เครื่องบดกาแฟมือหมุน ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 รุ่น

รูปภาพปกบทความ เครื่องบดกาแฟมือหมุน ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 รุ่น

ใครที่กำลังมองหา รีวิว เครื่องบดกาแฟมือหมุน ยี่ห้อไหนดี แต่ยังไม่มีข้อมูล มาลองอ่านบทความนี้กันก่อน เพราะเราได้คัดเลือกรุ่นเด่นรุ่นดังที่น่าสนใจ แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ ราคาและสเปคเป็นอย่างไรบ้าง มารวมกันให้เลือกดู เลือกซื้อแล้ว พร้อมทั้งวิธีการเลือกซื้อเบื้องต้น ใครที่เป็นคอกาแฟจริงจัง อยากบดเมล็ดกาแฟเพื่อชงกาแฟสดเอง ก็เลื่อนไปอ่านต่อกันได้เลยครับ



วิธีการเลือกซื้อ เครื่องบดกาแฟมือหมุน

วิธีการเลือกซื้อ เครื่องบดกาแฟมือหมุน

เลือกเฟืองบดแบบสเตนเลสหรือโลหะ จากประสบการณ์ของหลาย ๆ คนที่เคยซื้อรุ่นที่เป็นเฟืองบดแบบแบบ Ceramic เวลาเจอเมล็ดกาแฟคั่วอ่อน ที่มีความเหนียวและแข็ง อาจจะทำให้เฟืองหรือใบมีด Ceramic เสียหายได้ จนถึงขั้นบดต่อไม่ได้ เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ลองดูรุ่นที่เฟืองหรือใบมีดเป็นแบบสเตนเลสหรือโลหะอื่น ๆ จะดีกว่านะ

เลือกขนาดที่เหมาะสำหรับการพกพา ใครที่มีรสนิยมอยากจะไปชงกาแฟบนยอดเขา การเลือกซื้อเครื่องบดที่มีขนาดเล็ก ก็ดูจะเป็นไอเดียที่น่าสนใจมากทีเดียว หรือจะเก็บสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉินที่เครื่องบดแบบไฟฟ้าเสียหาย ก็สามารถประหยัดพื้นที่เก็บของได้อีกด้วย สามารถดูขนาดจากข้อมูลในตารางได้เลยครับ


ตารางเปรียบเทียบรีวิว ” เครื่องบดกาแฟมือหมุน” ยี่ห้อไหนดี

สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาอ่าน อยากดูเครื่องบดกาแฟ วางเรียงเปรียบเทียบ ราคา, วัสดุเฟือง, ขนาด, ความจุช่องใส่กาแฟ และอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลย หรือถ้าอยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็เลื่อนผ่านปุ่มสีแดง ไปดูรีวิวต่อไปเลยครับ



1. MOHO S

สำหรับมือใหม่ ที่กำลังมองหาเครื่องบดกาแฟมือหมุนมาใช้เพื่อฝึกฝีมือสักเครื่อง เราขอแนะนำเครื่องบดกาแฟ MOHO S รับรองจะไม่ผิดหวัง ด้วยราคาเบา ๆ แต่คุณภาพไม่เบา จึงถูกอกถูกใจคนที่ได้ลองใช้เป็นอย่างมาก เริ่มจากดีไซน์ภายนอก รูปทรงกระบอกสีดำที่ดูเรียบ ๆ แต่ก็ดูเท่ไปในตัว มาพร้อมสายยางกันลื่นช่วยให้จับถนัดมือเวลาใช้งาน ตัวบอดี้ของเครื่องทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ และที่จับ (Handle Khob) ก็ผลิตด้วยไม้วอลนัทช่วยเพิ่มความสวยหรูดูดีขึ้นไปอีก เอาเป็นว่าเฉพาะหน้าตาก็เรียกลูกค้าได้แล้วนะครับ

มาดูที่เรื่องของการบดกาแฟกันบ้าง รุ่นนี้เขาใช้เฟือง 6 แฉก ขนาด 38 มิลลิเมตร ทำจากสเตนเลสอย่างดี และผลิตด้วยเครื่อง CNC (Computer Numerical Control) ที่มีความแม่นยำสูง ช่วยให้เครื่องบดกาแฟ MOHO S นี้สามารถบดเมล็ดกาแฟได้ง่าย บดละเอียดได้เร็ว ไม่ต้องใช้แรงมาก และได้ความละเอียดของกาแฟที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ มีจุดปรับระดับการบดด้วยการหมุน และมีคำแนะนำในคู่มือบอกระดับการบด ไม่ว่าจะเป็น Espresso, Moka-Pot, Hand Drip และ French Press ว่าต้องหมุนประมาณกี่คลิก ซึ่งเราก็สามารถบดตามที่แนะนำได้อย่างสะดวก หรือจะปรับลดเพิ่มเองตามที่ต้องการก็ได้ครับ

ตัวเครื่องAluminum Alloy
เฟือง6 Core / 38 mm. / Stainless Steel
ขนาดเครื่องN/A
สีBlack
ความจุเมล็ดกาแฟ20-25 g.
น้ำหนักN/A

2. Hario MSG-2

ใครที่ชอบอะไรเคลียร์ ๆ ชัด ๆ ล่ะก็ เครื่องบดกาแฟมือหมุน Hario MSG-2 แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นรุ่นนี้ตอบโจทย์เลยนะ ราคาก็เป็นมิตรมาก เหมาะจะเอาไว้ใช้บดกาแฟที่บ้านง่าย ๆ สักตัว ส่วนที่บอกว่าเคลียร์ชัดนั้นเป็นเพราะตัว Main body ของเขา มีการออกแบบเป็นวัสดุโปร่งใส หน้าตาดูแล้วอาจทำให้นึกไปถึงอุปกรณ์ในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ เวลาบดกาแฟทีเราก็จะสามารถมองเห็นได้เลยว่า เมล็ดกาแฟที่เรากำลังบดอยู่นั้นบดไปถึงไหน ได้ปริมาณกาแฟบดออกมาเท่าไรแล้ว รวมทั้งมีตัวเก็บก้านหมุนไว้ด้านข้างไม่ให้เกะกะด้วยครับ

ตัวเครื่องรุ่นนี้จะใช้เฟืองบดเป็นเซรามิก ปรับความละเอียดตามการหมุน หากต้องการแบบหยาบให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา แต่ถ้าต้องการละเอียดให้หมุนตามเข็มนาฬิกา ชอบความละเอียดระดับไหนก็สามารถลองปรับได้ตามต้องการ ซึ่งการที่วัสดุตัวเฟืองเป็นเซรามิกนั้น อาจจะมีจุดด้อยที่ความแข็งแรง ถ้าเจอเมล็ดกาแฟคั่วอ่อนที่มีความเหนียวแข็ง เฟืองอาจเกิดการแตกหักได้ รวมทั้งยังใช้แรงและเวลามากในการหมุนบดแต่ละครั้ง แต่ถ้าใครชอบเครื่องบดที่ใช้ง่าย น้ำหนักเบา จะใช้ในบ้าน หรือพกพาไปใช้นอกสถานที่ก็สะดวกล่ะก็ รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าแน่นอนครับ

ตัวเครื่องMethacrylate Resin
เฟืองCeramic
ขนาดเครื่อง15 x 5.3 x 19 cm
สีTransparent / Transparent Black
ความจุเมล็ดกาแฟ24 g.
น้ำหนักN/A

3. Comandante C40

ถ้าพูดถึงแบรนด์อันดับต้น ๆ คงต้องยกให้กับ เครื่องบดกาแฟมือหมุน Comandante จากประเทศเยอรมนี เป็นที่พูดถึงใน Pantip กันเลยทีเดียวว่าดีมาก เรียกว่าจัดเต็มคุณภาพระดับมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุ การออกแบบ ฟังก์ชันการใช้งาน ซึ่งมั่นใจได้ว่าทุก ๆ การบดเมล็ดกาแฟแต่ละครั้ง จะได้กลิ่นหอมและรสชาติที่ดีที่สุดแน่นอน อย่างเครื่องบดรุ่น C40 นี้ ที่มีดีไซน์ภายนอกสวยหรูสะดุดตา ตัวบอดี้ภายนอกและที่จับ (Handle Knob) นั้นทำจากไม้ และมีโหลใส่กาแฟเป็นแก้วใสเนื้อหนา ตัวเครื่องมีสีสันสวยงามให้เลือกถึง 8 สีครับ

จุดเด่นอย่างหนึ่งสำหรับเครื่องรุ่นนี้ คือใบมีดที่ใช้ในการบดกาแฟ ซึ่งเป็น Nitro Blade ผลิตจาก High-Alloy & High-Nitrogen Stainless Steel มีความหนัก ทนทาน และที่สำคัญคมมาก ๆ เพื่อใช้งานในการบดกาแฟอย่างจริงจัง ใช้บดเมล็ดกาแฟขนาดใหญ่สำหรับ Pour Over Coffee ไปจนถึงละเอียดมาก ๆ อย่าง Espresso ได้ และนอกจากบดกาแฟแล้ว ยังสามารถนำไปใช้บดเครื่องเทศหรือใบชาได้ด้วย แน่นอนว่าคุณภาพสูงย่อมมาคู่กับราคาที่ค่อนข้างสูงครับ แต่หากเป็นคอกาแฟที่ต้องการงานเนี้ยบ งานละเอียด บอกได้เลยว่าลงทุนกับเครื่องบดมือตัวนี้ไม่เสียดายเงินแน่นอน

ตัวเครื่องStainless Steel / Wood
เฟืองHigh-Alloy & High-Nitrogen Stainless Steel
ขนาดเครื่องN/A
สีAmerican Cherry (ลายไม้สีอ่อน) / Black (ดำ) / Burgundy (แดง) /
Cobalt (น้ำเงิน) / Grün (เขียว) / Red Sonja (แดง) / Wenge (ลายไม้สีเข้ม)
ความจุเมล็ดกาแฟ40 g.
น้ำหนัก1.2 kg.


4. KINGrinder K2

อีกหนึ่งรุ่นสำหรับเครื่องบดกาแฟมือหมุนคุณภาพดี แต่ราคาเบา ๆ KINGrinder K2 ซึ่งเขาว่ากันว่าเป็นแบรนด์ลูกของ 1Zpresso แบรนด์ระดับท็อป ๆ ที่หลายคนรู้จักดี ถ้าเป็นตามนี้ก็ต้องบอกว่าคุณภาพน่าจะมั่นใจได้ระดับหนึ่งเลยครับ มาดูกันที่รูปร่างหน้าตาภายนอกกันก่อน บอดี้ของรุ่นนี้ทำจากอะลูมิเนียมทั้งชิ้น มียางกันลื่นให้มาเรียบร้อย ส่วนของที่จับ (Handle Knob) เป็นไม้ทรงกลม ดีไซน์เรียบหรูดูแพง เรียกว่าเห็นแล้วไม่รู้สึกก๊องแก๊งแน่นอน

ส่วนของการบดกาแฟนั้น โดดเด่นมาก ๆ ในเรื่องของการบดได้เร็ว เมื่อเทียบกับรุ่นที่สเปคใกล้เคียงกัน ใช้เวลาไม่นาน และสามารถบดได้ตั้งแต่ Pour Over จนถึง Espresso ด้วยตัวเฟืองทำจากสเตนเลสมีขนาดใหญ่ถึง 48 มิลลิเมตร และยังมีความละเอียดถึง 40 คลิกต่อรอบ ทำให้ถูกใจคนรักกาแฟที่ต้องการปรับระดับได้มาก ๆ แต่ก็มีเสียงบ่นนิดหน่อยสำหรับคู่มือการใช้งาน ที่ไม่ได้แนะนำว่าการบดระดับไหน ควรปรับอย่างไร แต่แนะนำว่าลองเข้าไปดูใน Official Website ของ KINGrinder กันได้ ซึ่งเขาทำตารางการปรับระดับไว้ให้แล้วครับ

ตัวเครื่องAluminum Alloy
เฟือง48 mm. / Stainless Steel
ขนาดเครื่องN/A
สีSilver / Iron Gray
ความจุเมล็ดกาแฟ25 g.
น้ำหนัก0.58 kg.

5. 1Zpresso K Plus

หนึ่งในแบรนด์ระดับพรีเมียมของเครื่องบดกาแฟมือหมุน 1Zpresso และรุ่นท็อปที่อยากจะแนะนำคือ 1Zpresso K Plus ซึ่งการันตีคุณภาพด้วยรางวัลการออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมจากเวที Red Dot Design Award 2018 เรียกว่าเป็นเครื่องบดมือระดับ High-End ที่ราคาไม่ถึงหมื่น เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องบดกาแฟคุณภาพสูงสักเครื่อง สำหรับรุ่นนี้ดูภายนอกแล้ว รู้สึกถึงความแข็งแรงทนทาน ทั้งด้วยความหนาของตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์ในส่วนต่าง ๆ มาพร้อมกระเป๋าหิ้วใส่อุปกรณ์ (Travel Case) ที่เหมาะสำหรับพกไปใช้นอกสถานที่ได้ด้วย

ตัวเฟือง K-Burr ทำจากสเตนเลส มีขนาดใหญ่ 48 มิลลิเมตร ใบมีดคมกริบ ช่วยให้บดกาแฟได้เร็ว ปรับความละเอียดได้มากถึง 90 คลิกต่อรอบ และปรับได้สะดวกกว่ารุ่นอื่น ๆ เพราะสามารถปรับจากด้านนอกได้เลย ไม่ต้องถอดเครื่องเพื่อปรับด้านใน เป็นฟังก์ชันที่หลายคนถูกใจมากพอสมควร ตัวโถกาแฟเป็นแม่เหล็กถอดได้ง่ายไม่ต้องหมุนเกลียว รวมทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมที่ไม่ค่อยได้เห็นกัน อย่าง Espresso Smart Dosing Funnel นำมาสวมแทนก้นรองโถกาแฟ ใช้สำหรับกรองและกระจายผงกาแฟให้ตกลงในด้ามชงได้ทั่วถึง เหมาะกับการบดกาแฟเพื่อใช้ใส่ด้ามชง Espresso โดยเฉพาะครับ

ตัวเครื่องAluminum Alloy
เฟือง48 mm. / Stainless Steel
ขนาดเครื่อง18.6 x 6.2 x 15 cm.
สีGray / Brown
ความจุเมล็ดกาแฟ35-40 g.
น้ำหนัก0.8 kg.

6. Timemore Grinder Chestnut X

สำหรับระดับ High-End แล้ว ถ้าไม่มี เครื่องบดกาแฟมือหมุน Timemore ก็คงจะไม่ได้ เพราะนี่คืออีกหนึ่งแบรนด์ในใจคอกาแฟหลาย ๆ คน ที่ไว้ใจได้ทั้งเรื่องคุณภาพ การใช้งาน การออกแบบผลิตภัณฑ์ อย่างรุ่น Chestnut X ที่เราอยากจะแนะนำนี้ ก็ได้รางวัล Good Design Award 2020 ของประเทศญี่ปุ่น เมื่อได้ลองดูฟังก์ชัน คุณสมบัติต่าง ๆ แล้ว ก็ไม่น่าแปลกใจเลยครับที่ได้รางวัล เริ่มจากหน้าตาภายนอก ที่แค่เปิดกล่องก็สัมผัสได้ถึงความหรูหราของตัวเครื่อง ซึ่งเป็น Alluminum alloy ที่มีผิวสัมผัสแบบด้าน (Matt Finish) ดีไซน์ก้านจับให้สามารถพับเก็บลงด้านข้างได้ ไม่ต้องถอดเก็บแยกชิ้น สะดวกต่อการพกพา และป้องกันเศษผงกาแฟที่ค้างอยู่หล่นร่วงได้เป็นอย่างดี

ความพิเศษของรุ่นนี้ คงต้องยกให้นวัตกรรมเฟืองบดที่เรียกว่า S2C ที่ได้สิทธิบัตรครั้งแรกในโลก ด้วยคอนเซ็ปต์ Spike First Cut Later ที่มีการออกแบบตัวคมมีดพิเศษเพิ่มขึ้นมา ทำให้ควบคุมความละเอียดของการบดกาแฟได้ดีมาก ๆ ตัวเฟืองมีขนาดใหญ่ 42 มิลลิเมตร บดกาแฟละเอียดอย่าง Espresso ได้เร็ว รวมทั้งมีตัวเลขกำกับการเลือกระดับการบด ปรับได้ 24 ระดับ และมีระดับรองอีก 5 ระดับ ทำให้ปรับได้ละเอียดถึง 120 ระดับ พร้อมคู่มือแนะนำการใช้งาน ทำให้สามารถปรับได้ง่ายและได้ความละเอียดที่ต้องการ เอาเป็นว่าใครได้ลองใช้เจ้าตัวนี้ เชื่อว่าต้องติดใจกันแน่นอนครับ

ตัวเครื่องUnibody Aluminum Alloy
เฟือง42 mm. / Stainless Steel
ขนาดเครื่อง16 x 5.5 cm.
สีBlack / Green Safari
ความจุเมล็ดกาแฟ30 g.
น้ำหนัก0.76 kg.


7. Bialetti Macinacaffe

สำหรับคอกาแฟแล้วคงรู้จักเจ้าหม้อต้มกาแฟ Moka Pot ของ Bialetti กันดี ซึ่งนอกจากหม้อต้มกาแฟแล้วก็มีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ สำหรับการชงกาแฟ รวมถึง เครื่องบดกาแฟ มือหมุน Bialetti หน้าตาเก๋ไก๋ รุ่น Macinacaffe ตัวนี้ด้วยครับ ถ้าใครชงกาแฟด้วย Moka Pot อยู่แล้ว จะเลือกใช้เครื่องบดรุ่นนี้ก็ดูเข้าคู่กันได้ดี ด้วยหน้าตาดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์สไตล์ Bialetti ตัวเครื่องภายนอกเป็นพลาสติก PP คุณภาพดี ฝาปิดอุปกรณ์เป็นซิลิโคน สามารถยึดติดกับตัวเครื่องและเปิดออกเพื่อใส่เมล็ดกาแฟได้โดยไม่ต้องถอดออกให้ยุ่งยาก

ส่วนของการบดนั้น เครื่องบดกาแฟมือหมุน อิตาลี รุ่นนี้ทำได้ง่ายและสะดวก ตัวโถใส่กาแฟจะเป็นแบบใส มีสเกลบอกปริมาณ 1, 3 และ 6 Cup เหมาะสำหรับใครที่ขี้เกียจชั่งตวงเมล็ดกาแฟ ก็สามารถบดและดูสเกลเป็นปริมาณแนะนำได้ ตัวเฟืองบดเป็นเซรามิก ปรับความละเอียดของการบดได้ โดยการหมุนตัวปรับไปตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกา เหมือนกับเครื่องบดกาแฟทั่วไป โดยรวมแล้วเครื่องตัวนี้อาจไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากนัก แต่ด้วยราคาน่าคบ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่ หรือใครที่อยากลองบดกาแฟชงเองที่บ้านครับ

ตัวเครื่องPP
เฟืองCeramic
ขนาดเครื่อง11.5 x 8.5 x 21.5 cm.
สีBlack / Red
ความจุเมล็ดกาแฟN/A
น้ำหนัก0.4 kg.

8. Kalita Coffee mill KH-3AM

เอาใจสายย้อนยุคกับ เครื่องบดกาแฟมือหมุน วินเทจ ดีไซน์คลาสสิกอย่าง Kalita Coffee mill KH-3 จากญี่ปุ่น ที่ออกแบบด้วยการผสมผสานความมินิมอลสไตล์ Japanese ได้ลงตัวมาก ๆ แม้ว่าฟังก์ชันการใช้งานจะไม่ได้มีอะไรหวือหวา แต่ก็ชนะใจคนรักกาแฟที่ต้องการความเรียบง่ายสุดคลาสสิกได้แน่นอน ตัวกระบอกและโถใส่กาแฟทำจากไม้สวยงาม ตัวถ้วยด้านบนเป็นโลหะใช้ใส่เมล็ดกาแฟ พร้อมด้วยก้านหมุนและหัวจับไม้แบบเดียวกับตัวกระบอก แค่เห็นก็รู้สึกถึงความสวยงามน่าใช้แล้วครับ

เห็นตัวเล็กแบบนี้ แต่การบดเมล็ดกาแฟนั้นก็ทำได้ดี โดยมีเฟืองบดเป็นเหล็ก และมีตัวปรับระดับความละเอียดได้ แม้ว่าจะไม่มีตัวเลขบอกระดับในการปรับ ผู้ใช้ต้องกะความกว้างแคบของเฟือง และทดลองปรับด้วยตัวเองจนได้ความละเอียดที่ต้องการ ซึ่งอาจจะดูยากแต่ก็ต้องเรียกว่าเป็นเสน่ห์ของความวินเทจ ที่เครื่องบดกาแฟมือหมุนแบบใหม่ ไม่สามารถมอบให้ได้ เป็นอีกอรรถรสหนึ่งของกระบวนการชงกาแฟที่น่าสัมผัสไม่แพ้กันครับ

ตัวเครื่องWood
เฟืองCast Iron
ขนาดเครื่อง17 x 8.5 x 21 cm.
สีลายไม้
ความจุเมล็ดกาแฟN/A
น้ำหนัก0.54 kg.

9. Akirakoki A-12

อีกหนึ่งรุ่นสำหรับเครื่องบดกาแฟมือหมุน วินเทจ จากแบรนด์ดังของไต้หวันอย่าง Akirakoki รุ่น A-12 ต้องบอกว่าเครื่องบดกาแฟแนวคลาสสิกแบบนี้ เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนที่หลงรักของเก่า เพราะนอกจากจะใช้งานได้จริงแล้ว ยังเป็นของตกแต่งไปในตัวได้อีกด้วย หน้าตาของเครื่องรุ่นนี้ ตัวกระบอกเป็นไม้เคลือบมัน ดีไซน์ทรงโดม มีบานเปิดปิดช่องใส่เมล็ดกาแฟ ดูมีลูกเล่นและยังช่วยป้องกันการกระเด็น เวลาที่เราใช้งานได้ด้วยนะครับ

ส่วนการใช้งานในการบดเมล็ดกาแฟนั้น คล้ายกับเครื่องบดวินเทจตัวอื่น ๆ มีตัวปรับระดับความละเอียดของเมล็ดกาแฟ โดยการหมุนที่ตัวปรับบนเครื่อง สามารถปรับความหยาบหรือละเอียดได้เองตามชอบ ตัวเฟืองบดทำจากเหล็ก สามารถบดกาแฟคั่วเข้ม กลาง อ่อน ได้ดี แต่หมุนไม่ลื่นเท่าแบบเฟืองสเตนเลส ซึ่งรีวิวจากผู้ใช้ส่วนใหญ่พอใจกับอุปกรณ์ ทั้งรูปร่างหน้าตา และการบดเมล็ดที่ทำได้ไม่มีปัญหา สำหรับเครื่องบดกาแฟมือหมุนวินเทจแล้วก็ถือว่าได้คุณภาพที่ดีครับ

ตัวเครื่องWood
เฟืองIron
ขนาดเครื่อง16 x 8.7 cm.
สีลายไม้
ความจุเมล็ดกาแฟN/A
น้ำหนัก0.6 kg.

10. Meigoo Coffee Grinder

หากใครกำลังอยากได้ เครื่องบดกาแฟมือหมุน โบราณ ที่รูปลักษณ์สวยเด่นสะดุดตา ไม่เน้นแบรนด์ แต่เน้นความเก๋าคลาสสิก วางตรงไหนของบ้าน หรือของร้าน ก็ช่วยให้กลิ่นอายดูย้อนยุคแล้วล่ะก็ ขอแนะนำเครื่องบดตัวนี้เลยครับ โดยเครื่องบดกาแฟมือหมุน โบราณ รุ่นนี้จะดีไซน์ก้านหมุนไว้ด้านข้างเป็นวงรูเล็ตรูปทรงชิงช้าสวรรค์ หรือบางคนเห็นแล้วอาจจะนึกถึงตัวหมุนของจักรเย็บผ้าโบราณแบบนั้นเลย ซึ่งแค่หน้าตาก็กินขาดไปแล้ว เชื่อว่าถูกใจสายกาแฟที่รักความ Retro อย่างมากแน่นอน

ตัวเครื่องนั้นใช้เหล็กหล่อ กับฐานไม้ ส่วนถ้วยใส่เมล็ดกาแฟจะมีฝาปิดป้องกันเศษกาแฟกระจายได้ และที่เก็บกาแฟ (ที่ผ่านการบดแล้ว) ก็เป็นรูปแบบของลิ้นชัก ส่วนตัวเฟืองบดนั้นทำจากเซรามิก มีตัวปรับความละเอียดของการบดได้ตามต้องการ ในส่วนของคนที่ได้ลองใช้แล้วนั้น มีทั้งรีวิวชื่นชมในเรื่องของความสวยงาม และเสียงติในส่วนของการบด ซึ่งยังมีความฝืดและวัสดุยังดูไม่แข็งแรงมากนัก ส่วนหนึ่งอาจเพราะตัวเฟืองเป็นเซรามิก และความเนี้ยบในการผลิต ก็ยังสู้พวกแบรนด์ดังไม่ได้ แต่ด้วยราคาไม่กี่ร้อย มีดีไซน์สวยโบราณแบบนี้ และสามารถใช้งานได้จริงในระดับหนึ่ง ก็ทำให้รุ่นนี้ได้รับความสนใจอยู่นะครับ

ตัวเครื่องWood / Iron
เฟืองCeramic
ขนาดเครื่อง27 x 11.5 cm.
สีดำ-น้ำตาล
ความจุเมล็ดกาแฟN/A
น้ำหนัก0.9 kg.

จบกันไปแล้วสำหรับเครื่องบดกาแฟมือหมุน ยี่ห้อไหนดี 10 รุ่นที่เลือกมา น่าจะต้องมีสักรุ่นที่ต้องตาต้องใจคุณผู้อ่าน ก่อนตัดสินใจซื้อก็อย่าลืมดูว่า เฟืองบดเป็นโลหะหรือเปล่า ถ้าเป็นเฟืองหรือใบมีดเซรามิก เวลาบดเมล็ดกาแฟคั่วอ่อนอาจจะแตกได้ ส่วนใครที่อยากได้เครื่องที่มีขนาดเล็กไว้เพื่อการพกพา หรือประหยัดพื้นที่จัดเก็บก็สามารถดูจากขนาดเครื่องในตารางได้เลย สุดท้ายนี้ก็ขอให้ได้รุ่นที่ถูกใจ ตอบโจทย์การใช้งานทุกคนนะครับ


Leave a Comment