กำลังอยากจะซื้ออาหารเสริม “ไลโคปีน” (Lycopene) ยี่ห้อไหนดี กันอยู่สินะ ถึงได้กดเข้ามาอ่านที่บทความนี้ ก็ถือว่ามาได้ถูกที่ ถูกจังหวะ ถูกบทความแล้วล่ะค่ะ เพราะที่นี่ จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับไลโคปีนที่สำคัญและน่ารู้ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะ ไลโคปีน คืออะไร? ไลโคปีนช่วยอะไรบ้าง? แล้วจะเลือกซื้ออย่างไรดี? รวมถึงมีรีวิวให้ดูกัน 7 ยี่ห้อด้วย ซึ่งแต่ละยี่ห้อเนี่ย คัดมาให้แล้ว ดี ๆ เด็ด ๆ น่าสนใจกันทั้งนั้น และขอบอกเลยว่า ถ้าอ่านกันจนจบละก็ ได้มีการเสียเงินสั่งซื้อกันแน่ ๆ เลยล่ะ ก็ไม่ต้องพูดมากเสียเวลาละเนาะ ไปดูเนื้อหากันเลยค่า
สารบัญ
มาทำความรู้จักกับ “ไลโคปีน” กันสักนิด
ไลโคปีน (Lycopene) คือ สารอาหารที่เป็นแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่ง ซึ่งจะเป็นเม็ดสีที่ทำให้ผักและผลไม้มีสีออกแดงหรือชมพู เช่น สีของมะเขือเทศ, แตงโม หรือเกรปฟรุตสีชมพู เป็นต้น โดยสีที่ได้เหล่านี้ จะเป็นสีที่มีลักษณะเฉพาะ ไม่สามารถหาได้จากผักและผลไม้ทั่ว ๆ ไป และเจ้าเม็ดสีนี้แหละ ที่จะมาช่วยบำรุงร่างกายให้มีสุขภาพที่ดี เพราะมีคุณสมบัติของการเป็น Anti-Oxidant ที่มีประสิทธิภาพมาก ๆ ค่ะ
ประโยชน์ของไลโคปีน
ด้วยความที่มีคุณสมบัติของการเป็น Anti-Oxidant จึงช่วยปกป้องเซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกายจากสารอนุมูลอิสระตัวร้ายได้ดีเอามาก ๆ จึงมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่างเลยทีเดียว ไม่ว่าจะ ช่วยลดโอกาสของการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก โดยได้มีงานวิจัยค้นพบว่า คุณผู้ชายที่ทานไลโคปีนเสริมเพิ่มเติมสามารถช่วยลดโอกาสของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังช่วยบำรุงหัวใจโดยการลดไขมันตัวร้ายกับเพิ่มไขมันตัวดี อีกทั้งยังช่วยบำรุงสายตา, ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ที่สมอง และยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกอีกด้วย
แต่เหมือนประโยชน์ที่สำคัญมากที่สุด ที่ทำให้สาว ๆ และหนุ่ม ๆ บางคนทานกันเป็นส่วนมากนั้นก็คือ “การช่วยบำรุงผิวพรรณ หรือเรื่องความงาม” นั่นเอง เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ไลโคปีนสามารถช่วยปกป้องเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายจากสารอนุมูลอิสระได้ จึงช่วยปกป้องเซลล์ผิวหนังไม่ให้ถูกทำร้าย จนผิวเสื่อมสภาพหรือเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
และที่สำคัญถึงแม้ไลโคปีนจะมีคุณสมบัติของ Anti-Oxidant เหมือนกับสารอาหารอื่น ๆ แต่ไลโคปีนจะพิเศษกว่าใครตรงที่ “สามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้” โดยมีงานวิจัย ได้ให้คนกลุ่มหนึ่งทานไลโคปีน 16 mg เป็นเวลา 2 สัปดาห์ กับคนอีกกลุ่มไม่ได้ทาน เมื่อทั้งสองกลุ่มไปเผชิญกับแสงแดดแล้ว ค้นพบว่า กลุ่มแรกที่ได้ทานไลโคปีน ผิวหนังมีสภาพความเสียหายจากแสงแดดที่น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ทานอย่างเห็นได้ชัด เหมือนที่สาว ๆ หลาย ๆ คนต่างบอกกันว่า ทานไลโคปีนแล้วผิวใสขึ้น เพราะผิวแข็งแรง สู้แสงแดดได้ดีขึ้นนั้นเอง แต่ ๆๆๆ ประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากแสงแดด ก็ยังสู้ครีมกันแดดไม่ได้นะคะ ยังไงก็ควรที่จะทาครีมกันแดดอยู่เสมอ ส่วนไลโคปีนเหมือนเป็นตัวเสริมช่วยให้ผิวสู้กับแสงแดดได้ดีขึ้นค่ะ
จะเลือกซื้อ อาหารเสริมไลโคปีน อย่างไรดีนะ?
หลัก ๆ เลย ให้ดูที่ “ความเข้มข้นของ Lycopene ต่อเม็ด” กับ “ความคุ้มค่า” เพราะบางยี่ห้อให้ความเข้มข้นมาน้อยมากกก แต่ราคาอย่างแพงงง ถ้าซื้อยี่ห้อนี้เหล่านี้ ก็อาจจะดูไม่คุ้มเงินในกระเป๋าเท่าไรนัก (อาหารเสริมไลโคปีนเป็นอาหารเสริมที่มีราคาค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับพวกวิตามิน C หรือวิตามินอื่น ๆ ค่ะ) และอีกส่วนที่ควรต้องดูคือ “สารอาหารเพิ่มเติม” เพราะบางยี่ห้อ นอกจากจะให้ไลโคปีนแล้ว ยังมีสารอาหารอื่น ๆ มาเสริมเพิ่ม หรือใช้น้ำมันพืชที่มีคุณภาพที่ดีกว่า ก็จะช่วยบำรุงร่างกายได้ดีกว่านั่นเอง แต่สารอาหารเพิ่มเติม อาจจะไม่ต้องสนใจมากนัก ไปเน้นเรื่องความเข้มข้นจะดีที่สุด แต่ถ้ายังไม่รู้จะซื้อยี่ห้อไหนดีละก็ อ่านรีวิวด้านล่างเลยค่ะ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว อาหารเสริมไลโคปีน ยี่ห้อไหนดี
ก็เผื่อใครที่อยากจะเห็นสินค้าของแต่ละยี่ห้อ มาวางเรียงเปรียบเทียบกันให้เห็นแบบจะจะ ไปเลยว่า แต่ละยี่ห้อมีความเข้มข้นของไลโคปีนเท่าไร? มีสารอาหารหรือส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มเติมไหม? รวมถึงราคาประมาณไหนแบบง่าย ๆ ละก็ แนะนำให้กดเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบที่ปุ่มด้านล่างได้เลยค่ะ
1. ยี่ห้อ Puritan’s Pride
ราคาโดยประมาณ 439 บาท ต่อ 60 เม็ด
ถ้ากำลังมองหาอาหารเสริมไลโคปีนที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากที่สุด และมียอดขายที่สูงในระดับ 1,500 +++ ด้วยแล้วละก็ ต้องขอแนะนำยี่ห้อ Puritan’s Pride จากสหรัฐอเมริกากันเลยค่ะ โดยทางแบรนด์ เขาก็จะมีความเข้มข้นของ Lycopene ต่อ 1 เม็ด ขายกันที่หลายความเข้มข้น ซึ่งมีตั้งแต่ 10 mg, 20 mg ไปจนถึง 40 mg เลยก็มี และแน่นอนว่า ตัวที่ได้ขายดีมากที่สุดก็คือ 40 mg เพราะช่วยบำรุงได้ดีที่สุด แต่ก็มีราคาที่แพงกว่าพวกความเข้มข้นน้อย ๆ ด้วยเช่นกัน โดยจะตกเม็ดละประมาณ 7.3 บาท ก็แอบแพงนิดหนึ่ง แต่ก็ยังพอรับได้ ยังไงถ้าไม่รู้จะซื้ออาหารเสริมไลโคปีนยี่ห้อไหนดี ลองเริ่มจาก Puritan’s Pride ดูสิคะ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Lycopene ต่อเม็ด | 10 / 20 / 40 mg |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันข้าวโพด / น้ำมันถั่วเหลือง |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
2. ยี่ห้อ Healthy Origins
ราคาโดยประมาณ 590 / 1,190 บาท ต่อ 60 / 180 เม็ด
Healthy Origins เป็นยี่ห้ออาหารเสริมไลโคปีนที่มีการพูดถึงกันเยอะมากในเว็บ Pantip และมีสมาชิกหลาย ๆ ท่าน ต่างก็แนะนำให้ทานกันด้วยนะคะ โดยถ้าดูจากตารางข้อมูลด้านล่าง จะเห็นว่า ให้ Lycopene ต่อเม็ด ที่ 15 mg ก็มีความเข้มข้นอยู่ในช่วงกลาง ๆ ไม่ได้น้อยสุดหรือมากสุด แต่ที่น่าสนใจก็คือ มี Lyc-O-Mato ซึ่งเป็นสารอาหารสูตรเฉพาะของแบรนด์ที่เป็นการรวมกันของสารอาหารหลายชนิด ไม่ว่าจะ Lycopene, Phytoene, Phytofluene, Beta-Carotene, Tocopherols, และ Phytosterols ซึ่งเป็นกลุ่มของสารอาหารที่มีคุณสมบัติของการเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงยังช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้ดีด้วย
อีกทั้งยังมีการเสริมวิตามิน A กับ E เพิ่มเติมเข้ามา รวมถึงยังได้ใช้น้ำมันมะกอกกับน้ำมันดอกทานตะวันเป็นส่วนผสมด้วย ก็พูดง่าย ๆ ว่า ถ้านับเรื่องคุณภาพของอาหารเสริมไลโคปีน ยี่ห้อนี้ จะค่อนข้างดีมากที่สุด และยังดีกว่า Puritan’s Pride ตัวด้านบนด้วย แต่ด้วยคุณภาพที่ดีงาม ก็แลกมากับราคาที่ค่อนข้างแพง โดยถ้าไซส์เล็ก 60 เม็ด จะตกเม็ดละประมาณเกือบ 10 บาท ส่วนไซส์ใหญ่ 180 เม็ด จะตกเม็ดละประมาณ 6.6 บาท ก็ถ้าแน่ใจว่าจะซื้อทานนาน ๆ แล้วละก็ จัดไซส์ใหญ่ไปเลยค่ะ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Lycopene ต่อเม็ด | 15 mg |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | Lyc-O-Mato 100 mg / วิตามิน A 55.5 mcg / วิตามิน E 1.6 mg / น้ำมันมะกอก / น้ำมันดอกทานตะวัน |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 2 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร เช้า 1 เย็น 1 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
3. ยี่ห้อ DHC
ราคาโดยประมาณ 719 บาท ต่อ 30 เม็ด
ถ้าพูดถึงยี่ห้ออาหารเสริมที่มีชื่อเสียงในบ้านเรา ยี่ห้อ DHC จากญี่ปุ่นน่าจะเป็นอีกยี่ห้อที่คนไทยน่าจะนึกถึงกันนะคะ และสำหรับอาหารเสริมไลโคปีน ทางแบรนด์เขาก็มีขายเช่นกันค่ะ โดยถ้าพูดถึงเรื่องความเข้มข้น จะมีเพียงแค่เม็ดละ 8.1 mg เท่านั้น ก็ค่อนข้างน้อยกว่ายี่ห้ออื่น ๆ แต่ก็มีการเสริมวิตามิน E มา 12 mg เพิ่มเติม อีกทั้งได้ใช้น้ำมันมะกอกคุณภาพดีเป็นส่วนผสมด้วย แต่ถ้าพูดเรื่องราคาแล้วละก็ จะถือว่าแพงมากเลยค่ะ เพราะที่แพ็กเกจ 30 เม็ด จะมีราคาประมาณ 719 บาท ทำให้จะตกเม็ดละประมาณ 24 บาท !!!!! เลยทีเดียว เราขอแนะนำว่า ซื้อยี่ห้ออื่นทานเถอะ หรือไม่งั้นต้องรอช่วงโปรจัดแรง ๆ แล้วค่อยซื้อค่ะ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Lycopene ต่อเม็ด | 8.1 mg |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | วิตามิน E 12 mg / น้ำมันมะกอก |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
4. ยี่ห้อ Asahi Dear Natura
ราคาโดยประมาณ 520 บาท ต่อ 120 เม็ด
Asahi Dear Natura เป็นยี่ห้ออาหารเสริมจากประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกันกับ DHC ที่คนไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไรนัก แต่ก็เริ่มได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ ในบ้านเรา โดยถ้าดูจากข้อมูลจากตารางด้านล่าง จะเห็นว่า มีความเข้มข้นของ Lycopene เพียงแค่ 0.5 mg ต่อเม็ดเท่านั้น ถือว่าน้อยมากกก ไม่น่าจะนำมารีวิวให้ดูกันเลยใช่ไหมล่ะคะ
แต่เขาก็มีความพิเศษตรงที่มี Saw palmetto Fruit Extract หรือสารสกัดจากผลปาล์มเลื่อย ซึ่งมีสรรพคุณที่น่าสนใจสำหรับคุณผู้ชายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การช่วยป้องกันผมหลุดร่วง, ช่วยบำรุงต่อมลูกหมากให้มีสุขภาพดี, ปรับสมดุลระดับฮอร์โมน และยังช่วยให้การขับปัสสาวะทำได้ดีขึ้นด้วย ก็ดู ๆ แล้วเป็นยี่ห้อที่น่าจะเหมาะกับคุณผู้ชายมากกว่าคุณผู้หญิงค่ะ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Lycopene ต่อเม็ด | 0.5 mg |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | Saw palmetto Fruit Extract 320 mg |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 2 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร เช้า 1 เย็น 1 หรือพร้อมกันก็ได้ |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
5. ยี่ห้อ 21st Century
ราคาโดยประมาณ 309 บาท ต่อ 60 เม็ด
อีกหนึ่งยี่ห้อไลโคปีนที่น่าสนใจ และอยากให้ลองซื้อไปทานกัน ต้องยกให้กับ ยี่ห้อ 21st Century จากสหรัฐอเมริกากันเลยค่ะ ที่เราอยากให้ลองซื้อไปทานกัน ก็เป็นเพราะว่า มีความเข้มข้นของ Lycopene ที่ค่อนข้างสูงถึงเม็ดละ 25 mg ซึ่งอาจจะสูงสู้ Puritan’s Pride รุ่น 40 mg ไม่ได้ แต่ก็มีราคาที่ถูกกว่า โดยจะตกเม็ดละประมาณ 5.1 บาท อีกทั้งยังมีสารอาหารอย่าง Calcium เพิ่มเสริมมาให้อีก 170 mg ด้วย จึงช่วยบำรุงร่างกายและบำรุงกระดูกได้ดีกว่าพวกยี่ห้อที่มีแต่ไลโคปีนแบบเพียว ๆ ค่ะ
ประเภท | เม็ด |
ความเข้มข้น Lycopene ต่อเม็ด | 25 mg |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | Calcium 170 mg / น้ำมันข้าวโพด |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
6. ยี่ห้อ Swanson
ราคาโดยประมาณ 389 บาท ต่อ 60 เม็ด
Swanson กระปุกสีเขียวเข้ม เป็นอีกยี่ห้ออาหารเสริมจากสหรัฐอเมริกา ที่ถ้าได้สังเกตข้อมูลจากตารางด้านล่าง จะเห็นว่า เป็นยี่ห้อที่มีรายละเอียดเหมือน ๆ กับยี่ห้อ Puritan’s Pride ตัวด้านบนเลย ไม่ว่าจะ มีน้ำมันข้าวโพดกับน้ำมันถั่วเหลืองเป็นส่วนผสมเช่นกัน และไม่มีสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย ส่วนความเข้มข้นก็อยู่ที่เม็ดละ 20 mg ซึ่งอยู่กลาง ๆ ไม่ได้เข้มข้นมากสุดและน้อยสุด แต่ถ้าเทียบกับยี่ห้อ 21st Century แล้วอาจจะไม่น่าสนใจเท่า เพราะมีราคาที่แอบแพงกว่านิดหนึ่ง (ตกเม็ดละประมาณ 6.5 บาท) ก็รอช่วงโปรโมชั่นละค่อยซื้อยี่ห้อนี้ก็ได้ค่ะ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Lycopene ต่อเม็ด | 20 mg |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันข้าวโพด / น้ำมันถั่วเหลือง |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
7. ยี่ห้อ Jarrow Formulas
ราคาโดยประมาณ 600 บาท ต่อ 60 เม็ด
ยังคงหนีไม่พ้นจากยี่ห้อสหรัฐอเมริกาอย่าง Jarrow Formulas (อีกแล้ว! สมกับเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารเสริมจริง ๆ ค่ะ) แต่สำหรับยี่ห้อนี้ ดูจะน่าสนใจน้อยที่สุด เพราะมีราคาค่อนข้างแพงที่เม็ดละประมาณ 10 บาท และยังมีความเข้มข้นของ Lycopene ต่อเม็ดเพียงแค่ 10 mg เท่านั้น สารอาหารอื่น ๆ ก็ไม่มี ส่วนน้ำมันพืชก็ใช้เป็นน้ำมันถั่วเหลืองที่คุณภาพจะสู้พวกน้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวันไม่ได้ แนะนำว่า ไปซื้อพวก Puritan’s Pride, Healthy Origins หรือ 21st Century จะดีกว่าค่ะ
ประเภท | เม็ด |
ความเข้มข้น Lycopene ต่อเม็ด | 10 mg |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันถั่วเหลือง |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เป็นยังไงบ้างจ๊ะสาว ๆ หนุ่ม ๆ ได้เห็นอาหารเสริม “ไลโคปีน” ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วถึง 7 ยี่ห้อด้วยกัน เล็ง ๆ อยากจะซื้อยี่ห้อไหนไปทานบำรุงร่างกาย และบำรุงผิวพรรณให้มีสุขภาพดีกันบ้างคะ??? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นยี่ห้อจากสหรัฐอเมริกากับญี่ปุ่น แต่ถ้าเน้นเรื่องความน่าสนใจและความคุ้มค่าแล้วละก็ ยี่ห้อจากฝั่งสหรัฐดูชนะขาดจริง ๆ ยังไงก็ขอให้ได้ยี่ห้อที่ถูกใจ ดีต่อสภาพเงินในกระเป๋า และทานแล้วผิวสวยวันสวยขึ้นด้วยค่าา
บรรณาธิการที่มีประสบการณ์ในการเขียนรีวิวสินค้าหลายชนิด
- สุขภาพ: อาหารเสริม, ออกกำลังกาย, การดูแลผิวพรรณ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: สมาร์ทโฮม, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องใช้ในบ้าน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- ของกิน: ขนมหวาน เครื่องดื่ม, อาหารสุขภาพ, และเทรนด์อาหารอื่น ๆ