ฮั่นแน่!! ได้หลงเข้ามาอ่านที่บทความนี้ “ไพรเมอร์” (Primer) ยี่ห้อไหนดี ที่ถูกและดี แสดงว่า สาว ๆ (หรือหนุ่ม ๆ สายแต่งหน้า) กำลังมาส่อง ๆ อยากได้ไพรเมอร์ตัวใหม่ที่มีราคาย่อมเยา แต่ใช้งานได้ดี หรือไพรเมอร์ที่มีอยู่ใช้แล้ว มันไม่ค่อยตอบโจทย์ ไม่ถูกใจกันอยู่ใช่ไหมละคะ ก็มาได้ถูกที่แล้วค่าาา เพราะที่บทความนี้ เรามีรีวิวไพรเมอร์ราคาย่อมเยาให้ดูกันถึง 10 ยี่ห้อเลยทีเดียว และขอบอกเลยว่า แต่ละตัวแต่ละยี่ห้อที่เอามารีวิวให้ดูเนี่ย คัดสรรมาแล้ว ดี ๆ ปัง ๆ เด็ด ๆ ทั้งนั้น ซึ่งหลังจากอ่านจนจบแล้ว ก็น่าจะต้องมีการเสียเงินกันแน่ ๆ ไม่ต้องพูดมากเสียเวลาเนาะ ไปอ่านเนื้อหากันเลยค่าา
สารบัญ
มาทำความรู้จักกับ “ไพรเมอร์” (Primer) กันสักนิด
ไพรเมอร์ คือ เครื่องสำอางชนิดหนึ่งที่เปรียบเสมือน “เกราะป้องกัน” ระหว่างผิวหน้าของสาว ๆ กับเครื่องสำอางที่จะมาใช้แต่งสีสันบนใบหน้า โดยจะทำหน้าที่ช่วยในการล็อคมอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือครีมบำรุงให้บำรุงผิวหน้าได้ดีมากขึ้น และยังช่วย “แก้ปัญหาผิวต่าง ๆ “ ไม่ว่าจะ ช่วยเบลอหรืออำพรางรูขุมขนกับหลุมสิว, ปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ หรือช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า
และที่สำคัญ ยังช่วยให้รองพื้นยึดติดบนผิวหน้าได้ดีขึ้นด้วย เมื่อรองพื้นยึดติดได้ดี ผิวก็จะดูเรียบเนียน ดูดี ดูละเอียด ดูสวยมากขึ้น ก็พูดง่าย ๆ ว่า การใช้ไพรเมอร์คือ การ “เตรียมผิว” เพื่อให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้าในขั้นตอนต่อไปนั้นเองจ้าา เมื่อผิวดีผิวเป๊ะก็ทำให้เครื่องสำอางติดทนได้ดีขึ้น ซึ่งก็จะทำให้การแต่งหน้าสนุกมากขึ้นด้วย และขอบอกเลยว่า ที่เห็น ๆ สาว ๆ หลาย ๆ คนเขามีผิวหน้าที่ดูดี ดูเรียบเนียน แต่งหน้าแล้วดูสวยเนี้ยบมาก ส่วนหนึ่งก็เพราะ เจ้าไพรเมอร์ นี้แหละค่าา
จะเลือกซื้อ “ไพรเมอร์” (Primer) ยังไงดีนะ?
หลัก ๆ เลย ก็ควรจะเลือกซื้อตาม “สภาพผิวหน้า” ที่ตนมี ดังนี้จ้า
- สภาพผิวแห้ง : เนื่องจากมีผิวแห้ง ๆ นี้เอง ก็ควรจะเน้นไพรเมอร์ที่มีส่วนผสมช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น ใช้แล้วช่วยให้หน้าดูอิ่มน้ำ ไม่ทำให้หน้าแห้งเพิ่มเติม และควรหลีกเลี่ยงพวกที่ให้ความแมตต์ หรือคุมความมันได้ดี เพราะจะทำให้ผิวหน้ายิ่งแห้งไปกว่าเดิมจ้า
- สภาพผิวผสมกับผิวมัน : ก็ตามสภาพนะคะ ให้เน้นเรื่องคุมความมันก่อน จะได้ช่วยให้หน้าไม่มันเยิ้มระหว่างวัน และยังช่วยให้เครื่องสำอางต่าง ๆ ติดทนสวยอยู่บนใบหน้า ถ้าให้ดีก็เน้นสูตรพวกปราศจากน้ำมัน หรือ Oil Free ก็ดีค่ะ
- สภาพผิวแพ้ง่าย : สภาพผิวแบบนี้แอบลำบาก จะใช้อะไรที่ก็ต้องระมัดระวัง ไม่งั้นผิวหน้าได้เกิดการระคายเคือง หรือเกิดอาการแพ้กันแน่ ๆ เราขอแนะนำว่า ให้หลีกเลี่ยงไพรเมอร์ที่มีส่วนผสมของ Slicone เพราะ Slicone จะทำให้ไพรเมอร์เข้าไปอุดตันตามรูขุมขนได้ง่าย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ในที่สุด และถ้าให้ดี เมื่อซื้อไพรเมอร์มาแล้ว ควรจะทดลองใช้บนหลังแขนกับหลังหูดูก่อน ถ้ามีปฏิกิริยาอาการแพ้ ก็ต้องงดใช้ หาซื้อยี่ห้ออื่นต่อไปค่ะ
- สภาพผิวมีรอยสิว, หลุมสิว หรือรูขุมขนกว้างมาก : ด้วยการที่สภาพผิวหน้ามีร่องรอยเยอะแยะมากมาย ก็คงจำเป็นที่จะต้องใช้ไพรเมอร์ที่มีส่วนผสมของ Silicone แล้วละค่ะ เพราะเจ้า Slicone เนี่ย ถือเป็นตัวเด็ดในการช่วยอุด ช่วยกลบ ช่วยทำให้ผิวกลับมาดูเรียบเนียนนั้นเองค่า
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “ไพรเมอร์” (Primer) ยี่ห้อไหนดี
เนื่องจากเนื้อหารีวิวด้านล่างจะค่อนข้างเยอะ ทำให้อาจจะอ่านกันไม่ไหว ก็แนะนำว่า กดเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบที่ปุ่มด้านล่างได้นะคะ ทางเราได้นำสินค้าแต่ละตัวมาวางเรียงเทียบกันให้ดูเลย ไม่พอ ยังทำการสรุปแบบคร่าว ๆ ไว้ให้ด้วยนะ แต่ถ้าอยากได้ข้อมูลเชิงลึกละก็ ต้องอ่านด้านล่างจ้าาาา
1. ไพรเมอร์เกาหลี ยี่ห้อ 3CE BACK TO BABY PORE VELVET PRIMER
ราคาโดยประมาณ 418 บาท ต่อ 15 g
ไหนใครผิวมันจัด รูขุมขนกว้างระดับหลุมสู้กับดวงจันทร์ได้ จนต้องหาไพรเมอร์ไว้เตรียมผิว เพื่อปกปิดความชั่วร้ายก่อนแต่งหน้าอยู่ละก็ ขอแนะนำ 3CE BACK TO BABY PORE VELVET PRIMER ไพรเมอร์ตัวปังจากแบรนด์ 3CE เลยค่ะ ซึ่งไพรเมอร์ของนางก็ปังสุดพลังสุด ไม่แพ้ใครเลยนะ ตอบโจทย์มากสำหรับใครที่ต้องการเน้นปกปิดรูขุมขน เพราะช่วยอำพรางผิวให้เนียนกริบ จนผิวดูฉ่ำผิวดีตามสไตล์สาวเกาหลีเหมือนดิฉันเกิดและเติบโตที่เมืองหนาว ไม่มีรูขุมขนกันไปเลยจ้าาา
โดยหลังลงไปแล้ว ผิวหน้าจะรู้สึกลื่น ๆ นิดหนึ่ง และจะเริ่มเห็นผลชัดเจนเรื่องการปกปิดรูขุมขนขึ้นหลังจากที่สาว ๆ ทำการลงบีบีหรือรองพื้นนะคะ ชีไม่ทำให้ตกร่องรูขุมขน และไม่เป็นจุดแป้งหรือจุดรองพื้นอีกด้วย ปรับผิวหน้าของสาว ๆ ให้เนียนเรียบเอาอยู่แน่นอน นอกจากนี้ คุณเข้าก็ยังควบคุมความมันได้อย่างดีเยี่ยมมมม คุมกันยาว ๆ ตลอดวันกันไปเลย เพราะนางมีส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องลดการผลิตน้ำมันโดยเฉพาะ ทำให้ความมันบนผิวหน้าลดลง รวมถึงมีความอ่อนโยนสูง ไม่ทำให้อุดตันอีกด้วย ดังนั้นใครแพ้ง่าย สิวขึ้นบ่อย ต้องสอยนางไปใช้ด่วน ๆ ค่าา
| จุดเด่น | เน้นปกปิดรูขุมขน ช่วยอำพรางผิวให้เนียนกริบ ผิวฉ่ำสวยสไตล์เกาหลี ไม่ทำให้หน้าเป็นคราบหลังลงรองพื้น ลดการผลิตน้ำมัน ควบคุมความมัน |
| ส่วนประกอบ/สารบำรุงสำคัญ | ส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องลดการผลิตน้ำมันโดยเฉพาะ, มอยเจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้น |
| สารกันแดด | – |
| วิธีใช้ | ลงผลิตภัณฑ์ให้ทั่วทั้งหน้าก่อนแต่งหน้า |
| สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
2. ยี่ห้อ Wet n Wild Photo Focus Face Primer
ราคาโดยประมาณ 210 บาท ต่อ 25 ml
ใครกำลังหาไพรเมอร์ถูกและดี ปัง ๆ มาเป็นตัวช่วยคนสำคัญในการสร้างงานผิวแบบมงลงไปเลยอยู่บ้าง อย่ารอช้า ตำด่วน ๆ เลยค่ะ สำหรับคุณ Wet n Wild Photo Focus Face Primer ไพรเมอร์เนื้อเจลบางเบา ไม่ออกสี แต่ชีสามารถปรับผิวให้สว่างกระจ่างใสด้วย White Sapphire ทำผิวไบรท์ขึ้นได้แบบงง ๆ เริ่ดเอาเรื่องเลยนะ ส่วนคุณสมบัติชีตีคู่ของแพงมาเลยจ้าา ตั้งแต่ช่วยทำให้เมคอัพติดทนนานมากขึ้น ปกปิดรูขุมขนกว้างให้กลับมาเรียบเนียน ควบคุมความมั่นได้เป็นอย่างดี หน้าไม่มันระหว่างวัน ไม่อุดตัน ไม่ก่อให้เกิดสิวแน่นอน เพราะเขาเคลมมาเลยว่าปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิวนั้นเอง
ไม่พอแค่นี้เด้อ เพราะคุณเขาก็มีให้เลือก 2 สูตรด้วยกัน โดยสูตรแรกจะเป็น สูตร Matte จุดเด่นก็คือ ตอบโจทย์ในเรื่องการเติมร่องลึกให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ปรับผิวที่อิดโรยให้ดูมีชีวิตชีวา ผิวแมทท์สวย และทำให้เครื่องสำอางติดทนนานมากขึ้น แถมยังควบคุมความมันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ส่วนสูตรที่ 2 เป็นสูตร DEWY เน้นความฉ่ำมง เหมาะสำหรับสาวผิวแห้งมาก ๆ เพราะมีส่วนผสมของวิตามิน E มอบการบำรุงที่มากขึ้นก่อนแต่งหน้า อีกทั้งในตัวผลิตภัณฑ์ชีมีพิกเมนท์ชิมเมอร์ผสมผงมุก ทำให้ผิวที่เงาสวย เปล่งประกายเสมือนผิวดีมาตั้งแต่เกิดไปเลยแม่ ก็สาว ๆ ชอบสูตรไหนแบบไหน ก็จัดไปเลยค่าา
| จุดเด่น | มีให้เลือกด้วยกัน 2 สูตรคือ สูตร matte เติมร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ผิวแมทท์สวยมีชีวิตชีวา เครื่องสำอางติดทนนาน ควบคุมความมัน / สูตร DEWY เหมาะสำหรับสาวผิวแห้ง หรืออยากแต่งหน้าเป็นผิว เน้นความฉ่ำ ผิวชุ่มชื้น |
| ส่วนประกอบ/สารบำรุงสำคัญ | White Sapphire, วิตามิน E, ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิว |
| สารกันแดด | – |
| วิธีใช้ | ลงผลิตภัณฑ์ให้ทั่วทั้งหน้าก่อนแต่งหน้า |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
3. ยี่ห้อ Benefit the POREfessional primer
ราคาโดยประมาณ 200 / 420 / 850 บาท ต่อ 3 / 7.5 / 22 ml
ถึงราคาไซซ์จริงจะแพ๊งงงงงงงง แสนแพง แต่ก็ยังแนะนำให้ใช้อยู่นะ ซื้อเถอะค่ะ ไซซ์มินิ หรือไซซ์ Travel ก็ยังดี อยากให้ลองจริง ๆ สำหรับคุณ Benefit the POREfessional primer ชีคือไพรเมอร์ในตำนานที่ใครก็ฆ่าไม่ตาย แถมยังคงเป็นหนึ่งเดียวในใจของใครหลาย ๆ คนอีกด้วยค่ะ โดยทางแบรนด์ก็ได้ทำออกมาหลายสูตร แต่สูตรดั้งเดิมตัวเต็งจะเป็นหลอดเขียว ส่วนสีชมพูจะช่วยปรับผิวสว่าง และสีน้ำเงินเหมาะสำหรับคนผิวแห้งมาก ต้องการให้ผิวฉ่ำน้ำ โดยไพรเมอร์ยี่ห้อนี้ทำให้เครื่องสำอางติดทนนานมากกกกกค่ะ
ส่วนเนื้อผลิตภัณฑ์ก็เป็น Silicone ที่มีความเกลี่ยง่าย ปาดแล้วผลิตภัณฑ์จะลื่น ๆ กลืนไปกับผิว และยังช่วยปกปิดรูขุมขน กลบหลุมสิว ปรับผิวให้เรียบเนียนสุด ๆ ได้แบบชิลลลลลล เรียกได้ว่า ปกปิดความชั่วร้ายบนใบหน้าได้เป็นอย่างดีมาก ๆ และก็พร้อมลงรองพื้นต่อได้เลย เท่านั้นยังไม่พอนะจ๊ะ ไพรเมอร์ยี่ห้อนี้ยังช่วยควบคุมความมันได้ดีมากกกกก อีกทั้งมีความแมทท์นิด ๆ แต่สาวผิวแห้งยังสามารถใช้ได้ จะเน้นเอนไปทางลุคผิวสุขภาพดีมากกว่า ทำให้ไม่แปลกใจทำไมชีถึงครองใจสาว ๆ ได้ยาวนานขนาดนี้ อยากรู้ว่าไพรเมอร์ในตำนานเป็นอย่างไร ต้องลอง!
| จุดเด่น | ปกปิดรูขุมขน กลบหลุมสิว คุมมัน ปรับผิวให้เรียบเนียน ควบคุมความมันได้ดีมากให้ลุคแมทท์สวย ไม่แห้งแต่ดูสุขภาพดี |
| ส่วนประกอบ/สารบำรุงสำคัญ | ส่วนผสมของวิตามินอี ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ |
| สารกันแดด | – |
| วิธีใช้ | ลงผลิตภัณฑ์ให้ทั่วทั้งหน้าก่อนแต่งหน้า |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
4. ไพรเมอร์เกาหลี ยี่ห้อ SOLA C PRIMER SPF50 PA++
ราคาโดยประมาณ 390 บาท ต่อ 37 ml
ไหนใครเป็นสายขี้เกียจหรือต้องการความเร่งรีบบ้าง ไอความสวยมันก็อยากให้มีทุกวันนั้นแหละ แต่จะให้มานั่งปาด ๆ ทีละขั้นกินเวลาเป็นชั่วโมงก็คงไม่ไหว วันนี้ไม่ต้องห่วงแล้ว สวยได้แบบขวดเดียวจบ ลดให้คุณได้ถึง 3 ขั้นตอนการดูแลผิวไปเลยค่ะ สำหรับไพรเมอร์จาก SOLA C PRIMER SPF50 PA++ ไพรเมอร์ 3in1 รวมเอาครีมบำรุงผิว, ครีมกันแดด และไพรเมอร์ไว้ในหนึ่งเดียว ซึ่งคุณสมบัติเด่น ๆ ก็จะเน้นในเรื่องการเบลอรูขุมขน ที่ถึงแม้ว่าเนื้อครีมจะมีความเหลวกับบางเบามาก แต่ทาแล้วเนื้อครีมซึมเร็วแห้งไปกับผิวได้ดี และยังช่วยปกปิดรอยดำรอยแดงจากสิว และร่องรอยอื่น ๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วยค่ะ
เท่านั้นยังไม่พอ นางยังมีสีอ่อน ๆ ซึ่งจะช่วยในการปรับสีผิวให้สม่ำเสมออีกด้วย และสำหรับใครที่ผิวหน้าดีอยู่แล้ว ไม่ได้อยากลงอะไรเยอะแยะ ไพรเมอร์ตัวนี้ตัวเดียวเอาอยู่ ไม่ต้องทาแป้งทับ ไม่ต้องทารองพื้นเลยจ้า นอกจากนี้ ชียังมีส่วนผสมจากสาหร่ายทะเล 4 ชนิด ที่จะมาช่วยกันบำรุงให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย SPF 50 PA++ งานนี้บอกเลยว่าคุ้มมมมสุดอะไรสุดค่ะ
| จุดเด่น | รวมเอาครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด และไพรเมอร์ไว้ในขวดเดียว เบลอรูขุมขน เนื้อครีมเหลวบางเบามาก แต่ปกปิดรอยดำ รอยแดงจากสิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น |
| ส่วนประกอบ/สารบำรุงสำคัญ | ส่วนผสมจากสาหร่ายทะเล 4 ชนิด |
| สารกันแดด | SPF 50 PA++ |
| วิธีใช้ | ลงผลิตภัณฑ์ให้ทั่วทั้งหน้าก่อนแต่งหน้า |
| สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
5. ไพรเมอร์เกาหลี ยี่ห้อ Sola BB Primer SPF 50 PA++
ราคาโดยประมาณ 29 / 320 บาท ต่อ 7 / 37 ml
3 in 1 ว่าปังสุด ประหยัดเวลาสุดแล้ว เจอ 4 in 1 เข้าไปต้องเตรียมสอย ซึ่งต้องบอกตรง ๆ ว่า เราก็งง ๆ จนไม่รู้จะเรียกนางได้เต็มปากมั้ยว่าเป็นไพรเมอร์ เพราะทำได้หลายอย่างเหลือเกิน แต่อยากให้ลองได้เจอกับคุณเขาจริง ๆ ชีวิตตอนเช้าระหว่างแต่งหน้าง่ายยยยยขึ้นเยอะ สำหรับคุณ Sola BB Primer SPF 50 PA++ ผลิตภัณฑ์ที่รวมตั้งแต่ส่วนผสมของสารบำรุง, ครีมกันแดด, ไพรเมอร์เตรียมผิว และบีบีครีมเข้าด้วยกัน แค่เริ่มต้นได้เทสเนื้อก็ประทับใจแล้ว ตอนแรกเรานึกว่า เนื้อจะหนึบหนา มีความเข้มข้นมากกว่านี้ (เพราะนางบอกเลยว่า BB นางใช้กับบีบีแบบซองตัวดังใน 7-11) แต่ไม่เลยจ้าาาา ชีบางเบามาก เนื้อเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีคำว่า BB พ่วงมา แต่นางไม่ได้มีเฉดสีให้เลือกนะคะ ซึ่งสีภายในผลิตภัณฑ์จะเป็นสีเนื้อนวล ๆ ที่สามารถใช้ได้กับทุกสีผิว ช่วยปรับผิวให้ดูเรียบเนียน เน้นทำให้สว่างใสดูเป็นธรรมชาติสุด ๆ มากกว่า และแน่นอนว่า มาพร้อมการปกปิดรูขุมขนกับควบคุมความมันได้ดี ผิวสวยเด้งไม่มีหมองแน่นอน เท่านั้นยังไม่พอ ยังสวยสู้แดดกันแบบไม่กลัวใครด้วย SPF 50 PA++ กันด้วย อีกทั้งผลิตภัณฑ์ก็ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เพราะฉะนั้นใครผิวแพ้ง่าย บอบบางมากเป็นพิเศษ ก็ใช้ได้ ไม่ต้องเป็นกังวลแน่นอนค่าาา
| จุดเด่น | รวมเอาสารบำรุง ครีมกันแดด ไพรเมอร์ และบีบีไว้ในขวดเดียว ใช้ง่ายเนื้อบางเบาประหยัดเวลา ปรับผิวสว่างอย่างเป็นธรรมชาติ ปกปิดรูขุมขน ควบคุมความมัน ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ ไม่อุดตัน ปลอดภัย |
| ส่วนประกอบ/สารบำรุงสำคัญ | ไม่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้ผิวระคายเคือง |
| สารกันแดด | SPF 50 PA++ |
| วิธีใช้ | ลงผลิตภัณฑ์ให้ทั่วทั้งหน้าก่อนแต่งหน้า |
| สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
6. ยี่ห้อ Gina Glam Princess Ultra Face Base Primer
ราคาโดยประมาณ 115 บาท ต่อ 30 g
ใครกำลังมองหา ม้ามืดแห่งการอุดหลุม อุดรู อุดทุกสิ่งอย่างบนใบหน้าให้หายไปกันบ้าง?? ต้องแนะนำคุณคนนี้เลย Gina Glam Princess Ultra Face Base Primer ไพรเมอร์สายอุดที่เก็บรูขุมขนเรียบจนเนียนกริบ ถูกใจสาว ๆ ที่อยากแต่งหน้าปุ๊บผิวดีปั๊ป ไม่ต้องเสียเวลากลบรู กลบหลุม หรือเครียดกับอาการรองพื้นเป็นจุด เป็นดวงตามจมูก หน้าแก้ม หรือโซนที่รูขุมขนกว้างหนัก ๆ กันเลย แถมชียังมีคุณสมบัติช่วยควบคุมความมันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และด้วยความที่เนื้อผลิตภัณฑ์นางเป็นซิลิโคนจึงทำให้เพิ่มความติดทนให้กับเครื่องสำอางเข้าไปอีก ใครอยากได้ความมั่นใจ อยากให้เมคอัพสวยติดทนแบบนี้ไปตลอดวัน แนะนำเลยค่ะ
เนื่องจากชีเป็นซิลิโคนเนื้อใส ทำให้สามารถใช้ได้ทุกเฉดสีผิว ไม่มีปัญหาหน้าวอก หน้าลอยใดใดอย่างแน่นอน และเวลาลงบนผิวก่อนแต่งหน้าก็ค่อนข้างง่ายมาก เพราะเนื้อจะลื่น ๆ เนียน สบายไปกับผิว ทำให้การลงรองพื้นในขั้นตอนต่อ ๆ ไปก็เกลี่ยง่ายขึ้นด้วย และผิวเอง ก็ยังเนียนสวยมากขึ้นจากการที่ไพรเมอร์เข้าไปช่วยอุดร่องรอยกวนใจต่าง ๆ แต่บอกก่อนเด้อออว่า มีสิ่งเดียวที่ชีขอไม่อุด ไม่ยุ่งด้วยเด็ดขาดคือ เรื่องอุดตันค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นเนื้อซิลิโคน แต่นางไม่อุดตันนะจ๊ะ แถมใครผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ใช้ได้ สบายใจได้ ราคาก็ค่อนข้างย่อมเยามาก ๆ ด้วย ถ้าไม่รู้จะซื้อไพรเมอร์ยี่ห้อไหนดี ลองคุณ Gina Glam สิคะ
| จุดเด่น | กลบรูขุมขน หลุมสิว ร่องลึกให้ตื้นขึ้น ควบคุมความมัน ใช้ได้ทุกเฉดสีผิว ไม่มีปัญหาหน้าวอก |
| ส่วนประกอบ/สารบำรุงสำคัญ | มอยเจอร์ไรเซอร์ |
| สารกันแดด | – |
| วิธีใช้ | ลงผลิตภัณฑ์ให้ทั่วทั้งหน้าก่อนแต่งหน้า |
| สัญชาติ | ไทย |
7. ไพรเมอร์เกาหลี ยี่ห้อ Espoir Dewy Face Glow
ราคาโดยประมาณ 223 บาท ต่อ 10 ml
อยากผิวฉ่ำวาว เงาสไตล์ Dewy แบบไม่มีความมันทั้งที่ใช้ชีวิตอยู่ใน Thailand แดนเมืองร้อนอยู่สินะ ดิฉันขอแนะนำว่า ทำได้แค่ต้องมีตัวช่วยอย่างคุณ Espoir Dewy Face Glow ไพรเมอร์สายเกาหลี ตัวดังตัวเด็ดจน Blogger หลาย ๆ คนต้องรีวิวคุณ Espoir กันแบบตรึม ๆ ค่าา แต่งานนี้ขอเน้นสายอยากเตรียมผิวให้สวยปังอย่างเป็นธรรมชาติเท่านั้นนะ เพราะเรื่องสายกลบร่องรอยอาจจะไม่ได้เด่นมากเท่าไร อีกทั้งเทคนิคในการใช้งานก็ค่อนข้างแตกต่างจากไพรเมอร์อื่น ๆ อีกด้วย
โดยทางแบรนด์ได้แนะนำว่า ให้ลงผลิตภัณฑ์ Primer ก่อน 1 ครั้ง จากนั้นให้นำไปผสมกับรองพื้นที่สาว ๆ จะใช้เลยแบบอัตรา 1:1 และหลังจากแต่งหน้ากับลงแป้งเรียบร้อยดีแล้ว ก็ให้ใช้คุณคนนี้ลงบนผิวตามจุดกระทบแสง เช่น โหนกแก้ม ปลายจมูก เพื่อกลบ ๆ ให้ผิวดูมีสุขภาพดีมากที่สุดค่าา
มาถึงตัวผลิตภัณฑ์กันบ้าง ชีเป็นเบสเนื้อน้ำ เกลี่ยง่าย ผสมเข้ากับคนอื่น ๆ ได้ง่ายมาก และมีสีชมพูไปจนเกือบขาวเลยจ้าาา แต่นางไม่ทำให้หน้าวอก หรือปรับเฉดให้ผลิตภัณฑ์ที่นำมาผสมแต่อย่างใดเด้ออ และที่เลิฟมากรักมากก็คือ ความเงาวาวของคุณเขาค่ะ โดยเฉพาะชิมเมอร์ที่ใส่มามีความละเอียดมากกกกกตาแตกไปเลย เวลาลงไปกับผิวเลยกลายเป็นให้ความรู้สึกฉ่ำเบลอ ซึ่งจุดนี้สามารถช่วยเบลอรูขุมขน เบลอรอยดำ รอยดำต่าง ๆ ได้พอสมควรเลยละ และนางยังมีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid ที่จะช่วยเรื่องความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าอีกด้วยนะ บอกเลยใครที่ไม่เคยใช้ พลาดมากกจ้าาา
| จุดเด่น | ไพรเมอร์เนื้อน้ำ เกลี่ยง่าย เพิ่มความเงาวาวกระจายแสงให้ผิว ปรับผิวให้ดูเงาฉ่ำสุขภาพดี ช่วยเบลอรูขุมขน เบลอรอยดำ รอยดำต่าง ๆ ได้ |
| ส่วนประกอบ/สารบำรุงสำคัญ | Hyaluronic Acid |
| สารกันแดด | – |
| วิธีใช้ | ลงทั่วใบหน้าก่อนแต่งหน้า / ใช้ผสมกับรองพื้น / เกลี่ยลงผิวหลังแต่งหน้าตามจุดที่กระทบแสง |
| สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
8. ไพรเมอร์เกาหลี ยี่ห้อ Mille Primer
ราคาโดยประมาณ 37 / 339 บาท ต่อ 6 / 30 g
ขึ้นชื่อว่าเป็นงานเตรียมผิว งาน Skin ถูกและดี แบรนด์นี้ไม่มีพลาดอยู่แล้วค่ะ ขอส่งไพรเมอร์ตัวดังอย่างคุณ Mille Primer ที่เน้นสีผิวให้สม่ำเสมอ เตรียมผิวให้สวยฉ่ำเพื่อพร้อมไปสู่ขั้นตอนการแต่งหน้าต่อ ๆ ไป ซึ่งทาง Mille เอง ก็มี 2 สูตร มาให้เลือกตามสไตล์ที่ต้องการด้วยนะคะ โดยจะแบ่งเป็น Mille Brightening Aura Collagen สีม่วงอ่อน คุณชีจะเป็นผลิตภัทฑ์ที่เน้นปรับผิวให้สว่างกระจ่างใสขึ้น เปลี่ยนผิวให้ดูเปล่งประกาย ออร่าจัดเต็ม แถมยังมีคุณสมบัติช่วยเติมสารบำรุง เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าแบบจุก ๆ และจุดเด่นสำคัญก็คือ สารสกัดจากไข่มุก ที่มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อผิวถึง 20 ชนิดเลยค่ะ
ส่วนสูตรที่ 2 Mille Snail Bright Primer หลอดสีส้มตัวขายดี เพราะเป็นไพรเมอร์ที่เน้นไปที่การอำพรางความชั่วร้ายต่าง ๆ อาจจะไม่ได้กระจ่างใสแบบตัวแรก แต่เรื่องความไบรท์ช่วยกระจายแสงให้ผิวได้ตลอดวันชีไม่ทิ้งกัน และยังทำให้เครื่องสำอางติดทน ไม่หมอง ไม่ดร็อประหว่างวันอีกด้วย ที่สำคัญมีส่วนผสมของสารบำรุงมากมายโดยเฉพาะสารสกัดจากเมือกหอยทาก กุหลาบ และจมูกข้าว ช่วยดูแลผิวให้ชุ่มชื้น อ่อนเยาว์ ไม่เหนียว ไม่มัน ไม่เมือกแน่นอน ไม่พอยังมี SPF 15 และ PA+ ช่วยป้องกันแสงแดดด้วยเน้ออ ก็ถ้าไม่รู้จะซื้อสูตรไหนดี สงสัยต้องจัดกันทั้ง 2 สูตรมาลองใช้ดูแล้วล่ะค่ะสาว ๆ
| จุดเด่น | มีให้เลือก 2 สูตร สำหรับคนชอบผิวโกลว์สวย ผิวชุ่มชื้นเปล่งประกาย และสำหรับปรับผิวให้ไบรท์ เบลอรูขุมขน เครื่องสำอางติดทน ไม่ดร็อปไม่หมองระหว่างวัน |
| ส่วนประกอบ/สารบำรุงสำคัญ | สารสกัดจากไข่มุก แร่ธาตุ 20 ชนิด / สารสกัดจากเมือกหอยทาก กุหลาบ และจมูกข้าว |
| สารกันแดด | สีส้มมี SPF 15 PA+ |
| วิธีใช้ | ลงผลิตภัณฑ์ให้ทั่วทั้งหน้าก่อนแต่งหน้า |
| สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
9. ยี่ห้อ Sivanna Makeup Base Sense of Water Condensation Primer Foundation
ราคาโดยประมาณ 80 บาท ต่อ 30 ml
ใครอยากผิวดี แต่เวลาจะแต่งหน้ามันน้อยนิดเสียเหลือเกิน พาตัวช่วยมาอีกหนึ่งแล้วจ้าาาา สำหรับคุณ Sivanna Makeup Base Sense of Water Condensation Primer Foundation “ไพรเมอร์ผสมรองพื้น” ภายในขวดเดียว ย่นระยะเวลาในการแต่งหน้าได้แบบจุก ๆ ทาปุ๊บเนียบปั๊ปไปต้องเสียเวลา ทำหน้าที่ทั้งรองพื้นและ Base ได้อย่างดีเยี่ยม ตั้งแต่ช่วยปรับสีผิวให้ดูสวยสม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติ กลบรูขุมขน รอยแดง รอยดำ รอยสิวได้อยู่หมัด อีกทั้งยังทำให้การแต่งหน้าเพิ่มเติมในขั้นตอนต่อ ๆ ไปง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ
และด้วยความที่ชีเป็นไพรเมอร์ผสมรองพื้นจึงต้องมีสีรองพื้นให้เลือกนิดนึงเนาะ โดยมี 2 สีด้วยกัน ซึ่งเราว่าเพียงพอที่จะใช้ได้ทุกสีผิวเลยนะ เพราะหลังจากที่ลองเนื้อผลิตภัณฑ์ของจริงคุณเธอดูแล้ว เขาไม่ได้ออกสีรุนแรงแบบ Foundation ขนาดนั้น แต่จะเน้นทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น ดีมากขึ้นกว่าการลงเพียงแค่ไพรเมอร์เพียว ๆ ก็เท่านั้นเองค่ะ ส่วนเนื้อครีมก็มีความเป็นซิลิโคนนิด ๆ ที่เกลี่ยง่าย บางเบา ไม่เป็นคราบ และสำหรับใครที่อยากเพิ่มความแน่น ผิวเป๊ะเพิ่มเติม จะลงรองพื้นจริง ๆ เพิ่มไปอีกตัวก็ไม่มีปัญหา แต่สำหรับใครที่อยากได้ลุคเบา ๆ ใส ๆ เป็นธรรมชาติ บวกกับผิวหน้าไม่มีปัญหาอะไรเยอะ แค่คุณ Sivanna ตัวนี้ตัวเดียวก็เอาอยู่แล้วค่าา
| จุดเด่น | เป็นไพรเมอร์ผสมรองพื้นภายในขวดเดียว ปรับสีผิวให้ดูสวยสม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติ กลบรูขุมขน รอยแดง รอยดำ รอยสิว |
| ส่วนประกอบ/สารบำรุงสำคัญ | มอยเจอร์ไรเซอร์ |
| สารกันแดด | – |
| วิธีใช้ | ลงผลิตภัณฑ์ให้ทั่วทั้งใบหน้าได้เลย |
| สัญชาติ | ไทย |
10. ไพรเมอร์เกาหลี ยี่ห้อ innisfree primer
ราคาโดยประมาณ 285 – 309 บาท ต่อ 25 ml
ตบท้ายกันด้วยไพรเมอร์ตัวปัง ฮิตระเบิดจนในช้อปหมด แม่ค้าเปิดพรีออเดอร์กันแทบไม่ทัน สำหรับไพรเมอร์งานดี ราคาน่ารักจากคุณ innisfree ด้วยความรักพี่เสียดายน้อง ตัวใหม่ชีก็ดีแต่ก็ยังเลิฟตัวเก่าทิ้งไม่ได้ เราเลยจะขอแนะนำทั้ง 2 ตัวเลยแล้วกันค่ะ เริ่มจากตัวแรก Innisfree No Sebum Blur Primer ชีถือเป็นตำนานที่เข้ามาตีไพรเมอร์ราคาหลักพันได้เลย และมีเหตุการณ์โว้ยวายหาซื้อไม่ได้กันอยู่พักนึงเลยนะ โดยคุณสมบัติเด่นของเขา ก็จะเป็นเรื่องการควบคุมความมัน ปกปิดรูขุมขนได้แบบเนียนกริบ พร้อมกับผิวที่ดูเบลอสวย เหมือนมีผิวใหม่ ลงรองพื้นสวยต่อ ติดทน สวยฉ่ำมงไปได้ทั้งวันเลยค่ะ
ส่วนตัวที่สองจะเป็น Innisfree Pore Blur Primer คุณสมบัติชีก็ไม่ได้แตกต่างจากตัวพี่ No Sebum มากนักหรอกค่ะ เรื่องควบคุมความมัน ปกปิดรูขุมขนก็ยังทำได้ดี เนื้อครีมก็เกลี่ยง่าย ทำให้การแต่งหน้าง่ายขึ้นเยอะ แต่งที่เห็นความแตกต่างชัด ๆ จะเป็นเรื่องของสีผลิตภัณฑ์ค่ะ คุณ Pore Blur ตัวนี้จะมีสีออกนวลไปทางขาวนิด ๆ ทำให้เวลาทาจะเพิ่มความไบรท์ ปรับผิวให้ดูกระจ่างใสมากขึ้น ส่วนคุณ No Sebum จะเป็นเนื้อสีครีม เน้นปรับสีผิวให้เสมอกันมากกว่า ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนแล้วน้าาาา ลองเลือกกันดูจ้า
| จุดเด่น | ควบคุมความมัน ปรับสมดุลผิว ปกปิดรูขุมขน ริ้วรอยเล็กน้อยได้อย่างดีเยี่ยม เตรียมผิวให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น เครื่องสำอางติดทน ผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่าย |
| ส่วนประกอบ/สารบำรุงสำคัญ | สารสกัดจากพืชเชจู, แร่ธาตุธรรมชาติผนวกกับมินต์จากเกาะเชจู |
| สารกันแดด | – |
| วิธีใช้ | ลงผลิตภัณฑ์ให้ทั่วทั้งหน้าก่อนแต่งหน้า |
| สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
ก็จบไปแล้วกับรีวิว “ไพรเมอร์” (Primer) ยี่ห้อไหนดี ที่ถูกและดี ถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน สาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่ได้หลงเข้ามาอ่าน สนใจอยากจะซื้อยี่ห้อไหน ตัวไหน สูตรไหน ไปใช้งานกันบ้างคะ?? ก็จากที่ได้เห็น ๆ มา จะเห็นว่า เป็นไพรเมอร์ที่มีราคาค่อนข้างถูก ก็ทำให้คุณภาพและประสิทธิภาพอาจจะสู้พวกไพรเมอร์แบรนด์ Top ๆ ตามเคาร์เตอร์ห้างไม่ได้ แต่ก็ยังถือว่าใช้ได้ดีในราคาที่สบายกระเป๋ากว่ามาก ๆ ก็ลองฝึกใช้จากยี่ห้อที่นำมารีวิวไปก่อนเนาะ พอเก่ง ๆ หรือมีเงินเหลือ ๆ แล้ว ค่อยไปซื้อพวกแบรนด์แพง ๆ ก็ได้ค่ะ สุดท้ายก็ขอให้ได้ไพรเมอร์ที่ถูกใจ ใช้แล้วตอบโจทย์กันด้วยจ้าา
Beauty Blogger ที่จะมารีวิวเครื่องสำอางแบบติดตลก ด้วยความชื่นชอบในการเขียนและแต่งหน้า ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันสินค้าตัวที่คิดว่าใช้แล้วดี แต่งแล้วสวย ไม่ทำลายผิว บางอันก็เลือกจากยอดขาย แบรนด์ไหนจัดโปรลดสุดปังก็จะได้รับเลือกอยู่บ่อย ๆ บางอันก็เลือกจากคุณภาพที่ได้ลองใช้แล้วดี มีคนเค้าบอกต่อ การันตีกันขนาดนี้ก็ต้องเอามาเล่าผ่านรีวิวกันหน่อยให้ผู้อ่านได้ไปลองใช้ดูบ้าง