การทำงาน และความบันเทิงทุกวันนี้แท็บเล็ตแอนดรอยด์ ถือว่าตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีความยาวของจอภาพที่เหมาะสำหรับการดูหนังมากกว่าไอแพด พื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่กว่าแต่ราคาไม่แพง หลายรุ่นสามารถใส่ Micro SD การ์ดเพิ่มที่เก็บข้อมูลได้ (แต่แอปอาจจะใส่ใน MicroSD ไม่ได้) ราคาก็ย่อมเยาเริ่มต้นที่ 5,000 (แต่สเปคก็อาจจะตามราคานะ) ที่สำคัญคนที่เคยชินกับระบบ Android มากกว่า ก็เลยกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้หลาย ๆ คน เลือกใช้งานกัน แล้วเราจะเลือกซื้อแท็บเล็ตแอนดรอยด์ยี่ห้อไหนดี ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับหลายยี่ห้อที่น่าสนใจ พร้อมเทคนิควิธีการเลือกซื้อแท็บเล็ตแอนดรอยด์ ใครพร้อมแล้วอินโทรมาเอ้ยไม่ใช่แล้ว ไปอ่านต่อข้างล่างกันได้เลยครับ
สารบัญ
วิธีการเลือกซื้อแท็บเล็ตแอนดรอยด์
SoC (System on a Chip) การออกแบบชิปประมวลผลตั้งแต่วงการสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไปจนถึง MacBook ที่ใช้ชิปใหม่ ๆ อย่าง M1 นั้น มักจะรวมทุกอย่างเข้ามาตั้งแต่ หน่วยประมวล CPU, GPU, Modem, Wi-Fi และอื่น ๆ (ไม่เหมือนคอมพิวเตอร์ PC ที่ชิปเหล่านี้แยกออกจากกัน สามารถเปลี่ยนผสมต่างยี่ห้อกันได้หมด) ช่วยทำให้มีข้อดีในเรื่อง ขนาด, ราคา, การใช้พลังงานลดลง และมีความร้อนน้อยลง ดังนั้นเพียงแค่เราสังเกตชื่อ CPU (หลายรุ่นเรียกชื่อ CPU แทน SoC) ให้ดี ชิป GPU Modem Wi-Fi จะรวมร่างกันมาเป็น SoC แล้ว ไม่ต้องไปดูชิปอุปกรณ์อื่น ๆ เหมือนเวลาเราซื้อคอม PC ที่สำคัญชื่อชิปนั้นเราต้องใช้เพื่อเปรียบเทียบใน Benchmark App ที่จะอธิบายในข้อต่อไปครับ
Benchmark App เป็นแอปทดสอบความเร็ว CPU, GPU, RAM, Storage, Modem, Wi-Fi และอื่น ๆ สามารถช่วยเราในการพิจารณาความเร็วได้ดีมาก ชิปต่าง ๆ ออกใหม่ตลอดเวลา จับตลาด บน กลาง ล่าง ยังไม่พอ มีซอยรุ่นย่อยแยก กลางบน กลางล่าง ออกมาให้ชวนปวดหัวจนจำได้ยากอีก แล้วชิประดับกลางเมื่อ 3 ปีที่แล้วก็อาจจะกลายเป็นระดับล่างของปีนี้ได้ ทำให้การเปรียบเทียบนั้น ยิ่งทำได้ยากสุด ๆ ก็อาศัยแอป Benchmark มาช่วยวัดความเร็วกันนี่ละ แอปที่นิยมในฝั่งมือถือและแท็บเล็ต Android สำหรับวัดความเร็ว CPU / GPU / RAM ได้แก่ Antutu (มีตัวอย่างคะแนนในช่องสีเทา), 3D Mark, Geekbench
SnapDragon 865 - Antutu 648129 >> ใช้ใน Huawei MatePad 11 SnapDragon 860 - Antutu 564604 >> ใช้ใน Xiaomi Pad 5 Helio G95 - Antutu 336924 >> ใช้ใน CHUWI HiPad Pro Helio G90T - Antutu 329108 >> ใช้ใน Lenovo Tab P11 Plus Helio G80 - Antutu 230017 >> ใช้ใน Realme Pad Exynos 9611 - Antutu 228280 >> ใช้ใน Samsung Galaxy Tab S6 Lite LTE + ปากกา Tiger T618 - Antutu 192642 >> ใช้ใน Samsung Galaxy Tab A8 LTE, Nokia T20, Alldocube iPlay 40 Pro, Teclast M40 Pro
ส่วน Storage(ROM) หรือหน่วยความจำของตัวเครื่อง ก็มี Androbench เป็น App ที่ใช้ทดสอบความเร็วของ Storage ส่วนทางด้าน Modem กับ Wi-Fi อาจจะมีหลายแอปมากจนมึน ปัจจัยที่ส่งผลต่อสัญญาณก็มีมาก และหลายคนคงไม่ได้ซีเรียสกับจุดนี้ อาจจะใช้แค่ซิมโปรอันลิมิต 20 Mbps ที่ไม่ได้ใช้ความเร็วสูงสุดของเทคโนโลยี 3G ด้วยซ้ำ (42 Mbps) นี่ยุค 5G เค้าไป 1000 Mbps กันแล้วนะ เราแนะนำแอปง่าย ๆ อย่าง Speed Test จาก Ookla (ผู้จัดอันดับความเร็วอินเทอร์เน็ต แล้วค่ายมือถือก็เอาข้อมูลนี้ ไปทำป้ายโฆษณาโปรโมทตามสี่แยกที่เราเห็นกันทุกวัน) ไปใช้งานกันดีกว่า ใครมั่นใจว่าใช้ซิมเร็ว แท็บเล็ตและมือถือใช้ชิป SoC รุ่นใหม่แรง ๆ ที่มี Modem ไว Wi-Fi ดี ก็อาจจะเห็นตัวเลขระดับเข้าใกล้ 1000 Mbps ได้ครับ
Website ที่รวบรวม Benchmark หลาย ๆ รุ่น อันนี้จะต่อจากข้อที่แล้ว ใครจะมาบ้าเทสต์ด้วย Benchmark App กัน แค่ตามดูรีวิวยังเหนื่อย ดังนั้นผมขอเสนอเว็บไซต์ที่รวบรวม Benchmark ของแต่ละรุ่นที่มีคนทดสอบไว้อย่าง nanoreview.net, versus.com, cpubenchmark.net และอื่น ๆ ก็ช่วยให้การเปรียบเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ง่ายขึ้นเยอะ หรือจะพิมพ์ ชื่อ “CPU เครื่องแรก ตามด้วย VS และ ชื่อ CPU เครื่องที่สอง” ลงใน Google ก็จะโผล่มาให้เลือกอ่านตามรูปด้านล่างเลยครับ
รู้จักชื่อ SoC และ Benchmark อย่าเชื่อ Benchmark เหล่านี้มากจนเกินไป หลาย ๆ ครั้ง มีประเด็นเรื่องโกง Software บนมือถือ ทำให้ Benchmark ทำงานได้เร็วผิดปกติเพื่อเคลมตัวเลขมาขิงกัน แต่เวลาใช้งานจริงดันช้า มีความร้อนสะสมมากจนระบายไม่ทัน หรืออาจจะลดความเร็ว ลดการใช้พลังงานเพื่อช่วยประหยัดแบต ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เราแนะนำให้ไว้ใช้ดู SoC คร่าว ๆ ว่าจัดอยู่คลาสไหน เร็วประมาณไหนก็พอ อย่าลืมว่าแท็บเล็ตเครื่องหนึ่งไม่ได้มีแค่สเปค SoC ยังมีปากกา จอภาพ ขนาดแบตเตอรี่ การรับประกัน และส่วนอื่น ๆ ที่แตกต่างกันให้พิจารณาอีกด้วยครับ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว แท็บเล็ต แอนดรอยด์ ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาอ่าน อยากดูแท็บเล็ตแอนดรอยด์แบบสั้น ๆ วางเรียงเปรียบเทียบ ราคา, ขนาดหน้าจอ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, พื้นที่เก็บข้อมูล และอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลย หรือถ้าอยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็เลื่อนผ่านปุ่มสีแดง ไปดูรีวิวสินค้าต่อเลยครับ
1. Samsung รุ่น Galaxy Tab A8 LTE
ราคาโดยประมาณ 10,990 บาท
แท็บเล็ตพีซีจากแบรนด์ยอดนิยม Sansung ที่มักจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการแท็บเล็ตไว้ใช้สักเครื่อง Samsung Galaxy Tab A8 LTE เป็นรุ่นที่เหมาะสมกับงานจิปาถะทั่วไป ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ระดับ 10.5 นิ้ว ให้คุณอ่านเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนัง หรือฟังเพลงได้อย่างสะดวกสบาย ดีไซน์ทันสมัยด้วยวัสดุอะลูมิเนียม และมีความบางเพียง 6.9 มม. เท่านั้น แต่กับน้ำหนัก 508 กรัม อาจไม่เหมาะกับการถือใช้งานตลอดเวลา แต่ก็สามารถวางหรือประคองไว้ได้อย่างไม่ลำบากครับ
แท็บเล็ตพีซีรุ่นนี้ใช้ขุมพลังประมวลผล UniSOC Tiger T618 Octa-Core เพียงพอสำหรับการทำงานพื้นฐานในปัจจุบัน ใส่ SIM ได้ มาพร้อมกับหน่วยความจำ 4 GB และความจุ 64 GB อาจจะดูว่าให้พื้นที่ความจุมาน้อยไปนิด แต่สามารถเพิ่มด้วย MicroSD ได้สูงสุดถึง 1 TB ซึ่งตอนนี้ราคา MicroSD ก็ลดลงอยู่เรื่อย ๆ เลือกขนาดความจุได้ตามกำลังทรัพย์เลย (แนะนำให้เลือกรุ่นที่เขียนทับได้หลายครั้งและเร็วพอประมาณด้วย) หน้าจอมีความละเอียดระดับ 1920×1200 (WUXGA) แบบ TFT LCD จุดที่น่าพิจารณาคือระบบเสียงสมบูรณ์แบบด้วยลำโพง 4 ตัว ผสานระบบเสียงรอบทิศทางมาตรฐาน Dolby Atmos ให้คุณสนุกไปกับความบันเทิงบนแท็บเล็ตพีซีรุ่นนี้ได้อย่างไม่รู้เบื่อครับ
ยี่ห้อ / รุ่น | Samsung Galaxy Tab รุ่น A8 LTE |
ขนาดหน้าจอ | 10.5 นิ้ว แบบ TFT LCD |
ความละเอียด | 1920 x 1200 (WUXGA) 60 Hz |
ชิปประมวลผล | UniSOC Tiger T618 Octa-Core |
ชิปกราฟิก | Mali-G52 MP2 |
หน่วยความจำ | 4 GB |
ความจุ | 64 GB |
กล้องหน้า / หลัง | 5 MP / 8 MP |
แบตเตอรี | 7040 mAh |
น้ำหนัก | 508 g |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi (802.11 a/b/g/n/ac), Wi-Fi Direct, BT 5.0, LTE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 |
2. Huawei รุ่น MatePad 11
ราคาโดยประมาณ 15,990 บาท
ถ้าถามหาความคุ้มค่าของแท็บเล็ตในปัจจุบัน Huawei ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มอบความคุ้มค่าคุ้มราคาให้คุณได้เป็นอย่างดี เพราะมีเท่าไหร่ก็ใส่มาให้หมดเลยไม่มีกั๊ก คุณภาพสินค้าก็ทำออกมาได้ดี ใช้งานได้ทนทาน ดีเกินราคา และถึงแม้ว่าระบบปฏิบัติการจะไม่ใช่ Android แต่ก็ได้สิ่งที่เทียบเท่าอย่าง HarmonyOS 2 มาแทน ถึงแม้จะมีเสียงบ่นจากผู้ใช้งานในเรื่องการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นบ้าง แต่แอปพลิเคชั่นหลัก ๆ ก็มีให้ใช้งานได้เกือบหมด ต่างจากช่วงแรก ๆ มาก และก็จะมีเพิ่มเติมมาเรื่อย ๆ ในอนาคตด้วยครับ
แท็บเล็ตพีซี Huawei รุ่น MatePad 11 เป็นแท็บเล็ตหน้าจอขนาดใหญ่ 10.95 นิ้ว ที่ความละเอียดสูงมาก 2560 x 1600 (WQXGA) พร้อมด้วยระดับรีเฟรชเรทที่น่าประทับใจถึง 120 Hz ให้ภาพคมกริบแบบนิ่ง ๆ และมีสีสันสมจริง จะดูหนัง ฟังเพลง ทำงานกราฟิก หรือเล่นเกมก็ทำได้ดีเลยไม่ต้องกังวล ด้วยพลังชิปประมวลผลที่เร็วแรงอย่าง Snapdragon 865 Octa-Core พร้อมกับหน่วยความจำ 6 GB และความจุ 128 GB เต็มอิ่มแทบไม่ต้องเพิ่มเติม แถมยังสามารถเพิ่ม MicroSD ได้อีก 1 TB มีปากกา Huawei M-Pencil มาให้ใช้งาน ที่สำคัญ ระบบเสียงก็ไม่เป็นรองใคร ด้วยระบบรอบทิศทาง Histen 7.0 กับลำโพง 4 ตัวแบบ Quad-Channel ปรับคุณภาพเสียงโดย Harman Kardon เป็นแท็บเล็ตที่น่าใส่ไว้เป็นตัวเลือกแรก ๆ ครับ
ยี่ห้อ / รุ่น | Huawei รุ่น MatePad 11 |
ขนาดหน้าจอ | 10.95 นิ้ว IPS LCD |
ความละเอียด | 2560 x 1600 (WQXGA) 120 Hz |
ชิปประมวลผล | Snapdragon 865 Octa-Core |
ชิปกราฟิก | Adreno 650 |
หน่วยความจำ | 6 GB |
ความจุ | 128 GB |
กล้องหน้า / หลัง | 8 MP / 13 MP |
แบตเตอรี | 7250 mAh |
น้ำหนัก | 485 g |
การเชื่อมต่อ | WiFi 6, 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2 x 2 MIMO, BT 5.1 |
ระบบปฏิบัติการ | HarmonyOS 2 |
3. Samsung รุ่น Galaxy Tab S6 Lite LTE
ราคาโดยประมาณ 12,990 บาท
อีกหนึ่งรุ่นของแบรนด์ Samsung ที่เป็นที่นิยมอย่างมากในบ้านเรา จริง ๆ ถ้ามาจากแบรนด์นี้ก็นิยมทุกรุ่นนั่นแหละ ยิ่งโดยเฉพาะรุ่นนี้ ที่ค่อนข้างเหมาะกับนักเรียนนักศึกษา เพราะมาพร้อมกับปากกา S Pen ตัวใหม่ ตอบสนองการเขียนได้ดีขึ้นกว่าเดิม และขนาดหน้าจอที่ใหญ่ 10.4 นิ้ว ก็เหมาะสมกับการอ่านหรือวาดเขียนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งบอดี้มีสีให้เลือกถึง 3 สี และมีเคสสวย ๆ ให้ซื้อใส่เพิ่มอีกไม่หวาดไม่ไหว ที่สำคัญ แท็บเล็ตรุ่นนี้ใส่ SIM ได้ด้วย กับราคาหมื่นต้น ๆ ก็ถือว่าน่าสนใจอยู่มิใช่น้อย
แท็บเล็ตพีซี Samsung รุ่น Galaxy Tab S6 Lite (LTE) มีหน้าจอ TFT LCD ให้ความละเอียดสูงถึง 2000×1200 (WUXGA+) มาพร้อมขุมพลัง Exynos 9611 บอกเลยว่าไม่เหมาะกับการเล่นเกม แต่ถ้าใช้งานทั่วไปสเปคไม่สูงมาก เอาอยู่แน่นอน ใส่หน่วยความจำมาให้ 4 GB และความจุ 64 GB เพิ่มเติมได้ด้วย MicroSD สูงสุดถึง 1TB จุดที่น่าเสียดายนิดนึงคือได้ลำโพงมาแค่ 2 ตัว แต่รองรับมาตรฐานของเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos ซึ่งปรับแต่งโดย AKG ที่โด่งดังด้านลำโพงอยู่แล้ว จะดูหนังหรือฟังเพลงก็สบาย ๆ กล้องหน้าให้มา 5 MP และกล้องหลัง 8 MP คุณภาพดีตามชื่อชั้นของแบรนด์ การเชื่อมต่อก็ให้มาอย่างครบครัน ถ้าไม่ได้ใช้งานหนักหน่วงอะไรมาก ต้องการปากกา รุ่นนี้ก็น่าเลือกซื้อครับ
ยี่ห้อ / รุ่น | Samsung รุ่น Galaxy Tab S6 Lite LTE + ปากกา S Pen |
ขนาดหน้าจอ | 10.4 นิ้ว TFT LCD |
ความละเอียด | 2000 x 1200 (WUXGA+) 60 Hz |
ชิปประมวลผล | Exynos 9611 Octa-Core |
ชิปกราฟิก | Mali-G72 MP3 |
หน่วยความจำ | 4 GB |
ความจุ | 64 GB |
กล้องหน้า / หลัง | 5 MP / 8 MP |
แบตเตอรี | 7040 mAh |
น้ำหนัก | 467 g |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi (802.11 a/b/g/n/ac), Wi-Fi Direct, BT 5.0, VHT80 MIMI, LTE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 10 |
4. Nokia รุ่น T20
ราคาโดยประมาณ 8,590 บาท
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่า Nokia ที่เพลา ๆ มือจากตลาดสมาร์ทโฟนไป จะลงมาเล่นในตลาดแท็บเล็ตที่มีคู่แข่งมากหน้าหลายตาและมีเจ้าตลาดที่แข็งแกร่งอยู่หลายแบรนด์ แต่จากกระแสตอบรับที่ออกมาตอนเปิดตัวและหลังวางจำหน่าย ก็ทำได้อย่างน่ายินดี สำหรับ Nokia รุ่น T20 ใช้บอดี้เป็นวัสดุอะลูมิเนียมพ่นทราย มีสีให้เลือกเพียงสีเดียวเท่านั้น แต่ในออนไลน์ตอนนี้ก็มีเคสสวย ๆ ออกมาให้เลือกซื้อกันหลากสี ใครชอบแบบไหนก็จัดกันไป ซึ่งถ้าดูราคาตัวเครื่องที่ไม่ถึงหมื่น และดูสเปคที่ให้มาแล้ว บอกเลยว่าใคร ๆ ก็อยากได้ครับ
แท็บเล็ตรุ่นนี้ มีหน้าจอขนาดใหญ่ 10.4 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 2000 x 1200 (WUXGA) รีเฟรชเรทที่ 60 Hz ซึ่งเป็นหน้าจอ IPS LCD ทับด้วยกระจกนิรภัยเทมเปอร์ (ของแถมอาจจะมีฟิล์มกระจกมาให้อีกด้วย) สำหรับซีพียูนั้นจัดมาให้เป็น UniSOC Tiger T618 Octa-Core ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ชิปกราฟิก Mali-G52 MP2 ดูจะน้อยไปนิด หน่วยความจำ 4 GB ความจุอีก 64 GB เพิ่มเติมได้ด้วย MicroSD สูงสุดที่ 512 GB ใช้ทำงานปกติได้อย่างไม่สะดุด ถ้าจะเล่นเกมก็เล่นแบบเบา ๆ ได้ แท็บเล็ตรุ่นนี้ไม่มีปากกามาให้ แต่แบตเตอรี่ชนะเลิศ 8200 mAh และลำโพงคู่ พร้อมแอมป์ขยายเสียง ผสานเทคโนโลยีการถ่ายทอดรายละเอียดเสียงแบบครบทุกมิติ OZO Playback ของ Nokia เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาครับ
ยี่ห้อ / รุ่น | Nokia รุ่น T20 |
ขนาดหน้าจอ | 10.4 นิ้ว IPS LCD |
ความละเอียด | 2000 x 1200 (WUXGA) 60 Hz |
ชิปประมวลผล | UniSOC Tiger T618 Octa-Core |
ชิปกราฟิก | Mali-G52 MP2 |
หน่วยความจำ | 4 GB |
ความจุ | 64 GB |
กล้องหน้า / หลัง | 5 MP / 8 MP |
แบตเตอรี | 8200 mAh |
น้ำหนัก | 465 g |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi (802.11 a/b/g/n/ac), BT 5.0, LTE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 |
5. Alldocube รุ่น iPlay 40 Pro
ราคาโดยประมาณ 7,699 บาท
แท็บเล็ตพีซีจากแบรนด์จีน ไม่ใช่ไก่กาอาราเร่เหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป เพราะผู้ใช้ในบ้านเรามากมายต่างยอมรับกันว่า บางแบรนด์ตอนนี้สามารถเทียบเคียงแบรนด์ใหญ่ได้เลย หนึ่งในนั้นคือ Alldocube ที่กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วเคยสร้างความผิดหวังมาก่อน แต่ได้กลับไปทำการบ้านมาใหม่ ออกแบบดีขึ้น วัสดุดีขึ้น ระบบดีขึ้น ที่สำคัญ QC ก็ถือว่าเทียบเคียงมาตรฐานแท็บเล็ตแบรนด์ดังทั่วไปได้แล้ว นี่คือ Alldocube รุ่น iPlay 40 Pro
แท็บเล็ตรุ่นนี้จะเรียกได้ว่าเป็นสเปคดีเกินราคาเลย เพราะหน้าจอมีขนาด 10.4 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด 2000 x 1200 ให้ภาพคมชัดใสวิ๊ง ตอบสนองการทำงานพื้นฐานได้ดี ขับเคลื่อนด้วยซีพียู UniSOC Tiger T618 Octa-Core ชิปกราฟิก Mali-G52 3EE ที่เพียงพอสำหรับการเล่นเกมเบา ๆ ให้หน่วยความจำ RAM มาแบบจุก ๆ 8 GB และความจุที่เก็บข้อมูลสูงถึง 256 GB เลยทีเดียว แค่นั้นยังไม่พอ สามารถเพิ่มด้วย MicroSD ได้อีก 2 TB (จะเยอะไปไหน) ระบบเสียงลำโพงรอบด้าน 4 ตัวพร้อมชิปเสียง Awinic Smart รองรับการใช้งานแบบเอ็นเตอร์เทนเมนท์สมบูรณ์แบบโดยเฉพาะ ดูหนัง ฟังเพลง หรือทำงานต่าง ๆ ได้อย่างดี ที่สำคัญ ทั้งหมดทั้งมวลนี้กับราคาไม่ถึง 8 พันบาท คุ้มค่าเหมาะสำหรับคนที่ต้องการที่เก็บข้อมูลหรือลงแอปเยอะ ๆ ครับ
ยี่ห้อ / รุ่น | Alldocube รุ่น iPlay 40 Pro |
ขนาดหน้าจอ | 10.4 นิ้ว IPS LCD |
ความละเอียด | 2000 x 1200 (WUXGA) (ไม่ระบุรีเฟรชเรท) |
ชิปประมวลผล | UniSOC Tiger T618 Octa-Core |
ชิปกราฟิก | Mali-G52 3EE |
หน่วยความจำ | 8 GB |
ความจุ | 256 GB |
กล้องหน้า / หลัง | 5 MP / 8 MP |
แบตเตอรี | 6200 mAh |
น้ำหนัก | 475 g |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi (802.11 a/b/g/n/ac), Wi-Fi Direct, Wi-Fi Display, BT 5.0, LTE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 |
6. Xiaomi รุ่น Pad 5
ราคาโดยประมาณ 12,990 บาท
แน่นอนว่าแบรนด์นี้ มีสินค้าแทบจะทุกชนิดออกมาให้เราได้ใช้กัน จุดขายคือของดีมีคุณภาพ ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย คราวนี้ก็ถึงตาของแท็บเล็ต Xiaomi กันบ้าง จัดสเปคและเคาะราคาออกมาได้ว้าวมากจริง ๆ โดยรุ่นที่เราจะแนะนำกันเป็น Xiaomi Pad 5 ร้านค้าในไทยอาจจะใช้ชื่อ Mi Pad 5 แทน ตัวเครื่องสามารถเชื่อมต่อออปชั่นคีย์บอร์ด และใช้งานปากกาได้ เหมือนแบรนด์เจ้าตลาดกันเลยทีเดียว แล้วก็ไม่มีปัญหาเรื่อง Play Store เหมือนทาง Huawei เลยทำให้ส่วนตัวเทใจให้ Xiaomi มากกว่า ขนาดหน้าจอก็ใหญ่บิ๊กเบิ้ม 11 นิ้ว ที่ความละเอียดระดับ 2.5 K รองรับมาตรฐาน Dolby Vision อีกด้วย ถึงกับอุทานโอ้โหเลยครับ
แท็บเล็ต Xiaomi Pad 5 มีความละเอียดหน้าจอ 2560 x 1600 (WQHD+) แบบ IPS LCD ให้ภาพชัดตาแตก และดูสมูทนิ่งกริ๊บด้วยรีเฟรชเรทที่ 120 Hz ตัวเครื่องออกแบบได้หรูหรามาก ขุมพลังซีพียูเร็วแรงด้วย Snapdragon 860 ผสานความแรงของกราฟิกชิป Adreno 640 ก็เล่นเกมทุกเกมได้อย่างไม่กระตุกแล้ว (แค่เมื่อยมือนิดหน่อยเพราะจอใหญ่เล่นเพลิน) กล้องให้มาแบบจัดเต็มเช่นกัน กล้องหน้าความละเอียด 8 MP และกล้องหลังที่ 13 MP ระบบเสียงก็ไม่เป็นสองรองใคร เพราะให้ลำโพงมาถึง 4 ตัวรอบทิศทาง แถมรองรับมาตรฐานเสียง Dolby Atmos อีก การเชื่อมต่อก็ให้มาครบครัน และแบตเตอรี่อึด ๆ ที่ 8720 mAh ทั้งหมดนี้ให้คุณเป็นเจ้าของได้ในราคาหมื่นนิด ๆ เท่านั้นเอง ช่วงราคาไม่เกิน 13,000 ถือว่าดีที่สุดแล้วครับ
เวลาซื้อลองดูให้ดีว่ารับประกันโดยศูนย์ในไทยด้วยหรือเปล่า และยังมีอีกรุ่นที่ชื่อคล้ายกันอย่าง Xiaomi Pad 5 Pro ที่ตอนนี้มีแค่ประกันศูนย์จีนหรือร้านรับหิ้วเท่านั้น ไม่สามารถเข้าศูนย์ซ่อมที่ไทยได้ รวมทั้งอาจจะมีปัญหาเรื่อง Play Store อีกด้วย ระวังอย่าสับสนกับ Xiaomi Pad 5 หรือ Mi Pad 5 ในไทยนะครับ
ยี่ห้อ / รุ่น | Xiaomi รุ่น Pad 5 |
ขนาดหน้าจอ | 11 นิ้ว IPS LCD |
ความละเอียด | 2560 x 1600 (WQHD+) 120 Hz |
ชิปประมวลผล | Snapdragon 860 Octa-Core |
ชิปกราฟิก | Adreno 640 |
หน่วยความจำ | 6 GB |
ความจุ | 256 GB |
กล้องหน้า / หลัง | 8 MP / 13 MP |
แบตเตอรี | 8720 mAh |
น้ำหนัก | 511 g |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.0 |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 |
7. Realme รุ่น Pad
ราคาโดยประมาณ 11,990 บาท
แบรนด์น้องใหม่ ที่โด่งดังมาจากการทำตลาดสมาร์ทโฟน ที่เปิดตัวมาแบบของดีราคาถูก และยิ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นแบรนด์ทีมเก่าของ Oppo ก็ยิ่งขายดีเข้าไปอีก เพราะความเชื่อใจในแบรนด์ และคุณภาพสินค้าก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แท็บเล็ตรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของแบรนด์ ออกมาสำหรับสาวกของแบรนด์นี้โดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อเทียบประสิทธิภาพ กับความคุ้มราคาแล้ว ก็ถือว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับแบรนด์อื่น ๆ ได้เช่นกัน นี่คือ Realme รุ่น Pad แท็บเล็ตคุณภาพ ราคาเบา ๆ ครับ
แท็บเล็ตพีซีรุ่นนี้มีขนาดหน้าจอ 10.4 นิ้ว ความละเอียด 2000 x 1200 (WUXGA+) รีเฟรชเรทที่ 60 Hz ใช้พาแนลแบบ IPS LCD บอดี้เลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียมทั้งหมด ดูแข็งแกร่งทนทาน ซีพียูที่ให้มาเป็น MediaTek Helio G80 Octa-Core กราฟิกชิป Mali-G52 MC2 ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ตัวแรงอะไร แต่ก็สามารถเล่นเกมทั่วไปได้อยู่ ถ้าปรับระดับกราฟิกที่ไม่สูง ก็ถือว่าเล่นได้ดี (ถ้าเล่นเกมสเปคโหด หนีไป Xiaomi Pad 5 ดีกว่า เร็วกว่าเยอะมาก) รุ่นนี้ให้หน่วยความจำมาที่ 6 GB และความจุ 128 GB เพิ่มเติมด้วย MicroSD ได้เช่นกัน สามารถใส่ SIM ได้ กล้องหน้า / หลัง ให้ความละเอียดมาตัวละ 8MP เท่ากันเป๊ะ และที่ขาดไม่ได้กับแท็บเล็ตรุ่นใหม่ คือลำโพง 4 ตัวรอบทิศทาง พร้อมเทคโนโลยีระบบเสียง Dolby Atmos เท่านี้ก็ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการทำงานและพักผ่อนบนหน้าจอได้แล้วครับ
ยี่ห้อ / รุ่น | Realme รุ่น Pad |
ขนาดหน้าจอ | 10.4 นิ้ว IPS LCD |
ความละเอียด | 2000 x 1200 (WUXGA+) 60 Hz |
ชิปประมวลผล | MediaTek Helio G80 Octa-Core |
ชิปกราฟิก | Mali-G52 MC2 |
หน่วยความจำ | 6 GB |
ความจุ | 128 GB |
กล้องหน้า / หลัง | 8 MP / 8 MP |
แบตเตอรี | 7100 mAh |
น้ำหนัก | 440 g |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.0, LTE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 |
8. Lenovo รุ่น Tab P11 Plus
ราคาโดยประมาณ 14,990 บาท
ด้วยชื่อเสียงของแบรนด์ที่สั่งสมมาตลอดของทางฝั่งพีซี และโน้ตบุ๊ก แบรนด์ Lenovo ก็ได้ไม่ได้รีรอ ออกแท็บเล็ตรุ่นต่าง ๆ ออกมาให้เลือกซื้อกันทุกระดับราคา และสำหรับรุ่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ทั้งจากสเปคที่จัดมาให้ทำงานแบบลื่น ๆ แล้ว ยังให้ออปชันมาแบบชุดใหญ่ไฟกะพริบที่แบรนด์อื่นต้องมองค้อน ไม่ว่าจะเป็นเคสหลังแม่เหล็กแบบตั้งจอได้, ปากกา Active Pen และสมาร์ทคีย์บอร์ด จะใช้เรียนก็ดี ใช้ทำงานก็ได้ ยกมาเสิร์ฟกันชามใหญ่ขนาดนี้ มีหรือจะไม่รับไว้พิจารณาจริงไหมครับ
แท็บเล็ต Lenovo รุ่น Tab P11 Plus ที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีระบุว่า LTE ต่อท้าย แต่สามารถใส่ SIM ได้ด้วย (เอาไว้เชื่อมสัญญาณอินเตอร์เน็ตอย่างเดียว ใช้โทรไม่ได้นะ) ตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 11 นิ้วตามชื่อรุ่น พาแนลแบบ IPS LCD ความละเอียด 2000 x 1200 (WUXGA+) แสดงสีแบบ sRGB 100% สีสวยมาก รีเฟรชเรทให้มาที่ 60 Hz ซีพียูจัดมาให้เป็น Mediatek Helio G90T Octa-Core และชิปกราฟิก Mali-G76 MC4 ที่ค่อนข้างเร็ว ถ้าใช้งานดูหนังฟังเพลง เรียน หรืองานออฟฟิศก็ถือว่าเหลือเฟือ แต่ถ้าเล่นเกมอาจจะต้องปรับความละเอียดลงหน่อยก็จะเล่นได้แบบไม่สะดุด (Xiaomi Pad 5 เร็วกว่าพอสมควร) ส่วนหน่วยความจำ 4 GB และความจุ 128 GB เพิ่มเติมได้ด้วย MicroSD ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ
ยี่ห้อ / รุ่น | LENOVO รุ่น Tab P11 Plus |
ขนาดหน้าจอ | 11 นิ้ว IPS LCD |
ความละเอียด | 2000 x 1200 (WUXGA+) 60 Hz |
ชิปประมวลผล | Mediatek Helio G90T Octa-Core |
ชิปกราฟิก | Mali-G76 MC4 |
หน่วยความจำ | 4 GB |
ความจุ | 128 GB |
กล้องหน้า / หลัง | 8 MP / 13 MP |
แบตเตอรี | 7700 mAh |
น้ำหนัก | 490 g |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 5.1, LTE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 |
9. Teclast รุ่น M40 Pro
ราคาโดยประมาณ 5,190 บาท
เป็นที่ฮือฮากันอยู่พักนึงเรื่องแท็บเล็ตสเปคดีราคาประหยัด ซึ่งเหลือบไปดูราคาแล้วก็ประหยัดจริง ๆ นั่นแหละ และสเปคตัวเครื่องก็ให้มาแบบจัดใหญ่พอตัวเลยกับแท็บเล็ตแบรนด์จีน Teclast ถึงแม้ว่าผู้ใช้ทั่วไปในบ้านเราอาจจะไม่คุ้นหูนัก แต่สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดแล้ว กลายเป็นว่าหลายต่อหลายคนต่างรู้จักแบรนด์นี้กันเป็นอย่างดี เพราะก่อนหน้านี้ก็มีแท็บเล็ตออกมาให้เลือกใช้กันหลายรุ่น สเปคก็น่าคบหากว่าพวกแบรนด์เจ้าตลาดในช่วงราคานี้ครับ
แท็บเล็ตพีซี Teclast รุ่น M40 Pro รุ่นนี้ ถ้าดูจากราคาค่าตัวเพียงครึ่งหมื่นแล้ว จะเรียกได้ว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นก็คงไม่ใช่ เพราะมีรุ่นราคาต่ำกว่านี้อีก (แต่สเปคก็ลดลงตามราคา) รุ่นนี้มีหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1200 (WUXGA) แบบ IPS LCD ตัวบอดี้ใช้วัสดุเป็นโลหะทั้งชิ้น โอ้วราคาแค่นี้ยังได้โลหะที่ดูหรูหรากว่าด้วย ให้ซีพียูมาเป็น UniSOC Tiger T618 Octa-Core และชิปกราฟิก Mali-G52 3EEE พร้อมหน่วยความจำขนาด 6 GB และความจุ 128 GB เพิ่มเติมได้ด้วย MicroSD อีก 128 GB เล่นเกมพื้นทั่วไปได้เลยนะ แต่ไม่แนะนำแต่การตอบสนองกับนิ้วอาจไม่ไวพอ สามารถใส่ SIM ได้ 2 ช่อง กล้องหน้าให้มา 5 MP กล้องหลัง 8 MP ระบบเสียงรอบทิศทางด้วยลำโพง 4 ตัวบนเทคโนโลยี Momentum II Sound System ให้สเปคมาขนาดนี้ ถึงกับต้องย้อนกลับไปดูราคาอีกทีเลยครับ
ยี่ห้อ / รุ่น | Teclast รุ่น M40 Pro |
ขนาดหน้าจอ | 10.1 นิ้ว IPS LCD |
ความละเอียด | 1920 x 1200 (WUXGA) 60 Hz |
ชิปประมวลผล | UniSOC Tiger T618 Octa-Core |
ชิปกราฟิก | Mali-G52 3EEE |
หน่วยความจำ | 6 GB |
ความจุ | 128 GB |
กล้องหน้า / หลัง | 5 MP / 8 MP |
แบตเตอรี | 7000 mAh |
น้ำหนัก | 550 g |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi (802.11 a/b/g/n/ac), dual-band, BT 5.0, LTE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 |
10. CHUWI รุ่น HiPad Pro
ราคาโดยประมาณ 9,999 บาท
มาอีกหนึ่งรุ่นกับแท็บเล็ตพีซีราคาประหยัด ถึงจะไม่ประหยัดจนต้องร้องว้าว แต่เทียบกับสเปคที่ได้มา ก็ยังถือว่าประหยัดมากอยู่ดี สำหรับแบรนด์จีนอย่าง CHUWI ที่ทำตลาดแท็บเล็ตราคาประหยัดมานาน (พ่อผมซื้อมาตัวที่ 2 แล้ว ทนกว่าที่คิด) ตอนนี้ก็ถึงเวลาอัปเกรดตัวเองกันบ้าง เพราะสามารถทำให้ผู้ใช้หลายคนหันมามองได้อย่างไม่ขัดเขิน ด้วยหน้าตาที่สวยงาม ออกแบบมาให้เป็นหนึ่งในอุปกรณ์การเรียน และทำงานออฟฟิศ เพราะสามารถเชื่อมต่อกับปากกาสไตลัส และสมาร์ทคีย์บอร์ดได้ (ซื้อเพิ่มเติม) ในขณะที่สเปคก็เพียงพอต่อการใช้งานและเล่นเกมทั่วไปได้ครับ
แท็บเล็ตพีซี CHUWI รุ่น HiPad Pro มีขนาดหน้าจอ 10.8 นิ้ว พาแนลแบบ IPS LCD จากสเปคที่ทางเว็บ อฟช. แจ้งว่าความละเอียด 2560 x 1600 (WQXGA) และรีเฟรชเรทที่ 60 Hz ให้ซีพียูมาแรงใช้ได้ Mediatek Helio G95 Octa-Core ชิปกราฟิก Mali-G76 MC4 หน่วยความจำ 8 GB ความจุ 128 GB ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานปกติ เล่นเกมที่ปรับกราฟิกไม่สุดก็พอไหว ความละเอียดกล้องหน้า 5 MP และกล้องหลังที่ 8 MP มาพร้อมลำโพง 4 ตัว รอบทิศทางแบบ 3D Stereo ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ราคาต่ำกว่า 10,000 ลงมาครับ
ยี่ห้อ / รุ่น | CHUWI รุ่น HiPad Pro |
ขนาดหน้าจอ | 10.8 นิ้ว IPS LCD |
ความละเอียด | 2560 x 1600 (WQXGA) 60 Hz |
ชิปประมวลผล | Mediatek Helio G95 Octa-Core |
ชิปกราฟิก | Mali-G76 MC4 |
หน่วยความจำ | 8 GB |
ความจุ | 128 GB |
กล้องหน้า / หลัง | 5 MP / 8 MP |
แบตเตอรี | 7000 mAh |
น้ำหนัก | 455 g |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi (802.11 a/b/g/n/ac), dual-band, BT 5.0, LTE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 |
อ่านกันมาถึงตรงนี้คงจะได้คำตอบสำหรับ แท็บเล็ตแอนดรอยด์ ยี่ห้อไหนดี กันแล้วแน่เลย เวลาซื้อก็อย่าลืมดูชื่อ CPU ให้ดี รุ่นไหนชอบโฆษณาอย่างอื่น แต่ไม่เน้น CPU ให้เดาไว้ก่อนเลย CPU ช้าแน่ ๆ ประเภทบอกแค่ CPU แบบ 8 แกน (Octa Core) แต่ไม่บอกชื่อรุ่นเดาได้เลย ช้าชัวร์ หรือใครจะไปดู Website ที่รวบรวม Benchmark ของหลายยี่ห้อไว้ก็ดีเลย พิมพ์ชื่อรุ่นที่ต้องการเปรียบเทียบทั้ง 2 คั่นกลางด้วย VS ก็จะรู้แล้วรุ่นไหนแรงกว่า สุดท้ายนี้ก็ขอให้ได้แท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ถูกใจ ใช้งานไม่มีปัญหากันนะครับ
นักเขียนอิสระ ที่มีประสบการณ์ในแวดวง IT Gadget มือถือ มากกว่า 5 ปี มีความรู้ความเข้าใจในรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้า IoT เป็นอย่างดี เลือกจัดอันดับสินค้าอย่างตั้งใจ ซื้อตามกันไม่มีผิดหวังแน่นอน