เครื่องเสียงรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี แอนดรอยด์ 1และ2DIN รีวิว 10 ยี่ห้อ

รูปภาพปกบทความ เครื่องเสียงรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี แอนดรอยด์ 1และ2DIN รีวิว 10 ยี่ห้อ

สิ่งคู่ใจคนมีรถยนต์หลาย ๆ คน คงจะต้องมีเครื่องเสียงรถยนต์อยู่ในนั้นด้วยแน่ ๆ ยิ่งเดี๋ยวนี้เครื่องเสียงถูกพัฒนามาให้ทำอะไรได้เยอะขึ้นมาก ๆ เชื่อมต่อ Apple Carplay หรือ Android Auto ได้ บางรุ่นก็ถึงขั้นลงแอปได้อีกด้วย มีตัวนำทาง GPS (Navigator) ใครที่มีรถเก่าเครื่องเสียงยังเป็นรุ่นเก่าอยู่ อยากได้ลูกเล่นแบบล้ำ ๆ ก็สามารถอัพเกรดให้ทันสมัยได้ แล้วเราจะเลือกซื้อเครื่องเสียงรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี เรารวบรวมรุ่นที่น่าสนใจ พร้อมวิธีการเลือกซื้อแบบง่าย ๆ ไว้ให้แล้วครับ



1 din และ 2 din ในเครื่องเสียงรถยนต์คืออะไร

1 din และ 2 din ในเครื่องเสียงรถยนต์คืออะไร

din คือมาตรฐานขนาดของฟรอนท์เครื่องเสียงรถยนต์ แบบ 1 din จะมีขนาด 178 x 53 mm ส่วนแบบ 2 din จะอยู่ที่ 178 x 106 mm หรือจะเรียกแบบง่าย ๆ ว่า 1 din คือขนาดเท่ากับช่องวิทยุในรถ 1 ช่อง ในขณะที่ 2 din คือขนาด 2 ช่องครับ


วิธีการเลือกซื้อ เครื่องเสียงรถยนต์

จอแสดงผล เครื่องเสียงเดี๋ยวนี้ จะมาพร้อมหน้าจอ LCD 6-10 นิ้ว หลายรุ่นสามารถทัชบนจอ สั่งการได้สะดวกและรวดเร็ว เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นแท๊ปเล็ตกันเลยทีเดียว มีทั้งแบบ 1 และ 2 din ให้เลือกซื้อ ควรตรวจสอบรถก่อนซื้อว่ารองรับขนาดไหนบ้าง ป้องกันความผิดพลาด แนะนำให้เลือกจอที่มีความละเอียดอย่างน้อย 720p หรือ HD เพื่อความคมชัด ภาพมีรายละเอียด จะดูหนังหรือใช้โปรแกรมนำทาง(Navigator) จะได้ไม่ขัดใจกับภาพครับ

ฟังก์ชั่น เดี่๋ยวนี้นอกจากเครื่องเสียงรถยนต์จะต้องเสียงดี ยังต้องมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ อีกด้วย นำทางด้วย GPS ได้ ปรับแต่งระบบเครื่องเสียงง่าย รองรับไฟล์เสียงคุณภาพสูงแบบ Lossless อย่าง FLAC ได้เพื่อชาวหูทองหูเทพ มีแอฟพลิเคชั่นอื่น ๆ เสริมติดมากับเครื่อง หรือถ้าลงโปรแกรมเพิ่มได้ก็จะยิ่งดี ใครชอบฟังก์ชั่นไหนก็อย่าลืมดูก่อนซื้อกันนะครับ

การเชื่อมต่อ ยุคนี้ต้องรองรับ Apple CarPlay / Android Auto จะได้เชื่อมต่อกับ iPhone หรือ Android ได้ง่าย ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ แล้วยังรองรับการเชื่อมต่อด้วย WI-FI หรือ Bluetooth เพื่อความสะดวกหรือสายเคเบิลเกิดมีปัญหา รวมถึงมีพอร์ต USB ไว้เปิดเพลงหรือหนังที่เราดาวน์โหลดใส่แฟลชไดร์ฟด้วย เวลาซื้ออย่าลืมดูการเชื่อมต่อ ว่ารองรับแบบไหนบ้าง เพื่อความสะดวกในการใช้งานครับ


ตารางเปรียบเทียบรีวิว “เครื่องเสียงรถยนต์” ยี่ห้อไหนดี

สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาอ่าน อยากดูเครื่องเสียงรถยนต์แบบสั้น ๆ วางเรียงเปรียบเทียบ ราคา, หน้าจอ, กำลังขับสูงสุด, การเชื่อมต่อ และอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลย หรือถ้าอยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็เลื่อนผ่านปุ่มสีแดง ไปดูรีวิวสินค้าต่อเลยครับ



1. ยี่ห้อ PIONEER รุ่น DMH-ZS9350BT

ถึงแม้ว่าเครื่องเสียงรถยนต์รุ่นนี้จะออกวางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2020 และเป็นหนึ่งในรุ่นท็อปที่ผู้เล่นเครื่องเสียงส่วนใหญ่ให้การยอมรับว่าเป็นหนึ่งในรุ่นที่ดีที่สุดจาก Pioneer ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่สวยงามมาก ระบบฮาร์ดแวร์ภายในที่มีประสิทธิภาพสูง และสำคัญที่สุดคือเครื่องเสียงรถยนต์รุ่นนี้ สามารถถ่ายทอดแนวเสียงออกมาได้ทุกรูปแบบตามต้องการ ตั้งแต่เสียงระดับมาตรฐาน ไปจนถึงระดับ Hi-Res Audio กันเลยครับ

เครื่องเสียงรถยนต์ Pioneer รุ่น DMH-ZS9350BT มีหน้าจอแบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้วแบบ TFT LCD แสดงผลความละเอียดที่ Full HD เครื่องเสียงรุ่นนี้เป็นแบบ 2DIN แต่สามารถปรับองศาการติดตั้งได้ เพราะตัวเครื่องและหน้าจอนั้นออกแบบให้แยกออกจากกัน ตัวเครื่องให้กำลังขับเสียงที่ 50 W x 4 และพรีเอ้าท์อีก 3 ชุด สามารถต่อเชื่อมกล้องได้พร้อมกันทั้งหน้าและหลัง รองรับการใช้งานแอพพลิเคชันได้หลากหลายทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, Waze, Spotify, Car AV Assist หรือแม้กระทั่ง Alexa การต่อเชื่อมที่ครบครัน ถ่ายทอดเสียงได้อย่างละเมียดละไมด้วยสุดยอดเทคโนโลยี Master Sound Reviver ที่เป็นเอกสิทธิเฉพาะจาก Pioneer รองรับไฟล์วีดีโอได้หลากหลายในระดับ Full HD และเล่นไฟล์เพลงความละเอียดสูงได้ทันที สำหรับคนที่ชอบความไฮเอ็นด์แล้วล่ะก็ เครื่องเสียงตัวนี้คู่ควรครับ

หน้าจอTFT LCD 9 นิ้ว Full HD ระบบสัมผัส
เล่น CD/DVDไม่ได้
กำลังขับสูงสุด50 W x 4
พรีเอ้าท์3 (4V)
การเชื่อมต่อUSB, Bluetooth, Wi-Fi, HDMI
รองรับไฟล์เสียงWMA, MP3, WAV, AAC, FLAC, DSD
รองรับไฟล์ภาพ/วีดีโอH.264, MPEG4, DivX, JPEG, MKV, FLV, TS
รองรับแอพพลิเคชันWeb Browsing, Apple CarPlay, Android Auto, Waze, Spotify, Alexa
ระบบปฏิบัติการPioneer Smart UI

2. ยี่ห้อ Sony รุ่น XAV-AX5500

ในช่วงปีนี้เครื่องเสียงรถยนต์ที่ไม่ใช่ Android จะดูแผ่วลงไปสักหน่อย อาจจะด้วยราคาค่าตัวที่สูง และความยืดหยุ่นด้านการใช้งานจะสู้ฝั่ง Android ไม่ได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบเครื่องเสียงที่เน้นหนักในด้านคุณภาพของภาพและเสียงใส ๆ ที่ออกมาจากฮาร์ดแวร์โดยตรงแล้วล่ะก็ เครื่องเสียงในลักษณะนี้คือสิ่งที่คุณกำลังตามหา และแบรนด์ดังอย่าง Sony ก็ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ

เครื่องเสียงรถยนต์ Sony รุ่น XAV-AX5500 ถือได้ว่าเป็นตัวท็อปสุดในรุ่นขนาดหน้าจอไม่เกิน 7 นิ้ว ให้กำลังขับสูงสุดออกมาได้น่าประทับใจที่ 55 W x 4 และพรีเอ้าท์ 3 ชุด รอบรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth, Wi-Fi และโดยเฉพาะ USB ที่ให้มาถึง 2 ช่อง (ใช้งานได้พร้อมกัน) ช่องแรกเสียบแฟลชไดร์ฟเพื่อเล่นไฟล์ต่าง ๆ และอีกช่องหนึ่งเสียบเข้ากับโทรศัพท์มือถือเพื่อ Cast และควบคุมแอพพลิเคชันของโทรศัพท์มือถือจากหน้าจอเครื่องเสียงได้เลยทันทีโดยทำงานภายใต้ระบบ WebLink ตัวเครื่องติดตั้งแอพลลิเคชัน Apple CarPlay, Android Auto, Waze, Spotify มาให้ รองรับการเล่นไฟล์เพลงความละเอียดสูง Hi-Res Audio และด้วยชิปเสียงพิเศษ Dynamic Reality Amp 2 ที่ถ่ายทอดพลังเสียงออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังมีระบบ Dynamic Stage Organiser ที่สามารถจำลองเวทีของเสียงจากลำโพงคู่หน้า ให้เหมือนกับยกเอาเวทีคอนเสิร์ทมาวางอยู่ตรงหน้าปัดรถยนต์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ นี่คือสิ่งที่เครื่องเสียงติดรถยนต์รุ่นนี้ให้คุณได้ครับ

หน้าจอTFT LCD 6.95 นิ้ว HD ระบบสัมผัส
เล่น CD/DVDไม่ได้
กำลังขับสูงสุด55 W x 4
พรีเอ้าท์3 (5V)
การเชื่อมต่อUSB, Bluetooth, Wi-Fi
รองรับไฟล์เสียงPCM, MP3, WMA, AAC, FLAC
รองรับไฟล์ภาพ/วีดีโอMPEG4-SP, AVC (H.264 Baseline), WMV, MKV, XviD
รองรับแอพพลิเคชันWeb Browsing, Apple CarPlay, Android Auto, Waze, Spotify, WebLink
ระบบปฏิบัติการSONY UI

3. ยี่ห้อ Alpine รุ่น Halo9 iLX-F269E

“เสียงที่ดี เริ่มต้นที่ฟรอนต์” เป็นคำแนะนำของนักเล่นเครื่องเสียงมืออาชีพในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่ผู้ใช้ต่างยกให้เป็นเบอร์ต้น ๆ ของวงการเครื่องเสียงติดรถยนต์ก็คือ Alpine ที่ไม่ว่าจะถอยรุ่นไหนมาใช้ ก็การันตีได้เลยว่าเสียงดีอย่างแน่นอน ทีนี้ในปัจจุบัน ถ้าเราจะติดเครื่องเสียงทั้งที ก็คงหนีไม่พ้นเครื่องเล่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ รองรับมีเดียได้หลากหลาย และรุ่นนี้ก็ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่หลายคนอยากจับจองครับ

เครื่องเสียงรถยนต์ Alpine รุ่น Halo9 iLX-F269E มีหน้าจอแบบลอยตัวขนาดใหญ่ 9 นิ้ว (ไม่ได้ฝังจอลงในแผงหน้ากากคอนโซล) ระบบสัมผัส สามารถปรับมุมมองของหน้าจอได้ตามต้องการระหว่างใช้งาน กำลังขับอยู่ที่ 45 W x 4 และพรีเอ้าท์ 3 ชุด สั่งงานผ่าน Alpine GUI ที่ใช้งานง่ายสามารถปรับอินเทอร์เฟสได้หลายแบบ และแน่นอนว่ารองรับ Apple CarPlay, Android Auto และใช้งานฟังก์ชันที่เกี่ยวกับ In-Car Infotainment ได้ทุกแบบ เชื่อมต่อได้ทั้ง Bluetooth และ Wi-Fi จุดที่แตกต่างจากเครื่องเสียงรุ่นอื่น ๆ คือรุ่นนี้จะมีพอร์ต HDMI ทั้ง IN และ OUT มาให้ สามารถเชื่อมมีเดียภายนอกให้ปรากฏบนหน้าจอ และแบ่งปันหน้าจอหลักไปยังหน้าจอรองภายในรถได้ในขั้นตอนเดียว ถึงแม้ราคาอาจจะสูงไปนิดแต่ก็น่าพิจารณานะครับ

หน้าจอTFT LCD 9 นิ้ว HD ระบบสัมผัส
เล่น CD/DVDไม่ได้
กำลังขับสูงสุด45 W x 4
พรีเอ้าท์3 (4V)
การเชื่อมต่อUSB, Bluetooth
รองรับไฟล์เสียงMP3, WMA, AAC, FLAC
รองรับไฟล์ภาพ/วีดีโอMP4, AVI, WMV, MOV
รองรับแอพพลิเคชันApple CarPlay, Android Auto
ระบบปฏิบัติการAlpine GUI


4. ยี่ห้อ Kenwood รุ่น DMX820WXS

เครื่องเสียงติดรถยนต์คุณภาพสูงในราคาที่เป็นเจ้าของได้ และโลดแล่นอยู่ในวงการเครื่องเสียงมาอย่างยาวนาน แบรนด์ Kenwood ชื่อนี้มั่นใจได้ทั้งการออกแบบ ประสิทธิภาพของเครื่อง และคุณภาพของเสียงที่สร้างความประทับใจทุกครั้งที่ได้รับฟัง อีกทั้งยังหาร้านที่จำหน่ายและเซอร์วิสได้ง่าย โดยเฉพาะการอัปเดตสินค้าใหม่แต่ละครั้ง ก็ตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปได้อย่างทันยุคทันสมัย เป็นเหตุผลที่ผู้ใช้หลายคนต่างเลือกซื้อมาใช้งานกันครับ

เครื่องเสียงรถยนต์ Kenwood รุ่น DMX820WXS เป็นหนึ่งในรุ่นที่มียอดจำหน่ายค่อนข้างสูง เพราะรองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่พื้นฐานทั่วไป จนถึงการเล่นไฟล์ระดับสูง มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 8 นิ้ว ตัวเครื่องด้านในนั้นสั้นมาก เหลือพื้นที่ระบายความร้อนเยอะ สามารถติดตั้งกับรถยนต์รุ่นใหม่บางรุ่นแบบ Plug & Play ได้เลยทันที และมีชุดสายไฟแบบซ็อกเก็ตมาให้เพื่อนำไปติดในรุ่นรถที่ไม่รองรับก็ได้เช่นกัน เครื่องเสียงรุ่นนี้หน้าจอแสดงผลจะเป็น Kenwood UI ที่คุ้นเคยกันอยู่แล้วกับเครื่องเสียงแบบหน้าจอทุกรุ่นของแบรนด์นี้ รองรับทั้ง Apple CarPlay, Android Auto เล่นไฟล์วีดีโอ และไฟล์เพลงความละเอียดสูง Hi-Res Audio ได้ จุดเด่นของเครื่องเสียงติดรถยนต์รุ่นนี้คือสามารถใช้งานแอพพลิเคชัน Mirroring OA เพื่อเชื่อมต่อและควบคุมหน้าจอโทรศัพท์มือถือของคุณผ่านหน้าจอบนเครื่องเล่นได้ และยังสามารถปรับแต่ง EQ ได้ถึง 13 Band และปรับจูน Digital Time Alignment ได้อีกด้วย เด็ดขนาดนี้เก็บไว้เป็นตัวเลือกได้เลยครับ

หน้าจอTFT LCD 8 นิ้ว HD ระบบสัมผัส
เล่น CD/DVDไม่ได้
กำลังขับสูงสุด50 W x 4
พรีเอ้าท์3 (4V)
การเชื่อมต่อUSB, Bluetooth
รองรับไฟล์เสียงMP3, WMA, AAC, WAV, FLAC
รองรับไฟล์ภาพ/วีดีโอMPEG1, MPEG2, MPEG4, WMV, H.264, MKV
รองรับแอพพลิเคชันApple CarPlay, Android Auto
ระบบปฏิบัติการKenwood UI

5. ยี่ห้อ Pioneer รุ่น DMH-A4450BT

การเลือกซื้อเครื่องเสียงติดรถยนต์ในปัจจุบันมีตัวเลือกในตลาดค่อนข้างเยอะมาก ทั้งแบรนด์เนม และโลคัลแบรนด์ แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน อีกทั้งลูกเล่นของเครื่องรุ่นนั้น ๆ จะเป็นตัวส่งเสริมการตัดสินใจให้เราเลือกใช้งาน และเครื่องเสียงรุ่นนี้ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ผู้ใช้รถหลายคนนิยมใช้กันนั่นก็คือ Pioneer รุ่น DMH-A4450BT ซึ่งเป็นตัวท็อปของตระกูล A ซีรีส์ ราคาไม่แพง แต่ให้คุณภาพเกินคุ้มครับ

เครื่องเสียงรถยนต์รุ่นนี้เป็นมาตรฐาน 2DIN ซึ่งเรียกได้ว่าใช้พื้นที่ติดตั้งเต็มทั้ง 2 ช่องทั้งนอกและในเลย มีขนาดหน้าจอที่ 6.75 นิ้ว ระบบสัมผัส และแน่นอนว่าจะต้องรองรับ Apple CarPlay, Android Auto ตามมาตรฐานเครื่องเสียงปัจจุบัน ให้กำลังขับสูงสุดที่ 50 W x 4 และชุดพรีเอ้าท์อีก 3 ชุด สามารถติดตั้งกล้องหลังได้ 1 ชุด ถึงแม้ว่าเครื่องรุ่นนี้เล่นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงโดยตรงได้อยู่แล้ว แต่คุณก็ยังสามารถเชื่อมต่อ USB Mirroring กับโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ของคุณผ่านระบบ WebLink ได้อีก ซึ่งนั่นหมายถึงคุณจะสามารถเล่นไฟล์มัลติมีเดียกับหน้าจอเครื่องเสียงรุ่นนี้ได้ทุกรูปแบบที่มือถือคุณรองรับกันเลย อีกทั้งตัวเครื่องยังรองรับไฟล์เสียงแบบความละเอียดสูง Hi-Res Audio เช่นเดียวกับเครื่องเสียงราคาแพงได้อีกด้วยนะครับ

หน้าจอTFT LCD 6.75 นิ้ว HD ระบบสัมผัส
เล่น CD/DVDไม่ได้
กำลังขับสูงสุด50 W x 4
พรีเอ้าท์3 (4V)
การเชื่อมต่อUSB, Bluetooth
รองรับไฟล์เสียงMP3, WMA, AAC, WAV, FLAC
รองรับไฟล์ภาพ/วีดีโอMKV, MPEG 1, 2, 4, AVI, WMV, JPEG
รองรับแอพพลิเคชันApple CarPlay, Android Auto
ระบบปฏิบัติการPioneer Smart UI

6. ยี่ห้อ Bluewave รุ่น BW-6128EN9

ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในวงการเครื่องเสียงอาจจะไม่ค่อยรู้จักแบรนด์นี้ แต่ขอบอกเลยว่าแบรนด์ Bluewave หรือ BW นี้อยู่ในวงการเครื่องเสียงรถยนต์มาอย่างยาวนาน ผู้ที่นิยมแนวเสียงในสไตล์ที่ทรงพลัง ดุดัน มีมิติเสียงชัดเจน ต่างติดตั้งอุปกรณ์จากแบรนด์นี้กันแทบทั้งนั้น เพราะราคาไม่แพง และคุณภาพที่ได้นั้นถือว่าเกินคำว่าคุ้มค่าไปมาก และสำหรับยุคสมัยที่เครื่องเสียงรถยนต์ในรูปแบบของ Android OS นั้นกำลังมาแรง นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่าน่าจับจองครับ

เครื่องเสียงรถยนต์ Bluewave รุ่น BW-6128EN9 มีหน้าจอแบบ IPS LCD ขนาด 9 นิ้ว แบบ Full HD กระจกตัดแสงสะท้อน ให้ภาพคมชัดเคลียร์ใส มาพร้อมสเปคโหด ๆ ซีพียู Octa-Core หน่วยความ 6 GB ความจุเครื่อง 128 GB (เพิ่มความจุภายนอกได้ 1 TB) ทำงานบน Android 10 จุดเด่นของเครื่องเสียงรุ่นนี้คือคุณจะได้หน้าจอ Full HD ที่ทำงานได้ไหลลื่นไม่มีอาการสะดุดหรือหน่วงเลย รองรับการเชื่อมต่อพื้นฐานแทบทุกรูปแบบ ต่อกล้องหลังได้ ต่อกับปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยก็ได้ มี GPS ในตัว มีช่องเสียบ USB มาให้ 3 ชุด อีกทั้งยังมีระบบ DSP และปรับ EQ ได้ 16 แบนด์ สามารถจูนเวทีเสียงได้ตามต้องการ หรือจะลงแอพพลิเคชันปรับจูนแบบละเอียดเพิ่มเติมอิสระก็ย่อมได้ ดูหนังฟังเพลงได้หมด และแน่นอนว่ารองรับ Apple Carplay, Android Auto ด้วย เรียกได้ว่าแท็บเล็ตตัวท็อปทำได้อย่างไร เครื่องเสียงติดรถยนต์รุ่นนี้ก็ทำได้อย่างนั้น จะดีกว่าตรงที่มีเมนูฟังก์ชันสำหรับการใช้งานในรถยนต์แยกมาเป็นสัดส่วนให้เลือกใช้ได้อย่างสะดวกสบายเลยครับ

หน้าจอIPS LCD 9 นิ้ว Full HD ระบบสัมผัส
เล่น CD/DVDไม่ได้
กำลังขับสูงสุด50 W x 4
พรีเอ้าท์3 (4V)
การเชื่อมต่อUSB, Bluetooth, Wi-Fi
รองรับไฟล์เสียงทุกรูปแบบ
รองรับไฟล์ภาพ/วีดีโอทุกรูปแบบ
รองรับแอพพลิเคชันทุกแอพพลิเคชันที่รองรับบน Play Store
ระบบปฏิบัติการAndroid 10


7. ยี่ห้อ Alpha Coustic รุ่น TS 9 Plus

ในยุคแรก ๆ ของเครื่องเสียงรถยนต์ Android ที่ยังใช้ซีพียูความเร็วต่ำ หน่วยความจำน้อย แบรนด์อย่าง Alpha Coustic ได้ออกจำหน่ายสินค้าที่ถูกอกถูกใจของผู้ใช้มาก ๆ ด้วยการใช้แนวเสียง การปรับตั้งค่าเสียงต่าง ๆ ได้หลากหลาย อีกทั้งยังออกแบบเมนูให้ใช้งานสะดวกสบาย ซึ่งบดบังการทำงานที่ชักช้าของตัวเครื่องไปได้ แต่ในปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีได้พัฒนามากขึ้น มีหรือที่แบรนด์นี้จะปล่อยให้ตัวเองเสียแชมป์ นี่คือเครื่องเสียงแอนดรอยด์รุ่นที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในปัจจุบันครับ

เครื่องเสียงติดรถยนต์ Alpha Coustic รุ่น TS 9 Plus มีหน้าจอขนาด 9 นิ้วแบบ IPS Full HD มาพร้อมซีพียู Octa-Core หน่วยความจำขนาด 6 GB ความจุเครื่อง 128 GB เพิ่มเติมจากแฟลชไดร์ฟได้ 64 GB และฮาร์ดดิสก์ภายนอกได้ถึง 1 TB เลยทีเดียว พื้นฐานของเครื่องทำงานบน Android 10 โหลดแอพพลิเคชันที่ต้องการใช้งานทุกอย่างบน Play Store ได้ รองรับทั้ง Apple Carplay, Android Auto มี GPS ในตัว เชื่อมต่อกล้องหลังได้ และมีช่องเสียบ USB ให้ 2 ช่อง จุดเด่นสำคัญที่เจ๋งมากคือ เครื่องรุ่นนี้ได้ฝังระบบ DSP มาให้แล้ว สามารถปรับจูนตำแหน่งของมิติเวทีเสียงได้ตามต้องการบนเมนูที่เข้าได้ได้ง่ายสุด ๆ อีกทั้งยังสามารถปรับ EQ พื้นฐานได้มากถึง 30 แบนด์ โดยไม่ต้องลงแอพพลิเคชันเพิ่มเติม เรียกได้ว่าซื้อมาติดตั้งก็ใช้งานได้ครบเลยรวมถึงแอพฯพื้นฐานด้านการดูหนังฟังเพลงก็มีมาให้เรียบร้อย ทั้งนี้ไฟล์ภาพและเสียงก็รองรับได้ทุกรูปแบบอยู่แล้ว ขอแนะนำว่าให้เก็บไว้พิจารณาในอันดับต้น ๆ ได้เลยครับ

หน้าจอIPS LCD 9 นิ้ว Full HD ระบบสัมผัส
เล่น CD/DVDไม่ได้
กำลังขับสูงสุด50 W x 4
พรีเอ้าท์3 (4V)
การเชื่อมต่อUSB, Bluetooth, Wi-Fi
รองรับไฟล์เสียงทุกรูปแบบ
รองรับไฟล์ภาพ/วีดีโอทุกรูปแบบ
รองรับแอพพลิเคชันทุกแอพพลิเคชันที่รองรับบน Play Store
ระบบปฏิบัติการAndroid 10

8. ยี่ห้อ SONY รุ่น XAV-AX8100

ยังมีผู้ใช้งานอีกมากมายทั่วโลกที่ยังชื่นชอบเครื่องเสียงรถยนต์แบบดั้งเดิม ที่ไม่ได้ทำงานบนพื้นฐานของซอฟต์แวร์ Android OS จะด้วยการออกแบบรูปทรงที่คล้ายกันหมด การประมวลผลเสียงที่ยังไม่โดนใจ หรือยังแคลงใจด้านความทนทาน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ทำให้เครื่องเสียงในรูปแบบดั้งเดิมยังขายดี มีรุ่นใหม่ออกมาให้เล่นอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาการที่มากขึ้นในทุกครั้งที่เปิดตัวซีรีส์ใหม่ สินค้าที่นำมาเสนอนี้ คือเครื่องเสียงรถยนต์ตัวท็อปภายใต้แบรนด์ดังอย่าง Sony ครับ

เครื่องเสียงติดรถยนต์ Sony รุ่น XAV-AX8100 เป็นเครื่องเสียงที่ติดตั้งในรูปแบบ 1DIN หรือ 2DIN ก็ได้ คือใช้ช่องเสียบติดตั้ง 1 ช่อง (แต่หน้าจอที่ออกมาจะกินพื้นที่ไป 2 ช่องโดยประมาณ) มีหน้าจอขนาด 8.95 นิ้ว TFT HD ระบบสัมผัส ออกแบบให้มีหน้าจอลอยตัว ทำให้สามารถปรับมุมเงย และขยับเลื่อนตำแหน่งขึ้นลงได้อิสระ ให้กำลังขับสูงถึง 55 W x 4 พรีเอ้าท์ 3 ชุด ต่อกล้องหลังได้ พร้อม USB 2 พอร์ต จุดที่น่าพิจารณามากคือตัวเครื่องมีช่อง HDMI in 1 ช่อง ให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์มีเดียขึ้นหน้าจอของเครื่องเสียงรุ่นนี้ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นเกม หรือกล่อง Media Box ต่าง ๆ ตัวเครื่องสามารถเล่นไฟล์เสียงความละเอียดสูงแบบ Hi-Res Audio ได้โดยตรง

อินเทอร์เฟสของ Sony UI ออกแบบให้ใช้งานได้สะดวกและง่ายมาก รองรับ Apple Carplay, Android Auto ได้ อีกทั้งยังเชื่อกับโทรศัพท์มือถือด้วย WebLink ได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงการยกระดับเวทีเสียง และจูน EQ ได้มากถึง 10 แบนด์ มีระบบขยายเสียง Dynamic Reality Amp 2 ที่โด่งดังของ Sony คุณภาพเสียงที่ได้ดีมากแน่นอน สำหรับสาวกอารยธรรมนี้ ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งครับ

หน้าจอTFT LCD 8.95 นิ้ว HD ระบบสัมผัส
เล่น CD/DVDไม่ได้
กำลังขับสูงสุด55 W x 4
พรีเอ้าท์3 (5V)
การเชื่อมต่อUSB, Bluetooth
รองรับไฟล์เสียงPCM, MP3, WMA, AAC, FLAC, WAV, M4A
รองรับไฟล์ภาพ/วีดีโอMPEG4-SP, AVC (H.264 Baseline), MP4, WMV, FLV, MKV, XviD
รองรับแอพพลิเคชันApple CarPlay, Android Auto, WebLink
ระบบปฏิบัติการSONY UI

9. ยี่ห้อ Alpine รุ่น iLX-W650E

เครื่องเสียงรถยนต์พื้นฐาน 2DIN ที่มีขนาดหน้าจอ 7 นิ้วนั้น ถึงแม้ว่าจะค่อย ๆ เสื่อมความนิยมลงไปจากการมาของเครื่องเสียง Android ที่มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า แต่สำหรับรถยนต์หลายรุ่นที่พื้นที่ติดตั้งไม่เอื้ออำนวย หรือไม่ต้องการเปลี่ยนหน้ากากคอนโซล ก็ทำให้เครื่องเสียงแบบ 2DIN ยังเป็นตัวเลือกที่มีความต้องการสูงอยู่ ซึ่งแบรนด์ชื่อดังอย่าง Alpine นั้นก็มีออกมาให้เลือกใช้อยู่หลายรุ่น สำหรับเครื่องเสียงรุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ในราคาที่จับจองได้ไม่ยาก แถมได้แบรนด์ชั้นนำระดับโลกด้วยครับ

เครื่องเสียงติดรถยนต์ Alpine รุ่น iLX-W650E มีหน้าจอขนาด 7 นิ้ว TFT HD ระบบสัมผัส มีตัวเครื่องด้านหลังที่บางเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับ 2DIN อื่น ๆ ระบายความร้อนได้ดี และไม่กดทับสายไฟด้านใน ให้กำลังขับที่ 40 W x 4 และพรีเอ้าท์ 3 ชุด สามารถเชื่อมแต่กล้องได้ 2 ตัว ทั้งหน้า/หลัง เล่นไฟล์มีเดียผ่าน USB ได้ 1 พอร์ต ทำงานบน Alpine GUI ที่ตอบสนองได้รวดเร็วมาก รองรับกับ Apple CarPlay, Android Auto ได้ จุดที่น่าพิจารณาคือเครื่องเสียงรุ่นนี้ นอกจากตัวเครื่องจะเน้นหนักที่คุณภาพของเนื้อเสียงที่ดีแล้ว ยังสามารถปรับจูนเสียงได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยโหมด Cross Over พร้อมกับ EQ 9 แบนด์ ระบบ Time Correction ที่ปรับแต่งได้ถึง 6 ช่องสัญญาณ และตั้งเซฟเม็มโมรีได้ถึง 3 ช่อง อีกทั้งยังสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri หรือ Google Assistant ได้อีกด้วย ครบเครื่องขนาดนี้เป็นใครก็ต้องเหลียวมองกันบ้างจริงไหมครับ

หน้าจอTFT LCD 7 นิ้ว HD ระบบสัมผัส
เล่น CD/DVDไม่ได้
กำลังขับสูงสุด40 W x 4
พรีเอ้าท์3 (4V)
การเชื่อมต่อUSB, Bluetooth
รองรับไฟล์เสียงMP3, WMA, AAC, FLAC, WAV
รองรับไฟล์ภาพ/วีดีโอMP4, AVI, WMV, MOV
รองรับแอพพลิเคชันApple CarPlay, Android Auto
ระบบปฏิบัติการAlpine GUI

10. ยี่ห้อ Kenwood รุ่น DDX8020S10

ถึงแม้ว่าตอนนี้ทาง Kenwood จะออกเครื่องเสียงมาแล้วทั้งหมด 9 ซีรีส์ แต่รุ่นนี้จะอยู่ในไลน์ของ ซีรีส์ 8 ซึ่งเมื่อมองถึงคุณสมบัติ และฟังก์ชันในการใช้งาน รวมไปถึงการรองรับแอพพลิเคชันที่จำเป็นในยุคปัจจุบันนั้น ถือว่ายังน่าสนใจ และยังเป็นที่นิยมอยู่ในปีนี้ เพราะราคาค่าตัวจะต่ำกว่าซีรีส์ 9 อยู่มาก เมื่อแลกกับสิ่งที่ได้มา ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคา กับเครื่องเสียงมาตรฐาน 2DIN ที่เล่นแผ่นได้ตัวนี้ครับ

เครื่องเสียงรถยนต์ Kenwood รุ่น DDX8020S มีหน้าจอขนาด 7 นิ้วแบบ TFT HD ระบบสัมผัส ให้กำลังขับ 50 W x 4 และพรีเอ้าท์ 3 ชุด สามารถเชื่อมต่อกล้องได้ 3 ตัว รองรับกล้องแบบ 360 องศา ที่ควบคุมผ่านหน้าจอได้เลย สิ่งที่พิเศษที่ต้องกล่าวถึงคือ ฟังก์ชัน Kenwood Music MIX สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อเล่นเพลงผ่าน Bluetooth ได้พร้อมกันถึง 5 เครื่อง และยังเชื่อมโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้งานผ่าน Bluetooth ได้พร้อมกันถึง 2 เครื่องเลยทีเดียว มีฟังก์ชันปรับ EQ ได้ 13 แบนด์ และมีระบบหน่วงระยะเสียง Digital Time Alignment ตัวเครื่องรองรับการเล่นไฟล์เพลงความละเอียดสูง Hi-Res Audio ได้ในทันที ที่สำคัญเลยก็คือ เครื่องเสียงรุ่นนี้สามารถเล่นแผ่น CD และ DVD ได้อีกด้วยครับ และที่พลาดไม่ได้คือฟังก์ชันการแคสมือถือขึ้นจอด้วยแอพพลิเคชัน Mirroring for KENWOOD แบบ USB Mirroring ไม่น่าแปลกใจเลยที่เครื่องเสียงติดรถยนต์รุ่นนี้ จะเป็นรุ่นที่ขายดีและน่าจับจองเป็นเจ้าของมากครับ

หน้าจอTFT LCD 6.95 นิ้ว HD ระบบสัมผัส
เล่น CD/DVDได้
กำลังขับสูงสุด50 W x 4
พรีเอ้าท์3 (5V)
การเชื่อมต่อUSB, Bluetooth
รองรับไฟล์เสียงMP3, WMA, AAC, WAV, FLAC, VORBIS
รองรับไฟล์ภาพ/วีดีโอMPEG1, MPEG2, MPEG4, WMV, H.264, MKV
รองรับแอพพลิเคชันApple CarPlay, Android Auto
ระบบปฏิบัติการKenwood UI


อ่านกันมาถึงตรงนี้คงจะได้คำตอบสำหรับ เครื่องเสียงรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี กันแล้วแน่เลย ก่อนซื้ออย่าลืมตรวจสอบว่าในรถของเรา มีพื้นที่สามารถใส่ขนาดไหนได้บ้าง สามารถใส่ 1 din หรือ 2 din ได้ด้วย นอกจะเครื่องเสียงควรจะต้องทันสมัยแล้ว ลำโพงที่ดี ก็มีส่วนช่วยให้อรรถรสในการฟังเพลงของเราดีขึ้นด้วยครับ ก็อาจจะต้องจัดลำโพงกันอีกสักชุด สุดท้ายนี้ก็ขอให้เลือกได้เครื่องเสียงรถยนต์ที่ถูกใจ ใช้งานไม่มีปัญหากันนะครับ

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x