ครีมนวดผม ยี่ห้อไหนดี รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ

รูปภาพปกบทความ ครีมนวดผม ยี่ห้อไหนดี รวมมาแล้ว รีวิว 10 ยี่ห้อ

อีกสิ่งหนึ่งที่สาว ๆ อย่างเรา ๆ ให้ความสำคัญกันมากกกกกก็คือ “เส้นผม” นั่นเอง จะให้ทนดูเส้นผมแห้งเสีย แห้งกร้าน จับแล้วเส้นกรอบ ๆ เหมือนเส้นหมี่ หรือเส้นผมพันกันวุ่นวะวุ่นวาย ดูไม่สวย ไม่เป็นทรง ก็คงทำใจกันไม่ไหวใช่ไหมล่ะคะ ทำให้อยากจะได้ “ครีมนวดผม” ดี ๆ สักยี่ห้อ ไปใช้เพื่อบำรุงให้เส้นผมกลับมาดูแข็งแรง ดูสวยดังเดิมกันอีกครั้ง ก็คลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้วล่ะค่ะ เพราะที่บทความนี้ เราได้ไปคัดครีมนวดผมยี่ห้อดี ๆ ยี่ห้อเด็ด ๆ ยี่ห้อปัง ๆ มารีวิวให้ดูกันถึง 10 ยี่ห้อเลยนะ และขอบอกเลย 1 ใน 10 ยี่ห้อนี้แหละ ที่จะพิชิตใจของสาว ๆจนต้องเสียเงินกันอย่างแน่นอนนนน ก็ถ้าพร้อมเสียเงินแล้ว ตามมาเลยจ้าาา



ครีมนวดผมมีความสำคัญไหม?

ครีมนวดผมมีความสำคัญไหม?

เอาจริง ๆ ครีมนวดผมเนี่ย จะบอกว่าสำคัญก็สำคัญ จะบอกว่าไม่สำคัญก็ไม่สำคัญค่ะ ขึ้นอยู่กับความต้องการของตนเองและสภาพเส้นผมซะมากกว่า เพราะถ้าสาว ๆ มีสภาพเส้นผมที่ดีมาก ๆ การได้ใช้แค่แชมพู (โดยเฉพาะบางยี่ห้อ) ก็ช่วยทั้งทำความสะอาดและบำรุงเส้นผมได้ดีพอสมควรอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมนวดผมเลยละจ๊ะ

แต่ถ้าสาว ๆ มีสภาพเส้นผมที่แห้งเสียมาก จับดูแล้วผมแห้งกร้าน หรือชอบทำสี ชอบดัดเส้นผม ชอบใช้เครื่องหนีบผมแต่งทรง หรือเส้นผมมีโอกาสโดนความร้อนอยู่บ่อยครั้ง การได้ใช้ครีมนวดผมก็ถือเป็นไอเดียที่ดี เพราะจะได้ช่วยบำรุงให้เส้นผมกลับมามีสุขภาพดี และที่สำคัญจะได้ช่วยป้องกัน ไม่ให้เส้นผมแห้งเสียไปได้ง่าย ๆ ซึ่งการป้องกันก็เป็นสิ่งที่ดีกว่า มาแก้ไขปัญหาเส้นผมแห้งเสียทีหลังเน้อ


จะเลือกซื้อ “ครีมนวดผม” ยังไงดีนะ?

จะเลือกซื้อ "ครีมนวดผม" ยังไงดีนะ?

ถ้าได้ลองไปเลือกซื้อครีมนวดผมกันจริง ๆ ละก็ จะเห็นได้ว่า เขามีขายกันหลากหลายสูตร หลากหลายความต้องการต่อเส้นผมกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะ สูตรสำหรับเส้นผมมัน, สูตรสำหรับเส้นผมแห้งกร้าน, สูตรสำหรับผมแห้งเสียอย่างหนัก, สูตรสำหรับเส้นผมดัด, สูตรสำหรับเส้นผมทำสี และอื่น ๆ อีกเพียบบบบ จนงงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้จะซื้อสูตรไหนดี หรือยี่ห้อไหนดีกันเลยทีเดียว ก็ถ้าเอาจริง ๆ แล้ว การได้เลือกซื้อสูตรครีมนวดผมที่ตรงกับสภาพเส้นผมมากที่สุด ก็จะดีที่สุด แต่ถ้าไม่อยากคิดมากละก็ เอาตรง ๆ นะคะ ใช้ ๆ ไปเถอะค่ะ ถึงจะทำแยกสูตรมา ส่วนใหญ่ก็สามารถใช้แทนกันได้อยู่แล้ว หรือจะซื้อยี่ห้อที่บอกว่า เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม ก็ง่ายดี ไม่ต้องคิดเยอะค่ะ

แต่สำหรับคนที่มี “เส้นผมมัน” กับ “เส้นผมแห้ง” ไม่อยากให้ใช้ครีมนวดผมสูตรไหน ๆ ก็ได้ อยากจะให้ซื้อสูตรที่ตรงต่อสภาพเส้นผมกันมากกว่า เพราะถ้ามีสภาพเส้นผมมัน แต่ดันไปใช้ครีมนวดผมสำหรับเส้นผมแห้ง ซึ่งเป็นสูตรที่จะเน้นในเรื่องของการบำรุงเส้นผมแบบจัดหนัก ตัวครีมมีความเข้มข้นและความมันมาก ๆ ก็แทนที่สภาพเส้นผมมัน จะได้รับการบำรุงในระดับที่พอเหมาะ แต่จะกลายเป็นการเพิ่มน้ำมันหรือความมันเข้าไปอีก ทำให้เส้นผมยังคงมัน ๆ ต่อไป แบบนี้ก็ไม่ไหวนะคะ ในทางตรงกันข้าม ถ้ามีเส้นผมแห้ง แต่ไปใช้สูตรสำหรับเส้นผมมัน ก็จะได้รับการบำรุงที่ไม่ดีพอ ดังนั้นทั้ง 2 สภาพเส้นผม จึงควรใช้ให้ตรงสูตรค่ะ (แต่ถ้าไม่แคร์ก็จัดไป)

และอีกหนึ่งสภาพเส้นผมที่ควรจะเลือกซื้อให้ตรงสูตรนั่นก็คือ “เส้นผมแห้งเสียง่าย” หรือมี “สภาพหนังศีรษะที่แพ้ง่าย” ก็ควรจะเลือกซื้อครีมนวดผมที่มีสารเคมีน้อย ๆ หรือเป็นพวกสูตรธรรมชาติ มีความเป็นออร์แกรนิคสูง ๆ ก็จะทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองต่อหนังศีรษะ รวมถึงไม่ทำให้ผมเกิดการแห้งเสียจากสารเคมีไปมากกว่าเดิม หรือถ้าอยากจะให้ชัวร์แบบสุด ๆ ไปใช้ครีมนวvดผมสำหรับเด็กเลยค่ะ ถ้าเด็กน้อยใช้ได้ ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ก็ใช้ได้อย่างแน่นอนค่าา


ตารางเปรียบเทียบรีวิว “ครีมนวดผม” ยี่ห้อไหนดี

ด้วยการที่เนื้อหารีวิวครีมนวดผมทั้ง 10 ยี่ห้อนั้น อาจจะค่อนข้างยาว ทำให้ใครต่อใครหลาย ๆ คนอาจจะไม่สะดวกอ่านเนื้อหาทั้งหมด (แต่อยากให้อ่านจริง ๆ นะ เราตั้งใจรีวิวเลยแหละ) ก็สามารถกดเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบที่ปุ่มด้านล่างได้นะคะ จะเป็นการสรุปเนื้อหาแบบย่อ ๆ ไว้ให้ค่าาา



1. ยี่ห้อ OLAPLEX No.5 Bond Maintenance™ Conditioner

หากใครที่กำลังหาข้อมูลผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมดี ๆ อยากให้รู้จักกับยี่ห้อ OLAPLEX ซึ่งเป็นยี่ห้อผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมระดับท็อป ๆ ของโลก! กันเลยเด้อ (บอกเลยร้านแพง ๆ ร้านดัง ๆ ใช้กันทั้งนั้นจ้าาา) โดยชีก็มีหลายสูตรให้เลือกเยอะเลยแหละ แบ่งออกเป็นเบอร์ ๆ และแต่ละเบอร์เอง ก็มีคุณสมบัติและประเภทที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็ไม่ต้องงงนะจ๊ะ ใครที่กำลังหาตัวแก้ผมแห้งหนักแบบสุดขีด เราขอแนะนำเป็น OLAPLEX No.5 Bond Maintenance™ Conditioner เบอร์ 5 เพราะเป็นเบอร์ครีมนวดผมสูตรพิเศษ เน้นแก้ปัญหาผมแห้งเสียเกินเยียวยาโดยเฉพาะเลยค่ะ 

ก็หากเส้นผมของสาว ๆ กำลังแห้งเสียแบบรุนแรงจัดหนัก จับกี่ที หวีกี่ที ก็เหมือนผมกำลังจะกรอบแตกแห้งคามือ อยากให้ลงทุนลองใช้ชี เพราะชีจะเข้าดูแลเส้นผมอย่างล้ำลึกทำให้เส้นผมกลับมาชุ่มชื้น นุ่มลื่นไม่พันกัน เส้นผมสุขภาพดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ใช้เลยล่ะค่ะ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการชี้ฟู ลดปัญหาการเกิดไฟฟ้าสถิต และยังใช้ได้กับทุกสภาพเส้นผม หรือใครที่ทำสีผมอยู่ ก็ไม่มีปัญหา สีไม่เฟดลงอย่างแน่นอน แต่ด้วยความที่คุณภาพดีจัดเต็ม ก็ทำให้ชีมีสิ่งที่ไม่น่ารักเลยก็คือ เรื่องของราคาเนี่ยละจ๊ะะะ จ่ายเงินทีสะท้านไปถึงรากผม ราคานางแรงจริงหากเทียบกับครีมนวดผมยี่ห้ออื่น ๆ แต่ก็เอาเถอะคุ้มอยู่ ถ้าใช้ยี่ห้ออื่น ๆ ไม่เวิร์ค ต้องลองชีแล้วแหละค่าา

จุดเด่น เส้นผมสุขภาพดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ป้องกันการชี้ฟู ลดปัญหาไฟฟ้าสถิต
สารบำรุงหลัก เทคโนโลยีเฉพาะใน OLAPLEX
หลังใช้ครั้งแรก เส้นผมนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่พันกัน ฟื้นฟูเส้นผมอย่างล้ำลึกรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
เหมาะสำหรับ ใช้ได้ทุกสภาพเส้นผม เน้นผมแห้งเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะจากการทำเคมีกับผมแรง ๆ อาทิ การดัด ฟอกผม ยืดผมบ่อย ๆ
สัญชาติ สหรัฐอเมริกา

2. ยี่ห้อ Pola AROMA ESS. GOLD Conditioner

ราคาโดยประมาณ 990 บาท ต่อ 460 ml

Pola AROMA ชีเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่นที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไรนัก แต่ทางฝั่งบ้านเค้านั่น เป็นที่รู้จักกันดี และได้รับความนิยมมาก ส่วนในไทยอาจจะหาซื้อไม่ค่อยได้เท่าไร แต่ถ้าใครได้ไปเที่ยวไปพักตามโรงแรมหรู ๆ แล้วละก็ จะโดนตก เพราะส่วนใหญ่โรงแรมหรูเขาจะใช้ผลิตภัณฑ์จากคุณคนนี้ ซึ่งก็ทำเอาใครต่อใครหลาย ๆ คนติดใจกันไปหมดเลยแหละ โดยเฉพาะครีมนวดผมอย่าง Pola AROMA ESS. GOLD Conditioner ที่ชีจะเน้นคืนความชุ่มชื้นกลับเข้าสู่เส้นผม เปลี่ยนความแห้งกรอบ แห้งกร้านของเส้นผมให้กลับมาแข็งแรง ผมมีความตรง สวย มีน้ำหนัก จัดแต่งทรงง่าย ทิ้งตัวสวยตั้งแต่โคนจรดปลายค่าาา 

โดยในส่วนของสารบำรุง ชีก็มีส่วนผสมของสารสกัด 4 Golden ซึ่งเป็นส่วนผสมที่เปรียบเสมือนทองคำ ที่จะมาช่วยมอบความชุ่มชื้น เปลี่ยนเส้นผมให้นุ่ม ไม่แห้งกรอบได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และถ้าใครที่ผมแห้งจนมีปัญหาเส้นผมพันกันบ่อย หวีทีไรผมขาดตลอด ต้องขอแนะนำเลยค่ะ เพราะชีจะช่วยลดหมดปัญหาเส้นผมพันกันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเวลาใช้เคลือบนวดผม ชีก็จะส่งกลิ่นหอม ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์มากกกก หอมแบบนัว ๆ สไตล์ธรรมชาติ ไม่หวาน ไม่ฉุน ได้ลองแล้วจะเลิฟ ๆ อย่างแน่นอน ส่วนราคาก็อาจจะแพงไปนิด อารมณ์น้อง ๆ OLAPLEX ตัวด้านบนเลยแหละ แต่ถ้าใครที่ยังไม่เคยได้ลองใช้ชีละก็ ไม่อยากให้พลาดจริง ๆ ค่าา

จุดเด่นเน้นคืนความชุ่มชื้นกลับเข้าสู่ผม ผมมีน้ำหนัก จัดแต่งทรงง่าย แข็งแรงขึ้น กลิ่นหอมสไตล์ธรรมชาติ
สารบำรุงหลักสารสกัด 4 Golden
หลังใช้ครั้งแรกเปลี่ยนผมให้นุ่ม ชุ่มชื้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
เหมาะสำหรับทุกสภาพเส้นผม ผมแห้งเสีย
สัญชาติญี่ปุ่น

3. ยี่ห้อ Kerastase Resistance Soin Premier Therapiste

สาว ๆ คนไหนที่ค่อนข้างมีงบ ไม่ค่อยติดหรือเกี่ยงเรื่องราคา เราอยากให้ลองความลักชัวรี่ของครีมนวดผมตัวนี้ Kerastase Resistance Soin Premier Therapiste กันเลยค่าา (นางแอบแพงนะ พอ ๆ กับ OLAPLEX เลยแหละ) โดยนางเป็นครีมนวดผมสูตรสำหรับผมแห้งเสียแบบหนักมากกกก พวกระยะสุดท้ายอะไรปานนั้น ซึ่งหลัก ๆ นางจะเน้นเรื่องช่วยป้องกันเส้นใยของเส้นผม ไม่ให้เกิดการสูญเสียความชุ่มชื้น หรือถ้าเส้นผมที่แห้งเสียอยู่แล้ว ก็จะมาช่วยบำรุงให้เส้นผมกลับมามีสุขภาพดี พลิ้วสวย นุ่มลื่นไม่พันกัน ทำให้ผมกลับมามีน้ำหนัก และที่สำคัญช่วยเพิ่มความแข็งแรงป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย 

ส่วนเรื่องของส่วนผสม นางก็จัดหนักจัดเต็มเลยแหละ ไม่ว่าจะเทคโนโลยี FIBRA-KAP™ ที่มีเฉพาะใน Kerastase ที่มาพร้อมกับ SP 94 ซึ่งเป็นตัวเบิกทางที่ทำให้สารอาหารอย่างกรดอะมิโน 6 ชนิด สามารถเข้าไปบำรุงถึงแก่นผมชั้นในได้ดีมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำงานร่วมกับ KAP5 ช่วยให้เกร็ดผมแข็งแรง และนางเอง ก็สามารถใช้ได้ทั้งหมักก่อนสระผม หรือหลังสระแชมพูเสร็จได้ทั้งคู่อีกด้วย ก็ถ้าสาว ๆ คนไหนที่ชอบทำผม โดนความร้อน ทำสี ยืด ดัด ใช้สารเคมีบ่อย ๆ เราแนะนำว่าควรมีนะ ดีกว่าปล่อยผมแห้งเสียจนเกินต้าน ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า ยิ่งถ้ามีเส้นผมยาวมาก ๆ มันจะไม่คุ้มเสียเน้อ

จุดเด่นป้องกันเส้นใยของผม ดูแลผมแห้งเสียให้นุ่มลื่นไม่พันกัน ผมมีน้ำหนัก เพิ่มความแข็งแรง ป้องกันผมเสียในอนาคต
สารบำรุงหลักเทคโนโลยี FIBRA-KAP™, SP 94, KAP5, กรดอะมิโน 6 ชนิด
หลังใช้ครั้งแรกเส้นผมจะนุ่มขึ้น คืนความชุ่มชื้นให้เส้นผมอย่างรวดเร็ว
เหมาะสำหรับผมเสียแห้งกรอบหนักมาก ใช้ความร้อน เคมีทำลายผมบ่อย
สัญชาติฝรั่งเศส


4. ยี่ห้อ Kaff & Co. Aloe vera Nourishing Conditioner

สาว ๆ คนไหนที่เหนื่อยใจกับปัญหาผมแห้งเสียไม่พอ ยังเจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหนังศีรษะแห้ง เกิดอาการแพ้ง่ายอีกต่างหาก เห็นทีคงต้องเลือกครีมนวดผมที่เซฟ ๆ มีความเป็นธรรมชาติสูง แต่ก็สามารถบำรุงเส้นผมให้กลับมาแข็งแรงได้ดี เราขอแนะนำ Kaff & Co. Aloe vera Nourishing Conditioner ครีมนวดผมสัญชาติไทยที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพเส้นผมและทุกสภาพหนังศีรษะ (ยิ่งหนังศีรษะแพ้ง่าย ยิ่งต้องโดน!) โดยนางจะเน้นช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม บำรุงเส้นผมที่แห้งเสีย และปกป้องผมจากมลภาวะภายนอกที่คุณต้องเจออยู่ทุก ๆ วันด้วยค่ะ

และนางก็พิเศษ แตกต่างจากครีมนวดผมยี่ห้ออื่น ๆ ตรงที่ นางมีความเป็นออร์แกนิคสูงมากกถึง 99 % นางไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อเส้นผม และหนังศีรษะทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างแน่นอน โดยส่วนผสมหลัก ๆ ก็ตามชื่อของนางเลยก็คือ Aloe vera หรือว่านหางจระเข้แท้ จึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเส้นผม พร้อมทั้งปลอมประโลมหนังศีรษะที่อักเสบอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีส่วนผสมของวิตามินบี 5 ที่จะมาช่วยเพิ่มเคราติน และฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสียอย่างหนัก ให้กลับมามีสุขภาพดีได้ ส่วนราคาก็ไม่ได้แพงมาก (ยิ่งถ้าเทียบกับ 3 ยี่ห้อด้านบน ยิ่งถูกกว่ามาก ๆ) ลองซื้อมาใช้ดูก่อนสิคะ อาจจะเป็นครีมนวดผมที่กำลังตามหาอยู่ก็ได้ค่าา

จุดเด่นเป็นครีมนวดผมออร์แกนิค มีความเป็นธรรมชาติสูง เพิ่มความชุ่มชื้น บำรุงเส้นผมที่แห้งเสีย ปกป้องผมจากมลภาวะ และปลอบประโลมผิวหนังที่อักเสบ
สารบำรุงหลักว่านหางจระเข้แท้เข้มข้น, วิตามินบี 5
หลังใช้ครั้งแรกเส้นผมมีความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น หนังศีรษะสบายขึ้น
เหมาะสำหรับหนังศีรษะแพ้ง่าย เป็นแผลจากการทำเคมี
สัญชาติไทย

5. ยี่ห้อ Enfant Organic Plus Moisture Conditioner

เอาใจสาว ๆ ที่มีสภาพหนังศีรษะหรือเส้นผมแพ้ง่ายกันอีกซักหน่อย ซึ่งถ้าใครได้ลองครีมนวดผมตัวนี้ รับประกันล้านเปอร์เซ็นต์ไม่มีทางแพ้หรือเกิดอาการระคายเคืองอย่างแน่นอน เพราะชีเป็นครีมนวดผมสำหรับเด็กจ้าาาา นั้นก็คือ Enfant Organic Plus Moisture Conditioner โดยชีมีความอ่อนโยนระดับ 10 กระโหลก สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กน้อยเบบี๋อายุ 6 เดือนขึ้นไป ลองคิดดูขนาดทารกตัวเล็กผิวบอบบางที่สุดในโลกยังสามารถใช้ได้ คนโต ๆ อย่างเราถึงจะผิวแพ้ง่ายยังไงก็ใช้ได้อย่างแน่นอนค่ะ

และด้วยความที่เป็นครีมนวดผมสำหรับเด็ก ส่วนผสมต่าง ๆ ก็ต้องมีความออร์แกนิค เน้นความธรรมชาติสูง โดยคุณคนนี้จะมอบการบำรุงแบบ Triple Action Softness Conditioner ที่จะมาช่วยปรับเส้นผมนุ่มลื่นด้วยสารบำรุงจากพืชธรรมชาติอย่าง Sweet Almond Oil, Organic Shea Butter และ Cation Derived from Brassicacae Oil มารวมพลังกันช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมและหนังศีรษะ เพิ่มความนุ่มสลวย หมดปัญหาผมพันกัน ปรับสภาพเส้นผมไม่ให้ชี้ฟู และยังอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองอีกด้วย อีกทั้งยังเหมาะสำหรับคุณแม่กับลูก ๆ ที่จะได้ใช้เวลาบำรุงเส้นผมไปพร้อม ๆ กัน ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ที่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้วยค่า

จุดเด่นอ่อนโยนมากเป็นพิเศษ เติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมและหนังศีรษะ ปรับผมให้ไม่ชี้ฟู ไม่ระคายเคือง
สารบำรุงหลักSweet Almond Oil, Organic Shea Butter และ Cation Derived from Brassicacae Oil
หลังใช้ครั้งแรกเส้นผมและหนังศีรษะชุ่มชื้นขึ้น
เหมาะสำหรับเด็ก หรือผู้ที่มีหนังศีรษะแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย
สัญชาติฝรั่งเศส

6. ยี่ห้อ ซึบากิ พรีเมี่ยม มอยส์ คอนดิชันเนอร์

ทั่วโลกทราบกันดีว่าสาว ๆ ชาวญี่ปุ่นเค้าดูแลเส้นผมกันหนักมากกกก ทำให้ชาวยุ่นเขามีครีมนวดผมผลิตภัณฑ์ดี ๆ ยี่ห้อดัง ๆ ให้เลือกใช้กันเยอะเอาเรื่องเลยทีเดียว ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่เราจะแนะนำตัวกันในวันนี้ ก็ถือเป็นอีกแบรนด์ดังที่ฮอทฮิตที่นั้น และได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาให้คนไทย ได้ลองใช้กันด้วยอย่าง ซึบากิ พรีเมี่ยม มอยส์ คอนดิชันเนอร์ ขวดแดงนี้เลยค่ะ ตัวนี้ฮิตจริงอะไรจริงโดยเฉพาะตาม Beauty Blogger ทั้งในและต่างประเทศ ต้องเคยเจอเคยเห็นติดอันดับเป็นครีมนวดผมไอเท็มโปรดกันบ้างแหละ

สำหรับเจ้าซึบากิ พรีเมี่ยม เค้ามีคอนเซ็ปประจำแบรนด์ว่า “Salon to Home” เหมือนยกซาลอนชั้นนำมาไว้ที่บ้านไปเลยจ้าา ก็ภายในครีมนวดผมจะมีการรวบรวมทั้ง เทคนิคที่ใช้ในการบำรุงผมอย่างล้ำลึกเหมือนผู้เชี่ยวชาญมาเอง ปรับเส้นผมให้ให้สุขภาพดีขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ใกล้เคียงกับการเข้าร้านทำผมเลยล่ะ และสูตรนี้จะเน้นไปที่ส่วนผสมจากมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผมอย่างจริงจัง ปรับให้เส้นผมพังเสียกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และที่ชอบสุด เลิฟชีสุด เทใจให้เลยก็คือ กลิ่นหอม ๆ น่ารัก ๆ จากส่วนผสมของ Fruity Floral เนี่ยละ ปลื้มเวอร์ นวดผมไป ได้กลิ่นหอม ๆ ไป ผ่อนคลายแบบสุด ๆ เหมือนกำลังทำสปาเส้นผมเลยน้าา ถ้ามีโอกาส อยากให้ลองเจ้าซึบากิขวดแดงกันค่ะ

จุดเด่นปรับเส้นผมให้สุขภาพดีขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น ปรับให้เส้นผมพังเสียให้กลับมามีชีวิตชีวา
สารบำรุงหลักส่วนผสมจากมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น
หลังใช้ครั้งแรกเส้นผมสุขภาพดีขึ้นเห็นได้ชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
เหมาะสำหรับทุกสภาพเส้นผม โดยเฉพาะผมเสียมากเป็นพิเศษ
สัญชาติญี่ปุ่น


7. ยี่ห้อ OGX Renewing + Argan Oil Conditioner

ผมเสียไม่ไหวแล้ววว ฉันอยากได้ความนุ่มลื่น ผมสปริงตัวสวย มีน้ำหนักกลับมาอีกครั้ง ตอนนี้ไม่เกินฝันแล้วจ้าาา ขอแนะนำเลย หาตำด่วน ๆ สำหรับคุณ OGX Renewing + Argan Oil Conditioner ครีมนวดผมที่โดดเด่นมาก ๆ ในเรื่องของการใช้ส่วนผสม เพราะชีมีตัวเด็ดอย่าง “น้ำมันอาร์แกนบริสุทธิ์” จากประเทศโมรอกโคเลยยนะ ซึ่งอาร์แกนออยล์เนี่ย ก็เป็นออยล์ชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยวิตามินสูงมากกกกกก พอถูกสกัดสารบำรุงให้มาอยู่ในผลิตภัณฑ์ครีมนวดผม เลยทำให้สามารถช่วยฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี ไม่ยากเกินความสามารถของชีเลยละค่ะ

และความพิเศษยังไม่หมดแค่น้ำมันอาร์แกนเด้อออ นางยังมีวิธีสกัดน้ำมันอาร์แกนความลับเฉพาะของ OGX เท่านั้น ทำให้ถึงแม้ยี่ห้ออื่น ๆ จะใช้น้ำมันอาร์แกนเหมือนกัน แต่ของ OGX ก็จะมีคุณภาพที่ดีมากกว่า และได้ประโยชน์แบบครบมากที่สุดอีกด้วย ซึ่งจากที่ได้ลองใช้มาเนี่ย การฟื้นฟูเส้นผมให้แข็งแรง ขอให้คะแนนเต็มสิบ สิบ สิบ ช่วยปรับผมให้เงางามมีน้ำหนัก เพิ่มความนุ่มลื่น เปล่งประกายตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยล่ะค่ะ แถมคุณคนนี้ยังปราศจากซัลเฟต จึงเป็นมิตรกับสุขภาพเส้นผม และไม่มีการทดสอบกับสัตว์ด้วยนะคะ ก็สมกับเป็นแบรนด์ดี ยี่ห้อดังจากสหรัฐอเมริกา วางใจในคุณภาพได้เลยค่าาา

จุดเด่นผมสปริงตัวสวยมีน้ำหนัก นุ่มลื่นไม่พันกัน แก้ปัญหาผมแห้งเสียให้กลับมาชุ่มชื้นปราศจากซัลเฟต
สารบำรุงหลักน้ำมันอาร์แกน
หลังใช้ครั้งแรกเส้นผมเงาสวย นุ่มลื่น เปล่งประกายตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
เหมาะสำหรับเส้นผมอ่อนแอ แห้งเสีย แพ้ง่าย
สัญชาติสหรัฐอเมริกา

8. ยี่ห้อ เขาค้อทะเลภู คอนดิชันเนอร์พรีเมี่ยม ดีท็อกซ์ผมและหนังศีรษะ

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เติมไปด้วยสารเคมีมานาน อยากพักหัวบ้างอะไรบ้าง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังอยากฟื้นบำรุงเส้นผมไปด้วยในตัว ก็ขอบอกเลยว่า สมุนไพรไทยของเราเนี่ยละเริ่ดจริง ไรจริง! แต่ไม่ได้ให้ไปตามเก็บเอง มานั่งตำ นั่งผสม นั่งนวดทำครีมนวดผมด้วยตัวเองนะ เสียเวลาตายกันพอดี ไปซื้อคุณคนนี้เลยดีกว่าค่ะ กับเขาค้อทะเลภู ก็น่าจะเป็นยี่ห้อที่หลาย ๆ คนน่าคุ้นเคยกันมากันบ้างแล้ว โดยทางแบรนด์เขาก็มีครีมนวดผมขายกันอยู่หลายสูตร แต่ถ้าอยากจะให้เราแนะนำละก็ ต้องสูตรดีท็อกซ์เส้นผมและหนังศีรษะด้วย Moringa and Olive เลยจ้าา

โดยคุณคนนี้ จะผสมผสานด้วย 2 พลังธรรมชาติอย่าง “มะรุม”  ที่มีสาร Behenic Acid ช่วยปิดเกล็ดผม คงความชุ่มชื้นให้เส้นผมตั้งแต่ครั้งแรก พร้อมกันนั้น ก็จะดีท็อกซ์หนังศีรษะด้วย “มะกอก” ซึ่งจะมีสาร Oleanoline ช่วย ปกป้องหนังศีรษะและเส้นผมจากการทำลายของแสงแดดและมลภาวะ ทำให้เส้นผมที่เคยแห้งเสียกลับมาดูมีสุขภาพดีได้อีกครั้ง และที่สำคัญชีบอกเลยว่า ปราศจากสารเคมีอันตรายถึง 9 ชนิด และโน Silicone ด้วยนะจ๊ะ ใครที่มีปัญหาหนังศีรษะแพ้ง่าย ผมร่วงบ่อยใช้ได้เลยยย อีกทั้งราคาก็ย่อมเยามาก ๆ ซื้อมาลองใช้ได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องกลัวจ่ายแพงเลยค่า

จุดเด่นเป็นส่วนผสมจากสมุนไพรไทย ช่วยในเรื่องฟื้นบำรุงผม ดีท็อกซ์ของเสีย ป้องกันเส้นผมจากมลภาวะและแสงแดด
สารบำรุงหลักสารสกัดจากมะรุม, มะกอก ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผม
หลังใช้ครั้งแรกเบาสบายเส้นผม และหนังศีรษะมาก
เหมาะสำหรับคนที่ผ่านการทำเคมีกับเส้นผมมาอย่างหนัก มีงบค่อนข้างจำกัด
สัญชาติไทย

9. ยี่ห้อ PLEARN ครีมนวดผมน้ำมันมะพร้าวเพิ่มสารสกัดอัญชัน & บอระเพ็ด

ใครผมบาง หัวใกล้ล้านเธอห้ามชะล่าใจเด็ดขาดนะ! หาตัวช่วยด่วนนนเดี๋ยวนี้! แต่ถ้ายังไม่รู้จะซื้อครีมนวดผมยี่ห้อไหนดีละก็ เราขอแนะนำครีมนวดผมม้ามืดจาก PLEARN สูตรน้ำมันมะพร้าวเพิ่มสารสกัดอัญชัน & บอระเพ็ด หลอดนี้กันเลยค่ะ เอาไปใช้กันแบบจุก ๆ ชะโลม ๆ หัวกันไปเลยแม่ เพราะราคาถูกมากก และเรื่องสรรพคุณ ก็ดีงามล้านแปดด้วยส่วนผสมตัวเด่นอย่าง น้ำมันมะพร้าว ที่มันดีย์ มันงามม ผมเงาสวย นุ่ม ชุ่มชื้นได้อย่างแน่นอน แต่ความเริ่ดมันอยู่ที่ชีเพิ่มสารสกัดจากอัญชัน + บอระเพ็ดมาด้วยเนี่ยสิ ทำให้บำรุงได้ดีกว่าเดิมไปอีก

โดยส่วนผสมของไทยทั้งสามอย่าง น้ำมันมะพร้าว, ดอกอัญชัน และบอระเพ็ด จะมารวมพลังช่วยกันบำรุงเส้นผมได้อย่างล้ำลึก ช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะปัญหาผมแห้งเสีย เส้นผมขาดหลุดร่วง หรือปัญหาหัวเกือบล้าน ชีก็จะไปกระตุ้นให้เส้นผมงอกขึ้นมาใหม่ และยังทำให้สีของเส้นผมดกดำมากยิ่งขึ้น จึงช่วยชะลอเรื่องการเกิดผมหงอกได้ดีด้วยเด้อออ อีกทั้งด้วยราคาที่ถูกแสนถูก สาว ๆ คนไหนที่ไม่เคยใช้ครีมบำรุงผมมาก่อนเลยยยยย ซื้อมาใช้เถอะ สัปดาห์ละครั้งก็ยังดี อย่างน้อยจะได้ช่วยดูแลและป้องกันเส้นผมสวย ๆ ของเรา ๆ ไม่ให้เกิดปัญหากับเส้นผมได้ง่าย ๆ ค่า (สงสารเส้นผมกันเถอะนะ ใช้เถอะ ขอร้องละ)

จุดเด่นบำรุงเส้นผม แก้ปัญหาผมเสีย ลดผมขาดหลุดร่วง กระตุ้นผมให้ขึ้นไว ดกดำ ชะลอการเกิดผมหงอก
สารบำรุงหลักน้ำมันมะพร้าว, อัญชัน, บอระเพ็ด
หลังใช้ครั้งแรกเส้นผมนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้น
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะ ผมหลุดร่วง มีงบค่อนข้างจำกัด
สัญชาติไทย

10. ยี่ห้อ Kerasys lovely & Romantic perfume Shampoo and conditioner 

ราคาโดยประมาณ 280 บาท ต่อ 600 ml

เรื่องบำรุงเส้นผม ฟื้นฟูเส้นผมบลา ๆๆๆ ต่าง ๆ จะหันไปหาทางไหน จะซื้อตอนไหนมันก็ได้ไง แต่ถ้าจะให้หาทั้งแชมพูสระผม + ครีมนวดผม กลิ่นหอมแบบห๊อมมมหอมมม หอมถูกใจเหมือนผมติดกลิ่นน้ำหอมสไตล์ Flora แพง ๆ แบบยกดอกไม้มาทั้งสวน มันก็หามาไม่ได้ง่าย ๆ ป่ะะะ ใครสายของหอมลองเถอะไม่ผิดหวัง สำหรับคุณ Kerasys lovely & Romantic perfume Shampoo and Conditioner งานนี้ขอขายเป็นแพ็คคู่ ซื้อเถอะ เพื่อความหอมละมุนติดทนยาวนานไป 3 วัน 8 วัน เหมือนสาว ๆ เกาหลีกันเลยทีเดียวค่า

และสำหรับครีมนวดผมตัวนี้ จะเน้นเพิ่มความชุ่มชื้นจากวิตามินให้กับเส้นผม บำรุงได้ดี ไม่ทำให้ผมพันกันอยู่แล้ว ไม่อยากพูดเยอะ แต่อยากภูมิใจนำเสนอเรื่อง Note ต่าง ๆ ของชีมากกว่า ชีไม่ธรรมดาเด้ออออ ความซับซ้อนของกลิ่นคือ จัดเต็มเหมือนน้ำหอมแพง ๆ ไม่มีผิด โดยท็อปโน้ตจะเป็น Orange Blossom, White Peach, Freesia Bouquet มิดเดิลโน้ตจะเป็น Jasmine, Magnolia, Daisy, Muguet และสุดท้ายเบสโน้ตจะมี Cedarwood, Soft Amber และ White Musk ก็คือส่วนผสมแต่ละโน้ตแต่ละตัวก็คือน้ำหอมแพง ๆ ขวดหลายพันดี ๆ นั้นเองละ เริ่ดเด้ออออ ก็ถ้าอยากมีเส้นผมสะอาด ๆ หอม ๆ ละก็ ต้องจัดนางแพ็คคู่ไปเลยค่า

จุดเด่นผมนุ่มชุ่มชื้น เงาสวยไม่พันกัน กลิ่นหอมมาก ติดทนนานมาก
สารบำรุงหลักมอยเจอร์ไรเซอร์, วิตามิน
หลังใช้ครั้งแรกกลิ่นหอมแตกต่างจากครีมนวดผมอื่น ๆ
เหมาะสำหรับทุกสภาพผม (แต่ใครที่แพ้ง่ายไม่แนะนำ)
สัญชาติเกาหลีใต้

Ok กันไหมจ๊ะสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่หลงเข้ามา ได้เห็นรีวิว “ครีมนวดผม” ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน สนใจอยากจะซื้อครีมตัวไหน ยี่ห้อไหน ไปใช้บำรุงเส้นผมที่บ้านกันบ้างง?? ก็จากที่ได้เห็น ๆ มาเนี่ย ก็มีหลายเกรดหลายราคากันเลยนะคะ ตั้งแต่พวกยี่ห้อหลักร้อยต้น ๆ ไปจนถึงหลักพันเลยทีเดียว ก็อยากแนะนำให้ลองเริ่มจากพวกยี่ห้อราคาย่อมเยาก่อนเนาะ เผื่อจะเป็นยี่ห้อที่ถูกใจ ใช้แล้วตอบโจทย์ ดีต่อสภาพทั้งเส้นผมและเงินในกระเป๋า ก็ไม่จำเป็นต้องไปซื้อยี่ห้อแพง ๆ ให้เปลืองเงินกันเลยล่ะค่าา



Leave a Comment