กำลังสงสัย หรืออยากจะหาซื้ออาหารเสริม “วิตามินดี” (Vitamin D) ยี่ห้อไหนดี กันอยู่สินะครับ? ถึงได้กดเข้ามาอ่านที่บทความนี้ ก็ถือว่า มาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะทางผม ได้ไปรวบรวมยี่ห้อของ Vitamin D ที่น่าสนใจมาให้แล้วถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน และขอบอกเลยว่า แต่ละยี่ห้อเนี่ย ดี ๆ เด็ด ๆ ปัง ๆ กันทั้งนั้น จนถ้าอ่านเนื้อหาทั้งหมดแล้ว ผมคิดว่า ต้องได้มีการเสียเงิน สั่งซื้อกันอย่างแน่นอน เตรียมใจไว้ได้เลย ตอนนี้ ก็เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเนาะ ไปดูเนื้อหาและวิตามินดีทั้ง 10 ยี่ห้อ กันเลยครับ
สารบัญ
มาทำความรู้จักกับ “วิตามินดี” (Vitamin D) กันสักนิด
วิตามินดี คือ วิตามินอีกชนิดหนึ่งที่ละลายในไขมัน และมีความจำเป็นต่อร่างกาย เพราะจะมาช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดี รวมถึงช่วยให้กระดูกต่าง ๆ ในร่างกายมีการพัฒนาการ ขยายใหญ่ และแข็งแรงสมบูรณ์ อีกทั้งยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายด้วย ซึ่งร่างกายจะสามารถได้รับวิตามินดีจาก 2 แหล่งใหญ่ ๆ ก็คือ เมื่อผิวหนังถูกแสงแดดเป็นประจำ กับการได้รับจากการทานอาหาร เช่น ปลาที่มีไขมันสูง, น้ำมันปลา, ไข่แดง, เนย หรือตับ เป็นต้น
แต่ด้วยการที่แสงแดดเมืองไทยนั้นแรงมาก จะให้ไปยืนตากแดดเพื่อให้ผิวหนังผลิตวิตามินดี ก็คงจะไม่ไหว (ยกเว้นช่วงแดดอ่อน ๆ ตอนเช้า ๆ แต่ก็คงมีหลายคนไม่สามารถทำได้) รวมถึงอาหารที่ทานส่วนใหญ่ ก็ให้วิตามินดีค่อนข้างน้อยด้วย ทำให้คนส่วนใหญ่อาจจะได้รับวิตามินดีที่ไม่เพียงพอต่อร่างกาย จนถึงอาจจะขาดแคลนได้เลย ดังนั้นวิธีการที่ง่ายและสะดวกที่จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดีก็คือ การทานอาหารเสริม Vitamin D นั้นเองครับ
แต่ถ้าตอนไปเลือกซื้ออาหารเสริม Vitamin D หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า ทำไมมีแต่ วิตามิน D3 วางขาย? แล้ววิตามิน D รูปแบบอื่น ๆ หายไปไหนหมด ก็เนื่องมาจากว่า วิตามิน D หลัก ๆ จะแยกย่อยออกเป็น วิตามิน D2 และ D3 โดยวิตามิน D2 จะได้มาจากพืช ส่วนวิตามิน D3 ก็จะได้มาจากสัตว์ และที่ไม่มีอาหารเสริมวิตามิน D2 วางขายนั้น ก็เป็นเพราะว่า วิตามิน D2 มีประสิทธิภาพในการช่วยเพิ่มระดับวิตามิน D ในร่างกายได้แย่กว่าวิตามิน D3 ถึงขนาดมีงานวิจัยได้ออกมาว่า การทานวิตามิน D3 ที่หนึ่งโดส จะเทียบเท่ากับการทานวิตามิน D2 ถึง 2 โดส ทำให้อาหารเสริมวิตามินดีทุกยี่ห้อ จึงมีขายแต่วิตามิน D3 นั้นเองครับ
ปริมาณของ “วิตามินดี” ที่ควรได้รับใน 1 วัน
จากสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (The National Institutes of Health) ได้แนะนำไว้ว่า คนเราควรจะได้รับ Vitamin D ที่วันละ 400-800 IU หรือ 10-20 mcg ต่อวัน อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นคนที่มีโอกาสโดนแสงแดดน้อยมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ทำงานกลางคืน รวมถึงผู้ที่มีผิวหนังค่อนข้างเข้ม และผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ก็ควรที่จะได้ปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นถึงวันละประมาณ 1,120–1,680 IU หรือ 28-42 mcg แต่ถ้าไม่อยากคิดมาก ทางสถาบันก็แนะนำว่า การทานที่วันละ 1,000–5,000 IU หรือ 25–125 mcg ก็เป็นค่าที่จะทำให้ร่างกายมีระดับของวิตามินดีที่เหมาะสมอยู่เสมอครับ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว อาหารเสริม “วิตามินดี” (Vitamin D) ยี่ห้อไหนดี
ก็เผื่อใครที่ไม่มีเวลาอ่านเนื้อหาทั้งหมด หรืออยากจะอ่านแบบสรุปย่อ ๆ เท่านั้น ก็สามารถกดเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบที่ปุ่มด้านล่างได้นะครับ จะได้เห็นสินค้าของแต่ละยี่ห้อมาวางเรียงเทียบกันให้เห็นเลยว่า มีความเข้มข้นของวิตามินดีเท่าไร? มีสารอาหารหรือส่วนผสมอื่น ๆ อะไรบ้าง? รวมถึงราคาประมาณไหน? ให้ดูกันแบบง่าย ๆ เลยครับ
1. วิตามิน D3 ยี่ห้อ MEGA We Care NAT D
ราคาโดยประมาณ 550 บาทต่อ 60 เม็ด
สำหรับใครที่ทำงานในตึกทั้งวัน มีพฤติกรรมเลี่ยงแสงแดด ไม่ค่อยโดดแดด กลัวผิวเสีย รู้ไหมว่าร่างกายกำลังขาดแคลนวิตามิน D และจะส่งผลให้ภูมิคุ้มกันตก ถ้าอยากจะหาอาหารเสริมวิตามิน D คุณภาพดี ๆ สักยี่ห้อไปรับประทานอยู่ล่ะก็ คงต้องขอแนะนำยี่ห้อ MEGA We Care NAT D กันเลยครับ โดยในแต่ละเม็ด จะมีความเข้มข้นของ Vitamin D3 ที่เม็ดล่ะ 1,000 IU (25 mcg) ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่กำลังดี เหมาะสมสำหรับการทานเสริมในแต่ล่ะวัน หรือถ้าอยากได้ความเข้มข้นสูง ๆ แบบทานเม็ดเดียวเอาอยู่ ทาง MEGA We Care เขาก็มีแบบความเข้มข้นสูง 5000 IUให้เลือกซื้อกันด้วยครับ
และเนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีการระบาดของเชื้อโควิด 19 ก็มีงานศึกษาและงานวิจัยมากมายของทางวิตามินดี ว่าสามาถช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสได้ สำหรับคนที่ติดเชื้อโควิดแล้ว พบว่า การที่ร่างกายได้รับวิตามิน D ในระดับวันล่ะ 10,000 IU จะสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคโควิดได้ดีกว่าการที่ร่างกายได้รับวันละ 2,000 IU ถึงประมาณ 4 เท่า !! อีกทั้งยังสามารถลดความรุนแรงของการติดเชื้อได้ดีด้วย โดยกลุ่มแรกจะพักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 8 วัน ส่วนอีกกลุ่มอาจจะลากยาวถึง 20 กว่าวันเลยทีเดียว ก็เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโควิดหรือเชื้อโรคอื่น ๆ การทานวิตามิน D เสริม วันละ 5,000 IU ก็ถือเป็นไอเดียที่ดี และเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันครับ (หมายเหตุ : จากข้อมูลของสถาบัน Vitamin D Council ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำ ให้ผู้ใหญ่ทานวิตามินดี วันละ 5000 IU)
อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อขอคำแนะนำในการรับประทาน เพื่อประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพด้วยครับ
ประเภท | เม็ด |
ความเข้มข้น Vitamin D3 ต่อเม็ด | 1000 IU (25 mcg) / และ 5000 IU (125 mcg) |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | – |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | ไทย (นำเข้าจากออสเตรเลีย มาตรฐานการผลิตจากเยอรมัน) |
2. วิตามินดี 3 ยี่ห้อ Kirkland Signature Extra Strength D3
ราคาโดยประมาณ 745 บาท ต่อ 600 เม็ด
ถ้ากำลังมองหาอาหารเสริมวิตามิน D3 ที่มีราคาค่อนข้างย่อมเยาแล้วละก็ คงต้องยกให้กับยี่ห้อ Kirkland Signature จากสหรัฐอเมริกากันเลยครับ เพราะที่ 1 เม็ด จะตกเม็ดละประมาณ 1.2 บาทเท่านั้น ก็ถือว่าถูกมาก ๆ อีกทั้งยังมีความเข้มข้นของ Vitamin D3 อยู่ที่ 50 mcg หรือ 2,000 IU ซึ่งอาจจะไม่ได้มีความเข้มข้นที่สูงที่สุด แต่รวม ๆ แล้วก็ถือว่า กำลังพอดี ๆ พอเหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปทานวันละ 1 เม็ด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแพ็กเกจค่อนข้างใหญ่มากกก ที่ 1 กระปุกจะได้ถึง 600 เม็ดเลยทีเดียว ถ้ายังไม่ชัวร์ว่าจะทานทุกวัน หรือทานเป็นประจำ แนะนำลองไปซื้อยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีปริมาณจำนวนเม็ดน้อยกว่านี้ ลองทานดูก่อนครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Vitamin D3 ต่อเม็ด | 50 mcg (2,000 IU) |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันถั่วเหลือง / น้ำมันข้าวโพด |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
3. วิตามิน D3 ยี่ห้อ California Gold Nutrition
ราคาโดยประมาณ 230 / 650 บาท ต่อ 90 / 360 เม็ด
California Gold Nutrition เป็นยี่ห้อขายอาหารเสริมจากสหรัฐ ที่มีอาหารเสริมหลายชนิดวางขาย และก็มีวิตามิน D3 ขายด้วย โดยทางแบรนด์เขาจะมีความเข้มข้นอยู่ 2 แบบคือ แบบ 50 mcg เหมือน Kirkland Signature ขายเช่นกัน แต่ตัวที่น่าสนใจกว่าก็คือ แบบความเข้มข้น 125 mcg! ซึ่งถือว่า มีความเข้มข้นสูงมากกก (แต่ก็ยังไม่เข้มข้นมากที่สุด) ไม่พอยังได้ใช้น้ำมันดอกคำฝอยเป็นส่วนผสม ซึ่งมีคุณภาพที่ดีกว่า น้ำมันพืชทั่ว ๆ ไปด้วย ส่วนราคาถ้าซื้อแบบแพ็กเกจ 360 เม็ด จะตกเม็ดละประมาณ 1.8-2 บาท ก็จะแอบแพงกว่า Kirkland นิดหนึ่ง แต่ได้ความเข้มข้นที่มากกว่าถึง 2 เท่า ก็เป็นอีกยี่ห้อที่น่าสนใจ และน่าซื้อไปทานกันจริง ๆ ครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Vitamin D3 ต่อเม็ด | 50 mcg (2,000 IU) / 125 mcg (5,000 IU) |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันดอกคำฝอย |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
4. วิตามินดี 3 ยี่ห้อ Puritan's Pride
ราคาโดยประมาณ 299 / 550 บาท ต่อ 100 / 200 เม็ด
ตอนแรกว่า ความเข้มข้นที่ 125 mcg ของ California Gold Nutrition ว่ามากแล้ว พอมาเจอยี่ห้อนี้ Puritan's Pride กลับมีความเข้มข้นที่มากกว่าอีกครับ โดยทางแบรนด์ เขาก็มีขายแบบ 125 mcg เช่นกัน และก็มีแบบ 250 mcg ! ให้เลือกซื้อกันด้วย ซึ่ง 250 mcg น่าจะเป็นความเข้มข้นของวิตามิน D3 ที่มากที่สุด เท่าที่จะหาซื้อได้ในไทยตอนนี้ เท่านั้นยังไม่พอ ยังได้ใช้น้ำมันดอกคำฝอยและน้ำมันดอกทานตะวันเป็นส่วนผสม ทำให้เรื่องคุณภาพดีถือว่าดีกว่าพวกยี่ห้อทั่ว ๆ ไป ส่วนราคาก็จะตกเม็ดละประมาณ 2.75 – 3 บาท ก็อาจจะจะแพงกว่า แต่ความเข้มข้นก็ชนะขาดลอยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ถ้ารู้สึกว่า 250 mcg นั้นเข้มข้นเกินไป ก็เลือกซื้อแบบ 125 mcg ได้ครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Vitamin D3 ต่อเม็ด | 125 mcg (5,000 IU) / 250 mcg (10,000 IU) |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันดอกคำฝอย / น้ำมันดอกทานตะวัน |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
5. วิตามิน D3 ยี่ห้อ DHC
ราคาโดยประมาณ 120 / 267 บาท ต่อ 30 / 60 เม็ด
DHC ยี่ห้อขายอาหารเสริมจากประเทศญี่ปุ่น ที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดี ซึ่งทาง DHC เอง เขาก็มีวิตามิน D3 วางขายด้วยเช่นกันครับ โดยถ้าดูข้อมูลจากตารางด้านล่างจะเห็นว่า ความเข้มข้นของ Vitamin D3 ต่อเม็ด จะน้อยมากกก เพียงแค่เม็ดละ 25 mcg เท่านั้น ก็น้อยกว่าพวกยี่ห้อบน ๆ ที่ผ่านมาทั้งหมด และราคาก็ดันค่อนข้างแพงที่เม็ดละ 4-5 บาท ดูรวม ๆ แล้ว ซื้อยี่ห้ออื่น ๆ ทานจะคุ้มค่า ดีกว่า แต่ด้วยความที่ความเข้มข้นน้อยนี้เอง ก็ทำให้เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยทานอาหารเสริมวิตามินดีมาก่อน หรืออยากจะเริ่มลองทานดู อีกทั้งด้วยแพ็คเกจที่มีปริมาณจำนวนเม็ดค่อนข้างน้อย ก็ทำให้สามารถทานหมดได้ง่ายกว่าพวกแพ็คเกจที่มีปริมาณจำนวนเม็ดมาก ๆ ครับ
ประเภท | เม็ด |
ความเข้มข้น Vitamin D3 ต่อเม็ด | 25 mcg (1,000 IU) |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | – |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
6. วิตามินดี 3 ยี่ห้อ Puritan's Pride Probiotic 10 with Vitamin D
ราคาโดยประมาณ 460 บาท ต่อ 60 เม็ด
เผื่อใครที่คิดว่า อาหารเสริมวิตามินดีเฉย ๆ ดูไม่น่าสนใจเท่าไร อยากจะทานทั้งที ก็ให้ได้ประโยชน์อย่างอื่นเพิ่มเติมด้วย ถ้ายังงั้นลองมาทาน Puritan's Pride Probiotic 10 with Vitamin D ตัวนี้ดูครับ โดยความเข้มข้นของ Vitamin D3 ต่อเม็ด อาจจะน้อยไปนิดที่ 25 mcg เท่านั้น (พอ ๆ กับ DHC) แต่ที่น่าสนใจก็คือ มี Probiotic หรือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์แก่ร่างกายรวมกันมากกว่าถึง 10 ชนิด! (Probiotic ในโยเกิร์ตมีประมาณ 3 ชนิด) ซึ่งจะมาช่วยให้การย่อยอาหาร, การขับถ่าย และสุขภาพของลำไส้ต่าง ๆ ดีขึ้น ก็พูดง่าย ๆ ว่า ทานเม็ดเดียวได้ประโยชน์หลายด้านเลยครับ
แต่ ๆๆๆ ราคาก็ค่อนข้างแพงเน้อ จะตกที่เม็ดละ 7-8 บาท เลยทีเดียว อีกทั้งมีวิตามินดีค่อนข้างน้อย ก็ถ้าจะทานเพื่อเน้นวิตามินดีเฉย ๆ ยี่ห้ออื่นจะดีกว่า คุ้มกว่า แต่ถ้ารู้สึกร่างกายย่อยยาก ลำไส้ไม่ค่อยดี ต้องการจุลินทรีย์ที่ช่วยบำรุงระบบทั้งหลายในร่างกาย และอยากได้วิตามินดีด้วย Puritan's Pride ตัวนี้ ตอบโจทย์แบบสุด ๆ ครับ
ประเภท | แคปซูล |
ความเข้มข้น Vitamin D3 ต่อเม็ด | 25 mcg (1,000 IU) |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | Probiotic 10 ชนิด ผสมรวมกัน 220 mg |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
7. วิตามิน D3 ยี่ห้อ Life Extension
ราคาโดยประมาณ 450 บาท ต่อ 60 เม็ด
ถ้าพูดเรื่องอาหารเสริมแล้วละก็ ประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาคงขึ้นชื่อเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ เพราะมีแบรนด์ขายอาหารเสริมที่หลากหลายเอามาก ๆ โดยมีตั้งแต่เกรดทั่วไป จนถึงเกรด Premium เลยทีเดียว ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่มีความ Premium และได้รับความนิยมค่อนข้างสูงมากที่อเมริกา นั่นก็คือ Life Extension ครับ ซึ่งวิตามิน D3 ของยี่ห้อนี้ เขาก็จะมีขายกันที่หลากหลายความเข้มข้น (ดูได้จากตารางด้านล่าง) ก็ถ้าอยากได้ความเข้มข้นเท่าไร ก็จัดไปตามความต้องการได้เลย และที่พิเศษกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ก็ตรงที่มีน้ำมันมะกอกเป็นส่วนผสม ซึ่งน้ำมันมะกอกถือว่า เป็นน้ำมันพืชที่มีคุณภาพดีเป็นอันดับต้น ๆ จึงช่วยบำรุงร่างกายได้ดีกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ที่ใช้น้ำมันพืชทั่ว ๆ ไปครับ
อย่างไรก็ตาม ด้วยคุณภาพที่ดีงาม ก็แลกมากับราคาที่ค่อนข้างแพง อย่างที่ความเข้มข้น 125 mcg จะตกเม็ดละประมาณ 7-8 บาทเลยทีเดียว ก็แพงกว่ายี่ห้อบน ๆ แบบคนละเรื่อง (แต่ก็ยังดูคุ้มกว่า DHC เพราะได้ความเข้มข้นสูงกว่า) ก็ถ้ามีงบค่อนข้างจำกัด แนะนำยี่ห้ออื่น ๆ แต่ถ้างบไม่ใช่ปัญหาละก็ จัด Life Extension เลยครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Vitamin D3 ต่อเม็ด | 25 mcg (1,000 IU) / 125 mcg (5,000 IU) / 175 mcg (7,000 IU) |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันมะกอก |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
8. วิตามินดี 3 ยี่ห้อ Now Foods
ราคาโดยประมาณ 319 / 490 บาท ต่อ 120 / 240 เม็ด
Now Foods เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อขายอาหารเสริมจากสหรัฐอเมริกาที่ได้รับความนิยมเช่นกัน และสำหรับอาหารเสริมวิตามินดี 3 ทางแบรนด์เขาก็มีขายที่หลากหลายความเข้มข้นเหมือน Life Extension ด้วย แต่จะมีความเข้มข้นที่หลากหลายยิ่งกว่า ตั้งแต่ความเข้มข้นน้อยสุดที่ 25 mcg ไปจนถึงความเข้มข้นสูงมากที่ 250 mcg เรียกได้ว่า มีความเข้มข้นของวิตามิน D3 ที่ต้องการให้เลือกซื้อกันอย่างแน่นอน อีกทั้งยังได้ใช้น้ำมันมะกอกเป็นส่วนผสมเหมือนกับยี่ห้อ Life Extension ทำให้มีคุณภาพที่ดีกว่ายี่ห้อทั่ว ๆ ไปด้วย ส่วนราคา ถ้าซื้อที่ 5000 IU หรือ 125 mcg จะตกเพียงเม็ดละประมาณ 2-3 บาท! ถ้าเน้นความคุ้มค่าละก็ Now Foods ตอบโจทย์ครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Vitamin D3 ต่อเม็ด | 25 mcg (1,000 IU) / 50 mcg (2,000 IU) / 125 mcg (5,000 IU) / 250 mcg (10,000 IU) |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันมะกอก |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
9. วิตามิน D3 ยี่ห้อ BLACKMORES
ราคาโดยประมาณ 470 / 990 บาท ต่อ 60 / 200 เม็ด
เจอกับแต่ยี่ห้อวิตามิน D3 จากสหรัฐไปกันเยอะแล้ว คราวนี้ลองมาดูของประเทศออสเตรเลียอย่าง BLACKMORES (ที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยกันสุด ๆ) กันบ้างครับ โดยถ้าดูจากตารางด้านล่าง จะเห็นว่า ให้ความเข้มข้นของ Vitamin D3 ต่อเม็ดที่ 25 mcg เท่านั้น ก็ถือว่าน้อยมาก น้อยในระดับเดียวกันกับยี่ห้อ DHC เลย อีกทั้งราคาก็โหดเอาเรื่องเช่นกัน โดยถ้าซื้อแบบแพ็กเกจเล็ก 60 เม็ด จะตกเม็ดละเกือบ 8 บาท ! และถ้าซื้อแบบ 200 เม็ด จะตกเม็ดละประมาณ 4-5 บาท ซึ่งราคาเหล่านี้ แอบเทียบเท่ากับพวกยี่ห้อที่มีความเข้มข้นสูง ๆ เลยทีเดียว ก็ถ้าอยากจะซื้อยี่ห้อนี้ทาน แนะนำว่า ให้รอช่วงโปรโมชั่นลดราคาจะดีกว่าครับ
ประเภท | แคปซูล |
ความเข้มข้น Vitamin D3 ต่อเม็ด | 25 mcg (1,000 IU) |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | – |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | ออสเตรเลีย |
10. วิตามินดี 3 ยี่ห้อ PipingRock
ราคาโดยประมาณ 310 บาท ต่อ 250 เม็ด
PipingRock เป็นอีกยี่ห้อจากสหรัฐอเมริกา (อีกแล้ว!) ที่มีอาหารเสริมวิตามินดีที่น่าสนใจขาย เพราะมีราคาที่ค่อนข้างถูกมากกก รวมถึงมีหลากหลายความเข้มข้นให้เลือกซื้อกันด้วย (ดูได้จากตารางด้านล่าง) ซึ่งถ้าซื้อแบบความเข้มข้น 25 mcg ตัวน้อยสุด จะตกเม็ดละประมาณ 1.24 บาทเท่านั้น ราคาก็พอ ๆ กับยี่ห้อ Kirkland Signature ตัวด้านบน แต่ยี่ห้อนี้ จะให้จำนวนเม็ดที่น้อยกว่า ก็ทำให้พอซื้อมาแล้ว จะสามารถทานหมดได้ไวกว่า และตัวอาหารเสริมก็ไม่เสื่อมสภาพมากเท่ากับยี่ห้อที่ให้จำนวนเม็ดเยอะ ๆ อีกทั้งยังได้ใช้น้ำมันดอกคำฝอยเป็นส่วนผสมด้วย ก็ดีกว่าพวกน้ำมันพืชทั่ว ๆ ไปด้วย ก็ถ้าไม่รู้จะซื้ออาหารเสริมวิตามินดี ยี่ห้อไหนดี ลอง PipingRock ดูสิครับ
ประเภท | เม็ดนิ่ม |
ความเข้มข้น Vitamin D3 ต่อเม็ด | 25 mcg (1,000 IU) / 50 mcg (2,000 IU) / 125 mcg (5,000 IU) / 250 mcg (10,000 IU) |
สารอาหาร / ส่วนผสมอื่น ๆ | น้ำมันดอกคำฝอย |
ปริมาณที่ควรทาน | วันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
ได้เห็นกันไปแล้วกับการรีวิว อาหารเสริม “วิตามินดี” (Vitamin D) ยี่ห้อไหนดี ถึง 10 ยี่ห้อ ไม่แน่ใจว่า อยากจะซื้อยี่ห้อไหน ตัวไหน ไปทานเพื่อเสริมวิตามิน D เข้าสู่ร่างกายกันบ้างครับ??? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า ยี่ห้อส่วนใหญ่ก็จะมาจากสหรัฐอเมริกา เขาเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องนี้จริง ๆ ส่วนญี่ปุ่นหรือออสเตรเลียก็มีขายเช่นกัน แต่ความน่าสนใจอาจจะสู้ไม่ได้ มันต้องซื้อยี่ห้อจากสหรัฐมาทานจริง ๆ แต่ก็แล้วแต่ความต้องการเน้อ ยังไงก็ขอให้ได้อาหารเสริม Vitamin D ยี่ห้อที่ตอบโจทย์ต่อทั้งร่างกายและเงินในกระเป๋ากันด้วยครับผม
บรรณาธิการที่มีประสบการณ์ในการเขียนรีวิวสินค้าหลายชนิด
- สุขภาพ: อาหารเสริม, ออกกำลังกาย, การดูแลผิวพรรณ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: สมาร์ทโฮม, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องใช้ในบ้าน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- ของกิน: ขนมหวาน เครื่องดื่ม, อาหารสุขภาพ, และเทรนด์อาหารอื่น ๆ