+ “ปากกา Stylus” รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี 2023 รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ +

+ "ปากกา Stylus" รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี 2023 รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ +

ปากกา Stylus ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะสำหรับใช้งานกับ Smart Phone Tablet หรือแม้กระทั่ง Notebook (แบบจอสัมผัสได้บางรุ่น หรือสาย Hybrid แปลงร่างเป็นได้ทั้ง Notebook และ Tablet) จะเอาไว้โน้ตข้อความ เขียนลายเซ็น วาดรูป ดีไซน์ต่าง ๆ ก็สามารถทำได้สะดวกเหมือนเขียนกระดาษจริง ๆ มาลองอ่านบทความนี้กันก่อนเลย เพราะเราได้รวบรวมรุ่นที่น่าสนใจ เปรียบเทียบสเปคพื้นฐาน พร้อมวิธีการเลือกซื้อปากกา Stylus แบบง่าย ๆ จะมียี่ห้อไหนที่น่าสนใจบ้างตามมาอ่านกันเลยครับ



วิธีการเลือกซื้อปากกา Stylus

วิธีการเลือกซื้อปากกา Stylus

เทคโนโลยีปากกา Stylus โดยปกติจะแบ่งออกเป็น 3 แบบใหญ่ (จริง ๆ จะมีเทคโนโลยี AES อีก แต่ยังไม่ค่อยได้รับความนิยม เลยไม่ได้พูดถึง) คือ

แบบธรรมดา (อาจจะเป็นหัวยางหรือผ้า) ที่ควรจะต้องใช้ได้ในทุกอุปกรณ์ แต่ทว่าจะมีข้อเสียตรง เวลาวางมือเราลงไปจะทำให้เครื่องเข้าใจว่ามีการแตะหน้าจอ เกิดขึ้นในบริเวณที่ 2 (อุ้งมือเรา) ทำให้เกิดสั่งงานอื่น ๆ ที่ไม่ต้องการได้ ถ้าใครใช้มือถือทั่วไป ๆ คงจะใช้ได้แค่แบบนี้เท่านั้น

เทคโนโลยี EMR ส่วนใหญ่จะพบเห็นได้ใน Samsung Galaxy Note ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Smartphone และ Tablet แต่เจ้าของเทคโนโลยีนี้จริง ๆ คือ WACOM แบรนด์ดังที่ทำกระดานเขียนสำหรับคอมพิวเตอร์ ในระยะหลัง ๆ เหมือนจะเริ่มฮิตมากขึ้น ทำให้เราได้เห็นเทคโนโลยีนี้ใน Microsoft Surface และ แบรนด์ Notebook ต่าง ๆ เริ่มหันมาใช้บริการเจ้าเทคโนโลยีตัวนี้กันมากขึ้น และที่สำคัญเวลาวางอุ้งมือเราบนจอ จะไม่เกิดปัญหาเหมือนแบบแรกด้วย หรือเรียกอีกอย่างว่ารองรับ เทคโนโลยี Palm Rejection ข้อสังเกตของ EMR คือมักจะไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ ปากกาสามารถดีไซน์ให้บางเบาได้ ปากกา S Pen ใน Samsung Galaxy Note ก็จัดเป็นเทคโนโลยีในกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน

Stylus Cover 2
เทคโนโลยี EMR และ AES สามารถพบได้ในอุปกรณ์อย่าง Smartphone, Tablet และ Notebook แบบจอสัมผัส หลายยี่ห้อ เวลาซื้อต้องตรวจสอบให้ชัวร์จากเว็บไซต์ผู้ผลิตปากกาด้วย หรือซื้ออุปกรณ์แท้ที่ออกแบบมาสำหรับแบรนด์ก็ได้ครับ

Apple Pencil และผองเพื่อน ก็แน่นอนว่าขึ้นต้นมาด้วย Apple ก็ต้องใช้กับผลิตภัณฑ์ของ Apple เท่านั้นซึ่งตอนนี้ก็แบ่งออกเป็น Gen 1 และ 2 เวลาซื้อก็ต้องเลือกให้ถูกรุ่น iPad ด้วยน้า iPad รุ่นใหม่ใช้ Apple Pencil Gen 2 กันแล้ว [เช็ครุ่นก่อนซื้อได้ที่นี่] ส่วนทางด้าน iPhone ตอนนี้ยังไม่รองรับปากกาแบบนี้นะจ๊ะ นอกจากปากกาของทาง Apple เองแล้ว เราก็ยังมีผองเพื่อนที่เป็นปากกาสำหรับใช้บน iPad ที่มาจากแบรนด์อื่น ๆ อีกด้วย (ในตารางรีวิวจะขอเรียกว่าคล้าย Apple Pencil) ข้อสังเกตคือ มักจะต้องชาร์จไฟ ที่สำคัญยังรองรับ Palm Rejection ไม่มีปัญหาเรื่องอุ้งมือแน่นอนจ้า

ถึงแม้ว่าสเปคปากกาของฝั่ง Apple นั้น ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ละเอียดเท่าพวก EMR แต่จากประสบการณ์ใช้งานจริง กลับไม่ได้รู้สึกว่าแตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่อยากแนะนำผู้ซื้อ iPad คือ ถ้าเน้นการใช้ปากกามาก การเลือกซื้อ iPad รุ่นราคาถูก เวลาใช้งานจริง ความรู้สึกเวลาจับปากกาเขียนแล้ว มันจะให้ความรู้สึกลอย ๆ เมื่อเทียบกับ iPad Pro ก่อนซื้อ iPad ไปลองวาด ๆ เขียน ๆ ก่อนก็ดีนะ เผื่อเปลี่ยนใจอยากถอย iPad Pro แทน

นอกจากดูเรื่องเทคโนโลยี ที่ต้องเลือกรุ่นให้เหมาะสมกับอุปกรณ์คู่ใจแล้ว ก็จะเป็นเรื่องรูปร่างปากกา บางคนก็อาจจะชอบปากกาเล็กพกสะดวก แต่บางคนก็ชอบอันใหญ่จับถนัดสบายมือ ตรงจุดนี้ก็เลือกกันตามความชอบได้เลยครับ


ตารางเปรียบเทียบรีวิว “ปากกา Stylus” ยี่ห้อไหนดี

สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาอ่าน อยากดูปากกา Stylus แบบสั้น ๆ วางเรียงเปรียบเทียบ ราคา, ประเภท, วัสดุ, แบตเตอรี่ และอุปกรณ์ที่รองรับ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลย หรือถ้าอยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็เลื่อนผ่านปุ่มสีแดง ไปดูรีวิวสินค้าต่อเลยครับ



1. elago Stylus BALL

ด้ามเดียวจบครบที่ elago Stylus BALL เขียนจอก็ได้ จดลงกระดาษก็ดี ด้านหนึ่งเป็นปากกาสไตลัสหัวยาง ที่สามารถใช้ได้กับ iPhone, iPad, iPod touch และพวกตระกูล Galaxy Tab ส่วนอีกด้านเป็นปากกาลูกลื่นขนาด 0.5 มิลลิเมตร การดีไซน์สวยงาม ดูดี สมราคา สมชื่อแบรนด์จากประเทศสหรัฐอเมริกา มีให้เลือก 6 สี ที่ต่างก็ดูมีระดับทั้งนั้น ไม่ว่าจะสีดำ, สีฟ้ายีนส์คราม ๆ หรือ Jean Indigo, สีน้ำตาลช็อกโกแลต, สีฟ้าปะการัง, สีเงิน และสีชมพูครับ

โดยเป็นปากกาสไตลัสรุ่นแรกของโลกที่สามารถถอดเปลี่ยนหัวยางได้ ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะตัวของหัวแบบนี้ที่มักเสื่อมเร็วและฉีกขาดไว ทำให้ไม่ต้องซื้อด้ามใหม่บ่อย ๆ แค่เปลี่ยนหัวยางก็ใช้ต่อได้แล้ว แถมในกล่องก็ยังมีหัวยางสำรองเพิ่มให้อีก 1 ชิ้นด้วยครับ ส่วนฝั่งที่เป็นปากกาลูกลื่นเมื่อหมึกหมดแล้วก็สามารถเปลี่ยนไส้ใหม่ได้เช่นกัน

ประเภทหัวยาง / แบบธรรมดา
วัสดุPremium Aluminum
แบตเตอรี่
เชื่อมต่อบลูทูธ
รองรับอุปกรณ์iPhone / iPad / iPod touch / Galaxy Tab
สีBlack / Jean Indigo / Chocolate /
Coral Blue / Silver / Lovely Pink

2. GOOJODOQ 10th Gen

กระแส NFT กำลังมาแรง หลายคนเริ่มก้าวเข้ามาเป็นศิลปินสร้างสรรค์งานศิลปะแบบดิจิทัล เปลี่ยนการวาดภาพระบายสีลงกระดาษมาทำบน iPad แต่ขาดอุปกรณ์ในการวาด เจ้าปากกายี่ห้อเดียวกันราคาก็แอบแรงเกือบครึ่งหมื่น แต่ปัญหานั้นแก้ได้ด้วยปากกาสไตลัสรุ่นนี้ ที่คุณต้องเลิฟ GOOJODOQ 10th Gen ชื่อแบรนด์ไม่คุ้นหูไม่เป็นไร ใช้งานได้ก็แล้วกัน ขอบอกว่าฟังก์ชั่นแอบคล้าย Apple Pencil แต่ราคาถูกกว่าเกือบ 10 เท่าตัว จะวางมือบนจอ หรือปรับความหนาของเส้นสำหรับวาดภาพด้วยการเอียงองศาปากกา ก็ทำได้เหมือนกัน หน้าตาก็ใกล้เคียงกันด้วยครับ

ในรุ่น 10th Gen นี้ มีให้เลือกทั้งแบบด้ามกลมและด้ามเหลี่ยม โดยด้ามเหลี่ยมนั้นมาพร้อมแม่เหล็กที่สามารถดูดติดกับด้านข้างของ iPad Pro ได้ด้วย ไม่เหมือนตรงไหนเอาปากกามาวงเลยดีกว่า แต่จุดที่ต่างและแอบสะดวกกว่าก็คือไม่ต้องเชื่อมต่อบลูทูธ สามารถใช้งานได้เลย หมดปัญหาการเชื่อมต่อหลุดให้สะดุดหงุดหงิดใจ ใช้ได้กับ iPad ตั้งแต่รุ่นปี 2018 และเป็น iOS 12.2 ขึ้นไปเท่านั้น จะ Pro, mini หรือ Air ก็ได้หมด นอกนั้นอดครับ iPhone, Android, Microsoft หรือแม้แต่ iPad รุ่นก่อนหน้าก็ไม่สามารถใช้ได้จริง ๆ

ประเภทหัวพลาสติก / คล้าย Apple Pencil
วัสดุAluminum Alloy
แบตเตอรี่
เชื่อมต่อบลูทูธ
รองรับอุปกรณ์iPad mini 6, 5 / iPad Gen 9, 8, 7, 6 /
iPad Pro 2020, 2018 / iPad Air 4, 3
สีขาว (กลม) / ดำ (กลม) /
ขาว (เหลี่ยม) / ดำ (เหลี่ยม) / ชมพู (เหลี่ยม) / เขียว (เหลี่ยม)

3. Ankndo ปากกาสไตลัส พร้อมกระเป๋าเก็บปากกา

Ankndo ปากกาสไตลัส

ราคาโดยประมาณ 47 บาท

ราคาเบา ๆ เหมือนเราซื้อปากกาลูกลื่น ด้วยราคาไม่ถึงครึ่งร้อย แต่ได้ปากกาสไตลัสแบบ 2 หัว แถมกระเป๋าเก็บปากกาด้วย จากแบรนด์ Ankndo รูปลักษณ์เหมือนปากกาลูกลื่นทั่วไป ที่เป็นโลหะกับมีคลิปหนีบ แต่ต่างตรงที่ไม่มีหมึก เขียนลงกระดาษไม่ได้ มีไว้เขียนพวกแท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน ได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อเลยครับ ด้านหนึ่งเป็นหัว Pixel Disc ที่เหมาะกับงานเขียนงานวาดเส้นเล็ก ๆ ต้องการความละเอียดสูง ๆ ส่วนอีกด้านเป็นหัวถักไฟเบอร์ ใช้ลงสีหรืองานที่ต้องการเส้นหนา และแทนนิ้วมือในการใช้งานต่าง ๆ บนอุปกรณ์ได้ด้วย

ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ ไม่ต้องเชื่อมต่อบลูทูธ ใช้งานได้เลยง่าย ๆ แต่คุณภาพก็ตามราคานะครับ ไม่ควรคาดหวังสูง หรือนำไปเทียบกับที่ราคาแพง ๆ นะ คอมเมนต์ส่วนใหญ่ให้ 5 ดาว ดีงามตามท้องเรื่อง มีบ้างที่พบเจอปัญหาชำรุด หรือไม่สามารถใช้งานได้กับบางอุปกรณ์ในตระกูล iOS แต่ถ้าไม่คิดอะไรเยอะ ไม่ซีเรียส ราคาแค่นี้เอง จะซื้อมาเผื่อไว้ให้ครบทั้ง 4 สีเลยก็ได้นะ

ประเภทหัว Pixel Disc / หัวถักไฟเบอร์ / แบบธรรมดา
วัสดุMetal
แบตเตอรี่
เชื่อมต่อบลูทูธ
รองรับอุปกรณ์Capacitive Touch Screen
สีดำ / แดง / เงิน / ขาว


4. HdoorLink ปากกาทัชสกรีน 2 In 1

HdoorLink ปากกาทัชสกรีน 2 In 1

ราคาโดยประมาณ 12 บาท

เป็นการแข่งขันที่ดุเดือดจริง ๆ นะครับสำหรับปากกาสไตลัสราคาย่อมเยา ไหนจะแข่งกันที่ความถูก แล้วยังเรื่องมัลติฟังก์ชั่นอีก อย่าง HdoorLink ปากกาทัชสกรีน 2 In 1 รุ่นนี้ เป็นปากกาสไตลัสราคาสิบกว่าบาท ถูกมาก ราคาเท่ากับดินสอหรือปากกาแบบสแตนดาร์ดเลย โดยรุ่นนี้จะมี 2 หัวเหมือนกัน แต่การใช้งานต่างกันโดยสิ้นเชิง เล่นเอาผู้ใช้บางคนเข้าใจผิดว่าด้านที่เป็นหัวพลาสติกใช้งานไม่ได้ไปเสียนี่ ทั้งที่ความจริงมีไว้ใช้กับหน้าจอสัมผัสแบบ Resistive อย่างพวกเครื่องที่เอาไว้เซ็นลายเซ็นเวลาใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต

ส่วนอีกด้านเป็นหัวยาง ซึ่งด้านนี้ล่ะที่สามารถใช้กับแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ จะใช้วาดรูประบายสี เล่นเกม หรือใช้แทนนิ้วมือสั่งการต่าง ๆ บนอุปกรณ์ก็ได้ แต่ด้วยลักษณะกลมมนของหัวแบบนี้ก็คงไม่สามารถคาดหวังกับงานละเอียด ๆ หรือเส้นเล็ก ๆ บาง ๆ ได้ จะคิดว่าเอาอีกด้านมาใช้แทนกันไม่ได้นะครับ แต่ก็นับว่าเป็นปากกาสไตลัสที่ใช้งานได้ง่าย ๆ ไม่มีแบตเตอรี่ ไม่ต้องเชื่อมต่อบลูทูธ พกพาใช้งานสะดวก ไม่ต้องดูแลอะไร หายก็ซื้อใหม่เหมือนปากกา-ดินสอทั่วไป

ประเภทหัวพลาสติก (Resistive) / หัวยาง (Capacitive) / แบบธรรมดา
วัสดุMetal
แบตเตอรี่
เชื่อมต่อบลูทูธ
รองรับอุปกรณ์Resistive & Capacitive Touch Screen
สีดำ / เงิน / แดง

5. LAMY AL-star black EMR

LAMY AL-star black EMR

ราคาโดยประมาณ 1,890 บาท

ใครที่เป็นแฟน LAMY (ลามี่) ไม่ว่าจะด้วยดีไซน์หรือลายเส้นที่ได้ออกมา ยิ่งถ้าถูกอกถูกใจซีรีส์ยอดนิยมอย่าง AL-star เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต้องไม่พลาดที่จะเป็นเจ้าของ LAMY AL-star black EMR มันคือแบบ Rollerball Pen ที่เปลี่ยนหัวเป็น EMR เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานแบบ Digital Writing แทนการเขียนลงบนกระดาษ ส่วนที่เหลือคือเหมือนกันแทบจะเป๊ะ ๆ ครับ ซึ่งเทคโนโลยี EMR เป็นสิทธิบัตรของทาง wacom ที่บางคนอาจจะรู้จักในฐานะอุปกรณ์สำหรับการวาดภาพด้วยคอมพิวเตอร์ เป็นแบรนด์ผู้นำเทคโนโลยีกระดานเขียนดิจิทัลรายใหญ่ของโลกจากประเทศญี่ปุ่น

ซึ่งความรู้สึกในการเขียนแทบไม่ต่างกันเลยนะทั้งในแง่ของสัมผัสและลายเส้นที่ได้ อาจเพราะหัวปากกามีขนาด 0.7 มิลลิเมตร เท่ากัน แถมยังมีรุ่นที่หัวเล็กกว่านั้น เพียง 0.35 มิลลิเมตร และด้วยเทคโนโลยีที่ใช้การส่งสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นการเหนี่ยวนำกลไกในปากกาให้เป็นพลังงาน จึงไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ไม่ต้องคอยชาร์จไฟ และไม่ต้องเชื่อมต่อบลูทูธ สามารถใช้งานได้เลยกับหลากหลายอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี EMR ทั้งแท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน (โดยเฉพาะ Galaxy Note ทั้งหลาย), โน้ตบุ๊ค แต่ข้อจำกัดก็คือไม่สามารถใช้ได้กับทุกยี่ห้อ ดังนั้น ก่อนซื้ออย่าลืมตรวจสอบจาก เว็บไซต์ของ Lamy ก่อนนะครับ

ประเภทหัวพลาสติก / EMR
วัสดุAnodised Aluminum / Plastic (Grip)
แบตเตอรี่
เชื่อมต่อบลูทูธ
รองรับอุปกรณ์Acer / ASUS / Dell / Fujitsu / HP / Lenovo / Microsoft / Samsung / Galaxy Note / Toshiba ตรวจสอบรุ่นเพิ่มเติม
สีดำด้าน

6. UGREEN Active Capacitive Stylus Pen for iPad

เป็นอีก 1 ปากกาสไตลัสสำหรับใช้กับ iPad โดยเฉพาะ สำหรับ UGREEN Active Capacitive Stylus Pen for iPad จากแบรนด์อุปกรณ์ดิจิทัลสัญชาติจีน(มีขายหลายอย่างมาก คุณภาพใช้ได้เลย) ตัวนี้เป็นแบบหัวพลาสติก วัสดุเป็น POM หรือ Polyacetel พลาสติกที่มีความแข็งแรงทนทานเทียบเท่าทองเหลืองหรือเหล็กเลยทีเดียวครับ ด้วยขนาดของหัวที่เล็กและบางเพียง 1.6 มิลลิเมตร จึงสามารถใช้สร้างสรรค์งานภาพที่มีดีเทลละเอียด ๆ ได้ ในขณะที่การใช้งานอื่น ๆ เช่น การเขียน จดบันทึกต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการเล่นเกม ก็ทำได้ดีทีเดียว

เปิดใช้งานได้ทันทีไม่ต้องเชื่อมต่อบลูทูธ ยาวนานต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จจนเต็มเพียงแค่ 1 ชั่วโมง เท่านั้น โดยปากกาจะปิดโหมดสแตนด์บายอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งานนาน 6 นาที แต่สามารถเปิดกลับมาใช้ใหม่ได้ง่าย ๆ เพียงกดเบา ๆ ที่ปุ่มบนตัวเครื่อง ด้ามปากกาผลิตจากอะลูมิเนียมอัลลอยที่แข็งแรงทนทาน ทั้งยังให้รูปลักษณ์หน้าตาที่ดูดี สวยงามตามมาตรฐานเดียวกันทั้งรุ่น GEN 1 และ GEN 2 ที่มีแม่เหล็กในตัว สามารถดูดติดกับด้านข้างของ iPad Pro ได้ครับ

ประเภทหัวพลาสติก / คล้าย Apple Pencil
วัสดุAluminum Alloy
แบตเตอรี่
เชื่อมต่อบลูทูธ
รองรับอุปกรณ์iPad
สีดำ


7. Baseus Capacitive Stylus Pen

ด้วยความเป็นเจ้าครองตลาดแท็บเล็ต มียอดขายสูงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ของ iPad ทำให้เหล่าบรรดาแบรนด์อุปกรณ์ดิจิทัลต่างแข่งกันออกอุปกรณ์เสริมมารองรับการทำงานด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้ที่ไม่ไหวจะเคลียร์กับราคาของอุปกรณ์เสริมจากแบรนด์เดียวกัน ซึ่ง Baseus Capacitive Stylus Pen ก็ขอสู้ศึกแห่งปากกาสไตลัสสำหรับ iPad ด้วยราคาที่ถูกกว่าสินค้า Original จาก Apple เกือบ 4 เท่า แต่จัดเต็มฟังก์ชั่นและหน้าตาไม่ให้แพ้ ตั้งแต่ลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการมีแม่เหล็กที่สามารถดูดติดกับด้านข้างของ iPad Pro ได้ ไปจนถึงฟังก์ชั่นสำคัญอย่างการวางมือบนหน้าจอก็สามารถทำได้เช่นกันครับ

รุ่นนี้เปิดใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 18 ชั่วโมง ต่อการชาร์จเพียง 1 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่นปิดสแตนด์บายอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้งานนาน 5 นาที มีปุ่มเปิด-ปิดแสนสะดวกบริเวณปลายด้านบนตัวเครื่องไว้ให้ด้วย แถมยังแก้ปัญหาของเหล่าปากกาสไตลัสแบบมีฝาปิดช่องเสียบชาร์จ ว่าถอดแล้วไปไหน ซึ่งรุ่นนี้มีสายเชื่อมฝากับตัวเครื่อง ถ้าฝาหายก็คือปากกาต้องหายด้วยนะครับ ตัวด้ามเป็นโลหะสีเทา Deep Space Grey สวยงามดูแพง ตัดกับสายเชื่อมสีออกส้ม ๆ แดง ๆ ที่อำนวยความสะดวกในการถอดออกจากเคสแล้ว ยังใส่ความโมเดิร์นสวยงามมาได้อย่างลงตัว

ประเภทหัวพลาสติก / คล้าย Apple Pencil
วัสดุMetal / Aluminum Alloy
แบตเตอรี่
เชื่อมต่อบลูทูธN/A
รองรับอุปกรณ์iPad Pro 2020, 2018 / iPad Air 3 /
iPad Gen 7, 6 / iPad mini 5 /
สีDeep Space Grey

8. Apple Pencil (2nd Generation)

ยืน 1 ไม่เป็น 2 รองใคร คู่ใจ iPad ยิ่ง iPad mini 6 เพิ่งออกใหม่แบบนี้ มีหรือที่สาวกจะไม่จัด Apple Pencil (2nd Generation) มาประดับบารมี ถึงแม้จะแพงล้ำหน้าเพื่อนฝูงไปมาก แต่หยิบขึ้นมาใช้กี่ทีก็ดูเท่ดูคูล แล้วผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้ยังมีดีที่ทนทาน ใช้งานได้นาน ไม่จุกจิก นอกซะจากจะอยากเปลี่ยนเองตามรุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมาบ๊อยบ่อย โดยดินสอทั้ง 2 รุ่น จะแยกกันอย่างชัดเจนว่าแต่ละรุ่นสามารถใช้กับเครื่องรุ่นใดได้บ้าง ทั้งยังไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ครับ

โดยในรุ่นที่ 2 นี้ ยังมีฟังก์ชั่นล้ำ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา อย่างการดีไซน์ให้ด้านหนึ่งแบนราบ เพื่อสามารถยึดติดกับ iPad ด้วยแม่เหล็กได้ โดยยังเป็นการชาร์จไฟและจับคู่กับอุปกรณ์อัตโนมัติ ไม่ต้องนำไปเสียบที่ช่องชาร์จแบตเตอรี่เหมือนรุ่นที่ 1 แต่สิ่งที่เป็นกิมมิคน่ารัก ๆ ต้องยกให้การที่สามารถสลักอิโมจิหรือข้อความลงไปบนด้ามดินสอได้ ซึ่งสิทธิพิเศษนี้มีให้เฉพาะผู้ที่ซื้อรุ่น 2 เท่านั้นนะครับ

ประเภทหัวพลาสติก / Apple Pencil
วัสดุN/A
แบตเตอรี่
เชื่อมต่อบลูทูธ
รองรับอุปกรณ์iPad mini 6 / iPad Pro 12.9 (Gen 3-5) / iPad Pro 11 (Gen 1-3) / iPad Air 4
สีขาว

9. ADONIT MINI 4

อีก 1 ปากกาสไตลัส หัว Pixel Disc ที่เราอยากจะแนะนำ แม้หัวแบบนี้จะไม่ค่อยมีใครทำออกมาสักเท่าไร อาจเพราะอายุการใช้งานค่อนข้างสั้น ต้องเปลี่ยนจานบ่อย ทั้งยังมีเสียงกระทบหน้าจอ เวลาใช้จริงหัวพลาสติกก็มีเสียงกระทบเวลาใช้งานเหมือนกันนะ แต่ทราบไหมครับว่านี่ล่ะเขียนได้ลื่นที่สุดแล้วหัวดิสก์แบบนี้ ซึ่งนั่นก็เป็น 1 ในข้อดีของ ADONIT MINI 4 ปากกาสไตลัสที่สามารถใช้ได้กับจอทัชสกรีนทุกชนิด แต่ด้วยขนาดที่เล็กตะมุตะมิ สั้นกว่าใครเขา เพียง 125.9 มิลลิเมตร ทั้งยังไม่สามารถวางมือบนหน้าจอได้ จึงเหมาะสำหรับสมาร์ทโฟนมากกว่าแท็บเล็ตครับ

ใช้งานสะดวก ไม่มีแบตเตอรี่ ไม่ต้องคอยชาร์จไฟ แถมไม่ต้องเชื่อมต่อกับบลูทูธให้กวนใจเวลาซิงค์อุปกรณ์ไม่เจอกันด้วย แต่อาจมีข้อกังวลว่าหัวดิสก์แบบนี้จะหลุดไหม จะพกพาสะดวกหรือเปล่า ขอบอกว่าหายห่วงครับ เพราะตัวด้ามมีส่วนแยกให้หมุนออก เพื่อเก็บช่วงหัวดิสก์เข้าไปอยู่ในด้ามปากกาได้ ซึ่งเป็นด้ามโลหะ ปลอดภัยแน่นอน นอกจากจะเป็นตัวเลือกของหัวปากกาที่ต่างออกไปแล้ว ในแง่ของรูปลักษณ์และสีสัน ใครที่รู้สึกว่าสีขาว, สีดำ หน้าตาเพลน ๆ ไม่ใช่ฉันเลย ขอให้ลองเปิดใจให้รุ่นนี้ ไม่มีผิดหวัง

ประเภทหัว Pixel Disc / ทั่วไป
วัสดุMetal
แบตเตอรี่
เชื่อมต่อบลูทูธ
รองรับอุปกรณ์Touch Screen
สีเทาเข้ม-ดำ / เขียวมะกอก-เงิน / ฟ้าสด-เงิน / ส้ม-เงิน

10. WiWU Pencil X

ปิดท้ายด้วยปากกาสไตลัสสำหรับ iPad อีก 1 รุ่นที่เราอยากจะแนะนำ นั่นก็คือ Pencil X จากแบรนด์สัญชาติจีนอย่าง WiWU มาในรูปลักษณ์พร้อมฟังก์ชั่นที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับแบรนด์เจ้าตลาด แต่ในเรื่องของราคาแน่นอนว่าย่อมเยากว่าประมาณ 5 เท่าได้ครับ เป็นแบบหัวพลาสติก ตัวด้ามเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยสีขาว ดูเรียบ ๆ มินิมอล ๆ มีแม่เหล็กสามารถดูดติดกับด้านข้างของ iPad Pro ได้ สามารถวางมือบนจอได้ จะวาดรูป ลงสี จดงาน เล่นเกม หรือจะใช้แทนนิ้วจิ้มแป้นพิมพ์ ก็ทำได้ดี

เพียง 30 นาที แบตเตอรี่ก็จะถูกชาร์จจนเต็ม แล้วก็จะสามารถใช้งานได้นานสูงสุดประมาณ 10 – 12 ชั่วโมง เลยทีเดียว เพียงกดปุ่มเปิดที่ปลายด้านบนก็พร้อมทำงานทันที ไม่ต้องเสียเวลาเชื่อมต่อบลูทูธ รองรับ iPad ตั้งแต่รุ่นปี 2018 ขึ้นไป ฟังก์ชั่นให้มาครบขนาดนี้แล้ว ยังเพิ่มความปลอดภัยในการพกพามาให้ด้วยนะครับ เป็นซองพลาสติก PP กันกระแทก กันรอยขีดข่วน กันไอน้ำ เพื่อช่วยถนอม Pencil X ของเรานั่นเอง

ประเภทหัวพลาสติก / คล้าย Apple Pencil
วัสดุAluminum Alloy
แบตเตอรี่
เชื่อมต่อบลูทูธ
รองรับอุปกรณ์iPad mini 6, 5 / iPad Gen 9, 8, 7, 6 /
iPad Pro 2020, 2018 / iPad Air 4, 3
สีขาว

อ่านกันมาถึงตรงนี้คงได้คำตอบสำหรับ ปากกา Stylus ยี่ห้อไหนดีกันแล้วใช่ไหม สิ่งที่ควรทำอันดับแรกเลยคือตรวจเช็ค Smartphone Tablet หรือ Notebook ที่ใช้ก่อนเป็นแบบไหนยี่ห้ออะไร ใครใช้ iPad ก็วิ่งไปหา Apple Pencil และผองเพื่อนได้เลย จะตอบโจทย์สุด ส่วนชาว Samsung Galaxy และ Microsoft Surface นอกจากจะมีปากกาของเค้าเองแล้ว ถ้าอยากลองปากกกาดีไซน์อื่น ๆ บ้าง ก็ลองซื้อรุ่นที่รองรับ EMR ได้ มีคนคอนเฟิร์มว่าเขียนสบายมือกว่าจริง ๆ แต่ก่อนซื้อตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์ผู้ผลิตด้วยนะ เพราะบางรุ่นอาจจะไม่รองรับ ส่วนใครที่ไม่เข้ากับ 2 พวกนี้ ก็คงต้องใช้ปากกา Stylus แบบทั่วไปแทน เวลาใช้ต้องระวังเรื่องอุ้งมือทัชกันนิดหนึ่ง สุดท้ายนี้ก็ขอให้เลือกซื้อได้รุ่นที่ถูกใจ ทัชกันได้ดี ๆ นะครับ


เราใช้คุกกี้เพื่อนับผู้เข้าชมและพัฒนาเว็บไซต์ อ่านรายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัวและคุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    สำหรับวิเคราะห์สถิติของผู้ชมเว็บไซต์ เพื่อช่วยตัดสินใจ การปรับปรุงบทความ - ข้อมูลแหล่งที่มาของผู้ใช้งาน เช่น. ผู้ใช้เข้าสู่เว็บไซต์ Plus Around จาก Google Search หรือ Social Network - ข้อมูลพฤติกรรม เช่น. ระยะเวลา, เวลา, หน้า landing page และการติดตามกิจกรรมอื่น ๆ - ข้อมูลเนื้อหา เช่น. ผู้ใช้อ่านบทความเครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี - ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เช่น. ผู้ใช้แบ่งปันบทความบนเครือข่ายโซเชียล - ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ Google Analtics สามารถดูในระดับภาพรวม แต่ไม่สามารถเจาะจงเป็นรายบุคคลได้ เช่น. เพศ , อายุ , สถานที่ตั้ง - การทดสอบ A/B test สำหรับการปรับปรุงเว็บไซต์

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา

    การโฆษณาตามความสนใจ - แสดงโฆษณาที่สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้งาน โดยอ้างอิงตามกิจกรรมของผู้ใช้ บนเว็บไซต์ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ ผู้ใช้งานสนใจ ในเชิงพาณิชย์ - อนุญาตให้ผู้เผยแพร่โฆษณา นำเสนอโฆษณาต่างๆ แก่ผู้ใช้งาน และยังให้ผู้เผยแพร่โฆษณา สามารถประมูลค่าของโฆษณา เพื่อเสนอราคาที่เหมาะสม ก่อนที่จะนำโฆษณาเสนอแก่ผู้ใช้งาน - การกำหนดความถี่สูงสุดในการมองเห็นโฆษณา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานเห็นโฆษณาเดียวกันหลายครั้งเกินไป - รวบรวมข้อมูลบราวเซอร์และอุปกรณ์: ประเภทและรุ่นของอุปกรณ์, ผู้ผลิต, ประเภทระบบปฏิบัติการ และรุ่น (เช่น iOS หรือ Android) ประเภท และรุ่นของเว็บบราวเซอร์ (เช่น Chrome หรือ Safari), user-agent, ชื่อผู้ให้บริการ, เขตเวลา ประเภทการเชื่อมต่อเครือข่าย (เช่น Wi-Fi หรือ เซลลูลาร์), ที่อยู่ IP, ตำแหน่งทั่วไปที่อนุมานจากที่อยู่ IP หรือ บราวเซอร์ หรือ เว็บแคช)

บันทึกการตั้งค่า