วิตามินรวม ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 ยี่ห้อ น่าซื้อ น่าโดน

รูปภาพปกบทความ วิตามินรวม ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 ยี่ห้อ น่าซื้อ น่าโดน

ไหน ๆ ใครเป็นคนที่ทานอาหารไม่หลากหลาย วัน ๆ ทานแต่อาหารตามสั่งเพียงอย่างเดียว วน ๆ ไปมีแต่กระเพราและกระเพราะกับกระเพราตลอดทั้งวัน หรือทานแต่เนื้อ ๆๆ และเนื้อ ๆ ผักผลไม้ก็ไม่ทาน หรือทานน้อยมาก แล้วกลัวว่าจะได้รับสารอาหารที่ไม่หลากหลาย ขาดวิตามินและแร่ธาตุไปหลายตัว ถ้ายังงั้นต้องหา วิตามินรวม มาทานเสริมกันดีกว่าครับ แล้ววิตามินรวมคืออะไร ทานแล้วจะดีจริงไหม คุ้มค่าต่อการซื้อหรือเปล่า อีกทั้งจะซื้อยี่ห้อไหนดี มีขายกันหลายยี่ห้อเอามาก ๆ ถ้ายังงั้นต้องไปดูรีวิวของสินค้าแต่ละยี่ห้อที่ด้านล่างได้เลยครับ



เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยของวิตามินรวม

เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยของวิตามินรวม

วิตามินรวม คือ อาหารเสริมในรูปแบบเม็ด, แคปซูล, ผง, เยลลี่, เม็ดฟู่ละลายน้ำ หรือรูปแบบอื่น ๆ ที่ประกอบไปด้วยวิตามินหลากหลายชนิด เช่น A, B1, B2, B3, B6, B12, C, D, E เป็นต้น ที่ทางผู้ผลิตจัดทำขึ้นมา เพื่อให้สะดวกแก่การทาน ไม่ยุ่งยาก และง่ายต่อการได้รับสารอาหารที่หลากหลายเพิ่มเติมนั้นเอง แต่วิตามินที่มีอยู่ในอาหารเสริมเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นวิตามินแบบสังเคราะห์ ไม่ใช่วิตามินจากธรรมชาติ ถ้าเป็นไปได้การที่ร่างกายได้รับวิตามินจากธรรมชาติย่อมดีกว่า พวกอาหารเสริมถือว่าเป็นตัวช่วยเท่านั้นครับ

แต่นอกจากวิตามินที่ร่างกายต้องการแล้ว ยังมีแร่ธาตุอีกหลายชนิดที่มีประโยชน์และช่วยส่งเสริมสุขภาพของร่างกายด้วย ไม่ว่าจะเป็น แคลเซียม,​ แมกนีเซียม, ไอโอดีน, ธาตุเหล็ก, สังกะสี, ทองแดง หรืออื่น ๆ ทำให้อาหารเสริมบางยี่ห้อ ก็ไม่ได้มีแค่วิตามินเท่านั้น ยังได้ใส่แร่ธาตุอีกหลายชนิดเข้ามาด้วย จึงมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า แต่ก็ทำให้ราคาแพงเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน


ตารางเปรียบเทียบรีวิว วิตามินรวม ยี่ห้อไหนดี

ตารางเปรียบเทียบรีวิว วิตามินรวม ยี่ห้อไหนดี

สำหรับใครที่อยากเห็นตารางเปรียบเทียบของสินค้าแต่ละยี่ห้อ ว่าให้วิตามินอะไรบ้าง รวมถึงให้แร่ธาตุอะไรอีกแบบรวมรัด ก็กดเข้าไปดูที่ปุ่มด้านล่าง เพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบของแต่ล่ะยี่ห้อกันได้เลยครับ



1. ยี่ห้อ PARADIGM A-Z Multivitamin

ถ้ากำลังมองหาอาหารเสริมวิตามินรวมดี ๆ สักยี่ห้อล่ะก็ อยากให้ลอง PARADIGM A-Z Multivitamin ตัวนี้กันเลยครับ เพราะในการทานแต่ละเม็ด จะได้รับสารอาหารทั้งวิตามินและแร่ธาตุรวมกันถึง 22 ชนิด! ซึ่งถือว่า ได้สารอาหารที่เยอะมากกกก เยอะกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อเลยทีเดียว อีกทั้งเรื่องความเข้มข้นของแต่ละสารอาหารก็จัดมาได้ดี ให้ความเข้มข้นที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ยังได้เสริมเบต้าแคโรทีน มาช่วยบำรุงสายตา ซึ่งเหมาะมากสำหรับชาวออฟฟิศที่ต้องจ้องจอคอมฯ นาน ๆ คือบอกเลย ทานเพียงแค่วันละ 1 เม็ด ก็ได้สารอาหารจำเป็นที่ครบ จบ บำรุงร่างกายกันได้ดีเลยล่ะครับ

แต่เท่านั้นยังไม่พอ ตัวอาหารเสริม PARADIGM A-Z ยังเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศเยอรมัน ทำให้มั่นใจเรื่องของมาตรฐานและคุณภาพกันได้ ทานแล้วปลอดภัยกันอย่างแน่นอน รวมถึงที่ตัวกระปุกก็ยังมีฝากันชื้นแบบพิเศษ มาช่วยป้องกันการเสื่อมสลายของวิตามินและแร่ธาตุ จึงช่วยเก็บรักษาคุณภาพของวิตามินได้นานยิ่งขึ้น ตัวเม็ดก็มีขนาดเล็ก ทานง่าย กลืนง่าย รวมถึงมีการจดทะเบียนอย. ถูกต้องตามกฎหมายอีก คือถ้ายังไม่ชัวร์ หรือไม่รู้จะเริ่มซื้ออาหารเสริมวิตามินรวมยี่ห้อไหนดีล่ะก็ ลองจัด PARADIGM A-Z กันก่อนเลยครับ!

จุดเด่น

  • มีวิตามินและแร่ธาตุรวม 22 ชนิด
  • เสริมเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตา
  • ทานแล้วได้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วนภายใน 1 เม็ด ไม่ต้องไปทานอาหารเสริมหลายเม็ด
  • นำเข้าจากเยอรมัน

2. ยี่ห้อ MEGA We care NUTRIVITA

2. ยี่ห้อ MEGA We care NUTRIVITA

ราคาโดยประมาณ 120 บาท ต่อ 10 เม็ด/ 350 บาท ต่อ 30 เม็ด

สำหรับวัยทำงานที่ต้องทำงานหนัก ใช้ชีวิตค่อนข้างเยอะ การจะทานอาหารเสริมวิตามินรวมสักยี่ห้อ มันก็ต้องหายี่ห้อที่ดี มีสารอาหารและแร่ธาตุที่ตอบโจทย์กับวัยนี้อย่างเหมาะสม ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า MEGA We care ตัว NUTRIVITA นี้ ตอบโจทย์วัยทำงานมาก ๆ เลยครับ เพราะเป็นยี่ห้อที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลายถึง 24 ชนิด !! โดยแบ่งเป็นกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ 6 ชนิด ได้แก่ วิตามิน C, D3, E, สังกะสี, ซีลีเนียม และเบต้าแคโรทีน ส่วนกลุ่มแร่ธาตุจำเป็นก็มี 8 ชนิด และกลุ่มวิตามินบีรวมอีก 10 ชนิด (ดูสารอาหารทั้งหมดได้ที่ตารางเปรียบเทียบด้านบน) ก็ถือว่าเป็นยี่ห้อที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่เยอะมากกกก และมากกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อเลยครับ

และนอกจากเรื่องสารอาหารที่หลากหลายแล้ว ความเข้มข้นของแต่ละตัวก็ค่อนข้างจัดหนัก พร้อมทั้งมีความเข้มข้นที่เหมาะสำหรับวัยทำงานอีกด้วย ตัวอย่างเช่น วิตามิน C, วิตามิน D3, สังกะสี, วิตามิน B1 หรือ วิตามิน B12 ซึ่งแต่ละตัว ก็ค่อนข้างมีปริมาณที่มากกว่า และเข้มข้นสูงกว่าพวกยี่ห้อทั่ว ๆ ไปในท้องตลาด 2-3 เท่า ทำให้เวลาทานแล้ว จึงสะดวก ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องทานวิตามินหลาย ๆ เม็ด เพียงแค่ทาน NUTRIVITA วันละ 1 เม็ด ก็ช่วยบำรุงร่างกายได้ดีกว่า ภูมิคุ้มกันก็ทำหน้าที่ได้ดี ไม่ป่วยง่าย และพร้อมสำหรับการทำงานอย่างเต็มที่ในทุก ๆ วันครับ

จุดเด่น

  • มีวิตามินและแร่ธาตุรวม 25 ชนิด
  • มีความเข้มข้นของสารอาหาร เช่น วิตามิน C, D3, B1, B12 ที่ค่อนข้างสูง จึงเหมาะสำหรับวัยทำงาน
  • และด้วยความเข้มข้นที่จัดเต็ม ทำให้ภูมิคุ้มกันได้ดี ไม่ป่วยง่าย วัยทำงานลุยงายได้อย่างเต็มที่

3. ยี่ห้อ Altapharma Multivitamin 

3. ยี่ห้อ Altapharma Multivitamin 

ราคาโดยประมาณ 55 บาท ต่อ 20 เม็ด

Altapharma เป็นอีกยี่ห้อจากเยอรมันที่มีราคาย่อมเยา และมีขายหลากหลายชนิดของเม็ดฟู่ ถ้าอยากได้วิตามินรวมต้องซื้อตัว Multivitamin รสส้มมาทานนะครับ ถ้าซื้อรสอื่น ๆ จะได้สารอาหารอย่างอื่นแทน ระวังซื้อกันผิดด้วย เพราะแพ็กเกจแอบดูเหมือน ๆ กันไปหมด ส่วนเรื่องวิตามินก็ให้ที่ 10 ชนิด ไม่มีแร่ธาตุหรือสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติม ก็แอบดูธรรมดา ๆ ไปบ้าง แต่ถ้าอยากได้ยี่ห้อนี้ แบบมีแร่ธาตุด้วย ต้องซื้อรสมะม่วงที่มีแร่ธาตุเพิ่มมาให้อีก 3 ชนิด (แคลเซียม, แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส) รวมเป็น 13 ชนิด แทนตัวนี้ครับ

จุดเด่น

  • เม็ดฟู่ละลายน้ำ รสชาติอร่อย
  • เหมาะสำหรับดื่มแทนพวกน้ำหวาน ๆ มีประโยชน์มากกว่า
  • ราคาไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับพวกเม็ดฟู่ยี่ห้ออื่น ๆ


4. ยี่ห้อ DHC Multi Vitamin

ถ้าพูดถึงวิตามินรวมยี่ห้อไหนดีแล้วละก็ ต้องขอยกให้กับยี่ห้อ DHC จากญี่ปุ่นตัว Multi Vitamin ซองสีส้มขาวกันเลยครับ โดยจะมีวิตามินรวมกันถึง 12 ชนิด (A, B1, B2, B3, B5, B6, B7, B9, B12, C, D, E) ซึ่งแต่ละชนิดก็ถือว่า เป็นวิตามินสำคัญที่ร่างกายควรจะได้รับในทุก ๆ วัน ซึ่งทาง DHC เอง ก็ได้จัดปริมาณของวิตามินเหล่านี้ มาในระดับที่เหมาะสมต่อความต้องการในแต่ละวันด้วย

และเนื่องจากราคาที่ย่อมเยามาก ๆ นี่เอง จึงช่วยให้ซื้อมาทานกันได้สบาย ๆ ไม่ทำร้ายกระเป๋าเงินมากนัก อีกทั้งยังเหมาะสำหรับมือใหม่ หรือใครที่ไม่เคยทานวิตามินรวมมาก่อน การเริ่มจาก DHC Multi Vitamin ตัวนี้ ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีครับ แต่ ๆๆ ตัวนี้จะมีเฉพาะวิตามินเท่านั้น ถ้าอยากได้แร่ธาตุเสริมเพิ่มเติมด้วย ต้องซื้อ DHC Multi Minerals ซองสีเทาขาวมาทานเพิ่มเอา หรือซื้อซองสีเขียวที่เป็นแบบรวมวิตามินและแร่ธาตุไว้ในซองเดียวกันมาทานแทนครับ

จุดเด่น

  • ยี่ห้อ DHC มีชื่อเสียงจากญี่ปุ่น
  • เป็นแบบซอง มีซิปล็อค พกง่ายเก็บง่าย และมีหลายขนาดให้เลือกซื้อ
  • ได้รับความนิยมสูง ราคาไม่แพงมาก แต่ก็มีเพียงแค่วิตามินรวม ไม่มีแร่ธาตุให้

5. ยี่ห้อ Blackmores Multi Active

Blackmores เป็นยี่ห้อจากออสเตรเลียที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารเสริมและได้รับความนิยมในบ้านเราเอามาก ๆ สำหรับวิตามินและแร่ธาตุรวมต้องยกให้กับ Multi Active ตัวนี้เลยครับ โดยจะมีวิตามินและแร่ธาตุรวมกันถึง 17 ชนิด แถมยังเพิ่มเติมเสริมสารอาหารอื่น ๆ อย่าง Coenzyme Q10 ที่จะมาช่วยให้กระบวนการผลิตพลังงานให้แก่เซลล์ในร่างกาย อีกทั้งยังมีทอรีนและลูทีนที่จะมาช่วยกันบำรุงสายตา ซึ่งเหมาะมาก ๆ กับคนรุ่นใหม่ที่มองหน้าจอคอมและมือถือตลอดทั้งวัน

และที่พิเศษกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ก็คือ สารสกัดจากใบอาร์ติโชคที่จะมาช่วยบำรุงตับ, หัวใจ และลดคอเลสเตอรอลกันด้วย อย่างไรก็ตามด้วยสารอาหารที่มีหลายอย่างขนาดนี้ ก็ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างแพงด้วยเช่นกัน แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา ก็จัดเลยครับ

จุดเด่น

  • มีวิตามินและแร่ธาตุรวม 17 ชนิด และมี Coenzyme Q10 เสริม
  • เสริมลูทีนช่วยบำรุงสายตา เหมาะสำหรับคนยุคปัจจุบัน
  • เสริมสารสกัดจากใบอาร์ติโชค ช่วยบำรุงตับ หัวใจ และลดคอเลสเตอรอล
  • ยี่ห้อมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในไทย

6. ยี่ห้อ Kirkland Signature Daily Multi Vitamins & Minerals

สหรัฐอเมริกาเป็นอีกประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารเสริมเอามาก ๆ และมีวางขายกันหลากหลายยี่ห้อด้วย โดยหนึ่งในยี่ห้อที่น่าสนใจและผมอยากจะมาแนะนำให้รู้จักกันก็คือ Kirkland Signature กับตัว Daily Multi Vitamins & Minerals เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุรวมกันในเม็ดเดียวถึง 26 ชนิด! แถมยังมีสารอาหารเพิ่มเติมอีก 5 ชนิดด้วย มากกว่าพวกยี่ห้อบน ๆ คนละเรื่อง (ดูสารอาหารทั้งหมดได้จากตารางเปรียบเทียบด้านบน)

ส่วนปริมาณของแต่ละตัวก็ถือว่าเหมาะสมต่อความต้องการในแต่ละวันของร่างกายอยู่ แต่ถ้าไปเทียบกับพวกยี่ห้อเกรด Premium หรือราคาที่แพงกว่า ก็จะมีปริมาณที่น้อยกว่า อย่างไรก็ตามด้วยราคาที่ย่อมเยามาก ๆ ตกเม็ดละประมาณ 2 บาทเท่านั้น! ถ้าไม่รู้จะทานวิตามินและแร่ธาตุรวมยี่ห้อไหนดี Kirkland Signature ตอบโจทย์แบบสุด ๆ เลยครับ

จุดเด่น

  • นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา
  • ได้วิตามินและแร่ธาตุรวม 26 ชนิด
  • ในราคาต่อเม็ดที่ค่อนข้างถูกกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ ตกเม็ดล่ประมาณ 2 บาท
  • ปริมาณเยอะจุใจ ซื้อขวดเดียว ทานได้ยาว ๆ


7. ยี่ห้อ Centrum Dietary Supplement

7. ยี่ห้อ Centrum Dietary Supplement

ราคาโดยประมาณ 279 / 829 บาท ต่อ 30 / 108 เม็ด

Centrum เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อจากสหรัฐที่หลาย ๆ คนน่าจะพอคุ้นหูกันมาบ้าง โดยเป็นแบรนด์ขายวิตามินและแร่ธาตุรวม ที่แยกย่อยออกเป็นหลายแบบเอามาก ๆ ทั้งแบบ Silver สำหรับผู้สูงอายุวัย 50+, แบบ Multi Beauti ที่เน้นเรื่องความสวยความงาม, แบบ For Men สำหรับผู้ชาย หรือแบบ For Women สำหรับผู้หญิง เป็นต้น

แต่ตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นแบบ Centrum ตัวต้นตำรับที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่มีอายุ 12-49 ปี รวมถึงวัยเรียนและวัยทำงาน เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุรวมกันถึง 22 ชนิด พร้อมด้วยเบต้าแคโรทีน, ลูทีน และไลโคปีน อีกทั้งยังจัดปริมาณแต่ละวิตามินและแร่ธาตุมาให้อย่างเหมาะสมกับในช่วงวัยนี้ด้วย แต่ด้วยการจัดเต็มทั้งชนิดและปริมาณ ก็ทำให้ Centrum มีราคาที่ค่อนข้างแพงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ แต่ยี่ห้อนี้ ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ

จุดเด่น

  • ยี่ห้อมีชื่อเสียงมายาวนาน
  • เสริมเบต้าแคโรทีนและลูทีน ช่วยบำรุงสายตา และเสริมไลโคปีน
  • มีความเข้มขนสูง แต่ก็ทำให้มีราคาค่อนข้างแพง

8. ยี่ห้อ Voost MultiVitamin + Minerals

8. ยี่ห้อ Voost MultiVitamin + Minerals

ราคาโดยประมาณ 169 บาท ต่อ 20 เม็ด

เบื่อกับการทานอาหารเสริมแบบเดิม ๆ อยู่ใช่ไหม งั้นลองมาทานแบบเม็ดฟู่กันดีกว่ากับยี่ห้อ Voost แบรนด์จากออสเตรเลีย แต่ตัวสินค้าไปผลิตที่เยอรมัน เพราะฉะนั้นมั่นใจในเรื่องคุณภาพได้อย่างแน่นอน ซึ่ง Voost เองเนี่ยก็มีขายวิตามินเม็ดฟู่กันหลายแบบมาก ๆ ทั้งเม็ดฟู่วิตามิน C, บีรวม, แมกนีเซียม หรืออื่น ๆ แต่ถ้าต้องการวิตามินและแร่ธาตุรวมต้องซื้อตัว MultiVitamin นะครับ

อย่างไรก็ตาม ถ้าดูจากสารอาหารแล้ว จะพบว่า เขามีวิตามินกับแร่ธาตุรวมกัน 14 ชนิด ซึ่งถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ จะค่อนข้างน้อยกว่า จึงไม่ค่อยตอบโจทย์เรื่องความหลากหลายของวิตามินและแร่ธาตุเท่าไรนัก แต่ถ้าเรื่องความอร่อยแล้ว ชนะขาด นาน ๆ ซื้อมาทานทีเปลี่ยนบรรยากาศเอาก็ได้ครับ

จุดเด่น

  • ละลายน้ำไว ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไว
  • รสชาติอร่อย ได้ดื่มน้ำหวานที่มีประโยชน์
  • แบรนด์นำเข้าจากออสเตรเลีย

9. ยี่ห้อ Interpharma Multivitamin

Interpharma Multivitamin เป็นวิตามินรวมเม็ดฟู่ที่มียอดขายดีและได้รับความนิยมเอามาก ๆ ในบ้านเรา เพราะด้วยราคาที่ย่อมเยา และมีรสชาติที่อร่อย ทานง่าย ทานแล้วไม่น่าเบื่อแบบพวกเม็ด ๆ เดิม ๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เม็ดฟู่ตัวนี้จะให้เฉพาะวิตามิน 10 ชนิดแก่ร่างกายเท่านั้น ไม่มีแร่ธาตุและสารอาหารเพิ่มเติมอื่น ๆ ดังนั้นถ้าทานตัวนี้ตัวเดียวโดด ๆ อาจจะไม่เหมาะเท่าไรนัก แต่ถ้าคิดว่าทานอาหารหลากหลาย หรือทานอาหารเสริมอื่น ๆ อยู่แล้ว และเพียงแค่ต้องการวิตามินเสริมเพิ่มเติมจากปกติ วิตามินรวมเม็ดฟู่ตัวนี้ ก็ตอบโจทย์อยู่ครับ

จุดเด่น

  • เป็นแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำ รสชาติอร่อย
  • ราคาไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ

10. ยี่ห้อ Mivolis DM Multivitamin

Mivolis DM Multivitamin (ฝาสีม่วง) เป็นอีกยี่ห้อวิตามินเม็ดฟู่จากเยอรมันที่น่าสนใจ เพราะมีราคาที่ย่อมเยามากกกกกกก โดยจะตกที่เม็ดละประมาณ 3 บาทเท่านั้น จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับหนุ่มสาววัยทำงานหรือพวกพนักงานออฟฟิศที่จะซื้อเพื่อไปใส่ละลายในน้ำดื่มจืด ๆ ให้มีความอร่อยเพิ่มเติม และดื่มแล้วก็ได้ประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้นจากวิตามินรวม 10 ชนิดกันด้วย แต่ด้วยราคาที่ย่อมเยานี้เอง เม็ดฟู่ตัวนี้ก็จะให้แต่วิตามินเท่านั้น ไม่ให้แร่ธาตุและสารอาหารอื่น ๆ ถ้าอยากได้แร่ธาตุเพิ่มเติมต้องไปซื้อฝาสีน้ำเงินมาทานเพิ่มเอาครับ

จุดเด่น

  • ราคาถูกมากกก ยิ่งเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ ยิ่งเห็นได้ชัด
  • ยอดขายสูงมากในโลกออนไลน์ ขายได้มากกว่า 1 แสนชิ้น !!

แล้วแบบนี้จะเลือกซื้อ อาหารเสริมวิตามินรวม อย่างไรดี?

แล้วแบบนี้จะเลือกซื้อ "อาหารเสริมวิตามินรวม" อย่างไรดี?

ผมแนะนำว่า ถ้าอยากเน้นสะดวกมากที่สุด ขี้เกียจทานอาหารเสริมหลายตัว ให้เลือกซื้อยี่ห้อที่มีทั้งวิตามินและแร่ธาตุรวมกันไปเลย จะได้ง่าย ครบ ทานแล้วจบในเม็ดเดียว ยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกนิดดีกว่าครับ แต่จริง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อ ถ้าคิดว่าได้รับแร่ธาตุจากอาหารปกติเยอะอยู่แล้ว หรือคิดว่าไม่จำเป็น ก็เลือกซื้อยี่ห้อที่มีแค่วิตามินเท่านั้นก็ได้ ประหยัดเงินด้วยครับ

อย่างไรก็ตาม พวกอาหารเสริมที่มีวิตามินและแร่ธาตุรวมแบบนี้ ปริมาณของวิตามินหรือแร่ธาตุที่ใส่มาจะน้อยกว่าพวกอาหารเสริมที่ขายแบบแยกเฉพาะ เช่น อาหารเสริมวิตามิน C อย่างเดียวก็จะมีปริมาณวิตามิน C สูงกว่า หรือ อาหารเสริมแมกนีเซียมก็จะเน้นแมกนีเซียมที่มากกว่าแบบพวกรวมมิตร เป็นต้น เพราะฉะนั้น ถ้ามีความต้องการที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงเช่น เน้นเรื่องความสวยงาม ผิวสวยใส หรือเน้นบำรุงสมอง พวกวิตามินและแร่ธาตุรวมแบบนี้ จะไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไรนัก เพราะปริมาณที่ไม่มากพอ แต่ถ้าไม่ได้เน้นอะไรมาก ทานเพื่อเสริมสารอาหารให้ร่างกายมีสุขภาพดี อาหารเสริมแบบรวมมิตรก็ถือว่าเอาอยู่ครับ

ยังไงถ้าสนใจที่อยากจะซื้อเฉพาะอาหารเสริมวิตามิน C หรืออยากได้ความรู้เรื่องประโยชน์ของวิตามิน B ก็ลองไปดูที่บทความด้านล่างได้นะครับ


ได้เห็นและอ่านจนจบไปแล้วกับ วิตามินรวม ยี่ห้อไหนดี กันไปถึง 10 ยี่ห้อ ที่เป็นแบบเม็ดทานเหมือนยา 5 ยี่ห้อ และแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำอีก 5 ยี่ห้อ มีความคิดว่าอยากจะซื้อยี่ห้อไหนไปทานเสริมเพิ่มเติมกันบ้างไหมครับ? สำหรับตัวผมเอง ผมจะซื้อแบบเม็ดไว้ทานตอนเช้า ส่วนแบบเม็ดฟู่จะเอาไว้ละลายน้ำแล้วดื่มตอนบ่าย ๆ หรือเย็น ๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นและคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ถ้ายังไงสนใจวิธีการทานแบบผมก็เอาไปใช้กันได้นะครับ ไม่หวงเลย ยังไงก็ขอให้ได้วิตามินรวมยี่ห้อที่ถูกใจ ทานแล้วมีสุขภาพที่ดีขึ้นกันด้วยนะครับผม



Leave a Comment