Chanel แบรนด์เครื่องสำอางระดับ Hi-End ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่จะเป็นเหล่าเซเลบ ช่างแต่งหน้ามืออาชีพก็เลือกใช้ ช่วยรังสรรค์ความงามของคุณให้โดดเด่นยิ่งขึ้น มีทั้งรองพื้นเนื้อต่าง ๆ เพื่อผิวทุกเฉดสี ลิปสติกสีสวยที่มาพร้อมการดูแลให้ชุ่มชื้น อายแชโดว์สีแน่น ๆ ไพรเมอร์ล็อกเมคอัพเพื่อทุกสภาพผิว และอีกมากมาย ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ Channel ตัวไหนดี ก็เลื่อนไปอ่านต่อกันเลยค่ะ
สารบัญ
ตารางสรุปรีวิว “เครื่องสำอาง Chanel” ตัวไหนดี
สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาอ่าน อยากดูเครื่องสำอาง Chanel แบบสั้น ๆ วางเรียงเปรียบเทียบ ราคา, จุดเด่น, ส่วนผสม และอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลย หรือถ้าอยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็เลื่อนผ่านปุ่มสีแดง ไปดูรีวิวสินค้าต่อเลยค่ะ
1. CHANEL N°1 De Chanel Revitalizing Foundation
ราคาโดยประมาณ 3,000 บาท
ถึงจะเป็นไลน์ที่เพิ่งมา แต่สร้างความปังกรุบว้าวซ่าซะจนหลาย ๆ คนอยากได้อยากมีจนต้องซื้อสอยไปตาม ๆ กันค่ะ สำหรับไลน์ N°1 De Chanel งานนี้มีผลิตภัณฑ์เยอะมากทั้งบำรุงผิว และเมคอัพเลย ซึ่งคุณสมบัติจะเน้นไปที่การลดเลือนริ้วรอยองค์รวมตามคอนเซ็ปต์ความงามข้ามกาลเวลา ฟื้นคืนผิวให้มีชีวิตชีวาขึ้นมา ซึ่งอีก 1 ตัวของไลน์นี้ที่ดังมาก ๆ ก็คือรองพื้นรุ่น CHANEL N°1 De Chanel Revitalizing Foundation ค่ะ เค้าเป็นรองพื้นเนื้อบางเบาตามสไตล์ชาแนลที่อุดมไปด้วยออยล์จากดอกคามิลเลียสีแดง หัวใจหลักของ N°1 De Chanel มาพร้อมสารให้ความชุ่มชื้นจากธรรมชาติ 94% ผิวปัง ฉ่ำ ผิวแพงมากไม่ทิ้งความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไปค่ะ
จุดเด่นของคุณ CHANEL สูตรนี้ จะเน้นช่วยปกป้องผิวจากปัจจัยคุกคามที่ผิวจะต้องเจอในแต่ละวัน งานผิวที่ได้จะเน้นความอ่อนนุ่ม ผิวสวยเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้หนักหรือหนาจนเกินไป เพิ่มความรู้สึกสบายให้คุณได้ตลอดทั้งวัน แถมคุณคนนี้เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องแล้ว สารบำรุงภายในตัวรองพื้นจะช่วยให้ผิวดูเอิบอิ่มมากขึ้นด้วยนะ ส่วนเฉดสี เค้าจะมีให้เลือก 8 เฉดสี เนื้อรองพื้นบางเบาเกลี่ยง่ายมาก สามารถบิ้วเพิ่มได้ตามต้องการเลย
| จุดเด่น | รองพื้นผสมสารบำรุงลดเลือนริ้ว เนื้อรองพื้นบางเบาไม่หนา บิ้วเพิ่มเพื่อปกปิดได้ ช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะ |
| ประเภท | Foundation |
| ส่วนผสม | ออยล์จากดอกคามิลเลียสีแดง |
| สี | 8 เฉดสี |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว, คนผิวแห้ง มีริ้วรอย |
2. CHANEL Eau De Teint
ราคาโดยประมาณ 2,800 บาท
ใครที่บุญดี ผิวไม่ค่อยมีปัญหารอยสิว จุดด่างดำเท่าไร อยากได้รองพื้นหรืออะไรทำเพิ่มความแพงให้กับผิว เน้นผิวสวยเป็นธรรมชาติจนคนเห็นต้องอิจฉา เราขอภูมิใจนำเสนอน้องแนลตัวนี้เลยค่ะ นั้นก็คือคุณ CHANEL LES BEIGES Eau De Teint Water – Fresh Tint เป็นกึ่ง ๆ รองพื้นในรูปแบบทิ้นต์ลงผิวเนื้อน้ำรุ่นของชีเลยก็ว่าได้ ฟิลผิวที่ได้จะมีความฉ่ำ โกลว์ เนื้อสีเนียนติดไปกับผิวหน้าเหมือนกำลังเปลือยผิว ปกปิดเล็กน้อย บางเบา โปร่งแสง ผิวสวยแพงผู้ลากมากดีเวอร์ ใครไม่ค่อยมีปัญหาผิวเท่าไรหรือมีนิด ๆ หน่อยพอรับได้ อยากได้งานผิวแกรนด์เวอร์ประหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองหนาวคือต้องตำตามนะ
เจาะลึกที่ตัวผลิตภัณฑ์กันหน่อยค่ะ คุณคนนี้มีเทคโนโลยีไมโครฟลูอิดิก จดสิทธิบัตรแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยชีจะเป็นเม็ดสีเล็ก ๆ ตามที่เราเห็นแหละ แต่เวลาใช้เค้าจะค่อย ๆ ละลายเนียนไปกับผิว ยิ่งใช้กับแปรงที่ให้มายิ่งปังมาก ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเอฟเฟ็กต์เทคโนโลยีที่ช่วยทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง เป็นธรรมชาติมาก เนื้อทิ้นต์ให้ความชุ่มชื้นกับผิวแบบจุก ๆ เพราะเค้ามีน้ำถึง 75% เวลาใช้จึงค่อนข้างเย็นสบาย บางเบา มอบความชุ่มชื้นยาวนานถึง 8 ชั่วโมง นอกจากนี้คุณเค้ายังมีสารสกัดจากเม็ดมะขามธรรมชาติ เข้ามาเติมเรื่องความชุ่มชื้นอีกแรง เลยยิ่งทำให้ผิวแลดูสวยฉ่ำ มีความชุ่มชื้นให้ตลอดทั้งวัน
| จุดเด่น | เป็นรองพื้นแบบทิ้นต์เนื้อน้ำ ให้ลุคธรรมชาติผิวสวยฉ่ำ เพิ่มความชุ่มชื้นยาวนานให้ผิว 8 ชั่วโมง สบายผิวบางเบามาก |
| ประเภท | Foundation |
| ส่วนผสม | เทคโนโลยีไมโครฟลูอิดิก, สารสกัดจากเม็ดมะขามธรรมชาติ |
| สี | 4 เฉดสี |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว แนะนำคนไม่มีปัญหาเรื่องจุดด่างดำ |
3. CHANEL Water-Fresh Blush
ราคาโดยประมาณ 2,250 บาท
หลายคนอาจจะผิดหวังมาจากคุณ Eau De Teint เพราะผิวหน้าไม่ได้เนียนสวยพอที่จะเพิ่มความผิวแพงได้แบบธรรมชาติ แต่บอกเลยว่าถ้าใครคลั่งรักตระกูล Water มาอยู่แล้ว มาสอยคุณคนนี้ไปซักสี สองสีก็ได้ค่ะ สำหรับคุณ CHANEL LES BEIGES Eau De Blush Water – Fresh Blush บลัชออนเนื้อน้ำจากคุณชาแนล ซึ่งคุณคนนี้เราขอยกให้เป็นอีก 1 ไอเท็มที่ขายดีมากกก หมดเก่ง จะตามหาได้คือ ต้องวิ่งหาช้อปเลย
จุดเด่นยังคงเป็นการใช้เทคโนโลยีไมโครฟลูอิดิก ที่เม็ดสีจะแตกตัวกลืนติดไปกันผิว เพิ่มความเป็นธรรมชาติสุด ๆ เพิ่มสีสัน ความเป็นประกายฉ่ำน้ำให้กับพวงแก้ม ประหนึ่งกับว่าแก้มฉันอมชมพู สุขภาพดีแบบนี้อยู่แล้วตั้งแต่เกิด ระเรื่อเวอร์ ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของน้ำมากถึง 75% พร้อมกับสารสกัดจากเม็ดมะขามธรรมชาติ จึงทำให้ผิวสัมผัสค่อนข้างชุ่มชื้นมาก มีให้เลือกทั้งหมด 4 สีด้วยกัน สามารถใช้ได้กับทุกสีผิว ความโป๊ะเป็นศูนย์ ถ้าถูกใจทั้ง 4 ก็ไม่ต้องคิดเยอะ เจอแล้วก็กดเลยเพราะรุ่นนี้เค้าแย่งกันสุดค่ะ!
| จุดเด่น | เป็นบลัชออนเนื้อน้ำ สีสวยชัดติดทนกลืนเป็นธรรมชาติไปกับผิว มีความชุ่มชื้นสูง |
| ประเภท | บลัชออน |
| ส่วนผสม | เทคโนโลยีไมโครฟลูอิดิก, สารสกัดจากเม็ดมะขามธรรมชาติ |
| สี | 4 เฉดสี |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
4. CHANEL Hydrating And Plumping Lipstick
ราคาโดยประมาณ 1,500 บาท
ช่วงนี้เทรนด์ปากฉ่ำอกฉ่ำใจกำลังมา สายลักซูก็จะพลาดไม่ได้ มันต้องมีซักแท่ง สองแท่งแหละ สำหรับลิปสติกจาก CHANEL ROUGE COCO BLOOM ชีเป็นสูตร Hydrating & Plumping ทั้งชุ่มชื้น ทั้งอวบอิ่มแบบสุด ๆ แต่ความเริ่ดกว่าจนทำให้เราต้องยอมควักจ่ายเพื่อให้ได้คุณพี่เค้ามาครอบครองก็คือนางเป็นลิปเนื้อวาวฉ่ำที่ติดทนมากก! อ่านไม่ผิดฉ่ำมงแต่ติดทนเวอร์ ซึ่งความปังกรุบนี้ก็ถูกจดสิทธิบัตรแล้วเป็นที่เรียบร้อยค่าา
มากันที่ตัวลิปสติกแบบเจาะลึก ๆ กันหน่อย อันดับแรกเลยคือ คุณคนนี้มีการทำงานอยู่ 2 ฝั่งคือ การกักเก็บสี เวลาทาสีของลิปจะเซ็ตตัวทันที ทำให้ติดทนนานมาก แถมสียังเข้มข้นด้วย ส่วนอันที่ 2 คือความอวบอิ่มของตัวลิปสติก ซึ่งชีจะมีส่วนผสมของออยล์เข้มข้น เพิ่มความแวววาวเคลือบอยู่บนพื้นผิวริมฝีปาก มีสารสำคัญที่ทำให้คุณ ROUGE COCO BLOOM มีพลังในการยึดติดสูง
เนื้อลิปสติกก่อตัวเป็นแผ่นฟิล์ม คอยยึดเม็ดสีที่มีความเข้มข้นสูงให้อยู่กับที่ยาว ๆ ไป 8 ชั่วโมง ยิ่งโดนไฟยิ่งสะท้อนแสง ว่าก็ว่าสีปากโดดเด่นขึ้น วาวชัดขึ้นถึง 21% มาพร้อมกับ Hydraboost ประกอบด้วยแว๊กซ์จากพืช 3 ชนิด ได้แก่มิโมซา, โจโจบา และทานตะวัน เน้นการเพิ่มความฉ่ำมง ชุ่มชื้นสุด ๆ ไปด้วย ใครเป็นสายชอบทาลิปฉ่ำ หรือปากแห้งมาก ๆ อยากทาลิปสติกจัด ๆ แบบคนอื่นเค้า แนะนำรุ่นนี้เลย มีด้วยกันทั้งหมด 20 เฉดสีค่ะ
| จุดเด่น | ลิปเนื้อเงาวาวที่ติดทนมาก เม็ดสีเน้นอยู่ยาวนานได้ถึง 8 ชั่วโมง สีปากโดดเด่น วาวฉ่ำชัดขึ้น เพิ่มความอวบอิ่มให้ปาก |
| ประเภท | ลิปสติก |
| ส่วนผสม | แว๊กซ์จากมิโมซา โจโจบา และทานตะวัน, ออยล์ธรรมชาติเข้มข้น |
| สี | 20 เฉดสี |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสีผิว |
5. CHANEL High-Intensity Lip
ราคาโดยประมาณ 1,950 บาท
อยากได้ลิปสติกเนื้อแน่น ๆ ยิ่งสีเด็ด ๆ แรง ๆ ยิ่งมีความแซ่บตะโกนแตกแตน แนะนำคุณ CHANEL ROUGE ALLURE L'EXTRAIT ตัวนี้เลยค่ะ เค้าจะเป็นลิปสติกที่เน้นเนื้อสีที่ชัดสวย เข้มข้น พร้อมสะกดเวอร์ แต่ในขนาดเดียวกันเนื้อลิปก็ยังมีความชุ่มชื้น เงางาม ถึงจะไม่ได้เงาวาวจุ้ยซี่ ล่อแสงกระแทกตาเท่ากับลิปกลอส หรือ ROUGE COCO BLOOM แต่คุณคนนี้ช่วยให้คุณโดดเด่น ปากดูสวยสุขภาพดีได้อย่างแน่นอน ยิ่งถ้าใช้สีแดง สีเข้ม ๆ ชาแนลยิ่งถนัดเลย สีสวยเข้ากับทุกสีผิวเป็นเอกลักษณ์จริง ๆ ค่ะ
มาที่ผลิตภัณฑ์กันหน่อย ในฝั่งของเม็ดสีเค้าเข้มข้นมากค่ะ เนื้อสีละเอียดเคลือบด้วยออยล์ ทำให้สีค่อนข้างเข้มสด อยู่ได้ยาว ๆ 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน ชีก็ยังคงให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากด้วยสารสกัดดอกอุเมะและขี้ผึ้งที่ช่วยในการฟื้นบำรุง คงความชุ่มชื้นได้สูงสุดถึง 12 ชั่วโมง เนื้อลิปเบาสบายฟิลดีมากกก ได้ลองใช้เป็นอันต้องติดใจ ใช้หมดเมื่อไหร่เก็บปลอกไว้ เพราะเค้ามีให้ซื้อแบบรีฟิลได้ ปังแค่ไหนอะคิดดู
| จุดเด่น | ลิปสติกเม็ดสีเข้มข้น ชัดสวย ติดทนนานมาก ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปาก เป็นรุ่นที่มีรีฟิลตัวแท่งลิปสติกขายด้วย |
| ประเภท | ลิปสติก |
| ส่วนผสม | สารสกัดดอกอุเมะและขี้ผึ้ง, ออยล์เข้มข้น |
| สี | 22 เฉดสี |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสีผิว |
6. CHANEL ULTRA LE TEINT CMPT
ราคาโดยประมาณ 2,600 บาท
ยกให้เป็นแป้งผสมรองพื้นในตำนานตัวหนึ่งเลยค่ะ ชีเป็นหนึ่งในไอเท็มของชาแนลที่ยังคงปังอยู่ แม้ว่ารุ่นนี้จะมีมานานเป็นสิบ ๆ ปี ใครได้ลองใช้ก็คือโดนตก ติดกับถูกใจ ไปลองตัวไหนใหม่ ๆ ก็ต้องกลับมาตายรังให้กับแป้งผสมรองพื้น CHANEL ULTRA LE TEINT CMPT จุดเด่นแรกคือเป็นแป้งผสมรองพื้นที่ปกปิดดีมากกก ใครที่ผิวดีอยู่แล้ว รอยดำไม่เยอะอยากได้แค่ความสม่ำเสมอของคุณ ใช้แค่คุณคนนี้ตบเดียวเอาอยู่ แถมยังทนมากกกก คุมมันแบบขั้นสุด พิสูจน์ด้วยตัวเองโดยการใช้แป้งน้องแนลไปกินหมูกระทะ หน้าไม่มันเลยซักนิด ขออวยยศให้เลยค่ะ!!
ถึงเค้าจะควบคุมความมันปังมากสิบคะแนนเต็ม แต่ลุคผิวที่ฟินิชแล้วเป็นกึ่งแมตต์ไม่ได้แห้งแตกจนเกินไปค่ะ ชาแนลมีนวัตกรรมทำให้แป้งเหมาะสมกับกลไกของผิวได้เป็นอย่างดี ทั้งบางเบา เนียนสนิทไปกับผิว ซ้ำยังปกปิดได้อย่างดีเยี่ยมเลย มีความเป็น Soft Focus ช่วยเบลอ อำพรางร่องรอยต่าง ๆ ได้ดี ตัวเม็ดสีเป็นแบบไฮโดรโฟบิค เค้าจะทำปฏิกิริยากับกรดอะมิโน ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งได้ ส่วนสีจะมีทั้งหมด 16 เฉดสีด้วยกัน ไปลองกันดูได้เลยค่ะ
| จุดเด่น | แป้งผสมรองพื้นในตำนาน คุมมัน ปกปิด ติดทนนาน อำพรางร่องรอยต่าง ๆ ทำให้สีผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ |
| ประเภท | แป้งผสมรองพื้น |
| ส่วนผสม | เม็ดสีเป็นแบบไฮโดรโฟบิค แป้งมีนวัตกรรมทำให้เหมาะสมกับกลไกผิว |
| สี | 16 เฉดสี |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวผสม ผิวมัน |
7. CHANEL Longwear Touch Foundation Hydration – Flawless Finish
ราคาโดยประมาณ 2,500 บาท
ก็เพราะงานแป้งในไลน์ ULTRA LE TEINT มันปังเป็นตำนานเสียเหลือเกิน เลยทำให้พาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในไลน์นี้ดังตามไปด้วย ยิ่งกับงานผิวอย่าง CHANEL ULTRA LE TEINT Longwear Touch เป็นรองพื้นติดทนนานที่เปลี่ยนสไตล์มาอยู่ในรูปแบบของคุชชั่นใช้งานง่ายมากขึ้น จุดเด่นของเจ้าตัวนี้คือความติดทนแบบระดับ 10 กันน้ำกันเหงื่อในแบบที่ไม่มีคุชชันที่ไหนทำ สามารถทนต่อสภาพอากาศร้อน ๆ ได้ดี บางทีเหงื่อยิ่งออกผิวยิ่งดูสวยขึ้นด้วยนะ ฟินิชผิวที่ได้จะเป็นแบบแมตต์ ติดทนนานยาว ๆ กันไปถึง 12 ชั่วโมงเลยทีเดียวค่า
แต่ถึงชีจะให้ความเป็นแมตต์ ก็ไม่ได้ทำให้หน้าแห้ง หรือ Crack แตก หรือเป็นก้อนเลย เนื้อสัมผัสมีความเป็นอิมัลชั่นเบา ๆ เวลาใช้จึงค่อนข้างเกลี่ยง่าย สดชื่นสบายมาก มอบความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้ายาวนานถึง 8 ชั่วโมง มีให้เลือกด้วยกัน 6 เฉดสี สำหรับใครที่กังวลเรื่องรอยดำ ความไม่สม่ำเสมอที่ชัดเจนมาก ๆ สามารถบิ้วเนื้อรองพื้นเพิ่มในส่วนที่เป็นปัญหาได้ ตัวนี้ไม่หนา ไม่เป็นก้อนค่ะ
| จุดเด่น | ใช้งานง่าย ติดทนมากระดับ 12 ชั่วโมง เนื้อกึ่งแมตต์แต่ไม่ทำให้หน้าแห้ง มีความชุ่มชื้น สบายผิวยาวนาน 8 ชั่วโมง |
| ประเภท | คุชชัน |
| ส่วนผสม | มอยเจอร์ไรเซอร์ |
| สี | 6 เฉดสี |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
8. CHANEL Multi-Effect Quadra Eyeshadow
ราคาโดยประมาณ 2,550 บาท
อยากได้อายแชโดว์ซักอัน ราคาไม่อั้นแต่ขอสีไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องมานั่งจับคู่เองให้เสียเวลา เป็นไอเท็มกันตายพกไปไหนมาไหนเป็นเครื่องสำอางแต่งตาประจำกายได้ เราขอแนะนำ CHANEL LES 4 OMBRES Multi-Effect Quadra ซึ่งรุ่นนี้จะเป็นรุ่นเหนือกาลเวลา เลือกได้เลยไม่ต้องกลัวเอ้าท์ตกเทรนด์ เพราะสีโทนนี้เป็นสีแนวที่สามารถใช้ได้ตลอด ภายในตลับจะมีทั้งอายแชโดว์เนื้อแมตต์ ซาติน ชิมเมอร์ เมทัลลิก มีกระจก แปรงพร้อมครบ จะมีใหม่หรือใช้มานานก็ถูกใจทุกราย
อายแชโดว์ตัวนี้จะเป็นเนื้อแป้ง “baked powder” พิกเมนต์ ความแน่นต่าง ๆ มาจากแร่ธรรมชาติ สีสดชัดสวยเป็นพิเศษ มีส่วนผสมของน้ำมันบริสุทธิ์ทำให้การใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกลัวเนื้อแป้งร่วงเลอะเปื้อนใบหน้าส่วนอื่น ๆ โดยเฉพาะใต้ตา ได้รับการทดสอบจากจักษุแพทย์แล้ว คุณน้องแนลปลอดภัยมาก ๆ สามารถใช้ได้กับผู้ที่สวมใส่เลนส์สัมผัสได้แบบสบาย ๆ ค่า มีให้เลือกทั้งหมด 5 เฉดสี
| จุดเด่น | อายแชโดว์ที่ออกแบบสีมาแล้ว สามารถใช้ได้ตลอด ในหนึ่งตลับมีครบทั้งเนื้อแมตต์ ซาติน ชิมเมอร์ เมทัลลิก |
| ประเภท | อายแชโดว์แบบพาเลต |
| ส่วนผสม | เนื้อแป้งแบบ baked powder, แร่ธรรมชาติ, น้ำมันบริสุทธิ์ ผ่านการทดสอบจากจักษุแพทย์แล้ว |
| สี | 5 เฉดสี |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสีผิว |
9. CHANEL Powder Blush
ราคาโดยประมาณ 2,000 บาท
ใครอยากได้บลัชออนสีสวยหวาน ราคาไม่เกี่ยง สีสวยฉ่ำใจ ในระดับว่าแค่มองผ่าน ๆ ก็รู้ว่าเธอใช้ของแพง มันต้องอะไรในชอปซักอย่างแน่ ๆ ก็ต้องป้ายยาให้มีคุณ CHANEL JOUES CONTRASTE Powder Blush เป็นของตัวเองซัก 2 – 3 สี คุณคนนี้จะมีเท็กซ์เจอร์เป็นแบบแป้งอัดแข็งเนื้อเนียนละเอียดค่ะ ทำให้ทาบนผิวได้ง่ายมาก แป้งเกลี่ยง่ายฟุ้งได้ตามใจสบาย ๆ ตัวตลับหรูหราตะโกนมาก ซึ่งนอกจากความหรูนี้ เค้าก็ยังออกแบบมาให้พกพาไปสะดวกทุกอีกด้วยค่ะ
แต่ถึงจะมาอยู่ในแป้งฝุ่นอัดแข็ง แต่ชีกลับมีกลิ่นหอมละมุนละใจของกุหลาบตามสไตล์ CHANEL ไม่ค่อยเจอนะผลิตภัณฑ์ประเภทแป้งอัดแข็งที่หอมแบบนี้ แต่นางทำจ้าาา ภายในตลับมีแปรงปัดแก้มแถมมาให้ด้วย เพิ่มความใช้ง่าย และทำให้การปัดแก้มด้วยคุณคนนี้เก๋ สวย ละมุนละใจมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ ฝั่งของสีรุ่นนี้มี 2 สีให้เลือกค่ะ เน้นไปในโทนชมพูหวานกรุบ ผิวดูสุขภาพดีค่า
| จุดเด่น | บลัชออนสีสวยเน้นโทนชมพู เกลี่ยง่าย ตลับหรูหรา พกพาได้ มาพร้อมแปรงปัดแก้มขนาดเล็ก |
| ประเภท | บลัชออนปัดแก้ม |
| ส่วนผสม | เนื้อแป้งแบบละเอียดอัดแข็ง |
| สี | 2 เฉดสี |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
10. CHANEL LA BASE Glowing Makeup Primer
ราคาโดยประมาณ 2,000 บาท
ช่างแต่งหน้าหยิบบ่อย อวยกันเก่งมากกก สำหรับไพรเมอร์งานหลอกผิวสวยปังอย่างคุณ CHANEL LA BASE Glowing Makeup Primer คุณคนนี้ใช้ทาสำหรับเตรียมผิว เพื่อทารองพื้นในขั้นตอนถัดไป ไพรเมอร์มีความโกลว์อิ้งมอบความเปล่งประกายให้ผิวได้ในทันที ผิวรู้สึกสดชื่นขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความทนให้กับเมคอัพบนหน้า ทำให้ความเปล่งประกายนี้อยู่กันไปยาว ๆ นานถึง 12 ชั่วโมง เลยค่ะ
ตัวไพรเมอร์ให้การปกป้องเลยทันทีตั้งแต่ขั้นตอนแรกด้วย SPF 50/PA+++, มีกรดไฮยาลูรอนิค ช่วยให้ผิวดูเอิบอิ่ม ผิวสวยพร้อมแต่งหน้าต่ออย่างเห็นได้ชัด ผลิตภัณฑ์เป็นสูตรคอมเพล็กซ์ HYDRA PROTECT เนื้อครีมจะเข้ากักเก็บน้ำและมอบความชุ่มชื้นยาวนานตลอดทั้งวัน คอยปกป้องผิวจากปัจจัยคุกคามภายนอก ทั้งฝุ่น ควัน, มีสารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำเงินขนาดเล็ก อุดมไปด้วยแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยลดเลือกริ้วรอยให้ดูอิ่มฟูขึ้น ตัวครีมมีประกายมุก ช่วยสะท้อนแสง เบลอผิวให้ดูเนียนสวยค่ะ ยกให้เป็นไอเท็มที่ควรมี ใครก็สู้ไม่ได้แน่นอนอีกหนึ่งตัวค่ะ
| จุดเด่น | ไพรเมอร์ล็อกเมคอัพ ผิวสวยฉ่ำ เนียน ยาวนาน 12 ชั่วโมง ป้องกันฝุ่น ควัน มลภาวะไม่ให้โดนผิวโดยตรง |
| ประเภท | ไพรเมอร์ |
| ส่วนผสม | สูตรคอมเพล็กซ์ HYDRA PROTECT, สารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำเงินขนาดเล็ก, ประกายมุก |
| สี | 1 เฉดสี |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผิว |
อ่านกันมาถึงช่วงสุดท้ายของ Channel ตัวไหนดี แล้ว เนื่องจากเป็นสินค้าระดับ Hi-End อาจจะเจอสินค้าปลอมได้ เวลาซื้อก็อย่าลืมดูร้านค้าให้ดี ดูรีวิวจากผู้ซื้อใน Shopee ประกอบการตัดสินใจ หรือจะเลือกซื้อจาก Central Online ก็มั่นใจได้ว่าคุณได้สินค้าแท้อย่างแน่นอน สุดท้ายนี้ก็ขอให้ได้ Chanel ที่ถูกใจ ใช้แล้ว สวย เป๊ะ ปัง กันทุกคนนะคะ
Beauty Blogger ที่จะมารีวิวเครื่องสำอางแบบติดตลก ด้วยความชื่นชอบในการเขียนและแต่งหน้า ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันสินค้าตัวที่คิดว่าใช้แล้วดี แต่งแล้วสวย ไม่ทำลายผิว บางอันก็เลือกจากยอดขาย แบรนด์ไหนจัดโปรลดสุดปังก็จะได้รับเลือกอยู่บ่อย ๆ บางอันก็เลือกจากคุณภาพที่ได้ลองใช้แล้วดี มีคนเค้าบอกต่อ การันตีกันขนาดนี้ก็ต้องเอามาเล่าผ่านรีวิวกันหน่อยให้ผู้อ่านได้ไปลองใช้ดูบ้าง