ถ้าพูดถึงประเภทของกาแฟที่รสชาติดี อร่อยมากที่สุด ก็คงต้องยกให้กับกาแฟสด กันอย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ที่จะทำให้กาแฟสดอร่อยหรือไม่อร่อยก็คือ เจ้าเมล็ดกาแฟนั่นเอง ยิ่งได้เมล็ดที่มีคุณภาพดีมากเท่าไร ก็ยิ่งให้กลิ่นและรสชาติของน้ำกาแฟที่ดีมากเท่านั้น แต่ ๆๆ จะไปเลือกซื้อกาแฟคั่วกันยังไงดีล่ะ ดันมีขายกันมากมายหลากหลายยี่ห้อมากกก จนงง ๆ ไม่รู้จะซื้อ ยี่ห้อไหนดี กันเลยทีเดียว ก็คลิกเข้ามาได้ถูกที่แล้วล่ะครับ เพราะที่นี่ จะมียี่ห้อกาแฟคั่วที่น่าสนใจ ยี่ห้อที่น่าซื้อ ยี่ห้อที่น่าโดนมาให้ดูกันถึง 10 ยี่ห้อ และขอบอกเลย จะต้องมีสักยี่ห้อนี้แหละที่มีสิทธิ์ทำให้เสียเงินซื้อกันอย่างแน่นอน! พูดมากเสียเวลาเนาะ ไปดูรีวิวกันเลยครับ
สารบัญ
จะเลือกซื้อ “เมล็ดกาแฟ / กาแฟคั่ว” ยังไงดีนะ ?
ก็ถ้าคนที่ชงดื่มกาแฟสด ซื้อเมล็ดกาแฟกันเป็นประจำอยู่แล้ว ก็ข้ามส่วนเนื้อหาตรงนี้ไปดูรีวิวสินค้าที่ด้านล่างต่อได้เลยนะครับ แต่ถ้ายังงง ๆ ไม่รู้จะซื้อยังไงดี ก็มีทริคมาฝากกันเล็กน้อยตามนี้เลยครับ
1. เลือกพันธุ์ของเมล็ดกาแฟกันก่อน : หลัก ๆ ที่เราจะเจอกันมี 2 พันธุ์คือ อาราบิก้าและโรบัสต้า โดยอาราบิก้าจะให้รสชาติที่กลมกล่อม หวาน ๆ ละมุน ๆ มีออกเปรี้ยวนิด ๆ โดยรวมถือเป็นพันธุ์ที่ให้รสชาติกาแฟถูกปากคนส่วนใหญ่มากที่สุด ใครชอบรสนุ่ม ๆ ละมุน ๆ ต้องอาราบิก้าเลย ส่วนโรบัสต้า จะมีปริมาณคาเฟอีนที่มากกว่า ทำให้รสชาติจะมีความเข้มข้น รวมถึงรสสัมผัสที่หนักกว่า จึงจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบกาแฟเข้ม ๆ และนอกจากนี้ ก็จะมีบางยี่ห้อที่มีการเบลนด์กาแฟ หรือมีการผสมเมล็ดของอาราบิก้าและโรบัสต้า(หรือพันธุ์อื่น ๆ) ก็ทำให้มีรสชาติของน้ำกาแฟที่ซับซ้อนขึ้น เหมาะสำหรับคนที่อยากลองรสชาติใหม่ ๆ ครับ
2. ดูที่ระดับการคั่ว : การคั่วกาแฟก็เป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้รสชาติและกลิ่นของน้ำกาแฟมีความแตกต่างกันออกไป โดยหลัก ๆ จะมี 3 ระดับด้วยกันคือ คั่วอ่อน, คั่วกลาง และคั่วเข้ม ก็ตามชื่อเลยครับ คั่วอ่อนสีเมล็ดก็จะอ่อนสุด มีความเปรี้ยวและความฝาดสูง อาจจะได้กลิ่นคล้ายผลไม้ อีกทั้งยังหลงเหลือคาเฟอีนมากที่สุด จึงเหมาะสำหรับดื่มตอนเช้า ๆ ส่วนคั่วกลางก็จะให้สีส้มหรือน้ำตาลอ่อน มีรสชาติที่กลมกล่อม มีความหวาน ปนเปรี้ยว กับขมเล็กน้อย กลิ่นเริ่มมีความคล้ายถั่ว และสุดท้ายคั่วเข้ม เมล็ดก็จะมีสีเข้มมาก ออกน้ำตาลดำ ดูสวย และรสชาติเอง ก็จะขมไปจนถึงขมมาก ให้กลิ่นหอมออกไหม้ ๆ ที่หลายคนชอบ ส่วนใครที่อยากจะได้รสชาติที่กลมกล่อม พร้อมทั้งมีกลิ่นหอมอย่างลงตัว ก็อาจจะลองเบลนด์ หรือผสมกันระหว่างเมล็ดคั่วกลางและคั่วเข้มก็ได้ครับ
การคั่วเมล็ดกาแฟที่แตกต่างกัน ก็จะทำให้สี กลิ่น และรสชาติแตกต่างกันไปด้วย
3. เลือกการเบลนด์ผสมรสชาติ : เดี๋ยวนี้เมล็ดกาแฟมีการเบลนด์เพื่อรังสรรค์รสชาติใหม่ ๆ ขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจและน่าเลือกซื้อไปดื่มกันมาก ตัวอย่างของรสชาติใหม่ ๆ เช่น รสรัมเรซิ่น, รสสตรอเบอรี่มิลค์เชค, รสหมากฝรั่ง, รสดอกไม้ผสมผลไม้ เป็นต้น ก็ถ้าใครที่เบื่อ ๆ กับรสชาติกาแฟเดิม ๆ ก็ขอแนะนำให้ลองเลือกซื้อพวกรสเบลนด์ใหม่ ๆ เหล่านี้ แต่ ๆๆ พวกนี้ก็จะมีราคาที่ค่อนข้างแพงมากกก (บางยี่ห้อตก 500 บาท ได้แค่ 200 g) ก็เวลาเลือกซื้ออย่าลืมดูเรื่องงบกันด้วยครับ
4. เลือกซื้อร้านที่มีบริการบดเมล็ด : เอาจริง ๆ การเลือกซื้อเป็นแบบกาแฟเมล็ดเต็ม จะสามารถเก็บรักษาคุณภาพทั้งกลิ่นและรสชาติได้ดีกว่านานกว่า แต่ก็จะไม่ค่อยสะดวก เวลาจะชงกาแฟแต่ละที ต้องคอยเอาเมล็ดมาบด ดังนั้นถ้าขี้เกียจไม่อยากบดเอง หรือไม่มีเวลา (แค่ใช้เครื่องชงก็ยุ่งยากละ) แนะนำให้เลือกซื้อร้านที่มีบริการบดเมล็ด หรือเลือกซื้อยี่ห้อที่ทำการบดเมล็ดให้แล้วครับ
ตอนนี้ก็น่าจะรู้ทริคในการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟกันไปแล้วเนาะ แต่ถ้ายังแบบงง ๆ มึน ๆ ไม่รู้จะซื้อยี่ห้อไหนดี เพราะมีวางขายกันแบบเยอะมากกก ก็แนะนำให้ลองลงไปอ่านรีวิวด้านล่างดูกันก่อน น่าจะช่วยเป็นไกด์ไลน์ให้ได้ครับผม 🙂
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “เมล็ดกาแฟ / กาแฟคั่ว” ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่ไม่มีเวลาอ่านเนื้อหาทั้งหมด หรืออยากจะเห็นสินค้ากาแฟคั่วกันแบบง่าย ๆ ก็สามารถกดที่ปุ่มด้านล่าง เพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบได้นะครับ จะได้เห็นเมล็ดกาแฟทั้ง 10 ยี่ห้อมาวางเรียงเทียบกันแบบจะจะ รวมถึงมีรายละเอียดแบบคร่าว ๆ ไว้ให้ด้วยครับผม
1. ยี่ห้อ PKC กาแฟปางขอน
ราคาโดยประมาณ 110 – 544 บาท ต่อ 250 – 500 g
สำหรับใครที่กำลังตามหาเมล็ดกาแฟคั่วคุณภาพดี แต่ในราคาที่ไม่แพงมาก ต้องขอแนะนำยี่ห้อ PKC กาแฟปางขอนกันเลยครับ เพราะทางแบรนด์เขาเป็นผู้ขายส่งเมล็ดกาแฟคั่วที่ได้รับเมล็ดจากแหล่งปลูกโดยตรง ไม่ทำการผ่านนายหน้า จึงทำให้มีราคาที่ถูกกว่า อีกทั้งทาง PKC เขายังได้แบ่งเกรดเมล็ดกาแฟออกเป็น 2 เกรด คือ เกรดคัดพิเศษ ที่จะคัดเฉพาะเม็ดใหญ่ เม็ดเต็มแน่น ๆ เพื่อให้ได้บอดี้ของรสชาติที่หนัก เข้มข้น แต่ยังคงความนุ่มนวล ซึ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟรสหนัก ๆ เข้มข้นพิเศษ รวมไปถึงร้านกาแฟต่าง ๆ ครับ
ส่วนเกรดที่ 2 จะเป็นเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งก็เป็นเมล็ดที่มีคุณภาพเช่นกัน แต่เพียงแค่จะเป็นเม็ดไซส์กลางผสมกับไซส์ใหญ่ ทำให้รสชาติของกาแฟ จะมีความเข้มข้นน้อยกว่าเกรดคัดพิเศษ รสจะออกไปทางกลาง ๆ ไม่หนักมาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มรสแบบจางนิด ๆ หรือถ้าใครที่อยากจะเน้นประหยัดเงินแบบสุด ๆ ทาง PKC เขาก็มีแบบเมล็ดแตกหักให้เลือกซื้อกันด้วย ก็ถ้าใครยังไม่เคยลองซื้อยี่ห้อ PKC นี้ไปชงดื่มกาแฟล่ะก็ อยากให้ลองกันจริง ๆ ครับ
พันธุ์กาแฟ | มีทั้งอาราบิก้าและโรบัสต้า |
ระดับการคั่ว | มีตั้งแต่คั่วอ่อน ไปจนถึงคั่วเข้มมาก |
แหล่งที่มา | จังหวัดเชียงราย |
ขายแบบ | มีทั้งเมล็ดแตกหัก ถึงเมล็ดเต็มคุณภาพดี |
ยอดขายในอินเตอร์เน็ท | N/A |
2. ยี่ห้อ Craft Coffee Roaster รส Signature Blend
ราคาโดยประมาณ 250 บาท ต่อ 250 g
Craft Coffee Roaster เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อเมล็ดกาแฟที่มีรสชาติให้เลือกซื้ออย่างหลากหลายไม่แพ้ยี่ห้อ Hacking Coffee ตัวด้านบนเลยทีเดียว แต่หลัก ๆ จะเน้นเป็นเมล็ดกาแฟแบบเบลนด์ที่เหมาะสำหรับทำกาแฟนม (กาแฟดำก็มีนะ) ซึ่งบอกเลย แต่ละรสเขาไม่ธรรมดา ฉีกกรอบเดิม ๆ ไปแบบสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น รสเหล้าวิสกี้ผสมกับรัมเรซิ่นที่เหมาะสำหรับสายชอบแอล, รสผสมผลไม้ลิ้นจี่ กุหลาบ และมะม่วงน้ำดอกไม้ หรือรสหมากฝรั่งหอม ๆ หวาน ๆ และรสอื่น ๆ อีกเพียบ (ลองไปส่อง ๆ ดูที่ร้านค้าออนไลน์เขาได้ มีรสชาติให้เลือกเยอะจริง ๆ) ก็ถ้าใครเป็นสายกาแฟนมล่ะก็ ต้องถูกใจเมล็ดกาแฟของแบรนด์นี้อย่างแน่นอนครับ
และเช่นเดิม ถ้ายังมึน ๆ งง ๆ ไม่รู้จะเริ่มจากซื้อรสไหนดี ขอแนะนำเป็นตัวมาตรฐาน (อีกแล้ว) อย่าง Milkster Signature Blend กันเลยครับ เหตุผลเพราะ เป็นตัวเริ่มแรกที่มีราคาถูกที่สุด ได้รับความนิยมมากที่สุด และมียอดขายที่สูงมากถึงระดับ 6,000 +++ เลยทีเดียว โดยแทางแบรนด์ก็เคลมมาว่า เหมาะสำหรับการนำไปใช้ทำกาแฟนมมาก รสชาติที่ได้จะออกแนว ๆ ดาร์กช็อกโกแลตผสมกับความเป็นถั่ว ๆ รวมถึงมีความกลมกล่อม และไม่เปรี้ยวอีกด้วย แต่ยี่ห้อนี้จะมีราคาที่ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ (ยิ่งพวกรสชาติเบลนด์แปลก ๆ ยิ่งแพง) แต่ถ้าเพื่อคุณภาพและรสชาติแล้ว ก็คงต้องยอมครับ!
พันธุ์กาแฟ | N/A |
ระดับการคั่ว | เป็นกาแฟเบลนด์ |
แหล่งที่มา | ประเทศบราซิล |
ขายแบบ | ทั้งแบบเมล็ดเต็ม และบดที่หลากหลายความละเอียด |
ยอดขายในอินเตอร์เน็ท | 6,000 +++ |
3. ยี่ห้อ Lavazza รส Super Crema
ราคาโดยประมาณ 1,700 บาท ต่อ 1,000 g
ตอนแรกว่ายี่ห้อ Craft Coffee Roaster นั้นมีราคาที่สูงมากแล้ว พอมาเจอกับยี่ห้อนี้ Lavazza กลับมีราคาที่แพงยิ่งกว่าอีกครับ! แต่เอาจริง ๆ ราคาจะขึ้นอยู่กับรสชาติของเมล็ดกาแฟเบลนด์ที่ทางแบรนด์วางขาย บางรสก็จะมีราคาที่ถูกกว่า บางรสก็จะมีราคาที่แพงกว่า แต่ส่วนใหญ่จะแนวโน้มไปทางราคาแพง ซึ่งรสชาติที่มีให้เลือกซื้อกันนั้น ตัวอย่างเช่น Filtro Classico, Kafa, Dek, L'espresso – Gran Crema หรือรสอื่น ๆ อีกเพียบ (เยอะมาก เยอะจริง ๆ เยอะกว่า 2 ยี่ห้อด้านบนซะอีก) ก็ชอบรสไหนแนวไหน ก็จัดไปครับ
แต่เหมือนรสที่คนไทยจะนิยมซื้อกันมากที่สุด จะเป็นรส Super Crema ที่เป็นการผสมผสานพันธุ์กาแฟของอาราบิก้า 60% และโรบัสต้า 40% เข้าไว้ด้วยกัน และจะให้รสชาติออกทางเฮเซลนัทกับน้ำตาลทรายแดงหวาน ๆ กลมกล่อม ๆ นัว ๆ ที่เหมาะสำหรับนำไปชงเป็นกาแฟนมมากกกก อีกทั้งยังมีหลายเสียงได้รีวิวไว้ว่า คุณภาพเมล็ดกาแฟดีงาม รสชาติที่ชงได้ก็เยี่ยม หอมกรุ่นกันด้วย แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างแพง ถ้างบมีไม่มากพอ แนะนำไปซื้อกาแฟคั่วยี่ห้ออื่น ๆ จะดีกว่าครับ
พันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า 60% / โรบัสต้า 40% |
ระดับการคั่ว | เป็นกาแฟเบลนด์ คั่วกลาง |
แหล่งที่มา | ประเทศบราซิล, โคลัมเบีย, อินโดนีเซีย และเวียดนาม |
ขายแบบ | เมล็ดเต็ม ไม่บด |
ยอดขายในอินเตอร์เน็ท | 10 + |
4. ยี่ห้อ Tanmonkey Blend coffee รส Decaffeinated MK01
ราคาโดยประมาณ 150 / 249 บาท ต่อ 100 g
ปกติเมล็ดกาแฟยี่ห้อส่วนใหญ่จะใส่เป็นถุง ๆ ใช่ไหมครับ แต่ยี่ห้อนี้ Tanmonkey เขามีภาชนะแบบกระป๋องให้เลือกซื้อกันด้วยเน้อ ซึ่งแบบกระป๋องก็จะช่วยเก็บรักษาสภาพของเมล็ดได้ดีกว่า นานกว่า อีกทั้งยังมีความแข็งแรงทนทาน พร้อมทั้งดีไซน์ที่ดูสวยกว่าด้วย (แต่แบบกระป๋องก็จะแพงกว่าแบบถุง ๆ ) และอีกเหตุผลที่ทำให้ยี่ห้อนี้เป็นที่น่าสนใจก็คือ มียอดขายที่ค่อนข้างสูงถึง 2,000 +++ ในร้านค้าออนไลน์ ก็ถ้าจะขายดีกันขนาดนี้ แสดงว่า เป็นของที่มีคุณภาพดีครับ
โดยทางร้านจะใช้เมล็ดกาแฟอาราบีก้าแท้ 100% ที่มาจากประเทศโคลัมเบีย (อีกหนึ่งดินแดนที่ขึ้นชื่อเรื่องการเพราะปลูกกาแฟ) และมีการคั่วใหม่อยู่เสมอ ๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะได้ของเก่าเก็บ อีกทั้งตอนที่เลือกซื้อกันเนี่ย ก็สามารถเลือกระดับการคั่วของเมล็ดได้ถึง 3 ระดับตั้งแต่ อ่อน, กลาง, เข้ม และไม่พอยังสามารถเลือกระดับการบดของเมล็ดได้ด้วย จะเอาแบบบดหยาบ บดละเอียด หรือเมล็ดเต็ม ทางร้านก็จัดการให้ได้ตามความต้องการกันเลยล่ะ ก็ถ้างง ๆ ไม่รู้จะเริ่มซื้อ กาแฟคั่ว ยี่ห้อไหนดี ล่ะก็ ลองเริ่ม Tanmonkey ก็เป็นไอเดียที่ดีครับ
พันธุ์กาแฟ | อาราบีก้า 100% |
ระดับการคั่ว | เป็นกาแฟเบลนด์ มีทั้งคั่วอ่อน, กลาง และเข้มให้เลือก |
แหล่งที่มา | ประเทศโคลัมเบีย |
ขายแบบ | ทั้งแบบเมล็ดเต็ม และบดที่หลากหลายความละเอียด / มีให้เลือกเป็นถุงหรือเป็นกระป๋อง |
ยอดขายในอินเตอร์เน็ท | 2,000 +++ |
5. ยี่ห้อ The Summer Coffee Company รส Mr.Rum Raisin
ราคาโดยประมาณ 470 / 1,116 บาท ต่อ 200 / 500 g
ถ้าพวกยี่ห้อที่มียอดขายแบบ 1,000 หรือ 2,000 +++ ในอินเตอร์เน็ทว่าเยอะมากแล้ว เมื่อมาเจอกับยี่ห้อนี้ The Summer Coffee Company ต้องยอมกันเลยทีเดียว เพราะเป็นแบรนด์ที่มียอดขายที่สูงยิ่งกว่าอีกครับ! โดยทางแบรนด์ ก็จะมีขายกาแฟคั่วเบลนด์หลากหลายรสชาติ ตัวอย่างเช่น รส Sleepyhead ที่เป็นการผสมของดาร์กช็อกโกกับทอฟฟี่นัท หรือรส WEEKNEDER ที่เป็นการรวมตัวของชา, ดอกไม้, แอปเปิ้ลเขียว, มัลเบอร์รี่ และคาราเมล หรือรส MILKMAN ที่มีส่วนผสมของดาร์กช็อกโก, ชาดำ กับคาราเมล เป็นต้น ซึ่งแต่ละรสก็น่าสนใจกันทั้งนั้น ก็ลองไปส่อง ๆ เลือก ๆ ดูที่ร้านค้าออนไลน์ได้เลยครับ
แต่ถ้าถามว่า รสชาติไหนขายดีมากที่สุด? ต้องยกให้กับรสนี้เลย Mr.Rum Raisin ซึ่งเป็นตัว Signature ของทางร้าน (รสนี้มียอดขายระดับ 6,000 +++) โดยจะเป็นกาแฟคั่วที่ผ่านการเบลนด์ แล้วนำไปคั่วที่ระดับกลาง พอนำไปชงเป็นกาแฟแล้ว รสชาติที่ได้จะออกแนว ๆ ไอศกรีมรัมเรซิ่น ที่มีกลิ่นของรัมกับความหวาน ๆ หอม ๆ ของลูกเกด ก็ถ้าใครชอบรสชาติแนว ๆ นี้ละก็ ต้องจัด Mr.Rum Raisin กันเลยครับ แต่ระวังเรื่องราคานิด เพราะเป็นยี่ห้อที่มีราคาที่แร๊งมากก ถ้างบไม่มากพอ นาน ๆ ซื้อดื่มทีละกันเนาะ
พันธุ์กาแฟ | N/A |
ระดับการคั่ว | เป็นกาแฟเบลนด์ คั่วกลาง |
แหล่งที่มา | ประเทศโคลัมเบีย |
ขายแบบ | ทั้งแบบเมล็ดเต็ม และบดที่หลากหลายความละเอียด |
ยอดขายในอินเตอร์เน็ท | 6,000 +++ |
6. ยี่ห้อ Starbucks รส Pike Place Roast และ Espresso Roast
ราคาโดยประมาณ 385 – 455 บาท ต่อ 250 g
Starbucks เป็นยี่ห้อที่ไม่ต้องพูดอะไรมาก มีชื่อเสียงเรื่องกาแฟที่โด่งดังระดับโลกอยู่แล้ว ซึ่งเมล็ดกาแฟของทางน้องนางเงือกเอง ก็บอกเลย มีคุณภาพดีและรสชาติให้เลือกเยอะโคตร! เยอะมาก เยอะกว่า 10 รส ++ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะ รส Kenya, Guatemala Antigua, Colombia, Caffè Verona™, Espresso Roast, Komodo Dragon Blend หรือรสอื่น ๆ อีกเพียบ อยากจะได้กาแฟรสอ่อน ๆ กลาง ๆ หรือเข้ม ๆ แบบไหน ทาง Starbucks เขาก็มีให้เลือกซื้อกันอย่างแน่นอนครับ
ส่วนรสชาติที่เหมือนจะขายดีเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับระดับคั่วปานกลาง ขอแนะนำเป็นตัว Pike Place Roast (Pike Place เป็นชื่อสถานที่ตั้งร้าน Starbucks สาขาแรกของโลก) ที่จะให้รสของโกโก้และถั่วคั่วอ่อน ๆ ผสม ๆ กัน มีความกลมกล่อมและนุ่มเนียนอย่างลงตัว แต่ถ้าเป็นคนชอบกาแฟรสชาติเข้ม ๆ ขม ๆ ถึงใจ อยากให้ลองตัว Espresso Roast ที่เมล็ดกาแฟจะมีสีดำเข้ม ดูสวยมาก รวมถึงให้กลิ่นที่หอมมม และรสชาติที่เข้มข้นของคาราเมล, เครื่องเทศ กับช็อกโกแลตด้วย แต่ถ้า 2 รสนี้ยังไม่น่าสนใจ ก็จัดรสอื่น ๆ กันได้เลยครับ
พันธุ์กาแฟ | อาราบีก้า 100% |
ระดับการคั่ว | เป็นกาแฟเบลนด์ คั่วกลาง / คั่วเข้ม |
แหล่งที่มา | Pike Place Roast จากลาตินอเมริกา / Espresso Roast จากหลายภูมิภาค |
ขายแบบ | เมล็ดเต็ม ไม่บด |
ยอดขายในอินเตอร์เน็ท | 6,000 +++ |
7. ยี่ห้อ ชาตรามือ ชนิดคั่วเข้ม
ราคาโดยประมาณ 90 บาท ต่อ 150 g
ถ้ากำลังมองหาเมล็ดกาแฟอาราบีก้าแท้ 100% ที่มีราคาย่อมเยาอยู่ล่ะก็ ขอแนะนำยี่ห้อ “ชาตรามือ” แบรนด์คนไทย ที่โด่งดังเรื่องชามานาน แล้วตอนนี้ก็มีการขยายสาขาตามห้างและสถานที่ต่าง ๆ ไปทั่วกันเลยครับ โดยถุงขนาด 150 g จะมีราคาประมาณ 90 บาทเท่านั้น ก็ถือว่าถูกกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อเลยทีเดียว จึงเหมาะสำหรับคนที่มีงบกำจัด หรือร้านกาแฟต่าง ๆ ที่เน้นขายสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศและกลุ่มคนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ทางแบรนด์เขาจะมีขายเมล็ดกาแฟที่ระดับคั่วเข้มเท่านั้น ซึ่งรสชาติกาแฟที่ได้ก็จะออกขม ๆ เข้ม ๆ พร้อมมีกลิ่นหอม ๆ ก็ถ้าอยากได้แบบระดับคั่วอ่อนหรือคั่วกลาง ต้องซื้อยี่ห้ออื่น ๆ ครับ
พันธุ์กาแฟ | อาราบีก้า 100% |
ระดับการคั่ว | คั่วเข้ม |
แหล่งที่มา | ไทย |
ขายแบบ | เมล็ดเต็ม ไม่บด |
ยอดขายในอินเตอร์เน็ท | 300 ++ |
8. ยี่ห้อ Mezzo House Blend
ราคาโดยประมาณ 239 บาท ต่อ 250 g
อีกหนึ่งยี่ห้อกาแฟคั่วที่มีความน่าสนใจ ราคาไม่แพง และมียอดขายที่สูงใช้ได้ในระดับ 600 ++ ต้องขอแนะนำ Mezzo (เป็นอีกยี่ห้อที่มีร้านคาเฟ่ตามที่ต่าง ๆ) House Blend ถุงสีม่วงนี้เลยครับ โดยทางแบรนด์จะใช้เมล็ดกาแฟแบบผสมกันระหว่างอาราบีก้าและโรบัสต้า พร้อมทั้งมีระดับการคั่วที่คั่วเข้ม ทำให้ทั้งกลิ่นและรสชาติของกาแฟที่ได้จะมีความหอมและเข้มข้นมาก อีกทั้งรสชาติยังมีความซับซ้อนมากกว่าพวกยี่ห้อที่ใช้เมล็ดกาแฟชนิดเดียวด้วย นอกจากนี้ ทางแบรนด์ก็การขายทั้งแบบเมล็ดเต็มและแบบบดเมล็ดให้ด้วย ก็ถ้าคิดว่า ยี่ห้ออื่น ๆ นั้นแพงไป หรือยังไม่ถูกใจ ลองซื้อ Mezzo ไปชงกาแฟกันสิครับ
พันธุ์กาแฟ | อาราบีก้าผสมโรบัสต้า |
ระดับการคั่ว | คั่วเข้ม |
แหล่งที่มา | ภาคเหนือของไทย |
ขายแบบ | เมล็ดเต็ม / มีบริการบดต้องแจ้งหลังไมค์ |
ยอดขายในอินเตอร์เน็ท | 600 ++ |
9. ยี่ห้อ Duchess รส Espresso Max
ราคาโดยประมาณ 179 / 300 บาท ต่อ 200 / 500 g
Duchess เป็นอีกยี่ห้อชื่อดังที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ และมีสินค้าหลายอย่างขายในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็น พวกเครื่องชง, อุปกรณ์ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งวัตถุดิบอย่างเมล็ดกาแฟ ก็มีขายเช่นกันครับ โดยทางแบรนด์เขาก็จะมีขายกาแฟคั่วกันอยู่ 5 รสชาติ ได้แก่ Espresso Milano, Runjuan, Massimo, Espresso Roma และ Espresso Max โดยทั้งหมดจะมีระดับการคั่วที่ไปทางคั่วเข้ม ทำให้รสชาติจะออกแนว ขม ๆ เข้มข้น ๆ จึงไม่เหมาะสำหรับสายชอบกาแฟที่มีรสเปรี้ยวเล็ก ๆ หรือกลมกล่อม และถ้าถามว่า จะซื้อรสชาติไหนดี ขอแนะนำเป็น Espresso Max เลยครับ
เหตุผลก็เพราะ เป็นการใช้เมล็ดผสมพันธุ์กาแฟอย่างโรบัสต้าและอาราบิก้า ทำให้รสชาติที่ได้จะดึงเอาความเข้มข้นของโรบัสต้าและความนุ่มละมุนของอาราบิก้าออกมาได้ดี อีกทั้งยังมีความหอมของกลิ่นน้ำผึ้งป่าที่ได้มาจากเมล็ดฝั่งทวีปอเมริกาอีกด้วย รวมถึงมีการคั่วกาแฟเป็นระดับคั่วเข้ม ทำให้รสชาติโดยรวมจึงเข้มข้นมาก เหมาะสำหรับสายฮาร์ดคอสุด และที่สำคัญ มียอดขายที่ดีที่สุดจากทั้งหมด 5 รส ในระบบออนไลน์! ก็ถ้ากาแฟคั่วยี่ห้ออื่น ๆ ให้รสเข้มข้นที่ไม่สะใจ ลองจัด Duchess Espresso Max กันเลยครับ
พันธุ์กาแฟ | อาราบีก้าผสมโรบัสต้า |
ระดับการคั่ว | คั่วเข้ม |
แหล่งที่มา | ทวีปอเมริกาและภาคเหนือของไทย |
ขายแบบ | เมล็ดเต็ม |
ยอดขายในอินเตอร์เน็ท | 300 ++ |
10. ยี่ห้อ illy รส CLASSICO ROAST
ราคาโดยประมาณ 590 บาท ต่อ 250 g
หลาย ๆ คนน่าจะคุ้น ๆ และเคยผ่านตากับยี่ห้อกาแฟ illy จากอิตาลี (ดังมากกกที่โน่น) กันมาบ้าง โดยทางแบรนด์ เขาก็มีสินค้าที่เกี่ยวกับกาแฟวางขายหลากหลายเช่นกัน ซึ่งถ้าพูดถึงเมล็ดกาแฟล่ะก็ ต้องตัวนี้เลย CLASSICO ROAST ที่เป็นเมล็ดอาราบีก้าแท้ 100% และมีระดับการคั่วที่คั่วกลาง ทำให้รสชาติที่ได้จะออกนุ่ม ๆ ละมุน ๆ คุณภาพดี พร้อมด้วยรสกาแฟผสมอยู่ แต่ไม่เข้มข้นเท่าพวกคั่วเข้มเน้อ
นอกจากนี้ ทางแบรนด์ก็มีความพิเศษแตกต่างจากยี่ห้ออื่น ๆ ก็คือ เขาจะขายแบบเป็นกระป๋อง และทำการบดเมล็ดให้เรียบร้อยแล้ว (ไม่มีขายแบบเมล็ดเต็ม) ซึ่งสะดวกต่อการชงมาก ไม่ต้องเสียเวลามาบดเมล็ดกันเลย โดยรวมจึงเหมาะสำหรับพวกที่ชงดื่มกาแฟเป็นประจำเสมอ เปิดฝาปุ๊บชงดื่มปั๊บ แต่ขอเตือนนิดหนึ่งว่า ยี่ห้อนี้ราคาแพง! ที่ขนาด 250 g จะต้องจ่ายถึง 590 บาทเลยทีเดียว ก็ก่อนซื้อก็ดูงบกันดี ๆ ด้วยครับ
พันธุ์กาแฟ | อาราบีก้า 100% |
ระดับการคั่ว | คั่วกลาง |
แหล่งที่มา | N/A |
ขายแบบ | เมล็ดบดเรียบร้อยแล้ว |
ยอดขายในอินเตอร์เน็ท | 500 ++ |
ก็ได้เห็นกันไปแล้วกับรีวิว “เมล็ดกาแฟ / กาแฟคั่ว” ยี่ห้อไหนดี ถึง 10 ยี่ห้อให้ดูกัน ไม่ทราบว่า สายดื่มกาแฟสดทั้งหลาย สนใจ อยากจะซื้อยี่ห้อไหน เมล็ดไหน ไปใช้ชงกาแฟดื่มกันบ้างครับ ??? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ก็มีหลากหลายช่วงราคาและหลากหลายรสชาติของเมล็ดกาแฟกันเลยทีเดียว ยิ่งบ้างยี่ห้อมีรสชาติให้เลือกซื้อเยอะมากกกกก (น้องนางเงือกนั่นไง) หรือพวกรสแปลก ๆ อย่าง รสรัมเรซิ่น รสสตรอเบอรี่มิลค์เชค ก็ดูน่าสนใจ ดูแปลกใหม่ดีด้วย ยังไงก็ขอให้ได้กาแฟคั่วยี่ห้อที่ถูกใจ ชงแล้วได้กาแฟหอม ๆ อร่อย ๆ ตอบโจทย์กันด้วยครับผม
บรรณาธิการที่มีประสบการณ์ในการเขียนรีวิวสินค้าหลายชนิด
- สุขภาพ: อาหารเสริม, ออกกำลังกาย, การดูแลผิวพรรณ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: สมาร์ทโฮม, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องใช้ในบ้าน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- ของกิน: ขนมหวาน เครื่องดื่ม, อาหารสุขภาพ, และเทรนด์อาหารอื่น ๆ