หากใครกำลังแพลนที่จะเปลี่ยนทีวีธรรมดา ๆ ที่มีอยู่ที่บ้าน หรือจะซื้อทีวีใหม่ แน่นอนละ.. เปลี่ยนทั้งทีก็เอาให้ดีไปเลยจะดีกว่ามั้ยครับ ? เราจะมาพูดถึง ทีวี 4K นอกจากจะได้หน้าจอที่ใหญ่แล้วนั้น ยังช่วยให้ความละเอียดของภาพนั้นชัดขึ้นถึง ถึง 4 เท่า แถมยังสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ หรือจะเพลิดเพลินกับ Youtube Netflix แอพพลิเคชั่นอื่น ๆ ก็มีให้เลือกอีกมากมาย และยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ภาพนั้นสวยสมจริงสุด ๆ รวมถึงใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ เช่น มือถือ เครื่องเกมส์ ส่วนราคาสมาร์ททีวีทั่ว ๆ ไป กับ ทีวี 4K ราคาห่างกันไม่มากนัก เพิ่มเงินอีกนิดหน่อย แต่ได้ความบันเทิงที่หลากหลายกว่า แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี เราก็มีบทความรีวิว “ทีวี 4K” ยี่ห้อไหนดี ให้เลือกถึง 10 ยี่ห้อ จะมีรุ่นไหนกันบ้าง ลองมาอ่านกันเลยครับ
สารบัญ
วิธีเลือกซื้อ “ทีวี 4K”
ก่อนที่จะเลือกซื้อทีวี 4K ทางเราแนะนำให้ตรวจสอบระยะห่าง ระหว่างทีวี 4K กับพื้นที่สำหรับนั่งดูก่อนอันดับแรก เพื่อให้คุณจะได้รับชมทีวีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไปกับรายละเอียดของสิ่งที่กำลังรับชมได้อย่างครบถ้วนมากที่สุด ทั้งภาพและเสียง ซึ่งเราก็มีระยะห่างที่เหมาะสมสำหรับรับชม ทีวี 4K ดังนี้ครับ
ขนาด 43 นิ้ว ควรมีระยะห่างระหว่างทีวีกับที่นั่ง 2-2.5 เมตร
ขนาด 50-55 นิ้ว ควรมีระยะห่างระหว่างทีวีกับที่นั่ง 2.5-3 เมตร
ขนาด 65 นิ้ว ขึ้นไป ควรมีระยะห่างระหว่างทีวีกับที่นั่ง ตั้งแต่ 3 เมตร ขึ้นไปครับ
(1.) ขนาดหน้าจอ หลาย ๆ คน ให้ความสำคัญกับขนาดของหน้าจอมาก่อนอันดับแรก ยิ่งมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ ก็จะช่วยให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น เพิ่มความเพลิดเพลิน ความสนุกและตระการตามากขึ้น แต่สุดท้ายแล้ว อย่าลืมคำนึงถึงพื้นที่สำหรับการติดตั้งของทีวี ไม่ว่าจะเป็นชั้นวาง ก็ต้องสำรวจก่อนว่าจะไม่ไปชนกับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ หรือแบบแขวน ก็ต้องมั่นใจว่าที่แขวนทีวีนั้นสามารถรองรับน้ำหนักของตัวทีวีได้เพียงพอ เพื่อไม่ให้ทีวีนั้นตกหล่นเสียหายในภายหลังครับ
(2.) เลือกจากประเภทหน้าจอ
LCD : ให้ความละเอียดของภาพสูงและคมชัด แต่กินไฟมากกว่าเมื่อเทียบกับจอภาพชนิดอื่น ๆ
LED : ให้ความละเอียดของภาพสูงและคมชัด ให้แสงสว่างและสีสันที่สดใส น้ำหนักเบา และกินไฟน้อยกว่า LCD
QLED : ให้ภาพที่คมชัดน้อยกว่า OLED แต่ยังคงความสวยงามของภาพ และดูเป็นธรรมชาติ จอภาพร้อนช้ากว่าและมีราคาย่อมเยากว่า OLED ครับ
OLED : เป็นจอภาพที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ให้ภาพที่คมชัด สวยงาม สดใสเป็นธรรมชาติ สามารถควบคุมเม็ดสีและความสว่างได้แม่นยำ กินไฟน้อยแต่จอภาพค่อนข้างที่จะร้อนเร็ว
(3.) เลือกจากระบบปฏิการ ปัจจุบันก็เริ่มมีการนำระบบปฏิบัติการต่าง ๆ เช่น Smart TV, Android, Tizen และ Web OS เข้ามาเพื่อเพิ่มความสามารถและความสนุกให้กับทีวี ให้มีความหลากหลาย สามารถโหลดแอพพลิเคชั่นหรือเกมส์เพิ่มเติมได้ โดยไม่ต้องหาอุปกรณ์ IoT บางอย่างมาต่อให้รกรุงรัง เช่น กล่อง Android TV, Apple TV
(4.) เลือกจากฟังก์ชั่นอื่น ๆ เช่น Dolby Vision, HDR10 ที่ช่วยให้ภาพสวยมีมิติ ดูสมจริง เป็นธรรมชาติและมีความคมชัดใกล้เคียงกับสายตามนุษย์, Dolby Audio ช่วยเพิ่มมิติและคุณภาพเสียงแบบเดียวกันกับระบบเสียงที่ใช้ในโรงภาพยนตร์, การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ อย่าง 4K Bluray เพื่อเพิ่ม Bit Rate ทำให้เกิดความคมชัดสูงและเต็มประสิทภาพมากขึ้นครับ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “ทีวี 4K” ยี่ห้อไหนดี
หากคนไหนไม่มีเวลาที่จะอ่านแบบละเอียดละก็ ทางเราก้ได้ทำ ตารางเปรียบเทียบรีวิว “ทีวี 4K” ยี่ห้อไหนดี สรุปให้แบบสั้นๆ ทั้งขนาดหน้าจอ ประเภทจอ ระบบปฏิบัติการ คุณสมบัติอื่น ๆ และการรับประกันมาให้แล้ว สามารถคลิกปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลยครับ
1. CHiQ UHD Android Smart LED TV รุ่น U55G7N 55″ ดีไซน์ไร้ขอบ 4K
ราคาโดยประมาณ 8,999 บาท
CHiQ แบรนด์น้องใหม่จากประเทศจีน ถึงจะใหม่ในตลาดแต่ก็ได้การยอมรับว่าเป็นท็อป 10 ของแบรนด์ระดับโลก และได้กวดรางวัลมากมายใน Global Top Brands (GTB) Awards 2564-2565 ที่ลาสเวกัส มีรางวัลมาการันตีขนาดนี้ จึงมั่นใจและเชื่อมั่นในสินค้าของเค้าได้เลยครับ CHiQ UHD Android Smart LED TV ขนาดหน้าจอ 55 นิ้ว มาพร้อมกับระบบปฏิการ Android ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล CPU A55 64Bit แบบ 4 แกนที่ทรงพลัง และ Mail 470 GPU แบบสามคอร์ ที่ช่วยให้เล่นเกมได้ลื่นไหล
CHiQ UHD Android Smart LED TV ยังดีไซน์มาแบบไร้ขอบ ลดการรบกวนสายตาจากขอบสีดำและยังช่วยให้การแสดงผลนั้นเต็มหน้าจอ ความละเอียดสูงสุด 3840×2160 มีเทคโนโลยี 4K UHD ให้ภาพที่ราบรื่นและสมจริง บวกกับเทคโนโลยี Dolby Vision และ HDR10 ช่วยให้ภาพนั้นเห็นรายละเอียดได้มากขึ้น และ Dolby Audio ลำโพงเสียงแหลมแยกอิสระ 2+2 ตัว ให้เสียงพูดที่ชัดขึ้น เสียงเบสที่ดีและกว้างขึ้น เรียกว่าจะดูหนังจาก Youtube หรือ Netflix ก็ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับประสบการณ์การรับชมเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์เลยครับ
ขนาดหน้าจอ | 55 นิ้ว |
ประเภทจอ | LED |
ระบบปฏิบัติการ | Android |
คุณสมบัติอื่น ๆ | HDR10, Dolby Vision, Dolby Audio |
การรับประกัน | 3 ปี |
2. Xiaomi TV UHD LED 43″ รุ่น Mi TV P1 43″
ราคาโดยประมาณ 8,790 บาท
เอาใจทาส Xiaomi กันบ้าง ด้วย Xiaomi TV UHD LED 43″ รุ่น Mi TV P1 43″ ที่มาพร้อมกับหน้าจอแบบ LED ที่ให้ความคมชัด สีสันสดใสเป็นธรรมชาติ มีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 3840 x 2160 พิกเซล ขนาด 43 นิ้ว แบบไร้ขอบด้วยมุมการมองเห็นที่กว้างถึง 178 องศา ทำให้เก็บทุกรายละเอียดของภาพได้ครบ ขนาดของตัวทีวีกำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป มีหน่วยประมวลผล Quad-Core ที่ช่วยให้ทำงานได้เร็วและลื่น ไม่มีสะดุด
Xiaomi TV P1 ยังรองรับ Dolby Vision ช่วยให้ภาพและสีนั้นมีความสมจริงมากขึ้น รวมถึงมีเทคโนโลยี MEMC ที่ช่วยให้ภาพลื่นไหล ไม่มีกระตุกเหมาะกับคนที่ชอบดูรายการประเภท งานกีฬา งานแข่งรถ แน่นอนว่าไม่พลาดที่จะมี Dolby Audio และ DTS-HD กับลำโพงสเตอริโอ 10W สองตัว ที่ให้เสียงคมชัด ทรงพลังในทุกมิติเหมือนนั่งอยู่ในโรงหนัง และยังสามารถควบคุมผ่าน Smart Home Control ได้ง่าย ๆ ที่บ้านครับ
ขนาดหน้าจอ | 43 นิ้ว |
ประเภทจอ | LED |
ระบบปฏิบัติการ | Android 10 |
คุณสมบัติอื่น ๆ | HDR, DTS HD, Dolby Vision, Dolby Audio, MWMC, Smart Home Control |
การรับประกัน | 3 ปี |
3. Sony KD-55X85J 55 นิ้ว” 4K Ultra HD High Dynamic Range
ราคาโดยประมาณ 26,990 บาท
สาวกอารยธรรมหรือสาวกชาว Sony ต้องห้ามพลาด กับ Sony KD-55X85J 55 นิ้ว” 4K Ultra ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ ถึง 55 นิ้ว ใหญ่แบบเต็มตา ถึงแม้จะเป็นจอ LCD แต่ทาง Sony ก็ไม่หวั่น แก้ทางโดยใช้เทคโนโลยีที่หลากหลายเข้ามาช่วย เช่น 4K HDR Processor X1 ช่วยเพิ่มรายละเอียดของภาพให้คมชัดมากขึ้น, TRILUMINOS PRO ตรวจจับสีและความสว่างเพื่อประมวลเฉดสีให้มีความธรรมชาติ, Object-based HDR Remaster ปรับคอนทราสสีตามวัตถุ ช่วยให้ภาพมีมิติมากขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น หากหนังหรือวีดีโอใดที่เป็น Full HD หรือ 2K ก็จะถูกประมวลโดย 4K X-Reality PRO จะทำการเพิ่มสเกลของภาพให้ใกล้เคียงกับ 4K ทันที, Motionflow XR ช่วยปรับให้ภาพดูสมูทและเนียนตามากขึ้น พลาดไม่ได้ทั้ง Dolby Vision และ Dolby Atmos ที่เข้ามาช่วยให้ภาพดูสมจริงและให้รายละเอียดเสียงได้ครบทุกมิติ รวมถึงมีเซนเซอร์ที่ช่วยปรับแสงทีวีอัตโนมัติ ตามสภาวะแวดล้อมเพื่อให้เหมาะกับสายตาของเราอีกด้วยครับ
ขนาดหน้าจอ | 55 นิ้ว |
ประเภทจอ | LCD |
ระบบปฏิบัติการ | Smart TV |
คุณสมบัติอื่น ๆ | Android TV, 4K HDR Processor X1, HDR, HLG, Dolby Vision, Dolby Audio และอื่น ๆ |
การรับประกัน | 3 ปี |
4. COOCAA 55S6G PRO TV 55″ Android TV LED 4K UHD
ราคาโดยประมาณ 9,290 – 10,990 บาท
Coocaa แบรนด์ Smart TV แบรนด์น้องใหม่จากจีน ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ราคาโดนใจ ตั้งแต่วัยเรียนจนไปถึงวัยทำงาน เราก็จะมาพูดถึงรุ่น COOCAA 55S6G PRO TV 55″ Android TV LED 4K UHD ที่มีจอใหญ่เต็มตาถึง 55 นิ้ว ความละเอียด 3840×2160 พิกเซล มีเทคโนโลยี HDR ที่เข้ามาช่วยให้ภาพสวยสมจริง เป็นธรรมชาติ และแน่นอนครับเติมเต็มด้วยระบบเสียงเทียบเท่าโรงหนังด้วย Dolby Audio & DTS ที่ให้เสียงกระจายได้รอบทิศทาง ครบทุกมิติ
และยังเอาใจคนรักเสียงเพลงที่สามารถปรับเพิ่มลดเสียงแหลม เสียงเบส หรือเสียงร้อง ด้วย Wonder Audio Live ให้เสียงสมจริงเหมือนได้อยู่ในคอรเสิร์ตจริง ๆ อีกด้วย ส่วนตัวระบบปฏิบัติการนั้น ใช้เป็น Android10 ที่ช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินสามารถโหลดแอพพลิเคชั่นหรือเกมส์เพิ่มได้จาก Google Play Store มีหน่วยประมวลผล CPU A53*4-1.5GHz ที่ช่วยให้ทำงานได้ลื่นไหล GPU Mali-G52 ที่เข้ามาช่วยให้ภาพสมูท เล่นเกมส์ได้ไม่มีกระตุก และชิปประมวลผลภาพ Chameleon Extreme 2.0 ที่มาช่วยเพิ่มการแสดงผลภาพของ AI ให้ดีขึ้นอีกด้วยครับ
ขนาดหน้าจอ | 55 นิ้ว |
ประเภทจอ | LED |
ระบบปฏิบัติการ | Android 10 |
คุณสมบัติอื่น ๆ | HDR, Dolby Audio & DTS |
การรับประกัน | ตัวเครื่อง 3 ปี และหน้าจอ 1 ปี |
5. SAMSUNG TV QLED 4K (2022) Smart TV 43″ Q65B Series รุ่น QA43Q65BAKXXT
ราคาโดยประมาณ 16,990 บาท
แน่นอนครับ จะลืมแบรนด์ดัง เจ้าใหญ่แห่งยุคอย่าง SAMSUNG ไปได้ยังไง กับ SAMSUNG TV QLED 4K (2022) Smart TV 43″ Q65B Series รุ่น QA43Q65BAKXXT ที่มาพร้อมกับหน้าจอ QLED หน้าจอที่ดีที่สุดแห่งยุคที่ให้ภาพสวย สมจริงเป็นธรรมชาติ สุด ๆ กับขนาดหน้าจอถึง 43 นิ้ว มีชิพประมวลผล Quantum Processor Lite 4K ที่มาช่วยให้ภาพลื่นไหลเนียนตา ไม่สะดุด และยกระดับประสบการณ์เกมมิ่งสู่ซัมซุงทีวี ให้สามารถปรับการรีเฟรชแบบไดนามิกของเกมส์ เพื่อให้เกมส์มีภาพที่ลื่นไหลและสนุกยิ่งขึ้นด้วย Motion Xcelerator
นอกจากนั้นยังมี Q-Symphony เป็นการใช้ลำโพงจาก TV และ Soundbar มาทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มพลังเสียงให้ทรงพลังมากขึ้น, มีเทคโนโลยี Object Tracking Sound Lite ช่วยจำลองเสียงจากทิศทางด้านบนเพื่อเพิ่มมิติของเสียง, Adaptive Sound ที่ช่วยปรับเสียงให้เหมาะสมกับคอนเทนท์ต่าง ๆ เช่น หนังแอ๊คชั่น คอนเสิร์ต และกีฬา ไม่เพียงเท่านั้น ยังมี Workspace ที่สามารถใช้เรียน หรือทำงานผ่านจอทีวีได้อีกด้วย และ Multi View ที่สามารถแบ่งจอเพื่อดูความบันเทิงไปพร้อม ๆ กันถึง 2 แอพไปเลย เรียกว่าพี่เค้าจัดเต็มให้เกินราคาจริง ๆ ครับ
ขนาดหน้าจอ | 43 นิ้ว |
ประเภทจอ | QLED |
ระบบปฏิบัติการ | Tizen |
คุณสมบัติอื่น ๆ | Dolby Digital Plus, Object Tracking Sound, Q-Symphony Lite, Dialog Enhancement, Multiroom Link, Blutooth Audio |
การรับประกัน | 1 ปี / ลงทะเบียนในเว็บไซต์ Samsung.co.th รับประกันเพิ่มเป็น 2 ปี |
6. LG 43″ NANO75SQA NanoCell 4K Smart TV รุ่น 43NANO75SQA
ราคาโดยประมาณ 14,500 – 14,990 บาท
เอาใจสาวกคนรัก LG กันบ้าง กับ LG 43″ NANO75SQA NanoCell 4K Smart TV รุ่น 43NANO75SQA ที่มาพร้อมหน้าจอขนาด 43 นิ้ว และจอก็เป็นจอที่ทาง LG พัฒนาขึ้นเองโดยใช้ชื่อว่า NanoCell เค้าเคลมว่า ให้ความแม่นยำของเม็ดสีสีที่เป็นธรรมชาติกว่าพันล้านสี รวมถึงความละเอียดของภาพ ที่ละเอียดถึงระดับนาโนกันเลยทีเดียว ประกอบกับมี Dolby Vision และโหมดภาพยนต์ที่ถูกปรับแต่งเป็นพิเศษจากสตูดิโอก็ยิ่งทำให้ภาพนั้นสวยสมจริงยิ่งขึ้นไปอีก เรื่องเสียงก็ไม่เป็นสองรองใคร ทั้ง Dolby Audio ที่จัดเต็มด้วยพลังเสียงถึง 20 วัตต์ เรียกได้ว่าเหมือนอยู่ในโรงหนังดี ๆ เลยหละ
มีโปรเซสเซอร์ 4K ช่วยในการขจัดสัญญาณรบกวน สร้างคอนทราสต์ของสีให้มีมิติและชัดเจนมากขึ้น รวมถึงการสเกลอัพวีดีโอที่มีคุณภาพต่ำให้แสดงผลเทียบกับ 4K อีกด้วย สายเกมมิ่งอย่าเพิ่งถอนหายใจ เพราะยังมี Nano XP ที่ช่วยเพิ่มให้สีสันของเกมส์นั้นสวยสะดุดตา และยังมี Game Optimizer ที่ช่วยปรับเปลี่ยนการกราฟฟิกและการแสดงผลไปตามประเภทเกมส์ที่เราเล่นอีกด้วย หากจะใช้งานคู่กับ Xbox ก็ยิ่งปังไปใหญ่ เพราะเค้าพัฒนามาให้ใช้คู่กัน แถมยังรองรับเกมส์ใหม่ ๆ ในอนาคตได้อีก และยังสามารถสั่งการด้วยเสียงและควบคุมระบบ IoT ได้ ง่าย ๆ ผ่านระบบ LG ThinQ ครับ
ขนาดหน้าจอ | 43 นิ้ว |
ประเภทจอ | NanoCell Display |
ระบบปฏิบัติการ | ThinQ AI |
คุณสมบัติอื่น ๆ | HDR, Dolby Vision, Dolby Audio |
การรับประกัน | 1 ปี |
7. TCL TV (2022) 65″ LED 4K UHD Google TV Wifi Smart TV รุ่น 65P736
ราคาโดยประมาณ 49,990 บาท
TCL แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติจีนอีกนึงแบรนด์ ที่มีอยู่ในตลาดของไทยอย่าง TCL TV (2022) 65″ LED 4K UHD Google TV Wifi Smart TV รุ่น 65P736 ที่มีหน้าจอมาใหญ่แบบอลังการถึง 65 นิ้ว แน่นอนที่ขาดไม่ได้สามารถพื้นฐาน ที่ช่วยให้ภาพสวยสมจริง เก็บทุกรายละเอียด มีมิติอย่าง HDR, Dolby Vision และเพิ่มพลังเสียงที่ทรงพลัง สมจริงได้รอบทิศทางด้วย Dolby Audio เพิ่มเติมเทคโนโลยี MEMC 60 Hz ที่เข้ามาช่วยเพิ่มเฟรมเรทให้ภาพลื่นไหล ไม่มีกระตุก ลดการฉีกขาดของภาพ เหมาะกับรายการประเภท กีฬาความเร็วต่าง ๆ ดังนั้นเรื่องภาพและเสียงนั้นหายห่วงไปได้เลยครับ
นอกจากนั้น ยังมี Wide Color GAMUT Technology ที่ช่วยเพิ่มความสามารถของเม็ดสีให้กว้างมากถึง 97% ทำให้หน้าจอมีสีสันสดใส สะดุดตา มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android สามารถโหลดแอพพลิเคชั่นหรือคอนเทนท์เพิ่มเติมได้สบาย ๆ ควบคุมด้วยชิปประมวลผล CPU AiPQ 2.0 เน้นเอา AI มาช่วยปรับปรุงการแสดงผล ทำให้สีสันของภาพมีความสดใส ส่วนทางด้านเสียงก็ถูกพัฒนาให้ฉลาดยิ่งกว่าเดิม ด้วยพลัง AI สามารถปรับเสียง ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตอนนี้อีกด้วยครับ
ขนาดหน้าจอ | 65 นิ้ว |
ประเภทจอ | LED |
ระบบปฏิบัติการ | Android 10 |
คุณสมบัติอื่น ๆ | HDR, Dolby Vision, Dolby Audio |
การรับประกัน | 3 ปี |
8. Hisense TV 75E7H 75″ 4K UHD Google MEMC Smart TV (2022)
ราคาโดยประมาณ 27,190 บาท
Hisense อีกหนึ่งแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า จากจีน ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากในไทย เพราะด้วยมีราคาที่แสนถูก พร้อมเตะตัดขาคู่แข่งแบบ 100% อย่างเช่น Hisense TV 75E7H 75″ 4K UHD Google MEMC Smart TV (2022) ที่มีหน้าจอแบบอลังการเวอร์วังบ้านทรายทอง ถึง 75 นิ้ว ในราคาไม่ถึง 30,000 นอกจากจะมีจุดเด่นเรื่องราคาแล้ว ก็ยังจัดเต็มเรื่องฟังก์ชันที่ยังมีมาให้ครบครันแบบไม่ให้ได้พักกันเลย
อย่างเช่น HDR และ Dolby Vision ที่ช่วยให้ภาพสมจริง ดูเป็นธรรมชาติ ระบบเสียงก็หายห่วงเพราะมี Dolby Audio ที่ช่วยเพิ่มมิติเสียงได้อย่างครบครัน จุดเด่นของรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Screen mirroring ที่รองรับการฉายภาพหน้าจอ DLNA/MiraCast/Chromecast โดยใช้แค่โทรศัพท์ส่งคอนเทนท์ต่าง ๆ ไปยังทีวีได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะอยู่นอกบ้าน หรือที่ทำงาน เรียกว่าถึงตัวจะไม่ได้อยู่ที่บ้านก็สามารถโดยคอนเทนท์ไปให้คนที่บ้านได้ดูแบบเก๋ ๆ จะค้นหาหนัง หรือเพลงด้วยเสียง ก็ทำได้ สายเกมส์เค้าก็มี Game Mode มาให้ด้วยนะ ทั้ง VRR, ALLM, MEMC ก็จะเข้ามาช่วยให้เล่นเกมส์ลื่นไหล ไม่มีสะดุดเลยครับ
ขนาดหน้าจอ | 75 นิ้ว |
ประเภทจอ | N/A |
ระบบปฏิบัติการ | Android |
คุณสมบัติอื่น ๆ | HDR, Dolby Vision, Dolby Audio |
การรับประกัน | 3 ปี |
9. Aconatic LED Android TV 4K HDR 50″ รุ่น 50US100AN
ราคาโดยประมาณ 9,590 บาท
Aconatic แบรนด์ไทยแท้ 100% ของเราก็ไม่น้อยหน้าพี่จีนเค้านะ กับ Aconatic LED Android TV 4K HDR 50″ รุ่น 50US100AN ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ ถึง 50 นิ้ว เรียนกว่ากำเงินแค่ 10,000 บาทมาก็ยังมีเงินทอนกลับไปอีก เจ้า Aconatic 50US100AN ยังมาพร้อมกับชิปประมวลผลแบบ Quad Core ที่ให้ความเร็ว และความลื่นไหลแบบกลาง ๆ แต่ถือว่าก็คุ้มค่ากับราคานี้ อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ให้คุณได้เพลิดเพลินกับแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ ก็สามารถโหลดเพิ่มมาได้
เพราะเป็นแบรนด์ของคนไทย ดังนั้นสามารถค้นหาหนังหรือเพลงได้ง่าย ๆ เป็นภาษาไทย ซึ่งจะบอกว่าในหลาย ๆ แบรนด์ดัง ภาษาไทยก็ยังไม่รองรับนะ หรือจะสั่งการ TV ด้วยเสียงก็สะดวกสุด ๆ เพลิดเพลินกับ Youtube Netflix หรือ Disney Hostar ก็มีมาให้ มีระบบ Real Color ที่เพิ่มสีสันให้สดใส, Brightness ที่สามารถเพิ่มความสว่างของจอได้มากกว่าปกติ รวมถึง Intelligent Processor ที่เข้ามาประมวลสีของคอนทราสต์ให้สมจริงและดูมีมิติมากขึ้น เรียกว่าราคานี้ยังไงก็คุ้มสุด ๆ ครับ
ขนาดหน้าจอ | 50 นิ้ว |
ประเภทจอ | LED |
ระบบปฏิบัติการ | Android |
คุณสมบัติอื่น ๆ | HDR, Dolby Vision, Dolby Audio |
การรับประกัน | 3 ปี |
10. Panasonic LED TV TH-50HX720T 4K TV 50″ Android TV
ราคาโดยประมาณ 16,090 บาท
มาถึงรุ่นสุดท้ายกันแล้วนะครับ กับ Panasonic LED TV TH-50HX720T 4K TV 50″ Android TV ที่มาพร้อมกับจอขนาด 50 นิ้ว มาพร้อมกับเทคโนโลยี 4K Colour Engine เป็นการปรับพื้นฉากสว่างและมืดเพื่อให้เหมาะสมกับฉากอันสมจริง และยังช่วยให้มีความละเอียดสูง คมชัดทุกรายละเอียด, Hexa Chroma Drive ช่วยปรับให้โทนสีผิวเป็นธรรมชาติและมีสีสัน รวมถึงเพิ่มความคมชัดให้รายละเอียดของภาพ หากไม่พอใจก็ยังสามารถปรับโหมดภาพ เพิ่มเติมได้ เช่น โหมดคมชัด / มาตรฐาน / กีฬา / ผู้ใช้ / ภาพยนตร์
มีระบบเสียง Surround Dolby Audio / DTS True surround ที่ช่วยให้เก็บมิติและรายละเอียดของเสียงได้ครบถ้วน รวมถึงให้เสียงอันทรงพลังจนน่าทึ่ง มีโหมดเสียงให้ปรับแต่งเพิ่มเติม เช่น โหมดเสียง มาตรฐาน / เพลง / กีฬา / ภาพยนตร์ และแน่นอนยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android ที่ให้คุณเพลิดเพลินกับแอพสตรีมมิ่ง ไม่ว่าจะ Youtube Netflix หรือจะโหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมง่าย ๆ ก็เพียงปลายนิ้วครับ
ขนาดหน้าจอ | 50 นิ้ว |
ประเภทจอ | LED |
ระบบปฏิบัติการ | Android |
คุณสมบัติอื่น ๆ | HDR, Dolby Vision, Dolby Audio |
การรับประกัน | 3 ปี |
เป็นยังไงบ้างครับ กับบทความ “ทีวี 4K” ยี่ห้อไหนดี 2022 ที่เราได้รวบรวมมาให้ ถึง 10 ยี่ห้อ บางท่านอยากจะได้จอใหญ่ ๆ แต่บางท่านก็อยากได้จอแบบชัด ๆ แต่สุดท้ายแล้ว ลองคำนึงและเปรียบเทียบกับความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปดูนะครับ เผื่อบางท่านที่เป็นสาวกแบรนด์ใด แบรนด์นึง อาจจะต้องนอกใจไปลองแบรนด์อื่น ๆ ดูบ้าง เพื่อให้ได้ความคุ้มค่าแบบจริง ๆ สุดท้ายแล้วอย่าลืมคำนึงถึงพื้นที่นั่งกับระยะที่ติดตั้ง ทีวี 4K กันด้วยนะครับ ตั้งใกล้เกินไปอาจจะทำให้สายตาเราเสียได้ หวังว่าหลาย ๆ ท่าน น่าจะได้รุ่นที่ชอบกันแล้วนะครับ กำเงินแน่น ๆ ไปกดช็อปปิ้ง แล้วรอของมาส่งถึงหน้าบ้านกันได้เลยครับ : )
บรรณาธิการทางด้าน IT Gadget และของใช้อื่น ๆ มีประสบการณ์ด้าน IT Support และการขายอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์มานานกว่า 10 ปี นอกจากนี้ยังมีความเชี่ยวชาญทางด้านเน็ตเวิร์ก ชอบลองอุปกรณ์แกดเจ็ทใหม่ ๆ ขยันทดลองสกินแคร์ ศึกษาแพทย์แผนทางเลือก แล้วก็ยังเป็นนักเล่นเกม JRPG อีกด้วย