กระบองเพชร พันธุ์ไหนดี เลี้ยงง่าย เสริมโชค รีวิว 10 สายพันธุ์

รูปภาพปกบทความ กระบองเพชร พันธุ์ไหนดี เลี้ยงง่าย เสริมโชค รีวิว 10 สายพันธุ์

หุ ๆ กำลังอยากจะหาน้องบอง หรือ “กระบองเพชร” ไปเลี้ยงดูแลที่บ้าน หรือไปใช้ประดับเพิ่มความสวยงาม แต่ไม่รู้จะซื้อสายพันธุ์ไหนดีกันอยู่สินะคะ ?? ก็บอกเลยว่าคลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะที่นี่ ทางเราได้ไปรวบรวมน้องบองสายพันธุ์ที่น่าสนใจ สายพันธุ์ที่สวย มีความน่ารัก มีดอก ไม่มีดอก มีความเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงได้รับความนิยมเลี้ยงสูง เสริมโชคเสริมดวงชะตา มารีวิวให้ดูกันถึง 10 สายพันธุ์เลยทีเดียว ซึ่งถ้าทุกคนได้ลองอ่านเนื้อหากันจนจบล่ะก็ จะต้องอยากซื้อน้องบอง ไม่ต้นใดก็ต้นหนึ่งไปเลี้ยงกันอย่างแน่นอนค่าา



ตารางเปรียบเทียบรีวิว กระบองเพชร พันธุ์ไหนดี

ตารางเปรียบเทียบรีวิว กระบองเพชร พันธุ์ไหนดี

ก็เผื่อใครที่อยากจะเห็นเจ้าน้องบองทั้ง 10 สายพันธุ์ แบบพร้อม ๆ กัน รวมถึงสามารถเลื่อนตารางไปมา เพื่อทำการเปรียบเทียบลักษณะ, ตัวดอก, ความต้องการน้ำ แสงแดด หรือราคากันได้แบบง่าย ๆ ทางเราก็อยากให้ลองคลิกที่ปุ่มด้านล่างได้เลยค่า



1. Gymnocalycium mihanovichii Cactus 

น้องบองหลากสีสันพันธุ์นี้ เป็นน้องจากอเมริกาใต้ ที่เกิดการกลายพันธุ์จนน้องเขาไม่มีสีเขียวอยู่บนตัวเลย แต่จะไปในทางสีม่วง, ชมพู, สีโคลนไต้หวัน, สีแดง, สีส้ม, สีเหลือง และสีเหลืองแดงแทน จึงเป็นน้องบองสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ เพราะมีสีสันที่สะดุดตา นอกจากนี้ เขายังเป็นพันธุ์เดียวที่ไม่สามารถลงดินได้โดยตรง ต้องตัดต่อลงบนกระบองเพชรต้นอื่น เพราะลำพังตัวเขาจะไม่สามารถสร้างอาหารเองได้ เนื่องจากไม่มีคลอโรฟิลล์ ก็ใครที่เบื่ออะไรเขียว ๆ ก็เลี้ยงพันธุ์นี้แทนได้นะคะ

ส่วนในเรื่องของการดูแลเขาก็ถือว่าไม่ยาก ขอแค่รดน้ำตอนดินแห้งสนิท 2 สัปดาห์ 1 ครั้ง และดินก็ขอให้เป็นดินที่ระบายน้ำได้ดี หรือจะเป็นดินสำหรับต้นกระบองเพชรโดยเฉพาะก็ได้ รวมถึงสามารถผสมทรายหยาบ, ขุยมะพร้าว, เพอร์ไลท์, ดินญี่ปุ่น หรือหินภูเขาไฟเพิ่มไปเพื่อช่วยป้องกันความชื้นได้อีกด้วย รวม ๆ ก็เป็นน้องบองที่ไม่เรื่องมาก ดูแลได้ง่าย สีสันสวยงาม สมแล้วที่เป็นสายพันธุ์ยอดนิยม จนคนเลี้ยงบองต้องมีค่า !

ชื่อภาษาไทยกระบองเพชรพระจันทร์
ชื่อวิทยาศาสตร์Gymnocalycium mihanovichii
แสงแดดรับแดด 8-10โมง
ปริมาณน้ำรดน้ำตอนดินแห้งสนิท 2 สัปดาห์ 1 ครั้ง
ดินดินที่ระบายน้ำได้ดี

2. Echino cactus grusonii

น้องปุ๊กลุ๊กต้นนี้มีชื่อเล่นภาษาไทยเก๋ ๆ ว่า “ถังทอง” แอบเป็นกระบองเพชรเสริมดวงที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก เห็นกลมปุ๊กแบบนี้แต่เมื่อโตเต็มที่ น้องจะสามารถใหญ่ได้ถึง 1 เมตรเลยนะคะ และที่บอกว่าเป็นน้องบองเสริมดวงนั้น ก็เพราะว่าชื่อของน้องเขามีความสิริมงคล ช่วยเสริมดวงเรื่องโชคลาภเงินทอง บวกกับมีความเชื่อว่าหนามของน้องเขายังสามารถป้องกันอันตรายให้กับคนในบ้านได้อีกด้วย ลำต้นน้องก็กลมป๊อก น่ารักน่าเอ็นดู มีหนามสีทองล้อมรอบ น่ารักไม่พอยังถูกใจสายมูอีกด้วยค่ะ

เห็นน้องกลม ๆ แถมโตได้ใหญ่บะเร่อแบบนี้ จริงๆ น้องเขาเซ้นซิทีฟกว่าที่คิดนะคะ น้องเขาไม่ชอบกลางแจ้งเพราะผิวเขาค่อนข้างบาง อาจไหม้แดดได้ง่าย แต่หากจำเป็นจริง ๆ ก็ค่อย ๆ ปรับเขาให้เข้าหาแสงทีละนิด และหมั่นสังเกตว่าผิวของเขามีอาการเหี่ยวย่นหรือเกิดรอยใด ๆ มั้ย หนามเล็กลงรึเปล่า ฟิลเหมือนเลี้ยงเด็กเลยค่ะ ส่วนเรื่องรดน้ำก็รดตอนดินแห้งสนิทเท่านั้น หรือรด 15 วันครั้ง ควรหลีกเลี่ยงฝน รวมถึงควรให้อาหารเสริมน้องเป็นปุ๋ยสูตรโพแทสเซียมให้เขาด้วย ก็ใครที่เป็นสายมูอยากเสริมดวงเรื่องการเงิน แถมอยากเลี้ยงกระบองเพชรไว้แก้เหงา แนะนำน้องบองถังทองเลยค่า

ชื่อภาษาไทยถังทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์Echino cactus grusonii
แสงแดดไม่ควรปลูกกลางแจ้ง
ปริมาณน้ำดตอนดินแห้งสนิทเท่านั้น หรือรด 15 วันครั้ง
ดินดินที่ระบายน้ำได้ดี

3. Mammillaria gracilis Oruga

ใครกลัวหนามแหลม น้องบองสายปุกปุยก็มีนะคะ ต้นนี้เขาคือน้องบองในสายตระกูล “Mammilaria” ที่ขึ้นชื่อเรื่องหน้าตาจิ้มลิ้มจนได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ ในหมู่ผู้เลี้ยงแคคตัส โดยต้นนี้เป็นสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Oruga มีชื่อภาษาไทยว่า “กระบองเพชรปลอกนิ้วมือ” เพราะลักษณะของเขาที่เป็นกอเตี้ย ๆ พร้อมกระจุกหนามปุย ๆ ที่หนาแน่นจนชวนให้นึกถึงปลอกใส่นิ้วมือเวลาเย็บผ้า เป็นอีกหนึ่งกระบองเพชรปุ๊กปิ๊กน่ารักน่าเอ็นดู ที่น่าจะถูกใจสายปุกปุยหลาย ๆ คนค่ะ

และน้องบองพันธุ์นี้จะชื่นชอบแดดมาก ต้องออกแดดโดยตรงอย่างน้อย 3-5 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าวางในที่ร่มควรตั้งไว้ริมหน้าต่างหรือวางในจุดที่คิดว่าได้รับแดดมากที่สุด แต่ช่วงเที่ยงหรือบ่ายควรเก็บน้องเข้าร่มนะคะ เดี๋ยวน้องเขาไหม้ ฮา~ ส่วนรดน้ำก็รดตอนดินแห้งสนิทเพื่อป้องกันความชื้นที่มากเกินไป นอกจากนี้ น้องเขามีดอกด้วยนะคะ ดอกของเขาจะเป็นสีครีม ๆ เหลือง ๆ บ้างก็ว่าชมพู ดูน่ารักน่าเอ็นดูมากกกก ใครสายหวานก็ขอแนะนำน้องบองต้นนี้เลยค่า

ชื่อภาษาไทยกระบองเพชรปลอกนิ้วมือ
ชื่อวิทยาศาสตร์Mammillaria gracilis Oruga
แสงแดดชอบแดดมาก
ปริมาณน้ำรดน้ำเมื่อดินแห้งสนิท
ดินดินที่ระบายน้ำได้ดี


4. Astrophytum myriostigma 

น้องบองแบบไร้หนามก็มีนะคะ กับน้องที่มีชื่อว่า “หมวกสังฆราช” เพราะน้องมีรูปร่างคล้ายหมวกของบิชอปในศาสนาคริสต์นั่นเอง โดยน้องเป็นหนึ่งในกระบองเพชรสายพันธุ์ที่ไม่มีหนาม มีลักษณะเป็นสันพูชัดเจนจนเป็นแฉกคล้ายดาว ดอกออกที่ตรงกึ่งกลางหัว มีสีเหลืองน่ารัก แถมเลี้ยงง่ายไม่เรื่องมาก ขอแค่ได้ดินที่ระบายน้ำได้ดี อากาศถ่ายเท และพาเขาไปออกรับแดดช่วง 8-11โมงเช้า รดน้ำแค่ตอนที่ดินแห้งสนิทก็เป็นอันใช้ได้แล้วค่ะ

และน้องเขาจะเป็นพันธุ์ในสายตระกูล Astrophytum ซึ่งแปลได้ตรง ๆ ว่า “พืชดวงดาว” มาจากลักษณะเด่นของน้อง ๆ ที่มีสันพูป็นแฉกชัดเจนคล้ายดาวนั่นเอง แถมยังขึ้นชื่อเรื่องการดูแลง่าย รูปลักษณ์ก็สะดุดตา น่ารักปุ๊กปิ๊ก เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มือใหม่ก็สามารถดูแลได้ง่าย ๆ แถมส่วนใหญ่ยังไม่มีหนามมาคอยกวนใจอีก ก็ถือเป็นน้องบอกอีกหนึ่งสายพันธ์ุที่น่าเลี้ยงมาก ๆ ค่า

ชื่อภาษาไทยหมวกสังฆราช
ชื่อวิทยาศาสตร์Astrophytum myriostigma 
แสงแดดรับแดดช่วง 8-11โมงเช้า
ปริมาณน้ำรดน้ำเมื่อดินแห้งสนิท
ดินดินที่ระบายน้ำได้ดี

5. Hildewintera colademononis

กระบองเพชรสุดยูนีคแถมเอเนอจี้เยอะ เพราะถิ่นที่อยู่ดั้งเดิมของเขาคือโขดหินแข็ง ๆ ลักษณะของเขาจึงเป็นการเติบโตห้อยระย้าลงด้านล่าง ปกคลุมด้วยหนามยาวสีขาวที่มีลักษณะอ่อนนุ่ม เขาจึงมีอีกชื่อหนึ่งว่าหางลิง (Monkey’s tail) สื่อถึงลักษณะของลำต้นที่ดูเป็นหางและเต็มไปด้วยขนนั่นเองค่ะ และเป็นอีกหนึ่งน้องบองที่ขอแนะนำสำหรับใครหลายคนที่กลัวเลี้ยงแล้วหนามจะตำมือ เพราะหนามของเจ้าต้นนี้เขาอ่อนนุ่มสามารถสัมผัสได้ด้วยมือเปล่า ไม่ทิ่มมือจนเจ็บ แถมยังเหมาะจะเลี้ยงเป็นไม้แขวนตามชายคาบ้านมาก ๆ เลยละค่ะ

และนอกจากตัวลำต้นที่แสนโดดเด่นแล้ว ดอกของเขายังมีลักษณะสวยงาม สีแดงแจ่มชัด ให้ผลทรงกลมสีแดง งอกง่าย ขยายพันธุ์ง่าย ส่วนในแง่ของการดูแลนั้น น้องเขาค่อนข้าง Sensitive กับความชื้นได้ง่าย ต้องใช้ดินที่ระบายน้ำได้ดี หรือเป็นดินเฉพาะจะถือว่าดีที่สุด โดยรดน้ำ 2 สัปดาห์ครั้ง หรือรดเมื่อดินแห้งสนิท พาน้องไปรับแดดช่วง 8-11โมงเช้าเท่านั้น หลังจากนั้นแนะนำให้แขวนน้องไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก ก็ใครที่อยากหาไม้ประดับมาแขวนที่ชายคาบ้าน หรืออยากได้น้องบองที่จับได้ ลูบได้ หนามไม่ทิ่มมือ แนะนำน้องหางลิงเลยค่า

ชื่อภาษาไทยหางลิง
ชื่อวิทยาศาสตร์Hildewintera colademononis
แสงแดดรับแดดช่วง 8-11โมงเช้า
ปริมาณน้ำ2 สัปดาห์ครั้ง
ดินดินที่ระบายน้ำได้ดี

6. Notocactus scopa

เขาว่าจะเลี้ยงกระบองเพชรให้รู้สึกคอมพลีทจริง ๆ คือต้องเลี้ยงให้เขาออกดอก เลยขอแนะนำน้องบองที่ให้ดอกง่ายอย่างน้องคนนี้เลยค่า โดยน้องมีลักษณะทรงกลมคล้ายลูกบอลหรือทรงกระบอก มีหนามแหลมสีเงินล้อมรอบ มีหนามอ่อนที่ลักษณะคล้ายขนแปรงปกคลุมส่วนลำต้นไว้ อีกทั้งยังให้ดอกง่าย แถมดอกใหญ่ สีเหลืองสดใส เหมาะสำหรับคนที่เลี้ยงน้องบองหวังชมดอกเอามาก ๆ และสายพันธุ์นี้เขาจะเติบโตได้ดีในที่ทีมีอากาศอบอุ่น ตามธรรมชาติเขามักชอบเติบโตตามรอยแตกของโขดหิน จึงเป็นน้องบองสายพันธุ์หนึ่งที่ชื่นชอบกระถางทรงลึกค่ะ

นอกจากจะต้องเป็นกระถางทรงลึกแล้ว จะให้ดีต้องเป็นกระถางที่ระบายน้ำได้ดี อากาศถ่ายเทได้สะดวก โปร่งสบาย เพื่อป้องกันการเกิดโรครากเน่า นอกจากนี้น้องเขายังชอบดินร่วนปนทราย และขอแดดจัด ๆ แต่ไม่ควรให้น้องเจอแดดตรง ๆ นะคะ เดี๋ยวน้องไหม้ ส่วนเรื่องน้ำ น้องต้องการน้ำน้อย แนะนำให้รดน้ำโดยดูความชื้นของดินเป็นหลัก ถ้าดินแห้งสนิทก็สามารถรดได้ แต่หากสังเกตเห็นว่าดินชื้นติดต่อกันหลายวันก็แนะนำให้เปลี่ยนดินใหม่ เพื่อความปลอดภัยของน้อง ๆ ค่า

ชื่อภาษาไทย
ชื่อวิทยาศาสตร์Notocactus scopa
แสงแดดแดดช่วง 8-11 โมง
ปริมาณน้ำรดน้ำเมื่อดินแห้งสนิท
ดินดินที่ระบายน้ำได้ดี


7. Stenocactus multicostatus

น้องคนนี้เขามีชื่อไทยเก๋ ๆ ว่าน้องคลื่นสมอง (Brain Cactus) เห็นชื่อน่ากลัวแบบนี้แต่จริง ๆ น้องน่ารักนะ เขาเป็นน้องบองรูปทรงแหวกแนวที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเม็กซิโก มีลักษณะลำต้นกลมปุ๊ก โตช้า มีพูถี่ และมีสันที่ชัดเจนหยักคดไปมา มองจากมุมบนจะดูคล้ายสมองอันเป็นที่มาของชื่อเล่น อีกทั้งน้องเขามีดอกด้วยนะ ดอกของเขาเป็นแบบก้านดอกสั้น มีทั้งสีขาว, ชมพู, ม่วง และม่วงเข้ม เป็นน้องบองที่มีรูปร่างสุดยูนีคน่าสะสม แถมยังเลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยาก มือใหม่ก็เลี้ยงได้ค่ะ

และน้องเขาชอบดินที่สามารถระบายน้ำได้ดี ส่วนเรื่องแดด น้องชอบแดดมาก บอกเลยว่าโดนแดดได้แทบทั้งวัน ประมาณ 6-8 ชั่วโมง/วันเลยค่ะ แต่อย่างที่รู้ ๆ กันว่าแดดประเทศไทยนี่ร้ายกาจขนาดไหน แนะนำว่าอย่าให้เขาโดนแดดตรง ๆ นะคะ ให้ใช้สแลนช่วยพรางแสงจะดีที่สุด เดี๋ยวน้องจะไหม้เอา ในเรื่องของการรดน้ำ ให้รดประมาณ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ หรือรดตอนดินแห้ง และช่วงหน้าร้อนก็แนะนำให้ใส่ปุ๋ยสูตรโพแทสเซียมให้น้องเพิ่มด้วย เพราะเขาชอบดินที่มีแร่ธาตุสูงค่า

ชื่อภาษาไทยคลื่นสมอง
ชื่อวิทยาศาสตร์Stenocactus multicostatus
แสงแดดชอบแดดมาก
ปริมาณน้ำประมาณ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์
ดินดินที่มีแร่ธาตุสูง

8. Mammillaria plumosa

พูดถึงกระบองเพชร จะขาดน้องปุกปยแห่งตระกูล Mammiliaria ไปได้ยังไง ขอแนะนำให้รู้จักกับน้อง “แมมขนนก” น้องบองทรงกลมที่มาพร้อมกับขนหนามสีขาวที่ปกคลุมตลอดทั้งลำต้น เมื่อโตเต็มที่น้องจะน่ารักมาก ๆ แถมยังเป็นไม้มงคล นิยมมอบให้กันเป็นของขวัญแทนมิตรภาพอันดี อีกทั้งในหมู่ผู้เพาะเลี้ยงยังมีความเชื่อว่า หากดูแลน้องแมมขนนกจนมีขนสีขาวเต็มต้น ขจะช่วยให้ประสบความสำเร็จต่อสิ่งที่ทำได้โดยง่าย ราวกับ “ติดปีก” ไปสู่เป้าหมายเลยค่ะ หลาย ๆ คนจึงนิยมนำน้องไปตั้งไว้ที่โต๊ะทำงานเพื่อความเป็นสิริมงคลนั่นเอง

ในเรื่องของการดูแลรักษา เนื่องจากน้องมีขนขาวปกคลุมลำต้นอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องน้องจะไหม้แดด น้องชอบแดดมาก ๆ หากต้องการให้ลำต้นมีฟอร์มสวยงามควรปลูกกลางแจ้ง ยิ่งแดดจัด ขนสีขาวจะยิ่งหนาแน่น ส่วนเรื่องการรดน้ำ น้องต้องการน้ำค่อยข้างน้อย เพียงแค่ 1-2ครั้ง/สัปดาห์ หรือเฉพาะตอนหน้าดินแห้งเท่านั้น รวมถึงเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่มีความโปร่งและระบายน้ำได้ง่าย ใครสนใจน้องบองสุดนุบนิบพร้อมขนปุกปุยราวพู่ขนนก ขอแนะนำน้องแมมพันธุ์นี้เลยค่า

ชื่อภาษาไทยแมมขนนก
ชื่อวิทยาศาสตร์Mammillaria plumosa
แสงแดดชอบแดดจัด
ปริมาณน้ำ1-2ครั้ง/สัปดาห์
ดินดินร่วนปนทราย

9. Rebutia heliosa 

เสน่ห์ของกระบองเพชรอยู่ที่หนาม แต่จะเอาแบบหนามแหลมก็กลัวจะทิ่มนิ้ว จะเอาแบบหนามนุ่ม ๆ ขนปุกปุยก็ยังไม่ใช่สไตล์ งั้นลองมาทำความรู้จักกับน้องบองจิ๋วที่หนามไม่โหดเหมือนพันธุ์อื่น ๆ ดูมั้ยคะ กับน้อง “Rebutia heliosa” น้องบองพันธุ์เล็กที่พบเห็นได้ยาก มีถิ่นกำเนิดจากแถบผู้เขา และเห็นจิ๋ว ๆ แบบนี้แต่น้องเป็นหนึ่งในสายพันธุ์เล็กที่สวยงามและโดดเด่นที่สุด ลำต้นมีทรงกลมแบนหรือทรงกระบอก มาพร้อมกับหนามแหลมทึ่สั้นมาก แทบไม่ทำอันตรายอะไร แค่เจ็บ ๆ คัน ๆ เท่านั้นเองค่ะ

นอกจากรูปลักษณ์ที่น่ารักแล้ว น้องยังออกดอกสีส้มเหลืองทรงไข่ที่มีเสน่ห์มาก ๆ จนเหล่านักสะสมนิยมนำไปเป็นไม้ประดับ ดูแลก็ไม่ยาก เพียงแค่พาน้องมาอาบแดดช่วง 8-11 โมง จากนั้นเก็บเข้าที่ร่ม และน้องชอบแดดจ้า แต่ไม่ใช่แดดร้อนจัดค่ะ เพราะจะทำให้เขาไหม้ตายได้ ส่วนเรื่องรดน้ำก็ไม่ต้องรดบ่อย รดเฉพาะตอนหน้าดินแห้งก็เพียงพอแล้ว รวม ๆ ถือเป็นน้องบองน่าตาหน้ารัก โหดแบบนุบนิบพอเป็นพิธี แถมยังดูแลง่ายอีกต่างหาก ใครโดนน้องตกก็รีบไปสอยมาเลยค่า

ชื่อภาษาไทย
ชื่อวิทยาศาสตร์Rebutia heliosa 
แสงแดดรับแดดช่วง 8-11โมงเช้า
ปริมาณน้ำรดน้ำเมื่อดินแห้งสนิท
ดินดินที่ระบายน้ำได้ดี

10. Mammillaria gracilis

อีกหนึ่งตัวดังจากตระกูลแมม ที่มาพร้อมหนามแข็ง ๆ ที่เรียงตัวกันจนเหมือนลวดลายลูกไม้ปกคลุมบนลำต้น กับน้อง “แมมตุ๊กตาญี่ปุ่น” น้องบองขนาดเล็กที่มีลำต้นค่อนข้างเรียว ทรงกระบอกสีเขียวสดใส เป็นญาติห่าง ๆ ของกระบองเพชรปลอกนิ้วมือ และต้นนี้เขาสามารถแตกหน่อกิ่งก้านสาขาได้อย่างอิสระ แต่ในขณะเดียวกันตัวหน่อก็สามารถหลุดออกจากกันได้ง่ายมาก ๆ จึงต้องทะนุถนอมเขาเป็นพิเศษ เพื่อที่จะให้ฟอร์มกอสวย บอบบางแถมยังมีชุดลูกไม้เป็นของตัวเองอีก คือน่ารักเหมือนตุ๊กตาสุด ๆ ไปเลยค่ะ

และการที่จะให้น้องแมมตุ๊กตามีฟอร์มสวย ก็ต้องให้แสงแดดกับเขาอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะแดดช่วง 8-10 โมงเช้า พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้น้องเจอแดดร้อนจัด ๆ ในฤดูร้อน เพื่อป้องกันน้องไหม้ ส่วนดินต้องมีความเป็นหินกรวดสูง ระบายน้ำได้ดี เพราะรากของเขาไวต่อการขาดออกซิเจนและเน่าได้ง่าย แนะนำให้รดน้ำเพียงแค่ 2 สัปดาห์/ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว โดยรวมถือเป็นอีกหนึ่งน้องบองน่ารักน่าเอ็นดู ให้ฟิลลิ่งเหมือนตุ๊กตาในชุดลูกไม้ น่าทะนุถนอมสุด ๆ เหมาะกับคนชอบของน่ารัก ๆ มาก ๆ ค่า

ชื่อภาษาไทยแมมตุ๊กตาญี่ปุ่น
ชื่อวิทยาศาสตร์Mammillaria gracilis
แสงแดดรับแดดช่วง 8-10 โมงเช้า
ปริมาณน้ำรดน้ำเมื่อดินแห้งสนิท
ดินดินที่ระบายน้ำได้ดี

เป็นยังไงกันบ้างคะ ทุก ๆ คนนน หลังจากที่ได้เห็นรีวิว “กระบองเพชร” พันธุ์ไหนดี ต้นสวย เลี้ยงง่าย เสริมโชค กันไปแล้วถึง 10 ต้น 10 สายพันธุ์ด้วยกัน ก็ไม่ทราบว่าสนใจ อยากจะซื้อต้นไหน น้องบองไหน ไปเลี้ยง ไปดูแล ไปทะนุถนอมที่บ้านกันบ้างคะ ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย น้องบองเขาก็มีหลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งแบบหลามแหลม หลามน้อย หลามบาง หรือมีดอก ไม่มีดอก ให้เลือกเลี้ยงกันด้วย ยังไงก็ขอให้ได้น้องบองที่ถูกใจ เลี้ยงแล้วชอบ ตอบโจทย์ ได้ดอก ได้ความน่ารักที่บ้านกันด้วยค่าา


Leave a Comment