กำลังมีปัญหากับพวกหนังกำพร้าตามนิ้วมือนิ้วเท้า หรือหนังหลุด ๆ บริเวณจมูกเล็บกันอยู่ จนอยากจะได้ “กรรไกรตัดหนัง” ดี ๆ สักยี่ห้อ เพื่อไปใช้จัดการปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ไม่รู้จะซื้อยี่ห้อไหนดี ดันมีให้เลือกซื้อกันเยอะมากกกก ก็บอกเลยว่าคลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะที่นี่ ทางผมได้ไปรวบรวมยี่ห้อที่น่าสนใจ ยี่ห้อที่คม ๆ ใช้ตัดหนังได้ดี รวมถึงมีรีวิวดีงาม มาแนะนำให้ดูกันถึง 10 ยี่ห้อ กันเลยทีเดียว และถ้าทุกคนได้ลองอ่านเนื้อหากันจนจบล่ะก็ จะได้ไอเดีย หรือยี่ห้อที่อยากเลือกซื้อกันอย่างแน่นอนครับผม !
สารบัญ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว กรรไกรตัดหนัง ยี่ห้อไหนดี
เผื่อใครที่อยากจะเห็นสินค้าแบบพร้อม ๆ กัน รวมถึงสามารถเลื่อนตารางไปมา เพื่อทำการเปรียบเทียบรายละเอียด, วัสดุ, น้ำหนัก, ขนาด รวมถึงราคาได้แบบง่าย ๆ ทางผมก็อยากให้ลองคลิกที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลยครับ
1. manicare
ราคาโดยประมาณ 1,485 บาท
จะตัดหนังเล็บทั้งที ก็ต้องตัดให้มีคุณภาพ ยิ่งคนที่ถนอมนิ้วและเล็บอย่างดียิ่งต้องใส่ใจ จะมาใช้กรรไกรตัดหนังไก่กาไม่ได้ ต้องนี่เลย manicare Cuticle Clippers แบรนด์ดังคุณภาพส่งตรงจากออสเตรเลีย วัสดุก็ทำจากสเตนเลสอย่างดีไม่เป็นสนิม รวมถึงผิวก็ขัดเงาซาติน (การขัดรอยทรายไปทางเดียว) พร้อมทั้งดีไซน์เรียบหรูดูดี ด้ามจับเคลือบสีดำสวยงามครับ
ส่วนปลายมีความโค้งหนาและแหลม เหมาะสำหรับใช้ตัดหนังกำพร้ารอบ ๆ หรือจมูกเล็บ และถึงจะบอกว่าเอาไว้ใช้ตัดบริเวณเล็บมือ แต่ถ้าชำนาญหน่อยจะเอาไปตัดบริเวณเล็บเท้าก็ได้ ไม่มีใครว่า อย่าลืมว่าก่อนตัดให้แช่เล็บในน้ำอุ่นก่อน เพื่อให้เล็บนิ่มกับตัดง่ายขึ้น และดันตัวก้านสปริงขึ้นไปด้านบนก่อนใช้กรรไกรด้วยครับ
วัสดุ | Stainless Steel |
ลักษณะปลายกรรไกร | โค้งปลายแหลม |
ขนาด | N/A |
น้ำหนัก | N/A |
เหมาะสำหรับ | หนังกำพร้า, จมูกเล็บ |
2. MR.GREEN
ราคาโดยประมาณ 299 – 339 บาท
อยากให้นิ้วและเล็บสวยงามสะอาดก็ต้องลงทุนกันหน่อย แต่ถ้างบไม่สูงมากก็แนะนำ MR.GREEN กรรไกรตัดหนังที่ราคาไม่แรง แต่ได้มาตรฐานจากประเทศเยอรมนีเลยทีเดียว หลายคนเวลาตัดหนังมักจะเจอปัญหามองไม่เห็น ปลายกรรไกรมาบังสายตาเองซะงั้น ตัวนี้ไม่มีปัญหา เพราะเขาออกแบบใบมีดให้เอียงไม่บังวิสัยทัศน์ ช่วยให้ตัดได้แม่นยำขึ้นครับ
ส่วนของขนาดก็อยู่ที่ 55 x 108 มิลลิเมตร น้ำหนัก 126 กรัม ดีไซน์ช่วงด้ามก็ตามหลัก Ergonomics จึงจับง่ายกระชับมือ มีสปริงช่วยให้ออกแรงบีบตัดได้ดี มีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้น จะซื้อแบบกรรไกรเดี่ยว ๆ หรือจะจัดเซ็ตคู่กับที่ดันหนังอีกชิ้นก็ได้ เอาไว้ใช้เสริมในการขูดเศษหนังตามขอบเล็บ โคนเล็บ และใช้ขูดสิ่งสกปรกออกด้วย เรียกว่าจับคู่กันแล้วเพอร์เฟ็กต์ เล็บสวยแจ่ม ๆ แน่นอนครับ
วัสดุ | Stainless Steel |
ลักษณะปลายกรรไกร | ใบมีดเอียง |
ขนาด | 55 x 108 mm |
น้ำหนัก | 126 g |
เหมาะสำหรับ | หนังกำพร้า |
3. Monja D-501
ราคาโดยประมาณ 48 บาท
สำหรับใครไม่ซีเรียสมาก แค่อยากหากรรไกรตัดหนังสักอันมาใช้ง่าย ๆ ราคาเบา ๆ แนะนำยี่ห้อ Monja D-501 ที่ราคาไม่ถึงครึ่งร้อย !! จ่ายน้อยแต่ใช้นาน ตัวกรรไกรก็ทำจากสเตนเลสไม่เป็นสนิม ส่วนปลายมีความโค้งแหลม ช่วยให้ตัดหนังกำพร้าบริเวณรอบ ๆ เล็บได้ดี ตัวด้ามก็สีทองสวยงามครับ
ส่วนขนาดก็อยู่ที่ 65 x 150 มิลลิเมตร อีกทั้งใครที่ไม่ชอบใช้กรรไกรหนัก ๆ ต้องเลิฟ เพราะตัวนี้มีน้ำหนักเบาแค่ 32 กรัม ถือสบาย ๆ เบามือมาก ๆ และตัวด้ามก็มีสปริง 2 ชั้น ช่วยให้ออกแรงบีบตัดได้ดีและแม่นยำยิ่งขึ้น งานก็ส่งจากจีนแต่รอไม่นาน ดูรีวิวผู้ใช้แล้วจัดว่าดีงาม ด้วยราคาที่ประหยัด ยอดขายจึงค่อนข้างสูง เสียงส่วนใหญ่ว่าคุณภาพดีคุ้มค่าเงินครับ
วัสดุ | Stainless Steel |
ลักษณะปลายกรรไกร | โค้งแหลม, ใบมีดเอียง |
ขนาด | 65 x 150 mm |
น้ำหนัก | 32 g |
เหมาะสำหรับ | หนังกำพร้า |
4. llano LL-SPJ01
ราคาโดยประมาณ 219 – 329 บาท
ได้มาตรฐานแถมราคาประหยัดอีกต่างหาก สำหรับ llano LL-SPJ01 กรรไกรตัดหนังเล็บรุ่นนี้ บอกเลยว่าคุ้มราคามาก ๆ โดยวัสดุทำจากสเตนเลสคุณภาพ เกรด 420J2 เกรดทางการแพทย์ที่มีความแข็งแรง ทนการกัดกร่อนได้ดี ปลายกรรไกรก็มีความโค้งและใบมีดเอียงช่วยให้ไม่บังสายตาเวลาใช้งาน น้ำหนักก็เบาเพียง 40 กรัม ใช้งานง่ายไม่เมื่อยมือครับ
อีกทั้งยังออกแบบด้ามจับตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) ทำให้จับถนัดและสะดวกเหมาะกับสรีระของมือ รวมถึงมีสปริงสองชั้นช่วยให้ออกแรงบีบได้ดี ใช้เสร็จสามารถล้างทำความสะอาดได้ไม่ต้องห่วงเรื่องสนิม นอกจากตัวกรรไกรแล้ว ยังสามารถซื้อแบบยกเซ็ต 4 ชิ้น เอาไปแต่งเล็บให้สวยทุกมิติได้เลย ทั้งกรรไกรตัดหนัง, ที่ดันหนัง, ที่กำจัดหนังตาย 2 หัว และตะไบเล็บแก้ว บอกเลยจัดยกชุดให้เป็นของขวัญนี่ คนรักสวยรักงามรับรองถูกใจแน่นอนครับ
วัสดุ | Stainless Steel |
ลักษณะปลายกรรไกร | โค้งแหลม, ใบมีดเอียง |
ขนาด | 67 x 105 mm |
น้ำหนัก | 40 g |
เหมาะสำหรับ | หนังกำพร้า |
5. RHINO S75
ราคาโดยประมาณ 199 บาท
เรียกว่าเป็นแบรนด์ผู้ผลิตมีดและกรรไกรคุณภาพสำหรับยี่ห้อ RHINO ไม่เว้นแม้แต่กรรไกรตัดเล็บ ตัดหนังเล็บ อย่างตัวนี้เป็นกรรไกรตัดหนัง รุ่น S75 ปลายมีความเรียวแหลม สามารถใช้ตัดเข้าตามซอกตามมุมได้สะดวก และยังทำจากสเตนเลสอย่างดี รวมถึงขัดผิวซาติน มีความด้านไม่มันเงา ให้สัมผัสแบบเรียบหรูดูแพงครับ
ขนาดกรรไกรก็ที่ 65 x 95 มิลลิเมตร ถือว่าไม่ใหญ่จนเกินไป และยังมีสปริงสองชั้นช่วยให้ตัดได้ง่ายไม่เมื่อยมือ ราคาก็จัดว่าไม่แพงจนเกินไป คะแนนรีวิวสินค้าในโลกออนไลน์ก็ค่อนข้างดี รีวิวว่ากรรไกรคมกริ๊บ ตัดง่าย ดูแข็งแรงทนทาน ใช้แล้วไม่ผิดหวัง มีคุณภาพสมราคาครับ
วัสดุ | Stainless Steel |
ลักษณะปลายกรรไกร | เรียวแหลม |
ขนาด | 65 x 95 mm |
น้ำหนัก | N/A |
เหมาะสำหรับ | หนังกำพร้า, หนังตาย, หนังด้าน |
6. SULLMAR
ราคาโดยประมาณ 290 บาท
กรรไกรตัดหนัง SULLMAR ใช้สำหรับตัดหนังส่วนเกิน พวกหนังที่แห้งกร้าน หนังกำพร้าลอก ๆ รอบ ๆ เล็บนั่นล่ะ และยังใช้ได้กับทั้งนิ้วมือ นิ้วเท้า ใช้ตัดเล็บขบก็เริ่ด ดีกว่าใช้กรรไกรตัดเล็บทั่วไปอีกนะ เพราะด้วยความที่เป็นปากคีม จึงสามารถงัดเล็บขบขึ้นมาแล้วตัดออกไปให้พ้น ๆ ได้ คิดแล้วก็คันไม้คันมือขึ้นมาเลยครับ
และพวกอุปกรณ์ที่ต้องนำมาใช้กับร่างกายนั้น ความสะอาดก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ โดยเฉพาะพวกของมีคม เพราะหากเผลอใช้ให้เกิดแผล นอกจากจะเจ็บตัวแล้วยังเสี่ยงติดเชื้อได้อีกด้วย แต่กับยี่ห้อนี้ก็หายห่วง เพราะวัสดุเป็นสเตนเลส ไม่เป็นสนิมอย่างแน่นอน และยังมีให้เลือกใช้ได้ถึง 3 ขนาดตามใบมีด คือ 5, 6 และ 7 มิลลิเมตร ก็ชอบขนาดไหนก็จัดได้เลยครับ
วัสดุ | Stainless Steel |
ลักษณะปลายกรรไกร | โค้งแหลม |
ขนาด | N/A |
น้ำหนัก | N/A |
เหมาะสำหรับ | หนังกำพร้า, เล็บขบ, หนังด้าน |
7. Scharf
ราคาโดยประมาณ 299 – 349 บาท
กรรไกรตัดหนังจากวัสดุเกรดเอของเยอรมนีนี้มีนามว่า Scharf ที่มีการใช้วัสดุเป็นเนื้อสเตนเลส หรือเหล็กกล้าไร้สนิมที่มีความทนทาน คุ้มค่า ใช้งานได้อย่างยาวนาน ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ เพราะสเตนเลสมีคุณสมบัติไม่ดูดซึมสารใด ๆ จึงไม่ก่อให้เกิดสารปนเปื้อนหรือเชื้อโรคติดมาได้นั่นเอง ถ้าชอบลักษณะนี้ ให้กด C – 201 ซองส้มครับ
แต่ถ้าชอบเนื้อเหล็กแข็ง ๆ คม ๆ บิ่นยาก ก็มีเหล็กเยอรมันแท้ให้ได้เลือกใช้ รวมถึงชุบโครเมียมให้แล้วเรียบร้อย เงาวับและแข็งแรงทนทานเพิ่มขึ้นไปอีก สำหรับรุ่นนี้ C – 205 ซองน้ำเงิน อีกทั้งที่เป็นเหล็กเยอรมันยังมีด้วยกันอีก 2 รุ่น คือ C – 206 ซองขาว ปากเรียวยาว เข้าซอกเข้ามุมได้ดี กับแบบที่ปากหนาแต่คมนาน C – 505 ซองชมพู มีให้เลือกกันหลายเล่มมากก แต่ที่สำคัญ ทุกเล่มลับคมมาให้แล้วเรียบร้อย พร้อมใช้งาน จะตัดหนัง จมูกเล็บ ซอกเล็บก็ทำได้ ประสิทธิภาพก็เป็นที่น่าพึงพอใจ คนรีวิวส่วนใหญ่ก็ชอบครับ
วัสดุ | Stainless Steel / Steel |
ลักษณะปลายกรรไกร | หนาแหลม / เรียวบาง |
ขนาด | N/A |
น้ำหนัก | N/A |
เหมาะสำหรับ | หนังกำพร้า, จมูกเล็บ |
8. FABIYAN
ราคาโดยประมาณ 65 บาท
ของดีไม่จำเป็นต้องแพงแต่มืออาชีพก็เลือกใช้ อย่าง กรรไกรตัดหนังสีรุ้ง FABIYAN ที่ราคาหลักสิบกลาง ๆ แต่ก็ได้งานสเตนเลส ไม่เป็นสนิม ใช้งานได้นาน ปลอดภัยจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนต่าง ๆ ด้วยคุณสมบัติไม่ดูดซึมสารใด ๆ ของตัวสเตนเลสเองครับ
อีกทั้งยังมาในดีไซน์สีรุ้งสะดุดตา ใครชอบแนวไล่สีโฮโลแกรมแบบนี้ต้องจัดแล้วนะ น้ำหนักก็เบา เพียง 32 กรัม ขนาดก็กำลังพอดีมือ 9.5 x 6 เซนติเมตร จับถือได้กำลังพอดี ๆ ส่วนการตัดหนังกำพร้าก็ทำได้สิ้นซากทั้งนิ้วมือและนิ้วเท้า ได้ขนาดนี้ในราคาเพียงแค่นี้ถือว่าคุ้มแล้วนะ ไม่ต้องคิดเยอะเลยครับ
วัสดุ | Stainless Steel |
ลักษณะปลายกรรไกร | โค้งแหลม |
ขนาด | 62 x 95 mm |
น้ำหนัก | N/A |
เหมาะสำหรับ | หนังกำพร้า |
9. NGHIA D.205
ราคาโดยประมาณ 280 บาท
NGHIA รุ่น D.205 กรรไกรตัดหนัง Made in Vietnam รุ่นนี้ ใช้วัสดุเป็นเหล็กกล้าคาร์บอน หรือ Carbon Steel บางที่เรียกว่า Mild Steel แต่ก็หมายถึงวัสดุตัวเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่ามีความแข็งแรง มีความเหนียว จึงได้รับความนิยมในการนำมาผลิตกรรไกรตัดหนังที่ทนทานและสามารถลับคมได้เรื่อย ๆ ครับ
โดยขนาดของหัวกรรไกรคือ JAW 12 ถ่างได้กว้าง 5 มิลลิเมตร ส่วนความยาวใบมีดอยู่ที่ 8 มิลลิเมตร และยังจับถนัดมือด้วยความสูงกับความกว้างที่ 10.6 x 4.7 เซนติเมตร ตัวใบมีดก็รับประกันความคมพร้อมใช้ได้ทันที ไม่ว่าจะหนังส่วนเกินหรือหนังที่แห้งกร้านก็เอาอยู่ อีกทั้งยังปลอดภัยเมื่อไม่ได้ใช้งานด้วยฝาครอบหัวกรรไกรที่ให้มาด้วยครับ
วัสดุ | Carbon Steel |
ลักษณะปลายกรรไกร | หนาแหลม |
ขนาด | 47 x 106 mm |
น้ำหนัก | N/A |
เหมาะสำหรับ | หนังกำพร้า, หนังด้าน |
10. VARRO
ราคาโดยประมาณ 159 บาท
กรรไกรญี่ปุ่นด้ามสเตนเลสที่ดูด้วยตา ก็อาจไม่รู้ว่าผลิตจากสเตนเลสเนื้อหนาที่แข็งแรงทนทาน เพราะได้มีการหุ้มด้ามจับด้วยปลอกพลาสติกสีสันสดใส ดู ๆ ไปก็คล้ายพวกคีมที่เป็นเครื่องมือช่างอยู่เหมือนกัน แต่การมีปลอกพลาสติกแบบนี้มันก็แอบดีนะ เพราะช่วยกันลื่นได้ อีกทั้งใครอยากลองใช้เขาก็มี 4 สี อย่าง ชมพู, ส้ม, เขียว และบานเย็น ให้เลือกซื้อตามความชอบด้วยครับ
ส่วนตัวปลายก็ชิดสนิท จึงตัดพวกหนังกำพร้า หนังส่วนเกินแห้งกร้านที่ลอก ๆ อยู่ข้างเล็บได้เป็นอย่างดี ตามซอกเล็บก็เข้าไปได้ แถมยังคมมาก อย่าว่าแต่หนังแข็ง ๆ ตามส้นเท้าเลย จะเล็บมือ เล็บเท้า หรือเล็บขบ ก็จบได้ด้วยเล่มเดียว เล่มนี้ ดีจริงครับ คอนเฟิร์มด้วยรีวิวมากมายครับ
วัสดุ | Stainless Steel |
ลักษณะปลายกรรไกร | เรียวบาง |
ขนาด | 60 x 110 mm |
น้ำหนัก | 53 g |
เหมาะสำหรับ | หนังกำพร้า, เล็บขบ |
เป็นยังไงกันบ้างครับ จากที่ได้เห็นรีวิว “กรรไกรตัดหนัง” ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน ก็ไม่ทราบว่าสนใจ อยากจะซื้อยี่ห้อไหน กรรไกรไหน ไปใช้ตัดหนังตามเล็บมือเล็บเท้า ไปใช้ตัดพวกเล็บขม ไปใช้จัดการปัญหาพวกหนังกำพร้าต่าง ๆ กันบ้างครับ ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย เกือบทุกยี่ห้อก็จะราคาไม่ค่อยแรงมาก ซื้อง่าย สบายกระเป๋า แต่บางยี่ห้อก็จัดเต็มคุณภาพ ความดีงาม ที่มาพร้อมราคาหลักพันเลยทีเดียว ยังไงตอนเลือกซื้อก็อย่าลืมดูความต้องการและงบประมาณที่ตนมีกันด้วยครับผม
ทำงานด้านสื่อโฆษณามานานกว่า 5 ปี เป็นนักซื้อตัวยง ที่มีประสบการณ์ใช้สินค้ามากมายหลายอย่าง เลยมีบทความใหม่ๆ ออกมาชวนผู้อ่านให้ซื้อสินค้ากันบ่อย ๆ ทั้งของอาหารเสริม เทคโนโลยี แกดเจ็ต ของใช้ในบ้าน และอื่น ๆ คัดเลือกสินค้ามาแล้วซื้อตามไม่มีผิดหวังแน่ ๆ