ก็อย่างที่เรา ๆ รู้กันนะจ๊ะว่า ไพรเมอร์ถือเป็นเครื่องสำอางที่จะมาช่วย “เตรียมผิวหน้า” ของเรา ๆ ให้มีสภาพที่ดีขึ้น และเพื่อที่จะช่วยให้ทั้งรองพื้นกับการแต่งหน้าสีสันต่าง ๆ สามารถติดทนอยู่บนผิวได้ดีและได้นาน แต่ ๆๆๆ ด้วยสภาพผิวของสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ บางคนที่มีความมันเป็นพิเศษ การใช้ไพรเมอร์ทั่ว ๆ ไปอาจจะเอาความมันส่วนเกินไม่อยู่ ทำให้หน้าเละ หน้าพัง หน้ามันเยิ้มระหว่างวันได้ ซึ่งถ้าอยากจะสามารถควบคุมความมันได้ดีมากขึ้นละก็ หันมาใช้ “ไพรเมอร์ คุมมัน” ดูสิคะ! บอกเลยว่า สาวผิวมันกับผิวผสมจะเลิฟ ๆๆๆๆ กันเลยทีเดียว แต่จะซื้อไพรเมอร์ คุมมัน ยี่ห้อไหนดี? ก็ลองไปอ่านรีวิว 10 ยี่ห้อด้านล่างสิจ๊ะ น่าจะเป็นไกด์ไลน์ช่วยได้จ้าา
สารบัญ
จะเลือกซื้อ “ไพรเมอร์ คุมมัน” ยี่ห้อไหนดี ยังไงดีนะ?
ก็ขึ้นชื่อว่า ไพรเมอร์คุมมัน อันดับแรก ๆ ที่สาว ๆ ควรจะมองก่อนก็คือ “ต้องสามารถช่วยคุมหรือช่วยลดความมันส่วนเกินได้ดี” ถ้าใช้แล้วคุมความมันไม่ได้ ก็คงไม่ไหวกันเนาะ แต่เรื่องนี้ ไม่ต้องเป็นห่วงกันเท่าไร เพราะเดี๋ยวนี้ไพรเมอร์สูตรคุมมันส่วนใหญ่จะทำได้ดีอยู่แล้ว ช่วยคุมความมันส่วนเกินได้นานหลายชั่วโมงเลยล่ะค่ะ (ต้องซื้อสูตรคุมมันนะ ถ้าซื้อไพรเมอร์สูตรอื่น ๆ จะช่วยคุมมันได้ไม่ดีเท่าไร) ดังนั้นไปห่วงเรื่อง “เนื้อสัมผัส” กับ “ราคา” จะดีกว่าจ๊ะ
เนื่องจากไพรเมอร์เอง ก็มีหลายเกรดหลายยี่ห้อกันเลยทีเดียว ซึ่งพวกยี่ห้อที่มีราคาสูง ๆ ก็จะมีคุณภาพที่ดีกว่า เนื้อสัมผัสดีงามกว่า ใช้แล้วหน้านุ่ม หน้าเรียบเนียน ดูดีแบบสุด ๆ (ลองใช้เทียบกับพวกของราคาถูกดูสิ แล้วจะรู้สึกถึงความแตกต่างเลยล่ะ) แต่ด้วยคุณภาพที่ดีงาม ก็แน่นอนว่า จะมีราคาที่ค่อนข้างแพงงงงมากก แพงจริง ๆ บางยี่ห้อให้ปริมาณเนื้อครีมมานิดเดียว แต่ราคาเกือบพัน! จะให้ไปเน้นหน้าสวยแต่ทนหิว มันก็คงไม่ไหวเนาะ ดังนั้น “การเลือกซื้อราคาที่เหมาะสมกับงบที่ตนมี” จะดีที่สุดค่ะ ไม่แน่นะ อาจจะติดใจพวกยี่ห้อราคาถูก ๆ เหมือนเราก็ได้ เพราะของถูกก็ซื้อง่ายดี ไม่ต้องคิดเยอะ ซื้อมาลอง ๆ ได้แบบสบาย ๆ จนเราเจอยี่ห้อที่เราชอบ ซื้อใช้ประจำเลยก็มีจ้า (จะเห็นได้ในรีวิวเน้อ)
ซื้อเครื่องสำอางหรือไพรเมอร์คุมมันตามงบที่ตนมีเถอะนะสาว ๆ อย่าใช้ของสิ้นเปลืองเลยเนาะ
แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่จะทำให้สาว ๆ รู้กันว่า ไพรเมอร์คุมมันยี่ห้อไหนดีต่อตนเองมากที่สุดก็คือ “การทดลองใช้” นั่นเองค่ะ เพราะคนเรามีความชอบที่ไม่เหมือนกัน การใช้เครื่องสำอาง รวมถึงการแต่งหน้าก็ไม่เหมือนกันด้วย บางคนอาจจะชอบยี่ห้อนี้ เพราะราคาถูกและเนื้อครีมเหมาะกับสภาพผิว แต่บางคนอาจจะไม่ชอบ ใช้แล้วผิวพังก็เป็นได้ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ อยากให้ซื้อไพรเมอร์คุมมันขนาดเล็ก ๆ มาลองใช้กับผิวดูก่อน ถ้าชอบก็ค่อยอัพไซส์ หรือถ้าไม่ชอบก็จะได้ไปลองยี่ห้อใหม่แทนได้เลยนั่นเองค่าา และขอบอกเลย ยังไงสาว ๆ สายแต่งหน้าก็ได้ซื้ออยู่แล้ว ไม่มีหยุดแค่ 1 แน่นอนจ๊ะ เรารู้ดี! เตรียมเงินกันไว้ได้เลยยย
และนอกจากการใช้ไพรเมอร์คุมมันแล้ว ถ้าอยากจะคุมมันได้ดีมากขึ้น อยากให้หน้าสวยเป๊ะได้ยาวนานตลอดทั้งวันแบบชัวร์ ๆ ละก็ อยากให้ใช้ “แป้งฝุ่นคุมมัน” กันด้วยเด้อ จะช่วยคุมมันได้มากขึ้นเลยล่ะจ๊ะ ก็ถ้าสนใจละก็ ขอฝากบทความด้านล่างด้วยน้าา
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “ไพรเมอร์ คุมมัน” ยี่ห้อไหนดี
ก็เผื่อสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ คนไหนที่ไม่มีเวลาอ่านเนื้อหารีวิวทั้งหมด หรืออยากจะอ่านแบบสั้น ๆ รวบรัด ๆ ไปเลยซะมากกว่า ก็ลองกดเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบที่ปุ่มด้านล่างได้นะคะ จะได้เห็นไพรเมอร์คุมมันทั้ง 10 ยี่ห้อ มาวางเรียงเทียบกันให้ดู พร้อมมีสรุปแบบคร่าว ๆ ไว้ให้ด้วยค่า
1. ไพรเมอร์ คุมมัน ยี่ห้อ Benefit The Porefessional
ราคาโดยประมาณ 390 / 890 บาท ต่อ 7.5 / 22 ml
ตำนานแห่งไพรเมอร์คุมมัน ถึงจะผ่านมาหลายปี สาวผิวมันก็ยังเทใจนึกถึงยี่ห้อ Benefit เป็นตัวแรก ๆ อยู่ดี เพราะชีถือเป็นยี่ห้อแรก ๆ ที่ทำให้ใครต่อใครหลาย ๆ คนเริ่มให้ความสำคัญกับการเตรียมผิวด้วยไพรเมอร์ก่อนแต่งหน้าเลยล่ะ ซึ่งเอาจริง ๆ ชีก็มีทำออกมาหลากหลายสูตรอยู่ แต่สำหรับใครที่ผิวมัน ต้องการเน้นการควบคุมน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า พร้อมทั้งทำให้เมคอัพติดทน ปกปิดรูขุมขนได้เป็นอย่างดีละก็ ต้องเลือกคุณ Benefit The Porefessional หลอดสีเขียวนี้แหละจ้าาาา (หลอดสีอื่นก็ปกปิดได้ดี แต่คุมมันไม่ดีเท่าเน้อ)
โดยชีสีเขียวถือเป็น 1 ในไพรเมอร์ดีเด่น มีครบทุกสรรพคุณที่ไพรเมอร์คุมมันดี ๆ ตัวหนึ่งควรจะมี ไม่ว่าจะ เนื้อสัมผัสเป็น Silicon ที่นุ่มลื่น เกลี่ยง่าย ไม่หนักหน้า สามารถช่วยกลบหลุมสิว ปกปิดความชั่วร้ายบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ส่วนเนื้อครีมก็เกลี่ยง่าย และที่สำคัญ คุมมันได้แบบเต็มเบอร์มากกกกกก อีกทั้งไม่ทำให้ผิวดูแห้งแตกแต่อย่างใดด้วยนะ จะเป็นไปในทางลุคผิวสุขภาพดี ผิวเป็นผิวมากกว่า คอนเฟิร์มความดีงามด้วยยอดขายที่มากกว่า 1,000 ++ ในอินเตอร์เน็ทเลยล่ะจ๊ะ แต่นางจะแอบแพงหน่อยนะเมื่อเทียบกับไพรเมอร์ คุมมันยี่ห้ออื่น ๆ ก็อาจจะไปลองยี่ห้อที่ราคาย่อมเยากว่าดูก่อนก็ได้ ถ้าไม่ชอบยังไง ค่อยกลับมาหานางค่ะ
| จุดเด่น | เกลี่ยผิวให้เรียบเนียนง่ายต่อการแต่งหน้า ทำให้เมคอัพติดทน ปกปิดรูขุมขน ควบคุมความมัน ผิวไม่แมตต์แห้งจนเกินไป |
| ส่วนประกอบ | Silicon |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อซิลิโคน นุ่ม ลื่น เบาผิวมาก |
| สี | สีเนื้อ |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
2. ไพรเมอร์คุมมัน ยี่ห้อ SMASHBOX Photo Finish Foundation Primer
ราคาโดยประมาณ 280 บาท ต่อ 7.1 ml
รองจากไพรเมอร์ในตำนานอย่าง Benefit ก็มีคุณ SMASHBOX เนี่ยละค่ะที่ฆ่าไม่ตาย ตีคู่สู่สีมาพอ ๆ กัน แถมยังอยู่ยงคงกระพันเป็นเบอร์ต้น ๆ ของตลาดไพรเมอร์ได้แบบไม่สะทกสะท้านกันซักนิดเลยด้วยนะ (แต่ SMASHBOX จะค่อนข้างมีชื่อเสียงในตลาดสหรัฐมากกว่าตลาดไทย ในไทยไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไรนัก) ซึ่งถ้าให้พูดถึงไพรเมอร์คุมมันที่ดังสุด ๆ สาวสายบิวตี้ที่อยู่ในวงการนี้มานานต้องมีคุ้นหูกันบ้างแหละ ต้องคุณคนนี้เลย SMASHBOX Photo Finish Foundation Primer ค่าา
โดยนางก็จะเป็นสูตรอำพรางรูขุมขนและริ้วรอยแห่งวัยได้แบบจุก ๆ ใครที่มีร่องน้ำหมาก มีหลุมสิวเยอะอยากปรับผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอก่อนลงรองพื้นบอกเลยว่า ต้องชอบ! และนางยังช่วยมอบผลลัพธ์เป็น Soft Matte สบาย ๆ โดยไม่ทำให้ผิวแห้งอีกด้วยนะ แต่สิ่งที่เลิฟสุด ๆ ก็คือ คุมมันดีมากกกก และยังควบคุมความมันได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมงด้วย ยังจ้ายังไม่จบ นางยังมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวจากวิตามิน A & E รวมถึงสารสกัดจากเมล็ดองุ่นกับชาเขียว ที่จะมารวมพลังกันช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น เรียกว่า ซื้อ 1 ได้ถึง 2 เป็นทั้งเครื่องสำอางและสกินแคร์เลยล่ะ นอกจากนี้ ก็ยังปราศจากสารกันเสีย, น้ำมัน และน้ำหอม สาว ๆ ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ ต้องหาโอกาสลองใช้นางกันดูแล้วล่ะค่า
| จุดเด่น | อำพรางรูขุมขน ปรับผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ ล็อคเมคอัพให้ติดทนนาน ให้ความผิวสไตล์ Soft Matte ควบคุมความมันได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง |
| ส่วนประกอบ | วิตามิน A & E, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น และชาเขียว แถมยังปราศจากสารกันเสีย น้ำมัน และน้ำหอม |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อนุ่มลื่น |
| สี | ใส |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
3. ไพรเมอร์ คุมมัน ยี่ห้อ Hourglass veil mineral primer
ราคาโดยประมาณ 239 / 559 บาท ต่อ 3 / 8.9 ml
แค่ได้ยินชื่อก็ขนลุกซู่ รู้กันดีถึงความเริ่ด ความปังที่มาพร้อมกับความแพงงงงแสนแพงสำหรับคุณไพรเมอร์คุมมันจาก Hourglass veil mineral primer ซึ่งการันตีความดีงามด้วยการเข้าไปอยู่ในหมวด Favorite ของคุณโมเม Dailycherie กันเลยจ้าาา ปังสุด โดยคุณคนนี้จะเน้นคุณสมบัติเพิ่มความนัว! ทำให้ผิวเนียนขึ้น ลื่นขึ้น ยิ่งเวลาลงรองพื้นหรือคุชชั่นจะยิ่งเห็นชัดเลยว่า ผิวดูสวยขึ้น แต่งหน้าง่ายขึ้น ติดทนนานไปตลอดทั้งวัน แถมยังควบคุมความมันได้เป็นอย่างดี สาวผิวมันที่ใช้ชีวิตอยู่ในออฟฟิศถือว่า คุมอยู่เช้ายันเย็นเลยล่ะ แต่สำหรับใครที่เป็นสายออกแดด Outdoor อาจมีความมันหลุดออกมาตามจุดทีโซนเล็กน้อยนะคะ แต่ซับ ๆ ออกก็หายจ้า
มาถึงตัวเนื้อผลิตภัณฑ์กันบ้าง ชีเป็นเนื้อครีมสีขาว เบาสบายทาแล้วจะสมูทไปกับผิว ในความรู้สึกส่วนตัวจากที่ได้ใช้นางมาก รู้สึกว่า ทำให้หน้าดูเนียนขึ้น ไบรท์ขึ้น และรู้สึกได้ถึงความผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอเท่ากันทั้งใบหน้า แต่ก็ไม่ทำให้หน้าอุดตันเลยนะ ซึ่งปกติจากที่ได้ใช้พวกไพรเมอร์กับรองพื้นมา จะชอบมีสิวอุดตันโผล่มาที่หน้าบ้างเป็นครั้งคราว แต่จากที่ได้ใช้นางคนนี้ คือสิวอุดตันลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ นางก็ยังพิเศษกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ตรงที่ สามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ด้วย SPF 15 อีกด้วย ก็ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา และอยากได้ไพรเมอร์คุมมันขั้นเทพละก็ ต้องจัดนางแล้วล่ะจ้าา
| จุดเด่น | ทำให้ผิวเนียนขึ้น ไบรท์ขึ้น แต่งหน้าง่ายขึ้น ติดทนนานไปตลอดทั้งวัน ผิวสวยขึ้น ควบคุมความมันได้เป็นอย่างดี มีสารกันแดด |
| ส่วนประกอบ | ปกป้องผิวจากรังสี UV ด้วย SPF 15, ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน แป้ง น้ำหอม และกลูเตน |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อครีม ลื่น เกลี่ยง่าย |
| สี | สีขาว |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
4. ไพรเมอร์คุมมัน ยี่ห้อ BANILA CO Prime Primer Matte
ราคาโดยประมาณ 715 บาท ต่อ 30 ml
หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักคุณ BANILA CO กันดีจาก Cleansing balm ตัวดัง แต่ขอบอกเลยว่า ผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ โดยเฉพาะไพรเมอร์คุมมัน BANILA CO Prime Primer Matte ของคุณเขาก็ไม่ธรรมดา ยังคงมีความเป็นซิกเนเจอร์ในเรื่องที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะผิวมันหรือผิวไหน ๆ ก็ใช้ได้จ้า โดยสัมผัสแรกที่เราได้ใช้ก็รู้สึกได้เลยว่า ผิวหน้านุ่มขึ้น และผิวเรียบลื่นขึ้น ซึ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับการเตรียมผิวก่อนลงเครื่องสำอาง อีกทั้งยังช่วยกลบร่อง กลบรูขุมขนกวนใจต่าง ๆ ได้อย่างอยู่หมัด แถมยังช่วยควบคุมความมันได้เป็นอย่างดีอีกด้วยเด้อ
สำหรับส่วนประกอบของชี ก็บอกว่าชีเป็น “3 Different Types to Match your skin need” หรือเป็นการรวมจุดเด่นทั้ง 3 เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของผิวแบบสุด ๆ อย่าง Skin Corrector, Soft Gliding Texture และ Sebum Absorption ที่จะมาช่วยกันเบลอรูขุมขน และปกปิดริ้วรอยชั่วร้ายต่าง ๆ ส่วนทางด้านเนื้อครีม ก็มีความเข้มข้นสูง จึงช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอกลืนไปกับผิวได้ดี อีกทั้งยังมีตัวช่วยดูดซับความมันกับกระชับรูขุมขน แต่ยังคงความเป็นเนื้อซาตินนิด ๆ ปรับให้ผิวสวยสุขภาพดี ไม่แมตต์ไม่แห้งจนเกินไป ซึ่งก็เหมาะกับสาว ๆ ทุกสภาพผิวเลยล่ะค่ะ คือต้องบอกเลย ถ้าไม่รู้จะซื้อไพรเมอร์ คุมมัน ยี่ห้อไหนดีละก็ จัดนางเลยจ้าาา
| จุดเด่น | อำพรางรูขุมขน ปกปิดริ้วรอย และเสริมลุคผิวให้เรียบเนียน ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ตัวช่วยดูดซับความมัน กระชับรูขุมขน ใช้ได้ทุกสภาพผิว |
| ส่วนประกอบ | Skin Corrector, Soft Gliding Texture, Sebum Absorption |
| เนื้อสัมผัส | ไพรเมอร์เนื้อละเอียด ลื่น ไม่หนักหน้า |
| สี | ขาว |
| สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
5. ไพรเมอร์ คุมมัน ยี่ห้อ BOBBI BROWN PRIMER PLUS Mattifier
ราคาโดยประมาณ 299 / 975 บาท ต่อ 4 / 40 ml
พูดถึงงานเครื่องสำอางแล้วละก็ ไม่พูดถึงคุณคนนี้คงจะไม่ได้เลยค่ะ สำหรับคุณ BOBBI BROWN แบรนด์ดังชื่อเสียงติดท็อป และเป็นแบรนด์โปรดของใครหลาย ๆ คนด้วยเด้อ โดยถ้าพูดถึงตัวไพรเมอร์ของชี ก็มีกันหลากหลายสูตร หลายรุ่นเอาเรื่องเลยทีเดียว แต่ถ้าจะเน้นเรื่องคุมมันแบบสุด ๆ เราขอแนะนำเป็น BOBBI BROWN PRIMER PLUS Mattifier หลอดสีดำเลยจ้าา (ต้องหลอดสีดำนะ สีอื่น ๆ ไม่ช่วยคุมมันเท่าไร) ความว้าวซ่าของไพรเมอร์คุมมันตัวนี้ เขาเปิดมาด้วยการเคลมตัวเองว่าเป็น “กระดาษซับมันแบบลิคขวิด” คุมทั้งความมันและน้ำมันส่วนเกินด้วยผงแป้งสูตรพิเศษแบบเอาอยู่ กรุบ ๆ ไปเลยแม่
และสำหรับเนื้อสัมผัส จะเป็นเนื้อแมตต์เบา ๆ สไตล์ Soft Matte ที่เวลาทาลงผิวแล้ว จะให้ความรู้สึกเย็น ๆ สดชื่น ผ่อนคลายเหมือนน้ำเลยล่ะค่ะ ไม่เหนียว ไม่หนืด ทาแล้วสบายผิวหน้ามากกกก แต่ก็ไม่ทำให้ผิวแห้งแข็งแต่อย่างใด อีกทั้งเรื่องอำพรางรูขุมขนก็ไม่น้อยหน้า กลบผิวจนเรียบเนียนแบบไม่ได้ใช้ซิลิโคนเหมือนยี่ห้ออื่น ๆ กันด้วยนะ เพราะชีเคลมตัวเองว่า No ซิลิโคนจ๊ะ! สาว ๆ ทุกสภาพผิวโดยเฉพาะสาวผิวมันก็ใช้ได้แบบไม่ต้องกลัวว่าสิวจะขึ้นเลย รวม ๆ แล้วไว้วางใจกับชื่อเสียงของ BOBBI BROWN ได้ ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอนจ้า
| จุดเด่น | ควบคุมในระดับกระดาษซับมัน แบบลิคขวิด เนื้อสัมผัสจะเป็นเนื้อแมตต์เบาสบายผิว พรางรูขุมขนได้ดี |
| ส่วนประกอบ | ผงแป้งสูตรพิเศษ ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อครีมกึ่งเจล มีความแป้งนิด ๆ ทำให้เกลี่ยง่าย กลืนไปกับผิว |
| สี | เนื้อขาวขุ่น |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
6. ไพรเมอร์ คุมมัน ยี่ห้อ Innisfree No Sebum Blur Primer
ราคาโดยประมาณ 325 บาท ต่อ 25 ml
ชีเป็นไพรเมอร์ม้ามืด มาเงียบ ๆ ฟาดเรียบ Out of Stock กันไปช่วงนึงเลยล่ะค่ะ สำหรับคุณ Innisfree No Sebum Blur Primer ที่ไม่น่าเชื่อเลยนะว่า งานเกาหลีจะสามารถทำไพรเมอร์คุมมันได้ปังมากขนาดนี้ แถมยังแอบมีความคล้ายคลึงกับคุณ Benefit หลอดเขียวตัวด้านบนด้วยนะ ก็ถ้าช่วงไหนใครขัดสน งบไม่พอ ก็เอาคุณคนนี้มาใช้แทนได้เลยเด้อออ โดยความเริ่ดของชีมันอยู่ตรงที่ ชีสามารถเบลอผิว ปรับสภาพผิวหน้า อำพรางรูขุมขนได้อย่างเนียน! ปรับผิวให้ละเอียดพร้อมลงรองพื้นได้แบบสุดด ทำให้เครื่องสำอางติดทน กันน้ำกันเหงื่อเอาอยู่ แถมยังควบคุมความมันได้เป็นอย่างดีอีกด้วยจ้า
ส่วนทางด้านเนื้อไพรเมอร์ ชีจะเป็นเนื้อ Silicon ที่มีสีเนื้ออ่อน ๆ ทำให้สามารถกลบร่องลึกต่าง ๆ บนใบผิวหน้าได้พอสมควรโดยเฉพาะร่องแก้ม และยังปกปิดรูขุมขนได้เป็นอย่างดี ซึ่งเวลาลงไพรเมอร์ เนื้อครีมจะกลืนเข้าไปกับผิวเลยแหละ และด้วยความที่มีสีเนื้ออ่อน ๆ ก็ทำให้สามารถใช้ได้กับสีผิวหลายเฉดอีกด้วยเน้อ แต่ขอเตือนกันนิดนึง สาว ๆ คนไหนที่มีผิวหน้าแห้งไม่แนะนำนะจ๊ะ เพราะชีค่อนข้างมีความแห้ง แมตต์เอาเรื่องเลยทีเดียว ถ้าใช้ชี อาจจะยิ่งทำให้ผิวแห้งไปกันใหญ่ได้เน้อ แนะนำไปเล็ง ๆ ไพรเมอร์ คุมมัน ยี่ห้ออื่น จะดีกว่าค่า
| จุดเด่น | กลบร่องลึก ปกปิดรูขุมขนได้เป็นอย่างดี เบลอผิว ปรับสภาพผิวหน้า ให้พร้อมลงรองพื้นมากที่สุด |
| ส่วนประกอบ | สารสกัดจากลูกพลับสีเขียว สารสกัดจากพืชเชจู |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อ Silicon |
| สี | สีเนื้ออ่อน |
| สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
7. ไพรเมอร์ คุมมัน ยี่ห้อ in2it Blur & Matte Primer
ราคาโดยประมาณ 139 บาท ต่อ 8 g
มาจ้าาา ใครงบน้อยหน่อย หรืออยากเก็บตังค์ไปลงทุนกับเครื่องสำอางชิ้นอื่น ๆ มากกว่า ขอแนะนำคุณ “ถูกและดี” คนนี้เลย in2it Blur & Matte Primer ไพรเมอร์คุมมันราคาน่ารัก ถูกใจสาว ๆ ที่แต่งหน้าบ่อยอยาก Save เงินในบัญชี แต่ก็ยังต้องการความเป๊ะปังอยู่ โดยชีก็สุดจัดตามชื่อ Blur & Matte ซึ่งจะมาช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทนนานมากกก อยู่ได้แบบเช้าจรดเย็น ช่วยอำพรางรูขุมขน เบลอสีผิวไม่สม่ำเสมอได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้อย่างอยู่หมัดด้วยค่าาา
โดยเนื้อไพรเมอร์ของนาง ก็จะออกลื่น ๆ ช่วยให้เกลี่ยเนื้อไปตามร่องรูขุมขน ร่องผิวต่าง ๆ ได้ดีมากก และยังมีสีให้เลือกซื้อตามเฉดสีผิวด้วยนะคะ (แต่ถ้าเลือกซื้อทางอินเตอร์เน็ท อาจจะต้องดูดี ๆ นิดหนึ่ง มันแยกสีออกจากกันค่อนข้างลำบากค่ะ) นอกจากนี้ นางก็ยังเป็นสูตรกันน้ำ กันเหงื่อ แถมยังมอบการบำรุงพร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะ PM 2.5 เพราะมีส่วนผสมของ Vitamin E และ Rose Water ที่ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น เสริมสร้างผิวให้แข็งแรง ซึ่งหลังเช็ดล้างทำความสะอาดเครื่องสำอางออกแล้ว ใบหน้าเลยดูไม่อ่อนล้าทั้งทีอยู่กับเมคอัพมาทั้งวันค่ะ คุ้มมากต้องมีซักหลอดแล้วแหละถือว่าขอ!
| จุดเด่น | ช่วยอำพรางรูขุมขน เบลอสีผิวไม่สม่ำเสมอได้เป็นอย่างดี ควบคุมความมัน เครื่องสำอางติดทนนาน กันน้ำ กันเหงื่อ ปกป้องผิวจากมลภาวะ PM 2.5 |
| ส่วนประกอบ | Vitamin E, Rose Water มีสารกันแดด SPF 30 PA+++ |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อครีม นุ่ม เกลี่ยง่าย |
| สี | สีเนื้อ เม็ดสีชัด มีสีให้เลือก |
| สัญชาติ | ไทย |
8. ไพรเมอร์ คุมมัน ยี่ห้อ Wet N Wild Photo focus face primer Matte
ราคาโดยประมาณ 210 บาท ต่อ 25 ml
มาจ้าาาา อีกหนึ่งแบรนด์เครื่องสำอางสุดปัง เชื่อเลยว่าไม่มีใครไม่รู้จักกับยี่ห้อ Wet N Wild ขวัญใจสาวกของถูกและดีที่ถูกกว่ายี่ห้ออื่น ๆ มากเลยแหละ กรณีจากคนเขียนเอง อิอิ ซื้อมาใช้หลายหลอดแล้วจ้า ราคาแค่ประมาณ 200 บาท แต่ได้ตั้ง 25 ml ถ้าเป็นยี่ห้ออื่น ๆ ได้แค่ไซส์ทดลองเด้อ ราคาสบายกระเป๋าแบบสุด ๆ ค่ะ แต่ด้วยการที่ไลน์ไพรเมอร์ของนาง ได้ทำออกมาเยอะมากกกก มีสูตรให้เลือกซื้อด้วยกันถึง 5 สูตร ซึ่งก็ดีทุกสูตรนะ แต่ถ้าอยากได้ไพรเมอร์คุมมันของชีละก็ ต้องเป็นตัวนี้ Wet N Wild Photo focus face primer Matte หลอดสีดำเลยจ้าาาาา
โดยสาว ๆ สามารถใช้ชีได้ทุกวัน ไม่ว่าจะลุคแน่น ๆ หรืออยากได้ความใสเป็นธรรมชาติ ชีก็ทำได้หมด เพียงแค่ลดเพิ่มปริมาณเนื้อครีมก็เท่านั้นเอง และเนื้อครีมของชีเอง ก็ไม่เหนียวเหนอะหนะ ผิวแห้งแมตต์กำลังดี มีความสบายตลอดทั้งวัน และยังช่วยกระจายแสงทำให้หน้าดูไบรท์ ช่วยเบลอรูขุมขน ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียน ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอง่ายต่อการลงรองพื้นมากยิ่งขึ้นด้วยเด้อ และที่สำคัญ ช่วยควบคุมความมันได้ดี จึงช่วยให้เมคอัพของสาว ๆ ติดทนนานมากกกอยู่ได้ตั้งแต่เช้ายันเย็นอีกด้วย ไม่ต้องคิดเยอะแล้ว จัดเลย 200 กว่าบาท คุ้มสุด ๆ จ้า
| จุดเด่น | บางเบา ควบคุมความมันได้เป็นอย่างดี กระจายแสงทำให้หน้าดูไบรท์ ปรับสีผิว เบลอรูขุมขน ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียน ทำให้เครื่องสำอางติดทน |
| ส่วนประกอบ | มีส่วนผสมของไพลินสีขาว (White Sapphire) |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อกึ่งเจลกึ่งครีมมี่ ใช้ง่าย |
| สี | ขาวขุ่น |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
9. ไพรเมอร์ คุมมัน ยี่ห้อ CUTE PRESS EVORY RETOUCH PORE MINIMIZING & OIL CONTROL PRIMER
ราคาโดยประมาณ 177 บาท ต่อ 20 ml
งานผิวต้องยอม Cute press เค้าจริง ๆ คือชีทำได้ดีมากก ซึ่งเอาจริง ๆ ชีก็มีเครื่องสำอางในไลน์หลายตัวเลยแหละ แต่ถ้าพูดถึงไพรเมอร์ คุมมัน ที่เกิดมาเพื่อผิวมัน ผิวผสมของสาวไทยโดยเฉพาะอยู่ละก็ ต้องจัด CUTE PRESS EVORY RETOUCH PORE MINIMIZING & OIL CONTROL PRIMER ตัวนี้เลย จุดเด่นของเค้าคือ เป็นไพรเมอร์คุมมันที่สามารถรีทัชผิวของคุณให้พร้อมแต่งหน้ามากที่สุด และยังมาพร้อมกับความปังที่เราชอบเป็นการส่วนตัวมากกกก็คือ เทคนิคที่ช่วยล็อคเมคอัพให้อยู่ทนทั้งวันเหมือนเพิ่งแต่งหน้าตลอดเวลา อยู่ได้นานมากจริง ๆ แต่งหน้าสวยตั้งแต่เช้ายังไง เย็น ๆ ก็ยังอยู่เหมือนเดิม เครื่องสำอางไม่ค่อยเลือนหายไปเลยเด้อ
และแน่นอนว่า การอำพรางรูขุมขน เติมร่องริ้วรอยให้ผิวเรียบเนียนสนิทก็ทำได้ดี และยังมาพร้อมกับนวัตกรรม Instant Blurring ที่จะมาช่วยปรับโทนสีผิวให้แลดูสว่างกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องส่วนผสมอย่างน้ำมัน ก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะนางไม่มี ถูกใจสาวผิวมันผิวผสม ควบคุมความมันได้แบบจุก ๆ ชอบใจกันแน่นอน อีกทั้งยังราคาถูก ตอนแรกว่ามีหลายยี่ห้อที่ราคาย่อมเยามากแล้ว มาเจอชีคือแบบ ถูกมากกกก หลอดละประมาณ 180 บาท ได้ตั้ง 20 ml ลองซื้อมาใช้เถอะ ซื้อขำ ๆ ก็ได้ ไม่แน่อาจจะชอบนางมาก ๆ เด้อ
| จุดเด่น | ทำให้เครื่องสำอางติดทนนาน อำพรางรูขุมขน เติมร่องริ้วรอยให้ผิวเรียบเนียนสนิท ปรับโทนสีผิว ควบคุมความมัน |
| ส่วนประกอบ | นวัตกรรม Instant Blurring, เทคนิคที่ช่วยล็อคเมคอัพ, ปราศจากน้ำมัน |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อครีม นุ่ม ลื่น เกลี่ยง่าย |
| สี | สีเนื้อ |
| สัญชาติ | ไทย |
10. ไพรเมอร์ คุมมัน ยี่ห้อ NYX Professional Makeup Angel Veil Skin Perfecting Primer
ราคาโดยประมาณ 720 บาท ต่อ 30 ml
NYX Professional Makeup หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักชื่อเสียงนางกันดีอยู่แล้วเนอะ โดยไพรเมอร์ คุมมัน ของนาง NYX Primer Angel Veil ถึงจะไม่ได้เป็นไพรเมอร์ตัวใหม่อะไร แต่ก็ยังคงเป็นลูกรักของบรรดาตัวแม่หลาย ๆ คนโดยเฉพาะ Beauty Blogger ฝั่งตะวันตกค่ะ (แต่สาวไทยกลับไม่ค่อยรู้จัก และไม่นิยมเท่าไรนัก ถ้าใครชอบของแปลก ๆ ไม่เหมือนใคร จัดนางเลยจ้า) โดยจุดเด่นนัมเบอร์วันที่ต้องยกให้เค้าจริง ๆ ก็คือ เรื่องของความติดทนนานของเครื่องสำอาง พร้อมกับการปรับผิวเนียนสว่างกระจ่างใสขึ้น ถ้าใครได้ใช้ตัวนี้ก่อนแต่งหน้ารับรองได้เลยว่า หน้าไม่มีดรอปแถมล็อคเมคอัพเป๊ะ ผิวสวยจริงไม่จกตาเด้อ
ส่วนทางด้านเนื้อผลิตภัณฑ์ ชีจะมีเนื้อครีมสีขาว เกลี่ยง่ายมากกกก ทาลงที่ผิวปุ๊บเนื้อผลิตภัณฑ์จะกลืนเข้ากับผิวในแทบจะทันทีโดยไม่ทิ้งคราบให้เห็นเลยแหละ และหลังทาเสร็จแล้ว สีผิวจะดูไบรท์ขึ้น สว่างขึ้น (แต่ไม่ขาววอกเด้อออ) ผิวจะลื่น นุ่ม ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย และที่สำคัญชีเป็นสูตร Oil Free จ้าาาา เรื่องควบคุมความมันเลยไม่เป็นสองรองใครเลยทีเดียวค่ะ ซื้อหลอดนึงใช้ได้ยาว ๆ เพราะปริมาณเยอะพอสมควร คุ้มค่ามากก ขอแนะนำเลยค่ะ
| จุดเด่น | กลืนเข้ากับผิวในทันทีโดยไม่ทิ้งคราบ ปรับผิวสว่างไบรท์ขึ้น ควบคุมความมัน ทำให้เครื่องสำอางติดทน |
| ส่วนประกอบ | ผลิตภัณฑ์เป็น Oil Free |
| เนื้อสัมผัส | เนื้อครีมบางเบาสูง |
| สี | เนื้อสีขาว |
| สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
ไงจ๊ะสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่อยากจะซื้อ “ไพรเมอร์ คุมมัน” ยี่ห้อไหนดี ได้เห็นรีวิวกันไปถึง 10 ยี่ห้อกันแล้ว สนใจอยากจะซื้อยี่ห้อไหน ตัวไหน ไปใช้ปรับสภาพผิวก่อนที่จะลงรองพื้นกันบ้างคะ?? จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ก็มีทั้งไพรเมอร์คุมมันราคาค่อนข้างแรงงงง ปริมาณนิดเดียวแต่ราคาเกือบพัน กับอีกพวกที่ราคาค่อนข้างถูกกว่า ยังไงสำหรับสาว ๆ อย่างเรา ๆ ที่ชอบแต่งหน้า มันต้องโดนต้องซื้อกันอยู่แล้วเนาะ (เรารู้ดี อิอิ) ก็ลองเลือกซื้อพวกราคาถูกมาใช้ก่อนก็ได้ ถ้าไม่ดียังไง ก็ค่อยไปไล่ลองใช้พวกที่ราคาแพงกว่าดู หรือถ้าชอบตัวราคาถูก ใช้แล้วเหมาะกับสภาพผิว ก็ยิ่งดีเลยค่ะ ประหยัดเงิน จบ ไม่ต้องไปซื้อของแพง ๆ เลย ยังไงก็ขอให้ได้ไพรเมอร์ คุมมัน ยี่ห้อที่ดีต่อใจ ยี่ห้อที่ตอบโจทย์กันด้วยค่าา
Beauty Blogger ที่จะมารีวิวเครื่องสำอางแบบติดตลก ด้วยความชื่นชอบในการเขียนและแต่งหน้า ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันสินค้าตัวที่คิดว่าใช้แล้วดี แต่งแล้วสวย ไม่ทำลายผิว บางอันก็เลือกจากยอดขาย แบรนด์ไหนจัดโปรลดสุดปังก็จะได้รับเลือกอยู่บ่อย ๆ บางอันก็เลือกจากคุณภาพที่ได้ลองใช้แล้วดี มีคนเค้าบอกต่อ การันตีกันขนาดนี้ก็ต้องเอามาเล่าผ่านรีวิวกันหน่อยให้ผู้อ่านได้ไปลองใช้ดูบ้าง