ก็ถ้าได้คลิกเข้ามาอ่านที่บทความนี้ DHA ยี่ห้อไหนดี แสดงว่า กำลังหาซื้ออาหารเสริมชนิดนี้ เพื่อไปทานเสริม DHA เข้าสู่ร่างกาย อยากบำรุงสมอง ลดความเหนื่อยล้า หรืออยากจะซื้อไปให้ลูกน้อยทาน เพื่อช่วยพัฒนาการด้านการเรียนรู้ กันอยู่สินะคะ ?? ก็บอกเลยว่าคลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะที่นี่ ทางเราได้ไปรวบรวมอาหารเสริม DHA ยี่ห้อที่น่าสนใจ ยี่ห้อที่มีคุณภาพ ยอดขายสูง รวมถึงรีวิวดีงาม มาแนะนำให้รู้จักกันถึง 10 ยี่ห้อเลยทีเดียว และจะต้องมีสักหนึ่งยี่ห้อนี้แหละที่ทำให้อยากซื้อ ไปทานกันอย่างแน่นอนค่า
สารบัญ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว อาหารเสริม DHA ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่อยากจะเห็นผลิตภัณฑ์ทั้ง 10 ยี่ห้อแบบพร้อม ๆ กัน รวมถึงสามารถทำการเปรียบเทียบรายละเอียดของสินค้า, ส่วนประกอบที่สำคัญ, ขนาดรับประทาน หรือราคากันได้แบบง่าย ๆ ทางเราก็อยากให้ลองคลิกที่ปุ่มสีแดงด้านล่างกันได้เลยค่ะ
1. VISTRA Salmon Fish Oil DHA
ราคาโดยประมาณ 400 บาท
ผลิตภัณฑ์เสริม DHA จากแบรนด์ดังอย่าง VISTRA ที่เลือกใช้คุณค่าน้ำมันสกัดจากปลาแซลม่อนที่อิมพอร์ตมาไกลจากประเทศไอซ์แลนด์ แหล่งผลิตน้ำมันปลาระดับโลก อุดมไปด้วยกรดอะมิโนและโอเมก้า-3 โดยเฉพาะ DHA และ EPA ที่เป็นประโยชน์ต่อระบบประสาทและสมอง โดยใน 1 แคปซูลจะมีน้ำปลาอยู่ 1,000 มิลลิกรัม อุดมไปด้วย DHA สูงถึง 120 มิลลิกรัม, EPA 180 มิลลิกรัม แถมยังมีวิตามิน E ที่จะช่วยให้ร่างกายได้ประสิทธิภาพจากการดูดซึม DHA ได้อย่างเต็มที่อีกด้วยนะคะ
DHA ถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากในการเสริมสร้างเซลล์ระบบประสาทและสมอง ช่วยให้สมองทำงานดีขึ้น บำรุงความจำ ช่วยเพิ่มสมาธิ ทั้งยังเสริมสร้างพัฒนาการในการสื่อสารของน้อง ๆ หนู ๆ ได้ตั้งแต่วัยทารกไปจนถึงอายุ 5 ขวบ เลยค่ะ นอกจากนี้เขายังมีส่วนช่วยในการบำรุงประสาทตา เสริมสร้างการมองเห็น ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคตาบอดกลางคืนได้ดี และก็ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะมีทั้งสิ้น 45 แคปซูลต่อหนึ่งกระปุก แนะนำให้รับประทานวันละ 1 แคปซูลพร้อมมื้ออาหารค่า
ขนาดบรรจุ | 45 แคปซูล |
ส่วนประกอบสำคัญ | ใน 1 แคปซูลมีน้ำมันปลาแซลมอน 1000 mg ประกอบด้วย กรดไอโคชาเพนตาอิโนอิก(EPA) 180 mg, กรดไดซาอีโนอิก (DHA) 120 mg, วิตามิน อี 2.5 mg. |
ขนาดรับประทาน | รับประทานวันละ 1 แคปซูลพร้อมมื้ออาหาร |
ข้อควรระวัง | เด็กและสตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน |
2. Auswelllife DHA Algal Oil
ราคาโดยประมาณ 690 บาท
สำหรับคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่ต้องการ DHA มาเสริมพัฒนาการให้กับหนูน้อยที่บ้าน แต่ติดตรงเรื่องปัญหาการแพ้อาหารทะเล ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ DHA จากประเทศออสเตรเลียที่มาในรูปแบบแคปซูลน้องปลาสุดน่ารัก ภายในเป็นสารสกัดจากสาหร่ายแดงในน้ำทะเลลึก ซึ่งมีความเข้มข้นและปลอดภัยกว่าแบบสกัดจากปลา และที่สำคัญน้อง ๆ หนู ๆ ที่แพ้ปลาทะลก็สามารถรับประทานได้ !! ส่วนตัวแคปซูลก็เป็นแบบ Geratin Chewable ไม่เจือปนแป้ง ทำให้ดูดซึมได้ไว ไม่ต้องรอละลาย และยังเข้นข้นกว่าแบบเม็ดยา 3-4 เท่า ต่อให้รับประทานน้อยก็เห็นผล แถมเก็บรักษาได้นานกว่าเดิมอีกด้วยค่ะ
ส่วนใครที่กังวลว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะมีกลิ่นคาวจนรับประทานยาก ก็ขอให้สบายใจได้ เพราะตัวนี้เขาผ่านการแต่งกลิ่นให้เป็นกลิ่นส้ม ถูกใจเด็ก ๆ รับประทานง่าย ไม่คาว และแน่นอนว่ามีคุณสมบัติช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท เพิ่มภูมิต้านทาน คลายความตึงเครียดและลดความอ่อนล้าของสมองจากการทำงานหนัก ทำให้เจ้าตัวเล็กอารมณ์ดีสมวัย ไม่เจ็บไม่ป่วยง่าย แถมยังมีส่วนบำรุงเซลล์ประสาทตาให้น้อง ๆ อีกด้วย ก็ถือเป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการที่คุณพ่อคุณแม่ไว้ใจเลยค่ะ
ขนาดบรรจุ | 30 เม็ด, 60 เม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | DHA 140 mg, EPA 70 mg |
ขนาดรับประทาน | เด็กเล็ก 6 เดือน – 4 ปี รับประทาน 1 แคปซูล ทุกวัน ก่อนอาหารเช้า เด็กเล็ก 5-9 ปี รับประทาน 2 แคปซูล ทุกวัน ก่อนอาหารเช้า หญิงตั้งครรภ์และวัยผู้ใหญ่ รับประทาน 3-4 แคปซูล ทุกวัน ก่อนอาหารเช้า |
ข้อควรระวัง | – |
3. TOBY BIO OIL DHA
ราคาโดยประมาณ 199 บาท
อีกหนึ่งตัวช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการของลูกรัก ด้วย DHA ที่สกัดจากปลาทะเลน้ำลึกอย่างปลาทูน่า โดยทางแบรนด์เขาเคลมเองเลยว่าตัวนี้เป็นโดสที่มีความเข้นข้นกว่าท้องตลาดทั่วไป มีปริมาณน้ำมันปลาทูน่าอยู่ถึง 490 มิลลิกรัม ซึ่ง DHA ถือเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ มีบทบาทสำคัญในการช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาทและสมอง ช่วยเพิ่มสมาธิ เพิ่มความจำ ส่งเสริมการเรียนรู้ ให้น้อง ๆ หนู ๆ เจริญเติบโตได้อย่างสมวัย เจริญอาหาร ไม่ป่วยง่าย อารมณ์ดี ไหวพริบดี และที่สำคัญคือไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อน้อง ๆ คุณพ่อคุณแม่ก็สบายใจได้เลยค่ะ
อันที่จริงผลิตภัณฑ์ตัวนี้เขาสามารถรับประทานได้ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่ เพราะตัวแคปซูลเขาสามารถรับประทานได้ง่าย ไม่มีกลิ่นคาวมาคอยกวนใจ โดยรับประทานวันละประมาณ 1-2 แคปซูล ก่อนอาหารเช้าหรือก่อนนอน ในกรณีเด็กเล็ก คุณพ่อคุณแม่สามารถบิดผสมกับนม, น้ำผลไม้ หรืออาหารที่เด็ก ๆ ชอบได้ตามสะดวก เพื่อให้น้อง ๆ รับประทานได้ง่ายขึ้น หรือจะให้รับประทานทั้งเม็ดแล้วดื่มน้ำตามก็ได้ค่ะ บ้านไหนที่กำลังหาตัวช่วยในการบำรุงสมองให้กับเจ้าตัวเล็กที่บ้าน TOBY BIO OIL เขาไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่า
ขนาดบรรจุ | 30 แคปซูล |
ส่วนประกอบสำคัญ | น้ำมันทูน่า 490 mg, วิตามินอี 9.94 mg, วิตามินดี 3 0.06 mg |
ขนาดรับประทาน | อายุต่ำกว่า 5 ปี รับประทาน 1 เม็ด/วัน อายุ 5 ปีขึ้นไป รับประทาน 1-2 เม็ด/วัน |
ข้อควรระวัง | ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้อาหารทะเล, ผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดอยู่ เช่น แอสไพริน เป็นต้น, ผู้ที่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด เลือดหยุดไหลยาก เช่น มีแผลในกระเพาะอาหาร หรือจะทำการผ่าตัดในระยะเวลาอันใกล้ |
4. NBL DHA Omega-3
ราคาโดยประมาณ 290 บาท
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ดีเอชเอสกัดเข้นข้น ผลิตจากประเทศออสเตรเลีย เลือกใช้น้ำมันปลาแซลม่อนซึ่งเป็นปลาทะเลน้ำลึก และอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 โดยใน 1 แคปซูลจะมีสัดส่วนของ DHA สูงถึง 250 มิลลิกรัม จึงช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท เพิ่มพัฒนาการทางสมอง ทั้งในแง่ความจำและสมาธิ ก็ช่วยให้เกิดความคิดความอ่านที่โลดแล่น หัวไว ฉลาด อารมณ์ดี เพราะสำหรับเด็ก ๆ วัยกำลังโตถือเป็นช่วงสำคัญเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ
นอกจากในเรื่องของการบำรุงสมองแล้ว DHA ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ในดวงตา ช่วยในเรื่องของการมองเห็น ป้องกันอาการตาบอดกลางคืน ที่สำคัญผลิตภัณฑ์ตัวนี้ยังมีกรดไขมัน EPA อยู่ถึง 50 มิลลิกรัม มีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมไปถึงช่วยลดอาการอักเสบจากการปวดบวมข้อ เรียกได้ว่ามีคุณประโยชน์อัดแน่นอยู่อย่างครบถ้วน ทั้งยังรับประทานง่าย ไม่คาว โดยรับประทานเพียงแค่วันละ 1 แคปซูลเท่านั้นเองค่า
ขนาดบรรจุ | 30 แคปซูล |
ส่วนประกอบสำคัญ | น้ำมันปลาแซลม่อน 500 mg DHA 250 mg / EPA 50 mg |
ขนาดรับประทาน | รับประทานวันละ 1 แคปซูล |
ข้อควรระวัง | ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้อาหารทะเล |
5. Morikami Laboratories Fish Oil Omega 3 Vitamin E DHA EPA
ราคาโดยประมาณ 420 บาท
ผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาโอเมก้า – 3 จากแบรนด์ Morikami ที่นำเข้ามาไกลจากประเทศไอซ์แลนด์ แหล่งผลิตน้ำมันปลาคุณภาพดีระดับโลก โดยใน 1 แคปซูล จะมีปริมาณน้ำมันปลาอยู่ถึง 500 มิลลิกรัม แบ่งเป็น DHA 60 มิลลิกรัมและ EPA 90 มิลลิกรัม โดย DHA ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในเซลล์สมอง, ระบบประสาท และจอประสาทตา ช่วยให้ความคิดความอ่านและการจดจำดีขึ้น ลดความเสื่อมของเซลล์ประสาทและป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ดีเลยค่ะ
นอกจาก DHA แล้ว ส่วนประกอบอื่น ๆ เขาก็ไม่น้อยหน้า ไม่ว่าจะเป็นกรดไขมัน EPA ที่มีส่วนช่วยในการลดระดับไขมันกลีเซอร์ไรด์ในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตันและโรคหัวใจ ไปจนถึงสารสกัดจากวิตามิน E ที่จะช่วยให้ร่างกายได้รับประสิทธิภาพจาก DHA ได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยบำรุงผิว เหมาะสำหรับคนผิวแห้ง เรียกได้ว่าคุณประโยชน์เต็มเปี่ยมและคุ้มค่าสุด ๆ แถมรับประทานไม่ยุ่งยาก เพียงแค่วันละ 1 แคปซูล หลังมื้ออาหารเช้าหรือเย็นเท่านั้น ใครขี้หลงขี้ลืมหรือกินยายากก็สบายหายห่วงได้เลยค่ะ
ขนาดบรรจุ | 30 แคปซูล |
ส่วนประกอบสำคัญ | น้ำมันปลา 500 มิลลิกรัม -กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) 90 mg -กรดโดโคซาเอกซาอีโนอิก (DHA) 60 mg -กรดไขมันอิ่มตัว 135 mg -วิตามิน E 1.8 mg |
ขนาดรับประทาน | รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล หลังมื้ออาหาร เช้าหรือเย็น |
ข้อควรระวัง | เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน ไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้อาหารทะเล ปลาทะเล |
6. Blackmores โอเมก้า ดีเอชเอ
ราคาโดยประมาณ 1,220 บาท
เอาใจเหล่านักเรียนนักศึกษาในช่วงใกล้สอบ ที่ต้องการการบำรุงสมองและระบบความจำของตนเองเป็นพิเศษ ด้วยผลิตภัณฑ์ดีเอชเอสกัดจากแบรนด์ดังอย่าง BLACKMORES ที่นำเข้าจากออสเตรเลีย เป็นสูตรพิเศษที่ให้ DHA เข้มข้นถึง 500 mg ต่อ 1 แคปซูล ผ่านกระบวนการที่ได้มาตรฐาน มีการตรวจสอบปริมาณสารตะกั่วและปรอทอย่างเคร่งครัด ทั้งยังผ่านกรรมวิธีสกัดกลิ่นคาวและแต่งกลิ่นวานิลลาเพิ่มเข้าไป ทำให้รับประทานง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ
DHA ถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างมากในการบำรุงสมอง และเสริมสร้างความจำ ลดความตึงเครียดของสมองจากการทำงานหนักได้เป็นอย่างดี ทำให้สมองปลอดโปร่ง สมาธิดี ความคิดฉับไว ลดอาการหลง ๆ ลืม ๆ จึงถือเป็นไอเทมเด็ดที่จะใช้ในช่วงสอบเป็นที่สุด นอกจากนี้เขายังมีกรดไขมัน EPA ที่ช่วยในเรื่องของการไหลเวียนเลือดและลดอาการปวดไขข้อรูมาตอยด์ รวมไปถึงมีวิตามิน E ที่มีส่วนช่วยในกระบวนการต้านอนุมูลอิสระ และช่วยให้ร่างกายดูดซึม DHA ได้ดีขึ้นอีกด้วย ใกล้สอบแล้ว ใครยังกังวลเรื่องอ่านหนังสืออยู่ ใช้ตัวช่วยนี้แล้ว รับรองว่าสมองแล่นแน่นอนค่ะ
ขนาดบรรจุ | 60 แคปซูล |
ส่วนประกอบสำคัญ | โอเมก้า-3 600 mg ต่อแคปซูล ซึ่งมี DHA 500 mg และ EPA 100 mg |
ขนาดรับประทาน | รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหาร |
ข้อควรระวัง | ไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้อาหารทะเล ปลาทะเล, ผู้ที่มีภาวะเลือดแข็งตัวช้า |
7. LIFE Vegetarian DHA
ราคาโดยประมาณ 1,190 บาท
ทางเลือกใหม่สำหรับคนที่แพ้ปลาทะเล หรือรับประทานมังสวิรัติ ด้วยผลิตภัณฑ์เสริมดีเอชเอที่ใช้สารสกัดจากสาหร่ายสีแดงใต้ทะเลลึกสายพันธุ์ซิโซไชเทรียม นำเข้าจากอเมริกา และยังปลอดภัยจากสารปรอทกับโลหะหนัก จึงมั่นใจได้เรื่องคุณภาพและความปลอดภัย ภายในเต็มเปี่ยมไปด้วยปริมาณกรดไขมันโอเมก้า-3 382 มิลลิกรัม ซึ่งอุดมไปด้วย DHA ถึง 210 มิลลิกรัม ก็ช่วยเสริมสร้างกระบวนการการทำงานของสมอง กระตุ้นพัฒนาการระบบความจำ ทำให้สมองปลอดโปร่งและมีสมาธิดีขึ้น แถมยังช่วยบำรุงสายตาอีกด้วยนะคะ
นอกจากจะช่วยบำรุงสมองและสายตาแล้ว ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ยังมีกรดไขมัน EPA ซึ่งมีบทบาทในการช่วยลดไขมันในเลือดและปรับระดับความดันโลหิต ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความอ่อนล้า จึงถือเป็นไอเทมที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย มาในรูปแบบแคปซูลที่รับประทานง่าย หนึ่งกระปุกมีทั้งหมด 60 แคปซูล ให้รับประทานพร้อมอาหาร ครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1-2 ครั้ง เท่านี้ก็จะได้รับคุณประโยชน์จาก DHA อย่างเต็มที่แล้วค่ะ
ขนาดบรรจุ | 30 เม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า3 – 382 mg. เป็น DHA 210 mg. และ EPA 105 mg. |
ขนาดรับประทาน | รับประทานพร้อมอาหารครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1 – 2 ครั้ง |
ข้อควรระวัง | – |
8. Bain Syrup
ราคาโดยประมาณ 160 บาท
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากเสริมดีเอชเอให้กับน้อง ๆ หนู ๆ แต่ผลิตภัณฑ์ที่มาในรูปแบบยาเม็ดอาจจะน่ากลัวเกินไปสำหรับเด็ก ๆ แถมยังกลืนยากอีกต่างหาก ขอแนะนำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มาในรูปแบบไซรัปอย่าง Bain Syrup เป็นน้ำมันปลาทูน่าในรูปแบบน้ำเชื่อมกลิ่นผลไม้รวม รับประทานง่าย ไม่คาว รับรองว่าถูกใจเด็ก ๆ แน่นอน และยิ่งแช่เย็น ยิ่งอร่อย แถมยังมีปริมาณความเข้มข้นของ DHA สูงถึง 70% สูงกว่าน้ำมันปลาในท้องตลาดถึง 6 เท่าเลยนะคะ
โดย DHA ในผลิตภัณฑ์นี้ จะเป็นแบบมีคุณค่าทางชีวภาพสูง คุณภาพดี สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและคงตัวอยู่ในกระแสเลือดได้นาน ทำให้มีประสิทธิภาพกว่าน้ำมันปลา ๆ ทั่วไป และแน่นอนว่ามีคุณสมบัติช่วยในเรื่องของการบำรุงสมองและสายตา ส่งเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโตของน้อง ๆ หนู ๆ โดยเฉพาะ ขนาดรับประทานก็อยู่ที่วันละ 1 ช้อนโต๊ะ หลังอาหาร แนะนำให้เขย่าขวดก่อนรับประทานด้วยนะคะ ก็บ้านไหนเด็กกินยาก เห็นน้ำมันปลาแล้วร้องอี๋ เจอไซรัปหวาน ๆ ไป รับรองว่าหมดปัญหาแน่นอนค่า
ขนาดบรรจุ | 150 ml |
ส่วนประกอบสำคัญ | น้ำมันปลาทูน่า 250 mg. ประกอบด้วยกรดกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) 175 mg. กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) 25 mg. แอล-กลูตามิก แอซิด 100 mg. วิตามิน A 1000 IU, วิตามิน D 100 IU, วิตามิน E 5 IU., วิตามิน B1 0.7 mg., วิตามิน B2 0.85 mg., วิตามิน B3 8 mg., วิตามิน B6 0.35 mg., วิตามิน B12 2 ไมโครกรัม |
ขนาดรับประทาน | รับประทานวันละ 1 ช้อนโต๊ะ (15 ml) หลังอาหาร |
ข้อควรระวัง | เขย่าก่อนรับประทาน |
9. ZEAVITA Tuna Head Fish Oil + DHA 7.7X
ราคาโดยประมาณ 1,150 บาท
ผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาสกัดเย็นจากหัวปลาทูน่า 100% ที่มาในคอนเซ็ปต์ “เป็นมากกว่าน้ำมันปลา” เพราะนอกจากโอเมก้า-3 DHA ที่สูงกว่าสูตรปกติถึง 7.7 เท่าแล้ว ยังเสริมด้วยคุณค่าสารสกัดจากชาเขียวอย่างแอล-ธีอะนีน รวมถึงพวกคาโมมายล์, บิลเบอร์รี่, วิตามิน B2, วิตามิน B6, วิตามิน B12 และวิตามิน E ก็เรียกได้ว่าภายใน 1 แคปซูล จะอัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างเต็มเปี่ยม แถมยังเม็ดเล็ก กลืนง่าย การันตีด้วยผลการทดสอบในผู้บริโภคมาแล้ว 120 คนเลยค่ะ
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้นอกจากจะมีส่วนช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างเซลล์ประสาทและสมองแล้ว ยังมีสารประกอบฟีนอลิคในคาโมมายล์ช่วยให้หลับสบาย คลายความกังวลจากความเหนื่อยล้า มีแอนโธไซยานีนจากบิลเบอร์รี่ ช่วยบำรุงสายตา มีวิตามิน E ที่มีบทบาทในเรื่องของการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และกรดโฟลิคที่ช่วยเรื่องของการสร้างเม็ดเลือดแดงและสังเคราะห์กรดอะมิโน เพียงรับประทานวันละ 2 แคปซูลก่อนนอน ก็จะได้รับคุณประโยชน์ที่ว่ามานี้ได้อย่างครบถ้วนในทีเดียว ก็เป็นสารสกัดน้ำมันปลาที่เป็นได้มากกว่าน้ำมันปลาสมชื่อจริง ๆ ค่ะ
ขนาดบรรจุ | 50 เม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | น้ำมันหัวปลาทูน่า 500 mg. ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง, กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) 25 mg., กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) 125 mg., แอล-ธีอะนีน (98%) 102 mg., ผงคาโมมายล์ 5 mg., ดี-แอลฟา-โทโคเฟอริลแอซีเทต (80.9%) 2.4 mg., ผงบิลเบอร์รี 2 mg., วิตามินบี 12 (0.1%) 0.8 mg., กรดโฟลิก 0.05 mg. |
ขนาดรับประทาน | ขนาดรับประทาน วันละ 2 แคปซูล พร้อมมื้ออาหาร |
ข้อควรระวัง | เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน |
10. Mega We Care DHA 125 Tuna Oil
ราคาโดยประมาณ 480 บาท
อีกหนึ่งแบรนด์ดังที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Mega We Care ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการอาหารเสริมมาช้านาน โดยผลิตภัณฑ์ตัวนี้สกัดมาจากน้ำมันปลาทูน่า ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่มี DHA สูง และภายใน 1 แคปซูล จะประกอบไปด้วย DHA 125 มิลลิกรัม, EPA 35 มิลลิกรัม และวิตามิน E อีก 1.45 มิลลิกรัม โดยกรดไขมัน DHA นั้นถือว่ามีบทบาทสำคัญมากในการพัฒนาสมองและดวงตา เพราะจากการศึกษาทางการแพทย์พบว่ากว่า 40% ของกรดไขมันในสมอง และ 60% ของกรดไขมันในประสาทตาก็คือ DHA นั่นเองค่ะ
และแน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ จะมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง กระตุ้นความจำ, IQ, สมาธิ ไปจนถึงการเรียนรู้ต่าง ๆ ช่วยลดความเครียด คลายความเหนื่อยล้าของสมองจากการทำงานหนัก ช่วยบำรุงสายตา ทำให้การมองเห็นดีขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดปัญหาการเกิดภูมิแพ้ในเด็กได้ดีอีกด้วย โดยขนาดบรรจุอยู่ที่กระปุกละ 100 แคปซูล สามารถรับประทานได้ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงระดับผู้สูงอายุเลยทีเดียว ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะจะใช้เป็นของขวัญให้คนที่เรารักได้เป็นอย่างดีเลยนะคะ
ขนาดบรรจุ | 100 แคปซูล |
ส่วนประกอบสำคัญ | ใน 1 แคปซูล มีน้ำมันปลาทูน่า 500 mg. ประกอบด้วย – กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง – กรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก (EPA) 35 mg. – กรดไอโคซาเฮกซาตาอีโนอิก (DHA) 125 mg. – วิตามิน E 1.45 mg. |
ขนาดรับประทาน | ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง พร้อมอาหาร |
ข้อควรระวัง | ไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้อาหารทะเล ปลาทะเล |
ก็จบไปแล้วกับการรีวิวอาหารเสริม DHA ยี่ห้อไหนดี ถึง 10 ยี่ห้อ 10 ผลิตภัณฑ์ด้วยกัน ก็ไม่ทราบว่าสนใจ อยากจะซื้อ ยี่ห้อไหน ตัวไหน ไปทานเพื่อเสริม DHA เข้าสู่ร่างกาย หรือซื้อไปให้เด็ก ๆ ทาน เพื่อช่วยพัฒนาการด้านการเรียนรู้กันบ้างคะ ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ก็มีหลายยี่ห้อที่เน้นแต่ DHA เท่านั้น แต่ก็มีบางยี่ห้อที่จะมีสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อช่วยเสริมประโยชน์ที่มากกว่า ให้อารมณ์ทานเม็ดเดียวแล้วครบ จบ บำรุงร่างกายได้ดี แต่ก็จะมีราคาที่สูงกว่า ยังไงตอนเลือกซื้อก็อย่าลืมดูความต้องการและงบประมาณที่มีกันกันด้วยค่าา
จบการศึกษาด้านอักษรศาสตร์ รู้สึกสนุกกับการเขียนรีวิวสินค้าหลาย ๆ อย่างโดยเฉพาะหนังสือ ของใช้ในบ้าน เน้นการเขียนรีวิวที่อ่านเข้าใจง่าย เข้าถึงทุกคน