ไหน ๆ ใครเป็นคนที่ทานอาหารไม่หลากหลาย วัน ๆ ทานแต่อาหารตามสั่งเพียงอย่างเดียว วน ๆ ไปมีแต่กระเพราและกระเพราะกับกระเพราตลอดทั้งวัน หรือทานแต่เนื้อ ๆๆ และเนื้อ ๆ ผักผลไม้ก็ไม่ทาน หรือทานน้อยมาก แล้วกลัวว่าจะได้รับสารอาหารที่ไม่หลากหลาย ขาดวิตามินและแร่ธาตุไปหลายตัว ถ้ายังงั้นต้องหา วิตามินรวม มาทานเสริมกันดีกว่าครับ แล้ววิตามินรวมคืออะไร ทานแล้วจะดีจริงไหม คุ้มค่าต่อการซื้อหรือเปล่า อีกทั้งจะซื้อยี่ห้อไหนดี มีขายกันหลายยี่ห้อเอามาก ๆ ถ้ายังงั้นต้องไปดูรีวิวของสินค้าแต่ละยี่ห้อที่ด้านล่างได้เลยครับ
สารบัญ
เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยของวิตามินรวม
วิตามินรวม คือ อาหารเสริมในรูปแบบเม็ด, แคปซูล, ผง, เยลลี่, เม็ดฟู่ละลายน้ำ หรือรูปแบบอื่น ๆ ที่ประกอบไปด้วยวิตามินหลากหลายชนิด เช่น A, B1, B2, B3, B6, B12, C, D, E เป็นต้น ที่ทางผู้ผลิตจัดทำขึ้นมา เพื่อให้สะดวกแก่การทาน ไม่ยุ่งยาก และง่ายต่อการได้รับสารอาหารที่หลากหลายเพิ่มเติมนั้นเอง แต่วิตามินที่มีอยู่ในอาหารเสริมเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นวิตามินแบบสังเคราะห์ ไม่ใช่วิตามินจากธรรมชาติ ถ้าเป็นไปได้การที่ร่างกายได้รับวิตามินจากธรรมชาติย่อมดีกว่า พวกอาหารเสริมถือว่าเป็นตัวช่วยเท่านั้นครับ
แต่นอกจากวิตามินที่ร่างกายต้องการแล้ว ยังมีแร่ธาตุอีกหลายชนิดที่มีประโยชน์และช่วยส่งเสริมสุขภาพของร่างกายด้วย ไม่ว่าจะเป็น แคลเซียม, แมกนีเซียม, ไอโอดีน, ธาตุเหล็ก, สังกะสี, ทองแดง หรืออื่น ๆ ทำให้อาหารเสริมบางยี่ห้อ ก็ไม่ได้มีแค่วิตามินเท่านั้น ยังได้ใส่แร่ธาตุอีกหลายชนิดเข้ามาด้วย จึงมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า แต่ก็ทำให้ราคาแพงเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ตารางเปรียบเทียบรีวิว วิตามินรวม ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่อยากเห็นตารางเปรียบเทียบของสินค้าแต่ละยี่ห้อ ว่าให้วิตามินอะไรบ้าง รวมถึงให้แร่ธาตุอะไรอีกแบบรวมรัด ก็กดเข้าไปดูที่ปุ่มด้านล่าง เพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบของแต่ล่ะยี่ห้อกันได้เลยครับ
1. ยี่ห้อ PARADIGM A-Z Multivitamin
ราคาโดยประมาณ 500 บาท ต่อ 60 เม็ด
ถ้ากำลังมองหาอาหารเสริมวิตามินรวมดี ๆ สักยี่ห้อล่ะก็ อยากให้ลอง PARADIGM A-Z Multivitamin ตัวนี้กันเลยครับ เพราะในการทานแต่ละเม็ด จะได้รับสารอาหารทั้งวิตามินและแร่ธาตุรวมกันถึง 22 ชนิด! ซึ่งถือว่า ได้สารอาหารที่เยอะมากกกก เยอะกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อเลยทีเดียว อีกทั้งเรื่องความเข้มข้นของแต่ละสารอาหารก็จัดมาได้ดี ให้ความเข้มข้นที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ยังได้เสริมเบต้าแคโรทีน มาช่วยบำรุงสายตา ซึ่งเหมาะมากสำหรับชาวออฟฟิศที่ต้องจ้องจอคอมฯ นาน ๆ คือบอกเลย ทานเพียงแค่วันละ 1 เม็ด ก็ได้สารอาหารจำเป็นที่ครบ จบ บำรุงร่างกายกันได้ดีเลยล่ะครับ
แต่เท่านั้นยังไม่พอ ตัวอาหารเสริม PARADIGM A-Z ยังเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศเยอรมัน ทำให้มั่นใจเรื่องของมาตรฐานและคุณภาพกันได้ ทานแล้วปลอดภัยกันอย่างแน่นอน รวมถึงที่ตัวกระปุกก็ยังมีฝากันชื้นแบบพิเศษ มาช่วยป้องกันการเสื่อมสลายของวิตามินและแร่ธาตุ จึงช่วยเก็บรักษาคุณภาพของวิตามินได้นานยิ่งขึ้น ตัวเม็ดก็มีขนาดเล็ก ทานง่าย กลืนง่าย รวมถึงมีการจดทะเบียนอย. ถูกต้องตามกฎหมายอีก คือถ้ายังไม่ชัวร์ หรือไม่รู้จะเริ่มซื้ออาหารเสริมวิตามินรวมยี่ห้อไหนดีล่ะก็ ลองจัด PARADIGM A-Z กันก่อนเลยครับ!
จุดเด่น
- มีวิตามินและแร่ธาตุรวม 22 ชนิด
- เสริมเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตา
- ทานแล้วได้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วนภายใน 1 เม็ด ไม่ต้องไปทานอาหารเสริมหลายเม็ด
- นำเข้าจากเยอรมัน
2. ยี่ห้อ MEGA We care NUTRIVITA
ราคาโดยประมาณ 120 บาท ต่อ 10 เม็ด/ 350 บาท ต่อ 30 เม็ด
สำหรับวัยทำงานที่ต้องทำงานหนัก ใช้ชีวิตค่อนข้างเยอะ การจะทานอาหารเสริมวิตามินรวมสักยี่ห้อ มันก็ต้องหายี่ห้อที่ดี มีสารอาหารและแร่ธาตุที่ตอบโจทย์กับวัยนี้อย่างเหมาะสม ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า MEGA We care ตัว NUTRIVITA นี้ ตอบโจทย์วัยทำงานมาก ๆ เลยครับ เพราะเป็นยี่ห้อที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลายถึง 24 ชนิด !! โดยแบ่งเป็นกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ 6 ชนิด ได้แก่ วิตามิน C, D3, E, สังกะสี, ซีลีเนียม และเบต้าแคโรทีน ส่วนกลุ่มแร่ธาตุจำเป็นก็มี 8 ชนิด และกลุ่มวิตามินบีรวมอีก 10 ชนิด (ดูสารอาหารทั้งหมดได้ที่ตารางเปรียบเทียบด้านบน) ก็ถือว่าเป็นยี่ห้อที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่เยอะมากกกก และมากกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อเลยครับ
และนอกจากเรื่องสารอาหารที่หลากหลายแล้ว ความเข้มข้นของแต่ละตัวก็ค่อนข้างจัดหนัก พร้อมทั้งมีความเข้มข้นที่เหมาะสำหรับวัยทำงานอีกด้วย ตัวอย่างเช่น วิตามิน C, วิตามิน D3, สังกะสี, วิตามิน B1 หรือ วิตามิน B12 ซึ่งแต่ละตัว ก็ค่อนข้างมีปริมาณที่มากกว่า และเข้มข้นสูงกว่าพวกยี่ห้อทั่ว ๆ ไปในท้องตลาด 2-3 เท่า ทำให้เวลาทานแล้ว จึงสะดวก ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องทานวิตามินหลาย ๆ เม็ด เพียงแค่ทาน NUTRIVITA วันละ 1 เม็ด ก็ช่วยบำรุงร่างกายได้ดีกว่า ภูมิคุ้มกันก็ทำหน้าที่ได้ดี ไม่ป่วยง่าย และพร้อมสำหรับการทำงานอย่างเต็มที่ในทุก ๆ วันครับ
จุดเด่น
- มีวิตามินและแร่ธาตุรวม 25 ชนิด
- มีความเข้มข้นของสารอาหาร เช่น วิตามิน C, D3, B1, B12 ที่ค่อนข้างสูง จึงเหมาะสำหรับวัยทำงาน
- และด้วยความเข้มข้นที่จัดเต็ม ทำให้ภูมิคุ้มกันได้ดี ไม่ป่วยง่าย วัยทำงานลุยงายได้อย่างเต็มที่
3. ยี่ห้อ Altapharma Multivitamin
ราคาโดยประมาณ 55 บาท ต่อ 20 เม็ด
Altapharma เป็นอีกยี่ห้อจากเยอรมันที่มีราคาย่อมเยา และมีขายหลากหลายชนิดของเม็ดฟู่ ถ้าอยากได้วิตามินรวมต้องซื้อตัว Multivitamin รสส้มมาทานนะครับ ถ้าซื้อรสอื่น ๆ จะได้สารอาหารอย่างอื่นแทน ระวังซื้อกันผิดด้วย เพราะแพ็กเกจแอบดูเหมือน ๆ กันไปหมด ส่วนเรื่องวิตามินก็ให้ที่ 10 ชนิด ไม่มีแร่ธาตุหรือสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติม ก็แอบดูธรรมดา ๆ ไปบ้าง แต่ถ้าอยากได้ยี่ห้อนี้ แบบมีแร่ธาตุด้วย ต้องซื้อรสมะม่วงที่มีแร่ธาตุเพิ่มมาให้อีก 3 ชนิด (แคลเซียม, แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส) รวมเป็น 13 ชนิด แทนตัวนี้ครับ
จุดเด่น
- เม็ดฟู่ละลายน้ำ รสชาติอร่อย
- เหมาะสำหรับดื่มแทนพวกน้ำหวาน ๆ มีประโยชน์มากกว่า
- ราคาไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับพวกเม็ดฟู่ยี่ห้ออื่น ๆ
4. ยี่ห้อ DHC Multi Vitamin
ราคาโดยประมาณ 190 บาท ต่อ 60 เม็ด
ถ้าพูดถึงวิตามินรวมยี่ห้อไหนดีแล้วละก็ ต้องขอยกให้กับยี่ห้อ DHC จากญี่ปุ่นตัว Multi Vitamin ซองสีส้มขาวกันเลยครับ โดยจะมีวิตามินรวมกันถึง 12 ชนิด (A, B1, B2, B3, B5, B6, B7, B9, B12, C, D, E) ซึ่งแต่ละชนิดก็ถือว่า เป็นวิตามินสำคัญที่ร่างกายควรจะได้รับในทุก ๆ วัน ซึ่งทาง DHC เอง ก็ได้จัดปริมาณของวิตามินเหล่านี้ มาในระดับที่เหมาะสมต่อความต้องการในแต่ละวันด้วย
และเนื่องจากราคาที่ย่อมเยามาก ๆ นี่เอง จึงช่วยให้ซื้อมาทานกันได้สบาย ๆ ไม่ทำร้ายกระเป๋าเงินมากนัก อีกทั้งยังเหมาะสำหรับมือใหม่ หรือใครที่ไม่เคยทานวิตามินรวมมาก่อน การเริ่มจาก DHC Multi Vitamin ตัวนี้ ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีครับ แต่ ๆๆ ตัวนี้จะมีเฉพาะวิตามินเท่านั้น ถ้าอยากได้แร่ธาตุเสริมเพิ่มเติมด้วย ต้องซื้อ DHC Multi Minerals ซองสีเทาขาวมาทานเพิ่มเอา หรือซื้อซองสีเขียวที่เป็นแบบรวมวิตามินและแร่ธาตุไว้ในซองเดียวกันมาทานแทนครับ
จุดเด่น
- ยี่ห้อ DHC มีชื่อเสียงจากญี่ปุ่น
- เป็นแบบซอง มีซิปล็อค พกง่ายเก็บง่าย และมีหลายขนาดให้เลือกซื้อ
- ได้รับความนิยมสูง ราคาไม่แพงมาก แต่ก็มีเพียงแค่วิตามินรวม ไม่มีแร่ธาตุให้
5. ยี่ห้อ Blackmores Multi Active
ราคาโดยประมาณ 580 บาท ต่อ 60 เม็ด
Blackmores เป็นยี่ห้อจากออสเตรเลียที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารเสริมและได้รับความนิยมในบ้านเราเอามาก ๆ สำหรับวิตามินและแร่ธาตุรวมต้องยกให้กับ Multi Active ตัวนี้เลยครับ โดยจะมีวิตามินและแร่ธาตุรวมกันถึง 17 ชนิด แถมยังเพิ่มเติมเสริมสารอาหารอื่น ๆ อย่าง Coenzyme Q10 ที่จะมาช่วยให้กระบวนการผลิตพลังงานให้แก่เซลล์ในร่างกาย อีกทั้งยังมีทอรีนและลูทีนที่จะมาช่วยกันบำรุงสายตา ซึ่งเหมาะมาก ๆ กับคนรุ่นใหม่ที่มองหน้าจอคอมและมือถือตลอดทั้งวัน
และที่พิเศษกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ก็คือ สารสกัดจากใบอาร์ติโชคที่จะมาช่วยบำรุงตับ, หัวใจ และลดคอเลสเตอรอลกันด้วย อย่างไรก็ตามด้วยสารอาหารที่มีหลายอย่างขนาดนี้ ก็ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างแพงด้วยเช่นกัน แต่ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา ก็จัดเลยครับ
จุดเด่น
- มีวิตามินและแร่ธาตุรวม 17 ชนิด และมี Coenzyme Q10 เสริม
- เสริมลูทีนช่วยบำรุงสายตา เหมาะสำหรับคนยุคปัจจุบัน
- เสริมสารสกัดจากใบอาร์ติโชค ช่วยบำรุงตับ หัวใจ และลดคอเลสเตอรอล
- ยี่ห้อมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในไทย
6. ยี่ห้อ Kirkland Signature Daily Multi Vitamins & Minerals
ราคาโดยประมาณ 990 บาท ต่อ 500 เม็ด
สหรัฐอเมริกาเป็นอีกประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารเสริมเอามาก ๆ และมีวางขายกันหลากหลายยี่ห้อด้วย โดยหนึ่งในยี่ห้อที่น่าสนใจและผมอยากจะมาแนะนำให้รู้จักกันก็คือ Kirkland Signature กับตัว Daily Multi Vitamins & Minerals เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุรวมกันในเม็ดเดียวถึง 26 ชนิด! แถมยังมีสารอาหารเพิ่มเติมอีก 5 ชนิดด้วย มากกว่าพวกยี่ห้อบน ๆ คนละเรื่อง (ดูสารอาหารทั้งหมดได้จากตารางเปรียบเทียบด้านบน)
ส่วนปริมาณของแต่ละตัวก็ถือว่าเหมาะสมต่อความต้องการในแต่ละวันของร่างกายอยู่ แต่ถ้าไปเทียบกับพวกยี่ห้อเกรด Premium หรือราคาที่แพงกว่า ก็จะมีปริมาณที่น้อยกว่า อย่างไรก็ตามด้วยราคาที่ย่อมเยามาก ๆ ตกเม็ดละประมาณ 2 บาทเท่านั้น! ถ้าไม่รู้จะทานวิตามินและแร่ธาตุรวมยี่ห้อไหนดี Kirkland Signature ตอบโจทย์แบบสุด ๆ เลยครับ
จุดเด่น
- นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา
- ได้วิตามินและแร่ธาตุรวม 26 ชนิด
- ในราคาต่อเม็ดที่ค่อนข้างถูกกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ ตกเม็ดล่ประมาณ 2 บาท
- ปริมาณเยอะจุใจ ซื้อขวดเดียว ทานได้ยาว ๆ
7. ยี่ห้อ Centrum Dietary Supplement
ราคาโดยประมาณ 279 / 829 บาท ต่อ 30 / 108 เม็ด
Centrum เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อจากสหรัฐที่หลาย ๆ คนน่าจะพอคุ้นหูกันมาบ้าง โดยเป็นแบรนด์ขายวิตามินและแร่ธาตุรวม ที่แยกย่อยออกเป็นหลายแบบเอามาก ๆ ทั้งแบบ Silver สำหรับผู้สูงอายุวัย 50+, แบบ Multi Beauti ที่เน้นเรื่องความสวยความงาม, แบบ For Men สำหรับผู้ชาย หรือแบบ For Women สำหรับผู้หญิง เป็นต้น
แต่ตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นแบบ Centrum ตัวต้นตำรับที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่มีอายุ 12-49 ปี รวมถึงวัยเรียนและวัยทำงาน เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุรวมกันถึง 22 ชนิด พร้อมด้วยเบต้าแคโรทีน, ลูทีน และไลโคปีน อีกทั้งยังจัดปริมาณแต่ละวิตามินและแร่ธาตุมาให้อย่างเหมาะสมกับในช่วงวัยนี้ด้วย แต่ด้วยการจัดเต็มทั้งชนิดและปริมาณ ก็ทำให้ Centrum มีราคาที่ค่อนข้างแพงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ แต่ยี่ห้อนี้ ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ
จุดเด่น
- ยี่ห้อมีชื่อเสียงมายาวนาน
- เสริมเบต้าแคโรทีนและลูทีน ช่วยบำรุงสายตา และเสริมไลโคปีน
- มีความเข้มขนสูง แต่ก็ทำให้มีราคาค่อนข้างแพง
8. ยี่ห้อ Voost MultiVitamin + Minerals
ราคาโดยประมาณ 169 บาท ต่อ 20 เม็ด
เบื่อกับการทานอาหารเสริมแบบเดิม ๆ อยู่ใช่ไหม งั้นลองมาทานแบบเม็ดฟู่กันดีกว่ากับยี่ห้อ Voost แบรนด์จากออสเตรเลีย แต่ตัวสินค้าไปผลิตที่เยอรมัน เพราะฉะนั้นมั่นใจในเรื่องคุณภาพได้อย่างแน่นอน ซึ่ง Voost เองเนี่ยก็มีขายวิตามินเม็ดฟู่กันหลายแบบมาก ๆ ทั้งเม็ดฟู่วิตามิน C, บีรวม, แมกนีเซียม หรืออื่น ๆ แต่ถ้าต้องการวิตามินและแร่ธาตุรวมต้องซื้อตัว MultiVitamin นะครับ
อย่างไรก็ตาม ถ้าดูจากสารอาหารแล้ว จะพบว่า เขามีวิตามินกับแร่ธาตุรวมกัน 14 ชนิด ซึ่งถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ จะค่อนข้างน้อยกว่า จึงไม่ค่อยตอบโจทย์เรื่องความหลากหลายของวิตามินและแร่ธาตุเท่าไรนัก แต่ถ้าเรื่องความอร่อยแล้ว ชนะขาด นาน ๆ ซื้อมาทานทีเปลี่ยนบรรยากาศเอาก็ได้ครับ
จุดเด่น
- ละลายน้ำไว ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไว
- รสชาติอร่อย ได้ดื่มน้ำหวานที่มีประโยชน์
- แบรนด์นำเข้าจากออสเตรเลีย
9. ยี่ห้อ Interpharma Multivitamin
ราคาโดยประมาณ 100 บาท ต่อ 20 เม็ด
Interpharma Multivitamin เป็นวิตามินรวมเม็ดฟู่ที่มียอดขายดีและได้รับความนิยมเอามาก ๆ ในบ้านเรา เพราะด้วยราคาที่ย่อมเยา และมีรสชาติที่อร่อย ทานง่าย ทานแล้วไม่น่าเบื่อแบบพวกเม็ด ๆ เดิม ๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เม็ดฟู่ตัวนี้จะให้เฉพาะวิตามิน 10 ชนิดแก่ร่างกายเท่านั้น ไม่มีแร่ธาตุและสารอาหารเพิ่มเติมอื่น ๆ ดังนั้นถ้าทานตัวนี้ตัวเดียวโดด ๆ อาจจะไม่เหมาะเท่าไรนัก แต่ถ้าคิดว่าทานอาหารหลากหลาย หรือทานอาหารเสริมอื่น ๆ อยู่แล้ว และเพียงแค่ต้องการวิตามินเสริมเพิ่มเติมจากปกติ วิตามินรวมเม็ดฟู่ตัวนี้ ก็ตอบโจทย์อยู่ครับ
จุดเด่น
- เป็นแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำ รสชาติอร่อย
- ราคาไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ
10. ยี่ห้อ Mivolis DM Multivitamin
ราคาโดยประมาณ 60 บาท ต่อ 20 เม็ด
Mivolis DM Multivitamin (ฝาสีม่วง) เป็นอีกยี่ห้อวิตามินเม็ดฟู่จากเยอรมันที่น่าสนใจ เพราะมีราคาที่ย่อมเยามากกกกกกก โดยจะตกที่เม็ดละประมาณ 3 บาทเท่านั้น จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับหนุ่มสาววัยทำงานหรือพวกพนักงานออฟฟิศที่จะซื้อเพื่อไปใส่ละลายในน้ำดื่มจืด ๆ ให้มีความอร่อยเพิ่มเติม และดื่มแล้วก็ได้ประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้นจากวิตามินรวม 10 ชนิดกันด้วย แต่ด้วยราคาที่ย่อมเยานี้เอง เม็ดฟู่ตัวนี้ก็จะให้แต่วิตามินเท่านั้น ไม่ให้แร่ธาตุและสารอาหารอื่น ๆ ถ้าอยากได้แร่ธาตุเพิ่มเติมต้องไปซื้อฝาสีน้ำเงินมาทานเพิ่มเอาครับ
จุดเด่น
- ราคาถูกมากกก ยิ่งเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ ยิ่งเห็นได้ชัด
- ยอดขายสูงมากในโลกออนไลน์ ขายได้มากกว่า 1 แสนชิ้น !!
แล้วแบบนี้จะเลือกซื้อ อาหารเสริมวิตามินรวม อย่างไรดี?
ผมแนะนำว่า ถ้าอยากเน้นสะดวกมากที่สุด ขี้เกียจทานอาหารเสริมหลายตัว ให้เลือกซื้อยี่ห้อที่มีทั้งวิตามินและแร่ธาตุรวมกันไปเลย จะได้ง่าย ครบ ทานแล้วจบในเม็ดเดียว ยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกนิดดีกว่าครับ แต่จริง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อ ถ้าคิดว่าได้รับแร่ธาตุจากอาหารปกติเยอะอยู่แล้ว หรือคิดว่าไม่จำเป็น ก็เลือกซื้อยี่ห้อที่มีแค่วิตามินเท่านั้นก็ได้ ประหยัดเงินด้วยครับ
อย่างไรก็ตาม พวกอาหารเสริมที่มีวิตามินและแร่ธาตุรวมแบบนี้ ปริมาณของวิตามินหรือแร่ธาตุที่ใส่มาจะน้อยกว่าพวกอาหารเสริมที่ขายแบบแยกเฉพาะ เช่น อาหารเสริมวิตามิน C อย่างเดียวก็จะมีปริมาณวิตามิน C สูงกว่า หรือ อาหารเสริมแมกนีเซียมก็จะเน้นแมกนีเซียมที่มากกว่าแบบพวกรวมมิตร เป็นต้น เพราะฉะนั้น ถ้ามีความต้องการที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงเช่น เน้นเรื่องความสวยงาม ผิวสวยใส หรือเน้นบำรุงสมอง พวกวิตามินและแร่ธาตุรวมแบบนี้ จะไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไรนัก เพราะปริมาณที่ไม่มากพอ แต่ถ้าไม่ได้เน้นอะไรมาก ทานเพื่อเสริมสารอาหารให้ร่างกายมีสุขภาพดี อาหารเสริมแบบรวมมิตรก็ถือว่าเอาอยู่ครับ
ยังไงถ้าสนใจที่อยากจะซื้อเฉพาะอาหารเสริมวิตามิน C หรืออยากได้ความรู้เรื่องประโยชน์ของวิตามิน B ก็ลองไปดูที่บทความด้านล่างได้นะครับ
ได้เห็นและอ่านจนจบไปแล้วกับ วิตามินรวม ยี่ห้อไหนดี กันไปถึง 10 ยี่ห้อ ที่เป็นแบบเม็ดทานเหมือนยา 5 ยี่ห้อ และแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำอีก 5 ยี่ห้อ มีความคิดว่าอยากจะซื้อยี่ห้อไหนไปทานเสริมเพิ่มเติมกันบ้างไหมครับ? สำหรับตัวผมเอง ผมจะซื้อแบบเม็ดไว้ทานตอนเช้า ส่วนแบบเม็ดฟู่จะเอาไว้ละลายน้ำแล้วดื่มตอนบ่าย ๆ หรือเย็น ๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นและคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ถ้ายังไงสนใจวิธีการทานแบบผมก็เอาไปใช้กันได้นะครับ ไม่หวงเลย ยังไงก็ขอให้ได้วิตามินรวมยี่ห้อที่ถูกใจ ทานแล้วมีสุขภาพที่ดีขึ้นกันด้วยนะครับผม
บรรณาธิการที่มีประสบการณ์ในการเขียนรีวิวสินค้าหลายชนิด
- สุขภาพ: อาหารเสริม, ออกกำลังกาย, การดูแลผิวพรรณ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: สมาร์ทโฮม, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องใช้ในบ้าน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- ของกิน: ขนมหวาน เครื่องดื่ม, อาหารสุขภาพ, และเทรนด์อาหารอื่น ๆ