จักรยานไฟฟ้า (Electric Bicycle) เป็นอีกหนึ่งพาหนะที่น่าจะตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลกที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน เป็นจักรยานที่มีมอเตอร์สำหรับช่วยทุ่นแรงในการปั่น ในส่วนของแหล่งพลังงานไฟฟ้านั้นมาจากแบตเตอรี่ ซึ่งสามารถชาร์จได้หลายครั้ง ช่วยลดการปล่อยไอเสียที่เป็นพิษแก่โลกของเรา นอกจากนี้ยังสามารถสลับโหมดมาปั่นเหมือนจักรยานทั่วไปได้อีกด้วย แล้วบางรุ่นก็ได้รับการพัฒนาให้มีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจอย่าง Cruise Control, รีโมทล็อคกันขโมย, Combi Break สามารถวิ่งได้ไกลถึง 40 – 80 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง แล้วเราจะเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ในบทความนี้เรามีคำตอบค่ะ
สารบัญ
วิธีการเลือก จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี
1.เลือกดูสเปคของมอเตอร์ กำลัง Watt สูงไหม ความเร็วสูงสุดที่ทำได้เท่าไหร่ จะส่งผลต่อการขับขี่ที่รวดเร็ว กำลัง Watt ที่มากขึ้นก็จะทำให้การขับขึ้นบริเวณที่ลาดชันทำได้ดีขึ้น แต่ถ้ามีความชันมาก ๆ ก็คงจะไม่ไหวนะคะ
2.เลือกดูสเปคแบตเตอรี่ ใช้เวลาในการชาร์จเท่าไหร่ เมื่อชาร์จแบตเต็มสามารถวิ่งได้ระยะทางเท่าไหร่ จะได้รู้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือไม่ ต้องชาร์จบ่อยไหม หากชาร์จบ่อยเกินไป อาจส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ ถ้ามีรุ่นที่แบตใหญ่ ๆ เยอะ ๆ ถอดแบตง่าย หาซื้อแบตง่าย มองไว้เป็นตัวเลือกแรก ๆ ก็ดีนะคะ
3.เลือกดูฟังก์ชั่นอย่างเสริมอย่าง ตัวจักรยานไฟฟ้าสามารถพับได้ไหม, มีที่ซ้อนด้านหลังหรือเปล่า, สลับโหมดไปปั่นแบบปกติได้ในทันทีไหม เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน และตอบทุกโจทย์ความต้องการของเรากันนะคะ
4.อย่าลืมตรวจเช็คน้ำหนักที่รองรับได้ก่อน หากคุณหรือคนในบ้านเป็นคนตัวใหญ่น้ำหนักมาก ต้องตรวจสอบจุดนี้ให้ดีน้า เพราะหลายรุ่นจะรองรับผู้ขับขี่เพียงแค่ 100 กิโลกรัม แต่บางรุ่นก็รับได้มากถึง 180 กิโลกรัมเลยทีเดียว สำหรับรุ่นที่มีเบาะสำหรับผู้ซ้อนท้าย อย่าลืมนับน้ำหนักคนซ้อนด้วยนะคะ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “จักรยานไฟฟ้า” ยี่ห้อไหนดี
อยากดูข้อมูลสินค้าแต่ละยี่ห้อแบบสรุป อ่านง่าย วางเรียงเปรียบเทียบสเปค ความเร็ว แบตเตอรี่ ราคา และอื่น ๆ ช่วยให้เปรียบเทียบได้ง่ายขึ้น ประหยัดเวลาในการอ่าน แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มด้านล่างได้เลยค่ะ
1. AIMA
ราคาโดยประมาณ 14,900 บาท
จักรยานไฟฟ้า AIMA เรียกได้ว่าเป็นอีกยี่ห้อที่เหมาะกับคุณแม่บ้านสำหรับใช้ในการปั่นไปจับจ่ายซื้อของที่ตลาดเป็นอย่างยิ่ง แถมยังมีให้เลือกใช้ในหลากหลายสีสัน โดยบริเวณด้านหน้ารถมีตะกร้าใส่ของ และมีเบาะนั่งด้านหลังสำหรับซ้อนท้ายได้อีก 1 คน สามารถรองรับน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 180 กิโลกรัม อีกทั้งยังมีระบบอื่น ๆ ที่ทางผู้ผลิตได้ใส่เพิ่มมาให้ด้วย ได้แก่
– ระบบ Cruise Control ซึ่งเป็นระบบขับขี่อัตโนมัติ ช่วยปรับเกียร์ให้ผู้ขับขี่เองเลย
– ระบบ Safety โดยมีการใส่เซ็นเซอร์สัญญาณกันขโมยไว้ และมีรีโมทล็อคกันขโมยมาให้ด้วย
– ระบบ Combi Break ช่วยกระจายแรงเบรคทั้งล้อหน้าและล้อหลังให้เหมาะสม
นอกจากนี้ที่ตัว AIMA ยังมีหน้าจอแจ้งเตือนปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือแสดงผลอยู่บริเวณด้านหน้า เพื่อให้ผู้ปั่นสามารถตรวจเช็คได้อย่างชัดเจน ภายในใช้มอเตอร์ 350 วัตต์ ซึ่งใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็มอยู่ที่ประมาณ 8-10 ชั่วโมง และสามารถวิ่งรถได้ไกลต่อเนื่องที่ 40 กิโลเมตร สำหรับในกรณีที่แบตเตอรี่หมดระหว่างทาง สามารถเปลี่ยนมาปั่นจักรยานแบบปกติได้ด้วย
ขนาดล้อ | 14 นิ้ว |
มอเตอร์ไฟฟ้า | 350 วัตต์ |
ความเร็วสูงสุด | 35 กม. / ชม. |
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 8-10 ชั่วโมง |
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 40 กม. |
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้ | 180 กก. |
มีที่ซ้อนด้านหลัง | ✓ |
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้ | ✓ |
พับได้ | ✘ |
2. LULAE รุ่น V1
ราคาโดยประมาณ 7,599 บาท
อีกหนึ่งรุ่นที่อยากแนะนำสำหรับใครที่อยากซื้อให้คุณพ่อคุณแม่ใช้ปั่นไปไหนใกล้ ๆ คือ จักรยานไฟฟ้า LULAE รุ่น V1 ที่มีคุณสมบัติต่าง ๆ คล้ายคลึงกับยี่ห้อด้านบนอย่าง AIMA เลย แต่จำหน่ายในราคาที่ย่อมเยากว่า มีตะกร้าใส่สัมภาระอยู่ด้านหน้ารถ บริเวณที่วางเท้าสามารถวางสิ่งของได้เพิ่มด้วย และมีเบาะซ้อนท้ายด้านหลัง ทำให้สามารถโดยสารได้ทั้งหมด 2 คน รวมน้ำหนักทั้งหมดที่สามารถรองรับได้อยู่ที่ 180 กิโลกรัม
มีล้อขนาด 14 นิ้ว ภายในใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบกันน้ำขนาด 350 วัตต์ โดยใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 8-10 ชั่วโมง ซึ่งจะสามารถวิ่งได้ไกล 40 กิโลเมตร สามารถเปลี่ยนความเร็วได้ทั้งหมด 3 ระดับ เบรกรถด้านหน้าและหลังที่ติดตั้งมาให้เป็นแบบดรัมเบรก และมีระดับความชันที่สามารถไต่ขึ้นเนินได้อยู่ที่ 30 องศา ข้อเสียที่พบ คือ LULAE V1 รุ่นนี้ไม่สามารถใช้ปั่นเหมือนจักรยานปกติในกรณีที่แบตเตอรี่หมดกะทันหันได้ ดังนั้นควรมีการตรวจเช็คปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือทุกครั้งก่อนปั่นจักรยานเสมอ
ขนาดล้อ | 14 นิ้ว |
มอเตอร์ไฟฟ้า | 350 วัตต์ |
ความเร็วสูงสุด | 25-30 กม. / ชม. |
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 8-10 ชั่วโมง |
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 40 กม. |
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้ | 180 กก. |
มีที่ซ้อนด้านหลัง | ✓ |
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้ | ✘ |
พับได้ | ✘ |
3. Jinsihou
ราคาโดยประมาณ 7,790 บาท
จักรยานไฟฟ้า Jinsihou ถูกออกแบบออกให้ดูคล้ายมอเตอร์ไซค์คันเล็ก มาพร้อมกับรีโมทอัจฉริยะที่จะทำงานร่วมกับชิป E-DRIVES เพื่อช่วยล็อครถของเรา และช่วยป้องกันการโจรกรรม ความสูงของเบาะนั่งสามารถปรับให้พอดีกับขนาดตัวผู้ขับขี่ที่ระยะ 70 – 80 เซนติเมตร ความเร็วของรุ่นนี้จะอยู่ที่ 20-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยสามารถปรับระดับความเร็วในการขับขี่ได้ทั้งหมด 3 ระดับ
ด้านในใช้มอเตอร์ขนาด 450 วัตต์ แรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 48 โวลต์ ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 10 ชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดอยู่ที่ 80 กิโลเมตรเลยทีเดียว บริเวณด้านหลังมีเบาะซ้อนท้ายทำให้สามารถโดยสารเพิ่มได้อีก 1 คน รวมน้ำหนักทั้งหมดที่สามารถรองรับได้อยู่ที่ 180 กิโลกรัม และสามารถขับขึ้นเนินได้ที่ระดับความชัน 20 องศา ข้อเสียที่พบคือหากแบตเตอรี่หมดระหว่างทาง จะไม่สามารถเปลี่ยนมาปั่นแบบปกติได้ ซึ่งเป็นข้อเสียเดียวกับรถยี่ห้อ LULAE รุ่น V1 นั่นเอง
ขนาดล้อ | 14 นิ้ว |
มอเตอร์ไฟฟ้า | 450 วัตต์ |
ความเร็วสูงสุด | 30 กม. / ชม. |
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 8-10 ชั่วโมง |
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 40-80 กม. |
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้ | 180 กก. |
มีที่ซ้อนด้านหลัง | ✓ |
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้ | ✘ |
พับได้ | ✘ |
4. G-Force รุ่น G14
ราคาโดยประมาณ 16,900 บาท
มาดูรุ่นที่มีดีไซน์เรียบ เก๋ ดูทันสมัย เหมาะสำหรับวัยรุ่นกันบ้าง ขอแนะนำเป็นจักรยานไฟฟ้า G-Force รุ่น G14 ซึ่งเป็นรุ่นที่ตัวโครงรถใช้วัสดุแข็งแรงพ่นด้วยสเปรย์แมตสีขาวและเทา มีล้อแม็กขนาด 14 นิ้วที่ใช้วัสดุเป็น Magnesium Alloy ทำให้ตัวรถรุ่นนี้ออกมาดูพรีเมี่ยม สวย และยังดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร ภายในใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 450 วัตต์ และมีแรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ สามารถวิ่งไปได้ไกลกว่า 40 กิโลเมตร
ระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่เต็มอยู่ที่ประมาณ 4-6 ชั่วโมงเท่านั้น บริเวณด้านหลังมีเบาะนั่งสำหรับโดยสารได้อีก 1 คน โดยสามารถรองรับน้ำหนักสูงสุดของผู้โดยสารได้ทั้งหมด 150 กิโลกรัม กรณีแบตเตอรี่หมดระหว่างทาง สามารถกลับมาปั่นแบบปกติเสมือนกำลังปั่นจักรยานทั่ว ๆ ไปได้เลย นอกจากนี้ G-Force G14 รุ่นนี้ยังสามารถพับเก็บได้ด้วย ยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการพกพา และสามารถนำขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสได้สบาย ๆ เลย
ขนาดล้อ | 14 นิ้ว |
มอเตอร์ไฟฟ้า | 400 วัตต์ |
ความเร็วสูงสุด | 25 กม. / ชม. |
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 4-6 ชั่วโมง |
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 40 กม. |
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้ | 150 กก. |
มีที่ซ้อนด้านหลัง | ✓ |
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้ | ✓ |
พับได้ | ✓ |
5. JIESUQI รุ่น Mini
ราคาโดยประมาณ 16,999
จักรยานไฟฟ้า JIESUQI Mini เป็นอีกรุ่นที่มีดีไซน์เท่มาก โดยตัวโครงรถใช้วัสดุเป็นเหล็กชุบโครเมี่ยม เคลือบด้วยสีพื้นดำ แล้วตัดด้วยลายกราฟิกสีแดง ทำให้ JIESUQI Mini รุ่นนี้ออกมาในแนวสปอร์ตเท่ แถมยังมีรีโมทล็อคกันขโมยมาให้ด้วย บริเวณแฮนด์จักรยานมีแท่นวางโทรศัพท์พร้อมที่ชาร์จ สามารถชาร์จโทรศัพท์จาก JIESUQI Mini รุ่นนี้โดยตรงได้เลย พร้อมทั้งมีจอแสดงปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือแบบ LCD ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
บริเวณล้อหน้าและล้อหลังมีโช้คกันกระแทกติดตั้งมาให้ด้วย ช่วยให้การปั่นเป็นไปอย่างนุ่มนวลแม้จะต้องเจอกับพื้นถนนที่ขรุขระก็ตาม ด้านหน้ารถมีไฟหน้าช่วยส่องถนนให้สว่าง รวมถึงไฟหลังช่วยส่งสัญญาณให้รถคันอื่น ๆ ที่ขับตามมาสามารถมองเห็นเราได้ชัดเจน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกรณีปั่นเวลากลางคืนด้วย นอกจากนี้เบาะนั่งซ้อนท้ายยังสามารถถอดออกได้หากไม่ต้องการใช้งาน ตัวแบตเตอรี่ก็สามารถถอดออกมาเพื่อนำไปชาร์จไฟภายในบ้านได้เช่นกัน รวมถึงยังสามารถพับเก็บได้ถึง 3 ท่อนอีกด้วย เรียกว่า JIESUQI Mini เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ใช้งานได้สะดวกมากจริง ๆ
ขนาดล้อ | 12 นิ้ว |
มอเตอร์ไฟฟ้า | 250 วัตต์ |
ความเร็วสูงสุด | N/A |
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 5-8 ชั่วโมง |
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 25-30 กม. |
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้ | 100 กก. |
มีที่ซ้อนด้านหลัง | ✓ |
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้ | ✓ |
พับได้ | ✓ |
6. HIMO รุ่น C20
ราคาโดยประมาณ 16,999 บาท
จักรยานไฟฟ้าแบบพับได้อีกรุ่นที่น่าสนใจ คือ HIMO รุ่น C20 ที่ถูกออกแบบมาในดีไซน์เรียบสวยในโทนสีขาวและเทา มีชุดเกียร์ที่สามารถปรับความเร็วได้ทั้งหมดถึง 6 สปีด โดยสามารถเช็คสถานะต่าง ๆ ของ HIMO C20 คันนี้ได้จากหน้าจอ LCD ที่ถูกติดตั้งอยู่ที่แฮนด์จักรยานได้เลย นอกจากจะแจ้งสถานะเกียร์ที่ใช้งานอยู่ปัจจุบันแล้ว ยังช่วยแสดงสถานะความเร็วของรถ และปริมาณแบตเตอรี่คงเหลืออีกด้วย
ภายในใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 250 วัตต์ ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จเต็มประมาณ 6 ชั่วโมง โดยจะสามารถปั่นต่อเนื่องได้ไกลกว่า 55 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อานนั่งสามารถรองรับน้ำหนักของผู้ปั่นได้ 100 กิโลกรัม ทั้งยังถูกออกแบบมาให้เป็นที่สูบลมในตัวด้วย โดยสามารถถอดอานนั่งออกมาใช้เติมลมให้ล้อจักรยานในเวลาที่ต้องการได้เลย กรณีแบตเตอรี่หมดระหว่างทาง สามารถเปลี่ยนมาใช้โหมดปั่นแบบปกติได้
ขนาดล้อ | N/A |
มอเตอร์ไฟฟ้า | 250 วัตต์ |
ความเร็วสูงสุด | 25 กม. / ชม. |
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 6 ชั่วโมง |
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 55 กม. |
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้ | 100 กก. |
มีที่ซ้อนด้านหลัง | ✘ |
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้ | ✓ |
พับได้ | ✘ |
7. SKG รุ่น SK-48V333
ราคาโดยประมาณ 9,680 บาท
จักรยานไฟฟ้า SKG SKG SK-48V333 จะมีขนาดล้อ 14 นิ้ว ที่มาพร้อมรีโมทสำหรับล็อคล้อรถจักรยานไฟฟ้า และมีการติดตั้งเซ็นเซอร์กันขโมยที่ตัวรถมาให้ด้วย เบาะนั่งสูงประมาณ 10 เซนติเมตร สามารถปรับสูงขึ้นหรือต่ำลงให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ปั่นได้ ด้านหน้าและด้านหลังรถมีไฟส่องสว่างติดตั้งไว้ให้ อีกทั้งยังมีระบบดรัมเบรกใส่มาที่ล้อหน้าและล้อหลัง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นด้วย
รถ SKG SK-48V333 รุ่นนี้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 350 วัตต์ ทำงานร่วมกับแรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ โดยใช้ระยะเวลาในการชาร์จไฟเต็มประมาณ 6-8 ชั่วโมง ซึ่งความเร็วสูงสุดที่สามารถทำได้คือ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถปรับระดับความเร็วได้ 3 ระดับ และสามารถปั่นต่อเนื่องได้ไกลประมาณ 40 กิโลเมตร มีเบาะด้านหลังซ้อนท้ายได้อีก 1 คน รวมน้ำหนักที่สามารถรองรับได้ทั้งหมดคือ 180 กิโลกรัม ในกรณีที่ไม่ต้องการใช้โหมดไฟฟ้า สามารถเลือกโหมดปั่นจักรยานแบบปกติเพื่อออกกำลังขาได้ด้วย
ขนาดล้อ | 14 นิ้ว |
มอเตอร์ไฟฟ้า | 350 วัตต์ |
ความเร็วสูงสุด | 40 กม. / ชม. |
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 6-8 ชั่วโมง |
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 40 กม. |
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้ | 180 กก. |
มีที่ซ้อนด้านหลัง | ✓ |
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้ | ✓ |
พับได้ | ✘ |
8. Xiaomi Qicycle รุ่น TDP02Z
ราคาโดยประมาณ 20,900 บาท
มาถึงรถจักรยานไฟฟ้าสไตล์มินิมอลจาก Xiaomi รุ่น Qicycle TDP02Z Electric Bike กันบ้าง ถูกออกแบบมาในโทนสีเทาเข้มเรียบ ๆ เหมาะสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มีล้อไซซ์ใหญ่ขนาด 20 นิ้ว เชื่อมต่อกับโครงรถส่วนกลางที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์ ทำให้ถึงแม้ Xiaomi Qicycle TDP02Z รุ่นนี้จะมีขนาดใหญ่กว่ายี่ห้ออื่นเล็กน้อย แต่กลับมีน้ำหนักเบากว่า คล่องตัว เคลื่อนย้ายสะดวก และเหมาะสำหรับใช้ขับขี่ในตัวเมืองเป็นอย่างดี
Xiaomi Qicycle TDP02Z รุ่นนี้มีโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมดด้วยกัน ได้แก่ โหมดไฟฟ้า โหมดกึ่งไฟฟ้าที่สามารถปั่นไปพร้อม ๆ กับให้รถจักรยานเคลื่อนที่เองด้วยไฟฟ้าไปด้วยได้ และโหมดธรรมดาที่เราสามารถเลือกใช้โหมดนี้ในกรณีที่ต้องการปั่นจักรยานแบบปกติเพื่อออกกำลังกายได้ด้วย บริเวณแฮนด์รถมีจอแสดงข้อมูลระดับความเร็วของการขับขี่ในขณะนั้น และปริมาณแบตเตอรี่ปัจจุบัน โดยหน้าจอจะมีการปรับระดับความสว่างให้เหมาะสมกับสายตาของผู้ปั่นจักรยานได้เองอัตโนมัติ ทำให้ในเวลากลางวันก็สามารถมองเห็นจอได้อย่างชัดเจน และไฟสว่างที่จอจะถูกปรับให้อยู่ในระดับที่กำลังพอดีในเวลากลางคืน ไม่รบกวนสายตาจนเป็นอุปสรรคในการปั่นด้วย
ขนาดล้อ | 20 นิ้ว |
มอเตอร์ไฟฟ้า | 180 วัตต์ |
ความเร็วสูงสุด | 25 กม. / ชม. |
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 4 ชั่วโมง |
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 40 กม. |
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้ | 100 กก. |
มีที่ซ้อนด้านหลัง | ✘ |
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้ | ✓ |
พับได้ | ✘ |
9. DYU รุ่น S2 E-bike
ราคาโดยประมาณ 17,900 บาท
รถจักรยานไฟฟ้า DYU รุ่น S2 E-bike ถูกออกแบบมาในดีไซน์ที่ดูแปลกตา ไม่เหมือนใคร โดยตัวโครงส่วนกลางของรถจักรยานทางผู้ผลิตเน้นใช้ลายเส้นโค้งมน ทำให้ตัว DYU S2 รุ่นนี้ดูโฉบเฉี่ยว และเพิ่มความเท่ดุดันด้วยการใช้วัสดุเป็นโทนสีดำทั้งคัน มีขนาดกะทัดรัด สามารถพับเก็บได้ นอกจากนี้วัสดุทั้งหมดยังสามารถกันน้ำได้ในระดับ IP54 อีกด้วย ดังนั้นแม้จะต้องปั่น DYU S2 คันนี้ลุยฝน ก็ไม่ต้องกังวลเลยว่าส่วนใดจะเกิดความเสียหาย แต่ยังคงไม่สามารถปั่นลงบริเวณที่มีน้ำท่วมสูง มีสิทธิ์พังได้นะคะ
ภายในใช้มอเตอร์ขนาด 250 วัตต์ มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระบบวิ่งอัตโนมัติ (Cruise Control) โดยเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้วจะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 45 กิโลเมตร บริเวณล้อหน้าและหลังมีระบบ Dual Disc Brake ติดตั้งมาให้ นอกจากนี้ยังออกแบบให้ยางล้อมีความหนาถึง 10 นิ้ว เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและช่วยส่งเสริมให้ DYU S2 รุ่นนี้พร้อมวิ่งในทุกสภาพถนนจริง ๆ โดยสามารถปั่นขึ้นเนินได้ในระดับความชัน 15 องศา พร้อมทั้งปรับเบาะนั่งขึ้นลงให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ปั่นจักรยานได้ด้วย
ขนาดล้อ | 10 นิ้ว |
มอเตอร์ไฟฟ้า | 250 วัตต์ |
ความเร็วสูงสุด | 25 กม. / ชม. |
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 4 ชั่วโมง |
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 25-45 กม. |
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้ | 120 กก. |
มีที่ซ้อนด้านหลัง | ✘ |
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้ | ✓ |
พับได้ | ✘ |
10. LULAE รุ่น V3
ราคาโดยประมาณ 8,299 บาท
รถจักรยานไฟฟ้าของ LULAE อีกหนึ่งรุ่นที่เลือกมาแนะนำคือรุ่น V3 ที่มีการปรับปรุงและพัฒนาสเปกมาจากรุ่น V1 โดยลักษณะภายนอกอาจจะดูคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง มีขนาดล้อเท่ากันที่ 14 นิ้ว ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 350 วัตต์เท่ากัน แต่หลังจากชาร์จไฟให้แบตเตอรี่เต็มแล้วจะสามารถปั่นได้ไกลขึ้นจากเดิมที่สามารถทำได้เพียง 40 กิโลเมตร แต่ใน LULAE V3 นี้จะสามารถทำได้ถึง 68 กิโลเมตรเลยทีเดียว
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็มจะอยู่ที่ประมาณ 10 ชั่วโมง มีเบาะนั่งซ้อนท้ายได้อีก 1 คน รองรับน้ำหนักได้ทั้งหมด 180 กิโลกรัม สามารถปั่นขึ้นเนินได้ในระดับ 30 องศา และสามารถเลือกโหมดปั่นเสมือนจักรยานปกติธรรมดาได้ด้วยเช่นกัน บริเวณแฮนด์รถมีจอแสดงผลปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือและความเร็วปัจจุบัน โดยสามารถปรับความเร็วของ LULAE V3 ได้ทั้งหมด 3 ระดับ นอกจากนี้ผู้ผลิตยังใส่ปุ่มกดไฟเลี้ยว ไฟด้านหน้า ด้านหลัง และกระจกมองหลังมาให้ใช้งานด้วย
ขนาดล้อ | 14 นิ้ว |
มอเตอร์ไฟฟ้า | 350 วัตต์ |
ความเร็วสูงสุด | 18-25 กม. / ชม. |
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 8-10 ชั่วโมง |
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม | 68 กม. |
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้ | 180 กก. |
มีที่ซ้อนด้านหลัง | ✓ |
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้ | ✓ |
พับได้ | ✘ |
อ่านกันมาจนถึงตรงนี้คงจะได้คำตอบว่าเรา ควรจะเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีใช่ไหมคะ เพราะในบทความนี้ได้รวบรวมรุ่นที่น่าสนใจรวมมาให้แล้ว อย่างยี่ห้อ Lulae เองก็ถือว่ามีจำนวนยอดที่ขายดีมาก ๆ ใน Shopee แถมมีให้เลือกซื้อกันหลายรุ่น เท่าที่แอบไปส่องมามีรุ่น 3 ล้อด้วย น่าจะเหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือมีปัญหาด้านการทรงตัว ส่วน G-Force Xiaomi DYU ก็เป็นแบรนด์ที่ดีไซน์ออกมาได้ดูดี โดดเด่นน่าใช้งาน หรือหามาประดับบ้านแบบเท่ ๆ ก็ไม่ว่ากันค่ะ เวลาซื้อก็อย่าลืมดูคุณสมบัติ และสเปคกันด้วย สุดท้ายแล้วก็ขอให้ได้รุ่นที่โดนใจ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานกันนะคะ
บรรณาธิการทางด้าน IT Gadget และของใช้อื่น ๆ มีประสบการณ์ด้าน IT Support และการขายอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์มานานกว่า 10 ปี นอกจากนี้ยังมีความเชี่ยวชาญทางด้านเน็ตเวิร์ก ชอบลองอุปกรณ์แกดเจ็ทใหม่ ๆ ขยันทดลองสกินแคร์ ศึกษาแพทย์แผนทางเลือก แล้วก็ยังเป็นนักเล่นเกม JRPG อีกด้วย