จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ

รูปภาพปกบทความ จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ

จักรยานไฟฟ้า (Electric Bicycle) เป็นอีกหนึ่งพาหนะที่น่าจะตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลกที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน เป็นจักรยานที่มีมอเตอร์สำหรับช่วยทุ่นแรงในการปั่น ในส่วนของแหล่งพลังงานไฟฟ้านั้นมาจากแบตเตอรี่ ซึ่งสามารถชาร์จได้หลายครั้ง ช่วยลดการปล่อยไอเสียที่เป็นพิษแก่โลกของเรา นอกจากนี้ยังสามารถสลับโหมดมาปั่นเหมือนจักรยานทั่วไปได้อีกด้วย แล้วบางรุ่นก็ได้รับการพัฒนาให้มีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจอย่าง Cruise Control, รีโมทล็อคกันขโมย, Combi Break สามารถวิ่งได้ไกลถึง 40 – 80 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง แล้วเราจะเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ในบทความนี้เรามีคำตอบค่ะ



วิธีการเลือก จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

วิธีการเลือก จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

1.เลือกดูสเปคของมอเตอร์ กำลัง Watt สูงไหม ความเร็วสูงสุดที่ทำได้เท่าไหร่ จะส่งผลต่อการขับขี่ที่รวดเร็ว กำลัง Watt ที่มากขึ้นก็จะทำให้การขับขึ้นบริเวณที่ลาดชันทำได้ดีขึ้น แต่ถ้ามีความชันมาก ๆ ก็คงจะไม่ไหวนะคะ

2.เลือกดูสเปคแบตเตอรี่ ใช้เวลาในการชาร์จเท่าไหร่ เมื่อชาร์จแบตเต็มสามารถวิ่งได้ระยะทางเท่าไหร่ จะได้รู้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือไม่ ต้องชาร์จบ่อยไหม หากชาร์จบ่อยเกินไป อาจส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ ถ้ามีรุ่นที่แบตใหญ่ ๆ เยอะ ๆ ถอดแบตง่าย หาซื้อแบตง่าย มองไว้เป็นตัวเลือกแรก ๆ ก็ดีนะคะ

3.เลือกดูฟังก์ชั่นอย่างเสริมอย่าง ตัวจักรยานไฟฟ้าสามารถพับได้ไหม, มีที่ซ้อนด้านหลังหรือเปล่า, สลับโหมดไปปั่นแบบปกติได้ในทันทีไหม เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน และตอบทุกโจทย์ความต้องการของเรากันนะคะ

4.อย่าลืมตรวจเช็คน้ำหนักที่รองรับได้ก่อน หากคุณหรือคนในบ้านเป็นคนตัวใหญ่น้ำหนักมาก ต้องตรวจสอบจุดนี้ให้ดีน้า เพราะหลายรุ่นจะรองรับผู้ขับขี่เพียงแค่ 100 กิโลกรัม แต่บางรุ่นก็รับได้มากถึง 180 กิโลกรัมเลยทีเดียว สำหรับรุ่นที่มีเบาะสำหรับผู้ซ้อนท้าย อย่าลืมนับน้ำหนักคนซ้อนด้วยนะคะ


ตารางเปรียบเทียบรีวิว “จักรยานไฟฟ้า” ยี่ห้อไหนดี

อยากดูข้อมูลสินค้าแต่ละยี่ห้อแบบสรุป อ่านง่าย วางเรียงเปรียบเทียบสเปค ความเร็ว แบตเตอรี่ ราคา และอื่น ๆ ช่วยให้เปรียบเทียบได้ง่ายขึ้น ประหยัดเวลาในการอ่าน แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มด้านล่างได้เลยค่ะ



1. AIMA

ราคาโดยประมาณ 14,900 บาท

จักรยานไฟฟ้า AIMA เรียกได้ว่าเป็นอีกยี่ห้อที่เหมาะกับคุณแม่บ้านสำหรับใช้ในการปั่นไปจับจ่ายซื้อของที่ตลาดเป็นอย่างยิ่ง แถมยังมีให้เลือกใช้ในหลากหลายสีสัน โดยบริเวณด้านหน้ารถมีตะกร้าใส่ของ และมีเบาะนั่งด้านหลังสำหรับซ้อนท้ายได้อีก 1 คน สามารถรองรับน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 180 กิโลกรัม อีกทั้งยังมีระบบอื่น ๆ ที่ทางผู้ผลิตได้ใส่เพิ่มมาให้ด้วย ได้แก่

– ระบบ Cruise Control ซึ่งเป็นระบบขับขี่อัตโนมัติ ช่วยปรับเกียร์ให้ผู้ขับขี่เองเลย
– ระบบ Safety โดยมีการใส่เซ็นเซอร์สัญญาณกันขโมยไว้ และมีรีโมทล็อคกันขโมยมาให้ด้วย
– ระบบ Combi Break ช่วยกระจายแรงเบรคทั้งล้อหน้าและล้อหลังให้เหมาะสม

นอกจากนี้ที่ตัว AIMA ยังมีหน้าจอแจ้งเตือนปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือแสดงผลอยู่บริเวณด้านหน้า เพื่อให้ผู้ปั่นสามารถตรวจเช็คได้อย่างชัดเจน ภายในใช้มอเตอร์ 350 วัตต์ ซึ่งใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็มอยู่ที่ประมาณ 8-10 ชั่วโมง และสามารถวิ่งรถได้ไกลต่อเนื่องที่ 40 กิโลเมตร สำหรับในกรณีที่แบตเตอรี่หมดระหว่างทาง สามารถเปลี่ยนมาปั่นจักรยานแบบปกติได้ด้วย

ขนาดล้อ14 นิ้ว
มอเตอร์ไฟฟ้า350 วัตต์
ความเร็วสูงสุด35 กม. / ชม.
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม8-10 ชั่วโมง
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม40 กม.
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้180 กก.
มีที่ซ้อนด้านหลัง
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้
พับได้

2. LULAE รุ่น V1

อีกหนึ่งรุ่นที่อยากแนะนำสำหรับใครที่อยากซื้อให้คุณพ่อคุณแม่ใช้ปั่นไปไหนใกล้ ๆ คือ จักรยานไฟฟ้า LULAE รุ่น V1 ที่มีคุณสมบัติต่าง ๆ คล้ายคลึงกับยี่ห้อด้านบนอย่าง AIMA เลย แต่จำหน่ายในราคาที่ย่อมเยากว่า มีตะกร้าใส่สัมภาระอยู่ด้านหน้ารถ บริเวณที่วางเท้าสามารถวางสิ่งของได้เพิ่มด้วย และมีเบาะซ้อนท้ายด้านหลัง ทำให้สามารถโดยสารได้ทั้งหมด 2 คน รวมน้ำหนักทั้งหมดที่สามารถรองรับได้อยู่ที่ 180 กิโลกรัม

มีล้อขนาด 14 นิ้ว ภายในใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบกันน้ำขนาด 350 วัตต์ โดยใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 8-10 ชั่วโมง ซึ่งจะสามารถวิ่งได้ไกล 40 กิโลเมตร สามารถเปลี่ยนความเร็วได้ทั้งหมด 3 ระดับ เบรกรถด้านหน้าและหลังที่ติดตั้งมาให้เป็นแบบดรัมเบรก และมีระดับความชันที่สามารถไต่ขึ้นเนินได้อยู่ที่ 30 องศา ข้อเสียที่พบ คือ LULAE V1 รุ่นนี้ไม่สามารถใช้ปั่นเหมือนจักรยานปกติในกรณีที่แบตเตอรี่หมดกะทันหันได้ ดังนั้นควรมีการตรวจเช็คปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือทุกครั้งก่อนปั่นจักรยานเสมอ

ขนาดล้อ14 นิ้ว
มอเตอร์ไฟฟ้า350 วัตต์
ความเร็วสูงสุด25-30 กม. / ชม.
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม8-10 ชั่วโมง
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม40 กม.
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้180 กก.
มีที่ซ้อนด้านหลัง
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้
พับได้

3. Jinsihou

3. จักรยานไฟฟ้า ยี่ห้อ Jinsihou

ราคาโดยประมาณ 7,790 บาท

จักรยานไฟฟ้า Jinsihou ถูกออกแบบออกให้ดูคล้ายมอเตอร์ไซค์คันเล็ก มาพร้อมกับรีโมทอัจฉริยะที่จะทำงานร่วมกับชิป E-DRIVES เพื่อช่วยล็อครถของเรา และช่วยป้องกันการโจรกรรม ความสูงของเบาะนั่งสามารถปรับให้พอดีกับขนาดตัวผู้ขับขี่ที่ระยะ 70 – 80 เซนติเมตร ความเร็วของรุ่นนี้จะอยู่ที่ 20-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยสามารถปรับระดับความเร็วในการขับขี่ได้ทั้งหมด 3 ระดับ

ด้านในใช้มอเตอร์ขนาด 450 วัตต์ แรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 48 โวลต์ ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 10 ชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดอยู่ที่ 80 กิโลเมตรเลยทีเดียว บริเวณด้านหลังมีเบาะซ้อนท้ายทำให้สามารถโดยสารเพิ่มได้อีก 1 คน รวมน้ำหนักทั้งหมดที่สามารถรองรับได้อยู่ที่ 180 กิโลกรัม และสามารถขับขึ้นเนินได้ที่ระดับความชัน 20 องศา ข้อเสียที่พบคือหากแบตเตอรี่หมดระหว่างทาง จะไม่สามารถเปลี่ยนมาปั่นแบบปกติได้ ซึ่งเป็นข้อเสียเดียวกับรถยี่ห้อ LULAE รุ่น V1 นั่นเอง

ขนาดล้อ14 นิ้ว
มอเตอร์ไฟฟ้า450 วัตต์
ความเร็วสูงสุด30 กม. / ชม.
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม8-10 ชั่วโมง
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม40-80 กม.
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้180 กก.
มีที่ซ้อนด้านหลัง
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้
พับได้


4. G-Force รุ่น G14

มาดูรุ่นที่มีดีไซน์เรียบ เก๋ ดูทันสมัย เหมาะสำหรับวัยรุ่นกันบ้าง ขอแนะนำเป็นจักรยานไฟฟ้า G-Force รุ่น G14 ซึ่งเป็นรุ่นที่ตัวโครงรถใช้วัสดุแข็งแรงพ่นด้วยสเปรย์แมตสีขาวและเทา มีล้อแม็กขนาด 14 นิ้วที่ใช้วัสดุเป็น Magnesium Alloy ทำให้ตัวรถรุ่นนี้ออกมาดูพรีเมี่ยม สวย และยังดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร ภายในใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 450 วัตต์ และมีแรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ สามารถวิ่งไปได้ไกลกว่า 40 กิโลเมตร

ระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่เต็มอยู่ที่ประมาณ 4-6 ชั่วโมงเท่านั้น บริเวณด้านหลังมีเบาะนั่งสำหรับโดยสารได้อีก 1 คน โดยสามารถรองรับน้ำหนักสูงสุดของผู้โดยสารได้ทั้งหมด 150 กิโลกรัม กรณีแบตเตอรี่หมดระหว่างทาง สามารถกลับมาปั่นแบบปกติเสมือนกำลังปั่นจักรยานทั่ว ๆ ไปได้เลย นอกจากนี้ G-Force G14 รุ่นนี้ยังสามารถพับเก็บได้ด้วย ยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการพกพา และสามารถนำขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสได้สบาย ๆ เลย

ขนาดล้อ14 นิ้ว
มอเตอร์ไฟฟ้า400 วัตต์
ความเร็วสูงสุด25 กม. / ชม.
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม4-6 ชั่วโมง
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม40 กม.
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้150 กก.
มีที่ซ้อนด้านหลัง
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้
พับได้

5. JIESUQI รุ่น Mini

จักรยานไฟฟ้า JIESUQI Mini เป็นอีกรุ่นที่มีดีไซน์เท่มาก โดยตัวโครงรถใช้วัสดุเป็นเหล็กชุบโครเมี่ยม เคลือบด้วยสีพื้นดำ แล้วตัดด้วยลายกราฟิกสีแดง ทำให้ JIESUQI Mini รุ่นนี้ออกมาในแนวสปอร์ตเท่ แถมยังมีรีโมทล็อคกันขโมยมาให้ด้วย บริเวณแฮนด์จักรยานมีแท่นวางโทรศัพท์พร้อมที่ชาร์จ สามารถชาร์จโทรศัพท์จาก JIESUQI Mini รุ่นนี้โดยตรงได้เลย พร้อมทั้งมีจอแสดงปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือแบบ LCD ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

บริเวณล้อหน้าและล้อหลังมีโช้คกันกระแทกติดตั้งมาให้ด้วย ช่วยให้การปั่นเป็นไปอย่างนุ่มนวลแม้จะต้องเจอกับพื้นถนนที่ขรุขระก็ตาม ด้านหน้ารถมีไฟหน้าช่วยส่องถนนให้สว่าง รวมถึงไฟหลังช่วยส่งสัญญาณให้รถคันอื่น ๆ ที่ขับตามมาสามารถมองเห็นเราได้ชัดเจน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกรณีปั่นเวลากลางคืนด้วย นอกจากนี้เบาะนั่งซ้อนท้ายยังสามารถถอดออกได้หากไม่ต้องการใช้งาน ตัวแบตเตอรี่ก็สามารถถอดออกมาเพื่อนำไปชาร์จไฟภายในบ้านได้เช่นกัน รวมถึงยังสามารถพับเก็บได้ถึง 3 ท่อนอีกด้วย เรียกว่า JIESUQI Mini เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ใช้งานได้สะดวกมากจริง ๆ

ขนาดล้อ12 นิ้ว
มอเตอร์ไฟฟ้า250 วัตต์
ความเร็วสูงสุดN/A
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม5-8 ชั่วโมง
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม25-30 กม.
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้100 กก.
มีที่ซ้อนด้านหลัง
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้
พับได้

6. HIMO รุ่น C20

จักรยานไฟฟ้าแบบพับได้อีกรุ่นที่น่าสนใจ คือ HIMO รุ่น C20 ที่ถูกออกแบบมาในดีไซน์เรียบสวยในโทนสีขาวและเทา มีชุดเกียร์ที่สามารถปรับความเร็วได้ทั้งหมดถึง 6 สปีด โดยสามารถเช็คสถานะต่าง ๆ ของ HIMO C20 คันนี้ได้จากหน้าจอ LCD ที่ถูกติดตั้งอยู่ที่แฮนด์จักรยานได้เลย นอกจากจะแจ้งสถานะเกียร์ที่ใช้งานอยู่ปัจจุบันแล้ว ยังช่วยแสดงสถานะความเร็วของรถ และปริมาณแบตเตอรี่คงเหลืออีกด้วย

ภายในใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 250 วัตต์ ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จเต็มประมาณ 6 ชั่วโมง โดยจะสามารถปั่นต่อเนื่องได้ไกลกว่า 55 กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อานนั่งสามารถรองรับน้ำหนักของผู้ปั่นได้ 100 กิโลกรัม ทั้งยังถูกออกแบบมาให้เป็นที่สูบลมในตัวด้วย โดยสามารถถอดอานนั่งออกมาใช้เติมลมให้ล้อจักรยานในเวลาที่ต้องการได้เลย กรณีแบตเตอรี่หมดระหว่างทาง สามารถเปลี่ยนมาใช้โหมดปั่นแบบปกติได้

ขนาดล้อN/A
มอเตอร์ไฟฟ้า250 วัตต์
ความเร็วสูงสุด25 กม. / ชม.
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม6 ชั่วโมง
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม55 กม.
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้100 กก.
มีที่ซ้อนด้านหลัง
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้
พับได้


7. SKG รุ่น SK-48V333

จักรยานไฟฟ้า SKG SKG SK-48V333 จะมีขนาดล้อ 14 นิ้ว ที่มาพร้อมรีโมทสำหรับล็อคล้อรถจักรยานไฟฟ้า และมีการติดตั้งเซ็นเซอร์กันขโมยที่ตัวรถมาให้ด้วย เบาะนั่งสูงประมาณ 10 เซนติเมตร สามารถปรับสูงขึ้นหรือต่ำลงให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ปั่นได้ ด้านหน้าและด้านหลังรถมีไฟส่องสว่างติดตั้งไว้ให้ อีกทั้งยังมีระบบดรัมเบรกใส่มาที่ล้อหน้าและล้อหลัง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นด้วย

รถ SKG SK-48V333 รุ่นนี้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 350 วัตต์ ทำงานร่วมกับแรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ โดยใช้ระยะเวลาในการชาร์จไฟเต็มประมาณ 6-8 ชั่วโมง ซึ่งความเร็วสูงสุดที่สามารถทำได้คือ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถปรับระดับความเร็วได้ 3 ระดับ และสามารถปั่นต่อเนื่องได้ไกลประมาณ 40 กิโลเมตร มีเบาะด้านหลังซ้อนท้ายได้อีก 1 คน รวมน้ำหนักที่สามารถรองรับได้ทั้งหมดคือ 180 กิโลกรัม ในกรณีที่ไม่ต้องการใช้โหมดไฟฟ้า สามารถเลือกโหมดปั่นจักรยานแบบปกติเพื่อออกกำลังขาได้ด้วย

ขนาดล้อ14 นิ้ว
มอเตอร์ไฟฟ้า350 วัตต์
ความเร็วสูงสุด40 กม. / ชม.
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม6-8 ชั่วโมง
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม40 กม.
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้180 กก.
มีที่ซ้อนด้านหลัง
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้
พับได้

8. Xiaomi Qicycle รุ่น TDP02Z

มาถึงรถจักรยานไฟฟ้าสไตล์มินิมอลจาก Xiaomi รุ่น Qicycle TDP02Z Electric Bike กันบ้าง ถูกออกแบบมาในโทนสีเทาเข้มเรียบ ๆ เหมาะสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มีล้อไซซ์ใหญ่ขนาด 20 นิ้ว เชื่อมต่อกับโครงรถส่วนกลางที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์ ทำให้ถึงแม้ Xiaomi Qicycle TDP02Z รุ่นนี้จะมีขนาดใหญ่กว่ายี่ห้ออื่นเล็กน้อย แต่กลับมีน้ำหนักเบากว่า คล่องตัว เคลื่อนย้ายสะดวก และเหมาะสำหรับใช้ขับขี่ในตัวเมืองเป็นอย่างดี

Xiaomi Qicycle TDP02Z รุ่นนี้มีโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมดด้วยกัน ได้แก่ โหมดไฟฟ้า โหมดกึ่งไฟฟ้าที่สามารถปั่นไปพร้อม ๆ กับให้รถจักรยานเคลื่อนที่เองด้วยไฟฟ้าไปด้วยได้ และโหมดธรรมดาที่เราสามารถเลือกใช้โหมดนี้ในกรณีที่ต้องการปั่นจักรยานแบบปกติเพื่อออกกำลังกายได้ด้วย บริเวณแฮนด์รถมีจอแสดงข้อมูลระดับความเร็วของการขับขี่ในขณะนั้น และปริมาณแบตเตอรี่ปัจจุบัน โดยหน้าจอจะมีการปรับระดับความสว่างให้เหมาะสมกับสายตาของผู้ปั่นจักรยานได้เองอัตโนมัติ ทำให้ในเวลากลางวันก็สามารถมองเห็นจอได้อย่างชัดเจน และไฟสว่างที่จอจะถูกปรับให้อยู่ในระดับที่กำลังพอดีในเวลากลางคืน ไม่รบกวนสายตาจนเป็นอุปสรรคในการปั่นด้วย

ขนาดล้อ20 นิ้ว
มอเตอร์ไฟฟ้า180 วัตต์
ความเร็วสูงสุด25 กม. / ชม.
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม4 ชั่วโมง
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม40 กม.
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้100 กก.
มีที่ซ้อนด้านหลัง
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้
พับได้

9. DYU รุ่น S2 E-bike

รถจักรยานไฟฟ้า DYU รุ่น S2 E-bike ถูกออกแบบมาในดีไซน์ที่ดูแปลกตา ไม่เหมือนใคร โดยตัวโครงส่วนกลางของรถจักรยานทางผู้ผลิตเน้นใช้ลายเส้นโค้งมน ทำให้ตัว DYU S2 รุ่นนี้ดูโฉบเฉี่ยว และเพิ่มความเท่ดุดันด้วยการใช้วัสดุเป็นโทนสีดำทั้งคัน มีขนาดกะทัดรัด สามารถพับเก็บได้ นอกจากนี้วัสดุทั้งหมดยังสามารถกันน้ำได้ในระดับ IP54 อีกด้วย ดังนั้นแม้จะต้องปั่น DYU S2 คันนี้ลุยฝน ก็ไม่ต้องกังวลเลยว่าส่วนใดจะเกิดความเสียหาย แต่ยังคงไม่สามารถปั่นลงบริเวณที่มีน้ำท่วมสูง มีสิทธิ์พังได้นะคะ

ภายในใช้มอเตอร์ขนาด 250 วัตต์ มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระบบวิ่งอัตโนมัติ (Cruise Control) โดยเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้วจะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 45 กิโลเมตร บริเวณล้อหน้าและหลังมีระบบ Dual Disc Brake ติดตั้งมาให้ นอกจากนี้ยังออกแบบให้ยางล้อมีความหนาถึง 10 นิ้ว เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและช่วยส่งเสริมให้ DYU S2 รุ่นนี้พร้อมวิ่งในทุกสภาพถนนจริง ๆ โดยสามารถปั่นขึ้นเนินได้ในระดับความชัน 15 องศา พร้อมทั้งปรับเบาะนั่งขึ้นลงให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ปั่นจักรยานได้ด้วย

ขนาดล้อ10 นิ้ว
มอเตอร์ไฟฟ้า250 วัตต์
ความเร็วสูงสุด25 กม. / ชม.
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม4 ชั่วโมง
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม25-45 กม.
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้120 กก.
มีที่ซ้อนด้านหลัง
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้
พับได้

10. LULAE รุ่น V3

รถจักรยานไฟฟ้าของ LULAE อีกหนึ่งรุ่นที่เลือกมาแนะนำคือรุ่น V3 ที่มีการปรับปรุงและพัฒนาสเปกมาจากรุ่น V1 โดยลักษณะภายนอกอาจจะดูคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง มีขนาดล้อเท่ากันที่ 14 นิ้ว ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 350 วัตต์เท่ากัน แต่หลังจากชาร์จไฟให้แบตเตอรี่เต็มแล้วจะสามารถปั่นได้ไกลขึ้นจากเดิมที่สามารถทำได้เพียง 40 กิโลเมตร แต่ใน LULAE V3 นี้จะสามารถทำได้ถึง 68 กิโลเมตรเลยทีเดียว

ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็มจะอยู่ที่ประมาณ 10 ชั่วโมง มีเบาะนั่งซ้อนท้ายได้อีก 1 คน รองรับน้ำหนักได้ทั้งหมด 180 กิโลกรัม สามารถปั่นขึ้นเนินได้ในระดับ 30 องศา และสามารถเลือกโหมดปั่นเสมือนจักรยานปกติธรรมดาได้ด้วยเช่นกัน บริเวณแฮนด์รถมีจอแสดงผลปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือและความเร็วปัจจุบัน โดยสามารถปรับความเร็วของ LULAE V3 ได้ทั้งหมด 3 ระดับ นอกจากนี้ผู้ผลิตยังใส่ปุ่มกดไฟเลี้ยว ไฟด้านหน้า ด้านหลัง และกระจกมองหลังมาให้ใช้งานด้วย

ขนาดล้อ14 นิ้ว
มอเตอร์ไฟฟ้า350 วัตต์
ความเร็วสูงสุด18-25 กม. / ชม.
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม8-10 ชั่วโมง
ระยะทางที่สามารถวิ่งได้เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม68 กม.
น้ำหนักสูงสุดที่สามารถรับได้180 กก.
มีที่ซ้อนด้านหลัง
ปั่นแบบปกติเหมือนจักรยานทั่วไปได้
พับได้

อ่านกันมาจนถึงตรงนี้คงจะได้คำตอบว่าเรา ควรจะเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีใช่ไหมคะ เพราะในบทความนี้ได้รวบรวมรุ่นที่น่าสนใจรวมมาให้แล้ว อย่างยี่ห้อ Lulae เองก็ถือว่ามีจำนวนยอดที่ขายดีมาก ๆ ใน Shopee แถมมีให้เลือกซื้อกันหลายรุ่น เท่าที่แอบไปส่องมามีรุ่น 3 ล้อด้วย น่าจะเหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือมีปัญหาด้านการทรงตัว ส่วน G-Force Xiaomi DYU ก็เป็นแบรนด์ที่ดีไซน์ออกมาได้ดูดี โดดเด่นน่าใช้งาน หรือหามาประดับบ้านแบบเท่ ๆ ก็ไม่ว่ากันค่ะ เวลาซื้อก็อย่าลืมดูคุณสมบัติ และสเปคกันด้วย สุดท้ายแล้วก็ขอให้ได้รุ่นที่โดนใจ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานกันนะคะ



Leave a Comment