เครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ

รูปภาพปกบทความ เครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ

ซักผ้าเป็นงานบ้านที่น่าเบื่ออันดับต้น ๆ ของใครหลายคน ดังนั้นการหาตัวช่วยอย่างเครื่องซักผ้าฝาหน้า มาช่วยเราซักผ้า นอกจากจะประหยัดเวลา ใช้งานสะดวกแล้ว ที่สำคัญเมื่อเทียบกับเครื่องที่เป็นแบบฝาบน เครื่องแบบฝาหน้า สามารถซักได้สะอาดทั่วถึงกว่า ช่วยประหยัดน้ำและน้ำยาซักผ้า รวมถึงยังช่วยถนอมใยผ้ามากกว่าอีกด้วย พูดข้อดีกันมาขนาดนี้ คงอยากจะรู้แล้วซิว่า จะเลือกซื้อ เครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 10 รุ่นที่น่าสนใจ พร้อมวิธีการเลือกซื้อแบบง่าย ๆ กันเลยครับ



วิธีการเลือกซื้อ เครื่องซักผ้าฝาหน้า

วิธีการเลือกซื้อ เครื่องซักผ้าฝาหน้า

ความจุตัวถัง ใครที่ตัวคนเดียว ซักผ้าสัปดาห์ละครั้ง 7-8 กิโลกรัมก็น่าจะเพียงพอแล้ว (8 กิโลกรัมสำหรับผ้านวมเล็ก ๆ หรือไม่หนามากก็ยังพอรับไหวอยู่) แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบซักผ้าคราวละมาก ๆ ก็แนะนำให้เลือกขนาด 10-11 กิโลกรัมจะดีกว่า แต่ถ้าคุณคิดว่ายังเล็กเกินไปสำหรับครอบครัวอยากได้ 15-16 กิโลกรัมก็มีให้เลือกเช่นกันครับ

ตรวจเช็คพื้นที่ก่อนซื้อ ถ้าคุณกำลังอาศัยอยู่ในคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์ที่มีการบิวอินท์ อย่าลืมตรวจดูว่ามีท่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้ง อยู่ใกล้ ๆ และสามารถต่อได้หรือไม่ อาจจะต้องเจาะหรือหยิบแผ่นกั้นด้านล่างออกเพื่อต่อท่อเหล่านี้ และอย่าลืมวัดช่องตู้บิวอินว่าพอดีกับเครื่องซักผ้าหรือไม่

ฟังก์ชั่นการทำงานเสริม เครื่องซักผ้าฝาหน้าเกือบทุกรุ่นมาพร้อม โหมดน้ำร้อนที่จะช่วยให้การซักผ้าทำได้สะอาดยิ่งขึ้น ฆ่าเชื้อโรคไปพร้อมกับการซัก บางรุ่นมีโหมดไอน้ำที่จะช่วยให้คราบสกปรกซักออกได้ง่ายขึ้น พร้อมกับช่วยลดรอยยับที่เสื้อผ้าด้วย (โหมดร้อน ๆ ต้องระวังอย่าพลาดใส่ผ้าที่ไม่ทนความร้อนเข้าไป โดยเฉพาะใยสังเคราะห์ ไม่งั้นอาจจะเสียรูปได้) บางรุ่นก็ฉลาดล้ำ เชื่อมต่อแอป สั่งงานผ่านมือถือได้อีก อย่าลืมศึกษาฟังก์ชั่นว้าว ๆ ก่อนซื้อนะครับ

สามารถอบผ้าได้ ใครที่อยู่ตามคอนโดไม่ค่อยมีที่วางเครื่องอบผ้า การซื้อเครื่องซักผ้าที่อบได้ด้วยดูจะเป็นไอเดียที่ดี (แต่ความจุการอบจะลดลงเกือบครึ่ง) ผมและเพื่อนก็ได้จัดเจ้า Bosch มาใช้งานเหมือนกันทั้งคู่ ขอบอกเลยว่าเป็นอะไรที่สะดวก และเหมาะกับคอนโดมาก ๆ โดยเฉพาะยุคโควิดที่เราไม่ค่อยอยากไปใช้เครื่องหยอดเหรียญกันครับ


สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้งานเครื่องซักผ้าฝาหน้า

สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้งานเครื่องซักผ้าฝาหน้า

เลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่มีฟองน้อย หรือเป็นสูตรสำหรับฝาหน้า สามารถสังเกตสัญลักษณ์รูปเครื่องฝาหน้า ได้จากด้านหน้าถุงของผลิตภัณฑ์ซักฟอก ถ้าฟองฟอดล้นตู้ จะลามไปช็อตแผงวงจรได้ สำคัญมากครับ

ศึกษาปริมาณผลิตภัณฑ์ซักผ้าในคู่มือ เนื่องจากเครื่องซักผ้าฝาหน้าใช้น้ำน้อย ถ้าใส่มากไปอาจจะต้องเซ็ทให้ล้างผ้าหลายรอบ เพื่อขจัดผลิตภัณฑ์ซักฟอกที่เหลืออยู่บนใยผ้า ดังนั้นใส่ตามคู่มือบอกจะดีกว่าครับ

ล้างทำความสะอาดถัง และที่กรองเศษสิ่งสกปรก ถังซักผ้าเมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจจะเกิดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดกลิ่นที่เสื้อผ้า ดังนั้นเราขอแนะนำให้อ่านคู่มือเพื่อใช้งานโหมดล้างถังกัน นอกจากนี้เพื่อป้องกันปัญหาท่อน้ำทิ้งอุดตันจากเศษสิ่งสกปรก อย่าลืมอ่านคู่มือเพื่อเรียนรู้วิธีทำความสะอาดตรงจุดนี้ด้วยครับ

เวลาติดตั้งอย่าลืม ตรวจสอบว่าช่างที่ติดตั้ง ได้ต่อที่กรองสำหรับท่อน้ำดี (ท่อน้ำเข้า) หรือไม่ เวลาเจอน้ำประปาสกปรก จะได้ไม่ต้องปวดหัวกันนะครับ


ตารางเปรียบเทียบรีวิว “เครื่องซักผ้าฝาหน้า” ยี่ห้อไหนดี

ตารางเปรียบเทียบรีวิว "เครื่องซักผ้าฝาหน้า" ยี่ห้อไหนดี

สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาอ่าน อยากดูเครื่องซักผ้าฝาหน้า แบบสั้น ๆ วางเรียงเปรียบเทียบ ราคา, ขนาด, ความจุ, สามารถอบผ้าได้ และอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลย หรือถ้าอยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็เลื่อนผ่านปุ่มสีแดง ไปดูรีวิวสินค้าต่อเลยครับ



1. Electrolux EWF7525DGWA 

เรียกว่าเป็นรุ่นขายดีเลยสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า Electrolux EWF7525DGWA ตัวเครื่องสีขาว ความจุ 7.5 กิโลกรัม ใช้เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ ช่วยให้ซักผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงานมากกว่าถึง 22 เปอร์เซ็นต์ ทำงานเงียบไม่มีเสียงรบกวน สามารถเลือกอุณหภูมิในการซักได้ 6 ระดับ เพื่อให้เหมาะกับเนื้อผ้าแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้าย ผ้าเนื้อบาง ผ้าสี ผ้าขาว ดีต่อใจคนที่ซีเรียสและให้ความสำคัญกับการถนอมผ้าอย่างมาก รวมถึงใครที่ขี้ลืม ใส่ผ้ากดซักแล้วมีผ้าหลงไม่ได้ใส่เข้าเครื่อง รุ่นนี้ก็มีฟังก์ชัน Add Clothes เติมผ้าเข้าเครื่องได้ โดยให้เวลา 15 นาที ก่อนจะถึงรอบการซักครับ

ในส่วนของโปรแกรมการซัก ก็มีมาให้เลือก 11 รายการ มีโปรแกรมซักด่วน 20 นาที สำหรับวันไหนหากรีบมาก ๆ ก็สามารถซักได้อย่างรวดเร็ว ใครที่ต้องการแช่ผ้าก่อนซักก็มีโปรแกรม Soak สำหรับแช่ผ้าที่สกปรกมากด้วย ส่วนถ้าบ้านไหนมีเด็ก ๆ มือซน ก็ตั้งล็อกปุ่มกดได้ด้วย ยอดขายก็ดี รีวิวก็ดี ถ้าพูดถึงเครื่องซักผ้าก็มักจะเป็นยี่ห้อที่หลายคนนึกถึงก่อนเป็นอันดับแรกเลยทีเดียว เชื่อว่ามั่นใจได้ในคุณภาพและบริการแน่นอนครับ

กำลังไฟN/A
แรงดันไฟฟ้า220-240 V
ความจุ7.5 kg
ขนาด60 x 57 x 85 CM
เทคโนโลยีInverter
รอบการปั่น1,200 รอบ/นาที
อบผ้า

2. LG FV1450H3V

ซักผ้าปุ๊บฝนตกปั๊บ คือปัญหาที่หลายคนบ่นอยู่เสมอ ไหนจะผ้าไม่แห้งแถมอับชื้น ซึ่งปัญหานี้แก้ได้หากเรามีเครื่องซักผ้าที่อบแห้งได้เลยในตัว อย่าง LG FV1450H3V ที่สามารถซักผ้าได้จุมากถึง 10.5 กิโลกรัม และอบผ้าได้ 7 กิโลกรัม ดีไซน์สวยเท่ด้วยสีเงินสแตนเลส แม้จะเป็นเครื่องซักอบผ้าแต่ขนาดไม่ใหญ่ ประหยัดพื้นที่เพราะออกแบบให้ซักผ้าได้จุกว่ารุ่นก่อน ๆ แต่ใช้ขนาดเครื่องเท่าเดิม ทำงานแบบอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี AI DD คำนวณน้ำหนักและตรวจสอบชนิดของผ้า เพื่อปรับการหมุนให้เหมาะสมที่สุดในการซัก ช่วยถนอมผ้าได้มากขึ้นถึง 18 เปอร์เซ็นต์ครับ

พร้อมทั้งมีเทคโนโลยี Turbo Wash ประหยัดเวลาในการซักผ้า โดยใช้เวลาเพียง 59 นาที แต่ประสิทธิภาพในการซักยังเท่าเดิม นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี LG Steam ช่วยขจัดสารก่อภูมิแพ้ พวกไรฝุ่น, ฝุ่นอนุภาคเล็กในใยผ้า ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคทางเดินหายใจได้ถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์ และมีฟังก์ชัน Wrinkle Care ระหว่างปั่นหมาด ช่วยลดรอยยับบนเสื้อผ้าได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เครื่องรุ่นนี้ยังเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน สั่งงานผ่านแอป SmartThinQ ได้อีกด้วย ทั้งซักทั้งอบได้ในตัว เหมาะมากสำหรับใครที่อยู่คอนโดฯ จะตากผ้าก็ลำบาก จะซื้อเครื่องอบแยกก็ไม่มีพื้นที่ เครื่องเดียวจบไปเลยครับ

กำลังไฟN/A
แรงดันไฟฟ้า220 V
ความจุซัก 10.5 kg / อบ 7 kg
ขนาด60 x 56 x 85 CM
เทคโนโลยีAI DD / Turbo Wash / LG Steam
รอบการปั่น1,400 รอบ/นาที
อบผ้า

3. Hisense WFQY8014EVJM

หากคุณกำลังมองหาเครื่องซักผ้าในงบไม่ถึงหมื่น แนะนำ Hisense WFQY8014EVJM ด้วยราคา 8 พันต้น ๆ แต่คุณสมบัตินั้นจัดมาให้ไม่น้อยเลย ตัวเครื่องดีไซน์เรียบ ๆ ดูดี ความจุ 8 กิโลกรัม ใช้เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ ไร้เสียงรบกวน ร่วมด้วย Pure Steam Technology ซักแบบไอน้ำ ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถตั้งเวลาการซักได้ด้วยตัวเอง อยากใช้เวลาซักเท่าไรก็เลือกสิ้นสุดได้ตามใจ มีโปรแกรมการซักมากถึง 15 รายการ ให้เลือกใช้ได้ตามการใช้งาน เช่น ซักด่วน 15 นาที, ซักแบบประหยัด, ปรับอุณหภูมิน้ำ เป็นต้นครับ

นอกจากนี้ใครที่เป็นภูมิแพ้ก็หายห่วง เพราะมีเทคโนโลยี Steam Wash ช่วยขจัดสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้ด้วย รวมถึงมีระบบ Jet Wash การไหลของน้ำด้วยพลังความเร็วสูง ช่วยให้ทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น โดยรวมแล้วเป็นเครื่องซักผ้าที่มีคุณสมบัติครบ ราคาก็ไม่แพง รีวิวค่อนข้างโอเคเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพหรือความคุ้มค่า อาจจะไม่ใช่แบรนด์ยอดนิยมนัก แต่ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจนะครับ

กำลังไฟN/A
แรงดันไฟฟ้า220-240 V
ความจุ8 kg
ขนาด59.5 x 54 x 85 CM
เทคโนโลยีInverter / Pure Steam / Steam Wash / Jet Wash
รอบการปั่น1,400 รอบ/นาที
อบผ้า


4. SHARP ES-FW1010W

อีกหนึ่งยี่ห้อน่าสนใจ สำหรับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากญี่ปุ่น ที่อยู่คู่กับคนไทยมานานอย่าง SHARP กับเครื่องซักผ้าฝาหน้ารุ่น ES-FW1010W รุ่นนี้เป็นระบบอินเวอร์เตอร์ ความจุ 10 กิโลกรัม กำลังพอดีสำหรับครอบครัวขนาดกลาง ตัวเครื่องสีขาว มีระบบซักผ้าอัจฉริยะ เทคโนโลยี Smart Sensor ที่สามารถตรวจจับข้อมูลระหว่างการซักได้ถึง 6 ชนิด น้ำหนัก, ระดับน้ำ, ความเร็ว, ความสกปรก, อุณหภูมิ และฟอง ซึ่งช่วยให้คำนวณการซักที่เหมาะสมในแต่ละครั้ง ทำให้ซักได้สะอาด ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้ด้วยครับ

ส่วนของตัวถังซักด้านในทำจากสแตนเลสสตีลคุณภาพดี หนา 0.6 มิลลิเมตร ช่วยลดรอยขีดข่วน มีความแข็งแรงทนทาน และมีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดกลิ่นอับชื้นได้ ด้านนอกเคลือบ PCM ป้องกันสนิม ช่วยให้ใช้งานได้นาน นอกจากนี้ในการซักสามารถเลือกโปรแกรม Quick Wash ซักด่วนได้ 3 ระดับ คือ 15, 30 และ 45 นาที แล้วแต่ความสกปรกของเสื้อผ้าที่จะซัก และยังมีโปรแกรมซักต่าง ๆ มากถึง 16 รายการ ให้เลือกได้ตามการใช้งาน มีฟังก์ชันแช่ผ้า รวมถึงการล็อกปุ่มป้องกันเด็ก นับว่าจัดมาให้ครบสำหรับคุณสมบัติต่าง ๆ คุ้มค่าน่าใช้เลยล่ะครับ

กำลังไฟ2000 W
แรงดันไฟฟ้า220 V
ความจุ10 kg
ขนาด63.5 x 59.6 x 85 CM
เทคโนโลยีInverter / Smart Sensor
รอบการปั่น1,000 รอบ/นาที
อบผ้า

5. SAMSUNG WW70T3020WW/ST

เป็นเครื่องซักผ้าที่ตัวบางลงมาหน่อยสำหรับ SAMSUNG WW70T3020WW/ST ด้วยความหนาไม่ถึง 50 เซนติเมตร จัดวางได้ไม่เปลืองพื้นที่ ความจุตัวถัง 7 กิโลกรัม เหมาะกับงานซักที่ไม่หนักมากนัก มาพร้อมกับเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ดิจิตอล ที่ช่วยประหยัดพลังงาน ไม่มีเสียงรบกวน ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานได้ทนทาน การซักผ้าทำได้สะดวกรวดเร็ว มีโปรแกรม Quick Wash สำหรับซักผ้าจำนวนน้อยกว่า 2 กิโลกรัม ได้ในเวลาเพียง 18 นาที ช่วยเซฟเวลามาก ๆ หากต้องใช้งานอย่างเร่งด่วนครับ

ในส่วนของโปรแกรมการซักก็มีให้เลือก 14 รายการ สามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับการซักที่ต้องการได้มากที่สุด สามารถติดตามสถานะการซักและการตั้งค่าต่าง ๆ ได้ด้วยหน้าจอ LED แสดงค่าที่มองเห็นง่ายและชัดเจน มีฟังก์ชัน Drum Clean ทำความสะอาดตัวถัง ขจัดคราบและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ตกค้างภายในได้อย่างดี และยังมีโปรแกรม Delay End สามารถตั้งโปรแกรมซักล่วงหน้าได้นานถึง 24 ชั่วโมง ตั้งไว้กลางคืน ให้ซักเสร็จตอนกลับถึงบ้านได้ง่าย ๆ เลย ช่วยให้เราวางแผนใช้ชีวิตได้สะดวกขึ้นมาก อีกทั้งรุ่นนี้ราคายังน่าคบหา หากใครสนใจลองจัดมาไว้ใช้สักตัวก็ไม่น่ามีปัญหาครับ

กำลังไฟN/A
แรงดันไฟฟ้าN/A
ความจุ7 kg
ขนาด59.5 x 44 x 85 CM
เทคโนโลยีInverter Digital
รอบการปั่น1,200 รอบ/นาที
อบผ้า

6. TOSHIBA TWBH85S2T

คงความสดใสให้สีเสื้อผ้าของคุณดูใหม่อยู่เสมอในทุก ๆ การซัก กับ TOSHIBA TWBH85S2T เครื่องซักผ้าฝาหน้าความจุ 7.5 กิโลกรัม ดีไซน์สีขาว บานประตูใหญ่พิเศษกว้าง 48 เซนติเมตร ให้หยิบผ้าเข้า-ออกจากตัวถังได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ใช้เทคโนโลยี GreatWaves ด้วยใบพัดรูปตัว S และถังซักผลึก ทำรอบการซักได้ถึง 200 รอบ/นาที ซักผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบเดียวกับการซักมือแต่เร็วและสะดวกกว่า ประหยัดพลังงานและถนอมเนื้อผ้า พร้อมทั้งมีระบบซักน้ำเย็นโปรแกรม ColorAlive ช่วยให้ผ้ามีสีสันสดใสยาวนานขึ้น ป้องกันการสีตก และไม่ทำให้เสื้อผ้าเสียทรงด้วยครับ

นอกจากนั้นยังใช้มอเตอร์ Real Inverter เทคโนโลยีที่ช่วยให้เครื่องทำงานเงียบ และมีความทนทาน สามารถเลือกโปรแกรมการซักได้ถึง 16 รายการ เพื่อให้เหมาะสมกับการซักทุกรูปแบบ มีโปรแกรมซักด่วน 15 นาที สำหรับการซักผ้าปริมาณน้อย ใช้โปรแกรม MEMORY เพื่อบันทึกรูปแบบการซักที่ใช้ประจำ ไม่ต้องตั้งใหม่ให้เสียเวลา รวมถึงยังสามารถตั้งเวลาจบการทำงาน Delay End ได้ถึง 24 ชั่วโมง มีโปรแกรมล้างถัง Drum Clean ขจัดสิ่งสกปรกด้วยน้ำอุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส สรุปแล้วรุ่นนี้ราคาดี ฟังก์ชันครบ คุณสมบัติคุ้มค่าใช้ได้เลยครับ

กำลังไฟN/A
แรงดันไฟฟ้าN/A
ความจุ7.5 kg
ขนาด59.6 x 49 x 85 CM
เทคโนโลยีReal Inverter / GreatWaves
รอบการปั่น1,200 รอบ/นาที
อบผ้า


7. TCL 8KG/9KG/10KG Smart Inverter

TCL ชื่อนี้หลายคนอาจไม่คุ้นนัก แต่เป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากจีน ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1981 มีสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายที่น่าสนใจ และจัดจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลก สำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า TCL Smart Inverter ดีไซน์สีขาวสวย มีหลายความจุให้เลือกซื้อ เพื่อให้เหมาะกับปริมาณการใช้งานของแต่ละครอบครัว มีฟังก์ชันใช้งานที่น่าจะว้าวสำหรับคุณพ่อบ้านแม่บ้าน ไม่ว่าจะเป็น Add Garment ที่สามารถเพิ่มผ้าลงเครื่องเมื่อไรก็ได้ โดยที่เครื่องไม่ต้องเริ่มทำงานใหม่ รวมไปถึง Memory of Power Interrupt ที่ช่วยแก้ปัญหาเมื่อเกิดไฟฟ้าขัดข้องระหว่างการซัก เครื่องจะจดจำการทำงานไว้ เมื่อไฟมาก็พร้อมทำงานต่อจากที่ค้างไว้ได้เลย เรียกว่าสะดวกสบายและช่วยแก้ปัญหาได้ดีมาก ๆ ครับ

เครื่องรุ่นนี้ใช้อุณหภูมิในการซักสูงถึง 95 องศาเซลเซียส ช่วยลดคราบสกปรกที่ฝังแน่น และลดกลิ่นอับได้ รอบปั่นหมาดที่มากถึง 1,400 รอบ/นาที ก็ช่วยให้ซักผ้าหนา ๆ ได้ดี ตากผ้าแห้งเร็วขึ้น การออกแบบถังซัก Honey Comb Crystal Drum ผิวด้านในแบบหกเหลี่ยมคล้ายรังผึ้ง ทำให้อากาศไหลเวียนดี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซักให้สะอาดและถนอมผ้าด้วย รวมทั้งการใช้ Smart Inverter Motor เป็นคุณสมบัติมาตรฐานของเครื่องซักผ้าแทบทุกรุ่นในปัจจุบัน ทำให้เครื่องทำงานเงียบ และช่วยประหยัดไฟ ดูฟังก์ชันแล้วคิดว่าหากใครยังไม่มีตัวเลือกของเครื่องซักผ้าในใจ ตัวนี้ถือว่าคุ้มค่าน่าลองไม่น้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ เลยล่ะครับ

กำลังไฟ1,900 W (8, 9 kg) / 1,950 W (10 kg)
แรงดันไฟฟ้า220 – 240 V
ความจุ8 / 9 / 10 kg
ขนาด59.5 x 52 x 85 CM (8 kg)
59.5 x 56 x 85 CM (9 kg)
59.5 x 62.5 x 85 CM (10 kg)
เทคโนโลยีSmart Inverter Motor
รอบการปั่น1,400 รอบ/นาที
อบผ้า

8. HITACHI BD-90XFV

มองภายนอกก็สะดุดตาแล้วสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า HITACHI BD-90XFV ที่โดดเด่นด้วยสีเมทัลลิกซิลเวอร์ ดูเคร่งขรึมแตกต่างจากเครื่องซักผ้าส่วนใหญ่ที่มักจะมีสีขาวสว่าง แต่นอกจากดีไซน์รูปลักษณ์ที่สวยงามแล้ว ยังดีไซน์การทำงานไว้อย่างดีเยี่ยม ด้วยเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ควบคุมการซักแบบ 3 มิติ (3D Sensor Control Wash) ซึ่งช่วยตรวจวัดน้ำหนักผ้า, อุณหภูมิน้ำ, ปริมาณฟอง, การสั่นสะเทือน, ความเร็วรอบปั่น, ระดับน้ำ เพื่อช่วยคำนวณเวลา การใช้น้ำ การหมุน และเลือกรูปแบบการซักที่เหมาะสมที่สุด ช่วยให้ซักผ้าได้สะอาด ถนอมผ้า และประหยัดพลังงานได้ดียิ่งขึ้นครับ

รวมทั้งยังมีคุณสมบัติโดดเด่นอื่น ๆ อย่างการลดแรงสั่นสะเทือนแบบคู่ ด้วยการรักษาสมดุลของถังซัก คือเมื่อผ้าหมุนไปด้านหนึ่ง ของเหลวก็จะไหลไปด้านตรงข้าม ควบคู่กับระบบโช้คไฮดรอลิกแบบเดียวกับที่ใช้ในรถยนต์ ทำให้เครื่องสั่นน้อยที่สุด นอกจากนี้ก็มีระบบ Auto Self Clean ที่ดีมาก ๆ เพราะเป็นการทำความสะอาดถังซักอัตโนมัติทุกครั้งหลังใช้งานทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะภายนอกถังซักที่ไม่สะอาดซึ่งเรามองไม่เห็น มักเป็นปัญหาให้มีสิ่งสกปรกตกค้างบนเสื้อผ้าหลังซักได้ เรียกว่าคัดแต่เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การซักผ้ามาแล้ว แม้ราคาจะสูงแต่ก็มั่นใจได้ว่าคุ้มค่าแน่นอนครับ

กำลังไฟN/A
แรงดันไฟฟ้าN/A
ความจุ9 kg
ขนาด60.6 x 62.7 x 85.3 CM
เทคโนโลยี3D Sensor Control Wash
รอบการปั่น1,600 รอบ/นาที
อบผ้า

9. BEKO WCV9649XWST

หลายคนอาจจะรู้สึกเบื่อที่ต้องคอยเช็ดคราบเปื้อนต่าง ๆ ก่อนซักผ้าแต่ละครั้ง ซึ่งเครื่องรุ่นนี้ช่วยได้ BEKO WCV9649XWST เครื่องซักผ้าฝาหน้า ความจุ 9 กิโลกรัม ที่มีเทคโนโลยี Steam Cure ขจัดคราบสกปรกบนเสื้อผ้าของคุณด้วยไอน้ำก่อนเริ่มซัก ทำให้คราบอ่อนลงและซักออกได้ง่ายขึ้น แถมยังช่วยลดรอยยับทำให้รีดเรียบได้เร็วขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม Stain Expert ที่ช่วยทำความสะอาดคราบสกปรกได้มากถึง 24 ชนิด เช่น คราบกาแฟ, ซอสมะเขือเทศ, เครื่องสำอาง เป็นต้นครับ

ส่วนของมอเตอร์ก็ใช้ ProSmart Inverter Motor ที่มีความทนทาน ไร้เสียงรบกวน และช่วยประหยัดพลังงาน มีโปรแกรมการซักมากถึง 15 รายการ มีโปรแกรมซักด่วนสำหรับผ้าไม่เกิน 2 กิโลกรัม สามารถซักได้ภายใน 14 นาที สะดวกรวดเร็วมากทีเดียว ตัวถังภายในดีไซน์แบบ Aqua Wave ช่วยให้ปั่นผ้าได้นุ่มนวล ถนอมผ้าได้ดีกว่า นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน สั่งงานผ่านแอป HomeWhiz ได้อย่างสะดวก ราคาจัดว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป เทียบกับคุณสมบัติที่ได้แล้ว ก็นับว่าสมน้ำสมเนื้อ หากอยากเปลี่ยนจากยี่ห้อเดิม ๆ ที่คุ้น ๆ กันมานาน ลองดูรุ่นนี้ก็ไม่เสียหลายครับผม

กำลังไฟN/A
แรงดันไฟฟ้า220 – 240 V
ความจุ9 kg
ขนาด60 x 59 x 86 CM
เทคโนโลยีProSmart Inverter Motor / Steam Cure
รอบการปั่น1,200 รอบ/นาที
อบผ้า

10. Bosch WVG30460TH

มาดูกันอีกหนึ่งรุ่น สำหรับเครื่องซักอบผ้าในตัวเดียว Bosch WVG30460TH ตัวเลือกที่จะทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น สำหรับคนอยู่คอนโดฯ หรือมีพื้นที่น้อย ตากผ้าลำบาก ซื้อเครื่องเดียวครบจบไปเลย รุ่นนี้ความจุการซัก 8 กิโลกรัม อบได้ 5 กิโลกรัม ออกแบบการทำงานด้วยวิศวกรรมจากเยอรมัน มั่นใจได้ในคุณภาพที่ได้มาตรฐาน ใช้มอเตอร์ EcoSilence Drive ที่ช่วยให้ซักผ้าได้ดีมีประสิทธิภาพ มีความทนทาน ประหยัดพลังงาน และไม่มีเสียงรบกวน มีระบบ Vario Perfect ให้เลือกการซักแบบประหยัดพลังงานขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ และลดเวลาซักได้ถึง 65 เปอร์เซ็นต์ โดยยังคงประสิทธิภาพเหมือนการซักในโปรแกรมปกติด้วยครับ

คุณสมบัติอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็มีครบ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมซักเพื่อขจัดสารก่อภูมิแพ้ ที่จะเพิ่มขั้นตอนการซักให้นานขึ้น เพิ่มรอบล้างให้มากขึ้น เพื่อขจัดสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองออกจากเนื้อผ้า และฟังก์ชัน Reload ที่สามารถหยุดการทำงานเพื่อเพิ่มผ้าเข้าเครื่อง หรือเอาผ้าออกจากเครื่องระหว่างการซักได้ ในส่วนของการอบผ้านั้น มีเซ็นเซอร์คอยวัดความชื้นและอุณหภูมิ เพื่อให้สามารถอบผ้าได้อย่างเหมาะสม เท่านี้จะซักหรือจะอบ ก็ทำได้ง่ายและสะดวกจบในตัว ไม่ต้องกังวลกับเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับชื้นเพราะตากผ้าไม่แห้งอีกต่อไปแล้วครับ

กำลังไฟ2,200 W
แรงดันไฟฟ้า220 – 240 V
ความจุซัก 8 kg / อบ 5 kg
ขนาด59.8 x 59 x 84.8 CM
เทคโนโลยีEcoSilence Drive / Vario Perfect
รอบการปั่น1,500 รอบ/นาที
อบผ้า

อ่านกันมาถึงตรงนี้คงจะได้คำตอบสำหรับ เครื่องซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อไหนดี กันแล้วแน่เลย เวลาซื้อก็สำรวจความต้องการให้ดี ดูความจุตัวถัง ตรวจวัดขนาดพื้นที่ติดตั้ง เช็คท่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้งว่ามีพร้อมสำหรับการติดตั้งหรือไม่ ต้องการให้อบผ้าด้วยหรือเปล่า มีฟังก์ชั่นล้ำ ๆ อะไรบ้าง ที่สำคัญเวลาใช้งาน ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่เหมาะกับแบบฝาหน้า สังเกตที่ด้านหน้าของถุงจะมีรูปเครื่องซักผ้าอยู่ มีรูปเครื่องฝาหน้าไหม เพราะบอร์ดเครื่องเสียหลายครั้ง เกิดจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าผิด ไม่เหมาะสำหรับฝาหน้า สุดท้ายนี้ก็ขอให้ได้รุ่นที่ถูกใจ ใช้งานทนทานกันนะครับ


Leave a Comment