ฮั่นแน่ !!! อยากจะได้ “ลิปทินท์” (Lip Tint) ดี ๆ สักแท่งสองแท่ง เพื่อไปใช้เติมสีปากให้ดูสวย ดูเด่น ดูสะดุดตากันอยู่สินะ แต่ก็ดันไม่รู้จะซื้อยี่ห้อไหนดี เพราะมีให้เลือกซื้อกันหลากหลายยี่ห้อมากกก ตั้งแต่พวกระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ราคาแพง แท่งละพันสองพัน ถึงพวกระดับที่ย่อมเยากว่า แท่งหลักสิบหลักร้อย ก็ขอบอกตรง ๆ ว่า บทความนี้เราจะเน้นพวกราคาย่อมเยาที่ถูกและดีกันนะจ๊ะ (แต่ใครมีงบจัดพวกเคาร์เตอร์แบรนด์ ก็จัดเลย คุณภาพดีงามกว่าแน่นอน) โดยที่บทความนี้ ก็จะมีรีวิวลิปทินท์มาให้ดูกันถึง 10 ยี่ห้อ ที่ขอบอกเลยว่า แต่ละยี่ห้อเนี่ย น่าโดนน่าตำกันทั้งนั้นเด้อออ จนแบบว่า ถ้าอ่านรีวิวกันจนจบ เตรียมเสียเงินสั่งซื้อได้เลยค่า!
สารบัญ
ลิปทินท์ คือ ?
หลาย ๆ คนอาจจะงง ๆ ว่า ลิปทินท์คืออะไร ? มันไม่ได้เหมือนกับลิปสติกทั่ว ๆ ไปเหรอ ยังไงก็ช่วยเติมสีปากให้มีสีสันอยู่ละหนิ ? ซึ่งเอาจริง ๆ ก็มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างค่ะ โดยลิปทินท์ คือ ลิปที่มีฐานของส่วนผสมหลัก ๆ เป็นน้ำหรือเจล ที่เมื่อนำไปใช้ทาที่ริมฝีปากแล้ว เมื่อเกิดการระเหยของของเหลวออกไปจนหมด จะทำให้เม็ดสีติดทนบนริมฝีปากได้ดีและได้นานมาก จึงทำให้เป็นลิปที่มีความติดทนทานสูง (สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ลิป) อีกทั้งยังเหมาะสำหรับใช้ทาเป็นเบส เพื่อลงลิปสติกแบบอื่น ๆ ตามทับ ซึ่งจะช่วยให้สีดูแน่น ดูสวยชัดมากยิ่งขึ้นค่ะ
จะเลือกซื้อ “ลิปทินท์” (Lip Tint) ยังไงดีนะ ?
ก่อนอื่นไม่ว่าจะเลือกซื้อลิปสติกประเภทไหนหรือแบบไหนก็ตาม สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงก่อนเลยก็คือ “เฉดสีของลิปที่เหมาะสมกับโทนสีผิว” ค่ะ ซึ่งการที่ได้ทาสีลิปที่ผิดเฉด หรือสีที่ไม่เหมาะสมกับโทนสีผิวแล้วล่ะก็ อาจจะทำให้หน้าดูหมอง หน้าดูเทา หรือหน้าดูแปลก ๆ จนเกิดอาการไม่รอด ตกม้าตายได้เลย แต่ถ้าได้เฉดสีที่เหมาะ ก็จะตรงกันข้าม จะเสริมความสวย เสริมความสว่างความสดใสกันเลยล่ะ ดังนั้นเราจึงอยากให้สาว ๆ ได้ทำความเข้าใจถึงเรื่องเฉดสีกันก่อน และเราได้เขียนอธิบายเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดไว้ที่อีกบทความหนึ่งแล้ว ต้องรบกวนไปอ่านกันที่นี่ ตรงหัวข้อ มาเลือกเฉดสีของ “ลิปแมท” ให้เหมาะกับโทนสีผิวกันค่ะ (กดเอาจากสารบัญได้เลยน้า)
จากนั้นอยากให้ดูถึงเรื่องของ “เนื้อลิปทินท์” กันสักนิด เพราะเนื้อที่แตกต่างกัน ก็จะให้ผิวสัมผัส, ความสบายปาก และ Finish Look ที่แตกต่างกันด้วย โดยหลัก ๆ จะสามารถพบเจอเนื้อลิปได้ถึง 5 ประเภทคือ เนื้อน้ำ, เนื้อเจล, เนื้อบาล์ม, เนื้อครีม และเนื้อออยล์ ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้ค่า
1. เนื้อน้ำ : จะมีเนื้อสัมผัสที่เหลว ๆ และมีความเบาบางสูง ทำให้ใช้งานง่ายมากก อีกทั้งยังสามารถทาทับได้หลายชั้นเพื่อเพิ่มความเข้มของสี แต่ถ้าเทียบกับเนื้อทินท์ประเภทอื่น ๆ สีจะดูอ่อนสุด ไม่เด่นชัดเท่า แต่ก็จะให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด เหมาะสำหรับคนที่แต่งหน้าเบา ๆ เน้นความสบาย ๆ ค่า
2. เนื้อเจล : จะมีความหนักและหนืดมากกว่าเนื้อน้ำ ทำให้สีมีความแน่นที่ชัดมากขึ้น และฟินิชลุคที่ได้ ก็จะดูฉ่ำ ๆ วาว ๆ คล้าย ๆ เยลลี่ แต่พอเวลาผ่านไป ความฉ่ำวาวจะค่อย ๆ ลดลงเหลือเพียงแต่เม็ดสีติดริมฝีปากเท่านั้นค่ะ ก็เหมาะสำหรับคนที่ชอบให้ปากดูวาว ๆ ดูน่าจุ๊บ ๆ อะค่ะ
ดูฉ่ำ ๆ น่าจุ๊บไหมล้าาา
3. เนื้อบาล์ม : ถ้าอยากจะเติมสีสัน พร้อมทั้งบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นไปในตัวด้วยแล้วล่ะก็ แบบเนื้อบาล์มจะดีที่สุดเลยจ้า เพราะเป็นเนื้อที่สามารถรักษาสารบำรุงของลิปได้ดีที่สุด และยังช่วยรักษาเม็ดสีในลิปได้ดีด้วย ทาแล้วก็จะได้ทั้งสีและบำรุงให้ปากดูมีชีวิตชีวาไปพร้อม ๆ กัน แต่ก็จะมีราคาค่อนข้างแพง ไม่ค่อยเจอในกลุ่มลิปทินท์ราคาย่อมเยาค่ะ
4. เนื้อครีม : เป็นเนื้อที่มีความแน่นของเม็ดสีมากที่สุด ทำให้เวลาทาแล้ว สีเด่นชัดมากกก โดยส่วนใหญ่ Finish Look ที่ได้จะเป็นแนว Velvet กำมะหยี่ ๆ (ดูแพงดูหรูสุด) หรือแนวแมทที่สีจะดูเนียนสนิทไปบนริมฝีปาก ก็เป็นเนื้อที่จะตอบโจทย์คนที่ชอบปากสีดูชัด ๆ ดูเด่น ๆ ดูแพง ๆ ค่า
5. เนื้อออยล์ : เป็นเนื้อที่มีความชุ่มช่ำและฉ่ำวาวมากที่สุด เพราะมีน้ำมันเป็นส่วนผสม จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับสาว ๆ ที่ริมฝีปากแห้งหรือปากลอกบ่อย และเวลาทาแล้ว ลุคที่ได้จะออกแนววาว ๆ คล้ายกับการทาลิปกลอส พร้อมกับสีจะออกใส ๆ บาง ๆ ดูเป็นธรรมชาติ ๆ ค่ะ (แต่จะคนละแนวกับเนื้อน้ำนะ เนื้อออยล์จะฉ่ำวาวกว่า)
ก็ตอนนี้น่าจะรู้ทริคในการเลือกซื้อเจ้าลิปทินท์กันมาบ้างแล้วเนาะ แต่ถ้ายังงง ๆ มึน ๆ ไม่รู้จะซื้อยี่ห้อไหนดี เริ่มต้นที่ไหนดี เราขอแนะนำให้ลองไปอ่านรีวิวด้านล่าง เชื่อว่า น่าจะเป็นไกดไลน์ให้สาว ๆ ได้ค่า
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “ลิปทินท์” (Lip Tint) ยี่ห้อไหนดี
ก็เนื้อหารีวิวด้านล่างอาจจะค่อนข้างยาวไปหน่อย ก็เผื่อสาว ๆ คนไหนที่ไม่มีเวลาอ่าน หรืออยากจะอ่านแบบสั้น ๆ ที่สรุปมาให้แล้ว ก็สามารถกดเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบที่ปุ่มด้านล่างได้นะจ๊ะ ก็จะได้เห็นความทินท์ทั้ง 10 ยี่ห้อมาวางเรียงเทียบกับ พร้อมมีสรุปรายละเอียดคร่าว ๆ ไว้ให้ด้วยค่า
1. ยี่ห้อ ETUDE (NEW) Dear Darling Water Gel Tint
ราคาโดยประมาณ 88 บาท
ยกให้เป็นลิปทินท์ในตำนาน ถือเป็นตัวบุกเบิกของวงการลิปทินท์เลยก็ว่าได้ สำหรับยี่ห้อจากเกาหลีอย่างคุณ ETUDE HOUSE Dear Darling Water Gel Tint ที่เมื่อก่อนฮิตยังไง ตอนนี้ก็ยังฮิตอยู่จ้าา โดยเนื้อคุณคนนี้จะเป็นทินต์เนื้อเจล ช่วยให้ปากนุ่มชุ่มชื้น พร้อมทั้งมีสีที่ชัดมาก สวยมาก ไม่หมองนะบอกเลย และยังเกลี่ยง่าย ปากไม่เป็นด่าง ๆ แถมยังหอมแบบสุด ๆ หอมน่ากินเวอร์ และต้องขอบอกเลย รุ่นเก่าติดทน สีชัดสวยมากแค่ไหน รุ่นนี้เค้ามาใหม่พัฒนาใหม่ ทำให้ติดแน่นทนนานแบบ X2 เพราะชีเพิ่มเม็ดสีมากขึ้นถึง 2 เท่า ติดทนปังเวอร์ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
และที่สำคัญ ทินต์รุ่นนี้ไม่ได้มีแต่สีโทนแดงเฉดเดียวเดิม ๆ เหมือนสมัยก่อนแล้วน้าาา แต่คุณ Dear Darling ตัวนี้ มีให้สีให้เลือกเยอะมาก เยอะจนถึงขั้นเค้าเคลมเลยว่า สาว ๆ จะสามารถหาลิปทินท์โทนสีแดงที่เหมาะกับริมฝีปากของสาว ๆ ได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะ แดงเย็นยันแดงงงงงงตะโกน แดงร้อนแรง หรือแดงเน้นอบอุ่น ดูปากสุขภาพดี จะสีแดงแบบไหนก็ตามมีครบจ๊ะ นอกจากนี้ ตัวลิปก็ยังมาพร้อมกับสารบำรุง อุดมไปด้วยแร่ธาตุ, วิตามิน และสารสกัดจากเบอรี่ มารวมพลังช่วยกันบำรุงริมฝีปาก ไม่ทำให้ปากดำด้วย ก็เห็นรีวิวกันขนาดนี้แล้ว ต้องไปตำด่วน ๆๆ จ้า!
จุดเด่น | ตำนานลิปทินท์ กลิ่นหอม เกลี่ยง่าย เม็ดสีชัดติดทนมากไม่ต้องใช้เยอะ เพิ่มเม็ดสีมากขึ้นถึง 2 เท่า จากรุ่นเดิม ใช้ทาบริเวณอื่นบนใบหน้าได้ |
สารบำรุง | แร่ธาตุ วิตามิน สารสกัดจากเบอรี่ |
เนื้อลิปทินท์ | water gel |
เฉดสี | 14 เฉดสี |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
2. ยี่ห้อ Holika Holika x Peko Water Drop Tint Bomb
ราคาโดยประมาณ 159 บาท
ใครสายทินท์ไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์นี้อย่างแน่นอน สำหรับคุณ Holika Holika แบรนด์เครื่องสำอางราคาน่ารักจากเกาหลีใต้ ที่ต้องขอบอกเลยนะว่า งานทินท์เค้าดีตีคู่สูสีขึ้นแท่นระดับตำนานไม่แพ้ใคร ซึ่งตัวที่แนะนำสุด ๆ ยกให้เป็นหนึ่งเดียวในใจเลยก็คือ รุ่น Holika Holika x Peko Water Drop Tint Bomb ที่ตอนนี้ครองตลาดทินท์อยู่นานมากกกกกก (พอ ๆ กับน้องอีทูดี้เลยนะ) ด้วยความที่น้องเป็นแท่ง ๆ สามารถทาลงปากได้เลย จึงสะดวกมากกกก ใครมีปัญหาเกลี่ยลิปทินท์แบบจิ้มจุ่มไม่ทัน หรือใช้แล้วสีเป็นด่าง ๆ ไม่เท่ากัน คุณคนนี้ตอบโจทย์กว่าแน่นอนค่าา
แต่ถึงจะเป็นแท่ง นางก็มีความพิเศษอยู่เด้อออ เพราะชื่อเป็น Water Drop Tint พอทาลงปากแล้ว ตัวลิปก็จะแตกตัวออกมาเป็นน้ำคล้ายกับลิปแบบจิ้มจุ่มเลยล่ะ แต่ใช้ง่ายกว่า สามารถเกลี่ยสีด้วยตัวแท่งเนี่ยละ ให้ทั้งชัด และทั่วถึงกว่า ปรับสีปากให้ดูระเรื่อ ๆ สีสวย เด่น ดูสุขภาพดี และลุคที่ได้จะเป็นในแบบการทาทินท์ ไม่ได้ให้ลุคทาลิปสติกเนื้อแมทเนื้อวาวแต่อย่างใด้
และที่สำคัญ นางมีความบางเบาสูงมากกก และก็ติดทนมาก ๆ ด้วย ไม่หลุดออกได้ง่าย ๆ และใครที่อยากได้ริมฝีปากแดงเข้มขึ้น ก็ทาซ้ำได้เลย ส่วนคนที่ปากแห้งปากลอกง่าย ๆ ก็ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ เพราะน้องมีความชุ่มชื้นสูงอยู่ ใช้แล้วแอบช่วยบำรุงริมฝีปากได้อยู่นะ แถมมีกลิ่นผลไม้อ่อน ๆ หอมมากกกกกก สาว ๆ หลาย ๆ คนต่างยกให้นางเป็นลิปทินท์ในดวงใจหนึ่งเดียวเลยล่ะค่า
จุดเด่น | เป็นลิปแท่งใช้ง่าย ต่างจากแบบจิ้มจุ่ม ไม่ต้องปาดเกลี่ยให้สีเวลา ทาผ่านแท่งได้เลย เม็ดสีชัดสวย ปรับสีปากให้ดูระเรือ ๆ สุขภาพดี |
สารบำรุง | มอยเจอร์ไรเซอร์ |
เนื้อลิปทินท์ | เป็นแท่งลิปสติกทาง่าย หลังทาลิปจะแตกตัวเป็นน้ำ |
เฉดสี | 5 เฉดสี |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
3. ยี่ห้อ PepoTint
ราคาโดยประมาณ 29 บาท
ใครกำลังมองหาลิปทินท์น่ารัก ๆ แถมราคาย่อมเยาแบบสุด ๆ เราขอแนะนำคุณคนนี้เลยจ้าาา สำหรับน้อง PepoTint ลิปทินท์สุดปังที่ดังที่มาก ๆ ในไอจี! คือโดยส่วนตัว เราชอบตรงที่น้องเล็กกะทัดรัดมากก พกพาได้สะดวก จะใส่กระเป๋าใบเล็กใบน้อยแค่ไหน ก็ทำได้ มีคุณเธอติดไว้ แอบอุ่นใจเวลาอยากเติมความสวยเลยล่ะ และถึงราคาชีจะถูกกกกแสนจะถูก (ประมาณ 29 บาทอะเธอ) แต่นางมีเม็ดสีที่สวยแน่นลืมมากเลยนะ และยังมีให้เลือกมันทุกเฉดสี จะแดง ส้ม ชมพู พีช มีครบ มาแบบจุก ๆ 6 เฉดสี บอกเลยไอเลิฟฟฟฟมากกกกก
นอกจากความแน่น สีสวย เกลี่ยง่ายของน้อง Pepo tint แล้ว น้องยังสามารถใช้กับแก้ม ปาก ตา ได้อย่างปลอดภัยหายห่วงด้วยค่ะ เพราะน้องเน้นใช้สารสกัดจากธรรมชาติ แถมยังอุดมไปด้วยสารบำรุงต่าง ๆ มากมายโดยเฉพาะ คอลลาเจนตัวช่วยสำคัญในการบำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้นตลอดเวลา รวมถึงมีน้ำดอกกุหลาบ มาช่วยเติมน้ำให้ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี อีกทั้งยังช่วยป้องกันการระคายเคือง เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีสารสกัดจากดอกซากุระ ที่จะมาช่วยลดความคล้ำของริมฝีปาก ปรับให้อมชมพูขึ้นได้อีกด้วยเด้ออ ถึงน้องจะตัวเล็ก แต่ก็พริกขี้หนู ราคาถูก ประโยชน์ครบ ก็ใครที่ไม่รู้จะซื้อ ลิปทินท์ ยี่ห้อไหนดี ลองน้องก่อนเลยจ้าาา
จุดเด่น | ราคาถูกมาก เม็ดสีแน่นสวย เกลี่ยง่าย เน้นใช้สารสกัดจากธรรมชาติ |
สารบำรุง | คอลลาเจน น้ำดอกกุหลาบ สารสกัดจากดอกซากุระ |
เนื้อลิปทินท์ | เนื้อเจล |
เฉดสี | 6 เฉดสี |
สัญชาติ | ไทย |
4. ยี่ห้อ ศศิ ชูการ์ รัช ลิปทิ้นท์
ราคาโดยประมาณ 79 บาท
สายทินท์งานฉ่ำวาวต้องมามุงงง!!! ใครชอบงานฉ่ำ งานเรโทรเก๋กรุบ อยากให้มาลองคุณ ศศิ ชูการ์ รัช ลิปทิ้นท์ ตัวนี้เลยจ้าาา ปกติเคยลองแต่ลิปสายแมทของชีนะ แต่พอเห็นนางออกไลน์ทินท์เนื้อน้ำ ก็เลยขอเปิดใจลองซักหน่อย ซึ่งเอ่ออออมันเอาเรื่องอยู่นะ มันไม่ธรรมดา เพราะว่าชีมีเนื้อทินท์ที่มีเนื้อค่อนข้างบางเบามาก พร้อมทั้งมีความติดทนนาน และที่พิเศษกว่าใคร ๆ คือ เงาตาแตกมากแม่ และไม่มีความเหนอะหนะริมปีปากเท่าไรเลยด้วย สวยสบายปากแบบสุด ๆ จ้า
แต่ถึงจะเป็นลิปสายเงาฉ่ำ ไม่ได้แห้งสนิทเน้นความติดทนยันโลกหน้าขนาดนั้น แต่เม็ดสีนางชัดสวยอยู่นะ ใครที่มีปัญหาทาลิปทินท์สายฉ่ำแล้วสีไม่เท่ากัน เกลี่ยแล้วสีโดนตรงนั้นเข้ม ตรงนี้อ่อน บอกเลยตัวนี้ไม่มีปัญหา เนื้อเรียบเนียนไม่มีสะดุดจ้ะะะ เพราะชีถือเป็น Oil-based coating technology แถมยังมีสารบำรุงริมฝีปากอย่าง โอลีฟออยล์, โจโจบาออยล์, วิตามินE และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ที่จะมารวมพลังช่วยกันช่วยบำรุงริมฝีปากอีกด้วย นอกจากนี้ ยังปราศจากแอลกอฮอล์ และพาราเบน ทำให้ริมฝีปากแพ้ง่ายก็ใช้ได้ หรือจะใช้ทากับผิวหน้า ทาตา ทาแก้มก็ได้ด้วย บอกได้คำเดียวว่า รักกกกกกกค่า
จุดเด่น | สีสวยชัด ลิปเป็นทินท์กลอสเนื้อฉ่ำวาวแต่ไม่เหนอะหนะ สบายปาก ใช้ Oil-based coating technology ทำให้ริมฝีปากเกลี่ยสีได้เรียบเนียน |
สารบำรุง | โอลีฟออยล์, โจโจบาออยล์, วิตามินE และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ไม่มีแอลกอฮอล์ พาราเบน |
เนื้อลิปทินท์ | เนื้อน้ำ |
เฉดสี | 5 เฉดสี |
สัญชาติ | ไทย |
5. ยี่ห้อ Holika Holika Heartcrush Glow Tint Air
ราคาโดยประมาณ 169 บาท
บอกแล้วว่าชี Holika Holika ปังเรื่องลิปทินท์จริงงงงง เพราะไม่ได้ดีงามแค่ Peko Water Drop Tint Bomb ตัวด้านบนเท่านั้น แต่ยังมีน้องลิปทินท์จิ้มจุ่มชุ่มชื้นสุดปังอย่าง Holika Holika Heartcrush Glow Tint Air มาตีแตกทุกแบรนด์ด้วยค่าา โดยชีเวลาทาเสร็จแล้ว จะไม่ได้มีความแห้งหรือฉ่ำวาวตาแตกจนเกินไป แต่จะให้ลุคริมฝีปากดูสุขภาพดี สีสวย มีความชุ่มชื้น น่าจุ๊บบ ๆ เหมาะสำหรับคนที่ได้อยากได้ลุคแต่งหน้าธรรมชาติ ๆ เบา ๆ และที่สำคัญชีเป็น Dupe (ของที่ทำได้เหมือน) ของ YSL (แบรนด์ดังระดับเคาร์เตอร์แบรนด์นั่นไง) Ver. ที่ถูกและดีเด้อ
แต่ด้วยความที่น้องไม่ได้เป็นลิปทินท์แห้งแมท เลยไม่ได้ติดทนนานแบบ 10 ชั่วโมง 24 ชั่วโมง เหมือนยี่ห้ออื่น ๆ นะ อยากได้ความชุ่มชื้น ปากดูนุ่ม ๆ เป็นธรรมชาติ น่าจุ๊บ ก็ต้องทำใจตรงนี้นิดหนึ่ง แต่ถ้าเทียบกับลิปสายนุ่ม สายฉ่ำตัวอื่น ๆ ก็ถือว่า น้องติดทนนานพอสมควรอยู่ ส่วนเฉดสี ก็มีให้เลือกเยอะมากกกกกก มีทั้งหมด 11 เฉดสีด้วยกัน ซึ่งสายทินท์ต้องมีถูกใจซักแท่ง 2 แท่งแหละ สีสวย ดูงาม ธรรมชาติ ๆ กันทั้งนั้น ใจไม่แข็งพอบอกเลยมีเหมา เพราะน้องเป็นแท่งรูปหัวใจน่ารักมากกก ๆ ถือไป พกไปที่ไหนก็คิ้วท์ ๆ ไม่อายใครแน่นอนค่าา
จุดเด่น | ลิปทินท์เนื้อฉ่ำเน้นลุคสุขภาพดี มีความชุ่มชื้นเล็ก ๆ สีติดทนพอสมควร มีสีให้เลือกเยอะ ไม่เหนอะหนะ เป็น Dupe ของ YSL Ver.ถูกและดี |
สารบำรุง | มอยเจอร์ไรเซอร์ |
เนื้อลิปทินท์ | กึ่งน้ำกึ่งกลอส |
เฉดสี | 11 เฉดสี |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
6. ยี่ห้อ 3CE VELVET LIP TINT
ราคาโดยประมาณ 350 บาท
จัดอันดับงานลิป จะพลาดไม่พูดถึงแบรนด์นี้ไม่ได้เลยค่ะ สำหรับคุณ 3CE เจ้าแห่งลิปจากเกาหลีที่สรรหาเฉดสีได้สวยถูกใจ ไม่เหมือนใครเลยจริง ๆ ยิ่งกับงานลิปทินท์อย่างคุณ 3CE VELVET LIP TINT ตัวนี้ก็เช่นกัน ถึงปากจะบอกว่าฉันเป็นทินท์นะ แต่ความสีสันที่นางทำมาคือ แหวกกก แตกต่างจากทินท์ทั่วไปตามท้องตลาดมากกก เพราะสีนู้ด สีส้ม จะแดงตุ๋น แดงก่ำ ชมพูหวาน ชมพูแพงมีครบจ้าา สีมาครบจัดเต็มมีให้เลือกแบบจุก ๆ ถึง 20 เฉดสี! ไม่ต่างจาก “ลิปสติกปกติ” ทั่วไปเลยค่ะ
นอกจากสีไม่ซ้ำไม่พอ เนื้อลิปยังไม่เหมือน มีความแตกต่างจากลิปทินท์ทั่วไปด้วยนะ โดยคุณคนนี้จะเป็นเนื้อ Velvet ที่มีความเป็นกำมะหยี่นิด ๆ ทาลงริมฝีปากจะมีความชุ่มชื้นเล็กน้อย เกลี่ยง่าย สีสวยชัดติดทนมากเหมือนลิปทินท์ทั่วไป แต่ที่ชอบสุดก็คือ ชีเป็นลิปทินท์ที่สามารถเบลนไล่สีได้จ้าาา ไล่สีสวย ๆ ทำให้ปากดูแพง ดูมีระดับ งานดียย์เกาหลีจัดเต็มมากก อีกทั้งยังสามารถใช้ได้ทั้งตา ปาก แก้มได้ด้วย ส่วนในเรื่องค่าตัวนางอาจจะแพงไปนิด หากเทียบกับน้องทินท์ตัวอื่น ๆ แต่มั่นใจได้เลยคุณจะไม่เคยได้ลิปทินท์สีนัว สีตุ่น สีคุณภาพสุดแบบนี้ที่ไหนมาก่อน ลองสักแท่งแล้วจะโดยตกแน่นอน ฟันธงค่า!
จุดเด่น | สีสวยมาก ไม่เหมือนทินท์ทั่วไปตามท้องตลาด เน้นความติดทนนาน มีความกำมะหยี่ กึ่งแมทเป็นธรรมชาติมาก เกลี่ยง่าย เบลนสวย ปากชุ่มชื้น |
สารบำรุง | มอยเจอร์ไรเซอร์ |
เนื้อลิปทินท์ | เนื้อกึ่ง Velvet มีความเป็น Soft Matte |
เฉดสี | 20 เฉดสี |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
7. ยี่ห้อ PERIPERA INK AIRY VELVET
ราคาโดยประมาณ 155 บาท
ใครเป็นสายลิป VELVET ไม่ชอบลิปที่แมทแห้ง แต่ก็ไม่เอาฉ่ำวาว เน้นสีสวยชัด เม็ดสีแน่น ๆ ติดทนยาว ๆ กินอะไรก็ไม่หลุด บอกเลยว่าคุณคนนี้ต้องอยู่ในลิสต์ที่คุณควรมีแน่นอน สำหรับน้อง PERIPERA INK AIRY VELVET โดยชีก็อยู่ในวงการลิปทินท์มานาน และด้วยคุณภาพที่ดีมากก ก็ทำให้ชีเป็นไอเทมฮิตฮอตนัมเบอร์วันที่สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์ PERIPERA และยังขึ้นแท่นเป็นไอเท็มสุดเลิฟของสาว ๆ หลาย ๆ คนด้วยนะ ซึ่งถ้าใครที่เป็นสาวสายเกาหลีเชื่อเลยว่า ต้องมีคุณน้องเค้าวางไว้ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ซักสี สองสีกันอย่างแน่นอน
และถึงน้องเค้าจะได้ชื่อว่าเป็นลิปทินท์แบบ Velvet ก็เถอะ แต่สัมผัสแรกที่ทาคือ มีความชุ่มชื้น เป็นทินท์ที่มีความฉ่ำ เหลว ๆ กึ่งทินท์กึ่งน้ำอยู่เหมือนกัน ซึ่งข้อดีของจุดนี้ทำให้น้องเกลี่ยง่ายมาก เบลนก็ง่ายด้วย และพอน้องเริ่มเซ็ตตัว น้องก็จะค่อย ๆ แห้งแมทกลายเป็นเนื้อ Velvet กึ่งแมท และทำให้สีติดปากแบบทนมากกกก กินน้ำกินข้าวอยู่ได้ทั้งวันก็ยังไม่หลุด แต่เนื้อลิปไม่หนักปาก มีความบางเบา ให้ความรู้สึกสบาย ๆ ที่ริมฝีปากเป็นอย่างดี และที่สำคัญ เห็นเป็นกึ่งแมทแบบนี้ ชีไม่ทำให้ปากแห้งแตกนะจ้ะะะ ช่วยคงความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ริมฝีปากแห้ง แตก และไม่ตกร่องอีกด้วย ส่วนสีก็มีให้เลือกจุก ๆ ถึง 17 สี ไม่ว่าจะอยากได้สีแนวไหน น้องจัดให้ได้ค่าาา
จุดเด่น | มีความชุ่มชื้น สีเยอะมาก เนื้อดีเกลี่ยง่าย มีความเป็นทินท์กึ่งแมท สีชัดไม่ต้องใช้เยอะ ติดปากทนมาก ไม่ต้องเติมเยอะ ตัวลิปไม่หนักปาก เบาบาง สบาย |
สารบำรุง | มอยเจอร์ไรเซอร์ |
เนื้อลิปทินท์ | เนื้อ Velvet กึ่งลิควิด, มีความกึ่งแมท สไตล์กำมะหยี่ |
เฉดสี | 17 เฉดสี |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
8. ยี่ห้อ 4U2 MINERAL TINT OIL
ราคาโดยประมาณ 179 บาท
ยกให้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ลิปถูกและดีในตอนนี้เลย ไม่ว่าจะ ออกรุ่นไหน คอลเล็กชั่นไหน ก็มีแต่ปัง ๆ ทั้งนั้น สำหรับแบรนด์เครื่องสำอางคนไทยอย่าง 4U2 ซึ่งชีก็ไม่ได้ออกมาแต่ลิปสติกแท่งหรือลิปแมทเท่านั้นน้าาา แต่ยังมีลิปทินท์เงาวาวสไตล์สายเกาหลีอย่างคุณ 4U2 MINERAL TINT OIL ด้วยจ้าา โดยคุณน้องเขาจะเป็นลิปทินท์ออยล์สุดฉ่ำวาว ไม่แมท ให้ริมฝีปากสีระเรื่อ ๆ สไตล์ Glossy ดูสุขภาพดี ปรับลุคให้สาว ๆ ปากอิ่มวาวฉ่ำสไตล์เกาหลีไปเลยยย
และแน่นอนว่าพอเป็น 4U2 นางต้องทำสีมาให้เลือกเพียบบบ โดยรุ่นนี้จะมีทั้งหมด 12 สีค่ะ สีฟาดมากเลือกกันตาแตก หลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 3 โทนสีด้วยกัน มีส้ม ชมพู และแดงก่ำๆ ก็ใครชอบดีเทลสีอ่อนสีเข้มแบบไหนลองไปเลือกกันได้นะ ส่วนเนื้อลิปก็เบาสบายปากมากกก ถึงจะเป็น Glossy แต่ก็ไม่หนึบ ไม่เหนอะหนะปากเลยซักนิด เม็ดสีชัด ติดทนนาน สามารถช่วยกลบร่องปากได้มิด แท่งเดียวเอาอยู่ และที่สำคัญ ยังมีสารบำรุงอย่าง วิตามิน E, Magnesium, Zinc, Copper จากฝรั่งเศส ที่จะมาเน้นช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ และชะลอการเกิดริ้วรอยให้กับริมฝีปากกันด้วย ก็ถ้าใครที่ยังไม่ได้ใช้น้องล่ะก็ อยากให้ลองกันจริง ๆ จ้า
จุดเด่น | ลิปทินท์ออยล์ให้ลุคฉ่ำวาว ริมฝีปากสีระเรื่อ ๆ สไตล์ Glossy ดูสุขภาพดี มีสีให้เลือกเยอะ ติดทน กลบร่องปากได้มิด |
สารบำรุง | วิตามิน E, Magnesium , Zinc , Copper จากฝรั่งเศส |
เนื้อลิปทินท์ | เนื้อกลอสแต่ไม่หนึบปาก , เนื้อเงาวาว อวบอิ่ม |
เฉดสี | 12 เฉดสี |
สัญชาติ | ไทย |
9. ยี่ห้อ Charmiss Velvet Lip Tint
ราคาโดยประมาณ 139 บาท
ยกให้เป็นม้ามืดของวงการลิปทินท์เลยจ๊ะะะ ตอนแรกก็ไม่รู้จักนางหรอก แต่บังเอิญได้ลองใช้ของเพื่อนคือเฮ้ยยยย มันดีมาก! จนต้องซื้อตามเลยอะ สำหรับคุณ Charmiss Velvet Lip Tint โดยชีจะเป็นลิปเนื้อ Velvet ที่เน้นความฉ่ำวาว เงาตาแตกสไตล์โคเรียเวอร์จ้าา เม็ดสีในเนื้อทินท์แน่นมากก เกลี่ยง่าย สีสวยมากจะใช้แบบเบลนฟุ้ง ๆ หรือจะทาทั้งปากคือได้หมดเอาอยู่ หรือจะทาแบบเงา ๆ ฉ่ำ จะลงแบบบาง ๆ แค่พอสุขภาพดีชีครีเอจลุคให้ได้หมดเลยจ้าา
ขอพูดขยายความถึงเนื้อลิปชีกันอีกหน่อย ส่วนตัวชอบมากก เพราะลิปนางไม่ได้ใสแจ๋วเนื้อน้ำ หรือเหนียวหนึบจนเกินไป คือมันเป็นอะไรที่พอดีมาก ๆ เลยอะ ทาแล้วเลิฟสุด สบายปากดีด้วย อีกทั้งยังมีความอ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมอันตรายใดใด จึงสามารถใช้กับตา แก้ม หรือส่วนอื่น ๆ ได้ด้วย แต่ ๆๆ เสียอย่างเดียวคือ มีสีให้เลือกน้อยไปหน่อยแค่ 3 สี และเป็นสีโทนแดงซะส่วนใหญ่ (ถ้าชอบโทนสีอื่นคืออด…) แต่ชีก็เป็นแดงที่เลือกมาแล้วไง ใช้ปังเหมาะกับทุกสีผิวอยู่นะ และสุดท้ายที่ชอบสุด ๆ คือ ถูกค่ะ! จัดโปรบ่อยมากกก ถึงเวลาโปรเมื่อไรคือต้องตุน บอกเลยค่ะ!
จุดเด่น | ลิปทินท์สีสวยชัด ไม่ทำให้ปากแห้ง กลบสีปากคล้ำได้ เนื้อลิปเกลี่ยง่าย เงานาน ให้ความฉ่ำแต่ไม่เหนียว |
สารบำรุง | น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันดอกทานตะวัน สารสกัดจากทับทิม ปราศจากสารอันตราย คุณแม่ตั้งครรภ์ใช้ได้ |
เนื้อลิปทินท์ | เนื้อ Velvet เบาสบาย, เนื้อเงาวาว อวบอิ่ม |
เฉดสี | 3 เฉดสี |
สัญชาติ | ไทย |
10. ยี่ห้อ Mille Tattoo Velvet Tint
ราคาโดยประมาณ 159 บาท
ปิดท้ายกันที่ลิปทินท์สุดปัง จากแบรนด์ถูกและดีที่ใคร ๆ ก็ต้องคุ้นหูคุ้นตากันบ้างแหละ สำหรับคุณ Mille ค่าา ชีเป็นแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์ออกมาเยอะเหมือนกันนะ แต่ที่ปังสุด ๆ คนติดมาก ใช้ตามกันเยอะมากก ไม่เปลี่ยนใจ ก็เห็นจะมีดินสอเขียวคิ้ว กับเจ้าลิปสติกเนี่ยแหละ ซึ่งงานลิปทินท์ของนางก็ไม่ธรรมดาเด้ออออออ ทำมาฟาดทุกแบรนด์เอาเรื่อง สำหรับ Mille Tattoo Velvet Tint ตัวนี้ นางเป็นลิปที่ติดทนมากกกก ทนแบบอยู่ได้ทั้งวันตามชื่อรุ่น Tattoo ไปเลยจ้ะะ ชีจะเป็นทินท์แนวธรรมชาติใสใส ไม่ได้แมทสนิท แต่ก็ไม่ได้ฉ่ำวาวตาแตกขนาดนั้น เป็นสไตล์ Velvet Tint ที่ให้ริมฝีปากนุ่ม ๆ ฟู ๆ ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าค่ะ
ส่วนตัวชอบชีมาก เนื้อนางดีนะ มีความกึ่งน้ำเป็นเนื้อลิควิดนิด ๆ เลยทำให้เกลี่ยง่ายมากก เม็ดสีไม่ต้องห่วงชัดลื้มมมม ทาทิ้งไว้แป๊บเดียวเนื้อลิปทินท์จะเริ่มเซ็ตตัวแห้งไปเอง แถมไม่ทำให้ปากแห้งเลย ตัวแท่งเล็กจิ๋วพกพาง่าย ไปเติมปากได้ระหว่างวันได้สบาย ๆ ด้วย (แต่จริง ๆ สีมันชัด ทนถึกมากอะ ไม่จำเป็นต้องเติมเยอะเลย) แต่เสียอย่าง มีสีให้เลือกน้อยอะแค่ 3 สี เอง แต่ก็เป็นสีคนละโทนเลยให้อภัย ใครชอบเข้มก็ทาเยอะหน่อย ใครอยากได้บาง ๆ น่ารัก ๆ ก็เกลี่ยเอา เพิ่มความฟุ้งแล้วกันเนอะะ
จุดเด่น | เกลี่ยง่ายมาก เม็ดสีชัดสวย ติดทนนาน ไม่แมทแต่ก็ไม่วาวมาก เน้นริมฝีปากธรรมชาติที่มีความชุ่มชื้นนิด ๆ สไตล์ Velvet Tint |
สารบำรุง | มอยเจอร์ไรเซอร์ |
เนื้อลิปทินท์ | เนื้อกึ่งน้ำ ไม่แมทสนิท มีความเงานิด ๆ ธรรมชาติ |
เฉดสี | 3 เฉดสี |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
ไงจ๊ะสาว ๆ ก็ได้เห็นรีวิว “ลิปทินท์” (Lip Tint) ยี่ห้อไหนดี ที่ถูกและดี กันไปแล้วถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน ไม่ทราบว่า สาว ๆ สนใจ อยากจะซื้อยี่ห้อไหน ทินท์ไหน ไปใช้ทาปาก เติมปาก เพื่อเพิ่มความสวยกันบ้างงจ๊ะ ??? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย บางยี่ห้อก็มีราคาถูกมากกก บางยี่ห้อก็แอบสูงกว่าคนอื่น ๆ เวลาเลือกซื้อก็เลือก ๆ ที่อยู่ในงบกันด้วยเนาะ ยังไงก็ขอให้ได้ลิปทินท์ยี่ห้อที่ถูกใจ ทาแล้ว สีสวยชัด ดูเด่น สบายริมฝีปาก และตอบโจทย์สาว ๆ กันด้วยค่า
Beauty Blogger ที่จะมารีวิวเครื่องสำอางแบบติดตลก ด้วยความชื่นชอบในการเขียนและแต่งหน้า ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันสินค้าตัวที่คิดว่าใช้แล้วดี แต่งแล้วสวย ไม่ทำลายผิว บางอันก็เลือกจากยอดขาย แบรนด์ไหนจัดโปรลดสุดปังก็จะได้รับเลือกอยู่บ่อย ๆ บางอันก็เลือกจากคุณภาพที่ได้ลองใช้แล้วดี มีคนเค้าบอกต่อ การันตีกันขนาดนี้ก็ต้องเอามาเล่าผ่านรีวิวกันหน่อยให้ผู้อ่านได้ไปลองใช้ดูบ้าง