หุ ๆๆ ก็ถ้าคลิกเข้ามาอ่านที่บทความนี้ “ทรีทเม้นท์ผม” (Hair Treatment) ยี่ห้อไหนดี แสดงว่า สาว ๆ กำลังมีสภาพเส้นผมที่แห้งเสียกันอย่างหนัก มีเส้นผมที่ชี้ฟู แห้งกร้าน ไม่มีน้ำหนัก จัดทรงกันไม่ได้เลย ใช่ไหมล่ะคะ ?? ก็บอกเลยว่า คลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะที่นี่ ทางเราได้ไปรวบรวม Hair Treatment ยี่ห้อที่น่าสนใจ ยี่ห้อที่เด็ด ๆ ปัง ๆ มีราคาหลากหลาย รวมถึงมีรีวิวดีงาม มาให้ดูกันถึง 10 ยี่ห้อ 10 กระปุกกันเลยทีเดียว และถ้าสาว ๆ ทุกคนได้อ่านเนื้อหากันจนจบล่ะก็ จะต้องอยากซื้อ ไม่ยี่ห้อใดก็ยี่ห้อหนึ่ง ไปใช้จัดการกับปัญหาผมเสียกันอย่างแน่นอน ส่วนจะมียี่ห้ออะไรมาให้ดูกันบ้างนั้น ก็ตามมาเลยค่าา
สารบัญ
ทรีทเม้นท์ผม คืออะไร
ก็ถ้าสาว ๆ รู้จักเจ้าผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมชนิดนี้กันดีอยู่แล้ว ก็ข้ามผ่านหัวข้อนี้ไปได้เลยนะคะ แต่ถ้ายังไม่ชัวร์ อยากอ่านสักหน่อยล่ะก็ ทรีทเม้นท์ผม คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมบำรุงเส้นผมแบบจัดหนัก รวมถึงมีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เข้มข้น ทำให้เวลาใช้มาร์กเส้นผมที่มีปัญหาแล้ว จึงช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผมได้ไวมากก เส้นผมก็มีความนุ่ม สวย รวมถึงมีน้ำหนัก จัดทรงง่าย แลดูสุขภาพดี
อ้าวแล้วแบบนี้ มันแตกต่างจากครีมนวดผมยังไงล่ะ ? ในเมื่อครีมนวดผมก็ช่วยบำรุงเส้นผมได้เช่นกัน ? ก็ถือเป็นความเข้าใจที่เกือบถูก เพราะเอาจริง ๆ แล้ว ทรีทเม้นท์จะสามารถบำรุงเส้นผมได้ดีที่สุด และช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผมได้ดีกว่าครีมนวด แต่ด้วยความที่เนื้อมีความเหนียวและเข้มข้นมาก จึงไม่เหมาะสำหรับการใช้ทุกวันเหมือนครีมนวด ควรจะใช้สัปดาห์ล่ะครั้งถึงสองครั้ง หรือเฉพาะเวลาที่เส้นผมมีปัญหาอย่างรุณแรงเท่านั้นค่ะ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี
ก็เผื่อสาว ๆ คนไหนที่อยากจะเห็นสินค้า Hair Treatment แบบพร้อม ๆ กัน อีกทั้งยังสามารถเลื่อนตารางไปมาซ้ายขวา เพื่อทำการเปรียบเทียบรายละเอีนด, ส่วนผสมบำรุง รวมไปถึงราคากันได้แบบง่าย ๆ ทางเราก็ขอแนะนำให้ลองกดที่ปุ่มด้านล่าง เพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบกันได้เลยค่าา
1. ยี่ห้อ Caring Treatment AHA
ราคาโดยประมาณ 84 บาท ต่อ 250 ml
ยกให้เป็นทรีทเม้นท์ผมหนึ่งในใจ ใช้มาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กใส่คอซองยันกลายเป็นพนักงานออฟฟิศเต็มตัวไปเลยค่ะ สำหรับคุณ Caring Treatment ซึ่งจริง ๆ แล้วทางแบรนด์เค้ามีทรีทเม้นท์ผมหลายสูตร หลายคุณสมบัติอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าให้ฮิตจริง ติดใจกันทั่วหน้าก็ต้องคุณกระปุกเขียวสูตร AHA ตัวนี้เนี่ยแหละ นางเป็นสูตรที่เหมาะสำหรับผมที่ผ่านการดัด ยืด ทำสี โดนเคมีมาจนผมร้องไม่ไหวแล้ว คิดดูแล้วกันขนาดผมเสียจากการทำเคมีเค้ายังสามารถทำให้มันดีขึ้น เหมือนชุบชีวิตได้ขนาดนี้ ผมที่ไม่ได้เสียหนักมากมาใช้จะปังขนาดไหนเคอะ
และคุณคนนี้จัดว่า เป็นทรีทเม้นท์บำรุงเส้นผมสูตรเข้มข้นพิเศษ แต่ราคาน่ารักกันเองแบบสุด ๆ ซื้อใช้กันได้แบบสบาย ๆ มากกก โดยชีก็จะมีส่วนผสมของคอลลาเจน และสารสกัดจากผลไม้ Fruity Acid (หรือ AHA นั่นแหละ) ซึมซาบสู่เส้นผมได้ดี ผมก็นิ่มขึ้น นุ่มลื่น ชุ่มชื้นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ใช้บำรุงผมไปเรื่อย ๆ จะทำให้ผมนุ่มสลวยแข็งแรง มีน้ำหนัก ช่วยปรับสภาพเส้นผมไม่ให้พองฟูหลังการสระไดร์ได้ดี ใครที่ผ่านการทำเคมีมาก็สามารถใช้แทนครีมนวดผมได้ บำรุงหนัก ๆ อัดหนัก ๆ แก้ผมเสียได้แน่นอน และที่สำคัญน้องหอมมากกกก กลิ่นติดผมจริงจังค่า
| จุดเด่น | ผมนิ่มขึ้น นุ่มลื่น ชุ่มชื้นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ กลิ่นหอมมาก ใช้ต่อเนื่องจะทำให้ผมแข็งแรง มีน้ำหนัก ไม่ทำให้ผมฟู |
| สารบำรุง | คอลลาเจน และสารสกัดจากผลไม้ Fruity Acid |
| เทคโนโลยี | ไม่ระบุ |
| เหมาะสำหรับ | ผมที่ผ่านการดัด ยืด ทำสี ทำเคมี |
| สัญชาติ | ไทย |
2. ยี่ห้อ L’Oreal Professionnel NEW SERIE EXPERT ABSOLUT REPAIR GOLDEN MASQUE
ราคาโดยประมาณ 1,035 บาท ต่อ 250 ml
อยากได้อะไรที่มันเวอร์ ๆ เบอร์เต็มเอาแบบเดียวที่ซาลอนชั้นนำ หรือคอร์สสปาผมราคาแรง ๆ เค้าใช้กัน ต้องขอแนะนำให้ลองตำทรีทเม้นท์ผม L’Oreal Professionnel NEW SERIE EXPERT ABSOLUT REPAIR GOLDEN MASQUE ตัวนี้เลยค่ะ คุณคนนี้ไม่ใช่ L’Oreal ธรรมดาที่เราหากันได้ทั่วไปนะ แต่ชีเป็นไลน์ Professionnel ราคาจึงจุกเอาเรื่อง แต่เชื่อเถอะใครผมเสียหนัก ระดับที่กัดผมมา ยืด ดัด ไดร์ไม่หยุด ได้ลองแล้วจะรัก นางเป็นทรีทเม้นท์ผมสูตรทองคำที่สามารถทำให้ผมแห้งเสียลดลงได้ถึง 77% แถมยังเงางามขึ้นถึง 7 เท่า เน้นช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งเสีย ผมสุขภาพดีขึ้น รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ เส้นผมนุ่มสลวย กลับมาดูดีขึ้นได้แน่นอนค่ะ
และสำหรับมาร์กเส้นผมผมทองคำตัวนี้ จะเน้นไปที่คนที่ผมเสียหนักมาก หรือคนที่มีผมเส้นเล็กมากค่ะ อุดมไปด้วยสารสกัดจากควินัวและโปรตีนเข้มข้น ตรงเข้าช่วยไปบำรุงให้เส้นผมแลดูสุขภาพดี เข้าซ่อมแซมผมเสียได้อย่างตรงจุด และยังช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นจริง ผมดูนุ่มสลวย เงางาม ไม่ทำให้ผมหนักด้วยนะ แต่งานดีขนาดนี้ ราคามันก็ต้องสูงตามมาเนอะ แต่ถ้าใครผมเสียหนักมากก็ถือว่าคุ้มค่าค่ะ
| จุดเด่น | มาร์กเนื้อทองคำ / ผมแห้งเสียลดลงได้ถึง 77% / ผมเงางามขึ้นถึง 7 เท่า/ ฟื้นบำรุงผมแห้งเสียให้สุขภาพดีขึ้น รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ |
| สารบำรุง | สารสกัดจากควินัว และโปรตีนเข้มข้น |
| เทคโนโลยี | เอกสิทธิ์เฉพาะใน L’Oreal Professionnel |
| เหมาะสำหรับ | ผมเสียอย่างหนัก หรือคนผมเส้นเล็กมาก |
| สัญชาติ | ฝรั่งเศส |
3. ยี่ห้อ TSUBAKI PREMIUM Repair
ราคาโดยประมาณ 480 บาท ต่อ 180 g
อยากดูแลผมระดับเดียวกับร้านซาลอนชั้นนำ จะพลาดคุณ TSUBAKI ไปได้ยังไง ขนาดกลุ่มทำความสะอาดเส้นผมยังทำให้ผมสวย สุขภาพดีได้ขนาดนี้ แล้วไอเท็มบำรุงผมขั้นสุดอย่างทรีทเม้นท์ผมจะขนาดไหน ต้องขอแนะนำ TSUBAKI PREMIUM Repair โดยเค้าจะเป็นตัวที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลเส้นผมมากเป็นพิเศษ ใครมีปัญหาผมเสียโดยเฉพาะจากการทำเคมีต้องลอง !! ชีจะช่วยทำให้เส้นผมกลับมามีสุขภาพดีขึ้น ช่วยให้เส้นผมดูนุ่มลื่น เรียงเส้นสม่ำเสมอ และดูเงางามได้อยู่ตลอด และยังแก้ปัญหาเรื่องความแห้งฟูไปได้อีกทางหนึ่งค่ะ
และส่วนตัวเลย แล้วช่วงที่กัดผม ฟอกผมบ่อย ๆ จนเส้นผมจะร้องขอชีวิตแล้ว ก็ได้คุณคนนี้มากู้ชีวิตเส้นผมเนี่ยละ จะใช้เป็นทรีทเม้นท์ผมปกติ หมักสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งก็ได้ หรือใครใจร้อนจะใช้แทนครีมนวดผมแบบเราก็ได้ค่ะ หมักทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วล้างออกก็พอ และตัวนี้เค้าจะมีส่วนผสมของคามิเลียออยล์, โปรตีนไข่มุก, แพร, พีช, ลิลลี่หุบเขา, กุหลาบ และรอยัลเจลลี่ มาผสมผสานนวัตกรรมเฉพาะใน TSUBAKI ที่จะช่วยส่งสารอาหารให้เข้าซึมซาบสารบำรุงเส้นผมได้อย่างล้ำลึก ควบคู่กับการกักเก็บสารบำรุงในผมเส้นต่อเส้น จึงช่วยบำรุงให้ผมดูสวย สุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือบอกเลย ถ้ายังไม่รู้จะซื้อ Hair Treatment ยี่ห้อไหนดีล่ะก็ จัด TSUBAKI ก่อนได้เลยค่ะ เลิฟชัวร์ !
| จุดเด่น | กักเก็บสารบำรุงในผมเส้นต่อเส้น/ ส่งสารอาหารให้เข้าซึมซาบสารบำรุงเส้นผมได้อย่างล้ำลึก/ ผมกลับมาสุขภาพดี นุ่มลื่น เงางาม เรียงตัวสวย |
| สารบำรุง | คามิเลียออยล์, โปรตีนไข่มุก แพร พีช ลิลลี่หุบเขา กุหลาบ และรอยัลเจลลี่ |
| เทคโนโลยี | นวัตกรรมเฉพาะใน TSUBAKI |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผม / ผมแห้งเสียจากเคมี และมลภาวะ |
| สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
4. ยี่ห้อ Lolentis hair spa
ราคาโดยประมาณ 98 บาท ต่อ 500 ml
ใครที่ชอบช้อปปิ้ง เข้าร้านอุปกรณ์ทำผม ดูแลผมต่าง ๆ บ่อย ๆ น่าจะคุ้นเคยกับน้องทรีทเม้นท์ผมกระปุกสีฟ้า ขายไวหมดไวตลอดอย่างคุณ Lolentis hair spa ตัวนี้แน่นอนค่ะ ชีถือเป็นทรีทเม้นท์ผมสไตล์สปานาโนรุ่นแรก ๆ และก็ยังเป็นที่นิยมตามร้านทำผมต่าง ๆ ในปัจจุบันค่ะ ซึ่งจุดเด่นอย่างแรกเลยก็คือใช้แล้วเส้นผมหอมมากกกกก เต็ม 10 ให้ 100 ไปเลย คุณคนนี้เป็นกลิ่นดอกไม้หอมละมุนแบบดอกลีลาวดี ยิ่งใช้คู่กับการอบไอน้ำคือปังมากกก ตอบโจทย์ทั้งการฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมให้กลับมาดีขึ้น ผมนิ่ม ชุ่มชื้น แถมผมยังหอมติดตัวไปได้อีกหลายวันเลยค่ะ
มาที่ส่วนผสมกันหน่อย เจ้าตัวนี้เป็นสูตรนาโนวิตามินที่ใส่มาให้แบบจุก ๆ ถึง 5 ชนิด แถมยังเป็นวิตามินแบบ Plus ++ ด้วยนะ ทำให้คุณคนนี้จะตรงเข้าฟื้นบำรุงเส้นผมที่แห้งเสียแตกปลายให้กลับมา นุ่ม ลื่น ชุ่มชื่น มีวอลลุ่ม เงางาม แถมยังช่วยบำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง ลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้อีกด้วย และที่สำคัญน้องค่าตัวถูกมากกกก (เจอโปรดี ๆ ราคาไม่ถึงร้อยค่ะ) หากใครที่เครื่องอบไอน้ำส่วนตัวที่บ้านใช้คุณคนนี้คู่กัน บอกเลยว่ายิ่งคุ้ม ไม่ต้องเสียเงินเข้าซาลอนกันเลยจ้า
| จุดเด่น | บำรุงเส้นผมที่แห้งเสียแตกปลายให้กลับมา นุ่ม ลื่น ชุ่มชื่น มีวอลลุ่ม เงางาม/ หนังศีรษะแข็งแรง/ ลดการหลุดร่วงของเส้นผม/ ราคาถูก |
| สารบำรุง | วิตามินระดับ Plus ++ ชนิด |
| เทคโนโลยี | สูตรนาโนวิตามิน |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผม / ผมแห้งเสียถูกทำลายอย่างหนัก |
| สัญชาติ | ไทย |
5. ยี่ห้อ Dove Advance Keratin Treatment Mask Intense Repair
ราคาโดยประมาณ 320 บาท ต่อ 180 ml x 2
ยกให้เป็นม้ามืดในตำนาน ใครจะไปคิดว่าแบรนด์แมสในตลาดอย่าง Dove จะมีทรีทเม้นท์ผมที่สุดแสนจะปังกรุบ ถูกใจคนผมเสีย ฟื้นผมให้ดีขึ้นมาหนักต่อหนักแล้วอย่าง Dove Advance Keratin Treatment Mask Intense Repair หลายคนบอกเลยว่า คุณคนนี้คือยาแรงที่สามารถซ่อมผมเสียถึงแกนผม ทำเส้นผมที่แห้งไร้น้ำหนัก พันกันยุ่งเหยิงให้กลับมาตรงสวยมีน้ำหนักได้ แถมยังช่วยเสริมเกราะให้ผมสวยแข็งแรงอย่างต่อเนื่องได้อีกด้วยค่ะ
อีกทั้งคุณคนนี้ก็ได้ชื่อว่า เป็นทรีทเม้นท์ซ่อมผมเสียครอบจักรวาลเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าผมจะพังมารูปแบบไหนนางกู้ได้หมด ซึ่งส่วนผสมหลัก ๆ จะเป็นการรวมตัวของสองพลังเข้มข้นอย่าง แอดวานซ์ เคราติน ช็อต และ ไฮโดร ฟิลเลอร์ ที่จะเข้ามาช่วยปกป้องผมจากความร้อนและสารเคมีที่ทำร้ายเส้นผมก่อนเป็นอันดับแรก ไปจนช่วยฟื้นบำรุงผมที่เสียอย่างหนัก เปราะแห้งจนถึงแกนให้กลับมาชุ่มชื้น ดูมีชีวิตชีวาขึ้นได้ อีกทั้งตัวนี้มีผลลัพธ์เทียบเท่าการทำทรีทเม้นท์ผมเคราติน 1 ครั้งเลยนะ เห็นผลจัง ๆ กันตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ราคาก็ไม่ได้แพงมากด้วย ต้องลองเด้อสาว !
| จุดเด่น | เทียบเท่าการทำทรีทเม้นท์เคราติน 1 ครั้ง/ ปกป้องผมจากความร้อนและสารเคมีที่ทำร้ายเส้นผม/ ฟื้นบำรุงผมที่เสีย เปราะแห้งระดับแกนให้กลับมาชุ่มชื้น |
| สารบำรุง | แอดวานซ์ เคราติน ช็อต และ ไฮโดร ฟิลเลอร์ |
| เทคโนโลยี | เอกสิทธิ์เฉพาะใน Dove เน้นด้านการซึมลึกเข้าสู่ผมระดับแกน |
| เหมาะสำหรับ | ผมเสียอย่างหนัก |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
6. ยี่ห้อ DCASH – Detox Preventive Care Treatment Mask
ราคาโดยประมาณ 69 บาท ต่อ 250 ml
ยกให้เป็นแบรนด์ถูกและดีอีก 1 ตัวค่ะ DCASH เอง ซึ่งเค้าไม่ได้มีงานดีงานปังแค่ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมเท่านั้นนะ แต่เรื่องการบำรุง ฟื้นฟูผมต่าง ๆ เค้าก็มาปังไม่แพ้กัน ยิ่งใครที่กำลังมองหาทรีทเม้นท์ผมดี ๆ ที่เน้นการดีท็อกซ์เส้นผมอยู่ อยากให้ลองคุณ DCASH – Detox Preventive Care Treatment Mask ตัวนี้เลยค่ะ โดยคุณสมบัติเค้าจะเน้นเพิ่มความนุ่มลื่น และปกป้องการขาดหลุดร่วงของเส้นผมโดยเฉพาะ ใครที่ผมร่วงบ่อยหรือเส้นผมไม่แข็งแรงในระดับรากต้องโดน !! นอกจากนี้ เค้ายังช่วยป้องกันผมชี้ฟูระหว่างวันได้อีกด้วย ใครผมแห้งจนฟูเป็นสิงโต แนะนำเลยค่ะ
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของคุณ DCASH ก็คือ ช่วยป้องกันการถูกทำลายจากมลภาวะและการทำเคมีกับเส้นผมได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นใครที่ทำสี ดัดผม ยืดผม หรือลงเคมีหนัก ๆ อย่างการฟอกสีผม ซื้อด่วนนนนน ใช้แทนครีมนวดผมไปเลยค่ะ สามารถดีท็อกซ์และฟื้นฟูเส้นผมได้ ซึ่งอาจจะไม่ได้ดีเท่าเดิม แต่ช่วยกู้ผมไม่ให้เสียหนักจนเกินเยียวยาได้แน่นอน อีกทั้งตัวนี้ยังมีกลิ่นหอมสไตล์ Relaxing Spa หอมติดผมมากก อุดมไปด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ ออยล์ วิตามินดูแลผมแบบจัดหนัก ราคาดี ไม่แพง คุ้มค่ามากค่า
| จุดเด่น | เพิ่มความนุ่มลื่น/ ปกป้องการขาดหลุดร่วงของเส้นผม/ ป้องกันผมชี้ฟูระหว่างวัน/ ดีท็อกซ์ ฟื้นฟูเส้นผมจากการทำเคมี |
| สารบำรุง | มอยเจอร์ไรเซอร์ ออยล์ วิตามิน |
| เทคโนโลยี | ไม่ระบุ |
| เหมาะสำหรับ | ผมแห้งเสีย โดนทำลายจากสารเคมี |
| สัญชาติ | ไทย |
7. ยี่ห้อ Aveda Botanical Repair Intensive Strengthening Masque
ราคาโดยประมาณ 1,900 บาท ต่อ 150 ml
ใครเป็นสายติดตามไอเท็มฝั่งเคาน์เตอร์แบรนด์ตัวยงอยู่แล้ว น่าจะต้องคุ้นหน้าคุ้มตากับแบรนด์ดูแลเส้นผมชื่อดังอย่าง Aveda กันเป็นอย่างดี และถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่เส้นผมขาดการดูแลจนพังยับ หรือมีงบเยอะในการดูแลเส้นผมที่เสียแบบระยะสุดท้าย อยากให้ลอง ทรีทเม้นท์ผม Aveda Botanical Repair Intensive Strengthening Masque เพื่อมาใช้ฟื้นเส้นผมของคุณอย่างเร่งด่วนกันค่ะ โดยเค้าจะเป็นมาสก์ผมสูตรเข้มข้น เข้ามาเน้นเรื่องฟื้นฟูเส้นผมให้แข็งแรงโดยเฉพาะ และยังจัดการผมเสียให้ดูอ่อนนุ่มขึ้น เงางาม สุขภาพดีขึ้นได้ค่ะ
ว่าด้วยเรื่องราคามันก็แรงไปหน่อยอะเนอะ แต่สำหรับใครที่อยากลองใช้เค้ามีขนาดทดลองให้ลองใช้อยู่นะ ก็ไปทดลองกันได้ ส่วนส่วนผสมของเขาก็จะมีความเป็นธรรมชาติสูง สูงถึง 93% และยังอุดมไปด้วย sacha inchi, avocado และ green tea มาพร้อมกับ Vitamins, AHAs, BHAs/Salicylic Acid, Anti-oxidants ที่ทั้งหมดจะมารวมพลังช่วยกันฟื้นฟูเส้นผมแบบจัดหนักมากก อีกทั้ง Aveda เขายังไม่มีส่วนผสมของ Paraben อีกด้วย ก็เหมาะกับทุกสภาพหนังศีรษะกันเลยค่าา
| จุดเด่น | มาสก์ผมสูตรเข้มข้น / ฟื้นฟูผมให้แข็งแรงโดยเฉพาะ/ จัดการผมเสียให้ดูอ่อนนุ่มขึ้น เงางาม สุขภาพดีขึ้นได้ |
| สารบำรุง | sacha inchi/ avocado/ green tea/ Vitamins/ AHAs/ BHAs /Salicylic Acid/ Anti-oxidants |
| เทคโนโลยี | เอกสิทธิ์เฉพาะใน Aveda/ เน้นความเป็นธรรมชาติสูงถึง 93% |
| เหมาะสำหรับ | คนผมแห้งเสียอย่างหนัก |
| สัญชาติ | ออสเตรเลีย |
8. ยี่ห้อ LESASHA Revital Mask
ราคาโดยประมาณ 170 บาท ต่อ 250 ml
สาว ๆ ทุกคนรู้จัก LESASHA ในนามเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องหนีบ เครื่องม้วนจัดแต่งทรงผม แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าชีมีผลิตภณฑ์ดูแลเส้นผมด้วยนะ ยิ่งทรีทเม้นท์ผมของชี อย่าง LESASHA Revital Mask ก็ขายดีมากกก สาว ๆ นิยมใช้งานกันสุด ๆ เพราะชีเป็นไอเท็มดูแลเส้นผมที่เกิดมาสำหรับผมแห้งเสียจากความร้อน หรือการทำสีผมโดยเฉพาะค่ะ ตัวมาส์กหมักผมก็มีความเข้มข้นสูงมากกกก เน้นไปที่การบำรุงและฟื้นฟูเส้นผมอย่างล้ำลึกถึงโครงสร้างภายในเป็นหลัก ก็ช่วยแก้ปัญหาผมเสียให้ผมกลับมาสวย มีชีวิตชีวาขึ้นได้เด้อ
มากันที่ส่วนผสมกันหน่อยค่ะ ต้องยกความดีความชอบให้ชีจริง ๆ เพราะเค้าเข้าใจธรรมชาติของคนชอบจัดแต่งทรงผมเป็นอย่างดีว่า วงการนี้เข้าแล้วออกยากกก ถึงผมจะเสียแต่จะให้หยุดหนีบ หยุดม้วนได้ยังไง ทำให้เค้ามีสารสกัดจากอัญมณีทัวร์มาลีน, เมล็ดองุ่น และน้ำมันเมล็ดอาร์แกนบริสุทธิ์ มาช่วยกันทำให้เส้นผมเป็นประกายเงางาม เรียบลื่น เติมเต็มความชุ่มชื้นจัดหนัก และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีล็อคผม Multi Lock System™ ที่จะปกป้องจากการถูกทำร้ายด้วยความร้อนจากการไดร์ หนีบ ม้วน และรังสียูวี รวม ๆ แล้ว จึงกลายเป็นทรีทเม้นท์ดูแลเส้นผมที่ตอบโจทย์คนชอบไดร์ หนีบ ม้วน จัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนเป็นประจำสุด ๆ ค่าา
| จุดเด่น | มาส์กหมักผมมีความเข้มข้นสูง/ ผมเงางาม เรียบลื่น เติมความชุ่มชื้นหลังใช้/ ปกป้องการถูกทำร้ายด้วยความร้อน ไดร์ หนีบ ม้วน และรังสียูวี |
| สารบำรุง | สารสกัดจากอัญมณีทัวร์มาลีน เมล็ดองุ่น และน้ำมันเมล็ดอาร์แกนบริสุทธิ์ |
| เทคโนโลยี | Multi Lock System™ |
| เหมาะสำหรับ | สำหรับผมแห้งเสียจากความร้อน การทำสีผมโดยเฉพาะ |
| สัญชาติ | ไทย |
9. ยี่ห้อ Sunsilk Activ-Infusion Treatment Mask
ราคาโดยประมาณ 209 บาท ต่อ 400 ml
ยกให้เป็นไอเท็มบำรุงผมในตำนาน เป็นไอคอนสำคัญของสาวผมยาวตรงสลวยไปแล้วค่ะ สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจาก Sunsilk ซึ่งเค้าเองก็มีหลายสูตรหลายไอเท็มให้ลองเลือกใช้อยู่นะ แต่ถ้าเอาให้เน้นความปัง เป็นตัวดังที่เคลมกันแรง ๆ เลยว่า สามารถฟื้นผมให้ดูดีได้ภายใน 1 นาที คือคุณทรีทเม้นท์ผม Sunsilk Activ-Infusion Treatment Mask หรือน้องซันซิลกระปุกส้มนั้นเองค่ะ โดยจุดเด่นของเค้าจะเป็นการฟื้นบำรุงผมที่เสียอย่างล้ำลึกได้อย่างรวดเร็ว และจากผมฟู ผมเสียจนไม่มีน้ำหนัก ก็สามารถทำให้กลับมาตรงสวย แลดูนุ่ม และชุ่มชื้นขึ้นได้ภายใน 1 นาที ไม่แกงไม่โกง ของจริงตัวจริงไปเลยค่ะ
และเพราะจุดเด่นตัวนี้ที่เป็นการแก้ปัญหาสัญญาณเส้นผมเสียต่าง ๆ ได้อย่างเร่งด่วน ในฝั่งของส่วนผสมจึงต้องมีความพิเศษเสียหน่อยค่ะ โดยเค้าจะมีเทคโนโลยีเฉพาะในซัลซิล มาพร้อมกับ แมกซ์แคลเซียม, เคราติน และน้ำมันธรรมชาติเข้มข้นสูงถึง 5 ชนิด มารวมพลังเข้าช่วยขจัดสิ่งสกปรก และฟื้นบำรุงผมแห้งเสีย รวมถึงเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมแบบเร่งด่วนด้วยย ก็ทำให้ไม่แปลกใจเลยค่ะว่า ทำไมผลลัพธ์ของคุณคนนี้ถึงมาไวทันใจภายใน 1 นาที ก็ถ้าอยากรู้ความดีงามของเค้า สาว ๆ ต้องลองค่ะ !
| จุดเด่น | ฟื้นผมให้ดูดีได้ภายใน 1 นาที/ ขจัดสิ่งสกปรก/ ฟื้นบำรุงผมแห้งเสีย/ เติมความชุ่มชื้นให้ผมแบบเร่งด่วน |
| สารบำรุง | แมกซ์แคลเซียม เคราติน และน้ำมันธรรมชาติเข้มข้นสูงถึง 5 ชนิด |
| เทคโนโลยี | Activ-Infusion |
| เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผม/ ผมแห้งเสีย |
| สัญชาติ | สหราชอาณาจักร |
10. ยี่ห้อ TRESemme Purple Treatment Bleached Hair
ราคาโดยประมาณ 578 บาท ต่อ 180 ml x 2
ใครเป็นชาวเราที่เคยผมเสียระดับ 10 จนยากจะเยียวยาแล้ว เชื่อว่าต้องเคยผ่านช่วงเวลาลำบาก หาไอเท็มดูแลเส้นผมปัง ๆ มานักต่อนักกันอย่างแน่นอน ซึ่งอีก 1 แบรนด์ที่อยู่ในลิสต์ความประทับใจของชาวผมเสีย ร้อยทั้งร้อยต้องมีคุณ TRESemme เพราะเขาเป็นตัวท็อป ๆ ของการดูแลเส้นผม ยิ่งทรีทเม้นท์ผมต้อง TRESemme Purple Treatment Bleached Hair หรือน้องกระปุกม่วงที่สามารถคืนชีพเส้นผมได้แม้กระทั่งผมที่ผ่านการฟอก ผ่านการกัดมาอย่างหนักหน่วงค่ะ
และนอกจากคุณสมบัติบำรุง ฟื้นฟูเส้นผมจากการกัด ทำสี หรือโดนเคมีหนัก ๆ แล้ว เนื้อทรีทเม้นท์ผมตัวนี้ยังเป็นสีม่วง ถูกใจคนกัดสีผม หรือทำผมโทนสีเทา โทนสีหม่นกันแบบสุด ๆ เพราะเนื้อครีมสีม่วงจะเข้าไปช่วยล็อกสีผมให้คงความหม่น คงความเทาได้นานยิ่งขึ้น รวมถึงไม่ทำให้สีผมเฟดกลายเป็นสีเหลือง ให้ดูแย่ไปกว่าเดิม นอกจากนี้เม็ดสีม่วงภายในทรีทเม้นท์ยังมีเทคโนโลยีสำคัญที่มีอนุภาคเล็ก และอุดมไปด้วย Plant Placenta มาช่วยเส้นผมสร้างเกราะป้องกันไม่ให้ผมเสีย และป้องกันได้ถึงระดับแกนเส้นผมกันเลยค่า
| จุดเด่น | คืนชีพผมที่แห้งเสียจากการกัดสีผม / ลดการเฟดเหลือง ทำให้ผมโทนเทา – หม่นอยู่ได้นานขึ้น/ สร้างเกราะป้องกันผมไม่ให้เสียถึงแกนผม |
| สารบำรุง | Plant Placenta |
| เทคโนโลยี | อนุภาคเม็ดสีม่วงขนาดเล็ก |
| เหมาะสำหรับ | ผมเสียจากการกัดสีผม/ คนกัดสีผม – ทำผมสีเทา หม่น |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
ไงจ๊ะสาว ๆ ทุกคนนน หลังจากที่ได้เห็นรีวิว “ทรีทเม้นท์ผม” (Hair Treatment) ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วถึง 10 ยี่ห้อ 10 กระปุกด้วยกัน ไม่ทราบว่าสนใจ อยากจะซื้อยี่ห้อไหน กระปุกไหน ไปใช้บำรุงเส้นผม ไปใช้หมักเส้นผมให้ฟื้นคืนสภาพ หรือจะเอาไปใช้ทำสปาเส้นผมที่บ้านเอง กันบ้างคะ ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ก็มีทั้งยี่ห้อที่มีราคาค่อนข้างแพง ระดับหลายพัน ไปจนถึงยี่ห้อที่ย่อมเยากว่า ตกกระปุกไม่ถึงร้อยบาท ให้เลือกซื้อตามงบประมาณที่ตนมีกันด้วย ยังไงก็ขอให้ได้ยี่ห้อที่ถูกใจ ใช้แล้วตอบโจทย์ เส้นผมดีขึ้น สภาพฟื้นฟูขึ้น ดูสุขภาพดี ไม่แห้งเสีย กันด้วยค่าา
Beauty Blogger ที่จะมารีวิวเครื่องสำอางแบบติดตลก ด้วยความชื่นชอบในการเขียนและแต่งหน้า ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันสินค้าตัวที่คิดว่าใช้แล้วดี แต่งแล้วสวย ไม่ทำลายผิว บางอันก็เลือกจากยอดขาย แบรนด์ไหนจัดโปรลดสุดปังก็จะได้รับเลือกอยู่บ่อย ๆ บางอันก็เลือกจากคุณภาพที่ได้ลองใช้แล้วดี มีคนเค้าบอกต่อ การันตีกันขนาดนี้ก็ต้องเอามาเล่าผ่านรีวิวกันหน่อยให้ผู้อ่านได้ไปลองใช้ดูบ้าง