ครีมทาเท้า ยี่ห้อไหนดี ทาเท้าแตก ส้นเท้าแตก ให้ดีขึ้น รีวิว 10 ยี่ห้อ

รูปภาพปกบทความ ครีมทาเท้า ยี่ห้อไหนดี ทาเท้าแตก ส้นเท้าแตก ให้ดีขึ้น รีวิว 10 ยี่ห้อ

หุ ๆๆ ก็ถ้าสาว ๆ (หรือหนุ่ม ๆ ) ได้คลิกเข้ามาอ่านที่บทความนี้ “ครีมทาเท้า” ยี่ห้อไหนดี แสดงว่า สาว ๆ กำลังมีปัญหากับสุขภาพเท้าที่แห้งกร้าน ผิวเท้าดูไม่สดใส ดูไม่สวย หรือมีอาการเท้าแตก ส้นเท้าแตก จนทำให้เดินลำบากกันอยู่ใช่ไหมล่ะคะ ?? ก็บอกเลยว่าคลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะที่นี่ ทางเราได้ไปรวบรวมครีมทาส้นเท้าที่น่าสนใจ ครีมที่เด็ด ๆ ปัง ๆ มียอดขายสูง รวมถึงมีรีวิวดีงามจากผู้ใช้จริง มาให้ดูกันถึง 10 ยี่ห้อ 10 หลอดกันเลยทีเดียว และถ้าสาว ๆ ทุกคนได้ลองอ่านเนื้อหากันจนจบล่ะก็ จะต้องอยากซื้อไม่ยี่ห้อใดก็ยี่ห้อหนึ่งกันอย่างแน่นอนค่าาา



ตารางเปรียบเทียบรีวิว ครีมทาเท้า ยี่ห้อไหนดี

ตารางเปรียบเทียบรีวิว "ครีมทาเท้า" ยี่ห้อไหนดี

ก็เผื่อสาว ๆ คนไหนที่อยากจะเห็นเจ้าสินค้าครีมทาเท้าแบบพร้อม ๆ กันทั้ง 10 ยี่ห้อ รวมถึงสามารถเลื่อนตารางไปมาซ้ายขวา เพื่อทำการเปรียบเทียบรายละเอียด, จุดเด่น, สารบำรุง หรือราคากันได้แบบง่าย ๆ ทางเราก็อยากให้ลองคลิกที่ปุ่มด้านล่าง เพื่อจะได้เห็นตารางเปรียบเทียบกันค่าา



1. Ellgy Plus Cracked Heel Cream

ไหนใครมีปัญหาเรื่องส้นเท้าแตกลาย ส้นเท้าหนา ไม่กล้าใส่รองเท้าเปิดส้น มามุงทางนี้จ้าแม่จ๋า ตัวช่วยที่จะเปลี่ยนส้นเท้าคุณให้กลับมาเนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน แตกแค่ไหนก็เอาอยู่ ต้องยกให้นาง Ellgy Plus เลยล่ะ โดยนางเป็นครีมทาส้นเท้าที่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนานแม้อยู่ในสภาพอากาศที่มีความชื้นต่ำ เช่น หน้าหนาวหรือในห้องแอร์ ยิ่งทาวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น หลังจากอาบน้ำ และขอแนะนำให้ใส่ถุงเท้าหลังทาครีม จะยิ่งช่วยให้ผลการบำรุงดีขึ้น อีกทั้งถุงเท้ายังสามารถใช้ป้องกันอาการส้นเท้าแตกได้ดีอีกด้วยนะจ๊ะ

และที่เค้ามีประสิทธิภาพในการกักเก็บความชื้นได้ดีมากนั่น ก็เพราะมีส่วนประกอบสำคัญ คือ แซคคาไรด์ไอโซเมอรท ที่ช่วยคงความชุ่มชื้นของส้นเท้าได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน และมีพอร์ทูลาคา ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหนังชั้นไขมันใต้ผิวของเรา และยังไม่หมดเท่านั้นจ้า ยังมีน้ำบริสุทธิ์, กลีเซอรีน, ผักเบี้ยใหญ่, ไดเมทิโคน, ไอโซโพรพิลไมริสเตท และน้ำมันลาเวนเดอร์ เค้าก็ประโคมใส่เข้ามาให้ในหนึ่งหลอด สารบำรุงจัดหนักมากกก รับรองเลยว่าเมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ จะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพเท้าที่ดีขึ้นเลยค่า

จุดเด่นสูตรที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้นสำหรับผิวเท้า, อุดมไปด้วยกรดไขมันธรรมชาติที่สำคัญ
สารบำรุงแซคคาไรด์ไอโซเมอรท, พอร์ทูลาคา, กลีเซอรีน, ผักเบี้ยใหญ่, ไดเมทิโคน, ไอโซโพรพิลไมริสเตท, น้ำมันลาเวนเดอร์
หลังใช้ผิวที่ส้นเท้านิ่มขึ้น, รอยแตกค่อย ๆ ตื้นขึ้น
เนื้อสัมผัสเนื้อครีมไม่เหนียวเหนอะหนะ
เหมาะกับสำหรับส้นเท้าแตกที่แห้งมาก

2. Shiseido Urea Cream

ครีมทาเท้าตัวเด็ด ตัวดังจากแดนอาทิตน์อุทัยที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Shiseido Urea Cream ค่าาาคุณ ตัวนี้นอกจากเค้าจะมีสรรพคุณดูแลส้นเท้าแล้ว เค้ายังทามือ บำรุงเล็บ และยังบำรุงจมูกเล็บไม่ให้ฉีกขาดง่าย คืนความชุ่มชื้น และอ่อนนุ่มให้แก่ผิวหลาย ๆ ส่วนได้อีกด้วย ส่วนเนื้อครีมก็เข้มข้น ในขณะเดียวกันก็บางเบาดุจขนนก แถมยังซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว อีกทั้งยังใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา ยิ่งใครที่ผิวหยาบกระด้าง แห้งกร้านมากพวก เท้า มือ ศอก เข่า ก็ทาได้หมดนะ เรียกได้ว่าตัวเดียวจบ ครบ คุ้ม!

อ่ะมาดูว่าตัวเดียวจบได้ยังไง แบรนด์ Shiseido เค้าจัดมาให้เพื่อน ๆ แล้วค่ะว่า ในหนึ่งหลอดจะต้องอุดมไปด้วย Urea 10% พร้อมทั้งมีวิตามินและน้ำมันสวาเลน ที่ทั้งหมดจะมาช่วยกันป้องกันไม่ให้มือและเท้าแห้งเหี่ยว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้ผิวมีความยืดหยุ่น และหลังจากทาแล้ว จะมีชั้นฟิล์มบาง ๆ ที่จะช่วยล็อคความชุ่มชื้น ช่วยให้มือนุ่มเนียน โดยเฉพาะการอยู่ในห้องปรับอากาศ หรือสภาพอากาศที่แห้งเป็นระยะเวลานาน ๆ จึงแอบเหมาะมาก ๆ สำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศที่มีส้นเท้าแตก ส้นเท้าแห้ง นอกจากนี้ น้องเค้าก็ถูกออกแบบมาให้ใช้ง่าย พกพาสะดวก ตอนนี้มีทั้งแบบหลอดและแบบกระปุกเลย ใครสะดวกแบบไหนก็จัดแบบนั้นได้เลยค่า

จุดเด่นครีมบำรุงส้นเท้าที่ใช้ได้ทั้ง มือ เล็บ จมูกเล็บ และตามข้อต่าง ๆของร่างกาย
สารบำรุงด้วยส่วนผสม Urea 10%, น้ำมันสวาเลน
หลังใช้เท้าเนียนขึ้น บริเวณผิวตามข้อก็สว่างใสขึ้น
เนื้อสัมผัสเนื้อครีมสีขาวข้มข้น
เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งเนื่องจากทำงานในห้องแอร์ และผู้ที่มีปัญหามือและส้นเท้าแห้งแตก

3. Yoko Cracked Heel Cream

เปลี่ยนเท้าพัง ให้เรียบเนียนสวย ไม่สากเหมือนกระดาษทรายด้วยครีมทาเท้า Yoko Cracked Heel Cream แค่ชื่อก็สัมผัสได้ถึงความแคร๊กของส้นเท้าแล้วใช่มั้ยละสาว ๆ ขอบอกเลยว่าตัวนี้ก็เป็นผลิตภัณฑ์ของญี่ปุ่นที่ไม่น้อยหน้ากว่าตัวอื่นเลย เพราะเค้าสามารถช่วยคงความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังบริเวณส้นเท้าอ่อนนุ่ม และยังช่วยลดปัญหาส้นเท้าแตก จึงทำให้สาว ๆ เปิดเท้า โชว์เท้า ได้อย่างมั่นใจ เท่านั้นยังไม่พอ เค้ายังช่วยใบำรุงผิวบริเวณส้นเท้าให้ดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ จนสาว ๆ สังเกตได้ทันทีที่เริ่มใช้เลยน้า

และที่สำคัญ เค้าเคลมมาเลยว่าเห็นผลตั้งแต่ 5 วันแรกที่ใช้เลย อ่ะใครรีบนักก็ต้องลองจัดตัวนี้ดูสักหน่อยแล้วล่ะ แต่ก่อนจะไปตำก็แว๊บดูส่วนผสมหลัก ๆ กันหน่อย ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่สารสกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำผึ้ง ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำ และดูดซับน้ำไว้ใต้ผิวเป็นเวลานาน ให้ผิวที่แตกลายขาดความยืดหยุ่นกลับมาอ่อนนุ่มเนียนเรียบ พร้อมปรับสภาพสีผิวใหม่ด้วย Vitamin B3 ให้กระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วยนาา และด้วยความที่เค้าค่อนข้างออแกนิค ก็สามารถใช้บริเวณอื่นของร่างกายได้ด้วย พวกข้อศอกดำ ตาตุ่มตำ บริเวณที่ผิวค่อนข้างหนาทาได้หมดเลยจ้า

จุดเด่นสารสกัดส่วนใหญ่มาจากธรรมชาติ
สารบำรุงน้ำมันมะพร้าว, น้ำผึ้ง, Vitamin B3
หลังใช้สมานรอยแตกได้ดี, ขุย ๆ ที่เท้าลดลง, ผิวเท้าไม่หนา ดูบางลง
เนื้อสัมผัสเนื้อครีมสีขาวค่อนไปทางเหนียว
เหมาะกับเหมาะสำหรับผิวแห้งและทาก่อนนอน


4. Yoko Cracked Heel Q10 Cream

ส้นเท้าแตกระแหงและหยาบกร้านจนน่าตกใจ แก้ได้ด้วย Yoko Cracked Heel Q10 Cream ครีมทาเท้ารุ่นใหม่ที่ออกมาเป็นสีฟ้า จากรุ่นเก่าที่เป็นสีเหลือง ถามว่าตัวนี้ดีกว่ายังไง ต้องบอกเลยตัวนี้เค้าใส่ Coenzyme Q10 เพิ่มเข้ามาด้วยตามชื่อเลยซิส โดยเค้าเป็นสารบำรุงที่ช่วยให้ผิวที่อ่อนล้ากลับมาดูสดใส ช่วยให้ผิวดูเนียนเรียบ ผิวที่ดูหนา ๆ ก็จะบางลง นิ่มขึ้น แล้วใครเดินบ่อย ๆ จนเท้าแตก ส้นเท้าแตกเป็นเส้น ๆ ต้องลองตัวนี้เลย เค้าจะช่วยผสานผิวที่แตกแห้งกร้านได้ไวมากกก ใช้ไปเรื่อย ๆ จะรู้สึกได้ทันทีว่ามันนิ่มขึ้นจริง ๆ จ้าทุกคน

และรุ่นใหม่นี้ถ้าเทียบกับรุ่นเก่าแล้วจะสังเกตุได้ว่า เค้าใส่สารประกอบหลักไปเพิ่มมากมายเหลือเกินแม๊ ไม่ว่าจะเป็น Peppermint Oil สารสกัดจากมินต์ ที่จะช่วยปลอบประโลมผิวที่เท้าให้รู้สึกสบาย ปกป้องผิวจากการระคายเคือง, Green Tea Extract สารสกัดจากชาเขียว มีคุณสมบัติเป็นแอนตี้ออกซิเดนซ์ ช่วยบำรุงผิวบริเวณส้นเท้าให้ชุ่มชื้น เรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ และตัวสุดท้าย Celen Extract สารสกัดจากดอกดาวเรืองที่มอบความชุ่มชื้นให้กับผิวทำให้ผิวอ่อนนุ่มขึ้น ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับสาว ๆ ได้มากยิ่งขึ้น และควรใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องถึงจะเห็นผลนะ อย่าขี้เกียจกันนะพวกเธอ ผู้หญิงต้องสวยตั้งแต่หัวจดเท้าค่าา อิอิ

จุดเด่นกลิ่นหอมสดชื่นจากน้ำมันสกัดจากเปปเปอร์มิ้นต์
สารบำรุงน้ำมันมะพร้าว, น้ำผึ้ง, สารสกัดจากมินต์, สารสกัดจากชาเขียว,สารสกัดจากดอกดาวเรือง, Coenzyme Q10
หลังใช้มีกลิ่นหอมสดชื่นจากน้ำมันเปเปอร์มิ้นต์, ผิวดูนิ่มลง, ผิวดูชุ่มชื้น
เนื้อสัมผัสเนื้อครีมขาว
เหมาะกับผิวแห้ง ส้นเท้าแตก ผิวเท้าคล่ำ

5. Mormualchon Urea Cream Softer 

มาถึงตัวที่เรียกได้ว่าเป็นม้ามืดที่บางคนอาจจะมองไม่เห็นน้องเค้า แต่ขอบอกตรงนี้ให้ทั่วหน้าประชาชีกันเลยนะสาว ตัวนี้คือครีมทาเท้าของ “หมอมวลชน” ค่ะ ชื่อเต็มว่า Mormualchon Urea Cream Softer เขาบอกกันว่าตัวนี้ค่อนข้างปลอดภัยมากกก เพราะไม่มีสารอันตรายเลย ทำให้เหมาะกับคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายมาก ๆ ซึ่งน้องเค้าก็สามารถช่วยแก้ส้นเท้าแตก มือลอก ข้อศอกด้าน เข่าด้าน และยังสามารถช่วยป้องกันท้องแตกลายงาระหว่างการตั้งครรภ์ได้ด้วยนะเออ เห็นมั้ยคะว่าค่อนข้างเป็นครีมที่คุ้มค่าอยู่นะ หลอดเดียวทาได้เกือบทั้งตัว ปลอดภัยกับคุณแม่และเด็ก ๆ มาก และยังพกพาไปมาสะดวกด้วยค่ะ

ส่วนตัวครีมก็จะเป็นเจลครีมที่ค่อนข้างเข้มข้น แต่ไม่ได้เหนียวเหนอะหนะเหมือนครีมทาเท้าทั่วไป อีกทั้งยังซึมไว ยิ่งใช้กับมือทุกวันจะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนปลงที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และตัวนี้จะมีส่วนผสมของสารยูเรีย มอยเจอร์ไรเซอร์ และวิตามินอี ที่ไม่กัดกร่อยทำลายผิวให้ผิวบาง ไม่ระคายเคืองต่อผิวง่าย และยังมีเคลือบ ๆ ที่ผิวช่วยล็อคความชุ่มชื้นด้วย ทาแล้วก็แอบรู้สึกผิวเท้านุ่มทันที และใครที่ผิวแห้งจนแตกเป็นแผลแบบชนิด Eczema ใช้ตัวนี้ทาได้ดีมาก ทาแล้วไม่แสบที่แผล สามารถทาได้บ่อย ๆ ไม่เป็นอันตรายเหมือนการใช้สเตียรอยด์เลย อีกทั้งราคาเทียบกับคุณภาพที่ได้ก็คุ้มค่า ซื้อมาลองใช้กันได้สบาย ๆ ค่าา

จุดเด่นคนท้องใช้ทาผิวกันแตกลายระหว่างการตั้งครรภ์ได้
สารบำรุงมอยเจอร์ไรเซอร์, ยูเรีย, วิตามินอี
หลังใช้ส้นเท้านุ่มขึ้น ตาตุ่มและศอกกระจ่างใสขึ้น
เนื้อสัมผัสเนื้อเจลครีม
เหมาะกับใช้ได้กับทุกวัย และสภาพผิว

6. Heel Spa Foot Care Cream

ครีมทาส้นเท้าตัวนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ในยุคนี้ สำหรับ Heel Spa Foot Cream ตัวนี้เป็นสูตรเข้มข้น ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ลดรอยด้านของผิวหนัง หรือผิวที่แห้ง แตก กร้าน อีกทั้งยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยเซลล์ผิวใหม่ให้อ่อนนุ่มขึ้น ส่วนเนื้อครีมก็เป็นเหมือนเนื้อเจล ทาแล้วซึมไว ซึมเข้าผิวได้เร็ว ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้ แต่ก็มีความเข้มข้นมาก ๆ เลยนะ คือถึงจะทาเข้าไป แห้งแล้ว ก็ยังมีความชุ่มชื้นบนผิวอยู่ (มันจะเหมือนเคลือบผิว ไม่ให้ผิวแห้งอ่ะ) กลิ่นก็ดี ไม่เหม็น หอมเลยแหละ

ส่วนตัวมันเวิร์กมากเลยนะ เพราะเคยลองทาทั้งโลชั่น ทาครีม แล้วเอาไม่ค่อยอยู่ แต่ตัวนี้ไม่เยิ้ม ไม่เหนอะ ทาแล้วใส่รองเท้า เท้าก็ไม่ลื่น ใส่รองเท้าเปิดส้นได้อย่างมั่นใจเลยจ้า ส่วนผสมหลัก ๆ ของเค้า คือ Urea ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว และช่วยให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดออก พร้อมทั้งมี Panthenol หรือวิตามิน B5 มาช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว ตามด้วยวิตามิน E ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ และ Allantoin ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวกับทำให้ผิวเรียบเนียน สุดท้าย Glutamic acid เป็น moisturizer จากธรรมชาติ สามารถทำให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี คือส่วนผสมเยอะมากกก แต่ราคาไม่แพงเลย สงสัยต้องจัดกันแล้วล่ะค่าสาวววว

จุดเด่นซึมง่ายมาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ
สารบำรุงUrea, Panthenol Vitamin B5, Tocopheryl Acetate Vitamin E, Allantoin, Glutamic acid
หลังใช้ซึมเข้าสู่ผิวทันที ไม่ทำให้เท้าเหม็น ผิวส้นเท้าเริ่มนุ่มขึ้น ไม่แห้งแตกลอก
เนื้อสัมผัสเนื้อเจลใส
เหมาะกับเหมาะกับทุกสภาพผิว


7. Skin Softener Giffarine

กิฟฟารีน สกิน ซอฟเทนเนอร์ แค่ชื่อยี่ห้อก็ว่างใจกันได้แล้วใช่ไหมล้าาา โดยครีมทาส้นเท้าแตกตัวนี้ เวลาที่ยิ่งทาจะยิ่งรู้สึกฟินมากกก เพราะเวลาใช้ไปเรื่อย ๆ จะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจริง ๆ นะทุกคน ยิ่งใครเท้าแข็ง ๆ ด้าน ๆ มาที่ควรใช้ให้ไวเลย อีกทั้งนอกจากเค้าจะช่วยให้เท้านิ่มลงแล้ว ยังช่วยทำให้ผิวเท้ากระจ่างใส ลดรอยหมองคล่ำได้ดีอีกด้วย หรือถ้าไม่อยากจะทาส้นเท้าแตก ก็ยังทาบริเวณ ตาตุ่ม หัวเข่า หรือข้อศอก ก็ได้นะ จะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ 7 วันแรกที่ใช้เลยแหละทุกคน แต่ต้องมีวินัยในตัวเองกันด้วยนะถ้าอยากได้เท้านิ่ม ๆ ก็ต้องหมั่นทาเป็ประจำเช้าเย็นได้ยิ่งดีเลยเธอออ

และเจ้าตัวนี้ เค้าค่อนข้างมีเนื้อครีมที่เข้มข้นมาก เพราะมีมอยเจอร์ไรเซอร์ที่บำรุงได้อย่างล้ำลึก เท่านั้นยังไม่พอ ยังมี Urea, วิตามิน E ที่มาช่วยกันบำรุงผิวเท้าให้ชุ่มชื้น และยังสามารถช่วยลดเลือนจุดด่างดำ หรือทำให้ส้นเท้าของสาว ๆ ขาวขึ้นได้ และขอแนะนำกันนิดหนึ่ง ตอนก่อนนอนให้พอกหนา ๆ ประโคมไปเลยแล้วใส่ถุงเท้านอน เพื่อช่วยเสริมการบำรุง รวมถึงไม่ทำให้ผ้าปูเตียงของเราเหนียวเหนอะจากครีมอีกด้วย ส่วนแพ็กเกจจิ้งก็ดูทันสมัย น่าใช้ ก็สาว ๆ ที่ชอบของดีไซน์ใหม่ ๆ ต้องจัดครีมทาเท้ากิฟฟารีนกันเลยค่า

จุดเด่นเห็นผลเร็วภายใน 7 วัน
สารบำรุงUrea, Vitamin E, Deep Moisturizer, Alternifolia (Tea Tree) Oil, Arginine, Fragrance
หลังใช้ส้นเท้านิ่มและขาวขึ้น
เนื้อสัมผัสเนื้อครีมเข้มข้น
เหมาะกับทุกสภาพผิว คนที่ต้องการเห็นผลไว ๆ

8. Finale Footsoft Cream

ฟินาเล่ ฟู้ทซอฟท์ ครีม ครีมทาส้นเท้าสำหรับส้นเท้าที่แห้ง แตก หยาบกร้าน กู้ผิวที่แตกยับได้ทุกระดับ ทุกเลเวล น้องเค้าปราบได้หมดค่ะ โดยตัวเนื้อครีมมีสีขาว ไม่ข้นมาก ไม่เหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวง่าย และรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ผิวนุ่มขึ้น ผิวที่แตกตื้นขึ้นภายใน 3 วัน คือไวมากกก อีกทั้งยังช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยน ไม่กัดผิวในระยะยาว กลิ่นก็หอมอ่อน ๆ นะ ไม่แรงมาก เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย ต้องการความแห้งซึมไว ๆ และยังสามารถใช้กับบริเวณผิวหนังที่หนาบริเวณอื่นได้ด้วย เช่น ข้อศอก เข่า เพื่อให้ผิวนุ่มเนียน ชุ่มชื้นยาวนาน น่าสัมผัสมากยิ่งขึ้นไปอีกค่าา

และส่วนผสมหลัก ๆ ก็จะเป็น สารสกัดพอทูลากา(Portulaca) ช่วยในการสมานผิวที่แห้งแตก ลดการอักเสบ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และยังมี Urea กับ Sodium PCA ซุปเปอร์มอยส์เจอไรเซอร์ มาเติมเต็มความชุ่มชื้นได้แต่ครั้งแรกที่ทา ส่วน Squalene ก็กักเก็บน้ำในผิวได้อย่างยาวนาน ตามด้วย Allantoin กับ Salicylic acid และ Lactic acid มาช่วยซ่อมแซมผิว เร่งการผลัดเซลล์ผิวและการสร้างเซลล์ผิวใหม่ สุดท้ายด้วย วิตามิน A, C, E, F ในอนุภาคนาโนซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ให้ผิวกระจ่างใส ก็อัดแน่นไปด้วยสารสกัดขนาดนี้ก็ต้องตำมาซักหลอดแล้วมั้ยละซิส

จุดเด่นแห้งไว ซึมเข้าสู่ผิวง่าย
สารบำรุงUrea, Sodium PCA, Squalene, Allantoin, Salicylic acid, Lactic acid
หลังใช้รอยแตกค่อย ๆผสานกันได้ดีขึ้น ผิวชุ่มชื้นขึ้น
เนื้อสัมผัสเนื้อครีมข้น
เหมาะกับทุกสภาพผิว

9. Polka Cracked Heel Cream

มาถึงตัวที่ใช้บ่อยสุด ๆ แบบเรียกได้ว่าขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ “พอลก้า แคร็ก ฮีล ครีม” ครีมทาเท้าที่จะช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวอ่อนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและปรับสภาพสีผิวใหม่ให้ขาวขึ้น อีกทั้งยังเป็นครีมที่ช่วยคงความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากความหยาบกร้าน ด้วยประสิทธิภาพพิเศษของเจ้า Phehydran ซึ่งเป็น Natural Moisturizer ที่ประกอบไปด้วยแร่ธาตุและสารสกัดจากสาหร่ายทะเลหลากหลายชนิด จึงช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำบนผิวและดูดซับน้ำไว้ใต้ผิวได้เป็นเวลนาน นั่นจึงทำให้ผิวเท้าของสาว ๆ คงความยืดหยุ่นและกลับมาอ่อนนุ่ม เรียบเนียนได้อีกครั้งค่ะ

แต่ต้องบอกก่อนเลยนะว่า เนื้อสัมผัสของครีมตัวนี้เค้าค่อนข้างเข้มข้นแหละหนืดอยู่พอตัว จึงเหมาะสำหรับทาก่อนนอนอย่างเดียว ไม่เหมาะที่จะทาตอนเช้า ส่วนกลิ่นเค้าก็หอมอ่อน ๆ จาก Shea Butter และยังช่วยรักษาน้ำในผิวให้คงอยู่นาน ช่วยไม่ทำให้ผิวแห้ง แตก แถมยังมี AHA ที่มาช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออก พร้อมกับโชว์ผิวเท้าใหม่ให้เปล่งปลั่งสดใสด้วยนะ และขอแนะนำว่าตอนทาให้ทาวน ๆ ไปที่ส้นเท้าหรือข้อศอก จะทำให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ไวยิ่งขึ้น บอกเลยว่าใช้ไปสักพักจะเห็นผลได้อย่างชัดเจน ส้นเท้าจะไม่ด้านดำเหมือนแต่ก่อนแล้วจ้า

จุดเด่นกลิ่นหอมอ่อน ๆ
สารบำรุงPheohydrane, Shea Butter, Vitamin E Acetate, Vitamin B3,AHA
หลังใช้ผิวที่ส้นเท้าจากที่แข็ง ๆก็ค่อย ๆนิ่มขึ้น สีผิวดูสม่ำเสมอ
เนื้อสัมผัสเนื้อครีมขาวข้น ค่อนข้างหนืด
เหมาะกับทาเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น

10. Dermal Therapy Heel Balm

10. Dermal Therapy Heel Balm

ราคาโดยประมาณ 290 บาท

ครีมทาส้นเท้านำเข้าอีกหนึ่งตัวที่ได้รับความสนใจกันมากมาย นั้นก็คือ Dermal Therapy Heel Balm จากออสเตรเลีย โดยตัวครีมจะเหมาะกับการใช้ที่ผิวหนังส้นเท้า ที่แห้ง แตก และแข็งหนา โดยเค้าจะมาช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ให้อ่อนนุ่มขึ้น ส่วนตัวครีมจะมีส่วนผสมของยูเรีย 25% จึงเหมาะที่จะใช้รักษาส้นเท้าที่แตกมากจนถึงมากที่สุด สาว ๆ ที่ส้นเท้าแตกขั้นสุด ควรมีติดบ้านไว้สักหลอด บอกเลยถ้าได้ใช้ได้ทุกวันจะทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวนุ่มขึ้นและเนียนภายใย 3 วันเลยนะ

อีกทั้งด้วยประสิทธิภาพเฉพาะของ Saccharide Isomerate ที่จะช่วยให้ผิวหนังมีความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้น และ Portulaca Extract ที่อุดมไปด้วยกรดไขมันธรรมชาติที่จำเป็น จึงมาช่วยเพิ่มความแข็งแรงของไขมันที่ผิวหนังชั้นนอก ทำให้สามารถที่คงความชุ่มชื้นได้ดี ส่วนเนื้อครีมก็ค่อนข้างเหลวแต่ก็เข้มข้น ทาง่ายมาก ๆ ซึมก็เร็ว แต่กลิ่นไม่หอมเท่าไหร่ ยิ่งทาติดกัน 2-3 วันนะ เธอเอ๊ยย ส้นเท้ามันนิ่มขึ้นจริง ๆ รอยแตกที่ส้นเท้าก็เริ่มตื้นขึ้น ทาติดกันประมาณอาทิตย์หนึ่งก็ได้ผลที่พอใจเลยล่ะ แต่ด้วยการที่เป็นของนำเข้า จึงมีราคาที่ค่อนข้างแพงอ่ะจ๊ะ เซ็งเนาะ

จุดเด่นเนื้อครีมเกลี่ยง่าย กลิ่นไม่แรง เห็นผลไวใน 3 วัน
สารบำรุงAqua, Urea, Lanolin, Cetearyl Alcohol, Paraffinum Liquidum, Paraffin, Butyrospermum Parkii (Shea Butter)
หลังใช้ส้นเท้าที่แตกดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด, ผิวส้นเท้าบางและนิ่มขึ้น
เนื้อสัมผัสเนื้อครีม
เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะส้นเท้าแตกหนักมาก

เป็นยังไงกันบ้างคะ หลังจากที่ได้เห็นรีวิว “ครีมทาเท้า” ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วถึง 10 ยี่ห้อ 10 หลอดด้วยกัน ไม่ทราบว่าสาว ๆ สนใจ อยากจะซื้อยี่ห้อไหน หลอดไหน ไปใช้ทาส้นเท้าแตก ไปใช้ทาบำรุงผิวเท้า ให้มีสุขภาพดี ลดรอยแตก ลดความแห้งกร้านกันบ้างคะ ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ก็มีทั้งยี่ห้อของนอกอย่าง ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ที่มีราคาค่อนข้างแพงกว่า รวมถึงมียี่ห้อของไทยที่บางยี่ห้อก็ถูกมากกกกก หลอดล่ะไม่ถึงร้อย ซื้อใช้ง่ายสบายกระเป๋ากันด้วย ยังไงตอนเลือกซื้อก็อย่าลืมดูงบประมาณและความต้องการของตนเองกันด้วยเนาะ สุดท้ายก็ขอให้ได้ครีมทาเท้าที่ถูกใจ ใช้แล้วตอบโจทย์ อาการเท้าแตก ส้นเท้าแตก ส้นเท้าแห้งกร้าน ลดลง มีความสุขกับผิวเท้ากันด้วยค่าา


0 0 votes
Article Rating
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments