กำลังอยากจะซื้อต้น “พลูด่าง” แต่น้องเขาดันมีให้เลือกซื้อกันหลากหลายสายพันธุ์มากกก จนไม่รู้ว่า พันธุ์ไหนสวย พันธุ์ไหนดีที่ต้นงาม ใบเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงมีความสิริมงคล เสริมโชคลาภ กันอยู่สินะคะ ?? ก็บอกเลยว่าคลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะที่นี่ ทางเราได้ไปรวบรวมน้องพลูด่างพันธุ์ที่น่าสนใจ พันธุ์ที่มีความหมายดี และได้รับความนิยมสูง มารีวิวให้ดูกันถึง 10 ต้น 10 สายพันธุ์กันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าทุกคนได้ลองอ่านเนื้อหากันจนจบล่ะก็ จะได้ไอเดียในการซื้อน้องกันอย่างแน่นอนค่าา
สารบัญ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว พลูด่าง พันธุ์ไหนดี
อยากจะเห็นน้องพลูด่างทั้ง 10 สายพันธุ์แบบพร้อม ๆ กัน และอยากจะทำการเปรียบเทียบลักษณะต้น, ใบ, รายละเอียด หรือราคากันได้แบบง่าย ๆ ทางเราก็อยากให้ลองคลิกที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลยค่า
1. พลูงาช้าง
ราคาโดยประมาณ 16 บาท
หนึ่งในสายพันธุ์มาแรงสำหรับคนรักไม้ด่าง ด้วยเฉดสีอันเป็นเอกลักษณ์ระหว่างโทนสีเขียวนวลตาตัดกับลวดลายสีขาวได้อย่างสวยงาม และในบางต้นที่สมบูรณ์มาก ๆ ก็อาจจะมีการไล่เฉดสีที่มากกว่า 2 สีให้เห็นอีกด้วย อีกทั้งใบยังเป็นรูปทรงคล้ายหัวใจดูน่ารักน่าเอ็นดู ขอบใบก็เรียบ และมีก้านใบค่อนข้างแข็ง ชอบแดดรำไรหรือที่ร่ม แถมเป็นไม้พันธุ์เล็กที่เติบโตช้า จึงนิยมเลี้ยงไว้ประดับตามมุมต่าง ๆ ของบ้าน เพื่อให้บ้านมีมุมสีเขียวสดชื่น ทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นไม้ฟอกอากาศ ช่วยดูดสารพิษและฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ดี เป็นพืชที่เลี้ยงดูง่าย เหมาะปลูกในบ้านมากเลยค่ะ
และพลูงาช้างถือเป็นไม้ที่ไม่ชอบแดดจัด ไม่ทนต่อความร้อน แต่ในทางกลับกันเขากลับชอบน้ำเอามาก ๆ ยิ่งอากาศเย็น ๆ ในห้องแอร์บอกเลยว่ายิ่งชอบ ฉะนั้นจะเลี้ยงลงดินหรือปลูกในน้ำก็สามารถทำได้ตามสะดวก ส่วนในเรื่องของการรดน้ำ ก็รดเพียงแค่ 2-3 วันครั้งเท่านั้น นอกจากนี้เขายังได้ชื่อว่าเป็นไม้มงคล เชื่อกันว่าปลูกแล้วจะช่วยให้ที่บ้านอยู่เย็นเป็นสุข มีแต่คนรักใคร่ หลายคนจึงมักปลูกพลูงาช้างไว้ในบ้านเพื่อถือเคล็ดกันนั่นเอง ก็ใครที่ชอบลวดลายเขียวสลับขาว แถมยังเสริมดวงและช่วยฟอกอากาศแบบนี้ อย่าลืมไปหามาเลี้ยงกันนะคะ
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Epipremnum aureum (Linden & André) G. S. Bunting. |
ปริมาณน้ำ | รดน้ำ2-3 วัน/ครั้ง |
แสงแดด | แดดรำไร |
ดิน | ดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี |
2. พลูสนิม
ราคาโดยประมาณ 10 บาท
ใครสนใจสีโทนเขียว ๆ แดง ๆ เชิญชมน้องคนนี้ได้เลย เพราะน้องเป็นอีกสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ชอบไม้ประดับแบบเขียวชอุ่มสบายตา ด้วยต้น “พลูสนิม” ที่มีลักษณะเด่นตรงที่ยอดอ่อนของเขาจะมีสีแดงแซม ใบสีเขียวทรงรี โคนเว้า ด้านหลังใบมีสีม่วง ตัวใบให้ผิวสัมผัสแบบกำมะหยี่ เขียว ๆ แดง ๆ คล้ายสนิมแบบนี้เขาจึงได้ชื่อว่าพลูสนิมนั่นเองค่ะ ถือเป็นไม้ประดับที่มีฟอร์มใบสวยไม่แพ้พันธุ์อื่น นิยมปลูกให้เขาเกาะเลื้อยไปบนต้นไม้ใหญ่ หรือจะให้เขาพันเป็นซุ้มประตูก็สวยไปอีกแบบค่ะ
และพลูสนิมถือเป็นไม้เลื้อยที่เลี้ยงง่าย ชอบดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี รดน้ำได้แบบจัดหนักจัดเต็มวันละ 1-2 ครั้ง เพราะเขาสามารถเติบโตได้ดีในดินที่มีความชุ่มชื้นสูง แต่ก็ต้องระวังอย่าให้ชื้นแฉะมากจนเกินไปนะคะ เพราะอาจเสี่ยงต่อการทำให้เขารากเน่าได้ ในเรื่องของแสง น้องชอบแสงรำไรกำลังดี และที่สำคัญคือ น้องเป็นไม้มงคล เชื่อกันว่าปลูกแล้วจะช่วยเสริมดวงเรื่องเสน่ห์และความรัก คงเป็นเพราะใบรูปทรงหัวใจสีออกแดง ๆ ก็เห็นกันแบบนี้แล้ว น่าจะถูกใจสาว ๆ หาไปปลูกกันได้เลยค่า
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Philodendron melanochrysum Linden & André |
ปริมาณน้ำ | มาก |
แสงแดด | แดดรำไร |
ดิน | ดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี |
3. พลูปีกนก
ราคาโดยประมาณ 16 บาท
พลูปีกนกมีลักษณะเด่นตรงที่รูปใบที่ไม่สมมาตร หน้าใบกว้างและมีเส้นใบหยักย่นอยู่ทั่ว จนกลายเป็นลวดลายนูนที่เด่นสะดุดตา บางทีเขาก็จะเรียกน้องว่า “พลูระเบิด” เพราะมีลายนูนที่ใบคล้ายระเบิดมาจากข้างในนั่นเอง อีกทั้งผิวใบก็หนา สีออกเขียวปนเหลือง มีทั้งแบบใบเขียวล้วนและแบบใบด่างให้เลือกปลูกได้ตามชอบ รวมถึงเป็นไม้เลื้อยที่โตง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มหัดปลูกไม้ด่าง แถมยังมีความทนทานต่อสภาพอากาศในเมืองไทยได้ดีอีกด้วยค่ะ
โดยพลูปีกนกเป็นไม้ที่ชอบแดดรำไร จะปลูกในอาคารก็ได้ ขอเพียงแค่มีแดดส่องถึงให้เขาสักหน่อย และสามารถเติบโตได้ดีทั้งในดินหรือในน้ำ ดินขอเป็นดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี รดน้ำทุก ๆ 3-4 วัน เขาก็จะงอกงามให้เราได้เชยชมแล้ว นอกจากนี้เขายังได้ชื่อว่าเป็นไม้เลื้อยที่ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคล หากปลูกไว้ในบ้านแล้วจะช่วยให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ไม่ทุกข์ร้อน และช่วยเสริมฮวงจุ้ยในบ้านให้ดียิ่งขึ้น เรียกได้ว่า ปลูกง่าย เสริมดวง ก็แอบเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้านจริง ๆ ค่ะ
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Monstera Karstenianum. |
ปริมาณน้ำ | รดน้ำทุก ๆ 3-4 วัน |
แสงแดด | แดดรำไร |
ดิน | ดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี |
4. พลูด่างราชินีหินอ่อน
ราคาโดยประมาณ 18 บาท
อีกหนึ่งพันธุ์ไม้ด่างที่มาแรงในหมู่ผู้เพาะเลี้ยงอย่าง “พลูด่างราชินีหินอ่อน” ชื่อสุดเท่นี้ได้มาจากเอกลักษณ์ของลายพันธุ์ที่มักจะมีลวดลายสีขาวสลับเขียว กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอคล้ายลายหินอ่อนตามธรรมชาติ และเป็นหนึ่งในไม้ด่างที่สวยสะดุดตาสมชื่อราชินีมาก ๆ เท่านั้นยังไม่พอ เขายังมีความอึดถึกทน แข็งแรง และดูแลง่าย ไม่เรื่องมาก ถูกใจคนปลูกแน่นอน ซึ่งใครที่อยากได้ไม้ด่างที่สวยงามทรงเสน่ห์ ด่างเยอะ ลายชัด แถมดูแลไม่ยาก ราชินีหินอ่อนถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ เลยค่ะ
และราชินีต้นนี้ เขาจะชอบน้ำเป็นพิเศษ ยิ่งได้รับน้ำเพียงพอตามที่เขาต้องการ ใบจะยิ่งอวบอิ่มสวยงาม เหมาะสำหรับเพาะเลี้ยงในน้ำเป็นอย่างยิ่ง หรือถ้าจะปลูกลงดินก็ขอเป็นดินร่วนซุยที่อุ้มน้ำได้ดีในระดับหนึ่งนะคะ ส่วนแสงแดดก็ขอเป็นแสงแดดรำไร กำลังพอดี หรือจะปลูกไว้ในอาคารก็ได้ อีกทั้งเขายังมาพร้อมความเชื่ออีกว่า หากปลูกไว้ในบ้านจะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับคนในบ้าน ให้เป็นที่รักใคร่ชื่นชอบของผู้คนและมิตรสหาย เสริมบารมีให้มีแต่คนเกรงอกเกรงใจ ให้เป็นเหมือนอย่างราชินีสมชื่อต้นไม้เขาเลยค่า
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Epipremnum aureum (Lind. & Andre) Bunting ‘Marble Queen’ |
ปริมาณน้ำ | รดน้ำ2-3 วันครั้ง |
แสงแดด | แดดรำไร |
ดิน | ดินร่วนซุยที่อุ้มน้ำได้ดี |
5. พลูบราซิล
ราคาโดยประมาณ 25 บาท
พูดถึงพลูด่างก็ต้องนึกถึงสายพันธุ์พลูบราซิล ด้วยลักษณะเด่นที่เป็นไม้เลื้อยผิวเรียบเกลี้ยงสีเขียวสด ใบรูปหัวใจ ผิวสัมผัสเรียบลื่นเป็นมันเงา มาพร้อมกับเฉดสีที่ไล่โทรแบบมินิมอล ดูสวยงามมีสไตล์ โดยเฉดสีจะแตกต่างไปตามแต่ละสายพันธุ์ แต่หลัก ๆ จะมีอยู่ 3 เฉดสีคือ เขียว, เหลืองทอง, หรือด่างขาว และเป็นอีกหนึ่งพืชที่มีคุณสมบัติสามารถฟอกอากาศได้ดีมาก สามารถดูดซับสารพิษและฝุ่นละอองในอากาศได้ดี เหมาะสำหรับคนยุคนี้ที่ต้องเผชิญกับหลากหลายมลภาวะเป็นที่สุด หลายคนจึงนิยมนำไปวางไว้ในห้องน้ำหรือมุมห้องนั่งเล่น เพื่อช่วยดูดซับกลิ่นอับชื้นนั่นเองค่ะ
ถามว่านำไปวางไว้ในห้องน้ำหรือมุมห้องต่าง ๆ แล้วน้องจะเป็นอะไรมั้ย? ขอบอกเลยว่าสบายมาก เพราะน้องเป็นสายพันธุ์ที่ต้องการแสงน้อย สามารถปลูกในอาคารได้ ขอแค่นำน้องออกมารับแดดบ้างสักอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งก็เป็นอันใช้ได้แล้ว อีกทั้งน้องยังสามารถเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด โดยเฉพาะดินร่วนซุยที่มีแร่ธาตุสูง หรือจะปลูกในน้ำไปเลยก็ได้ น้องต้องการน้ำมากอยู่ และที่น่าสนใจคือ น้องยังได้ชื่อว่าเป็นไม้มงคล ปลูกแล้วจะช่วยส่งเสริมให้คนในบ้านมีอำนาจบารมี คิดทำสิ่งใดก็ราบรื่น ทำให้บ้านสงบร่มเย็นเป็นสุข ถือเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์พลูด่างที่ขอแนะนำเลยค่า
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Philodendron Brasil |
ปริมาณน้ำ | รดน้ำเป็นประจำทุกวัน |
แสงแดด | แดดรำไร |
ดิน | ดินร่วนซุยที่มีแร่ธาตุสูง |
6. พลูหัวใจสีทอง
ราคาโดยประมาณ 20 บาท
น้องทรงหัวใจสีเหลืองทองนุบนิบนี้ ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่คือสายพันธุ์ที่พัฒนามาจากพลูบราซิลนั่นเองค่ะ โดยการนำกิ่งของพลูบราซิลที่มีสีเหลืองทองมาชำแยกต่างหาก จนเกิดเป็นพลูหัวใจสีทองที่ยังคงไว้ด้วยสีสันเฉพาะตัว ไม่มีด่างสีอื่นมาปน เป็นพลูที่เหมาะสำหรับมือใหม่เพราะเจริญเติบโตเร็ว ทนทานต่อโรคและแมลง ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาคอยกวนใจ คือเลี้ยงง่ายมากกก
และเช่นเดียวกับพลูบราซิล น้องคนนี้เขาสามารถเติบโตได้ดีในดินเกือบทุกชนิด หรือจะใส่ขุยมะพร้าวสับลงไปด้วยก็ได้ เหมาะสำหรับเลี้ยงในร่มหรือแดดรำไร หรือจะเลี้ยงแบบใส่น้ำก็สามารถทำได้ค่ะ นอกจากนี้เขายังมีคุณสมบัติฟอกอากาศ สามารถดูดซับสารพิษได้ดี หลายคนจึงนิยมนำใส่แจกันแล้วเลี้ยงไว้ในห้องทำงาน เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับพื้นที่ภายในบ้านได้อย่างดี ก็ใครที่เบื่อโทนเขียว ๆ อยากได้ออกเหลืองนวล แนะนำพลูหัวใจสีทองเลยค่ะ
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Philodendron Brasil |
ปริมาณน้ำ | มาก |
แสงแดด | แดดรำไร |
ดิน | ดินร่วนซุยที่มีแร่ธาตุสูง |
7. พลูแอปเปิ้ล
ราคาโดยประมาณ 85 บาท
เห็นชื่อน่าอร่อยแบบนี้ แต่น้องไม่ใช่ของกินนะคะ น้องคือพลูที่มีลักษณะเด่นเป็นใบทรงอ้วนป้อมคล้ายแอปเปิ้ล มาพร้อมกับลวดลายด่างหลากหลายแบบให้เลือกสรร และยังเป็นอีกหนึ่งพืชที่มีคุณสมบัติช่วยฟอกอากาศให้สดชื่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการปลูกไว้ในบ้านหรือคอนโดใจกลางเมือง เพราะน้องเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดปานกลาง สามารถเพาะได้ทั้งกลางแจ้งและที่แสงน้อย หากเลี้ยงไว้ให้บ้าน แนะนำให้พาน้องออกไปรับแดดสักครึ่งวันกำลังดีค่ะ
และเห็นน่ารักแบบนี้ น้องเขาก็มีคุณสมบัติด้านมูเหมือนกันนะ ด้วยรูปร่างของใบที่คล้ายแอปเปิ้ล หรือที่คนโบราณมักมองว่าคล้ายถุงเงิน ทำให้มีความเชื่อว่าน้องเป็นไม้มงคล เสริมเรื่องเงินทองและโชคลาภได้เป็นอย่างดี ช่วยให้คนในครอบครัวเก็บเงินได้มากขึ้น จิตใจเบิกบานสดใส ไร้อุปสรรค เป็นพลูด่างเสริมบารมีที่เหมาะจะไว้บนโต๊ะทำงานมากกกก ส่วนเรื่องรดน้ำก็ไม่ยุ่งยาก แค่ 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอ ใครชอบพลูด่างใบอ้วน ๆ ป้อม ๆ เลี้ยงง่าย ๆ แบบนี้ จัดกันเลยค่าา
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Epipremnum Mujula |
ปริมาณน้ำ | 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ |
แสงแดด | แดดรำไร |
ดิน | ดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี |
8. พลูหัวใจแนบ
ราคาโดยประมาณ 59 บาท
มาต่อกันที่สายหวานกันบ้าง กับพลูรูปหัวใจสุดเก๋ที่มีเสน่ห์ชวนมอง ด้วยใบรูปหัวใจที่เรียงสลับซ้ายขวามาในระนาบเดียวกัน ทำให้ได้อีกชื่อหรู ๆ ว่า “แนบอุรา” เป็นพลูที่มีแผ่นใบหนา สีเขียวอมเทา ผิวสัมผัสแบบกำมะหยี่ มาพร้อมกับแต้มด่างสีเงินหลากรูปแบบ เป็นหนึ่งในไม้เลื้อยที่นิยมกันมาช้านาน ซึ่งหลาย ๆ บ้านนิยมนำน้องไปแขวนตามชายคาเป็นพวงระย้า หรือจะให้เกาะตามโครงให้เลื้อยขึ้นไปก็สวยใช่เล่นค่ะ
โดยพลูหัวใจแนบเป็นพืชที่ต้องการน้ำปานกลาง เติบโตค่อนข้างช้า ชอบโตในวัสดุโปร่งที่ระบายน้ำได้ดี รวมถึงชอบแสงแดดรำไร สามารถปลูกในบ้านก็ได้ แถมด้วยชื่อที่หวานซึ่งแบบนี้ ทำให้น้องเป็นหนึ่งในไม้มงคลรุ่นใหม่ที่เสริมดวงในเรื่องความรัก ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับคนในบ้าน และมีความหวาน ๆ เหมาะสำหรับผู้หญิงเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าหากวางน้องไว้บนโต๊ะทำงาน ยังช่วยให้เรามีสมาธิและทำงานได้ราบรื่นมากยิ่งขึ้นอีก ก็ใครสายหวาน ชอบอะไรที่โรแมนติก แนะนำพลูหัวใจแนบเลยค่า
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Scindapsus pictus Hassk. ‘Argyreus' |
ปริมาณน้ำ | ปานกลาง |
แสงแดด | แดดรำไร |
ดิน | ดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี |
9. พลูฉลุด่างขาว
ราคาโดยประมาณ 399 – 950 บาท
พลูฉลุคือพืชที่ใบจะมีรูเว้าขนาดเล็ก-ใหญ่กระจายอยู่ทั่วเต็มไปหมด ซึ่งปกติพลูฉลุก็ได้ชื่อว่ามีความสวยงามโดดเด่นอยู่แล้ว ยิ่งเป็นพลูฉลุด่างขาวก็ยิ่งสวยงาม ถูกใจนักสะสมเข้าไปอีก โดยน้องคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นพันธุ์ที่เลี้ยงง่าย ตายยาก ขอแค่ให้เขาได้เติบโตในดินร่วนซุยผสมทรายหยาบและรดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอก็เป็นอันใช้ได้แล้วค่ะ ส่วนในเรื่องของแสงแดด ควรปลูกไว้ในที่ที่มีแสงแดดรำไร หรือแสงแดดส่องถึงได้ 50% จะดีที่สุด ก็เป็นพืชที่นิยมนำมาตกแต่งบ้านให้สวยงาม และช่วยให้บ้านดูร่มรื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ
และที่พลูฉลุด่างได้รับนิยมสูงนั้น ก็เป็นเพราะเหล่าเซเลปต่าง ๆ นิยมนำน้องไปถ่ายรูปคู่ ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตาแถมยังมีรอยด่างขาวมาเพิ่มความโดดเด่นไปอีก ทำให้น้องฮิตติดเทรนด์ในตลาดไม้ประดับได้ไม่ยาก นอกจากนี้น้องยังเป็นหนึ่งในตระกูลไม้ฟอกอากาศ ช่วยดูดซับสารพิษในห้องได้เป็นอย่างดี เหมาะจะเลี้ยงไว้ประดับห้องทำงานหรือออฟฟิศมาก ๆ ก็ใครที่ชอบรูปลักสุดยูนีคไม่เหมือนใคร ต้องจัดน้องสักต้นกันเลยค่า
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Monstera obliqua (Miq.) Walp. ‘Expilata' |
ปริมาณน้ำ | มาก |
แสงแดด | แดดรำไร |
ดิน | ดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี |
10. พลูใบเงิน
ราคาโดยประมาณ 120 บาท
ใครชอบใบหนา ๆ ฟอร์มกอสวย ๆ แนะนำต้นนี้เลยค่ะ กับ “พลูใบเงิน” พลูที่มาพร้อมกับใบหนาสวยงามมันวาว มีสีเขียวด่างออกไปทางสีเงินอันเป็นเอกลักษณ์ จนเป็นที่มาของชื่อ หากเลี้ยงไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง ลายด่างสีเทาเงินจะยิ่งชัดและสวยงามมากขึ้น ถูกใจนักสะสมไม้ประดับกันอย่างแน่นอน และด้วยการที่พลูใบเงินเป็นพืชที่มีรากค่อนข้างเยอะ จะเลี้ยงลงดินหรือเลี้ยงในน้ำก็ได้ ดูแลง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ สามารถนำใส่แจกันประดับห้อง หรือจะปลูกในกระถางประดับออฟฟิศไว้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวก็ทำได้ค่ะ
แต่พลูใบเงินถือเป็นพืชโตช้าและต้องการความชื้นสูง ควรรดน้ำ 2-3วัน/ครั้ง แต่ก็ไม่ควรรดมากไปจนแฉะนะคะ เพราะเขาชอบน้ำแต่ไม่ชอบน้ำขัง ส่วนแสงแดดก็ขอเป็นแสงแดดรำไรสบาย ๆ แนะนำให้เป็นแดดครึ่งวันเช้าจะดีที่สุด นอกจากนี้ ตัวเขาก็มีคุณสมบัติฟอกอากาศ เหมาะเลี้ยงไว้ในอาคารเป็นที่สุด อีกทั้งเรายังสามารถตัดเอาใบที่แข็งแรงมาแช่น้ำจนรากงอก เพื่อเพาะพันธุ์เป็นต้นใหม่ได้ไม่ยากอีกด้วย ถือเป็นพลูชนิดใบหนาอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่น่าสนใจ และเหมาะสำหรับคนที่ชอบอะไรมินิมอลกำลังดีค่า
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Scindapsus treubii ‘Moonlight' |
ปริมาณน้ำ | รดน้ำ 2-3วัน/ครั้ง |
แสงแดด | แดดรำไร |
ดิน | ดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี |
ก็จบกันไปแล้วกับการรีวิว “พลูด่าง” พันธุ์ไหนดี ถึง 10 สายพันธุ์ ก็ไม่ทราบว่าเพื่อน ๆ สนใจ อยากจะซื้อต้นไหน พันธุ์ไหน ไปปลูกประดับที่บ้าน ไปปลูกประดับที่ทำงาน หรือนำไปใช้ตกแต่งตามสถานที่ต่าง ๆ กันบ้างคะ ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ต้นพลูด่างแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีลักษณะ, เอกลักษณ์ รวมถึงความหมายที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยรวมดูสวย น่าปลูก น่าเลี้ยง ความหมายดีกันทุกต้น สุดท้ายก็ขอให้ได้สายพันธุ์ที่ถูกใจ ปลูกแล้วชอบ ตอบโจทย์ พื้นที่เชียว ๆ สวย ๆ กันด้วยค่าา
จบการศึกษาด้านอักษรศาสตร์ รู้สึกสนุกกับการเขียนรีวิวสินค้าหลาย ๆ อย่างโดยเฉพาะหนังสือ ของใช้ในบ้าน เน้นการเขียนรีวิวที่อ่านเข้าใจง่าย เข้าถึงทุกคน