อีกสิ่งหนึ่งที่สาว ๆ อย่างเรา ๆ ให้ความสำคัญกันมากกกกกก็คือ “เส้นผม” นั่นเอง จะให้ทนดูเส้นผมแห้งเสีย แห้งกร้าน จับแล้วเส้นกรอบ ๆ เหมือนเส้นหมี่ หรือเส้นผมพันกันวุ่นวะวุ่นวาย ดูไม่สวย ไม่เป็นทรง ก็คงทำใจกันไม่ไหวใช่ไหมล่ะคะ ทำให้อยากจะได้ “ครีมนวดผม” ดี ๆ สักยี่ห้อ ไปใช้เพื่อบำรุงให้เส้นผมกลับมาดูแข็งแรง ดูสวยดังเดิมกันอีกครั้ง ก็คลิกเข้ามาได้ถูกที่ถูกบทความแล้วล่ะค่ะ เพราะที่บทความนี้ เราได้ไปคัดครีมนวดผมยี่ห้อดี ๆ ยี่ห้อเด็ด ๆ ยี่ห้อปัง ๆ มารีวิวให้ดูกันถึง 10 ยี่ห้อเลยนะ และขอบอกเลย 1 ใน 10 ยี่ห้อนี้แหละ ที่จะพิชิตใจของสาว ๆจนต้องเสียเงินกันอย่างแน่นอนนนน ก็ถ้าพร้อมเสียเงินแล้ว ตามมาเลยจ้าาา
สารบัญ
ครีมนวดผมมีความสำคัญไหม?
เอาจริง ๆ ครีมนวดผมเนี่ย จะบอกว่าสำคัญก็สำคัญ จะบอกว่าไม่สำคัญก็ไม่สำคัญค่ะ ขึ้นอยู่กับความต้องการของตนเองและสภาพเส้นผมซะมากกว่า เพราะถ้าสาว ๆ มีสภาพเส้นผมที่ดีมาก ๆ การได้ใช้แค่แชมพู (โดยเฉพาะบางยี่ห้อ) ก็ช่วยทั้งทำความสะอาดและบำรุงเส้นผมได้ดีพอสมควรอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมนวดผมเลยละจ๊ะ
แต่ถ้าสาว ๆ มีสภาพเส้นผมที่แห้งเสียมาก จับดูแล้วผมแห้งกร้าน หรือชอบทำสี ชอบดัดเส้นผม ชอบใช้เครื่องหนีบผมแต่งทรง หรือเส้นผมมีโอกาสโดนความร้อนอยู่บ่อยครั้ง การได้ใช้ครีมนวดผมก็ถือเป็นไอเดียที่ดี เพราะจะได้ช่วยบำรุงให้เส้นผมกลับมามีสุขภาพดี และที่สำคัญจะได้ช่วยป้องกัน ไม่ให้เส้นผมแห้งเสียไปได้ง่าย ๆ ซึ่งการป้องกันก็เป็นสิ่งที่ดีกว่า มาแก้ไขปัญหาเส้นผมแห้งเสียทีหลังเน้อ
จะเลือกซื้อ “ครีมนวดผม” ยังไงดีนะ?
ถ้าได้ลองไปเลือกซื้อครีมนวดผมกันจริง ๆ ละก็ จะเห็นได้ว่า เขามีขายกันหลากหลายสูตร หลากหลายความต้องการต่อเส้นผมกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะ สูตรสำหรับเส้นผมมัน, สูตรสำหรับเส้นผมแห้งกร้าน, สูตรสำหรับผมแห้งเสียอย่างหนัก, สูตรสำหรับเส้นผมดัด, สูตรสำหรับเส้นผมทำสี และอื่น ๆ อีกเพียบบบบ จนงงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้จะซื้อสูตรไหนดี หรือยี่ห้อไหนดีกันเลยทีเดียว ก็ถ้าเอาจริง ๆ แล้ว การได้เลือกซื้อสูตรครีมนวดผมที่ตรงกับสภาพเส้นผมมากที่สุด ก็จะดีที่สุด แต่ถ้าไม่อยากคิดมากละก็ เอาตรง ๆ นะคะ ใช้ ๆ ไปเถอะค่ะ ถึงจะทำแยกสูตรมา ส่วนใหญ่ก็สามารถใช้แทนกันได้อยู่แล้ว หรือจะซื้อยี่ห้อที่บอกว่า เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม ก็ง่ายดี ไม่ต้องคิดเยอะค่ะ
แต่สำหรับคนที่มี “เส้นผมมัน” กับ “เส้นผมแห้ง” ไม่อยากให้ใช้ครีมนวดผมสูตรไหน ๆ ก็ได้ อยากจะให้ซื้อสูตรที่ตรงต่อสภาพเส้นผมกันมากกว่า เพราะถ้ามีสภาพเส้นผมมัน แต่ดันไปใช้ครีมนวดผมสำหรับเส้นผมแห้ง ซึ่งเป็นสูตรที่จะเน้นในเรื่องของการบำรุงเส้นผมแบบจัดหนัก ตัวครีมมีความเข้มข้นและความมันมาก ๆ ก็แทนที่สภาพเส้นผมมัน จะได้รับการบำรุงในระดับที่พอเหมาะ แต่จะกลายเป็นการเพิ่มน้ำมันหรือความมันเข้าไปอีก ทำให้เส้นผมยังคงมัน ๆ ต่อไป แบบนี้ก็ไม่ไหวนะคะ ในทางตรงกันข้าม ถ้ามีเส้นผมแห้ง แต่ไปใช้สูตรสำหรับเส้นผมมัน ก็จะได้รับการบำรุงที่ไม่ดีพอ ดังนั้นทั้ง 2 สภาพเส้นผม จึงควรใช้ให้ตรงสูตรค่ะ (แต่ถ้าไม่แคร์ก็จัดไป)
และอีกหนึ่งสภาพเส้นผมที่ควรจะเลือกซื้อให้ตรงสูตรนั่นก็คือ “เส้นผมแห้งเสียง่าย” หรือมี “สภาพหนังศีรษะที่แพ้ง่าย” ก็ควรจะเลือกซื้อครีมนวดผมที่มีสารเคมีน้อย ๆ หรือเป็นพวกสูตรธรรมชาติ มีความเป็นออร์แกรนิคสูง ๆ ก็จะทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองต่อหนังศีรษะ รวมถึงไม่ทำให้ผมเกิดการแห้งเสียจากสารเคมีไปมากกว่าเดิม หรือถ้าอยากจะให้ชัวร์แบบสุด ๆ ไปใช้ครีมนวvดผมสำหรับเด็กเลยค่ะ ถ้าเด็กน้อยใช้ได้ ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ก็ใช้ได้อย่างแน่นอนค่าา
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “ครีมนวดผม” ยี่ห้อไหนดี
ด้วยการที่เนื้อหารีวิวครีมนวดผมทั้ง 10 ยี่ห้อนั้น อาจจะค่อนข้างยาว ทำให้ใครต่อใครหลาย ๆ คนอาจจะไม่สะดวกอ่านเนื้อหาทั้งหมด (แต่อยากให้อ่านจริง ๆ นะ เราตั้งใจรีวิวเลยแหละ) ก็สามารถกดเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบที่ปุ่มด้านล่างได้นะคะ จะเป็นการสรุปเนื้อหาแบบย่อ ๆ ไว้ให้ค่าาา
1. ยี่ห้อ OLAPLEX No.5 Bond Maintenance™ Conditioner
ราคาโดยประมาณ 1,050 บาท ต่อ 250 ml
หากใครที่กำลังหาข้อมูลผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมดี ๆ อยากให้รู้จักกับยี่ห้อ OLAPLEX ซึ่งเป็นยี่ห้อผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมระดับท็อป ๆ ของโลก! กันเลยเด้อ (บอกเลยร้านแพง ๆ ร้านดัง ๆ ใช้กันทั้งนั้นจ้าาา) โดยชีก็มีหลายสูตรให้เลือกเยอะเลยแหละ แบ่งออกเป็นเบอร์ ๆ และแต่ละเบอร์เอง ก็มีคุณสมบัติและประเภทที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็ไม่ต้องงงนะจ๊ะ ใครที่กำลังหาตัวแก้ผมแห้งหนักแบบสุดขีด เราขอแนะนำเป็น OLAPLEX No.5 Bond Maintenance™ Conditioner เบอร์ 5 เพราะเป็นเบอร์ครีมนวดผมสูตรพิเศษ เน้นแก้ปัญหาผมแห้งเสียเกินเยียวยาโดยเฉพาะเลยค่ะ
ก็หากเส้นผมของสาว ๆ กำลังแห้งเสียแบบรุนแรงจัดหนัก จับกี่ที หวีกี่ที ก็เหมือนผมกำลังจะกรอบแตกแห้งคามือ อยากให้ลงทุนลองใช้ชี เพราะชีจะเข้าดูแลเส้นผมอย่างล้ำลึกทำให้เส้นผมกลับมาชุ่มชื้น นุ่มลื่นไม่พันกัน เส้นผมสุขภาพดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ใช้เลยล่ะค่ะ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการชี้ฟู ลดปัญหาการเกิดไฟฟ้าสถิต และยังใช้ได้กับทุกสภาพเส้นผม หรือใครที่ทำสีผมอยู่ ก็ไม่มีปัญหา สีไม่เฟดลงอย่างแน่นอน แต่ด้วยความที่คุณภาพดีจัดเต็ม ก็ทำให้ชีมีสิ่งที่ไม่น่ารักเลยก็คือ เรื่องของราคาเนี่ยละจ๊ะะะ จ่ายเงินทีสะท้านไปถึงรากผม ราคานางแรงจริงหากเทียบกับครีมนวดผมยี่ห้ออื่น ๆ แต่ก็เอาเถอะคุ้มอยู่ ถ้าใช้ยี่ห้ออื่น ๆ ไม่เวิร์ค ต้องลองชีแล้วแหละค่าา
จุดเด่น | เส้นผมสุขภาพดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ป้องกันการชี้ฟู ลดปัญหาไฟฟ้าสถิต |
สารบำรุงหลัก | เทคโนโลยีเฉพาะใน OLAPLEX |
หลังใช้ครั้งแรก | เส้นผมนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่พันกัน ฟื้นฟูเส้นผมอย่างล้ำลึกรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ |
เหมาะสำหรับ | ใช้ได้ทุกสภาพเส้นผม เน้นผมแห้งเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะจากการทำเคมีกับผมแรง ๆ อาทิ การดัด ฟอกผม ยืดผมบ่อย ๆ |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
2. ยี่ห้อ Pola AROMA ESS. GOLD Conditioner
ราคาโดยประมาณ 990 บาท ต่อ 460 ml
Pola AROMA ชีเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่นที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไรนัก แต่ทางฝั่งบ้านเค้านั่น เป็นที่รู้จักกันดี และได้รับความนิยมมาก ส่วนในไทยอาจจะหาซื้อไม่ค่อยได้เท่าไร แต่ถ้าใครได้ไปเที่ยวไปพักตามโรงแรมหรู ๆ แล้วละก็ จะโดนตก เพราะส่วนใหญ่โรงแรมหรูเขาจะใช้ผลิตภัณฑ์จากคุณคนนี้ ซึ่งก็ทำเอาใครต่อใครหลาย ๆ คนติดใจกันไปหมดเลยแหละ โดยเฉพาะครีมนวดผมอย่าง Pola AROMA ESS. GOLD Conditioner ที่ชีจะเน้นคืนความชุ่มชื้นกลับเข้าสู่เส้นผม เปลี่ยนความแห้งกรอบ แห้งกร้านของเส้นผมให้กลับมาแข็งแรง ผมมีความตรง สวย มีน้ำหนัก จัดแต่งทรงง่าย ทิ้งตัวสวยตั้งแต่โคนจรดปลายค่าาา
โดยในส่วนของสารบำรุง ชีก็มีส่วนผสมของสารสกัด 4 Golden ซึ่งเป็นส่วนผสมที่เปรียบเสมือนทองคำ ที่จะมาช่วยมอบความชุ่มชื้น เปลี่ยนเส้นผมให้นุ่ม ไม่แห้งกรอบได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และถ้าใครที่ผมแห้งจนมีปัญหาเส้นผมพันกันบ่อย หวีทีไรผมขาดตลอด ต้องขอแนะนำเลยค่ะ เพราะชีจะช่วยลดหมดปัญหาเส้นผมพันกันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเวลาใช้เคลือบนวดผม ชีก็จะส่งกลิ่นหอม ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์มากกกก หอมแบบนัว ๆ สไตล์ธรรมชาติ ไม่หวาน ไม่ฉุน ได้ลองแล้วจะเลิฟ ๆ อย่างแน่นอน ส่วนราคาก็อาจจะแพงไปนิด อารมณ์น้อง ๆ OLAPLEX ตัวด้านบนเลยแหละ แต่ถ้าใครที่ยังไม่เคยได้ลองใช้ชีละก็ ไม่อยากให้พลาดจริง ๆ ค่าา
จุดเด่น | เน้นคืนความชุ่มชื้นกลับเข้าสู่ผม ผมมีน้ำหนัก จัดแต่งทรงง่าย แข็งแรงขึ้น กลิ่นหอมสไตล์ธรรมชาติ |
สารบำรุงหลัก | สารสกัด 4 Golden |
หลังใช้ครั้งแรก | เปลี่ยนผมให้นุ่ม ชุ่มชื้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพเส้นผม ผมแห้งเสีย |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
3. ยี่ห้อ Kerastase Resistance Soin Premier Therapiste
ราคาโดยประมาณ 950 บาท ต่อ 200 ml
สาว ๆ คนไหนที่ค่อนข้างมีงบ ไม่ค่อยติดหรือเกี่ยงเรื่องราคา เราอยากให้ลองความลักชัวรี่ของครีมนวดผมตัวนี้ Kerastase Resistance Soin Premier Therapiste กันเลยค่าา (นางแอบแพงนะ พอ ๆ กับ OLAPLEX เลยแหละ) โดยนางเป็นครีมนวดผมสูตรสำหรับผมแห้งเสียแบบหนักมากกกก พวกระยะสุดท้ายอะไรปานนั้น ซึ่งหลัก ๆ นางจะเน้นเรื่องช่วยป้องกันเส้นใยของเส้นผม ไม่ให้เกิดการสูญเสียความชุ่มชื้น หรือถ้าเส้นผมที่แห้งเสียอยู่แล้ว ก็จะมาช่วยบำรุงให้เส้นผมกลับมามีสุขภาพดี พลิ้วสวย นุ่มลื่นไม่พันกัน ทำให้ผมกลับมามีน้ำหนัก และที่สำคัญช่วยเพิ่มความแข็งแรงป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
ส่วนเรื่องของส่วนผสม นางก็จัดหนักจัดเต็มเลยแหละ ไม่ว่าจะเทคโนโลยี FIBRA-KAP™ ที่มีเฉพาะใน Kerastase ที่มาพร้อมกับ SP 94 ซึ่งเป็นตัวเบิกทางที่ทำให้สารอาหารอย่างกรดอะมิโน 6 ชนิด สามารถเข้าไปบำรุงถึงแก่นผมชั้นในได้ดีมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำงานร่วมกับ KAP5 ช่วยให้เกร็ดผมแข็งแรง และนางเอง ก็สามารถใช้ได้ทั้งหมักก่อนสระผม หรือหลังสระแชมพูเสร็จได้ทั้งคู่อีกด้วย ก็ถ้าสาว ๆ คนไหนที่ชอบทำผม โดนความร้อน ทำสี ยืด ดัด ใช้สารเคมีบ่อย ๆ เราแนะนำว่าควรมีนะ ดีกว่าปล่อยผมแห้งเสียจนเกินต้าน ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า ยิ่งถ้ามีเส้นผมยาวมาก ๆ มันจะไม่คุ้มเสียเน้อ
จุดเด่น | ป้องกันเส้นใยของผม ดูแลผมแห้งเสียให้นุ่มลื่นไม่พันกัน ผมมีน้ำหนัก เพิ่มความแข็งแรง ป้องกันผมเสียในอนาคต |
สารบำรุงหลัก | เทคโนโลยี FIBRA-KAP™, SP 94, KAP5, กรดอะมิโน 6 ชนิด |
หลังใช้ครั้งแรก | เส้นผมจะนุ่มขึ้น คืนความชุ่มชื้นให้เส้นผมอย่างรวดเร็ว |
เหมาะสำหรับ | ผมเสียแห้งกรอบหนักมาก ใช้ความร้อน เคมีทำลายผมบ่อย |
สัญชาติ | ฝรั่งเศส |
4. ยี่ห้อ Kaff & Co. Aloe vera Nourishing Conditioner
ราคาโดยประมาณ 290 บาท ต่อ 155 ml
สาว ๆ คนไหนที่เหนื่อยใจกับปัญหาผมแห้งเสียไม่พอ ยังเจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหนังศีรษะแห้ง เกิดอาการแพ้ง่ายอีกต่างหาก เห็นทีคงต้องเลือกครีมนวดผมที่เซฟ ๆ มีความเป็นธรรมชาติสูง แต่ก็สามารถบำรุงเส้นผมให้กลับมาแข็งแรงได้ดี เราขอแนะนำ Kaff & Co. Aloe vera Nourishing Conditioner ครีมนวดผมสัญชาติไทยที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพเส้นผมและทุกสภาพหนังศีรษะ (ยิ่งหนังศีรษะแพ้ง่าย ยิ่งต้องโดน!) โดยนางจะเน้นช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม บำรุงเส้นผมที่แห้งเสีย และปกป้องผมจากมลภาวะภายนอกที่คุณต้องเจออยู่ทุก ๆ วันด้วยค่ะ
และนางก็พิเศษ แตกต่างจากครีมนวดผมยี่ห้ออื่น ๆ ตรงที่ นางมีความเป็นออร์แกนิคสูงมากกถึง 99 % นางไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อเส้นผม และหนังศีรษะทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างแน่นอน โดยส่วนผสมหลัก ๆ ก็ตามชื่อของนางเลยก็คือ Aloe vera หรือว่านหางจระเข้แท้ จึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเส้นผม พร้อมทั้งปลอมประโลมหนังศีรษะที่อักเสบอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีส่วนผสมของวิตามินบี 5 ที่จะมาช่วยเพิ่มเคราติน และฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสียอย่างหนัก ให้กลับมามีสุขภาพดีได้ ส่วนราคาก็ไม่ได้แพงมาก (ยิ่งถ้าเทียบกับ 3 ยี่ห้อด้านบน ยิ่งถูกกว่ามาก ๆ) ลองซื้อมาใช้ดูก่อนสิคะ อาจจะเป็นครีมนวดผมที่กำลังตามหาอยู่ก็ได้ค่าา
จุดเด่น | เป็นครีมนวดผมออร์แกนิค มีความเป็นธรรมชาติสูง เพิ่มความชุ่มชื้น บำรุงเส้นผมที่แห้งเสีย ปกป้องผมจากมลภาวะ และปลอบประโลมผิวหนังที่อักเสบ |
สารบำรุงหลัก | ว่านหางจระเข้แท้เข้มข้น, วิตามินบี 5 |
หลังใช้ครั้งแรก | เส้นผมมีความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น หนังศีรษะสบายขึ้น |
เหมาะสำหรับ | หนังศีรษะแพ้ง่าย เป็นแผลจากการทำเคมี |
สัญชาติ | ไทย |
5. ยี่ห้อ Enfant Organic Plus Moisture Conditioner
ราคาโดยประมาณ 159 บาท ต่อ 180 ml
เอาใจสาว ๆ ที่มีสภาพหนังศีรษะหรือเส้นผมแพ้ง่ายกันอีกซักหน่อย ซึ่งถ้าใครได้ลองครีมนวดผมตัวนี้ รับประกันล้านเปอร์เซ็นต์ไม่มีทางแพ้หรือเกิดอาการระคายเคืองอย่างแน่นอน เพราะชีเป็นครีมนวดผมสำหรับเด็กจ้าาาา นั้นก็คือ Enfant Organic Plus Moisture Conditioner โดยชีมีความอ่อนโยนระดับ 10 กระโหลก สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กน้อยเบบี๋อายุ 6 เดือนขึ้นไป ลองคิดดูขนาดทารกตัวเล็กผิวบอบบางที่สุดในโลกยังสามารถใช้ได้ คนโต ๆ อย่างเราถึงจะผิวแพ้ง่ายยังไงก็ใช้ได้อย่างแน่นอนค่ะ
และด้วยความที่เป็นครีมนวดผมสำหรับเด็ก ส่วนผสมต่าง ๆ ก็ต้องมีความออร์แกนิค เน้นความธรรมชาติสูง โดยคุณคนนี้จะมอบการบำรุงแบบ Triple Action Softness Conditioner ที่จะมาช่วยปรับเส้นผมนุ่มลื่นด้วยสารบำรุงจากพืชธรรมชาติอย่าง Sweet Almond Oil, Organic Shea Butter และ Cation Derived from Brassicacae Oil มารวมพลังกันช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมและหนังศีรษะ เพิ่มความนุ่มสลวย หมดปัญหาผมพันกัน ปรับสภาพเส้นผมไม่ให้ชี้ฟู และยังอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองอีกด้วย อีกทั้งยังเหมาะสำหรับคุณแม่กับลูก ๆ ที่จะได้ใช้เวลาบำรุงเส้นผมไปพร้อม ๆ กัน ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ที่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้วยค่า
จุดเด่น | อ่อนโยนมากเป็นพิเศษ เติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมและหนังศีรษะ ปรับผมให้ไม่ชี้ฟู ไม่ระคายเคือง |
สารบำรุงหลัก | Sweet Almond Oil, Organic Shea Butter และ Cation Derived from Brassicacae Oil |
หลังใช้ครั้งแรก | เส้นผมและหนังศีรษะชุ่มชื้นขึ้น |
เหมาะสำหรับ | เด็ก หรือผู้ที่มีหนังศีรษะแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย |
สัญชาติ | ฝรั่งเศส |
6. ยี่ห้อ ซึบากิ พรีเมี่ยม มอยส์ คอนดิชันเนอร์
ราคาโดยประมาณ 289 บาท ต่อ 490 ml
ทั่วโลกทราบกันดีว่าสาว ๆ ชาวญี่ปุ่นเค้าดูแลเส้นผมกันหนักมากกกก ทำให้ชาวยุ่นเขามีครีมนวดผมผลิตภัณฑ์ดี ๆ ยี่ห้อดัง ๆ ให้เลือกใช้กันเยอะเอาเรื่องเลยทีเดียว ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่เราจะแนะนำตัวกันในวันนี้ ก็ถือเป็นอีกแบรนด์ดังที่ฮอทฮิตที่นั้น และได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาให้คนไทย ได้ลองใช้กันด้วยอย่าง ซึบากิ พรีเมี่ยม มอยส์ คอนดิชันเนอร์ ขวดแดงนี้เลยค่ะ ตัวนี้ฮิตจริงอะไรจริงโดยเฉพาะตาม Beauty Blogger ทั้งในและต่างประเทศ ต้องเคยเจอเคยเห็นติดอันดับเป็นครีมนวดผมไอเท็มโปรดกันบ้างแหละ
สำหรับเจ้าซึบากิ พรีเมี่ยม เค้ามีคอนเซ็ปประจำแบรนด์ว่า “Salon to Home” เหมือนยกซาลอนชั้นนำมาไว้ที่บ้านไปเลยจ้าา ก็ภายในครีมนวดผมจะมีการรวบรวมทั้ง เทคนิคที่ใช้ในการบำรุงผมอย่างล้ำลึกเหมือนผู้เชี่ยวชาญมาเอง ปรับเส้นผมให้ให้สุขภาพดีขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ใกล้เคียงกับการเข้าร้านทำผมเลยล่ะ และสูตรนี้จะเน้นไปที่ส่วนผสมจากมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผมอย่างจริงจัง ปรับให้เส้นผมพังเสียกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และที่ชอบสุด เลิฟชีสุด เทใจให้เลยก็คือ กลิ่นหอม ๆ น่ารัก ๆ จากส่วนผสมของ Fruity Floral เนี่ยละ ปลื้มเวอร์ นวดผมไป ได้กลิ่นหอม ๆ ไป ผ่อนคลายแบบสุด ๆ เหมือนกำลังทำสปาเส้นผมเลยน้าา ถ้ามีโอกาส อยากให้ลองเจ้าซึบากิขวดแดงกันค่ะ
จุดเด่น | ปรับเส้นผมให้สุขภาพดีขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น ปรับให้เส้นผมพังเสียให้กลับมามีชีวิตชีวา |
สารบำรุงหลัก | ส่วนผสมจากมอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น |
หลังใช้ครั้งแรก | เส้นผมสุขภาพดีขึ้นเห็นได้ชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพเส้นผม โดยเฉพาะผมเสียมากเป็นพิเศษ |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
7. ยี่ห้อ OGX Renewing + Argan Oil Conditioner
ราคาโดยประมาณ 319 บาท ต่อ 315 ml
ผมเสียไม่ไหวแล้ววว ฉันอยากได้ความนุ่มลื่น ผมสปริงตัวสวย มีน้ำหนักกลับมาอีกครั้ง ตอนนี้ไม่เกินฝันแล้วจ้าาา ขอแนะนำเลย หาตำด่วน ๆ สำหรับคุณ OGX Renewing + Argan Oil Conditioner ครีมนวดผมที่โดดเด่นมาก ๆ ในเรื่องของการใช้ส่วนผสม เพราะชีมีตัวเด็ดอย่าง “น้ำมันอาร์แกนบริสุทธิ์” จากประเทศโมรอกโคเลยยนะ ซึ่งอาร์แกนออยล์เนี่ย ก็เป็นออยล์ชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยวิตามินสูงมากกกกกก พอถูกสกัดสารบำรุงให้มาอยู่ในผลิตภัณฑ์ครีมนวดผม เลยทำให้สามารถช่วยฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี ไม่ยากเกินความสามารถของชีเลยละค่ะ
และความพิเศษยังไม่หมดแค่น้ำมันอาร์แกนเด้อออ นางยังมีวิธีสกัดน้ำมันอาร์แกนความลับเฉพาะของ OGX เท่านั้น ทำให้ถึงแม้ยี่ห้ออื่น ๆ จะใช้น้ำมันอาร์แกนเหมือนกัน แต่ของ OGX ก็จะมีคุณภาพที่ดีมากกว่า และได้ประโยชน์แบบครบมากที่สุดอีกด้วย ซึ่งจากที่ได้ลองใช้มาเนี่ย การฟื้นฟูเส้นผมให้แข็งแรง ขอให้คะแนนเต็มสิบ สิบ สิบ ช่วยปรับผมให้เงางามมีน้ำหนัก เพิ่มความนุ่มลื่น เปล่งประกายตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยล่ะค่ะ แถมคุณคนนี้ยังปราศจากซัลเฟต จึงเป็นมิตรกับสุขภาพเส้นผม และไม่มีการทดสอบกับสัตว์ด้วยนะคะ ก็สมกับเป็นแบรนด์ดี ยี่ห้อดังจากสหรัฐอเมริกา วางใจในคุณภาพได้เลยค่าาา
จุดเด่น | ผมสปริงตัวสวยมีน้ำหนัก นุ่มลื่นไม่พันกัน แก้ปัญหาผมแห้งเสียให้กลับมาชุ่มชื้นปราศจากซัลเฟต |
สารบำรุงหลัก | น้ำมันอาร์แกน |
หลังใช้ครั้งแรก | เส้นผมเงาสวย นุ่มลื่น เปล่งประกายตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ |
เหมาะสำหรับ | เส้นผมอ่อนแอ แห้งเสีย แพ้ง่าย |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
8. ยี่ห้อ เขาค้อทะเลภู คอนดิชันเนอร์พรีเมี่ยม ดีท็อกซ์ผมและหนังศีรษะ
ราคาโดยประมาณ 99 / 169 บาท ต่อ 185 / 300 ml
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เติมไปด้วยสารเคมีมานาน อยากพักหัวบ้างอะไรบ้าง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังอยากฟื้นบำรุงเส้นผมไปด้วยในตัว ก็ขอบอกเลยว่า สมุนไพรไทยของเราเนี่ยละเริ่ดจริง ไรจริง! แต่ไม่ได้ให้ไปตามเก็บเอง มานั่งตำ นั่งผสม นั่งนวดทำครีมนวดผมด้วยตัวเองนะ เสียเวลาตายกันพอดี ไปซื้อคุณคนนี้เลยดีกว่าค่ะ กับเขาค้อทะเลภู ก็น่าจะเป็นยี่ห้อที่หลาย ๆ คนน่าคุ้นเคยกันมากันบ้างแล้ว โดยทางแบรนด์เขาก็มีครีมนวดผมขายกันอยู่หลายสูตร แต่ถ้าอยากจะให้เราแนะนำละก็ ต้องสูตรดีท็อกซ์เส้นผมและหนังศีรษะด้วย Moringa and Olive เลยจ้าา
โดยคุณคนนี้ จะผสมผสานด้วย 2 พลังธรรมชาติอย่าง “มะรุม” ที่มีสาร Behenic Acid ช่วยปิดเกล็ดผม คงความชุ่มชื้นให้เส้นผมตั้งแต่ครั้งแรก พร้อมกันนั้น ก็จะดีท็อกซ์หนังศีรษะด้วย “มะกอก” ซึ่งจะมีสาร Oleanoline ช่วย ปกป้องหนังศีรษะและเส้นผมจากการทำลายของแสงแดดและมลภาวะ ทำให้เส้นผมที่เคยแห้งเสียกลับมาดูมีสุขภาพดีได้อีกครั้ง และที่สำคัญชีบอกเลยว่า ปราศจากสารเคมีอันตรายถึง 9 ชนิด และโน Silicone ด้วยนะจ๊ะ ใครที่มีปัญหาหนังศีรษะแพ้ง่าย ผมร่วงบ่อยใช้ได้เลยยย อีกทั้งราคาก็ย่อมเยามาก ๆ ซื้อมาลองใช้ได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องกลัวจ่ายแพงเลยค่า
จุดเด่น | เป็นส่วนผสมจากสมุนไพรไทย ช่วยในเรื่องฟื้นบำรุงผม ดีท็อกซ์ของเสีย ป้องกันเส้นผมจากมลภาวะและแสงแดด |
สารบำรุงหลัก | สารสกัดจากมะรุม, มะกอก ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผม |
หลังใช้ครั้งแรก | เบาสบายเส้นผม และหนังศีรษะมาก |
เหมาะสำหรับ | คนที่ผ่านการทำเคมีกับเส้นผมมาอย่างหนัก มีงบค่อนข้างจำกัด |
สัญชาติ | ไทย |
9. ยี่ห้อ PLEARN ครีมนวดผมน้ำมันมะพร้าวเพิ่มสารสกัดอัญชัน & บอระเพ็ด
ราคาโดยประมาณ 159 บาท ต่อ 190
ใครผมบาง หัวใกล้ล้านเธอห้ามชะล่าใจเด็ดขาดนะ! หาตัวช่วยด่วนนนเดี๋ยวนี้! แต่ถ้ายังไม่รู้จะซื้อครีมนวดผมยี่ห้อไหนดีละก็ เราขอแนะนำครีมนวดผมม้ามืดจาก PLEARN สูตรน้ำมันมะพร้าวเพิ่มสารสกัดอัญชัน & บอระเพ็ด หลอดนี้กันเลยค่ะ เอาไปใช้กันแบบจุก ๆ ชะโลม ๆ หัวกันไปเลยแม่ เพราะราคาถูกมากก และเรื่องสรรพคุณ ก็ดีงามล้านแปดด้วยส่วนผสมตัวเด่นอย่าง น้ำมันมะพร้าว ที่มันดีย์ มันงามม ผมเงาสวย นุ่ม ชุ่มชื้นได้อย่างแน่นอน แต่ความเริ่ดมันอยู่ที่ชีเพิ่มสารสกัดจากอัญชัน + บอระเพ็ดมาด้วยเนี่ยสิ ทำให้บำรุงได้ดีกว่าเดิมไปอีก
โดยส่วนผสมของไทยทั้งสามอย่าง น้ำมันมะพร้าว, ดอกอัญชัน และบอระเพ็ด จะมารวมพลังช่วยกันบำรุงเส้นผมได้อย่างล้ำลึก ช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะปัญหาผมแห้งเสีย เส้นผมขาดหลุดร่วง หรือปัญหาหัวเกือบล้าน ชีก็จะไปกระตุ้นให้เส้นผมงอกขึ้นมาใหม่ และยังทำให้สีของเส้นผมดกดำมากยิ่งขึ้น จึงช่วยชะลอเรื่องการเกิดผมหงอกได้ดีด้วยเด้อออ อีกทั้งด้วยราคาที่ถูกแสนถูก สาว ๆ คนไหนที่ไม่เคยใช้ครีมบำรุงผมมาก่อนเลยยยยย ซื้อมาใช้เถอะ สัปดาห์ละครั้งก็ยังดี อย่างน้อยจะได้ช่วยดูแลและป้องกันเส้นผมสวย ๆ ของเรา ๆ ไม่ให้เกิดปัญหากับเส้นผมได้ง่าย ๆ ค่า (สงสารเส้นผมกันเถอะนะ ใช้เถอะ ขอร้องละ)
จุดเด่น | บำรุงเส้นผม แก้ปัญหาผมเสีย ลดผมขาดหลุดร่วง กระตุ้นผมให้ขึ้นไว ดกดำ ชะลอการเกิดผมหงอก |
สารบำรุงหลัก | น้ำมันมะพร้าว, อัญชัน, บอระเพ็ด |
หลังใช้ครั้งแรก | เส้นผมนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้น |
เหมาะสำหรับ | ผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะ ผมหลุดร่วง มีงบค่อนข้างจำกัด |
สัญชาติ | ไทย |
10. ยี่ห้อ Kerasys lovely & Romantic perfume Shampoo and conditioner
ราคาโดยประมาณ 280 บาท ต่อ 600 ml
เรื่องบำรุงเส้นผม ฟื้นฟูเส้นผมบลา ๆๆๆ ต่าง ๆ จะหันไปหาทางไหน จะซื้อตอนไหนมันก็ได้ไง แต่ถ้าจะให้หาทั้งแชมพูสระผม + ครีมนวดผม กลิ่นหอมแบบห๊อมมมหอมมม หอมถูกใจเหมือนผมติดกลิ่นน้ำหอมสไตล์ Flora แพง ๆ แบบยกดอกไม้มาทั้งสวน มันก็หามาไม่ได้ง่าย ๆ ป่ะะะ ใครสายของหอมลองเถอะไม่ผิดหวัง สำหรับคุณ Kerasys lovely & Romantic perfume Shampoo and Conditioner งานนี้ขอขายเป็นแพ็คคู่ ซื้อเถอะ เพื่อความหอมละมุนติดทนยาวนานไป 3 วัน 8 วัน เหมือนสาว ๆ เกาหลีกันเลยทีเดียวค่า
และสำหรับครีมนวดผมตัวนี้ จะเน้นเพิ่มความชุ่มชื้นจากวิตามินให้กับเส้นผม บำรุงได้ดี ไม่ทำให้ผมพันกันอยู่แล้ว ไม่อยากพูดเยอะ แต่อยากภูมิใจนำเสนอเรื่อง Note ต่าง ๆ ของชีมากกว่า ชีไม่ธรรมดาเด้ออออ ความซับซ้อนของกลิ่นคือ จัดเต็มเหมือนน้ำหอมแพง ๆ ไม่มีผิด โดยท็อปโน้ตจะเป็น Orange Blossom, White Peach, Freesia Bouquet มิดเดิลโน้ตจะเป็น Jasmine, Magnolia, Daisy, Muguet และสุดท้ายเบสโน้ตจะมี Cedarwood, Soft Amber และ White Musk ก็คือส่วนผสมแต่ละโน้ตแต่ละตัวก็คือน้ำหอมแพง ๆ ขวดหลายพันดี ๆ นั้นเองละ เริ่ดเด้ออออ ก็ถ้าอยากมีเส้นผมสะอาด ๆ หอม ๆ ละก็ ต้องจัดนางแพ็คคู่ไปเลยค่า
จุดเด่น | ผมนุ่มชุ่มชื้น เงาสวยไม่พันกัน กลิ่นหอมมาก ติดทนนานมาก |
สารบำรุงหลัก | มอยเจอร์ไรเซอร์, วิตามิน |
หลังใช้ครั้งแรก | กลิ่นหอมแตกต่างจากครีมนวดผมอื่น ๆ |
เหมาะสำหรับ | ทุกสภาพผม (แต่ใครที่แพ้ง่ายไม่แนะนำ) |
สัญชาติ | เกาหลีใต้ |
Ok กันไหมจ๊ะสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่หลงเข้ามา ได้เห็นรีวิว “ครีมนวดผม” ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน สนใจอยากจะซื้อครีมตัวไหน ยี่ห้อไหน ไปใช้บำรุงเส้นผมที่บ้านกันบ้างง?? ก็จากที่ได้เห็น ๆ มาเนี่ย ก็มีหลายเกรดหลายราคากันเลยนะคะ ตั้งแต่พวกยี่ห้อหลักร้อยต้น ๆ ไปจนถึงหลักพันเลยทีเดียว ก็อยากแนะนำให้ลองเริ่มจากพวกยี่ห้อราคาย่อมเยาก่อนเนาะ เผื่อจะเป็นยี่ห้อที่ถูกใจ ใช้แล้วตอบโจทย์ ดีต่อสภาพทั้งเส้นผมและเงินในกระเป๋า ก็ไม่จำเป็นต้องไปซื้อยี่ห้อแพง ๆ ให้เปลืองเงินกันเลยล่ะค่าา
Beauty Blogger ที่จะมารีวิวเครื่องสำอางแบบติดตลก ด้วยความชื่นชอบในการเขียนและแต่งหน้า ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันสินค้าตัวที่คิดว่าใช้แล้วดี แต่งแล้วสวย ไม่ทำลายผิว บางอันก็เลือกจากยอดขาย แบรนด์ไหนจัดโปรลดสุดปังก็จะได้รับเลือกอยู่บ่อย ๆ บางอันก็เลือกจากคุณภาพที่ได้ลองใช้แล้วดี มีคนเค้าบอกต่อ การันตีกันขนาดนี้ก็ต้องเอามาเล่าผ่านรีวิวกันหน่อยให้ผู้อ่านได้ไปลองใช้ดูบ้าง