โถสุขภัณฑ์ ชักโครก ยี่ห้อไหนดี รีวิว 10 ยี่ห้อ

รูปภาพปกบทความ โถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อไหนดี รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ

ใครกำลังจะทำบ้านใหม่ ทำห้องน้ำเพิ่ม รีโนเวทห้องน้ำ หรือกำลังคิดว่าอยากจะเปลี่ยนชักโครกหรือโถสุขภัณฑ์ใหม่ เพราะของเดิมที่บ้านอาจจะเล็กไป ใหญ่ไป ใช้งานไม่สะดวก นั่งไม่สบาย หรือใช้มานานแล้ว ของเดิมเริ่มจะมีปัญหา แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะซื้อแบบไหนดี ทางเราก็ได้รวบรวมสินค้า “ชักโครก” ยี่ห้อไหนดี มาให้ได้เลือกถึง 10 แบบ 10 ยี่ห้อ มีทั้งแบบตั้งพื้น แบบแขวน ก็มีให้เลือกใช้ ส่วนราคาก็เริ่มตั้งแต่ราคาหลักพันต้น ๆ ราคาประหยัด จนถึงหลักพันปลาย ๆ ที่ใหญ่ยาว นั่งได้สบายมากขึ้น จะมีแบบไหนกันบ้าง ตามมาดูกันเลยครับ



วิธีการเลือกซื้อ “ชักโครก”

วิธีการเลือกซื้อ "โถสุขภัณฑ์"

ประเภทของชักโครก จะมีอยู่ 2 แบบ แต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน คือ

  • แบบหนึ่งชิ้น เป็นเซรามิกขึ้นรูปชิ้นเดียว มีลักษณะเป็นโถแบบโค้งมน ไร้รอยต่อของโถและถังเก็บน้ำ ข้อดีคือ ไม่มีปัญหาน้ำรั่วซึมบริเวณรอยต่อ ติดตั้งและทำความสะอาดได้ง่าย แต่จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง หากมีปัญหาต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด
  • แบบสองชิ้น มีรอยต่อระหว่างโถและถังเก็บน้ำ ข้อดีคือ มีราคาที่ย่อมเยา หากส่วนไหนที่มีปัญหาก็สามารถซื้อเปลี่ยนแยกชิ้นได้ อีกทั้งง่ายและสะดวกต่อการขนย้าย แต่หากติดตั้งได้ไม่ดี หรือไม่ได้มาตรฐาน อาจจะทำให้มีปัญหาน้ำรั่วซึมได้ครับ
ประเภทของโถสุขภัณฑ์

ระบบชำระล้าง เป็นระบบที่สำคัญและไม่ควรจะมองข้าม แต่ละระบบก็จะมีจุดเด่นและการทำงานที่แตกต่างกันไป ดังนี้ครับ

  • Wash Down เป็นระบบที่ใช้น้ำน้อยที่สุด ประมาณ 3 – 5 ลิตร การชำระล้างเป็นการราดน้ำลงไปตรง ๆ ไม่มีการหมุนเวียนของน้ำภายในชักโครก (หากน้ำไม่ไหลก็สามารถตักน้ำราดได้)
  • Siphonic ระบบกาลักน้ำพัฒนามาจากระบบ Wash Down ใช้น้ำประมาณ 3.8 – 6 ลิตร โดยเพิ่มระบบการหมุนวนของน้ำ ค่อย ๆ ลดระดับ จนเกิดเป็นแรงดึงของสายน้ำลงไป
  • Siphon Jet ระบบกาลักน้ำแบบมีรูเจ็ท ใช้น้ำประมาณ 4.5 – 6 ลิตร โดยจะติดตั้งท่อบริเวณด้านล่างสุดของชักโครก เพื่อเพิ่มแรงดันของน้ำให้ ช่วยดันของเสียได้เร็วขึ้น
  • Siphon Vortex ระบบกาลักน้ำแบบกระแสน้ำหมุนวน จะใช้น้ำประมาณ 6 – 9 ลิตร ติดตั้งรูเจ็ทไว้บริเวณคอห่าน เพื่อให้น้ำที่ปล่อยออกมา กลายเป็นน้ำวนทำให้เกิดการดูดที่แรง ชำระได้สะอาดและเร็ว ส่วนใหญ่จะมีอยู่ในโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว

ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนชักโครกเดิม แนะนำให้ตรวจสอบขนาด หรือสอบถามกับช่างที่ติดตั้งก่อน เพราะหลายรุ่นหลายยี่ห้อ มีขนาดที่แตกต่างกันออกไป จึงทำให้การติดตั้งมีปัญหาได้ ไม่ก็อาจจะต้องเว้นพื้นที่ติดตั้ง ซึ่งจะทำให้ห้องน้ำของเราดูไม่สวยงามครับ


ตารางเปรียบเทียบรีวิว ชักโครก โถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อไหนดี

ตารางเปรียบเทียบรีวิว "โถสุขภัณฑ์" ยี่ห้อไหนดี

หากเพื่อน ๆ คนไหน ไม่มีเวลาที่จะอ่านเนื้อหารีวิวแบบละเอียดทั้งหมดแล้วล่ะก็ ทางเราก็ได้จัดทำตารางเปรียบเทียบรีวิว “โถสุขภัณฑ์ ชักโครก” ยี่ห้อไหนดี ที่สรุปแบบสั้น ๆ มาให้แล้ว เช่น การติดตั้ง ระบบการชำระล้าง ปริมาณการใช้น้ำ และจุดเด่นมาไว้ให้แล้ว ก็เพื่อน ๆ สามารถคลิกปุ่มสีแดงที่ด้านล่างได้เลยครับ



1. NASCO รุ่น NEW TORINO

พลังระดับที่สามารถดูดลูกเหม็นกว่าร้อยลูกลงได้ภายในน้ำเดียวโถสุขภัณฑ์ NASCO รุ่น NEW TORINO มีระบบชำระล้างแบบ Siphon Jet โดยมีรู Jet ช่วยส่งน้ำให้เกิดแรงดูด พร้อมหัวฉีดใต้ผิวน้ำที่ช่วยส่งน้ำเข้าไปในคอห่าน จนเกิดเป็นแรงดูดน้ำและสิ่งปฏิกูล ที่ทั้งรวดเร็วและรุนแรง ซึ่งระบบนี้เป็นการชำระล้างแบบหนัก ใช้น้ำ 6 ลิตร แต่หากเป็นการถ่ายเบาก็สามารถเลือกกดแบบประหยัด ใช้น้ำเพียง 3 ลิตร ที่ปุ่มกดด้านบนได้ครับ

ชักโครกรุ่นนี้เป็นแบบชิ้นเดียว สวย กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน ผลิตจากเซรามิกคุณภาพดี แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน ทำความสะอาดง่าย ด้วยรูปทรงโถหน้ายาวแบบ Elongate รองรับสรีระได้ดี จึงนั่งสบายทุกครั้งที่ใช้งาน ฝารองนั่งเปิด-ปิดได้อย่างนุ่มนวล ด้วยระบบ Slow Closing ที่ทั้งป้องกันการกระแทก และยังสามารถถอดทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วยครับ

การติดตั้งตั้งพื้น
ระบบชำระล้างDual Flush / Siphon Jet
ปริมาณการใช้น้ำ3 L, 6 L
จุดเด่นมีระบบ Siphon Jet ชำระแรงและเร็วกว่า, รูปทรงโถหน้ายาวรองรับสรีระได้ดี

2. COTTO รุ่น TETRAGON

โถสุขภัณฑ์เป็นสิ่งที่ต้องรองรับของเสียจากร่างกาย ดังนั้นความสะอาดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก COTTO รุ่น TETRAGON มาพร้อมกับนวัตกรรม Ultra Clean+ สารเคลือบภายในขอบโถช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ โดยสารเคลือบนี้จะทำหน้าที่ประสานเนื้อเซรามิกให้ยึดเกาะตัวแน่นมากยิ่งขึ้น และตัวสารเคลือบเองก็ยังเรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกันกับเนื้อเซรามิกด้วย พื้นผิวจึงเรียบลื่น ลดการเกาะติดของเชื้อแบคทีเรียและคราบสกปรกได้ดีขึ้นครับ

อีกเรื่องที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือการประหยัดน้ำ เพราะไม่ใช่แค่ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าเท่านั้น แต่ยังเป็นการลดการใช้ทรัพยากรของโลกได้อีกด้วย เกริ่นมาขนาดนี้แน่นอนว่านี่ต้องเป็นชักโครกแบบประหยัดน้ำ ชำระล้างด้วยระบบ Wash Down ใช้น้ำน้อย เพียง 3 และ 4.5 ลิตร เท่านั้น ประหยัดกว่าแบบ 3/6 ลิตร ถึง 12.5 เปอร์เซ็นต์เลยนะครับ

การติดตั้งตั้งพื้น
ระบบชำระล้างDual Flush / Wash Down
ปริมาณการใช้น้ำ3 L, 4.5 L
จุดเด่นโถทรงสี่เหลี่ยม, นวัตกรรม Ultra Clean+ ช่วยลดการสะสมเชื้อโรค

3. MOGEN รุ่น MO69 (ECO)

MOGEN MO69 (ECO) ชักโครกประหยัดน้ำรายแรกที่ใช้ระบบการชำระล้างแบบ Siphon Jet ร่วมกับพลังน้ำดูดที่เร็วและแรงแบบ แถมใช้น้ำน้อย เพียง 3 และ 4.5 ลิตร เท่านั้น ทำงานเงียบตามสไตล์ของสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว รูปทรงสวยงามทันสมัย โถหน้ายาวแบบ Elongate Bowl รองรับสรีระได้ดีและนั่งสบายครับ

ฝารองนั่งเป็นแบบ Soft Close เปิด-ปิดนุ่มนวล ไม่เกิดการกระแทกรุนแรง ถอดเปลี่ยนได้ภายในคลิกเดียว ง่ายต่อการทำความสะอาด วัสดุเป็นพลาสติก ABS ที่แข็งแรงและยืดหยุ่น ส่วนตัวโถผลิตจากเซรามิกคุณภาพดี เขาจึงกล้ารับประกันยาวนานถึง 15 ปี ส่วนอุปกรณ์ภายในหม้อน้ำกับฝารองนั่งนั้น เค้ารับประกันให้ถึง 2 ปีเลยครับ

การติดตั้งตั้งพื้น
ระบบชำระล้างDual Flush / Siphon Jet
ปริมาณการใช้น้ำ3 L, 4.5 L
จุดเด่นมีระบบ Siphon Jet ชำระแรงและเร็ว แถมประหยัดน้ำด้วย


4. TOTO รุ่น CW887UV2

มันจะดีนะหากสามารถทำความสะอาดโถได้ด้วยการเช็ดเพียงแค่ครั้งเดียว ต้องนี่เลยชักโครก TOTO CW887UV2 มาพร้อมกับการออกแบบดีไซน์แบบ RIMLESS นี้เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของโตโต้ ไร้ขอบ ไร้มุมอับ ช่วยป้องกันการเกาะติดของคราบสกปรก ลดการสะสมของเชื้อโรค แถมยังทำความสะอาดง่ายแบบไม่จำเป็นต้องใช้แปรงขัดช่วยเลยครับ

นอกจากการดีไซน์แล้วก็คงยังไม่สาแก่ใจ เพราะเขายังได้ใช้เทคโนโลยีที่มีชื่อว่า CEFIONTECT เป็นการเคลือบพื้นผิวให้มีความเรียบลื่น เพื่อลดการเกาะติดของคราบสกปรกเพิ่มเข้าไปอีก 1 สเต็ป แถมยังมีระบบชำระล้างในแบบของตนเอง เรียกว่า Tornado Flush ช่วยทำความสะอาดด้านในโถหมดจดรอบทิศทาง 360 องศา และยังใช้น้ำน้อยเพียง 4.8 ลิตร ครับ

การติดตั้งตั้งพื้น
ระบบชำระล้างSingle Flush / Tornado Flush
ปริมาณการใช้น้ำ4.8 L
จุดเด่นระบบชำระล้างรอบทิศทาง 360 องศา, ไร้ขอบทำความสะอาดง่าย

5. KOHLER รุ่น KARESS

KOHLER โถสุขภัณฑ์จากแบรนด์อเมริกา โดยในรุ่น Karess เป็นโถสุขภัณฑ์แบบสองชิ้น มีถังพักน้ำแยกกับโถสุขภัณฑ์ วัสดุเป็นเซรามิกประเภทวิเทรียสไชน่า เป็นดินเผาที่มีคุณภาพสูงและแข็งแรง รูปทรงโถหน้ายาวแบบ Elongate รองรับสรีระได้ดี นั่งสบาย มาพร้อมฝารองนั่งรุ่นเฟรนช์เคิร์ฟ กันกระแทก ลดแรงกดทับ ไม่เมื่อย ไม่เป็นเหน็บชา ทั้งยังถอดออกง่าย สะดวกในการทำความสะอาด

ส่วนระบบชำระล้างเขาก็มีเทคโนโลยีเป็นของตนเอง ชื่อว่า CLASS FIVE™ ทำงานด้วยสายน้ำที่เร็วและแรง ซึ่งเกิดจากฟลัชวาล์วขนาดใหญ่กับน้ำที่ส่งมาจากรูเจ็ทเหมือนระบบ Siphon Jet แต่ทิศทางการชำระล้างจะเป็นแบบ 360 องศา จึงสามารถทำความสะอาดด้านในโถได้อย่างหมดจดด้วยการใช้น้ำที่น้อยกว่า คือ 3 และ 4.5 ลิตร เท่านั้นเองครับ

การติดตั้งตั้งพื้น
ระบบชำระล้างDual Flush / KOHLER CLASS FIVE™
ปริมาณการใช้น้ำ3 L, 4.2 L
จุดเด่นมีระบบเฉพาะ KOHLER CLASS FIVE™ สายน้ำเร็วและแรงจากฟลัชวาวล์ขนาดใหญ่

6. ROCA รุ่น BOSTON

6. ROCA รุ่น BOSTON

ราคาโดยประมาณ 6,690 บาท

ROCA แม้จะไม่ใช่แบรนด์สุขภัณฑ์ที่คนไทยเราคุ้นหูมากนัก แต่ต้องบอกว่าเป็นแบรนด์จากประเทศสเปนที่ก่อตั้งมานานมาก ๆ อายุเกือบร้อยปีเข้าไปแล้ว และยังได้รับการยอมรับจนสามารถขยายการค้าไปได้ถึง 170 ประเทศทั่วโลก กวาดรางวัลต่าง ๆ มาประดับแบรนด์ได้มากมาย และยังถูกใช้ในสถานที่สำคัญ ๆ โรงแรมหรู หมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิก รวมไปถึงห้องน้ำบนหอไอเฟลอีกด้วย ประวัติแน่นขนาดนี้ คงไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพและมาตรฐานกันแล้วครับ

ซึ่งโถสุขภัณฑ์ที่แนะนำรุ่นนี้คือรุ่น Boston เป็นโถแบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ทำความสะอาดง่าย ผิวสุขภัณฑ์ขาวมันวาวและแข็งแรง ไม่ต้องกลัวว่าจะเหลือง มีปุ่มกดบริเวณด้านบนถังพักน้ำ ติดตั้งแบบตั้งพื้น ส่วนของฝาและที่รองนั่งทำจากวัสดุ Urea Formaldehyde ทนทานและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่าพลาสติก PP ทั่วไป ฝารองนั่งเป็นแบบ Soft Close เปิด-ปิดช้า ๆ ช่วยลดแรงกระแทก ส่วนระบบชำระเป็น Siphonic แบบกาลักน้ำ ช่วยชำระล้างได้อย่างสะอาดหมดจดครับ

การติดตั้งตั้งพื้น
ระบบชำระล้างSiphonic
ปริมาณการใช้น้ำ6 L
จุดเด่นผิวสุขภัณฑ์ขาวไม่เหลืองง่าย, ทนทานและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี


7. AMERICAN STANDARD รุ่น NEW WINPLUS

American Standard เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่หลายคนนึกถึงอย่างไม่ต้องสงสัย เรียกว่ายืนหนึ่งทั้งในแง่คุณภาพและความนิยมในบ้านเรามาก ๆ ซึ่งเขาก็มีชักโครกให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ ไม่ว่าจะชอบแบบเรียบง่าย, หรูหรา, ฟังก์ชันเยอะ, งบน้อย, งบสูง ก็มีให้ทุกแบบ สำหรับรุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ราคาไม่แพง รุ่นนิว วินพลัส เป็นโถแบบสองชิ้น รูปทรงกึ่ง Elongate (กึ่งหน้ายาว) ฝารองนั่งแบบ Slow-Closing ปิดนุ่มนวลไม่กระแทกให้เสียหายง่าย

ส่วนของระบบชำระเป็น Single Flush แบบ Wash Down ปุ่มกดด้านหน้า โดยน้ำชำระจะถูกผลักลงมาจากริมรอบขอบโถทั้งหมด ซึ่งระบบนี้หากเกิดเหตุน้ำไม่ไหลจะสามารถตักน้ำราดลงโถได้โดยตรง และรุ่นนี้ยังช่วยประหยัดน้ำด้วย เพราะใช้น้ำเพียง 4.5 ลิตรต่อครั้งเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี ANTI-BAC ผสานในเนื้อสุขภัณฑ์ ช่วยป้องกันและยับยั้งแบคทีเรีย รวมถึงขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย เห็นตัวเลขไม่สูงแต่คุณสมบัติเขาก็จัดว่าโออยู่นะ คุ้มค่าคุ้มราคาเลยทีเดียวครับ

การติดตั้งตั้งพื้น
ระบบชำระล้างSingle Flush / Wash Down
ปริมาณการใช้น้ำ4.5 L
จุดเด่นประหยัดน้ำ, มีเทคโนโลยี ANTI-BAC ยับยั้งแบคทีเรีย

8. KARAT รุ่น OASIS

8. KARAT รุ่น OASIS

ราคาโดยประมาณ 2,270 บาท

KARAT แบรนด์สุขภัณฑ์ได้มาตรฐานอีกหนึ่งยี่ห้อที่เราคนไทยคุ้นเคยกันดี ทั้งคุณภาพและราคาที่จับต้องได้ทำให้หลายคนเลือกใช้ แนะนำรุ่น OASIS เป็นชักโครกสองชิ้น ท่อน้ำทิ้งแบบติดตั้งลงพื้น ออกแบบโถทรงหน้ายาวเข้ากับสรีระผู้ใช้ วัสดุที่ใช้ถือเป็นสุขภัณฑ์แบบ Vitreous China หรือเซรามิกที่มีการดูดซึมน้ำน้อย มีคุณภาพดีครับ

ปุ่มกดชำระจะอยู่บริเวณด้านบน ใช้ระบบชำระ Single Flush กดปุ่มเดียว และเป็น Siphon Wash Down ซึ่งชำระได้ดีกว่าแบบ Wash Down ธรรมดา ใช้น้ำประหยัดเพียง 3.75 ลิตรต่อการกด 1 ครั้งเท่านั้น ฝารองนั่งก็เป็นแบบ Soft Close ปิดนุ่มนวลไม่เกิดแรงกระแทก เพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้น จัดว่าเป็นชักโครกราคาเบา ๆ คุณสมบัติดี น่าใช้งานเลยครับ

การติดตั้งตั้งพื้น
ระบบชำระล้างSingle Flush / Siphon Wash Down
ปริมาณการใช้น้ำ3.75 L
จุดเด่นประหยัดน้ำ , ราคาประหยัด

9. HAFELE รุ่น SEINE

โถสุขภัณฑ์แบบแขวนผนังจากแบรนด์ HAFELE รุ่น SEINE ต้องบอกว่าในบ้านเราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นใครใช้โถลอยแบบนี้กันเท่าไหร่ ซึ่งโถสุขภัณฑ์แขวนผนังก็เหมาะกับการใช้งานที่จำเป็น อย่างสถานที่ซึ่งไม่สามารถเจาะพื้นได้ หรือการต่อเติมเพิ่มทีหลังจึงไม่มีการฝังท่อของเสียไว้ก่อน แบบนี้การติดตั้งโถแขวนผนังจึงดูจะเป็นทางที่สะดวกกว่า และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วยครับ

สำหรับรุ่นนี้ระบบชำระล้างเป็นแบบ Wash Down ชำระได้สะอาดทั่วถึง ฝารองนั่งทำจาก Uria Formaldehyde แข็งแรงและป้องกันรอยขีดข่วนได้ มีระบบปิดแบบนุ่มนวลไม่กระแทกแรง ๆ ซึ่งใครที่สนใจอยากติดตั้งโถแบบนี้ อาจจะไม่ใช่อยู่ดี ๆ อยากจะติดได้เลย แต่ต้องมีการเตรียมทั้งความแข็งแรงของผนังที่ต้องรองรับน้ำหนักโถ และยังระบบถังพักน้ำซึ่งต้องฝังไว้ภายในผนังอีกด้วย ยังไงก็ศึกษาข้อมูลดี ๆ ปรึกษาช่างที่ติดตั้งสุขภัณฑ์ ก่อนตัดสินใจกันนะครับ

การติดตั้งแขวนผนัง
ระบบชำระล้างWash Down
ปริมาณการใช้น้ำN/A
จุดเด่นสวยดูดี, ทำความสะอาดง่าย

10. NAHM รุ่น ROK

10. NAHM รุ่น ROCK

ราคาโดยประมาณ 8,090 บาท

NAHM ชักโครกแบรนด์คุณภาพจากประเทศไทยเรานี่เอง บอกเลยว่าเขาพิถีพิถันและใส่ใจในผลิตภัณฑ์มาก ๆ โดดเด่นทั้งมาตรฐานและดีไซน์ ถ้าไม่ดีจริงคงไม่อยู่มายาวนานตั้งแต่ปี 1994 และได้รับความไว้วางใจมาจนถึงปัจจุบันได้แน่นอน ซึ่งรุ่นที่แนะนำนี้เป็นโถสุขภัณฑ์ในคอลเล็คชั่น ROK (ร๊อค) เป็นโถแบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ที่รองนั่งมีความยาวและนั่งสบายมากขึ้น รวมทั้งมีการปิดแบบนุ่มนวลจึงไม่เกิดเสียงดัง และไม่กระแทก ช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้นครับ

ส่วนของระบบชำระล้างเป็น Dual Flush เลือกแบบเบา 3 ลิตร หรือแบบหนัก 4.8 ลิตร ซึ่งถือว่าช่วยประหยัดน้ำได้ดีเลย และมีระบบ Siphon Jet ที่ช่วยให้ชำระล้างได้แรงและเร็วขึ้น รวมถึงมีนวัตกรรม Smart Rim หรือโถแบบไร้ขอบ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการชำระล้างได้ดีขึ้น ทำความสะอาดได้ทุกซอกทุกมุม ลดการเกิดคราบสกปรก ไม่ต้องล้างกันบ่อย ๆ คุณสมบัติจัดว่าครบ ดีไซน์ก็สวยหรูดูมีระดับ แนะนำไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดี ๆ เลยครับ

การติดตั้งตั้งพื้น
ระบบชำระล้างDual Flush / Siphon Jet
ปริมาณการใช้น้ำ3 L, 4.8 L
จุดเด่นมีระบบ Siphon Jet ชำระแรงและเร็ว, โถแบบไร้ขอบ Smart Rim ช่วยให้ชำระล้างได้ดี

เป็นยังไงกันบ้าง กับ “โถสุขภัณฑ์ ชักโครก” ยี่ห้อไหนดี ไม่ทราบว่าสนใจซื้อรุ่นไหนดีครับ จากที่เห็น ๆ มาเนี้ย บางยี่ห้อ บางรุ่น เค้ายังมีฟังก์ชันเสริมเพิ่มเติมคือปุ่มกดชำระ มีทั้ง Single Flush แบบ 1 ปุ่ม ให้ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก และ Dual Flush แบบ 2 ปุ่ม สามารถเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ได้ ปุ่มเล็กสำหรับธุระเบาและปุ่มใหญ่สำหรับธุระหนัก แถมยังช่วยเรื่องประหยัดน้ำได้ดีอีกด้วย สำหรับคนตัวใหญ่ อย่าลืมเลือกรูปทรงที่มีขนาดยาว จะช่วยให้นั่งได้สบายขึ้นอีกด้วยครับ


Leave a Comment