อาหารเสริมธาตุเหล็ก ยี่ห้อไหนดี บำรุงเลือด มี รีวิว 10 ยี่ห้อ

รูปภาพปกบทความ อาหารเสริมธาตุเหล็ก ยี่ห้อไหนดี บำรุงเลือด มี รีวิว 10 ยี่ห้อ

ก็ถ้าคลิกเข้ามาอ่านที่บทความนี้ “อาหารเสริมธาตุเหล็ก” ยี่ห้อไหนดี แสดงว่า ร่างกายอาจจะกำลังมีปัญหาเรื่องเหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรง ทำอะไรก็ไม่ค่อยสดชื่น หรือสาว ๆ บางท่าน อาจจะอยากทานเสริมธาตุเหล็กเพื่อบำรุงเลือดกันอยู่ใช่ไหมล่ะครับ ก็บอกเลยว่า คลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้ว เพราะที่นี่ ทางผมได้ไปคัดและรวบรวมอาหารเสริมธาตุเหล็กยี่ห้อที่น่าสนใจ ยี่ห้อที่เด็ด ๆ ปัง ๆ มีรีวิวดีงาม มาให้ดูกันถึง 10 ยี่ห้อเลยทีเดียว และถ้าได้ลองอ่านเนื้อหารีวิวกันจนจบล่ะก็ จะต้องอยากซื้อ ไม่ยี่ห้อใดก็ยี่ห้อหนึ่งอย่างแน่นอน ตอนนี้คงอยากจะรู้แล้วสินะว่า มียี่ห้ออะไรกันบ้าง ก็ตามมาเลยครับ



ประโยชน์ของธาตุเหล็ก

ประโยชน์ของธาตุเหล็ก

โดยหลัก ๆ ธาตุเหล็กจะมาช่วยให้การทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายเป็นไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเรื่องของ การผลิตพลังงานภายในเซลล์ ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ไม่ให้รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า รวมถึงการโฟกัสเรื่องการทำงานต่าง ๆ ก็ดีขึ้น และยังช่วยเรื่องของระบบทางเดินอาหาร ระบบภูมิคุ้มกัน และการควบคุมอุณหภูมิของร่างกายเป็นไปได้ด้วยดี และที่สำคัญ ที่หลาย ๆ คนโดยเฉพาะสาว ๆ ต้องการธาตุเหล็กเสริม ก็เพื่อช่วยบำรุงเลือดและป้องกันภาวะโลหิตจางครับ

ปริมาณของธาตุเหล็กที่ควรได้รับในแต่ล่ะวัน

ปริมาณของธาตุเหล็กที่ควรได้รับในแต่ล่ะวัน

ก็ร่างกายของคนเรานั้น จะต้องการปริมาณของธาตุเหล็กในแต่ละวันที่แตกต่างกันออกไป โดยปริมาณก็จะขึ้นอยู่กับ เพศ, อายุ และสถานะ ณ ช่วงนั้น ๆ เช่น ผู้หญิงมีการตั้งครรภ์ หรือช่วงมีการให้นมบุตร ซึ่งสถาบัน The Recommended Daily Allowance (RDA) ของสหรัฐอเมริกา ได้ให้คำแนะนำไว้ตามตารางด้านล่างครับ

อายุเพศชายเพศหญิงมีการตั้งครรภ์ช่วงให้นมบุตร
วัยทารกถึง 6 เดือน0.27 mg0.27 mg
7–12 เดือน11 mg11 mg
1–3 ปี7 mg7 mg
4–8 ปี10 mg10 mg
9–13 ปี8 mg8 mg
14–18 ปี11 mg15 mg27 mg10 mg
19–50 ปี8 mg18 mg27 mg9 mg
51 ปีขึ้นไป8 mg8 mg
ข้อมูลจาก National Institutes of Health (NIH)

จากตารางจะเห็นได้ว่า เพศชายจะไม่ต้องการปริมาณของธาตุเหล็กที่สูงมากเท่ากับเพศหญิง และโดยปกติการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็ค่อนข้างเพียงพอต่อความต้องการธาตุเหล็กกันอยู่แล้ว ทำให้อาหารเสริมธาตุเหล็ก เพศชายคงไม่จำเป็นเท่าไรนัก ส่วนเพศหญิงถ้าไม่ได้ทานอาหารครบ 5 หมู่ หรือทานแต่อาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ คงจำเป็นต้องพึ่งพาอาหารเสริม เพื่อช่วยเสริมปริมาณของธาตุเหล็กในร่างกายให้มีมากขึ้น ส่วนจะเลือกซื้อ อาหารเสริมธาตุเหล็ก ยี่ห้อไหนดี ก็ไปดูรีวิวกันต่อที่ด้านล่างเลยครับ


ตารางเปรียบเทียบรีวิว อาหารเสริมธาตุเหล็ก ยี่ห้อไหนดี

ตารางเปรียบเทียบรีวิว อาหารเสริมธาตุเหล็ก ยี่ห้อไหนดี

ก็เผื่อใครที่อยากจะเห็นสินค้าทั้ง 10 แบบพร้อม ๆ กัน สามารถเลื่อนไปมาซ้ายขวา เพื่อทำการเปรียบเทียบสเปค, สารอาหาร รวมถึงราคากันได้แบบง่าย ๆ ทางผมก็ขอแนะนำให้ลองกดที่ปุ่มด้านล่าง เพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบ ก็อาจจะช่วยให้เห็นภาพรวม และตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นครับ



1. ยี่ห้อ DHC heme iron

ราคาโดยประมาณ 195 / 465 บาท ต่อ 60 / 180 เม็ด

DHC เป็นยี่ห้ออาหารเสริมจากประเทศญี่ปุ่น ที่หลาย ๆ คนน่าจะเคยซื้อไปทานกันมาบ้างแล้ว และสำหรับอาหารเสริมธาตุเหล็ก ทางแบรนด์เขาก็มีขายเช่นกันครับ โดยในแต่ละ 1 แคปซูล จะให้ธาตุเหล็กที่ 10 mg ซึ่งถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ จะถือว่า มีความเข้มข้นค่อนข้างน้อยกว่า แต่ก็ทำให้มีราคาต่อเม็ดที่ถูกกว่า อีกทั้งทางแบรนด์เอง ก็แนะนำให้ทานวันละ 2 แคปซูล เป็นเช้า 1 เย็น 1 ก็จะทำให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กที่เพิ่มสูงขึ้น และนอกจากเรื่องธาตุเหล็กแล้ว ทาง DHC เขายังได้เสริมกรดโฟลิคและวิตามิน B12 มาเพิ่มเติมด้วย จึงช่วยบำรุงร่างกายได้ดีกว่ายี่ห้อที่ให้แต่ธาตุเหล็กเพียว ๆ ก็ถ้าใครที่ยังไม่รู้จะซื้อธาตุเหล็กยี่ห้อไหนดี ลองเริ่มจาก DHC ก่อน ก็เป็นไอเดียที่ดีครับ

ประเภทแคปซูล
ธาตุเหล็ก ต่อ 1 เม็ด10 mg
สารอาหารเพิ่มเติมกรดโฟลิค 70 mcg / วิตามิน B12 1 mcg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน2 เม็ด แบ่งเป็นเช้า 1 เย็น 1
สัญชาติญี่ปุ่น

2. ยี่ห้อ Swisse Ultiboost Iron

อีกหนึ่งยี่ห้ออาหารเสริมธาตุเหล็กที่น่าสนใจ คงต้องยกให้กับ Swisse Ultiboost จากออสเตรเลียกันเลยครับ โดยในแต่ละเม็ด จะมีธาตุเหล็กที่เข้มข้นถึง 20 mg ก็ถือว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ ที่ใช้ได้ (ยังมียี่ห้อที่มีความเข้มข้นมากกว่านี้ให้เลือกซื้อ) แต่ที่น่าสนใจก็คือ มีสารอาหารเพิ่มเติมมาหลายชนิด ทั้งวิตามิน C, วิตามิน B6, เบต้าแคโรทีน และมีสาหร่ายสไปรูลินาเพิ่มเสริมมาอีกด้วย ก็ทานแล้ว นอกจากจะช่วยบำรุงเลือดจากธาตุเหล็ก ก็ยังได้รับประโยชน์บำรุงร่างกายจากสารอาหารอื่น ๆ อีก ซึ่งใครที่อยากทานอาหารเสริมเม็ดเดียว และบำรุงร่างกายได้หลายอย่าง Swisse Ultiboost ตัวนี้ ตอบโจทย์ครับ

ประเภทเม็ด
ธาตุเหล็ก ต่อ 1 เม็ด20 mg
สารอาหารเพิ่มเติมวิตามิน C 16.25 mg / วิตามิน B6 8.22 mg / เบต้าแคโรทีน 1 mg / Spirulina (สาหร่ายสไปรูลินา) 200 mg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด
สัญชาติออสเตรเลีย

3. ยี่ห้อ DAS Gesunde Plus สูตรสีแดง

ถ้าเบื่อกับการทานอาหารเสริมแบบเม็ด ๆ เดิม ๆ อยู่ล่ะก็ ต้องขอแนะนำแบบเม็ดฟู่ที่เอาไว้ชงละลายน้ำของยี่ห้อ DAS Gesunde Plus จากเยอรมันกันเลยครับ โดยทางแบรนด์เขาก็มีวิตามินเม็ดฟู่ละลายน้ำวางขายกันหลากหลายชนิดเอามาก ๆ แต่ถ้าอยากได้อาหารเสริมธาตุเหล็ก ต้องซื้อหลอดฝาสีแดงเด้อ (ระวังซื้อผิด) ซึ่งในแต่ละเม็ดฟู่ จะให้ธาตุเหล็กที่ 14 mg และวิตามิน C อีก 134 mg ซึ่งถ้าดูที่ธาตุเหล็กเฉย ๆ จะเห็นว่า มีความเข้มข้นที่น้อยกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ แต่ด้วยการที่เป็นเม็ดฟู่นี่เอง ก็ทำให้มีรสชาติที่อร่อยกว่า และทานได้ง่ายกว่าพวกแบบเม็ด ๆ ก็ใครที่ไม่ชอบทานเม็ดยา ต้องจัด DAS Gesunde Plus เลยครับ

ประเภทเม็ดฟู่ละลายน้ำ
ธาตุเหล็ก ต่อ 1 เม็ด14 mg
สารอาหารเพิ่มเติมวิตามิน C 134 mg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด พร้อมน้ำ 200 ml
สัญชาติเยอรมัน


4. ยี่ห้อ 21st Century Iron

สำหรับใครที่รู้สึกว่า ร่างกายขาดแคลนธาตุเหล็กเอามาก ๆ จนอยากจะได้อาหารเสริมธาตุเหล็กที่มีความเข้มข้นต่อเม็ดสูง ๆ ก็บอกเลยว่า ยี่ห้อ 21st Century จากสหรัฐอเมริกานี้ ตอบโจทย์แน่นอนครับ เพราะในแต่ละเม็ด จะให้ธาตุเหล็กที่เข้มข้นสูงถึง 65 mg !! เลยทีเดียว ซึ่งเข้มข้นกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อแบบ 2-3 เท่า เวลาทานทีคือ ได้ธาตุเหล็กแบบเน้น ๆ (จริง ๆ ทางแบรนด์มีแบบความเข้มข้น 27 mg ต่อเม็ด ให้เลือกซื้อด้วย ก็ถ้าคิดว่า 65 mg นั้นมากเกินไป ก็เลือกซื้อแบบ 27 mg ก็ได้) เท่านั้นยังไม่พอ ยังได้เสริมแคลเซียมที่ 75 mg มาให้ด้วย ส่วนราคาต่อเม็ดก็ไม่แพงมาก ตกเม็ดละประมาณ 3-4 บาทเท่านั้น รวม ๆ ค่อนข้างคุ้มค่าเลยทีเดียวครับ

ประเภทเม็ด
ธาตุเหล็ก ต่อ 1 เม็ด65 mg
สารอาหารเพิ่มเติมแคลเซียม 75 mg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด
สัญชาติสหรัฐอเมริกา

5. ยี่ห้อ Nature’s Bounty Gentle Iron

Nature’s Bounty จากสหรัฐอเมริกาตัวนี้ ถือเป็นอาหารเสริมธาตุเหล็กอีกหนึ่งตัวที่มีความน่าสนใจมาก เพราะในแต่ละเม็ด จะให้ธาตุเหล็กที่ค่อนข้างเข้มข้นถึง 28 mg ซึ่งถือว่า ค่อนข้างสูง สูงกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ ยังได้เสริมสารอาหารอย่าง วิตามิน C 60 mg, วิตามิน B12 8 mcg และที่เหมาะกับสาว ๆ หลาย ๆ คนคือ กรดโฟลิคอีก 400 mcg โดยกรดโฟลิคจะมีส่วนช่วยในการบำรุงครรภ์ รวมถึงป้องกันปัญหาที่จะก่อให้เกิดกับลูกน้อยภายในครรภ์ด้วย โดยรวมทั้งบำรุงเลือดและบำรุงครรภ์ ก็เหมาะสำหรับสาว ๆ ทานเป็นประจำทุกวันเลยครับ

ประเภทเม็ด
ธาตุเหล็ก ต่อ 1 เม็ด28 mg
สารอาหารเพิ่มเติมวิตามิน C 60 mg / กรดโฟลิค 400 mcg / วิตามิน B12 8 mcg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด
สัญชาติสหรัฐอเมริกา

6. ยี่ห้อ DEMOSANA Iron+C

DEMOSANA ก็เป็นอีกยี่ห้ออาหารเสริมที่เป็นแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำ และมาจากประเทศเยอรมันเช่นเดียวกันกับ DAS Gesunde Plus ตัวด้านบน โดยอาหารเสริมธาตุเหล็กของ DEMOSANA จะเป็นตัวหลอดสีแดง และเมื่อสังเกตที่สารอาหารแล้ว จะเห็นว่า มีสารอาหารทั้งธาตุเหล็กและวิตามิน C ที่น้อยกว่า DAS Gesunde Plus แบบน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งราคาก็ดูจะแพงกว่าด้วย ก็ถ้าอยากจะซื้อยี่ห้อนี้ทานจริง ๆ แนะนำให้รอตอนสินค้าลดราคา หรือมีการจัดโปรโมชั่น ถ้าไม่มี การซื้อยี่ห้อ DAS Gesunde Plus ไปละลายน้ำดื่ม ดูจะคุ้มค่ากว่าครับ

ประเภทเม็ดฟู่ละลายน้ำ
ธาตุเหล็ก ต่อ 1 เม็ดประมาณ 6.67 mg
สารอาหารเพิ่มเติมวิตามิน C 46.13 mg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด พร้อมน้ำ 200 ml
สัญชาติเยอรมัน


7. ยี่ห้อ Altapharma หลอดรูปเชอรี่

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ มาดูอาหารเสริมที่เป็นแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำกันอีกสักยี่ห้อกับ Altapharma ที่มาจากเยอรมันอีกเช่นกัน และทางแบรนด์ เขาก็มีขายอาหารเสริมกันหลากหลายชนิด แต่ถ้าอยากจะซื้ออาหารเสริมธาตุเหล็ก ต้องซื้อหลอดที่มีรูปเชอรี่ติดอยู่เด้อ (ระวังซื้อผิด) โดยถ้าสังเกตจากตารางด้านล่าง จะเห็นว่า เป็นอาหารเสริมธาตุเหล็กแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำที่น่าสนใจมากก เพราะมีธาตุเหล็กที่ 14 mg เท่ากับ DAS Gesunde Plus แต่ Altapharma จะมีสารอาหารเพิ่มเติมที่มากกว่า มีทั้งวิตามิน C, กรดโฟลิค และวิตามิน B12 แต่วิตามิน C จะมีความเข้มข้นน้อยกว่านิดหนึ่ง คือถ้าดูรวม ๆ แล้ว อาหารเสริมแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำของยี่ห้อ Altapharma ดูจะคุ้มค่าที่สุดครับ

ประเภทเม็ดฟู่ละลายน้ำ
ธาตุเหล็ก ต่อ 1 เม็ด14 mg
สารอาหารเพิ่มเติมวิตามิน C 80 mg / กรดโฟลิค 200 mcg / วิตามิน B12 2.5 mcg
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด พร้อมน้ำ 200 ml
สัญชาติเยอรมัน

8. ยี่ห้อ Nature Made Iron

Nature Made จากสหรัฐอเมริกา ถือเป็นอีกยี่ห้อที่มีความเข้มข้นของธาตุเหล็กที่สูงมากก สูงถึง 65 mg! ซึ่งมีความเข้มข้นที่เทียบเท่ากับยี่ห้อ 21st Century ตัวด้านบนเลยทีเดียว แต่ 21st Century เขาจะมีแคลเซียมเพิ่มเสริมมาให้ และเรื่องราคาต่อเม็ดของทั้ง 2 ยี่ห้อ ก็ดูเหมือนจะราคาพอ ๆ กัน ไม่หนีห่างกันมากเท่าไรนัก ดังนั้นการเลือกซื้อยี่ห้อ 21st Century ไปทานเสริมธาตุเหล็ก ก็ดูจะคุ้มกว่า ยกเว้นว่า Nature Made เขาลดราคาเยอะมาก ถึงจะค่อยน่าซื้อครับ

ประเภทเม็ด
ธาตุเหล็ก ต่อ 1 เม็ด65 mg
สารอาหารเพิ่มเติม
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด
สัญชาติสหรัฐอเมริกา

9. ยี่ห้อ Solaray Iron

สำหรับยี่ห้อ Solaray ก็เป็นอีกยี่ห้อดังที่มาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งพวกอาหารเสริมที่มาจากสหรัฐเนี่ย ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพ มั่นใจซื้อทานกันได้อย่างแน่นอน และสำหรับอาหารเสริมธาตุเหล็กของ Solaray ก็ไม่มีอะไรมาก จะให้ธาตุเหล็กที่เม็ดล่ะ 50 mg ก็ถือว่า ค่อนข้างเข้มข้นกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ แต่ก็ยังแพ้พวกยี่ห้อที่เข้มข้นระดับ 65 mg อย่าง 21st Century และ Nature Made อีกทั้งดูจากราคาต่อเม็ดแล้ว Solaray ก็ค่อนข้างแพง คือถ้าไม่มีการลดราคาหรือโปรโมชั่น การเลือกซื้อยี่ห้ออื่น ๆ ทาน ดูจะเป็นไอเดียที่ดีกว่าครับ

ประเภทเม็ด
ธาตุเหล็ก ต่อ 1 เม็ด50 mg
สารอาหารเพิ่มเติม
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด
สัญชาติสหรัฐอเมริกา

10. ยี่ห้อ Puritan’s Pride Ferrous Gluconate 

สำหรับใครที่กำลังมองหาอาหารเสริมธาตุเหล็กที่มีความเข้มข้นกลาง ๆ ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป อีกทั้งยังมีราคาต่อเม็ดที่ไม่แพงมาก สามารถซื้อไปทานกันได้สบาย ๆ อยู่ ก็ยี่ห้อนี้ Puritan’s Pride ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการกันแน่ ๆ เพราะให้ธาตุเหล็กที่เม็ดละ 28 mg และยังมีราคาต่อเม็ดที่เม็ดล่ะประมาณ 2.75 บาทเท่านั้น รวม ๆ ก็ดูแอบเหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยซื้ออาหารเสริมธาตุเหล็กมาก่อน หรือคนที่อยากลองเริ่มซื้อไปทานดูครับ

ประเภทเม็ด
ธาตุเหล็ก ต่อ 1 เม็ด28 mg
สารอาหารเพิ่มเติม
ปริมาณที่ควรทานต่อวัน1 เม็ด
สัญชาติสหรัฐอเมริกา

ก็จบกันไปแล้วกับการรีวิว “อาหารเสริมธาตุเหล็ก” ยี่ห้อไหนดี ถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน ไม่ทราบว่า สนใจ อยากจะซื้อยี่ห้อไหน กระปุกไหน ไปทานเสริมธาตุเหล็กให้ร่างกายกันบ้างครับ ?? ก็จากที่เห็น ๆ หลาย ๆ ยี่ห้อมาเนี่ย ก็มีความเข้มข้นของธาตุเหล็กที่หลากหลายกันเลยทีเดียว มีทั้งยี่ห้อที่ความเข้มข้นน้อย จนไปถึงพวกยี่ห้อที่มีความเข้มข้นมาก อีกทั้งยังมีทั้งรูปแบบเม็ด หรือรูปแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำ ให้เลือกซื้อกันด้วย ยังไงก็ขอให้ได้ยี่ห้อที่ถูกใจ ทานแล้วร่างกายได้รับธาตุเหล็กตามที่ต้องการ และมีสุขภาพที่ดีขึ้นกันด้วยครับ