ไหน ๆ ใครที่กำลังอยากดื่มชาเขียว แต่ก็ไม่ได้อยากไปซื้อชาเขียวแบบผง ๆ มาชงดื่มเอง เพราะขี้เกียจและไม่สะดวกกันอยู่หรือเปล่า? ถ้ายังงั้นลองมาซื้อชาเขียวพร้อมดื่มแบบ “ชาเขียว ขวด” กันสิครับ คือต้องบอกเลยว่า เดี๋ยวนี้ ชาเขียวแบบขวดเขาไม่ได้ธรรมดา ๆ อีกต่อไปแล้ว มีรสชาติที่พัฒนาให้มีความนุ่ม กลมกล่อม และอร่อยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมด้วยกลิ่นหอม ๆ ของชาที่หอมจริงจังกันด้วย คุณภาพถูกพัฒนามาสูสีคู่คี่กับพวกชาเขียวที่ชงจากผงชาแบบสดใหม่กันเลยทีเดียว แต่ชาเขียวแบบขวดนั้น ก็ดันมีขายกันอยู่หลากหลายยี่ห้อ แล้วแบบนี้ จะซื้อยี่ห้อไหนดีละ? ถ้ายั้งงั้นก็ลองมาดูรีวิวชาเขียว ขวด กันทั้ง 10 ยี่ห้อด้านล่างกันเลยครับ
สารบัญ
เลือกซื้อ “ชาเขียว ขวด” ยังไงดีนะ?
จริง ๆ ถ้าพูดถึงเรื่องของกินของดื่มแล้วละก็ สิ่งที่ค่อนข้างสำคัญมากที่สุดที่ทำให้หลาย ๆ คนซื้อดื่มทานกันก็คือ “รสชาติ” นั้นเอง แต่คนเรานั้น ก็ดันมีความชอบที่ไม่เหมือนกัน คนหนึ่งอาจจะชอบรสหวาน อีกคนอาจจะชอบรสเปรี้ยว เป็นต้น ก็จะให้บอกว่า ชาเขียวยี่ห้อนี้ ขวดนี้ อร่อยที่สุดก็คงจะเป็นไปไม่ได้ มันต้องทดลองซื้อมาดื่มกันเองจริง ๆ ซึ่งราคาชาเขียวแบบขวดเอง ก็ไม่ค่อยแพงมาก จะตกขวดละประมาณ 20-30 บาท ก็ซื้อมาดื่มได้สบาย ๆ อยู่ วนไปวันละรสสองรสก็ได้ แต่ถ้าอยากได้ไกด์ไลน์เรื่องรสชาติคร่าว ๆ ละก็ ลองอ่านรีวิวที่ด้านล่างดูนะครับ (ไม่ต้องไปสนใจประเภทของใบชากันมากนัก รายละเอียดมันเยอะเกิน ทดลองซื้อดื่มเอาง่ายกว่า)
และนอกจากเรื่องรสชาติแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างที่หลาย ๆ คนควรจะดูกันก่อนซื้อก็คือ “ปริมาณน้ำตาลที่มีอยู่” เพราะชาเขียวแบบขวดหลายยี่ห้อ ชอบที่จะผสมน้ำตาลในปริมาณมาก เพื่อให้มีรสชาติที่อร่อย หอมหวาน ดื่มแล้วสดชื่น กระปรี้กระเปร่ากันแบบสุด ๆ แต่การดื่มแบบนี้ แทนที่จะได้ประโยชน์จากชาเขียว จะกลายเป็นได้โทษจากน้ำตาลซะเอง อีกทั้งถ้าเป็นคนรักสุขภาพ กลัวอ้วน ห่วงหุ่นของตัวเองละก็ ให้หลีกหนีชาเขียวแบบขวดที่มีน้ำตาลสูง ๆ ให้ไกล ๆ ซึ่งปัจจุบันเอง ก็มีชาเขียวแบบขวดปราศจากน้ำตาลขายกันอยู่หลายยี่ห้อ ก็เลือกซื้อพวกนี้ได้ แม้ว่ารสชาติอาจจะไม่อร่อยเท่าพวกมีน้ำตาล แต่ก็จะได้รสแท้ ๆ ของชาเขียว อร่อยไปอีกแบบครับ
นอกจากนี้ ก็อย่าลืมคำนึงถึงเรื่อง “คาเฟอีน” ที่มีอยู่ในน้ำชาเขียวกันด้วย (ปริมาณคาเฟอีนมากน้อยขึ้นอยู่กับยี่ห้อ) ก็พยายามอย่าซื้อดื่มก่อนนอน และอย่าซื้อให้เด็กเล็ก ๆ ดื่มกันนะครับ
อย่าลืมดูค่าปริมาณน้ำตาลและค่าคาเฟอีนที่มีกันด้วยเน้อ
ตารางเปรียบเทียบ “ชาเขียวแบบขวด” ยี่ห้อไหนดี
เนื่องจากเนื้อหารีวิวสินค้าด้านล่างจะค่อนข้างยาว แล้วหลาย ๆ คนอาจจะอ่านกันไม่ไหว ก็สามารถกดเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบที่ปุ่มด้านล่างได้นะครับ จะได้เห็นชาเขียวแบบขวดทั้ง 10 ยี่ห้อ มาวางเรียงเปรียบเทียบกัน ยี่ห้อไหนน้ำตาลเป็นยังไง มีรสชาติประมาณไหน คาเฟอีนเยอะหรือเปล่า กลิ่นหอมมากไหม ก็มีสรุปให้ดูแบบคร่าว ๆ กันด้วยครับ
1. ชาเขียว ขวด ยี่ห้อ SHIZUOKA รสธรรมชาติผสมผงมัทฉะ
ราคาโดยประมาณ 30 บาท ต่อขวด 440 ml / 550 บาท ต่อ ยกลัง 24 ขวด
ถึงแม้ว่า SHIZUOKA จะเป็นชาเขียวแบบขวด แต่จากที่ได้ลองดื่มมา ผมว่าคุณภาพแอบดีงามเหมือนกำลังดื่มชาที่ชงเสร็จใหม่ ๆ เลยครับ ซึ่งยี่ห้อนี้จะมีความพิเศษตรงที่ใบชาที่นำมาผลิต ได้นำเข้าจากชิซึโอกะประเทศญี่ปุ่นแบบ 100% และยังคัดเฉพาะใบชาต้นฤดูเก็บเกี่ยวที่เป็นใบชาที่มีคุณภาพมากที่สุดมาใช้ในการผลิตด้วย ทำให้กลิ่นที่ได้จะมีความหอมแบบเบา ๆ สะอาด ๆ ดมแล้วรู้สึกได้ถึงคุณภาพและความหอมของชาดี สีก็ดูใส ๆ เป็นสีชาอมทอง ดูสวย ส่วนรสชาติก็มีความขมตามสไตล์ชา พร้อมทั้งมีความหวานผสมอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ได้หวานมากจนเกินไปนัก โดยรวมแล้ว รสชาติอร่อย ดื่มได้ง่าย ๆ สบาย ๆ ครับ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเลือกซื้อชาเขียวขวดนี้ดื่มกัน ก็อยากจะเตือนว่า มีคาเฟอีนค่อนข้างสูงถึงขวดละ 27.28 mg และมีน้ำตาลค่อนข้างสูงด้วยที่ 19 g ถ้าเป็นคนรักสุขภาพ และพยายามหลีกเลี่ยงน้ำตาลอยู่ละก็ สำหรับชาเขียวขวดนี้คงไม่ตอบโจทย์ แนะนำหาขวดอื่นดื่มครับ
ส่วนประกอบ | น้ำชาเขียว 95 % / น้ำตาล 4.5 % / ผงมัทฉะ 0.05% |
มีคาเฟอีน | 6.2 mg ต่อ 100 ml ขวดนี้มี 440 ml จะทำให้มีคาเฟอีน 27.28 mg |
พลังงานต่อ 1 ขวด | 80 kcal |
น้ำตาล | 19 g |
กลิ่น | กลิ่นแบบชาจีน ๆ ที่ชงเสร็จใหม่ ๆ หอมแบบเบา ๆ สะอาด ๆ |
รสชาติ | มีความหวาน แต่ก็ไม่หวานมากจนบาดลิ้น พร้อมมีความขมนิด ๆ ของตัวชา ดื่มง่าย ดื่มแล้วรู้สึกถึงความมีคุณภาพ |
ผลิตโดย | อิชิตัน |
2. ชาเขียวพร้อมดื่ม ยี่ห้อ SHIZUOKA รส HOJICHA
ราคาโดยประมาณ 30 บาท ต่อขวด 440 ml / 550 บาท ต่อ ยกลัง 24 ขวด
จริง ๆ ยี่ห้อ SHIZUOKA เขาก็มีขายอยู่ด้วยกันหลายรสชาติ แต่อีกรสที่น่าสนใจ และอยากมารีวิวให้ได้ทราบกันก็คือ รส HOJICHA แบบไม่มีน้ำตาลครับโดยชาเขียวขวดนี้ จะเป็นการนำเข้าใบช้าจากชิซึโอกะ 100% เช่นเดียวกันกับขวดด้านบน แต่ใบชาที่ได้ จะนำไปผ่านกระบวนการ “คั่ว” เพื่อดึงรสชาติและความหอมของใบชาออกมาก่อน จากนั้นจึงนำไปต้ม แล้วสุดท้ายก็จะได้น้ำชาเขียวแบบโฮจิฉะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะกันนั้นเองครับ
โดยต้องขอพูดถึงสีของน้ำชากันก่อน จะเห็นได้ว่า มีสีที่เข้มข้นกว่าตัวด้านบนเอามาก ๆ สีเข้มออกน้ำตาลแดง สวยตามสไตล์ของใบชาที่ผ่านการคั่ว ส่วนเรื่องกลิ่น ก็ให้อารมณ์กลิ่นไหม้นิด ๆ แต่ก็หอมแบบเข้มข้นผ่อนคลายดี แอบเหมือนกลิ่นข้าวคั่วเลยทีเดียว และสุดท้ายเรื่องรสชาติ ก็จะออกขม ๆ หน่อย กับไม่หวานเลย เนื่องจากไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม สายรักสุขภาพสามารถดื่มได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวอ้วนกันด้วย ก็ถ้าเป็นคนชอบดื่มพวกชาเขียวแบบขวดละก็ อย่าลืมลองขวดนี้ด้วยนะครับ
ส่วนประกอบ | น้ำชาโฮจิฉะ 99.87 % |
มีคาเฟอีน | 4.8 mg ต่อ 100 ml ขวดนี้มี 440 ml จะทำให้มีคาเฟอีน 21.12 mg |
พลังงานต่อ 1 ขวด | 0 kcal |
น้ำตาล | 0 g |
กลิ่น | ให้อารมณ์กลิ่นไหม้นิด ๆ หอมแบบเข้มข้นผ่อนคลาย กลิ่นคล้ายข้าวคั่ว |
รสชาติ | ขม ๆ หน่อย ๆ ไม่หวานเลย |
ผลิตโดย | อิชิตัน |
3. ชาเขียว ขวด ยี่ห้อ ITOEN รสธรรมชาติ
ราคาโดยประมาณ 600 บาท ต่อ ยกลัง 24 ขวด
ยี่ห้อ ITOEN รสธรรมชาติ หรือที่มีรสชื่อว่า Oi Ocha (โออิ โอฉะ) เป็นยี่ห้อที่ได้เคลมมาว่า “เป็นแบรนด์ชาเขียวอันดับ 1 ของญี่ปุ่น” กันเลยทีเดียว อีกทั้งน้ำชาเขียวของทางแบรนด์ ก็จะชงจากใบชาเขียวแท้เท่านั้น ไม่มีการเติมพวกผงชาสกัดหรือน้ำชาเข้มข้นอื่น ๆ แม้แต่น้อย ก็เคลมกันมาซะขนาดนี้ จะไม่ลองก็คงจะไม่ได้แล้วล่ะครับ
ก็จากที่ได้ลองเทลงแก้วดู ตัวสีของน้ำชาจะไม่ได้ใสมากเท่าชิซึโอกะตัวบนสุด แต่ก็ไม่ได้เข้มเท่าแบบโฮจิฉะ สีจะออกเหลือง ๆ ทอง ๆ ดูคุณภาพดี ส่วนกลิ่นก็หอม ๆ แบบชา ๆ ไม่ค่อยแตกต่างกับชิซึโอกะตัวบนสุดเท่าไรนัก แต่เรื่องรสชาติ ต้องยอมรับว่า ชิซึโอกะอร่อยกว่า เพราะมีน้ำตาลเป็นส่วนผสม ทำให้รสชาติจะค่อนข้างหวาน ๆ ขม ๆ กลมกล่อมกว่า ส่วนขวดนี้จะออกจืด ๆ ขม ๆ ให้รสชาติของน้ำชาแท้ ๆ เอามาก ๆ ก็เหมาะกับคนที่ชอบดื่มชาแบบชาจริง ๆ และสายสุขภาพที่กลัวน้ำตาล แต่ระวังกันนิดหนึ่ง เพราะคาเฟอีนสูงมากถึง 71.5 mg ถ้าเป็นคนต้องการคาเฟอีนอยู่แล้ว ก็จัดไปครับ
ส่วนประกอบ | น้ำชาเขียว 99.95 % |
มีคาเฟอีน | 14.3 mg ต่อ 100 ml ขวดนี้มี 500 ml จะทำให้มีคาเฟอีน 71.5 mg |
พลังงานต่อ 1 ขวด | 0 kcal |
น้ำตาล | 0 g |
กลิ่น | หอม ๆ แบบชา ๆ ของแท้ดี |
รสชาติ | จืด ๆ ผสม ๆ ขม ๆ รสชาติเหมือนชาแท้ ๆ |
ผลิตโดย | โตโย ไซกัน (ประเทศไทย) |
4. ชาเขียวพร้อมดื่ม ยี่ห้อ ITOEN ชาเขียวกลิ่นมะลิ
ราคาโดยประมาณ 600 บาท ต่อ ยกลัง 24 ขวด
เบื่อกับกลิ่นของชาเขียวขวดแบบเดิม ๆ อยู่หรือเปล่า? ถ้าอยากได้กลิ่นใหม่ ๆ ที่ให้ความหอมมากขึ้นละก็ ต้องขอแนะนำให้ลองยี่ห้อ ITOEN ชาเขียวกลิ่นมะลิกันเลยครับ คือต้องยอมรับจริง ๆ ว่า พอลองดม ๆ แล้ว ได้กลิ่นของดอกมะลิที่หอมเอามาก ๆ และยังหอมแบบสบาย ๆ จมูก ช่วยให้เวลาดื่มรู้สึกผ่อนคลายได้ดีด้วย และที่กลิ่นของดอกมะลิเด่นชัดขนาดนี้ ก็เป็นเพราะว่า ทางแบรนด์เขาได้ใช้ดอกมะลิจริง ไปวางสลับกับใบชาเขียวในขั้นตอนชงชา พอชงชาออกมาแล้ว จึงได้กลิ่นหอมของดอกมะลิอย่างชัดเจนนั้นเองครับ
ส่วนทางด้านสีน้ำชา ก็ออกสีทองใส ๆ ดูใสกว่ายี่ห้อบน ๆ ด้านรสชาติก็จะค่อนข้างจืด เพราะไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม และก็ให้ความรู้สึกของรสดอกมะลินิด ๆ ฝาดหน่อย ๆ แต่โดยรวม ก็ดื่มได้สบาย ๆ เหมาะกับสุขภาพดี ยังไงถ้าเป็นคนชอบดื่มชาเขียวแบบขวดละก็ อยากให้ลองจริง ๆ ครับ
ส่วนประกอบ | น้ำชาเขียว 99.93 % |
มีคาเฟอีน | 9.6 mg ต่อ 100 ml ขวดนี้มี 500 ml จะทำให้มีคาเฟอีน 48 mg |
พลังงานต่อ 1 ขวด | 0 kcal |
น้ำตาล | 0 g |
กลิ่น | หอมดอกมะลิมาก |
รสชาติ | จืด ๆ ได้ความรู้สึกของรสดอกมะลินิด ๆ ฝาดหน่อย ๆ |
ผลิตโดย | โตโย ไซกัน (ประเทศไทย) |
5. ชาเขียว ขวด ยี่ห้อ OISHI GOLD รส Kabusecha
ราคาโดยประมาณ 23-25 บาท ต่อ ขวด 400 ml / 600-650 บาท ต่อ ยกลัง 24 ขวด
ถ้าพูดถึงเรื่องน้ำชาเขียว ขวด จะไม่พูดถึงยี่ห้ออย่าง OISHI ไปได้อย่างไรกันละครับ ซึ่งแบรนด์นี้ เขาก็มีการแบ่งเกรดของน้ำชากันอยู่ 2 เกรดด้วยคือ เกรดธรรมดากับเกรดแบบ GOLD ผมก็อยากจะรู้ว่า GOLD เนี่ย มันพิเศษกว่าเกรดธรรมดา ๆ มากแค่ไหน ก็เลยจัด GOLD รสคาบูเซฉะมาลอง และมารีวิวให้ได้ดูกัน โดยน้ำชาเขียวขวดนี้ เขาก็ได้ใช้ใบยอดอ่อนของต้นชาจากไร่มัตสึดะบนที่ราบสูงมากิโนะฮาระจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าไร่มัตสึดะเนี่ย ก็ถือเป็นแหล่งปลูกต้นชาที่ขึ้นชื่อเป็นอันดับต้น ๆ และได้ให้ใบชาที่มีคุณภาพมามากกว่า 100 ปีกันด้วย ก็น่าสนใจเอามาก ๆ และชักอยากจะรู้ว่า รสชาติและคุณภาพของชาจะดีขนาดไหนกันแล้วสินะครับ
พอได้ลองดื่ม ๆ ดู ก็พบว่า สีของน้ำชาจะใส ๆ ทอง ๆ เหมือนกับตัวขวด ITOEN ชาเขียวกลิ่นมะลิ ด้านบนเลย ส่วนกลิ่นก็เหมือนชา ๆ ดี แต่รู้สึกเหมือนจะมีความหอมค่อนข้างน้อยกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ และรสชาติก็ออกรสน้ำชาเอามาก ๆ เหมือนกำลังดื่มชาจีนใส ๆ เบา ๆ ยังไงยังงั้นเลย อีกทั้งรสก็ไม่ขม ไม่หวานอีกด้วย ส่วนคาเฟอีนก็ค่อนข้างสูงที่ขวดละ 36 mg เลยทีเดียว ก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการคาเฟอีน แต่พวกวัยทำงานที่อยากได้คาเฟอีน แต่ไม่อยากดื่มกาแฟแล้วละก็ OISHI GOLD Kabusecha ขวดนี้ ถือเป็นอีกทางเลือกได้เลยครับ
ส่วนประกอบ | น้ำชาคาบูเซฉะ 99.9 % |
มีคาเฟอีน | 9 mg ต่อ 100 ml ขวดนี้มี 400 ml จะทำให้มีคาเฟอีน 36 mg |
พลังงานต่อ 1 ขวด | 0 kcal |
น้ำตาล | 0 g |
กลิ่น | เหมือนชา ๆ ดี แต่เหมือนจะหอมน้อยกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ |
รสชาติ | เหมือนชาจีนที่ใส ๆ เบา ๆ ไม่ขม ไม่หวาน ไลท์ ๆ ดี |
ผลิตโดย | โออิชิ |
6. ชาเขียวพร้อมดื่ม ยี่ห้อ OISHI GOLD รส Gyokuro
ราคาโดยประมาณ 23-25 บาท ต่อ ขวด 400 ml / 600-650 บาท ต่อ ยกลัง 24 ขวด
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว มาดูรีวิวยี่ห้อ OISHI GOLD กันอีกสักรสกับ Gyokuro ที่ได้ใช้ใบชาจากไร่มัตสึดะเหมือนกับรส Kabusecha ตัวด้านบน แต่จะใช้ใบชาที่คัดสรรเฉพาะยอดอ่อนที่ต้นฤดูเก็บเกี่ยวแรกของปีเท่านั้น อีกทั้งยังนำใบชาไปปกคลุมด้วยตาข่ายสีดำเป็นเวลานาน 3 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้โดนแสงแดด และเป็นการคงคุณภาพ ซึ่งวิธีนี้ ก็จะทำให้ใบชาผ่อนคลาย พร้อมทั้งเพาะบ่มรสชาติละมุน นุ่ม ๆ ของเกียวคุโระอย่างเต็มที่ จากนั้นจึงนำไปชง แล้วได้ชาเขียวขวดนี้นั้นเองครับ
โดยถ้าพูดถึงเรื่องสีของน้ำชา สีจะแอบเข้มกว่า Kabusecha แต่ก็ไม่เข้มเท่ากับยี่ห้อ SHIZUOKA รส HOJICHA ที่อยู่ด้านบน ส่วนกลิ่นก็หอมแบบเบา ๆ ค่อนข้างไปทางอ่อน (เหมือน OISHI GOLD กลิ่นจะอ่อนกันหมด) ในเรื่องของรสชาติ เนื่องจากมีน้ำตาลผสมอยู่เล็กน้อยที่ 4 g จึงทำให้แอบได้รสหวานนิด ๆ และรู้สึกดื่มได้ง่ายกว่าพวกรสชาเขียวแท้ ๆ ที่ไม่มีน้ำตาลผสม และสายรักสุขภาพก็ไม่ต้องกลัว ยังคงดื่มได้แบบสบาย ๆ อยู่ เพราะมีแคลอรีน้อยเพียงแค่ 15 kcal ต่อขวดเท่านั้นเอง รวม ๆ แล้ว ก็เป็นชาเขียวพร้อมดื่มที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบแบบจืดจนเกินไป แต่ก็ไม่หวานจนเกินไปครับ
ส่วนประกอบ | น้ำชาเขียว 86.7 % / น้ำชาเขียวเกียวคุโระ 10.8 % / ฟรุกโตส 1.3 % / น้ำตาล 1 % |
มีคาเฟอีน | 5.83 mg ต่อ 100 ml ขวดนี้มี 400 ml จะทำให้มีคาเฟอีน 23.32 mg |
พลังงานต่อ 1 ขวด | 15 kcal |
น้ำตาล | 4 g |
กลิ่น | หอมแบบเบา ๆ ค่อนข้างไปทางอ่อน |
รสชาติ | หวานนิด ๆ เพียงเล็กน้อย รสกำลังกลมกล่อมดี |
ผลิตโดย | โออิชิ |
7. ชาเขียว ขวด ยี่ห้อ KUKURIN รส HOJICHA
ราคาโดยประมาณ 28 บาท ต่อ ขวด 500 ml / 672 บาท ต่อ ยกลัง 24 ขวด
ถ้าพูดเรื่องแพ็กเกจสวย ดีไซน์เท่ มีสีดำขาว คงต้องยกให้กับชาเขียว ขวด ยี่ห้อ KUKURIN รส HOJICHA กันเลยครับ ผมต้องยอมรับเลยว่า แพ็กเกจทำมาได้สวยจริง ๆ และเนื่องจากเป็นรสโฮจิฉะ ตัวใบชาก็จะผ่านการคั่วไฟก่อนที่จะนำไปผ่านกระบวนการชงชา (เหมือน ๆ กับยี่ห้อ SHIZUOKA รส HOJICHA ตัวด้านบน) น้ำชาเขียวที่ได้จึงมีสีเข้มมาก ๆ เข้มแบบเข้มข้นสีดำน้ำตาลเลยทีเดียว และน่าจะมีความเข้มค่อนข้างมากที่สุดจากทุกยี่ห้อชาเขียวแบบขวดกันเลยครับ
ส่วนเรื่องกลิ่น ตอนแรกก็นึกว่าจะได้กลิ่นคั่ว ๆ ไหม้ ๆ หอม ๆ มากกว่ายี่ห้อ SHIZUOKA ซะอีก แต่กลับไม่ค่อยหอม ไม่ค่อยได้กลิ่นข้าวคั่วเลย ให้ความรู้สึกของกลิ่นหวาน ๆ มากกว่า น่าจะเป็นเพราะว่า มีฟรุกโตสไซรัปเป็นส่วนผสมค่อนข้างมาก และพอได้ดื่มแล้ว ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดื่มน้ำเฉาก๊วยที่หวานเบา ๆ และมีรสเปรี้ยวกับขมนิด ๆ ด้วย ก็อร่อยแบบแปลก ๆ ดี รวม ๆ รสชาติใช้ได้อยู่ แต่อยากจะขอเตือนกันนิดหนึ่งว่า เป็นชาเขียว ขวด ที่มีคาเฟอีนสูงมาก ถ้าดื่มทั้งขวดแล้ว จะได้คาเฟอีนถึง 63.5 mg เลยทีเดียว (สูงกว่า OISHI GOLD Kabusecha) ยังไงก็ระวังอย่าดื่มก่อนนอนกันนะครับ
ส่วนประกอบ | น้ำชาเขียวคั่ว 93.25 % / น้ำตาลทราย 1.75 % / ฟรุกโตสไซรัป 5 % |
มีคาเฟอีน | 12.7 mg ต่อ 100 ml ขวดนี้มี 500 ml จะทำให้มีคาเฟอีน 63.5 mg |
พลังงานต่อ 1 ขวด | N/A แต่มีแน่ ๆ เพราะมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ |
น้ำตาล | N/A แต่มีแน่ ๆ เพราะมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ |
กลิ่น | กลิ่นออกหวาน ๆ |
รสชาติ | เหมือนกำลังดื่มน้ำเฉาก๊วยที่หวานเบา ๆ มีรสเปรี้ยวกับขมผสมอยู่นิด ๆ |
ผลิตโดย | แนทฟู้ดส์ |
8. ชาเขียวพร้อมดื่ม ยี่ห้อ Fuji รส Natural
ราคาโดยประมาณ 32 บาท ต่อ ขวด 500 ml / 864 – 1,032 บาท ต่อ ยกลัง 24 ขวด
Fuji ยี่ห้อนี้ ไม่ต้องพูดอะไรมาก หลาย ๆ คนน่าจะเคยไปทานอาหารญี่ปุ่นของ Fuji กันมาบ้างแล้ว ซึ่งก็แน่นอนว่า ทางแบรนด์เขาก็มีชาเขียวพร้อมดื่มหลากหลายรสชาติมาวางจำหน่ายให้เราได้ไปซื้อดื่มกันด้วย โดยผมก็ได้ซื้อรส Natural มาลองและมารีวิวให้ดูกันครับ ก่อนอื่นเลย เรื่องใบชา ทางแบรนด์ก็เคลมมาว่า ได้ใช้ใบชาของแท้จากญี่ปุ่น 100% ในกระบวนการชงชา ซึ่งสีชาที่ได้ ก็จะออกสีเขียวอ่อน ๆ แบบขุ่น ๆ ที่เห็นแล้ว ให้ความรู้สึกว่า เป็นน้ำชาเขียวจริง ๆ ไม่เหมือนยี่ห้ออื่น ๆ ที่จะออกแนวสีทองใส ๆ ซะมากกว่า
ส่วนกลิ่นก็เหมือนกำลังดมสาหร่ายย่างกับข้าวคั่วที่มาผสม ๆ กัน แล้วได้กลิ่นหอม ๆ แบบงง ๆ ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ของ Fuji ดี และรสชาติก็มีความกลมกล่อม เหมือนกำลังดื่มข้าวคั่ว (อธิบายยากจริง ๆ ) มีความหวานนิด ๆ ที่ผมคิดว่า กำลังดี ไม่จืดเกินไป แต่ก็ไม่หวานจนเกินไป รวม ๆ แล้วอร่อยเลยแหละ เหมือนกำลังดื่มชาตามร้านอาหาร Fuji เลยจริง ๆ ดื่มง่าย และคล่องคอดีด้วย ก็ถ้ายังไม่รู้จะซื้อชาเขียวพร้อมดื่มยี่ห้อไหนดี แนะนำว่า ลอง Fuji เลยครับ
ส่วนประกอบ | น้ำชาเขียว 98.90 % / กลูโคสผง 1 % / วิตามิน C 0.1 % |
มีคาเฟอีน | 7.5 mg ต่อ 100 ml ขวดนี้มี 500 ml จะทำให้มีคาเฟอีน 37.5 mg |
พลังงานต่อ 1 ขวด | 10 kcal |
น้ำตาล | 2 g |
กลิ่น | ได้กลิ่นสาหร่ายย่างกับข้าวคั่วที่มาผสม ๆ กันแบบงง ๆ ได้กลิ่นหอมที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ |
รสชาติ | เหมือนกำลังดื่มข้าวคั่ว มีความหวานนิด ๆ ที่กำลังดี ไม่จืดเกินไป และไม่หวานจนเกินไป |
ผลิตโดย | มาลีกรุ๊ป |
9. ชาเขียว ขวด ยี่ห้อ ICHITAN รสองุ่น
ราคาโดยประมาณ 20 บาท ต่อ ขวด 350 ml
สำหรับชาเขียว ขวด ICHITAN รสองุ่นขวดนี้ ตอนแรก ๆ ก็คิดว่า จะซื้อมาดีไหม เพราะคิดว่า มันหวานแน่ ๆ ซึ่งจากที่ได้ลองดื่มมา ก็หวานจริง ๆ ครับ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดื่มน้ำผลไม้หวาน ๆ เลย แต่ก็มีรสเปรี้ยวมาช่วยตัดรสอยู่ ทำให้ไม่หวานจนเกินไป ดื่มไปดื่มมาแล้ว แอบอร่อยดีเหมือนกัน อีกทั้งยังมีวุ้นมะพร้าวให้ได้กัด ๆ เคี้ยว ๆ อร่อยไปอีกแบบด้วย ก็ถ้าเป็นคนชอบรสหวานละก็ ชาเขียวขวดนี้ จะอร่อยที่สุดเลยครับ (แต่สายรักสุขภาพน่าจะไม่ถูกใจขวดนี้)
นอกจากเรื่องรสชาติแล้ว ก็มาดูเรื่องกลิ่นกันสักนิด โดยกลิ่นจะให้กลิ่นของความหวานอย่างชัดเจน กลิ่นหวาน ๆ แอบคล้ายกลิ่นของหมากฝรั่งด้วย ส่วนเรื่องสีของน้ำชา ก็มีสีที่เหมือนมีของไข่ขาวตอนไม่สุก และค่อนข้างมีความเหนียวสูงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ รวม ๆ แล้ว ก็เหมาะสำหรับคนที่อยากดื่มชาเขียวแบบขวดที่มีรสชาติหวาน ๆ ดื่มแล้วช่วยให้ร่างกายสดชื่น มีแรงมีพลังงานดีครับ (ระวังอย่าซื้อให้เด็กเล็ก ๆ ทาน เพราะมีคาเฟอีนผสมอยู่)
ส่วนประกอบ | น้ำชาเขียวคั่ว 86 % / ฟรุกโตส 5.4 % / น้ำตาล 4.8 % / วุ้นมะพร้าว 3 % / น้ำองุ่นเข้มข้น 0.02 % / ผงชาเขียว 0.016 % / สารสกัดบิลเบอร์รี่ 0.01 % |
มีคาเฟอีน | 8.2 mg ต่อ 100 ml ขวดนี้มี 350 ml จะทำให้มีคาเฟอีน 28.7 mg |
พลังงานต่อ 1 ขวด | 130 kcal |
น้ำตาล | 31 g |
กลิ่น | กลิ่นออกหวานมาก ได้กลิ่นคล้ายหมากฝรั่งด้วย |
รสชาติ | หวาน ! หวานกว่ายี่ห้ออื่น ๆ อย่างชัดเจน แต่ก็มีรสเปรี้ยวมาช่วยตัดรสอยู่ ทำให้ไม่หวานจนเกินไป |
ผลิตโดย | อิชิตัน |
10. ชาเขียวพร้อมดื่ม ยี่ห้อ POKKA รส SENCHA
ราคาโดยประมาณ 29 / 79 บาท ต่อ ขวด 500 / 1,500 ml
POKKA เป็นยี่ห้อชาเขียวแบบขวดจากมาเลเซียที่มีขายกันหลากหลายรสชาติเช่นเดียวกันกับยี่ห้ออื่น ๆ ซึ่งตอนแรก ๆ ผมก็ไม่รู้จะซื้อรสไหนมาลองดี แต่พอดีไปเห็นรส SENCHA แบบไม่มีน้ำตาล ก็คิดว่า น่าสนใจและอยากลองดูว่า รสชาติจะแตกต่างจากยี่ห้ออื่น ๆ ที่ไม่มีน้ำตาลมากหรือเปล่าครับ
โดยพอได้ลองดื่มแล้ว ก็ให้ความรู้สึกเหมือนดื่มน้ำชาจืด ๆ ที่ไม่ค่อยกลมกล่อมเหมือนยี่ห้อบน ๆ เท่าไรนัก กลิ่นก็ไม่ค่อยหอม เหมือนไม่ได้กลิ่นอะไรเลย รวม ๆ แล้ว รู้สึกถึงคุณภาพที่ค่อนข้างจะแย่กว่า ซึ่งพอไปดูที่ส่วนประกอบแล้ว ก็พอจะเข้าใจว่าทำไม เพราะมีน้ำเป็นส่วนผสมถึง 68 % และได้ใช้ชาสกัดสดอีก 31 % ในขณะที่ยี่ห้ออื่น ๆ จะเป็นน้ำชาเขียวเข้มข้นมากกว่า 90 % ++ รสชาติของยี่ห้อนี้ จึงค่อนข้างอ่อนกว่านั้นเอง แต่ยี่ห้อนี้ ก็มีราคาที่ถูกกว่า ก็เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ชาเขียวพร้อมดื่ม ในราคาไม่แพงครับ
ส่วนประกอบ | น้ำ 68 % / ชาสกัดสด 31 % / ผงมัทฉะ 0.1 % |
มีคาเฟอีน | 9.85 mg ต่อ 100 ml ขวดนี้มี 500 ml จะทำให้มีคาเฟอีน 49.25 mg |
พลังงานต่อ 1 ขวด | 0 kcal |
น้ำตาล | 0 g |
กลิ่น | ไม่หอม ไม่ค่อยได้กลิ่นอะไรเลย |
รสชาติ | น้ำชาจืด ๆ |
ผลิตโดย | พอคคา (มาเลเซีย) |
ไงครับ ได้เห็นรีวิว “ชาเขียว ขวด” ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน สนใจอยากจะซื้อยี่ห้อไหน ขวดไหน ไปดื่มที่บ้าน หรือจะซื้อดื่มที่ร้านสะดวกซื้อระหว่างวันกันบ้าง?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นชาเขียวพร้อมดื่มที่มีน้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาลเลย ก็ต้องยอมรับกันด้วยนะครับว่า รสชาติมันจะไม่หวานอร่อย สู้พวกชานม, ชาไข่มุก หรือน้ำอัดลมไม่ได้แน่ ๆ แต่ถ้าเทียบเรื่องประโยชน์แล้วละก็ ชาเขียว ขวด มีประโยชน์มากกว่าแน่ ๆ ครับ ยังไงก็ขอให้ได้ยี่ห้อที่ถูกใจ ตอบโจทย์ ดื่มแล้วรสชาติอร่อยกันด้วยเน้อ
บรรณาธิการที่มีประสบการณ์ในการเขียนรีวิวสินค้าหลายชนิด
- สุขภาพ: อาหารเสริม, ออกกำลังกาย, การดูแลผิวพรรณ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: สมาร์ทโฮม, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องใช้ในบ้าน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
- ของกิน: ขนมหวาน เครื่องดื่ม, อาหารสุขภาพ, และเทรนด์อาหารอื่น ๆ