแห้งได้แบบเร่งด่วน สร้างเกราะป้องกันผิว กักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้เป็นอย่างดี ปรับผิวให้สุขภาพดีถาวรได้ในอนาคต |
วิตามิน/มอยเจอร์ไรเซอร์ | Triple relief |
ส่วนผสมอื่น | BioMimic Technology |
เนื้อครีม | เนื้อแน่นแต่นุ่ม |
สัญชาติ | ไอร์แลนด์ |
4. โลชั่นผิวแห้ง ยี่ห้อ Palmer's Raw Shea Body Lotion
ราคาโดยประมาณ 180 / 230 บาท ต่อ 250 / 400 ml
อิฉันขออวยยศให้คุณคนนี้เป็นการส่วนตัวเลยค่าา สำหรับแบรนด์ Palmer's แบรนด์ดูแล Body Skin ที่ทำให้สาว ๆ รวมไปถึงตัวดิฉันเอง เปลี่ยนจากนังผิวคางคก ผิวแห้ง แตก สีผิวไม่สม่ำเสมอกลับมามั่นใจ ผิวเนียนสวยปังสุดได้ เลิฟมากกก (นางมีผลิตภัณฑ์เยอะ แก้ปัญหาเฉพาะจุดหลายอย่างนะ ลองไปศึกษากันได้) แต่สำหรับใครที่อยากเน้นการแก้ปัญหาผิวแห้งเสียอย่างหนักโดยตรง เราขอแนะนำเป็น Palmer's Raw Shea Body Lotion ตัวนี้เลยจ้าาาา
เพราะนางสามารถฟื้นคืนผิวที่แห้งเสียอย่างหนัก เหมือนชีวิตนี้ไม่เคยมีความชุ่มชื้นตกมาถึงผิว ให้กลับมาสุขภาพดี ผิวมีน้ำมีนวลได้ อีกทั้งยังช่วยลดความแข็งกระด้างของผิว ยิ่งใครตาตุ่ม ข้อศอกด้านหนัก ๆ ทาเน้น ๆ เข้าไปนะ แป๊บเดียวรู้เรื่อง ผิวมันจะนุ่มจะนิ่มขึ้น แถมยังมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยนะ
ส่วนเรื่องของส่วนผสม ก็ไม่ห่วงเรื่องผิวแพ้ง่ายเลย เพราะนางไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผิว! มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ใช้ ก็จะเป็นตัวท็อปเกรดเยี่ยมจากธรรมชาติล้วน ๆ อย่าง Marula oil ที่สกัดจากส่วนเมล็ดของต้นมารูล่าในทวีปแอฟริกา ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องกรดไขมันที่จำเป็นในการบำรุงผิว รวมถึง Shea Butter, Oat meal extract, Tocopherol, Aloe vera และ Grape seed oil แต่ละตัวเด่น ๆ เน้น ๆ บำรุงผิวกันทั้งนั้น แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนของวานิลลา งานดียยย์ ตัวหอมผิวสวย ราคาไม่แรง สาว ๆ ผิวแห้งจัดด่วน ๆ จ้า
จุดเด่น | ปรับผิวแห้งเสียให้กลับมานุ่ม ลดความแข็งกระด้างของผิว ปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื้น เพิ่มความแข็งแรงของชั้นผิว |
วิตามิน/มอยเจอร์ไรเซอร์ | Shea Butter, Oat meal extract, Tocopherol, Aloe vera และ Grape seed oil |
ส่วนผสมอื่น | กรดไขมันที่จำเป็นในการบำรุงผิว, กลิ่นหอมวานิลลา |
เนื้อครีม | ครีมเนื้อแน่นมาก แต่ซึมไวผิวชุ่มชื้นดีมาก อาจจะเกลี่ยยากไปซักนิด |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
5. โลชั่นผิวแห้ง ยี่ห้อ Aveeno Daily Moisturizing Lotion
ราคาโดยประมาณ 242 บาท ต่อ 354 ml
ตัวนี้ก็เป็นโลชั่นผิวแห้งอีกหนึ่งตัวที่โดนคุณนินนิน แห่งช่อง blacklist secret ป้ายยามาจ้าาา เธอดูผิวของสาว ๆ ในช่องนี้แต่ละคนสิ ผิวดีมากกกแม่ จะไม่ให้ใช้ตามได้ยังไงล่ะ ซึ่งเอาจริง ๆ ทางแบรนด์ Aveeno เขาก็มีโลชั่นให้เลือกซื้ออยู่หลายสูตร แต่สูตรที่เราลองแล้วพบว่า มันว้าววมากกกกกก ผิวชุ่มชื้นขึ้นแบบเห็นได้ชัดมาก เหมาะกับคนผิวแห้งเสียมาก ก็คือคุณ Aveeno Daily Moisturizing Lotion (ฉลากสีเขียว) ตัวนี้เลยค่าา
และแน่นอนว่า พอขึ้นชื่อเป็น Aveeno ส่วนผสมสำคัญที่ต้องมี และถือเป็นจุดเด่นของเค้าเลยก็คือ สารสกัดธรรมชาติจาก “ข้าวโอ๊ต” นั้นเอง แต่คุณคนนี้ไม่พอนะ นางมาพร้อมกับมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น ทำหน้าที่ช่วยกันบำรุง + ปกป้องผิวแห้งกร้านอย่างหนัก ให้นุ่มชุ่มชื้น รักษาความอิ่มน้ำ อิ่มเด้งได้ยาวนานตลอด 24 ชั่วโมงเลย แต่สิ่งที่ชอบรองจากเรื่องนี้มากเป็นพิเศษก็คือ เนื้อนางซึมซาบได้เร็วมาก ไม่หนัก ไม่แน่นเท่าตัวบน ๆ ที่เคยว่ามา ไม่เหนียวเหนอะหนะ แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากธรรมชาติของข้าวโอ๊ตด้วย ทาแล้วก็ฟิน ๆ ผ่อนคลาย ๆ อีกทั้งยังไม่มีน้ำหอม และปราศจากแอลกอฮอล์จ้าาา เริ่ดดดดด
จุดเด่น | ช่วยบำรุง + ปกป้องผิวแห้งกร้านอย่างหนักให้นุ่มชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ นิ่มเด้ง ชุ่มชื้น 24 ชั่วโมง |
วิตามิน/มอยเจอร์ไรเซอร์ | สารสกัดธรรมชาติจากข้าวโอ๊ต มอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น |
ส่วนผสมอื่น | ไม่มีน้ำหอม และปราศจากแอลกอฮอล์ |
เนื้อครีม | เนื้อครีมเบา สบายผิวมาก ซึมง่าย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของข้าวโอ๊ต |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
6. โลชั่นผิวแห้ง ยี่ห้อ Shiseido Urea Body Milk
ราคาโดยประมาณ 335 บาท ต่อ 150 ml
ใครอยากได้ความชุ่มชื้นแบบจัดหนัก ผิวนุ่ม เด้ง อิ่มน้ำในแบบที่จับไปมันยังนุ่ม เหมือนมีเกราะปกป้องกันบาง ๆ คอยคุ้มกันผิวอยู่ เราขอแนะนำให้รู้จักกับคุณ Shiseido Urea Body Milk ตัวนี้เลยจ้าาา ต้องเม้าท์ก่อนว่า ก่อนหน้านี้เราใช้ตัว Hand and Foot Urea Cream ของนางมาก่อน แล้วมันชุ่มชื้นมากกกกกกกแบบเบอร์สิบ ใครที่ส้นเท้าแตก ๆ มือแห้ง ข้อศอกแข็งคือ เปลี่ยนผิวให้ดีขึ้น นุ่มขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยล่ะ (ยิ่งใช้บ่อย ๆ ยิ่งเห็นผลชัด) พองานมันดีเลยติดใจ มาลองใช้ตัวอื่น ๆ ต่อจนมาเจอเจ้า Body Milk ตัวนี้แหละจ้าาา
แน่นอนความเป็น Shiseido อะเธอ มันเริ่ดมากอยู่แล้ว โดยตัวโลชั่นจะมาในรูปแบบของครีมน้ำนมสไตล์ Urea Cream พัฒนาความปังมาจากครีมทามือทาเท้านั่นแหละ เข้มข้นมากกกกก เนื้อก็นุ่มซึมเข้าสู่ผิวง่าย ไม่เหนอะหนะเลย แต่ก็สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน และโดยส่วนตัว พอทาโลชั่นตัวนี้ทีไร ชอบผิวตัวเองทุกที บรรยายไม่ถูก มันฟิน ๆ นุ่ม ๆ นิ่ม ๆ คือชอบอะ พอความชุ่มชื้นมาเต็ม ปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ ก็เลยถูกแก้ไขไปด้วย (ชีมีคอลลาเจนเป็นส่วนผสมด้วยนะ) พอใช้ไปเรื่อย ๆ ผิวก็ชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ผิวดี ราคาก็เป็นมิตร คือบอกเลยถ้าไม่รู้จะซื้อ โลชั่นผิวแห้ง ยี่ห้อไหนดี จัด Shiseido Body Milk เลยจ้า
จุดเด่น | มอบความชุ่มชื้นให้ผิวมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ใช้กับผิวที่แห้งแตกแข็งหนักได้ กักเก็บความชุ่มชื้นได้นาน |
วิตามิน/มอยเจอร์ไรเซอร์ | Urea |
ส่วนผสมอื่น | คอลลาเจน |
เนื้อครีม | เนื้อครีมเป็น Body Milk ใช้ง่าย ซึมผิวง่าย |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
7. โลชั่นผิวแห้ง ยี่ห้อ SEBAMED NOURISHING BODY MILK
ราคาโดยประมาณ 389 บาท ต่อ 200 ml
ไหนใครไม่ชอบความเหนียวเหนอะ แต่ผิวมันแห้ง มันแย่ มันเสีย มันพังไปหมด เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ตัวนี้เลยค่ะ สำหรับคุณ SEBAMED NOURISHING BODY MILK นางถือเป็นเวชสำอางที่เน้นดูแลเรื่องผิวที่โด่งดังที่สุดในประเทศเยอรมันเลยนะ แถมยังเป็นเบอร์ 1 ที่แพทย์ผิวหนังทั่วทั้งโลกไว้วางใจ และแนะนำให้ใช้ (คือไลน์เด็กน้อย นางอ่อนโยนระดับใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดอะเธออออ) โดยโลชั่นผิวแห้งตัวนี้ จะมีจุดเด่นตรงที่มีค่า pH 5.5 ซึ่งเป็นค่าที่ได้รับการการันตีมาแล้วว่า เป็นกรดอ่อน ๆ ที่ดีต่อผิวมากที่สุดค่ะ
และคุณคนนี้ จะเน้นการบำรุง ปรับผิวให้เข้าใกล้ผิวสวย ผิวดีแข็งแรงเป็นธรรมชาติ เพราะมีส่วนประกอบเป็นน้ำมันจากธรรมชาติที่ดีต่อผิวถึง 30% จึงช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้เป็นอย่างดี โดยหลัก ๆ จะเป็น Shea Butter กับ Jojoba oil ซึ่งทั้ง 2 ถือเป็นส่วนผสมตัวเด่นที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดีมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ และยังมาพร้อมกับ Panthenol และน้ำนม ที่จะเข้ามาช่วยกันลดการระคายเคืองให้กับผิวที่แห้งจนแดง แตก เป็นผื่น หรือแพ้ง่าย ก็ถ้าใช้โลชั่นผิวแห้งยี่ห้ออื่น ๆ แล้วไม่ดีต่อผิวหรือดีต่อใจ ก็ลองหันมาใช้แบรนด์ดังจากเยอรมันนี้ ดูสิคะ
จุดเด่น | เน้นการปรับผิวให้แข็งแรงตามค่าสมดุล pH5.5 สร้างเกราะป้องกันผิว เน้นผิวชุ่มชื้นยาวนาน และถาวร |
วิตามิน/มอยเจอร์ไรเซอร์ | Shea Butter, Jojoba oil |
ส่วนผสมอื่น | ปรับค่าสมดุลผิวให้เป็น pH5.5, Panthenol |
เนื้อครีม | เนื้อครีมแน่น ทาแล้วจะรู้สึกมีฟิล์มบาง ๆ เคลือบผิว แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ |
สัญชาติ | เยอรมนี |
8. โลชั่นผิวแห้ง ยี่ห้อ CERAVE Moisturizing Lotion
ราคาโดยประมาณ 247 / 589 บาท ต่อ 88 / 473 ml
งานเวชสำอางดูแลผิวมาอีกหนึ่งจ้าาาาา สำหรับแบรนด์ CERAVE หลายคนน่าจะเป็นที่รู้จักกันดีเนอะ เดินห้าง เดินวัตสัน ช้อปออนไลน์เจอบ่อยมากกก มีไอเท็มแก้สารพัดปัญหาผิวเยอะมาก แต่ถ้าใครอยากได้โลชั่นผิวแห้ง เน้นเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เราขอแนะนำเป็นคุณ CERAVE Moisturizing Lotion ตัวนี้เลยจ้าาา โดยชีจะสามารถเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้แบบจุก ๆ กักเก็บได้สูงถึง 24 ชั่วโมง ใครผิวแห้งหนักจนคัน แดง มีผิวอ่อนแอ อยากให้ลองจริง ๆ เพราะนอกจากชีจะชุ่มชื้นแล้ว ยังเน้นการเติมเซราไมด์ถึง 3 ชนิด ช่วยปรับผิวให้แข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย
มาดูกันที่ส่วนผสมของเค้ากันบ้างคะ นางจะเน้นในเรื่องมอยเจอร์ไรเซอร์ที่สกัดจากพืชธรรมชาติ และผสมผสานด้วยไฮยาลูรอนิกแอซิด ที่มารวมพลังกันชดเชย + เติมเต็มความชุ่มชื้นได้จนถึงขีดสุด แถมนางยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี MVE ลิขสิทธิ์เฉพาะของเซราวี ที่จะนำพาเซราไมด์ส่งตรงเข้าฟื้นบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกมากที่สุด จึงช่วยให้ผิวแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกเลยทีเดียว อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากสมาคม Eczema ที่สหรัฐอเมริกาว่า เป็นโลชั่นที่ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิว ไม่มีน้ำมัน ไม่มีน้ำหอม ไม่ตกค้าง ไม่อุดตัน ไม่ระคายเคืองผิวอย่างแน่นอน สาว ๆ ผิวแห้งผิวแพ้ง่าย ตำด่วน ๆ เด้อ
จุดเด่น | เติมความชุ่มชื้น กักเก็บความชุ่มชื้น 24 ชั่วโมง ลดอาการคัน แดง ผิวอ่อนแอจากความแห้ง ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิว |
วิตามิน/มอยเจอร์ไรเซอร์ | มอยเจอร์ไรเซอร์ที่สกัดจากพืชธรรมชาติ, ไฮยาลูรอนิกแอซิด, เซราไมด์ 3 ชนิด |
ส่วนผสมอื่น | เทคโนโลยี MVE ลิขสิทธิ์เฉพาะของเซราวี, เซราไมด์ |
เนื้อครีม | เนื้อนุ่ม ดูเหมือนแน่นแต่ไม่หนักผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
9. โลชั่นผิวแห้ง ยี่ห้อ La Roche Posay Lipikar Fluide
ราคาโดยประมาณ 369 บาท ต่อ 400 ml
ผิวแห้งหนักมากก็ว่าแย่แล้ว ยังมามีปัญหาเรื่องผิวบอบบาง ใช้อะไรก็แพ้ ไม่ใช้ผิวก็แห้งจนคัน จนแดงกลายเป็นแพ้หนักมากกว่าเดิมเข้าไปอีก อยากให้ลองเปิดใจกับคุณ La Roche Posay Lipikar Fluide ดูค่ะ และเพียงแค่ชื่อแบรนด์ ก็มั่นใจหายห่วงได้ในระดับหนึ่งแล้วเนอะ เพราะชีดังมากเรื่องไอเท็มในการแก้ไขปัญหาผิวต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และสำหรับโลชั่นผิวแห้งตัวนี้ นางจะเน้นเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น ควบคู่ไปกับการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว โดยมีเนื้อครีมเบามากกก สบายผิว ซึมไวส่วนทางกับความชุ่มชื้น เหมาะกับการใช้เป็น Daily item มากกกกก ยิ่งอาการร้อน ๆ แบบนี้คือปังสุด ไม่เหนอะหนะกวนใจเลยแม่
มากันที่ส่วนผสมกันบ้างจ้าา ที่นางปังสารพัดประโยชน์ตอบโจทย์คนผิวบอบบางแห้งเสียได้ขนาดนี้ เพราะคุณสมบัติพิเศษจาก “ไนอะซินามาย” (Niacinamide) สารสกัดที่ได้รับการยอมรับจากวงการแพทย์ผิวหนังทั่วโลกว่า ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น และปรับผิวให้กลับมาแข็งแรงได้จริง และช่วยปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยนได้จริง ซึ่งชีใส่มาแบบเข้มข้น แต่แนะนำหน่อยนะ ถ้าอยากให้ผิวฟื้นกลับมาไว ๆ แข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แนะนำให้อาบน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารสบู่ก่อน แล้วค่อยมาใช้ตัวนี้หลังอาบน้ำ ผิวคุณจะเนียนนุ่ม แข็งแรงขึ้นได้แบบถาวรอย่างแน่นอนค่าาา
จุดเด่น | เน้นเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น ควบคู่ไปกับการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างอ่อนโยน |
วิตามิน/มอยเจอร์ไรเซอร์ | ไนอะซินามาย |
ส่วนผสมอื่น | ปราศจากน้ำหอม, พาราเบน |
เนื้อครีม | เนื้อครีมเบามาก สบายผิว สามารถใช้เป็น Daily item ได้ |
สัญชาติ | ฝรั่งเศส |
10. โลชั่นผิวแห้ง ยี่ห้อ Cetaphil Daily Advance Ultra Hydrating Lotion
ราคาโดยประมาณ 59 / 530 บาท ต่อ 14 / 85 g
โอ้ยยยแม่ ใครกำลังศึกษาไอเท็มสายสกินแคร์หนัก ๆ สิวเยอะ ผิวแห้ง กำลังต้องการความช่วยเหลือ เชื่อเถอะว่าไม่มีใครไม่รู้จัก Cetaphil อย่างแน่นอน ซึ่งชีไม่ได้ดังแค่เฉพาะตัวผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแก้สิว ที่ไม่ต้องล้างหน้าเท่านั้นนะ แต่เรื่องโลชั่นผิวแห้งนางก็ปังสุดป้ายไม่แพ้กันจ้า สำหรับคุณ Cetaphil Daily Advance Ultra Hydrating Lotion ซึ่งเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ในระดับ Advance จัดเต็มไปเลยค่ะ ผิวคุณจะนุ่ม ชุ่มชื้นจัดหนักตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และยังผ่านการวิจัยมาเรียบร้อยแล้วว่า คงความชุ่มชื้นได้ยาวนานกว่า 24 ชั่วโมงเลย และที่สำคัญอ่อนโยนกับผิวมากกก สามารถใช้ได้ทุกส่วนของร่างกายเลยค่ะ
สำหรับส่วนผสมของคุณคนนี้ เกิดมาเป็น Cetaphil ทั้งที่ มันก็ต้องไม่ธรรมดาปะ นางมีนวัตกรรมสูตร Epidermal Replenishing Complex 5 จ้าาา ซึ่งเป็นการรวมตัวของมอยเจอร์ไรเซอร์ 5 ตัวท็อป ที่จะมาทำงานด้วยกันโดยการดึงความชุ่มชื้นกลับคืนเข้าสู่ผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และป้องกันการสูญเสียน้ำใต้ผิวในคราวเดียวกันเลย พูดง่าย ๆ ว่า หลอดนี้หลอดเดียว เอาอยู่! ส่วนเนื้อครีมก็เบาบาง ไม่เหนียวเหนอะหนะเหมาะกับการใช้ทุกวันแบบสุด ๆ ก็ถ้าอยากให้ผิวชุ่มชื้นระยะยาวแนะนำเลยค่าา
จุดเด่น | เพิ่ม + ดึงความชุ่มชื้นกลับคืนเข้าสู่ผิว ป้องกันการสูญเสียน้ำใต้ผิว คงความชุ่มชื้นได้ยาวนาน 24 ชั่วโมง อ่อนโยนมาก ใช้ได้ทั่วกาย |
วิตามิน/มอยเจอร์ไรเซอร์ | มอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น |
ส่วนผสมอื่น | นวัตกรรมสูตร Epidermal Replenishing Complex 5 |
เนื้อครีม | เนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
ไงจ๊ะชาวผิวแห้งเสียทั้งหลาย ก็ได้เห็นรีวิว “โลชั่นผิวแห้ง” ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน ไม่รู้ว่า สนใจ อยากจะซื้อตัวไหน โลชั่นขวดไหน ไปใช้ทาบำรุงฟื้นฟูผิวที่บ้านกันบ้างคะะ ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย บอกเลยทั้ง 10 ยี่ห้อ เราคัดมาให้แล้ว แต่ละตัวโดดเด่นเรื่องเติมความชุ่มชื้นให้ผิวกันทั้งนั้น เพียงแต่บางยี่ห้อเนื้อครีมก็อาจจะเหนียวข้นมากไปหน่อย หรือบางยี่ห้อก็บางเบาไปนิด อันนี้ก็แล้วแต่สาว ๆ เลยนะว่า ชอบเนื้อครีมแบบไหน ยังไงก็ขอให้ได้โลชั่นผิวแห้งยี่ห้อที่ถูกใจ ทาแล้วผิวฟื้นคืนสภาพ ดูแข็งแรง ดูสวยอิ่มน้ำ นิ่มนวลกันด้วยค่า
Beauty Blogger ที่จะมารีวิวเครื่องสำอางแบบติดตลก ด้วยความชื่นชอบในการเขียนและแต่งหน้า ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันสินค้าตัวที่คิดว่าใช้แล้วดี แต่งแล้วสวย ไม่ทำลายผิว บางอันก็เลือกจากยอดขาย แบรนด์ไหนจัดโปรลดสุดปังก็จะได้รับเลือกอยู่บ่อย ๆ บางอันก็เลือกจากคุณภาพที่ได้ลองใช้แล้วดี มีคนเค้าบอกต่อ การันตีกันขนาดนี้ก็ต้องเอามาเล่าผ่านรีวิวกันหน่อยให้ผู้อ่านได้ไปลองใช้ดูบ้าง