หุ ๆๆๆ ก็ถ้าคลิกเข้ามาอ่านที่บทความนี้ “บลัชออน” (Blush On) ยี่ห้อไหนดี ที่ถูกและดี แสดงว่า อยากจะได้บลัชออนดี ๆ สักยี่ห้อที่มีราคาน่ารัก ซื้อง่ายสบายกระเป๋า ไปใช้ไปแต่งหน้ากันอยู่สินะคะ ก็คลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้วล่ะค่า เพราะที่นี่ จะมีรีวิวเจ้าเครื่องสำอางตัวนี้ให้ดูกันถึง 10 ยี่ห้อเลยทีเดียว และบอกเลย แต่ละยี่ห้อเนี่ย คัดมาให้แล้ว ดี ๆ เด็ด ๆ ปัง ๆ กันทั้งนั้น ซึ่งถ้าสาว ๆ ได้อ่านรีวิวกันจนจบล่ะก็ จะต้องอยากซื้อ ไม่ยี่ห้อใดก็ยี่ห้อหนึ่ง หรือหลายยี่ห้อกันอย่างแน่นอนนน ส่วนจะมียี่ห้ออะไรกันบ้าง ก็ตามมาดูรีวิวกันเลยค่าาาา
สารบัญ
บลัชออน คือ ?
ก็ถ้าสาว ๆ รู้จักเจ้าเครื่องสำอางนี้กันดีอยู่แล้ว ก็ข้ามไปได้เลย แต่ถ้ายังงง ๆ ไม่แน่ใจล่ะก็ บลัชออน คือ เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ “เม็ดสี” อยู่ในตัว โดยจะอยู่ในรูปของแบบเนื้อฝุ่นหรือแบบเนื้อครีม และเมื่อทำไปใช้แต่งหน้า ไปใช้ปัดแก้มแล้ว เจ้าเม็ดสีเนี่ยแหละ จะมาช่วยให้ผิวหน้าของสาว ๆ ดูเปล่งปลั่ง ดูสวยมีสีสัน ดูสุขภาพดี และมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นค่ะ
จะเลือกซื้อ “บลัชออน” ยังไงดีนะ ?
ก็ด้วยความที่เป็นเครื่องสำอางที่ใช้ในการแต่งเติมสีสันบนใบหน้า ดังนั้นสิ่งสำคัญเวลาเลือกซื้อก็คือ เรื่องของ “สี” ค่ะ เราก็อยากแนะนำว่า ถ้าเป็นสาว ๆ กลุ่มผิวขาว อยากให้ใช้พวกบลัชออนโทนสีชมพูอ่อน ๆ เพราะสีชมพูจะช่วยขับให้ใบหน้าดูเปล่งปลั่ง ดูสดใส แลดูสวยเป็นธรรมชาติมากขึ้น ส่วนกลุ่มผิวขาวเหลือหรือผิวแทนอย่างคนไทยส่วนใหญ่ เราอยากให้ลงบรอนเซอร์ก่อนที่จะลงบลัชออน เพื่อให้บรอนเซอร์ช่วยเพิ่มความคม ให้เห็นโครงหน้าโครงแก้มได้ชัดมากยิ่งขึ้น พอโครงหน้าชัด ก็จะช่วยให้ปัดบลัชออนได้สวยขึ้นนั่นเอง และสีที่ควรใช้ ก็ควรจะเป็นโทนสีชมพู (แต่อย่าใช้ชมพูที่อ่อนเกินไป ไม่งั้นสีของบลัชจะเด่นกว่าผิว) ถึงโทนสีส้มค่ะ
ส่วนกลุ่มสาวผิวเข้ม ไม่แนะนำให้ใช้บลัชออนสีอ่อน ๆ เพราะสีจะขัดกับผิวมาก จนดูแปลกตา ไม่สวยไปเลย เราแนะนำให้ใช้โทนสีเข้ม ๆ หรือสีตุ่น ๆ พวกโทนสีแดงเข้ม ก็จะได้ลุคที่ดูเฉี่ยว เซ็กซี่ดี หรือสีอมม่วงก็จะสวย ได้ Unique Look ที่ไม่เหมือนใครเลยล่ะ แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับ “ความชอบ” ของตนเองค่ะ การแต่งหน้าก็ไม่ได้มีสูตรตายตัวเนาะ ถ้าคิดว่า เราชอบสีนี้ ปัด Blush On สีนี้แล้วสวย ก็อย่าได้แคร์ จัดไปเลยค่ามัมมม!
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “บลัชออน” ยี่ห้อไหนดี
ด้วยการที่สินค้าอย่าง Blush On เขามีให้เลือกซื้อกันหลากหลายยี่ห้อเอามาก ๆ อย่างที่เราเอามารีวิวให้ดูกัน ก็มีถึง 10 ยี่ห้อแล้ว ก็เพื่อช่วยให้เห็นสินค้าทั้งหมดพร้อมกันได้ง่าย ๆ ก็ขอแนะนำให้ลองกดที่ปุ่มด้านล่าง เพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบกันก่อน จะได้เห็นสินค้าทั้ง 10 มาวางเรียงเทียบกัน พร้อมทั้งมีรายละเอียดสรุปแบบคร่าว ๆ ไว้ให้ด้วย ถ้ายังรู้สึกว่า ไม่ละเอียดพอ ค่อยอ่านรีวิวต่อด้านล่างจ้า
1. ยี่ห้อ SHIMMER BLUSH ON MADE BY 4U2
ราคาโดยประมาณ 99 บาท
ถ้ากำลังมองหาบลัชออนสีเยอะ ๆ ราคาน่ารักในแบบที่เหมาทุกสีได้สบาย ๆ เราขอยกให้แบรนด์ไทยถูกและดีที่ฮิตที่สุดในตอนนี้อย่างคุณ 4U2 กันเลยค่ะะ โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรื่องการครีเอจเฉดสีก็ทำออกมาได้แปลก ๆ ใหม่ ๆ มีความน่ารัก สามารถใช้ได้ทุกแนวไม่ว่าจะ ไทย เกาหลี จีน ฝรั่งไปเลยจ้าาา ปังสุด สวยทุกสี ซึ่งรุ่นที่เราจะแนะนำจะเป็นคุณ SHIMMER BLUSH ON MADE BY 4U2 จริง ๆ แล้วตลับหน้าตาแบบนี้เค้ามีทั้งเนื้อ Mattle และ Shimmer นะ แต่ถ้าให้ชอบ ให้แนะนำสุด ๆ ขอเอ็นเอียงไปทาง Shimmer ค่ะ สีเค้ามันนัว มีดี กระจายแสงได้เริ่ดเกินราคาไปมากจ้าา
มากันที่เนื้อสีกันหน่อย เนื้อบลัชออนของ 4U2 เค้าเป็นฝุ่นเนื้อนุ่ม ใช้งานง่าย คงคอนเซ็ปอยู่แล้วค่ะ สีส่วนใหญ่ก็ถูกคัดมาแล้วเรียบร้อย ไม่ว่าจะผิวสีไหน เฉดไหนยังไงก็เหมาะ แต่สีเข้มไปอ่อนไปอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักในการลงเด้อออสู แต่ถึงจะเป็นบลัชออนผสมชิมเมอร์ คุณเค้าก็มีความเล่นแสงอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ (เอาง่าย ๆ บางสีทาไปเรียนได้อะ ไม่โป๊ะ) ฉ่ำสวยสุขภาพดีมากกก เม็ดสีแน่น ติดทนนานมาก ๆ ไม่หลุดไม่เลือนหายระหว่างวันแน่นอน จุดนี้ถือเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์เค้าเลย แต่ขอเตือนนิดนุง สีของเค้าชัดดีจริง ๆ นะ เวลาปัดก็ค่อย ๆ จิกสีขึ้นมาทีละนิด ๆ พอ ถ้าอยากได้เข้มกว่านี้ค่อยเพิ่ม ค่อยเติมเอาค่าา
จุดเด่น | มีให้เลือก 2 แบบ เนื้อ Mattle และ Shimmer สีสวยสไตล์เกาหลี เม็ดสีแน่น ติดทนนาน เน้นความเป็นธรรมชาติ ดูสุขภาพดี |
ประเภท | บลัชออนเนื้อฝุ่นอัดแข็ง |
ขนาด/แพ็คเกจจิ้ง | 4.5 กรัม |
เฉดสี | 18 สี |
สัญชาติ | ไทย |
2. ยี่ห้อ Canmake Glow Fleur Cheeks
ราคาโดยประมาณ 229 – 285 บาท
ใครมีงบจำกัดแต่อยากได้บลัชออนที่มีลูกเล่นเยอะ สีเยอะ ใช้ได้หลาย ๆ ลุค บอกเลยว่าคุณ Canmake Glow Fleur Cheeks ตัวนี้ตอบโจทย์ค่ะ ชีเป็นบลัชออนที่มิกซ์สีมาแล้วเรียบร้อย ทั้งโทนเข้ม โทนอ่อน สีไฮไลท์ การเลือกสีต่าง ๆ เค้าเด่น เค้าดังจากเรื่องนี้สุด (Canmake มั่นใจได้เรื่องการจับคู่สี) ซึ่งพอปัดวนรวมกันจะได้สีที่นัวมากก ไม่เข้มไม่อ่อน สีละมุนสวย เล่นแสงนิด ๆ เป็นสีที่ไม่ได้หาได้ทั่วไป ชีมีมิติมากกก หรือใครอยากสนุก เปลี่ยนแนวไปเรื่อย ๆ ก็สามารถเลือกใช้เฉพาะล็อคสีก็ได้ค่ะ สีอ่อน สีเข้ม ไฮไลท์ใช้ได้ครบ คุ้มค่าสุด ๆ
มากันถึงเรื่องเฉดสีโทนสีกันบ้างเนาะ เค้าก็มีให้เลือกเยอะมากก มีถึง 12 สีด้วยกันเลยทีเดียว ซึ่งก็ควรที่จะไปลองไปเลือกที่ชอบกันเองนะ แต่บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง มีสภาพสีผิวแบบไหน ชีจะมีสีที่รองรับและเหมาะสมอย่างแน่นอน ในส่วนของตัวผลิตภัณฑ์เอง จะเป็นบลัชออนชนิดฝุ่นที่มีความโปร่งแสงมาก ทำให้เวลาปัดลงบนแก้ม เม็ดสีจะไม่ได้เข้มจนทำให้ดูแข็ง หรือเป็นกระจุก ๆ จนเกินไป รวมถึงเนื้อสัมผัสนุ่ม กระจายแสดงได้ดี มาพร้อมกับแปรงปัดแก้มขนาดกำลังกะทัดรัดใช้งานได้จริง ขนแปรงนุ่มมาก ไม่บาดผิว แพ็กเกจก็สวย โดยรวมเป็นบลัชออนที่สาว ๆ ห้ามพลาดเด้อค่าา
จุดเด่น | มีหลากหลายสีอยู่ในตลับเดียว สามารถใช้ได้ทั้งแบบปัดรวมกัน และปัดแยกใช้ทีละสี ใช้ง่าย เนื้อแป้งโปร่งแสง ทำให้ปัดแก้มแล้วดูสวยใส ไม่เป็นกระจุก |
ประเภท | บลัชออนเนื้อฝุ่นอัดแข็ง |
ขนาด/แพ็คเกจจิ้ง | 6.3 กรัม / มีแปรงขนาดเล็ก |
เฉดสี | 12 สี |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
3. ยี่ห้อ Canmake Cream Cheek
ราคาโดยประมาณ 210 บาท
ใครว่า Canmake ตัวก่อนหน้านี้ปังสุดแล้ว มาเจอคุณคนนี้หน่อยสุดกว่า! เชื่อว่าสาวสายบิวตี้ แต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจต้องรู้จัก หรือไม่ก็ต้องมีซักสีหรือ 2 สีค่ะ สำหรับคุณ Canmake Cream Cheek แรร์ไอเท็มที่คุณคนตามหา มีโปร 1 แถม 1 ทีไรเป็นต้องตุน เพราะด้วยความที่คุณคนนี้เป็นบลัชออนเนื้อครีมที่เนื้อดีมากกก เค้าเลยมีรางวัลการันตีเพียบบ และยังมีให้เลือก 2 แบบตามความชอบ ทั้งแบบเนื้อครีมมูสนุ่มหรือเนื้อเจลใส และเวลาใช้ไปเรื่อย ๆ ก็ไม่มีอาการผิวครีมด้านจนต้องขูดออกแต่อย่างใด เนื้อค่อนข้างโปร่งแสงเกลี่ยง่าย เบลนง่าย ไม่เป็นคราบ สีสวยมากกก เป็นได้ทั้งรองพื้นและสีบลัชออนตรง ๆ เลย พอตัวครีมเริ่มเซ็ตตัวคืออยู่ยงคงกระพัน ติดทนดีมากกอยู่ได้ทั้งวันไปเลยค่ะ
และด้วยความที่เค้ามีเนื้อ 2 แบบให้เลือก สาว ๆ เลยอาจจต้องชั่งใจนิดนึงเนอะว่า ชอบแบบไหน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสบายใจละ ใครเป็นสายเนื้อนุ่ม แน่น ละมุน ๆ ชอบความชิมเมอร์ละเอียดเล่นแสง แนะนำแบบเนื้อครีมมูส ส่วนใครเป็นสายแต่งหน้าเก่งอยากได้เน้นความชัด ติดทนนาน ๆ แนะนำเนื้อเจลใสเลยค่ะ ส่วนเฉดสีอัปเดตแล้วตอนนี้มีทั้งหมด 10 สี ซึ่งแต่ละสีสวยมากกก และในอนาคตต้องมีเพิ่มมาเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน ก็เอาตรง ๆ เนาะ เป็นบลัชออนอีกหนึ่งตัวที่ห้ามพลาดเช่นกันค่าา
จุดเด่น | บลัชออนเนื้อครีมช่วยเพิ่มความติดทน และความเป็นธรรมชาติให้กับแก้ม สีโปร่งแสงแต่ชัดสวย ใช้ได้ทั้งเป็นพื้นครีมบลัชเพิ่มความติดทน หรือจะทาแต่ตัวนี้ตัวเดียวไม่ปัดแก้มแบบฝุ่นเพิ่มก็ได้ |
ประเภท | บลัชออนเนื้อครีม มี 2 แบบคือ เนื้อครีมมูส, เนื้อครีมเจลใส |
ขนาด/แพ็คเกจจิ้ง | 2.3 กรัม |
เฉดสี | 10 สี |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
4. ยี่ห้อ Eglips Cheek Fit Blusher
ราคาโดยประมาณ 165 บาท
อยู่ดี ๆ ก็ดังเป็นพลุแตก คนแย่งกันซื้อดุเฉยค่ะ สำหรับบลัชออนงานเกาหลีจากแบรนด์ Eglips นั้นก็คือคุณ Cheek Fit Blusher อาจจะเพราะคุณคนนี้กลายเป็นตัวเทียบกับบลัชออน Clinique ราคาแสนจะแร๊งแรงงงด้วยแหละ (คุณเค้าตลับเดียวได้ Eglips 3 – 4 ตลับอะจ้าา) โดยจุดเด่นจะเน้นไปที่ความเป็นธรรมชาติค่ะ สีจะมีให้เลือกไปในโทนแมทท์ ที่สวยหวานสไตล์ลูกคุณสุด เนรมิตแก้มให้มีความฉ่ำเด้ง โปร่งแสง กระจายแสงได้ดีมาก มีความละมุน ปัดบาง ๆ คือคุณครูจับไม่ได้เด้อออ ดูเหมือนแก้มของสาวน้อยวัยขี้เขินเวลาเจอชายหนุ่มที่หมายปอง เขินจนทำอะไรไม่ถูกอย่างงั้นเลยจ้า
มากันที่เนื้อผลิตภัณฑ์กันหน่อยค่ะ คุณเค้าไม่ใช่บลัชออนเนื้อฝุ่นไก่กาเด้ออ แต่เค้ามีเทคโนโลยีเบลอรูขุมขนเสริมมาด้วย ทำให้ปัดแล้วบริเวณแก้มมีความละมุนนี เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น แถมตัวเนื้อฝุ่นยังมีความละเอียดจนสามารถช่วยปกปิดจุดด่างดำเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เลย ฝุ่นก็คอนโทรง่ายมาก ไม่มีปัญหาร่วงผิดที่จนโป๊ะ หรือปัดแล้วสีจับตัวเป็นก้อนอย่างแน่นอน เวลาใช้ก็ไม่หนักหน้า มีความบางเบาสูง แต่ติดทนสุด ๆ อยู่ได้ทั้งวันเลยค่ะ ซึ่งตัวสีจะมีทั้งหมด 6 สี ที่ Eglips คัดมาให้แล้วว่า เป็นสีที่มีความเป็นธรรมชาติ สดใสเกือบทั้งหมด สวยสุขภาพดี ใช้เป็น Everyday Look ได้ทุกสีเลยค่ะ
จุดเด่น | สีจะเน้นความเป็นธรรมชาติมาก สไตล์แมทท์ กระจายแสงได้ดี ใช้งานง่าย มีเทคโนโลยีเบลอรูขุมขนและปกปิดจุดด่างดำ |
ประเภท | บลัชออนเนื้อฝุ่นอัดแข็ง |
ขนาด/แพ็คเกจจิ้ง | 4 กรัม |
เฉดสี | 6 สี |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
5. ยี่ห้อ ETUDE Lovely Cookie Blusher
ราคาโดยประมาณ 260 บาท
ต้องยกให้เค้าเป็นดาวค้างฟ้า ตำนานแห่งวงการบลัชออนเกาหลีไปเลยจ้าา และในยุคของสาว Gen Y บอกเลยทุกคนต้องเคยผ่านบลัชออนพัฟขนฟูฟูจากคุณ ETUDE Lovely Cookie Blusher อย่างแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหน ชีก็ยังถือเป็นไอเท็มสุดปัง ปังทั้งสี คุณสมบัติ แพ็คเกจจิ้งเลย ก็ความ ETUDE HOUSE อะเนอะ วางใจเรื่องความควียอวอได้เลยค่ะแม่ สีแต่ละสีนางทำออกมาได้ Cuteeee~ สุด น่ารักสดใส ใช้ได้ทุกวันตามสไตล์ภาพลักษณ์แบรนด์เค้านั่นแหละจ้า
มากันที่เนื้อบลัชออนกันบ้างคะ คุณคนนี้เป็นบลัชออนเนื้อฝุ่นที่มีความละเอียดมากกก ทำให้เวลาใช้สีที่ลงกับแก้มจึงมีความละเอียดฟุ้ง กระจายแสง ทำให้การปัดบลัชออนที่มีหวานกรุบ มีความเป็นธรรมชาติมากกว่าบลัชออนสายฝรั่งที่เม็ดสีจะชัด ๆ เน้นฟาด ๆ ค่ะ ส่วนพัฟฟูฟูสุดแสนจะน่ารัก ที่ทำให้กลายเป็นจุดขายของคุณคนนี้ก็สามารถใช้ได้จริงเด้ออ ไม่ได้มาแค่ให้น่ารักเพียงอย่างเดียวนะ เนื้อพัฟค่อนข้างนุ่มนิ่มเอาเรื่องเลย จิกสีขึ้นมาค่อนข้างดี ถึงจะเป็นพัฟแต่ก็สามารถลงสีได้ดี กระจายแสง ไม่เป็นดวงเป็นปื้น ๆ พอกันกับการใช้แปรงเลยค่ะ ถือว่าคุ้มอยู่นะ ซื้อมาใช้ได้เลยไม่ต้องมีแปรงมาเพิ่ม ส่วนเฉดสี รุ่นนี้จะมีทั้งหมด 13 เฉดสี ด้วยกันค่าา
จุดเด่น | บลัชออนในตำนานที่สายบิวตี้ต้องมี สีสวยหวานเป็นเอกลักษณ์ เนื้อละเอียดมาก ทำให้เวลาปัดสีจะฟุ้งกระจายแสง มีความเป็นธรรมชาติ |
ประเภท | บลัชออนเนื้อฝุ่นอัดแข็ง |
ขนาด/แพ็คเกจจิ้ง | 4.5 กรัม / พัฟขนฟูนุ่ม |
เฉดสี | 13 สี |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
6. ยี่ห้อ LILYBYRED LUV BEAM CHEEK
ราคาโดยประมาณ 269 บาท
บลัชออนสายเกาหลีอีกหนึ่งตัวที่กำลังมาแรงแซงทางโค้งค่ะ! เพราะแค่แพ็คเกจจิ้งก็กินขาดแล้วเด้อออ สำหรับคุณ LILYBYRED LUV BEAM CHEEK น้องเป็นบลัชออนรูปหัวใจ ตลับ Cute มากกก และมีสีของบลัชตามตลับที่คุณเลือกนั้นแหละ ซื้อเยอะ ๆ ได้ไม่ต้องกลัวงง เวลาใช้สีไหนก็หยิบไม่ผิดไม่พลาดจ๊ะ อิอิ ส่วนตัวเนื้อบลัชออนเอง ก็มีความนุ่มละเอียดมาก เวลาปัดเค้าจะไม่เป็นฝุ่นฟุ้ง ๆ คอนโทรง่ายมากก ไม่มีปัญหาเรื่องตกหล่น Fall Out แน่นอนค่าา
และอีกจุดเด่นสำคัญของแบรนด์ LILYBYRED ก็คือ เรื่องของเฉดสีค่ะ (เอาจริง ๆ งานเกาหลีเค้าเด่นเรื่องนี้จริง ๆ นะ) มีสีให้เลือกอาจจะไม่เยอะเท่ายี่ห้ออื่น ๆ เพียงแค่ 6 สีด้วยกัน แต่แต่ละเฉดสีเค้าคัดมาให้แล้ว เน้นความน่ารักละมุน ใช้ได้ทั้งแก้มและตาเลยค่ะ ปัดหนักก็ก็เริ่ด หรือใครอยากใส ๆ เบา ๆ เน้นความเป็นธรรมชาติก็เอาอยู่ อีกทั้งตัวผลิตภัณฑ์ก็ยังมีส่วนผสมของ Rose hip oil & glacial water มาช่วยกักเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิวไปในตัว ทั้งสวยทั้งบำรุงกันเลยค่าา
จุดเด่น | เนื้อนุ่มละเอียดมาก ไม่เป็นฝุ่นผงฟุ้ง ไม่มีปัญหา Fall Out เฉดสีมีความเป็นธรรมชาติ สวยหวาน บลัชออนมีส่วนผสมของ Rose hip oil & glacial water ด้วย ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้น |
ประเภท | บลัชออนเนื้อฝุ่นอัดแข็ง |
ขนาด/แพ็คเกจจิ้ง | 4.7 กรัม / รูปหัวใจน่ารัก |
เฉดสี | 6 สี |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
7. ยี่ห้อ CUTE PRESS Nonstop Beauty 8 Hr Blush
ราคาโดยประมาณ 120 บาท
ช่วงนี้ตระกูลไอเท็มถูกและดี CUTE PRESS เค้ากวาดเรียบ มาแรง พร้อมฟาดทุกยี่ห้อจริง ๆ ค่ะ โดยเฉพาะไลน์เครื่องสำอาง ทำสีดี คอลเล็ปกันให้เพียบถูกใจทั้งสายแต่งหน้า สายสะสมกันไปตาม ๆ กัน แต่ถ้าเน้นบลันออชสีสวย เน้นความติดทน เราขอแนะนำรุ่น CUTE PRESS Nonstop Beauty 8 Hr Blush เลยจ้าาา ชื่อชัดเจนมากว่า เด่นสุดเรื่องความติดทน เพราะชีเป็นสูตรกันน้ำ อยู่กันไปยาว ๆ ถึง 8 ชั่วโมง แดดร้อน เหงื่อออกในสภาพอากาศประเทศไทยยังไงก็เอาอยู่ ไม่ต้องพกเติม ไม่ต้องปัดซ้ำ มันเริ่ดดดมากค่ะมัมมม!
มากันที่สีหน่อยค่ะ ความแบรนด์ไทยอย่าง CUTE PRESS เค้าออกแบบสีต่าง ๆ ให้เหมาะกับสีผิวส่วนใหญ่ของสาวไทยแน่นอน มาให้เลือกแบบจุก ๆ ถึง 8 เฉดสี ที่ครบทุกโทนทั้งแดง ชมพู ส้ม น้ำตาลพร้อมจบค่ะ และเนื้อสีของเค้าก็ค่อนข้างละเอียด เป็นฝุ่นฟุ้งที่กระจายแสงได้ดี เม็ดสีแน่นชัดมากกก ดังนั้นเวลาปัดต้องระวังหนักมือนิดนึงนะ ค่อย ๆ เติม ค่อย ๆ ปัดไปค่ะ ขอเตือนน ไม่งั้นหน้าแปลกหน้างิ้วเด้งเด่นมาแต่ไกลเด้ออ
จุดเด่น | ติดทนมาก กันน้ำกันเหงื่อ อยู่ได้สูงสุดถึง 8 ชั่วโมง เม็ดสีชัดแน่น ออกแบบสีมาเพื่อให้เหมาะกับสีผิวคนไทยโดยเฉพาะ |
ประเภท | บลัชออนเนื้อฝุ่นอัดแข็ง |
ขนาด/แพ็คเกจจิ้ง | 3.5 กรัม |
เฉดสี | 8 สี |
สัญชาติ | ไทย |
8. ยี่ห้อ Oh my blush
ราคาโดยประมาณ 70 บาท
ใครเป็นสายเกาหลีเกาใจ ตามมาตำบลัชออนจากแบรนด์ Oh my blush ด่วน ๆ ค่ะ เอาดี ๆ แค่เห็นสีอิฉันก็ตกหลุมรักชีจนจัดมาเกือบครบด้วยความขาดสติ เพราะค้าทำออกมามันสวยมากกก ไม่ได้พาสเทล หรือเข้มจนเกินไป มันมีความตุน ความหวาน ความบ่มแดด เป็นสีที่ไม่คิดว่าเครื่องสำอางราคาถูกขนาดนี้จะทำอะเธอออ (ปกติเฉดแนว ๆ นี้ เจอแต่ของแพง) และยังมีให้เลือกกันทั้งหมดถึง 15 สี สีเยอะสะใจมากกค่าา
อีกทั้งคุณคนนี้ก็มีจุดเด่นอยู่ที่เป็นบลัชออนเนื้อแป้งอัดแข็ง แต่นางไร้ฝุ่นจ้าาาาา ใช้แปรงปัดแก้มก็ไม่มีเรื่องฝุ่นฟุ้งสีฟุ้งให้กวนใจ หมดปัญหาสีร่วงเลอะ คอนโทรไม่ได้ดั่งใจ ถือว่าทำผลิตภัณฑ์ออกมาได้ตอบโจทย์ แก้ปัญหาที่สาว ๆ เจอกันบ่อยได้เลยนะ และยังสามารถใช้ได้ทั้งแก้ม ตา ปาก ครบ คุ้มสุดอะไรสุด แถมราคาชียังน่ารักกำแบงค์ร้อยมีตังทอนให้ ถึงบอกไงว่าตำครบทุกสีได้ เพราะราคาดีไม่เกินงบเนี่ยแหละค่าา
จุดเด่น | เป็นบลัชออนไร้ฝุ่น สามารถใช้ได้ทั้งแก้ม ตา ปาก เกลี่ยง่าย ติดทนนานมาก ราคาถูก มีสีให้เลือกเยอะมาก ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม |
ประเภท | บลัชออนเนื้อแป้งอัดแข็ง แต่ไร้ฝุ่น |
ขนาด/แพ็คเกจจิ้ง | 5 กรัม |
เฉดสี | 15 สี |
สัญชาติ | ไทย |
9. ยี่ห้อ MAYBELLINE NEW YORK FIT ME MONO BLUSH
ราคาโดยประมาณ 230 บาท
มาเวย์ถูกและดี จะไม่มีป้าเมยไม่ได้เด้อออ งานนี้ป้าเมยขอส่งบลัชออนจากไลน์ดังที่ใคร ๆ ก็รู้จักอย่าง MAYBELLINE NEW YORK FIT ME MONO BLUSH มาท้าตีทุกยี่ห้อค่ะ ทราบกันดีเนอะว่าไลน์ FIT ME ชีโด่งดังเรื่องเนื้อผลิตภัณฑ์ และความติดทนนานตามสไตล์เมย์เบอร์ลีนอยู่แล้ว ถึงจะเป็นเนื้อฝุ่นก็ไม่ต้องเติมระหว่างวัน ปัดเช้าอยู่ยาว ๆ ยันเย็นไปเลยค่ะ อีกทั้งตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ก็ค่อนข้างนุ่ม สีสดชัด เม็ดสีแน่นแต่กระจายแสงได้ดี เวลาใช้ไม่มีปัญหาสีกระจุกเป็นก้อนกลม ๆ อย่างแน่นอน
และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพูด ห้ามลืมเด็ดขาดก็คือ เรื่องของเฉดสีค่ะ ตระกูล FIT ME ชีเก่งเรื่องคัดเลือกสีให้ตอบโจทย์กับทุกสีผิวอยู่แล้ว (ดูจากสีลิปสติก และสีรองพื้นทุกสีผิวใช้ได้ครบจริง ๆ) ซึ่งบลัชออนนี้ ก็มีให้เลือกถึง 8 สี และชียังเคลมแรงเลยว่า เป็นบลัชออนที่สามารถเข้ากันได้กับทุกสีผิว! สีจะไปในโทนธรรมชาติสวยละมุน เม็ดสีชัดแต่ไม่ได้ฉูดฉาดจนเกินไป บลัชออนมีชิมเมอร์ละเอียดเล่นไฟนิด ๆ ผิวดูโกลว์สวยแบบกำลังดี ไม่ได้เงาวาวตาแตกจนเกินไปด้วย คือถ้ายังไม่รู้จะซื้อ Blush On ยี่ห้อไหนดี จัดป้าเมยก่อนได้เลย ไม่ผิดหวังแน่นอนค่าา
จุดเด่น | สีออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับทุกเฉดสีผิว บลัชออนมีชิมเมอร์ละเอียดเล็ก ๆ เล่นแสง สีติดทนนาน เม็ดสีแน่น เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย |
ประเภท | บลัชออนเนื้อฝุ่นอัดแข็ง |
ขนาด/แพ็คเกจจิ้ง | 4.5 กรัม |
เฉดสี | 8 สี |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
10. ยี่ห้อ Mee Boiled and Baked Blush On
ราคาโดยประมาณ 40 บาท
บลัชออนถูกและดีตัวสุดท้ายในวันนี้ ขอยกให้เป็นม้ามืด ดีงามจนต้องบอกต่อ อวยยศจนคนรอบตัวซื้อตามกันไปหมดแล้วแม่! คุณคนนี้คือ Mee Boiled and Baked Blush On ค่าา สิ่งแรกที่ประทับใจมากที่สุดคือเฉดสีค่ะ นางทำสีออกมาได้สวยมากกก โดยเฉพาะโทนส้ม โทนน้ำตาลบ่มแดดสไตล์สายฝอคือดียยย์ ตัวนี้เป็นตัวเทียบกับแบรนด์ดังราคาแรง ๆ ได้เลย ไอเลิฟ แต่ถ้าใครอยากได้บลัชออนสีหวานสายเกาหลีเกาใจ หรืออยากได้สีพื้น ๆ ที่สามารถใช้งานได้แบบ Everyday Look ชีก็มีสีชมพู สีส้มน่ารักให้เลือกอยู่เหมือนกันค่ะ มาให้เลือกแบบจุก ๆ ถึง 8 สีด้วยกันเลยย
มากันที่เนื้อสัมผัสกันบ้างคะ คุณคนนี้เป็นบลัชออนเนื้อฝุ่นอัดแข็ง สีชัดสวย พิกเมนต์แน่นสวย ใช้งานง่าย สีฟุ้งกระจายแสงได้ดี ปัดแล้วกลมกลืนไปกับผิว ไม่เป็นกระจุกเลย และที่สำคัญนางเป็นเครื่องสำอางรักผิวเด้อออ เพราะไม่มีส่วนผสมของพาราเบน ปราศจากน้ำหอม, กลูเต็น และซัลเฟต ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ไม่ค่อยแต่งหน้าเพราะแพ้เครื่องสำอางบ่อย ลองคุณคนนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วนราคาก็น่ารักสบายกระเป๋าสุด ซื้อใช้ทิ้งใช้ขว้างยังชิล ๆ ไม่ต้องกลัวเสียดายกันเลยค่า
จุดเด่น | สีชัดสวย พิกเมนต์แน่นสวย ใช้งานง่าย สีฟุ้งกระจายแสงได้ดี สีหวานมากมีความเป็นธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน ปราศจากน้ำหอม, กลูเต็น และซัลเฟต |
ประเภท | บลัชออนเนื้อฝุ่นอัดแข็ง |
ขนาด/แพ็คเกจจิ้ง | 5 กรัม / ตลับมีกระจก |
เฉดสี | 8 สี |
สัญชาติ | ไทย |
ไงจ๊ะสาว ๆ ก็ได้เห็นรีวิว “บลัชออน” (Blush On) ยี่ห้อไหนดี ที่ถูกและดี กันไปแล้วถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน ไม่ทราบว่า สนใจ อยากจะซื้อยี่ห้อไหน บลัชตัวไหน ไปใช้ปัดแก้ม แต่งหน้า แต่งตา ให้ดูสวย ดูสด ดูผิวมีสุขภาพดีขึ้นกันบ้างคะ ??? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย แต่ละยี่ห้อเขามีสีให้เลือกกันเยอะมากกกก อย่างต่ำ ๆ ก็ 6-8 สีเลยเนาะ ยังไงถ้ามีโอกาสจริง ๆ ต้องไปลองสีจากของจริงด้วยตัวเองนะ จะได้เลือกซื้อให้ตรงต่อความต้องการมากที่สุด สุดท้ายก็ขอให้ได้สีสวยสมใจ ใช้แล้วตอบโจทย์ หน้าตาดูสดใสขึ้นกันด้วยค่า
Beauty Blogger ที่จะมารีวิวเครื่องสำอางแบบติดตลก ด้วยความชื่นชอบในการเขียนและแต่งหน้า ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันสินค้าตัวที่คิดว่าใช้แล้วดี แต่งแล้วสวย ไม่ทำลายผิว บางอันก็เลือกจากยอดขาย แบรนด์ไหนจัดโปรลดสุดปังก็จะได้รับเลือกอยู่บ่อย ๆ บางอันก็เลือกจากคุณภาพที่ได้ลองใช้แล้วดี มีคนเค้าบอกต่อ การันตีกันขนาดนี้ก็ต้องเอามาเล่าผ่านรีวิวกันหน่อยให้ผู้อ่านได้ไปลองใช้ดูบ้าง