ก็ถ้าคลิกเข้ามาอ่านที่บทความนี้ “นาฬิกา Casio ผู้ชาย” รุ่นไหนดี แสดงว่า กำลังอยากจะได้นาฬิกาดี ๆ สักหนึ่งเรือน หรือสาว ๆ กำลังมองหาของขวัญให้แฟนหนุ่มกันใช่ไหมล่ะครับ ?? ก็คลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะเอาจริง ๆ นาฬิกา Casio ผู้ชายเนี่ย เป็นแบรนด์ที่มีขายนาฬิกากันแบบเยอะมากกกก มีทั้งหลากหลายซีรีย์และหลากหลายรุ่น ถ้าไปไล่ ๆ ดูเอง จะมีให้เลือกเยอะ จนมึน ๆ งง ๆ กันเลยล่ะ ดังนั้นทางผมจึงได้ไปทำการคัดซีรีย์ที่น่าสนใจ รุ่นที่น่าโดน นำมารีวิวไว้ ณ ที่นี่แล้วถึง 10 รุ่น ก็ลองเริ่มดูนาฬิกา Casio ผู้ชายจากที่นี่ดูก่อน ไม่แน่ อาจจะเจอรุ่นที่ชอบ รุ่นที่ถูกใจ ก็กดสั่งซื้อกันได้เลยครับผม
สารบัญ
จะเลือกซื้อ “นาฬิกา Casio ผู้ชาย” ยังไงดีนะ ?
ก่อนอื่นเลย สิ่งที่ค่อนข้างสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อนาฬิกาข้อมือสักเรือนหนึ่งก็คือ “ดีไซน์” ของตัวนาฬิกาครับ ก็ต้องเลือกเรือนที่ชอบ ดีไซน์ที่ใช่ คงไม่มีใครอยากจะใส่นาฬิกาหรือเครื่องประดับที่ไม่ชอบกันเนาะ โดยทางแบรนด์ Casio เขาก็มีนาฬิกา Casio ผู้ชาย ให้เลือกซื้อกันหลากหลาย “ซีรีย์” เอามาก ๆ ไม่ว่าจะ ซีรีย์ G-SHOCK ที่เป็นซีรีย์ที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันดี และทำให้แบรนด์ Casio ได้รับความนิยมมาก ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะมีภาพจำว่า ซีรีย์ G-SHOCK จะเหมาะสำหรับวัยรุ่น มีราคาที่ไม่แพงเท่าไร แต่เดี๋ยวนี้ ทางแบรนด์เขาพัฒนาไปไกล ได้แยกย่อยซีรีย์ G-SHOCK ออกเป็นหลายช่วงราคามาก มีรุ่น Top ๆ ราคาหมื่นกว่า ๆ ที่ดูหรูดูแพง ก็มีให้เลือกซื้อกันครับ
หรือจะเป็นซีรีย์ Baby-G ที่มีดีไซน์เหมือน G-SHOCK แต่จะมีขนาดตัวเรือนและหน้าปัดที่เล็กลงมา ตอนแรกทำออกมาเพื่อสาว ๆ แต่หนุ่ม ๆ ที่มีข้อมือเล็ก ๆ หรือไม่ชอบนาฬิกาใหญ่ ๆ ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน หรือซีรีย์ EDIFICE ที่ออกแบบมาค่อนข้างดูเรียบหรู เป็นผู้ใหญ่ และยังมีซีรีย์อื่น ๆ ให้เลือกซื้ออีกเพียบ ถ้าสนใจดูข้อมูลซีรีย์เพิ่มเติมสามารถไปที่เว็บไซต์ Casio โดยตรงได้ ส่วนจะเริ่มซื้อรุ่นไหนดีนั้น ก็ลองไปดูรีวิวที่ด้านล่างดูก่อน อาจจะช่วยเป็นไกด์ไลน์ได้ครับ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “นาฬิกา Casio ผู้ชาย” รุ่นไหนดี
ก็ด้วยการที่ นาฬิกา Casio ผู้ชาย เขามีให้เลือกซื้อกันหลากหลายซีรีย์ หลากหลายรุ่นเอามาก ๆ ขนาดที่ผมไปคัด ๆ เรือนเด็ด ๆ และนำมารีวิวให้ได้ดูกัน ก็มีถึง 10 รุ่นแล้ว ก็ถ้าไปนั่งไถล ๆ ไล่ดูเองทีละเรือน อาจจะทำให้มึน ๆ มองภาพรวมกันไม่ออก ก็แนะนำว่า ลองกดที่ปุ่มด้านล่างดูก่อน จะได้เห็นนาฬิกา Casio ผู้ชายทั้ง 10 รุ่น มาวางเรียงเทียบกัน ก็น่าจะช่วยให้เห็นภาพรวมได้ง่าย แล้วถ้าอยากเจาะจงรุ่นไหนเป็นพิเศษ ก็ค่อยมาอ่านรีวิวดูก็ได้ครับ
1. รุ่น EDIFICE EQS-920PB-1AV
ราคาโดยประมาณ 3,590 บาท
ใครที่หลงใหลในความเร็วและการแข่งรถ น่าจะชอบนาฬิกา Casio ผู้ชายรุ่นนี้ EDIFICE EQS-920PB-1AV อย่างแน่นอน เพราะตัวนาฬิกาจะมีดีไซน์สีดำด้านเท่ ๆ ตัดกับดีเทลสีแดงอย่างลงตัว ดูแล้วให้ภาพลักษณ์ของสปอร์ตกับความเร็วเป็นอย่างมาก และนอกจากเรื่องดีไซน์แล้ว ยังเน้นไปที่เรื่องของตัวจับเวลาที่เป็นแบบโครโนกราฟพลังงานแสงอาทิตย์ มาพร้อมหน้าปัดหลัก 3 เข็ม และหน้าปัดย่อยอีก 3 หน้าคือ ตัวบอกเวลาแบบ 24 ชั่วโมง, ตัวจับเวลาแบบนาที, ตัวจับเวลาแบบวินาที และในเรื่องของการจับเวลา ก็สามารถจับเวลาได้ละเอียดถึงระดับ 1 วินาที และสามารถจับเวลาเป็นช่วง ๆ รวมถึงเวลาเข้าเส้นชัยของผู้แข่งขันที่ 1 และที่ 2 ได้ด้วยครับ
ส่วนดีไซน์ในเรื่องอื่น ๆ ก็คิดมาได้ละเอียดลงตัว ไม่ว่าจะ ตัวเข็มและตำแหน่งบอกเวลาที่มีพรายน้ำ ซึ่งจะเรืองแสงเมื่ออยู่ในที่มืด ตัวหน้าปัดก็ใช้เป็นกระจกมิเนอรัลกันกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดี ฝาหลังขันสกรูล็อคแน่นหนาแข็งแรง กันน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร อีกทั้งตัวแบตเตอรี่ก็ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถใช้งานได้นานแม้ไม่เจอแสงถึง 5 เดือน และรีวิวของผู้ใช้ส่วนใหญ่ ต่างก็ชื่นชอบในเรื่องของดีไซน์ที่สวย เท่ ดูดี ยิ่งเห็นงานจริงยิ่งไม่ผิดหวัง ใส่แล้วบ่งบอกถึงความมีสไตส์ในการแต่งตัวและแฟชั่น ดูเป็นผู้ชายคูล ๆ เท่ ๆ แบบสุด ๆ ครับ
ระบบ | อะนาล็อก |
วัสดุ (ตัวเรือน / กระจก / สาย) | สแตนเลสสตีล / กระจกมิเนอรัล / เรซิน |
ขนาดตัวเรือน | 56 x 47.6 x 12.5 mm |
น้ำหนัก | 104 g |
ไฟ | LED |
กันน้ำ | 100 m |
2. รุ่น G-SHOCK GA700SK-1A
ราคาโดยประมาณ 4,420 บาท
GA700SK-1A เป็น G-SHOCK นาฬิกา Casio ผู้ชายรุ่นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นน่าสนใจ โดยออกแบบตัวเคสด้วยวัสดุเรซินโปร่งใส ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ชวนให้นึกถึงยุคสมัย 80’s ปีที่การใช้วัสดุโปร่งใสเริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังผสมผสานความทันสมัยด้วยสีเมทัลลิคได้อย่างลงตัว มองภายนอกนาฬิกาข้อมือรุ่นนี้จึงมีความเท่ ดิบ เคร่งขรึม และให้ความรู้สึกร่วมสมัยเป็นอย่างมาก ตัวหน้าปัดก็เป็นกระจกมิเนอรัล แข็งแรงทนทานต่อรอยขีดข่วน และมีความใสชัด อีกทั้งยังกันน้ำได้ถึง 200 เมตรครับ
ส่วนการบอกเวลาจะมี 2 แบบ คือ แบบอะนาล็อกเป็นเข็มชั่วโมงและนาที กับแบบดิจิตอล บอกวัน, เดือน, ปี และเวลา รวมทั้งสามารถแสดงเวลาโลกได้มากถึง 31 โซน มีตัวจับเวลา 1/100 วินาที และนับเวลาถอยหลังได้ 1 – 60 นาที ฟังก์ชันอื่น ๆ ก็มีครบ ไม่ว่าจะเป็น ปฎิทิน, ตั้งปลุก, เปิด-ปิดเสียงปุ่ม, ไฟ LED, แจ้งเตือนต้นชั่วโมง รวมถึงแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานมากถึง 5 ปี ต้องบอกเลยว่า เป็นรุ่นที่มีคุณสมบัติจัดเต็มและดีไซน์ที่แปลกตา ก็ใครที่ชอบนาฬิกาที่ไม่เหมือนใคร หรือเป็นแฟนตัวยง G-SHOCK ก็ไม่ควรพลาดที่จะมีไว้ในครอบครองครับ
ระบบ | ผสมอะนาล็อก-ดิจิตอล |
วัสดุ (ตัวเรือน / กระจก / สาย) | เรซิน / กระจกมิเนอรัล / เรซิน |
ขนาดตัวเรือน | 57.5 x 53.4 x 18.4 mm |
น้ำหนัก | 69 g |
ไฟ | LED |
กันน้ำ | 200 m |
3. รุ่น CASIO GST-B100-1A
ราคาโดยประมาณ 12,665 บาท
หากต้องการนาฬิกาข้อมือที่ทำให้นึกถึงเครื่องบินเจ็ตสักรุ่น ต้องขอแนะนำรุ่นนี้เลยครับ CASIO GST-B100-1A หรือรุ่น G-STEEL ที่มาพร้อมความคลาสสิกแบบอะนาล็อก ดีไซน์ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งทนทาน ด้วยตัวเรือนและกรอบที่ทำจากสเตนเลสสตีล ซึ่งตัวกรอบมี 2 ชั้น คือ ชั้นโลหะ และชั้นที่เป็นเรซินผสมกับคาร์บอนไฟเบอร์ Torayca วัสดุคุณภาพสูงที่ใช้เป็นชิ้นส่วนของเครื่องบิน ติดตั้งยึดกับตัวเรือนด้วยสกรู 6 ตัวแน่นหนา โดยรวมจึงมีความแข็งแรงมากกก และภายในหน้าปัดยังมีโรตารี่ดิสก์ตรงตำแหน่ง 9 นาฬิกา ที่ออกแบบจากใบพัดเครื่องยนต์ไอพ่น โดยจะแสดงระดับแบตเตอรี่และตัวเลขจับเวลาที่ใบพัดนี้ ก็เรียกได้ว่า เป็นดีเทลเท่ ๆ ที่ใส่มาได้โดดเด่นมากครับ
และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ มีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ Tough Solar ในการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 5 – 24 เดือน และสามารถเชื่อมต่อการใช้งานบลูทูทผ่านสมาร์ทโฟน ร่วมกับแอป G-SHOCK Connected ได้ด้วย โดยจะมีฟังก์ชั่นอย่าง Phone Finder ที่เมื่อกดปุ่มที่นาฬิกา สมาร์ทโฟนจะทำการส่งเสียงแจ้งเตือน ช่วยให้เราหามือถือที่ไม่รู้วางลืมไว้ตรงไหนได้ง่ายขึ้น ส่วนฟังกชั่นที่เหลืออื่น ๆ ก็มีครบตามมาตรฐาน การจับเวลา, การแสดงเวลาโลก, ตั้งเวลาปลุก, ไฟ LED, ปฏิทิน รวม ๆ คุณสมบัติครบ ดีไซน์เด่น ใช้โชว์รสนิยมและไลฟ์สไตส์ของผู้ใช้ได้ดีครับ
ระบบ | อะนาล็อก |
วัสดุ (ตัวเรือน / กระจก / สาย) | เรซิน-สเตนเลสสตีล / กระจกมิเนอรัล / เรซิน |
ขนาดตัวเรือน | 58.1 x 53.8 x 14.1 mm |
น้ำหนัก | 101 g |
ไฟ | LED |
กันน้ำ | 200 m |
4. รุ่น G-SHOCK GMDB800-4
ราคาโดยประมาณ 2,640 บาท
เอาใจหนุ่มสายสปอร์ตด้วยนาฬิกาข้อมือ Casio รุ่น G-SHOCK GMDB800-4 ที่ดีไซน์สีชมพูนู้ดดูสว่างสบายตา ตัวเรือนเล็กกว่ารุ่นทั่วไปนิดหน่อย อาจจะดูเหมาะกับสาว ๆ แต่หนุ่ม ๆ ที่ข้อมือเล็ก หรือไซส์มินิก็ใช้ได้เช่นกัน โดยตัวหน้าปัดจะเป็นกระจกมิเนอรัล ป้องกันรอยขีดข่วนกับการแตกละเอียดได้ดี และยังสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร มีไฟ LED อัตโนมัติช่วยให้มองเห็นตอนช่วงกลางคืนหรือที่แสงสว่างไม่เพียงพออีกด้วย และตัวนาฬิกาเอง ก็สามารถเชื่อมต่อบลูทูทกับสมาร์ทโฟน และใช้งานร่วมกับแอป G-SHOCK Connected ซึ่งมีฟังก์ชันมากมายที่ช่วยทำให้การออกกำลังกายสะดวกและสนุกมากยิ่งขึ้นครับ
ส่วนฟังกชั่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การนับก้าวด้วยเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราเร่งแบบ 3 แกน นับได้ตั้งแต่ 0 ถึง 999,999 ก้าว พร้อมทั้งมีตัวจับเวลาอย่างละเอียด 1/100 วินาที และมีหน่วยความจำที่บันทึกข้อมูลได้มากถึง 200 รอบ นับเวลาถอยหลังได้ 1 ถึง 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังคำนวณการเผาผลาญแคลอรี่ ตั้งเป้าหมายจำนวนก้าวที่ต้องการ เก็บข้อมูลต่าง ๆ ก็ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวางแผนการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งน่าจะถูกใจคนรักสุขภาพเอามาก ๆ ราคาก็ไม่แรง ค่อนข้างสมน้ำสมเนื้อ รีวิวส่วนใหญ่ก็ชื่นชมทั้งเรื่องดีไซน์ สีสันที่สวยงาม และคุณภาพการใช้งานที่คุ้มค่าครับ
ระบบ | ดิจิตอล |
วัสดุ (ตัวเรือน / กระจก / สาย) | เรซิน / กระจกมิเนอรัล / เรซิน |
ขนาดตัวเรือน | 50.7 x 45.2 x 15.5 mm |
น้ำหนัก | 52 g |
ไฟ | LED |
กันน้ำ | 200 m |
5. รุ่น G-SHOCK GA2000 SERIES
ราคาโดยประมาณ 2,820 – 3,790 บาท
GA2000 เป็นซีรีส์ของนาฬิกา G-SHOCK ในตระกูล GA ที่ถัดมาจาก GA100 โดยสิ่งที่สังเกตเห็นถึงการพัฒนาได้อย่างชัดเจนก็คือ เรื่องของการเพิ่มสีสันที่หลากหลาย โดดเด่น และสะดุดตามากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถเปลี่ยนสายได้ด้วย (เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น) ซึ่งรุ่นพิเศษอย่าง GA2000E-4 ก็มีสายแถมมาให้อีก 2 เส้น โดยสายที่มากับตัวเรือนจะเป็นเรซินสีแดง-ดำ ส่วนอีก 2 เส้นที่แถมมาให้ในกล่องจะเป็นสายเรซินสีดำ กับสายผ้าคอร์ดูร่าสีเขียว ส่วนราคาก็จะแพงกว่าขึ้นมานิดหน่อย แต่เหมือนได้นาฬิกา 3 เรือนแบบนี้ ถือว่าคุ้มครับ
และในซีรีส์ GA2000 นี้ จะเป็นการผสมผสานระหว่างระบบอะนาล็อก หน้าปัดนาฬิกาแบบเข็ม กับการแสดงผลตัวเลขจับเวลาและวันแบบดิจิตอล นอกจากจะเป็นการออกแบบที่ใช้งานได้จริงแล้ว ยังเข้ากับการดีไซน์และวัสดุของหน้าปัด, ตัวเรือน และสาย ออกมาเป็นสไตล์สตรีทที่เข้าทีได้ดีแบบสุด ๆ และอีก 1 จุดเด่นที่นับเป็นข้อดีของซีรีส์นี้ก็คือ การใช้โครงสร้างตัวเรือนแบบ Carbon Core Guard ที่มีคุณสมบัติของคาร์บอนไฟเบอร์ที่แข็งแกร่ง จึงช่วยปกป้องวงจรภายใน และสามารถต้านทานแรงสะเทือนกับการเสื่อมสภาพได้เป็นอย่างดี และยังเป็นวัสดุเดียวกันกับที่ใช้สร้างชิ้นส่วนตัวถังยานอากาศด้วย สุดยอดไปเลยครับ
ระบบ | ผสมอะนาล็อก-ดิจิตอล |
วัสดุ (ตัวเรือน / กระจก / สาย) | คาร์บอน / กระจกมิเนอรัล / เรซิน |
ขนาดตัวเรือน | 51.2 x 48.7 x 14.1 mm |
น้ำหนัก | 64 g |
ไฟ | LED |
กันน้ำ | 200 m |
6. รุ่น Casio Baby-G series
ราคาโดยประมาณ 3,150 บาท
หากพูดถึง BABY-G หลายคนมักคิดว่าเป็นนาฬิกาข้อมือสำหรับเด็กหรือสาว ๆ เท่านั้น แต่เอาจริง ๆ สไตล์และดีไซน์ของนาฬิกาจะเป็นแบบ G-SHOCK ที่ย่อไซส์ลงมา ดังนั้นผู้ชายที่ตัวเล็ก หรือใครที่ไม่ชอบหน้าปัดใหญ่ ๆ ก็สามารถเลือกใส่ได้เช่นกัน อย่างรุ่น BA-1111-3A (สีเขียวมิ้นท์ หรือสีอื่น ๆ ก็มีให้เลือกเน้อ) ตัวนี้ ก็ได้รับแรงบันดาลใจจาก G-SHOCK รุ่นยอดนิยมอย่าง GA-110 ที่ผสมผสานความเป็นอะนาล็อกและดิจิตอลอย่างลงตัว ดีไซน์เก๋ด้วยหน้าปัดแบบ 3 มิติ แสดงให้เห็นชิ้นส่วนของเฟืองหมุน ได้ความรู้สึกถึงการทำงานที่ละเอียดซับซ้อนของเครื่องจักรกล มีเข็มอะนาล็อกที่บอกชั่วโมงและนาที พร้อมด้วยปุ่มกดต่าง ๆ ใช้งานได้ง่ายและสะดวกครับ
ในส่วนของฟังก์ชันต่าง ๆ ก็มีทั้งการแสดงเวลาโลกถึง 29 โซน, มีตัวจับเวลาและนับเวลาถอยหลัง, การตั้งปลุก 5 เวลา/วัน, ไฟ LED แบบแสงระเรื่อ และสีไฟโทนเหลืองอำพันอีกด้วย ส่วนตัวเรือนก็ทนทานต่อแรงกระแทก และกันน้ำได้ลึก 100 เมตร มาพร้อมกับแบตเตอรี่มีอายุใช้งานยาวนานถึง 2 ปี ภาพรวมคุณสมบัติครบ การออกแบบก็สวยเท่น่าสวมใส่มาก ๆ ซึ่งใครที่ชอบนาฬิกาข้อมือสไตล์สปอร์ตแบบไซส์มินิหน่อย หน้าจอไม่ใหญ่มาก ไม่ควรมองข้ามนาฬิกา Casio ผู้ชายรุ่นนี้เลยครับ
ระบบ | ผสมอะนาล็อก-ดิจิตอล |
วัสดุ (ตัวเรือน / กระจก / สาย) | เรซิน / กระจกมิเนอรัล / เรซิน |
ขนาดตัวเรือน | 46.3 x 43.4 x 15.8 mm |
น้ำหนัก | 45 g |
ไฟ | LED |
กันน้ำ | 100 m |
7. รุ่น CASIO HDC-700 SERIES
ราคาโดยประมาณ 1,130 บาท
สำหรับนาฬิกา CASIO ผู้ชายในซีรีส์ HDC-700 จะเป็นระบบผสมอะนาล็อก-ดิจิตอล สามารถดูเวลาได้ทั้งแบบเข็มและตัวเลขพร้อมกันบนหน้าปัด มาพร้อมดีไซน์สปอร์ต และสีที่ดูคุมโทนแบบแมน ๆ ซึ่งเป็นสีที่สามารถใส่ได้ทุกยุคทุกสมัย ส่วนงานประกอบกับวัสดุที่ไม่ว่าจะ ตัวเรือน, กรอบ หรือสาย ต่างก็เป็นเรซิน ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ลุย ๆ ของนาฬิกาซีรีส์นี้เข้าไปอีก และคุณสมบัติอื่น ๆ ก็ตอบโจทย์ผู้ชายสไตล์นี้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 10 ปี ใช้จนลืม ไม่ต้องคอยเปลี่ยน พร้อมลุยไปกับคุณทุกที่ทุกเวลาครับ
เท่านั้นยังไม่พอ ยังกันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร ดูเวลาโลกได้มากถึง 29 โซน โดนใจสายเอ็กซ์พลอเรอร์สุด ๆ พร้อมฟังก์ชันนับเวลาถอยหลังที่ตั้งได้ตั้งแต่ 1 นาที ไปจนถึง 24 ชั่วโมง และตัวจับเวลาระดับ 1/100 วินาทีเลยทีเดียว แต่ฟังก์ชันดี ๆ ของนาฬิกาซีรีส์นี้ ยังไม่หมด ยังมีทั้งนาฬิกาปลุก, สัญญาณแจ้งต้นชั่วโมง, ปฏิทิน, TELEMEMO ที่สามารถบันทึกชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ได้สูงสุด 30 ชุดข้อมูล รวมไปถึงไฟ LED แสงระเรื่อสีเหลืองอำพันสบายตา ที่ช่วยให้มองเห็นได้ง่ายในที่มืด พร้อมปุ่มกดด้านหน้าที่ดีไซน์ได้อย่างลงตัวอีกด้วย ด้านราคาก็ไม่แรงเลยเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ก็เหมาะมาก ๆ สำหรับใช้เป็นนาฬิกาเรือนแรก หรือจะซื้อให้เด็ก ๆ ก็ได้อยู่ครับ
ระบบ | ผสมอะนาล็อก-ดิจิตอล |
วัสดุ (ตัวเรือน / กระจก / สาย) | เรซิน |
ขนาดตัวเรือน | 53.3 x 48.8 x 16.6 mm |
น้ำหนัก | 49 g |
ไฟ | LED |
กันน้ำ | 100 m |
8. รุ่น CASIO ซีรีส์ A159 และ A168
ราคาโดยประมาณ 570 – 1,290 บาท
CASIO ซีรีส์ A159 และ A168 นาฬิการะบบดิจิตอล ดีไซน์วินเทจสุดคลาสสิก (แต่ต้องชอบดีไซน์แบบนี้จริง ๆ ถ้าไม่ชอบก็ข้ามได้เลย) เหมาะกับข้อมือของทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดย A159 จะมีขนาดตัวเรือน 36.8 x 33.2 x 8.2 มิลลิเมตร ส่วน A168 จะใหญ่ขึ้นมาหน่อยที่ 38.6 x 36.3 x 9.6 มิลลิเมตร เมื่ออยู่บนข้อมือผู้หญิงก็อาจจะดูใหญ่นิดหนึ่ง ให้ฟีลสาวเท่ สาวมั่น ในขณะที่หนุ่ม ๆ บางคนอาจจะไม่ชอบเพราะดูเล็กไปหน่อย แต่ด้วยรูปลักษณ์ของทั้ง 2 ซีรีส์นี้ มันมีสไตล์ที่จะปรับลุคของคุณให้ดูคูล เป็นหนุ่มวินเทจได้ครับ
ส่วนเรื่องข้อมือ จะเล็กจะใหญ่แค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะถึงแม้จะเป็นสายสเตนเลสสตีล แต่เป็นแบบกลัดสาย สามารถปรับความยาวเองได้ ไม่ต้องนำไปให้ร้านตัดสายให้เสียเงินเสียเวลา ส่วนวัสดุอื่น ๆ ไม่ว่าจะตัวเรือน, กรอบ หรือกระจก ก็เป็นเรซินแบบกันน้ำ พร้อมทั้งมีไฟส่องสว่างช่วยให้มองเห็นได้ง่ายในที่มืดทั้งคู่ โดยใน A159 จะเป็นไฟ LED ส่วน A168 จะเป็นไฟ EL ที่ให้แสงสว่างพื้นหลังทั้งหน้าปัด นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็นคุณสมบัติที่เหมือนกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการแสดงเวลา แบบ 12/24 ชั่วโมง, มีปฏิทิน, นาฬิกาปลุก, สัญญาณแจ้งต้นชั่วโมง รวมไปถึงตัวจับเวลาระดับ 1/100 วินาทีด้วยครับ
ระบบ | ดิจิตอล |
วัสดุ (ตัวเรือน / กระจก / สาย) | เรซิน / เรซิน / สเตนเลสสตีล |
ขนาดตัวเรือน | 36.8 x 33.2 x 8.2 mm (A159 SERIES) 38.6 x 36.3 x 9.6 mm (A168 SERIES) |
น้ำหนัก | 44 g (A159 SERIES) 49 g (A168 SERIES) |
ไฟ | LED (A159 SERIES) EL (A168 SERIES) |
กันน้ำ | ✓ |
9. รุ่น EDIFICE ซีรีส์ EFV-540D, EFV-550D, EFV-570D
ราคาโดยประมาณ 2,399 บาท
EDIFICE เป็นไลน์นาฬิกาข้อมือสำหรับคนหนุ่มรุ่นใหม่ ใส่ใจในภาพภาพลักษณ์ที่ดูดี ผสานฟังก์ชันทันสมัย โดยในซีรีส์ EFV-540D, EFV-550D และ EFV-570D จะเป็นนาฬิกาโครโนกราฟมาตรฐาน เอกลักษณ์ของนาฬิกาแบบนี้ก็คือ บนหน้าปัดที่บอกเวลาเป็นแบบอะนาล็อกปกติทั่วไป แต่จะมีหน้าปัดย่อยอีก 3 หน้าปัด ใช้เป็นนาฬิกาจับเวลาหลักนาที, วินาที กับตัวบอกเวลาแบบ 24 ชั่วโมง ก็ช่วยเพิ่มดีไซน์ ดีเทล และลูกเล่น ทำให้ดู ๆ แล้ว เป็นนาฬิกา Casio ผู้ชายที่ดูมีอะไรดีครับ
โดยทั้ง 3 ซีรีส์ จะดีไซน์มาแบบสปอร์ต ใช้สเตนเลสสตีลเป็นวัสดุทั้งหมด ยกเว้นตัวกระจกที่เป็นกระจกมิเนอรัล หรือก็คือกระจกแก้วนั่นเอง ตัว EFV-540D กับ EFV-550D จะเป็นไซส์กลาง ขนาดอยู่ที่ 48.5 x 43.8 x 12.1 มิลลิเมตร และ 48.5 x 43.8 x 11.6 มิลลิเมตร ตามลำดับ ส่วนที่เหลือจะเป็นไซส์ใหญ่ 53 x 47 x 12.1 มิลลิเมตร นอกจากใช้ดูเวลากับจับเวลาแล้ว ก็มีฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการแสดงวันที่ด้วย และเพื่อให้สมกับการเป็นนาฬิกาสำหรับคนหนุ่มรุ่นใหม่ จึงสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร ใส่ติดข้อมือลงไปทำกิจกรรมดำน้ำได้ไม่ต้องกลัวเจ๊งเลยครับ
ระบบ | อะนาล็อก |
วัสดุ (ตัวเรือน / กระจก / สาย) | สเตนเลสสตีล / กระจกมิเนอรัล / สเตนเลสสตีล |
ขนาดตัวเรือน | 48.5 x 43.8 x 12.1 mm (EFV-540D SERIES) 48.5 x 43.8 x 11.6 mm (EFV-550D SERIES) 53 x 47 x 12.1 mm (EFV-570D SERIES) |
น้ำหนัก | 144 g (EFV-540D SERIES) 156 g (EFV-550D SERIES) 141 g (EFV-570D SERIES) |
ไฟ | ✘ |
กันน้ำ | 100 m |
10. รุ่น CASIO MTP-VD01 SERIES
ราคาโดยประมาณ 729 – 1,300 บาท
MTP-VD01 ซีรีส์นาฬิกาผู้ชายจากแบรนด์ CASIO ที่ออกแบบโดยให้มีเอกลักษณ์หน้าตาและฟังก์ชันที่เหมือนกัน แต่มีดีเทลที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น โดยรวมจะเป็นนาฬิกาอะนาล็อก ดูเวลาได้ง่าย ตั้งค่าเวลาก็ง่าย ดีไซน์แบบสปอร์ต วัสดุเป็นสเตนเลสสตีลกับกระจกมิเนอรัล มีทั้งรุ่นที่เป็นสายสเตนเลสสตีล กับรุ่นที่เป็นสายหนัง แต่ไม่ว่าจะเป็นสายแบบใดก็มีขนาดของตัวเรือนที่เท่ากัน คือ 49 x 45 x 10.3 มิลลิเมตร แน่นอนว่าสายหนังย่อมมีน้ำหนักที่เบาว่า คือ 70 กรัม แต่รุ่นที่เป็นสายสเตนเลสสตีลก็ไม่ได้หนักไปมากกว่ากันสักเท่าไร อยู่ที่ 118 กรัม เพิ่มมาอีกนิดหนึ่งเท่านั้นเองครับ
ส่วนฟังก์ชันอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการบอกเวลา ก็ตามมาตรฐานที่นาฬิกาผู้ชายควรจะมี ทั้งในเรื่องของการแสดงวันที่ และการกันน้ำที่สามารถกันได้ลึกถึง 50 เมตร แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกาซีรีส์นี้ และเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกาแบรนด์นี้ด้วยก็คือ รูปลักษณ์ที่มีให้เลือกหลากหลาย แม้ในซีรีส์นี้จะมีด้วยกันอยู่หลายรุ่น แต่รับรองว่าหน้าตาไม่มีซ้ำกันแน่นอน เพราะในนาฬิกา 1 เรือน มีดีเทลให้ปรับเปลี่ยนได้ตั้งหลายจุด ไม่ว่าจะหน้าปัด กรอบ หรือสาย เลือกได้ตามความชอบเลยครับ
ระบบ | อะนาล็อก |
วัสดุ (ตัวเรือน / กระจก / สาย) | สเตนเลสสตีล / กระจกมิเนอรัล / หนังหรือสเตนเลสสตีล |
ขนาดตัวเรือน | 49 x 45 x 10.3 mm |
น้ำหนัก | 70 g (สายหนัง) 118 g (สายสเตนเลสสตีล) |
ไฟ | ✘ |
กันน้ำ | 50 m |
เป็นยังไงกันบ้างครับ หลังจากที่ได้เห็นรีวิว “นาฬิกา Casio ผู้ชาย” รุ่นไหนดี กันไปแล้วถึง 10 รุ่นด้วยกัน ไม่ทราบว่า สนใจ อยากจะซื้อรุ่นไหน เรือนไหน ไปใส่เพื่อเสริมการแต่งตัว เสริมความมั่นใจ เสริมไลฟ์สไตส์กันบ้างครับ ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ส่วนใหญ่จะมีดีไซน์แนว ๆ G-Shock ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งดีไซน์เอกลักษณ์ของแบรนด์ Casio ใส่แล้วรู้เลยว่า Casio จากญี่ปุ่นกันชัวร์ ๆ แต่ถ้าไม่ชอบ G-SHOCK ก็มีดีไซน์อื่น ๆ ให้เลือกอยู่เน้อ ยังไงก็ขอให้ได้เรือนที่ถูกใจ ใส่แล้วชอบ ฟังกชั่นตอบโจทย์การใช้งานกันด้วยครับผม
ทำงานด้านสื่อโฆษณามานานกว่า 5 ปี เป็นนักซื้อตัวยง ที่มีประสบการณ์ใช้สินค้ามากมายหลายอย่าง เลยมีบทความใหม่ๆ ออกมาชวนผู้อ่านให้ซื้อสินค้ากันบ่อย ๆ ทั้งของอาหารเสริม เทคโนโลยี แกดเจ็ต ของใช้ในบ้าน และอื่น ๆ คัดเลือกสินค้ามาแล้วซื้อตามไม่มีผิดหวังแน่ ๆ