ถ้าได้หลงเข้ามาอ่านที่บทความนี้ “แอลคาร์นิทีน” ยี่ห้อไหนดี แสดงว่า กำลังมีปัญหาเรื่องหุ่นหรือรูปร่างกันอยู่ใช่ไหมล่ะครับ? ไม่ว่าจะสาว ๆ ที่รู้สึกมีไขมันตามเนื้อตามตัวมากเกินไป หรือหนุ่ม ๆ นักออกกำลังกายนักเล่นกล้ามที่อยากจะได้หุ่นลีน ๆ กล้ามชัด ๆ แต่เอาไขมันไม่ลงสักที ก็ถือว่ามาถูกที่แล้ว เพราะที่บทความนี้ จะบอกหมดเปลือกเกี่ยวกับอาหารเสริมแอลคาร์นิทีนว่า มันคืออะไร, ทานแล้วช่วยอะไร, ช่วยลดไขมันและน้ำหนักได้จริงไหม, ทานตอนไหน? รวมถึงจะซื้อยี่ห้อไหนดี เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา ไปทำความเข้าใจกับอาหารเสริมตัวนี้กันครับ
สารบัญ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “แอลคาร์นิทีน” (L-carnitine) ยี่ห้อไหนดี
ก็เผื่อใครที่ไม่มีเวลาอ่านเนื้อหาทั้งหมด หรืออยากจะเห็นแอลคาร์นิทีนแต่ละยี่ห้อ มาวางเรียงเทียบกันแบบหมัดต่อหมัด โชว์กันให้จะ ๆ ไปเลยว่า ยี่ห้อไหนมีความเข้มข้นอย่างไร ราคาประมาณเท่าไร มีส่วนผสมเพิ่มเติมอื่น ๆ อีกไหม ก็สามารถกดเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบที่ปุ่มด้านล่างได้เลยนะครับ เหมือนกับเป็นสรุปแบบคร่าว ๆ ด้วยคร้าบ
1. ยี่ห้อ MATELL L-Carnitine
ราคาโดยประมาณ 249 บาท ต่อ 100 เม็ด
ถ้ากำลังมองหาอาหารเสริมแอลคาร์นิทีนที่มีคุณภาพดี และราคาย่อมเยาอยู่ละก็ ต้องขอแนะนำยี่ห้อ MATELL เลยครับ เพราะที่ขวดละ 100 แคปซูลจะมีราคาเพียงแค่ประมาณ 249 บาท ก็ตกเม็ดละ 2.49 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าถูกมาก ๆ เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ ส่วนความเข้มข้นของแอลคาร์นิทีนอาจจะไม่ได้มากที่สุด แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ ที่ 500 mg และยังเป็นประเภท L-Carnitine L-Tartrate ที่เน้นช่วยในเรื่องของการออกกำลังกายและการเบิร์นไขมันด้วย อีกทั้งยังการันตีด้วยยอดขายในอินเตอร์เน็ทที่มากกว่า 10k++ มั่นใจในเรื่องของคุณภาพได้อย่างแน่นอน ยังไงถ้าไม่อยากคิดมาก หรือไม่รู้จะซื้อยี่ห้อไหนดี จัด MATELL ก่อนเลยครับ
ประเภท | แคปซูล |
ประเภทของ L-Carnitine | L-Carnitine L-Tartrate |
ปริมาณ L-Carnitine ต่อเม็ด | 500 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | – |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 2-6 เม็ด ตอนตื่นนอน และก่อนออกกำลังกาย 30 นาที |
สัญชาติ | ไทย |
2. ยี่ห้อ Maxwell L-carnitine
ราคาโดยประมาณ 289 บาท ต่อ 60 เม็ด
Maxwell เป็นอีกหนึ่งยี่ห้ออาหารเสริมแอลคาร์นิทีนที่น่าสนใจ และมีรายละเอียดกับคุณสมบัติที่เหมือน ๆ กับยี่ห้อ MATELL ตัวด้านบนเลยครับ โดยถ้าดูจากตารางข้อมูลด้านล่าง จะเห็นว่าเป็นประเภท L-Carnitine L-Tartrate เหมือนกัน และมีความเข้มข้นที่แคปซูลละ 500 mg เช่นกันด้วย แต่ถ้าเทียบเรื่องราคาแล้ว ยี่ห้อนี้จะมีราคาที่สูงกว่าตกเม็ดละประมาณเกือบ 5 บาท ก็แพงกว่า MATELL เกือบ 2 เท่า ก็ยกให้เป็นอีกทางเลือก หรือตอนที่หาซื้อยี่ห้อ MATELL ไม่ได้ละกันครับ
ประเภท | แคปซูล |
ประเภทของ L-Carnitine | L-Carnitine L-Tartrate |
ปริมาณ L-Carnitine ต่อเม็ด | 500 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | – |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 2-6 เม็ด หลังอาหารเช้า, กลางวัน และก่อนออกกำลังกาย 30 นาที |
สัญชาติ | ไทย |
3. ยี่ห้อ Puritan's Pride l-carnitine
ราคาโดยประมาณ 279 / 650 บาท ต่อ 60 / 90 เม็ด
เห็นอาหารเสริมแอลคาร์นิทีนจากของคนไทยไปสองยี่ห้อแล้ว ลองมาส่องยี่ห้อจากสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อเสียงกันบ้างดีกว่าครับ กับ Puritan's Pride l-carnitine ที่รายละเอียดและคุณสมบัติของสินค้าเหมือน ๆ กับสองยี่ห้อด้านบนอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประเภท L-Carnitine L-Tartrate และมีความเข้มข้นที่ 500 mg แต่ยี่ห้อนี้ จะมีขายแบบ 1,000 mg ด้วยนะครับ ก็เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความเข้มข้นสูง ๆ ทานเม็ดเดียวได้แอลคาร์นิทีนแบบเต็ม ๆ และราคาแบบ 1,000 mg จะถูกกว่าแบบ 500 mg ด้วยเน้อ แต่แอบหาซื้อยาก ไม่งั้นก็ทานยี่ห้อที่ให้ 500 mg สองเม็ดก็ได้ครับ
ประเภท | แคปซูล |
ประเภทของ L-Carnitine | L-Carnitine L-Tartrate |
ปริมาณ L-Carnitine ต่อเม็ด | 500 mg / 1,000 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | – |
ปริมาณที่ควรทาน | 500 mg วันละ 4 เม็ด ครั้งละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร / 1,000 mg วันละ 2 เม็ด |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
4. ยี่ห้อ SWISS ENERGY l-carnitine
ราคาโดยประมาณ 489 บาท ต่อ 20 เม็ด
เบื่อกับการทานอาหารเสริมแอลคาร์นิทีนแบบเม็ด ๆ อยู่หรือเปล่า? ถ้ายังงั้นลองมาทานยี่ห้อ SWISS ENERGY จากสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีตัวเม็ดเป็นแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำกันดีกว่าครับ และด้วยการที่เป็นแบบเม็ดฟู่เนี่ย ก็ทำให้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานยาแบบเม็ด ๆ หรืออยากให้ร่างกายดูดซึมแอลคาร์นิทีนไปใช้ได้ไวกว่า และที่สำคัญยังอร่อยกว่า เพราะมีรสชาติหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ช่วยให้ดื่มได้ง่ายด้วย
ส่วนความเข้มข้นก็จะอยู่ที่ 500 mg ต่อเม็ด และเป็นประเภท L-Carnitine L-Tartrate เช่นเดียวกันกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่ยี่ห้อนี้ จะมีราคาที่แพงมาก! ตกเม็ดละเกือบ 25 บาทเลยทีเดียว (สมกับเป็นของจากสวิต) ยังไงถ้างบไม่ถึง แนะนำไปทานยี่ห้ออื่นเถอะครับ
ประเภท | เม็ดฟู่ละลายน้ำ |
ประเภทของ L-Carnitine | L-Carnitine L-Tartrate |
ปริมาณ L-Carnitine ต่อเม็ด | 500 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | – |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1-2 เม็ด ละลายพร้อมน้ำ 200 ml |
สัญชาติ | สวิตเซอร์แลนด์ |
5. ยี่ห้อ VISTRA CLA & L-Carnitine
ราคาโดยประมาณ 455 บาท ต่อ 30 เม็ด
VISTRA อีกยี่ห้อขายอาหารเสริมของคนไทยที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันดี และเอาจริง ๆ แล้ว ทางแบรนด์เขาก็มีขายอาหารเสริมแอลคาร์นิทีนแบบเพียว ๆ เหมือนยี่ห้อด้านบน ๆ ด้วย แต่ผมว่า ตัวนี้ CLA & L-Carnitine น่าสนใจกว่า เพราะนอกจากจะมี L-Carnitine L-Tartrate ที่ 300 mg แล้ว (อาจจะน้อยกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ไปนิด)
แต่เสริมมาด้วยกรดคอนจูเกเต็ด ไลโนเลอิค หรือซีแอลเอที่ 800 mg ซึ่งเป็นสารอาหารตัวเด็ดที่มีส่วนช่วยลดไขมันสะสมในร่างกาย และเมื่อทานคู่กับ L-Carnitine ก็จะทำให้ไขมันลดลงได้ไวขึ้น นอกจากนี้ ยังมีวิตามิน E มาให้อีก 7.66 mg ที่จะมาช่วยบำรุงผิวพรรณด้วย ก็ถ้าใครรู้สึกว่า ทานยี่ห้อที่มีแต่ L-Carnitine เพียว ๆ แล้วไม่ค่อยเห็นผลเท่าไร หรือรู้สึกไม่คุ้ม ก็ลองมาทานยี่ห้อนี้ดูได้ครับ
ประเภท | แคปซูล |
ประเภทของ L-Carnitine | L-Carnitine L-Tartrate |
ปริมาณ L-Carnitine ต่อเม็ด | 300 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | Conjugated Linoleic Acid (CLA) 800 mg / วิตามิน E 7.66 mg |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | ไทย |
6. ยี่ห้อ MRM, Acetyl L-Carnitine
ราคาโดยประมาณ 288 บาท ต่อ 60 เม็ด
สำหรับอาหารเสริมแอลคาร์นิทีนตัวนี้ MRM, Acetyl L-Carnitine จะแตกต่างจากพวกยี่ห้อบน ๆ ที่ผ่านมา เพราะมีประเภทของ L-Carnitine เป็น Acetyl-L-Carnitine ซึ่งเป็นประเภทที่มีส่วนช่วยในการลดไขมันในร่างกายเช่นกัน แต่จะเหมาะสำหรับการบำรุงสมองมากกว่าอย่างที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้นตรงหัวข้อ L-Carnitine คือ? ซึ่งแต่ละเม็ดจะมี Acetyl-L-Carnitine ที่ 500 mg พร้อมด้วยวิตามิน B6 อีก 2 mg และเจ้าวิตามิน B6 เนี่ย ก็จะมาช่วยให้การโฟกัสของสมองทำได้ดีขึ้นด้วย รวม ๆ แล้วยี่ห้อนี้ อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนออกกำลังกายเท่าไรนัก แต่ถ้าอยากบำรุงสมองละก็ ใช้ได้เลยครับ
ประเภท | แคปซูล |
ประเภทของ L-Carnitine | Acetyl-L-Carnitine |
ปริมาณ L-Carnitine ต่อเม็ด | 500 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | วิตามิน B6, 2 mg |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 3 เม็ด ครั้งละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
7. ยี่ห้อ Optimum Nutrition l-carnitine
ราคาโดยประมาณ 899 บาท ต่อ 60 เม็ด
Optimum Nutrition ยี่ห้อจากสหรัฐอเมริกา ที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับเวย์โปรตีนของเขามากกว่า แต่ทางแบรนด์เขาก็มีอาหารเสริมแอลคาร์นิทีนขายเหมือนกันนะครับ โดยจะเป็นประเภท L-Carnitine L-Tartrate ที่ความเข้มข้น 500 mg ต่อเม็ดเช่นเดียวกันกับหลาย ๆ ยี่ห้อ แต่จะมีความพิเศษตรงที่มีสารอาหารอย่าง Calcium และ Phosphorus เพิ่มเติม ก็ช่วยบำรุงร่างกายได้ดีกว่า แต่ราคาก็แอบโหดร้ายมากเช่นกัน โดยจะตกเม็ดละประมาณ 15 บาทเลยทีเดียว ก็ถ้าเน้น L-Carnitine เฉย ๆ ผมว่ายี่ห้ออื่น ๆ จะคุ้มค่ากว่า แต่ถ้ามีเงินเหลือ ๆ และอยากได้ Calcium กับ Phosphorus เพิ่มเติม ก็จัดไปครับ
ประเภท | เม็ด |
ประเภทของ L-Carnitine | L-Carnitine L-Tartrate |
ปริมาณ L-Carnitine ต่อเม็ด | 500 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | Calcium 95 mg / Phosphorus 70 mg |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 2 เม็ด ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
8. ยี่ห้อ Nature’s Truth L-Carnitine
ราคาโดยประมาณ 650 บาท ต่อ 60 เม็ด
อยากได้ความเข้มข้นของ L-Carnitine ประเภท L-Carnitine L-Tartrate สูง ๆ ใช่ไหมล่ะ? ทานเม็ดเดียวแล้วไปออกกำลังกาย ให้ร่างกายเบิร์นไขมันแบบสุด ๆ ถ้ายังงั้นลองดูยี่ห้อ Nature’s Truth จากสหรัฐอเมริกากันเลยครับ โดยจะมีความเข้มข้นสูงถึง 1,000 mg ต่อเม็ด ก็สูงกว่ายี่ห้อทั่ว ๆ ไป 2 เท่าได้ แต่ราคาก็แอบจะแพงกว่าด้วยที่เม็ดละประมาณ 10-11 บาท ก็ถ้าเทียบกับยี่ห้อ MATELL ด้านบนสุดถ้าทาน 2 เม็ด จะตกเพียงประมาณ 5 บาทเท่านั้น ก็ถ้าเน้นความคุ้มค่า MATELL ก็ยังดีกว่า แต่ถ้าขี้เกียจซื้อหลาย ๆ กระปุก เอากระปุกเดียวจบไปเลย ยี่ห้อนี้ตอบโจทย์ครับ
ประเภท | เม็ด |
ประเภทของ L-Carnitine | L-Carnitine L-Tartrate |
ปริมาณ L-Carnitine ต่อเม็ด | 1,000 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | – |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 4 เม็ด ครั้งละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
9. ยี่ห้อ RSP L-Carnitine Liquid
ราคาโดยประมาณ 990 บาท ต่อ 473 ml
ตอนแรกว่ายี่ห้อ Nature’s Truth มีความเข้มข้นสูงมากแล้วนะ แต่พอมาเจอกับยี่ห้อ RSP กลับให้ความเข้มข้นที่สูงมากกว่าถึง 3,000 mg เลยครับ และยังพิเศษกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ตรงที่เป็น L-Carnitine แบบของเหลว! จึงช่วยให้ทานได้ง่ายกว่า ร่างกายดูดซึมได้ไวกว่า และยังสามารถเอาไปผสมกับเครื่องดื่ม, น้ำผลไม้ หรือเวย์โปรตีนทานได้ด้วย อีกทั้งมีสองรสชาติให้เลือกซื้อคือ พีชสีแดงและเบอรรี่สีม่วงครับ
นอกจากนี้ ก็ยังเสริมวิตามิน B5 มาอีก 10 mg ที่จะมาช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในร่างกาย ก็ทำให้มีไขมันโดยรวมลดลงไปอีก แต่ราคาค่อนข้างแพงมากกก โดยที่การทาน 1 ช้อนโต๊ะ (15 ml) จะตกช้อนละประมาณ 32 บาทเลยทีเดียว (แต่ได้ 3,000 mg นะ) จึงเป็นอาหารเสริมแอลคาร์นิทีนที่เหมาะสำหรับคนที่มีงบในการซื้อ หรือพวกที่ออกกำลังกายหนัก ๆ เป็นประจำครับ
ประเภท | ของเหลว |
ประเภทของ L-Carnitine | L-Carnitine L-Tartrate |
ปริมาณ L-Carnitine ต่อ 1 ช้อนโต๊ะ (15 ml) | 3,000 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | วิตามิน B5, 10 mg |
ปริมาณที่ควรทาน | ทางแบรนด์แนะนำ วันละ 2 ช้อนโต๊ะ แต่ถ้ารู้สึกว่าเยอะไป วันละ 1 ช้อนโต๊ะก็พอ |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
10. ยี่ห้อ DHC karunichin
ราคาโดยประมาณ 299 / 659 บาท ต่อ 100 / 300 เม็ด
DHC ยี่ห้อนี้ คงไม่ต้องพูดอะไรมาก คนไทยน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะเป็นยี่ห้อจากญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเอามาก ๆ ในบ้านเราครับ โดยถ้าดูข้อมูลจากตารางด้านล่างจะเห็นว่า เป็นประเภท L-Carnitine Fumarate ที่ช่วยบำรุงหัวใจได้ดี และยังช่วยในการเบิร์นไขมันอีกด้วย แต่ถ้าเน้นเรื่องการออกกำลังกายประเภท L-Carnitine L-Tartrate จะดีที่สุด ส่วนความเข้มข้นก็ค่อนข้างน้อยเพียงแค่ 150 mg ต่อเม็ดเท่านั้น ทางแบรนด์จึงแนะนำให้ทานวันละ 5 เม็ด เพื่อให้ร่างกายได้วันละ 750 mg ครับ
แต่นอกจากจะมี L-Carnitine แล้ว ยังมีวิตามิน B1 และ E เพิ่มเสริมเข้ามาด้วย ก็ช่วยบำรุงร่างได้ดีกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ อย่างไรก็ตาม ราคาก็แอบค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับความเข้มข้น โดยที่ 1 เม็ด 150 mg จะตกเม็ดละประมาณ 3 บาท ในขณะที่ยี่ห้ออื่น ๆ ก็ประมาณ 3 บาท แต่ได้ L-Carnitine ถึง 500 mg รวม ๆ แล้ว ถ้าเน้น L-Carnitine ไปทานพวกยี่ห้อที่ให้ 500 mg จะดีกว่า ดูคุ้มกว่า แต่ถ้าชอบของจากญี่ปุ่นละก็ ซื้อยี่ห้อนี้ไปทานก็ได้ครับ
ประเภท | เม็ด |
ประเภทของ L-Carnitine | L-Carnitine Fumarate |
ปริมาณ L-Carnitine ต่อ 1 เม็ด | 150 mg |
ส่วนผสมอื่น ๆ | วิตามิน B1, 2.4 mg / วิตามิน E 0.96 mg |
ปริมาณที่ควรทาน | ทางแบรนด์แนะนำ วันละ 5 เม็ด แบ่งทานก่อนมื้ออาหาร 3 มื้อ |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
แอลคาร์นิทีน (L-carnitine) คืออะไร และช่วยอะไร?
แอลคาร์นิทีน คือ สารเคมีที่มีลักษณะและโครงสร้างคล้ายกับกรดอะมิโนที่มีอยู่ภายในร่างกาย ซึ่งร่างกายสามารถผลิตแอลคาร์นิทีนขึ้นเองได้จากการสังเคราะห์กรดอะมิโน Lysine กับ Methionine และจะมีหน้าที่หลัก ๆ ก็คือ การผลิตพลังงานให้กับเซลล์ต่าง ๆ โดยการลำเลียงกรดไขมันเข้าสู่ไมโตคอนเดรีย และเจ้าไมโตคอนเดรียเนี่ย ก็จะเปรียบเสมือนกับเครื่องยนต์ที่จะใช้ไขมันเป็นเชื้อเพลง แล้วทำการแปรรูปไขมันให้กลายเป็นพลังงานนั้นเองครับ
และเจ้าสารอาหารอย่างแอลคาร์นิทีนเนี่ย ก็ยังมีหลายประเภทอีกด้วย เช่น D-carnitine, Propionyl-L-carnitine แต่หลัก ๆ ในอาหารเสริมแอลคาร์นิทีนจะมีอยู่ 3 ประเภทคือ L-Carnitine L-Tartrate, Acetyl-L-Carnitine และ L-Carnitine Fumarate ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปดังนี้
- L-Carnitine L-Tartrate : เป็นรูปแบบที่พบมากที่สุด เหมาะสำหรับนักกีฬา, นักเพาะกาย และผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายมากที่สุด เพราะดูดซึมได้ไวที่สุด จึงช่วยให้เอาไขมันไปเปลี่ยนเป็นพลังงานเสริมช่วงที่ออกกำลังกายได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งช่วยฟื้นฟูให้กล้ามเนื้อหายปวดไวด้วย พอกล้ามเนื้อหายปวดก็ลุยออกกำลังกายได้ต่อเนื่อง เมื่อออกกำลังกายได้บ่อยและนานขึ้น ไขมันก็จะถูกใช้มากขึ้น จนน้ำหนักลดลงนั้นเองครับ
- Acetyl-L-Carnitine : สำหรับประเภทนี้ก็ช่วยในการเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงานเช่นกัน แต่จะเหมาะสำหรับการบำรุงสมองซะมากกว่า เพราะที่บริเวณสมองจะมี Blood-Brain Barrier (BBB) หรือตัวกั้นระหว่างเลือดกับสมอง โดย Acetyl-L-Carnitine จะเป็นแอลคาร์นิทีนประเภทเดียวที่สามารถผ่าน BBB ได้ เมื่อข้ามผ่านไปถึงภายในสมองแล้ว ก็จะช่วยผลิตพลังงานให้แก่เซลล์สมองและระบบประสาท รวมถึงจำกัดของเสียภายใน ทำให้สมองมีพลังงานมากขึ้น ทำงานได้ดีขึ้นครับ
- L-Carnitine Fumarate : เป็นอีกประเภทหนึ่งที่เหมาะสำหรับการทานลดน้ำหนัก เพราะมีส่วนสำคัญในการช่วยลำเลียงกรดไขมันเข้าสู่ไมโตคอนเดรียเพื่อเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน นอกจากนี้ ก็จะพบได้มากที่หัวใจและหลอดเลือด จึงช่วยบำรุงทั้งอวัยวะทั้งสองได้ดีด้วย แต่จะหาประเภทนี้ได้ค่อนข้างยากในอาหารเสริมแอลคาร์นิทีนครับ
แอลคาร์นิทีนทานตอนไหน? และปริมาณเท่าไรดี?
เนื่องจากแอลคาร์นิทีนหน้าที่หลัก ๆ คือ การเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน จึงควรทานตอนเช้าจะดีที่สุด จะเห็นผลมากที่สุด เพราะร่างกายจะมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การทำงาน, การเดินทาง, การเรียน, การออกกำลังกาย หรืออื่น ๆ ที่ต้องใช้พลังงาน ร่างกายจึงดึงเอาไขมันมาใช้ได้มากขึ้นนั้นเอง ส่วนจะทานตอนท้องว่างหรือพร้อมมื้ออาหาร ก็เอาตามที่สะดวกได้เลย ไม่ต้องซีเรียส ณ จุดนี้ และอีกเวลาที่ควรทานก็คือ ก่อนออกกำลังกาย 30 นาที เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานมากขึ้น ก็จะออกกำลังกายได้หนักและนานขึ้น ไขมันก็จะถูกใช้มากขึ้นด้วยครับ
ส่วนปริมาณที่ควรทาน ก็ได้มีงานวิจัยแนะนำไว้ว่า คนเรานั้นควรที่จะได้รับแอลคาร์นิทีนที่ประมาณ 500-2,000 mg ต่อวัน สำหรับเพื่อบำรุงสุขภาพทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าจะทานเพื่อลดไขมัน ลดน้ำหนัก และช่วยในการออกกำลังกายแล้วละก็ อาจจะต้องทานเพิ่มขึ้นถึงวันละ 3,000-4,000 mg เลยทีเดียว ก็ถือว่าค่อนข้างเยอะมาก ถ้ายังไม่เคยทานแอลคาร์นิทีนมาก่อน แนะนำให้เริ่มจากน้อย ๆ ดูก่อน เช่น หลังอาหารเช้า 1 เม็ดที่ 500 mg และ ก่อนออกกำลังกายอีกเม็ดที่ 500 mg รวมแล้วเป็น 1,000 mg ต่อวัน ถ้าเริ่มชินแล้ว หรือรู้สึกว่าน้อยไป ค่อยเพิ่มโดสเอาครับ
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการทานแอลคาร์นิทีนเพื่อการลดน้ำหนักก็คือ ต้องขยับ ออกกำลังกาย! การทานอาหารเสริมตัวนี้เฉย ๆ แล้วหวังว่าน้ำหนักจะลด ไขมันจะลด ก็ช่วยได้อยู่ แต่จะช่วยได้น้อยยยยยยยมากก หรือแทบจะไม่เห็นผลใด ๆ เลย ดังนั้นอย่าลืมทานแล้ว ออกกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายนำไขมันไปใช้ครับ
ได้เห็นอาหารเสริม “แอลคาร์นิทีน” กันไปแล้วทั้ง 10 ยี่ห้อด้วยกัน สนใจอยากจะซื้อยี่ห้อไหน ตัวไหน ไปทานเพื่อช่วยในการออกกำลังกาย และเบิร์นไขมันกันบ้างครับ? จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ก็มีอาหารเสริมแอลคาร์นิทีนจากหลายสัญชาติเลยทีเดียว ไม่ว่าจะของนอกอย่างสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, สวิตเซอร์แลนด์ หรือของไทยเองก็มีเช่นกัน แต่ละตัวต่างก็น่าสนใจกันทั้งนั้น ยังไงก็ขอให้ได้ยี่ห้อที่ถูกใจ ทานแล้วช่วยเบิร์นไขมันจนลดน้อยลง เห็นกล้ามเนื้อกันชัด ๆ หุ่นดีกันทุกคนคร้าบ
บรรณาธิการที่มีประสบการณ์ในการเขียนรีวิวสินค้าหลายชนิด
- สุขภาพ: อาหารเสริม, ออกกำลังกาย, การดูแลผิวพรรณ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: สมาร์ทโฮม, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องใช้ในบ้าน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- ของกิน: ขนมหวาน เครื่องดื่ม, อาหารสุขภาพ, และเทรนด์อาหารอื่น ๆ