คนที่ต้องซักผ้าเป็นประจำ จะให้ซักผ้าเองก็ดูจะเป็นการเสียเวลา บิดก็ไม่ค่อยแห้ง แล้วยังทำให้มืออันบอบบางของเราแห้งกร้าน เพราะน้ำยาหรือผงซักฟอกกัด การซื้อเครื่องซักผ้าฝาบน นอกจากจะใช้งานได้ง่าย สะดวกสบาย ประหยัดเวลาแล้ว ตัวถังก็ยังมีขนาดใหญ่ ทำให้ใส่ผ้าได้เยอะอีกด้วย เมื่อพูดถึงราคาก็ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับเครื่องซักผ้าแบบอื่น ๆ และตัวเครื่องก็ยังทนทาน แล้วเราจะซื้อ เครื่องซักผ้าฝาบน ยี่ห้อไหนดี ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับรุ่นที่น่าสนใจ พร้อมกับวิธีการเลือกซื้อแบบง่าย ๆ ด้วยครับ
สารบัญ
วิธีการเลือกซื้อ เครื่องซักผ้าฝาบน
เลือกความจุถัง ให้เหมาะสมกับการใช้งาน สำหรับใครที่ต้องการซักผ้านวมแนะให้เลือกรุ่นที่มีขนาด 10 กก. ขึ้นไปจะดีกว่า แต่ถ้าไม่ได้ใช้ผ้านวม อยู่กันแค่ 1-2 คน ขนาด 7-8 กก. ก็เพียงพอต่อการซักแล้ว ส่วนครอบครัวขนาดใหญ่ อยากจะจัด 15-16 กก. ก็แล้วแต่ตามสะดวกเลยครับ
มอเตอร์ Inverter นอกจากจะช่วยให้เครื่องประหยัดไฟแล้ว ยังช่วยลดเสียงเวลาทำงานได้อีกด้วย เวลาซื้อก็อย่าลืมสังเกตมอเตอร์กันนะครับ
มีฟังก์ชั่นเสริม เดี๋ยวนี้เครื่องซักผ้าฝาบนพัฒนามาไกล มีฟังก์ชั่นเสริมอย่างเช่น ระบบลดการพันกันของผ้า ระบบทำความสะอาดถังอัตโนมัติ ระบบทำน้ำร้อนสำหรับการซักที่ต้องการความสะอาดมากขึ้น (ต้องระวังผ้าบางชนิดที่โดนน้ำร้อนแล้วอาจจะมีปัญหาได้) เชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นเพื่อดูความผิดปกติได้ ก่อนซื้อก็อย่าลืมดูฟังก์ชั่นเสริมเหล่านี้กันด้วยนะครับ
ตารางเปรียบเทียบรีวิว “เครื่องซักผ้าฝาบน” ยี่ห้อไหนดี
สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาอ่าน อยากดูรีวิวเครื่องซักผ้าฝาบนแบบสั้น ๆ วางเรียงเปรียบเทียบ ราคา, ความจุถังซัก, จุดเด่น และอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้กดเข้าไปที่ปุ่มสีแดงด้านล่างได้เลย หรือถ้าอยากอ่านแบบเต็ม ๆ ก็เลื่อนผ่านปุ่มสีแดง ไปดูรีวิวสินค้าต่อเลยครับ
1. TOSHIBA รุ่น AW-DG1700WT
ราคาโดยประมาณ 15,111 บาท
เป็นเครื่องซักผ้าฝาบนที่มีความพรีเมียมหรูหราไม่เบา สำหรับ TOSHIBA รุ่น AW-DG1700WT มากับดีไซน์เรียบหรู สีดำเข้มขรึมแต่แฝงความอ่อนโยนด้วยความโค้งมนของตัวถัง พร้อมฝาปิดแบบกระจกใสมองเห็นภายในได้สะดวก ผลิตจากกระจกนิรภัยจึงแข็งแรงทนทาน ควบคุมการปิดด้วยระบบ Damper ป้องกันแรงกระแทกเวลาปิด เมื่อเปิดฝาก็จะมีไฟ LED ภายใน เป็นการบอกสถานะกำลังทำงาน รวมทั้งช่วยส่องสว่างให้เห็นด้านในได้ชัดเจน ความจุ 16 กิโลกรัม ใช้งานง่ายด้วย One Touch Button แค่กดปุ่มเลือกโปรแกรมซักผ้าที่มีหลากหลายให้เลือกตามการใช้งาน ก็สะดวกสบายมาก ๆ ครับ
เรื่องของเทคโนโลยีก็จัดมาให้แน่นสมราคา ไม่ว่าจะเป็นการทำงานระบบอินเวอร์เตอร์แบบต่อตรงกับถังซัก ประหยัดไฟ ทนทาน ทำงานเงียบ มีเทคโนโลยี UFB หรือ Ultra Fine Bubble ที่ปล่อยอณูฟองระดับนาโนแทรกซึมเข้าไปในใยผ้า เพื่อดักจับสิ่งสกปรกออกจากเส้นใยผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังลดการพันกันของผ้าด้วย Duo-Active Roller ปั่นผ้าโดยไม่ทำลายเนื้อผ้า นอกจากนี้ยังมี Rat Guard ฝาปิดตัวถังใต้เครื่องที่ช่วยป้องกันหนูเข้าไปกัดทำลายสายไฟ และมีระบบทำความสะอาดถังอัตโนมัติด้วยปุ่ม Tub Clean บอกเลยว่าถ้าจะให้ลิสต์คุณสมบัติทั้งหมดน่าจะยาวเป็นหางว่าว เอาเป็นว่าใครมีกำลังซื้ออยากได้คุณภาพแน่น ๆ จัดตัวนี้ไปฟังก์ชันครบแน่นอนครับ
กำลังไฟ | 390 W |
ความจุ | 16 kg |
ขนาด | 68.5 x 71 x 106.1 CM |
ระบบการทำงาน | S-DD Inverter |
ทำความสะอาดถัง | ✓ |
จุดเด่น | เมื่อเปิดฝาไฟจะส่องสว่าง, ฟองช่วยดักจับสิ่งสกปรก, ลดการพันกันของผ้า |
2. Panasonic รุ่น NA-FD16X1HRC
ราคาโดยประมาณ 14,190 บาท
หากคุณกำลังมองหาเครื่องซักผ้าฝาบนความจุค่อนข้างใหญ่ หน้าตาดูดีมีความมินิมอล ราคาสูงรับได้หากฟังก์ชันจัดเต็ม ลองดู Panasonic รุ่น NA-FD16X1HRC ตัวนี้ดีไซน์สวยสไตล์เรียบ ๆ สีทูโทนเทา-ดำ เน้นคุณสมบัติเด่นขจัดคราบสกปรกฝังแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบ Water Bazooka จาก TD Inverter สร้างกระแสน้ำทรงพลังที่จะซึมลึกเข้าสู่เนื้อผ้า ช่วยขจัดคราบและผงซักฟอกตกค้างได้อย่างสะอาดหมดจด และระบบ TD Inverter มีพลังในการซักมากขึ้นถึง 6 เท่า แต่กลับประหยัดพลังงานได้สูงสุด 40 เปอร์เซ็นต์ แถมยังมีคุณสมบัติถนอมผ้า เพราะหมุนด้วยความเร็วต่ำจึงทำให้ผ้าพันกันน้อยลง และมีฟังก์ชันทำความสะอาดถังซักอัตโนมัติด้วยครับ
ในเรื่องของการขจัดคราบยังมีโปรแกรมพิเศษอย่าง Stain Master สลายคราบด้วยการซักแบบขัดถู มีจานซัก Active Wave สร้างกระแสน้ำแนวตั้ง ทำให้ผ้าเกิดการเคลื่อนไหวซ้ำไปซ้ำมาในลักษณะขัดถูกัน จึงช่วยขจัดคราบฝังแน่นได้เหมือนการซักมือ และยังมีระบบ Active Foam สร้างโฟมเนื้อละเอียดเข้าสู่เส้นใยเพื่อขจัดคราบได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังออกแบบให้ใช้งานง่ายเป็นมิตรกับผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นฝาเปิดที่กว้างใส่ผ้าได้ง่าย ความสูงด้านหน้าเครื่องที่ต่ำลง ทำให้หยิบผ้าจากก้นถังได้สะดวก แผงควบคุมอยู่ด้านบนหลังแนวฝา ทำให้มองง่ายชัดเจนไม่ต้องก้มหน้ามอง บอกเลยว่าคุณสมบัติเพียบพร้อม จ่ายแพงหน่อยแต่คุณภาพมั่นใจได้ก็นับว่าคุ้มค่าครับ
กำลังไฟ | N/A |
ความจุ | 16 kg |
ขนาด | 64 x 70.5 x 110 CM |
ระบบการทำงาน | TD Inverter |
ทำความสะอาดถัง | ✓ |
จุดเด่น | สลายคราบด้วยการซักแบบขัดถู, โฟมละเอียดขจัดคราบ |
3. HAIER รุ่น HWM-T140 OXI
ราคาโดยประมาณ 5,950 บาท
ใครที่ชอบและสนใจเครื่องซักผ้าฝาบนแบบ 2 ถัง แนะนำ HAIER รุ่น HWM-T140 OXI ดีไซน์ตัวเครื่องแบบเรียบง่าย สีด้านบนเป็นเทาอ่อนตัดกับด้านล่างสีเทาเข้ม ความจุถังซัก 14 กิโลกรัม และถังปั่นที่ 7.5 กิโลกรัม รองรับการซักผ้าปริมาณมากได้พอสมควร ถังซักผลิตจากวัสดุคุณภาพดีแข็งแรงไม่เป็นสนิม ตัวขอบถังออกแบบให้ป้องกันฝาเปียกจากน้ำที่กระเด็น จึงช่วยลดความอับชื้นภายในถัง มีโปรแกรมแช่ผ้า Soak Master สำหรับผ้าที่สกปรกมาก สามารถแช่ก่อนซักได้ถึง 45 นาที ช่วยให้ขจัดคราบได้ดียิ่งขึ้นครับ
จานซักมีขนาดกว้าง และมีใบพัดที่ใหญ่ช่วยเพิ่มแรงหมุนของน้ำ มีฟังก์ชัน Shower Rinse ระบบม่านน้ำตกภายในถังปั่นแห้ง ช่วยให้ทำความสะอาดชะล้างสิ่งสกปรกได้ดีไม่ตกค้าง มี Magic Filter ที่ยึดถุงกรองติดกับตัวกรอง ทำให้ไม่ขาดง่าย และช่วยป้องกันสิ่งสกปรกไหลย้อนกลับลงไปในถังซัก รวมทั้งยังช่วยกรองได้มากกว่าฟิลเตอร์แบบธรรมดา นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัย ถังปั่นจะหยุดการทำงานทันทีเมื่อมีการเปิดฝาถัง รีวิวจากผู้ใช้ก็ค่อนข้างโอเค ตัวถังซักใหญ่ถูกใจ แต่เสียงอาจจะดังไปนิด รวมถึงถังปั่นที่เล็กทำให้ปั่นผ้านวมผืนใหญ่มากไม่ได้ โดยรวมก็ยังถือว่าดี ด้วยราคากับความจุเท่านี้และการใช้งานที่ได้มาตรฐาน ทำให้ส่วนใหญ่พึงพอใจครับ
กำลังไฟ | ซัก 550 W / ปั่นแห้ง 210 W |
ความจุ | ซัก 14 kg / ปั่นแห้ง 7.5 kg |
ขนาด | 95.5 x 55 x 105 CM |
ระบบการทำงาน | Normal Motor |
ทำความสะอาดถัง | ✓ |
จุดเด่น | โปรแกรมแช่ผ้าก่อนซัก 45 นาที, ถังปั่นแห้งมีระบบม่านน้ำตก ชะล้างสิ่งสกปรกได้ดี |
4. SAMSUNG รุ่น WA15R6380BV/ST
ราคาโดยประมาณ 10,290 บาท
มาดูซัมซุงแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังกันบ้าง สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบนตัวนี้ยอดขายออนไลน์สูงทีเดียว รุ่น WA15R6380BV/ST ราคาไม่แพงแต่ก็ไม่ได้ถูกมาก ขายดีแบบนี้ต้องมีอะไรน่าสนใจแน่นอน ดูที่ดีไซน์กันก่อนเลย รุ่นนี้เขามาแบบเข้ม ๆ สีดำสนิทเรียบหรูดูดีมาก ๆ ถังใหญ่จุ 15 กิโลกรัม น่าจะถูกใจพ่อบ้านแม่บ้านที่ต้องซักผ้านวมเป็นประจำ ทำงานด้วยระบบ Digital Inverter ช่วยประหยัดพลังงานถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และเสียงดังน้อยลง มีเทคโนโลยี Wobble สร้างกระแสน้ำทรงพลังจากหลายทิศทาง ช่วยถนอมผ้าไม่ให้พันกันจนเป็นปม และยังทำให้ผ้าสะอาดขึ้นด้วยครับ
และไม่ต้องกังวลเรื่องเศษผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้า เพราะมี Magic Dispenser ช่วยละลายสารต่าง ๆ อย่างหมดจด ลดปัญหาคราบตกค้างบนเสื้อผ้า และยังทำความสะอาดได้ล้ำลึกด้วยระบบ Intensive Wash ช่วยขจัดคราบฝังแน่นต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมี Deep Softener ช่วยเพิ่มความหอมของน้ำยาปรับผ้านุ่มให้ผ้าหอมยิ่งกว่าเดิม มี Magic Filter ช่วยกรองเศษสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เครื่องอุดตันด้วย ที่สำคัญคือสามารถตรวจเช็คความผิดปกติต่าง ๆ แบบอัตโนมัติ และบอกวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น โดยการใช้งานแอป Samsung Smart Washer บนสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย คุณสมบัติครบขนาดนี้ ไม่น่าแปลกใจที่หลายคนเลือกใช้ รีวิวก็ออกมาดีมาก ๆ ครับ
กำลังไฟ | N/A |
ความจุ | 15 kg |
ขนาด | 63.7 x 70.1 x 109.5 CM |
ระบบการทำงาน | Digital Inverter |
ทำความสะอาดถัง | ✓ |
จุดเด่น | ผ้าไม่พันกัน, ละลายผง/น้ำยาซักผ้าได้ดี, ขจัดคราบฝังแน่นได้ดี, เพิ่มความหอมน้ำยาปรับผ้านุ่ม, เชื่อมต่อแอปได้ |
5. CANDY รุ่น HWM70-1269TC
ราคาโดยประมาณ 4,690 บาท
ชื่อแบรนด์หวาน ๆ น่ารัก อาจไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไรนักกับยี่ห้อ CANDY แต่เป็นแบรนด์ชั้นนำในยุโรปและพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้ามานานกว่า 75 ปีแล้ว ปัจจุบันยังเป็นแบรนด์ในเครือเดียวกับไฮเออร์อีกด้วย สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบนรุ่น HWM70-1269TC ดีไซน์ก็มีความหวานด้วยตัวเครื่องสีขาวสะอาด ตัดกับแผงควบคุมสีพาสเทล ความจุถังซักอยู่ที่ 7 กิโลกรัม ขนาดย่อม ๆ เหมาะกับงานซักที่ไม่หนักมาก ตัวถังเป็น Stainless Steel ป้องกันสนิมและแบคทีเรียตกค้าง ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ฟังก์ชันไม่เยอะ เหมาะกับคนที่ชอบซักง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้วุ่นวายครับ
แต่ถึงจะไม่ยุ่งยาก ก็มีระบบที่จำเป็นอย่าง Quick Wash โปรแกรมซักด่วนที่ช่วยประหยัดเวลาและประหยัดพลังงาน เหมาะกับช่วงที่เร่งรีบหน่อย และมี Soak Function โปรแกรมแช่ผ้าก่อนซัก เพื่อช่วยขจัดคราบฝังแน่นในเนื้อผ้าได้ดียิ่งขึ้น นอกจากซัก ปั่นแห้ง ก็ยังมีโปรแกรม Tub Dry ทำให้ถังซัก แห้งด้วย เรียกว่าคุณสมบัติไม่มาก แต่ก็เพียงพอสำหรับการซักผ้า ราคาก็ย่อมเยา ขนาดกำลังดีเหมาะกับคนอยู่หอพักหรือคอนโดมิเนียม รีวิวจากผู้ใช้ค่อนข้างดี ใช้งานได้ปกติไม่มีปัญหาอะไรมาก ใครซักผ้าไม่มากนัก ตัวนี้น่าสนใจครับ
กำลังไฟ | N/A |
ความจุ | 7 kg |
ขนาด | 50 x 52 x 90.2 CM |
ระบบการทำงาน | N/A |
ทำความสะอาดถัง | ✘ |
จุดเด่น | แช่ผ้าก่อนซัก, โปรแกรมซักด่วน, โปรแกรมทำให้ถังแห้ง |
6. LG รุ่น T2516VS2M
ราคาโดยประมาณ 10,450 บาท
เห็นหน้าตาเครื่องแล้วหลายคนอาจรู้สึกคุ้น ๆ เอ๊ะเหมือนเคยเห็นบ่อย ๆ สำหรับ LG รุ่น T2516VS2M ตัวนี้ต้องบอกว่าเป็นรุ่นสุดฮิตสำหรับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่หลายคนน่าจะเคยได้ใช้กันมาแล้ว ด้วยความทนทานแข็งแรง ความจุ 16 กิโลกรัม ใหญ่พอสำหรับซักผ้านวมผืนโต ๆ ได้สบาย ใช้ระบบ Smart Inverter ช่วยประหยัดพลังงาน ถังซัก Smart Motion หมุนได้ 3 แบบ สำหรับการซักแบบทรงพลัง, ซักแบบถนอมผ้าลดผ้าพันกัน และสำหรับการซักผ้าที่บอบบาง มีระบบ Turbo Drum ช่วยขจัดคราบฝังลึกด้วยกระแสน้ำวน ซึ่งเกิดจากการหมุนสวนทางของจานซักและตัวถัง จานหมุนแบบ Punch+3 คือมีจานซักใหญ่ตรงกลาง และจานซักเล็กล้อมรอบอีก 3 ตัว ช่วยสร้างคลื่นแนวตั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการซักให้ดียิ่งขึ้นครับ
ยังไม่หมดสำหรับคุณสมบัติต่าง ๆ เพราะยังมีจุดปล่อยน้ำแบบ Side Waterfall ระบบน้ำตก ที่ช่วยให้ผงซักฟอกซึมเข้าสู่เนื้อผ้าได้ทั่วถึง และช่วยขจัดผงซักฟอกตกค้างในผ้าได้ดีด้วย มีระบบ LoDecibel มอเตอร์ทำงานเงียบและลดแรงสั่นสะเทือน ซึ่งมีเสียงรบกวนเพียง 45 เดซิเบลเท่านั้น นอกจากนี้หากใช้ ๆ ไปแล้วเกิดปัญหา ยังสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน LG Smart ThinQ ด้วยโหมด Smart Diagnosis เชื่อมต่อกับเครื่องซักผ้าเพื่อตรวจเช็คปัญหาที่เกิดขึ้น และให้คำแนะนำการแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ เทียบราคากับขนาดเครื่องและคุณสมบัติแล้วเรียกว่าคุ้มค่ามาก ๆ ไม่แปลกใจเลยที่นิยมใช้กันครับ
กำลังไฟ | 200 W |
ความจุ | 16 kg |
ขนาด | 63 x 67 x 102 CM |
ระบบการทำงาน | Smart Inverter |
ทำความสะอาดถัง | ✓ |
จุดเด่น | ขจัดคราบลึก, ลดผ้าพันกัน, ละลายผงซักฟอกได้ดี, มอเตอร์ทำงานเงียบ, เชื่อมต่อแอปได้ |
7. HITACHI รุ่น SF-170ZCV
ราคาโดยประมาณ 16,490 บาท
สำหรับบ้านไหนที่ต้องการเครื่องซักผ้าความจุเยอะ ๆ แนะนำ HITACHI รุ่น SF-170ZCV ความจุมากถึง 17 กิโลกรัม งานซักกองโตจัดมาได้เลยไม่มีปัญหา ดีไซน์เรียบง่ายสวยงามสีสเตนเลส คุณสมบัตินั้นมีเพียบสมราคาแน่นอน เริ่มจากระบบซักคราบซึมลึกถึง 4 อย่าง ตั้งแต่การละลายผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าอย่างเหมาะสมที่ระดับน้ำต่ำสุด ปล่อยน้ำระดับสูงเพื่อให้สารซักฟอกเข้าถึงเส้นใยผ้า คลุกเคล้าทำความสะอาดผ้าให้ทั่วถึง และกำจัดคราบสกปรกด้วยระดับน้ำปกติ มีคลื่นน้ำ 2 ทิศทางทั้งแนวตั้งและแนวนอน มีโปรแกรมขจัดคราบหนัก Pre Wash ด้วยการใส่ผ้าที่สกปรกมาก ๆ ลงไปก่อน เมื่อเครื่องทำงานเสร็จแล้วจะมีเสียงเตือนเพื่อให้เราใส่ผ้าอื่น ๆ เพื่อทำการซักต่อด้วยโปรแกรมปกติครับ
และเครื่องรุ่นนี้ยังมีระบบทำน้ำร้อนในตัว สามารถเลือกซักผ้าด้วยน้ำร้อน 40 และ 60 องศาเซลเซียสได้ โดยสามารถขจัดแบคทีเรียและสารก่อภูมิแพ้ได้ด้วย นอกจากนี้ก็มีโปรแกรมขจัดกลิ่นอับโดยเฉพาะ อย่างเช่นกลิ่นบุหรี่ที่ติดเสื้อผ้ามาจะถูกทำความสะอาดด้วยไอน้ำความร้อนสูง ช่วยให้ผ้าสะอาดไม่มีกลิ่นตกค้าง ที่สำคัญยังมีโหมดพิเศษอย่างการเติมน้ำ และการปรับความแรงขณะซัก โดยตัวฝาเครื่องจะเป็นกระจกนิรภัยแบบใสมองเห็นด้านใน หากระหว่างซักรู้สึกว่าน้ำน้อยไปหรือแรงซักไม่พอก็สามารถปรับเพิ่มได้เลยโดยไม่ต้องหยุดการทำงาน ยังไม่หมดเท่านี้ ยังมีการทำความสะอาดถังซักอัตโนมัติทุกครั้งทั้งด้านในและด้านนอกตัวถัง ทำให้มั่นใจได้ว่าเสื้อผ้าจะไม่มีจุดหรือร่องรอยสิ่งสกปรกตกค้างแน่นอนครับ
กำลังไฟ | 450 W |
ความจุ | 17 kg |
ขนาด | 64 x 68.4 x 108.7 CM |
ระบบการทำงาน | Inverter |
ทำความสะอาดถัง | ✓ |
จุดเด่น | ระบบซักคราบซึมลึก 4 อย่าง, โปรแกรมขจัดคราบหนัก, ระบบทำน้ำร้อน, ล้างถังอัตโนมัติ |
8. ELECTROLUX รุ่น EWT1075H2WA
ราคาโดยประมาณ 7,790 บาท
มาดูรุ่นความจุย่อม ๆ กันอีกหนึ่งรุ่น สำหรับ ELECTROLUX EWT1075H2WA ตัวนี้ความจุที่ 10 กิโลกรัม เหมาะกับการซักผ้าจำนวนไม่มากนัก ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก มีจอแสดงผลและควบคุมการทำงานด้วยระบบ IQ Touch ปุ่มกดแบบสัมผัส มีฟังก์ชัน Auto Water Level ซึ่งจะตรวจสอบปริมาณผ้าและคำนวณระดับน้ำที่เหมาะสมให้อัตโนมัติ โดยเราสามารถเพิ่มหรือลดเองได้ตามต้องการ มีโปรแกรมการซักผ้าในแบบต่าง ๆ ให้เลือกใช้งานได้ ไม่ว่าจะซักแบบแยกประเภทเนื้อผ้า ผ้าฝ้าย ผ้ายีนส์ ผ้าผสม เครื่องนอน ผ้าเนื้อบาง หรือใครที่ชอบซักผ้าทุกวันแต่ไม่อยากเสียเวลาซักนาน ก็มีโปรแกรมซักด่วน 20 นาที ช่วยประหยัดเวลาไปได้พอสมควรเลยครับ
ส่วนผ้าที่มีคราบสกปรกมากหน่อย ก็มีโปรแกรม Soak and Extra Rinse สำหรับแช่ผ้าและล้างแบบพิเศษ ฝาปิดเป็นแบบใสมองเห็นการทำงานภายในถังซักได้ และยังออกแบบให้ปิดอย่างนิ่มนวลไม่อันตรายป้องกันการชำรุดเสียหายได้ดี นอกจากนี้ก็มีระบบทำความสะอาดถังซักให้ด้วย มีระบบจดจำการทำงานหากเกิดปัญหาไฟดับเครื่องจะกลับมาทำงานต่ออัตโนมัติเมื่อไฟมา โดยรวมถือว่าคุณสมบัติโอเคเลยทีเดียว สำหรับราคาที่ไม่สูงมาก แต่ก็มีการใช้งานที่จำเป็นครบ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มราคาครับ
กำลังไฟ | N/A |
ความจุ | 10 kg |
ขนาด | 57 x 59 x 85 CM |
ระบบการทำงาน | Non-Inverter Motor |
ทำความสะอาดถัง | ✓ |
จุดเด่น | ปรับระดับน้ำอัตโนมัติ, โหมดซักด่วน 20 นาที, แช่ผ้าและล้างแบบพิเศษ, ทำงานต่อเมื่อไฟมา(กรณีไฟดับ) |
9. SHARP รุ่น ES-W8-SL
ราคาโดยประมาณ 7,990 บาท
เครื่องซักผ้าฝาบนขนาดความจุ 8 กิโลกรัม SHARP รุ่น ES-W8-SL ถึงความจุไม่เยอะ แต่คุณสมบัติก็ไม่น้อย ดีไซน์ตัวเครื่องเรียบง่ายมีความมินิมอล สีเทา-เงิน มีฟังก์ชัน Fuzzy Control เซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณเสื้อผ้าและประเภทของเนื้อผ้าให้อัตโนมัติ เพื่อเลือกโปรแกรมการซักที่เหมาะสม ระดับน้ำที่ต้องใช้ ระยะเวลาในการซัก เพื่อให้เกิดการซักที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งโปรแกรมระดับน้ำจะมีทั้งหมด 4 ระดับ จาก Low – High และมีโปรแกรมสำหรับซัก 8 แบบ คือ ซักมาตรฐาน, ผ้านวม/ผ้าหนา, ผ้าเนื้อบาง, ซักด่วน, แช่ผ้า, ซัก, ล้างน้ำสะอาด และปั่นหมาดครับ
ในส่วนของการแช่ผ้านั้น ตัวโปรแกรมจะกำหนดระยะเวลาให้เองตามระดับน้ำ 20 หรือ 30 นาที เพื่อช่วยขจัดคราบสกปรกที่ฝังแน่นได้ดียิ่งขึ้น มีระบบ Safety Lock ป้องกันไม่ให้เด็กมากดปุ่มเล่นได้ระหว่างที่เครื่องกำลังทำงาน และยังสามารถตั้งเวลาซักผ้าล่วงหน้าได้ตั้งแต่ 1 – 24 ชั่วโมงอีกด้วย มีฟังก์ชัน Power Off Memory จดจำการทำงาน เมื่อเกิดฉุกเฉินไฟตกหรือขัดข้อง ก็สามารถกลับมาทำงานต่อได้โดยไม่ต้องตั้งค่าใหม่ ลองดูรีวิวจากคนที่ได้ใช้ ส่วนใหญ่ให้คะแนนความคุ้มค่า และใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาครับ
กำลังไฟ | 450 W |
ความจุ | 8 kg |
ขนาด | 53 x 55 x 92.9 CM |
ระบบการทำงาน | Universal Motor |
ทำความสะอาดถัง | ✓ |
จุดเด่น | เลือกโปรแกรมอัตโนมัติ(ด้วยเซนเซอร์), ปรับระดับน้ำได้, แช่ผ้า, ตั้งเวลาซักล่วงหน้า, ไฟตกสามารถทำงานต่อได้ โดยไม่ต้องตั้งค่าใหม่ |
10. BOSCH รุ่น WOA168S0TH
ราคาโดยประมาณ 19,900 บาท
เห็นราคาแล้วอาจจะร้องหูว ต้องมาดูกันว่าคุณสมบัติเขาจะขนาดไหน สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน BOSCH รุ่น WOA168S0TH ดีไซน์ทันสมัยให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทาน ฝาถังแบบ Soft Close ปิดนุ่มนวลช่วยยืดอายุการใช้งานและป้องกันอันตรายได้ ระบบการทำงาน VarioInverter Motor มีความทนทาน รับประกันการทำงานถึง 10 ปี ควบคุมและตั้งโปรแกรมการซักด้วยปุ่มแบบสัมผัส มีคุณสมบัติเด่น PowerWave Pro ทำความสะอาดผ้าได้อย่างทั่วถึงทุกชิ้น ด้วยระบบไหลเวียนน้ำแบบไดนามิก โดยที่ยังถนอมผ้าได้เป็นอย่างดีครับ
ส่วนใครที่ไม่ชอบรอซักผ้านาน ๆ หรือต้องซักผ้าทุกวัน ก็มีโปรแกรม SpeedPerfect ช่วยลดระยะเวลาการซัก 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังซักได้สะอาดเหมือนเดิม มีฟังก์ชัน Delay Start ตั้งเวลาซักล่วงหน้าได้ 24 ชั่วโมง โปรแกรมล้างถังซักทุก 2 สัปดาห์ มีระบบล็อคปุ่มกด รวมทั้งระบบ Memory Wash บันทึกโปรแกรมที่ใช้ซักประจำได้ นอกจากนี้หากเกิดไฟฟ้าขัดข้องระหว่างซัก เมื่อไฟฟ้าใช้งานได้ปกติเครื่องก็จะทำงานต่อจากเดิมโดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมใหม่ ยอมรับว่าหากดูราคาแล้วก็จัดว่าค่อนข้างสูงกว่ารุ่นอื่นที่ความจุเท่ากัน แต่ถ้าใครชอบเครื่องใช้ไฟฟ้าของแบรนด์นี้ที่ไว้ใจได้เรื่องคุณภาพและความทนทาน ก็ต้องจัดมาลองดูสักเครื่องแล้วล่ะครับ
กำลังไฟ | 680 W |
ความจุ | 16 kg |
ขนาด | 68.6 x 71.5 x 102 CM |
ระบบการทำงาน | VarioInverter Motor |
ทำความสะอาดถัง | ✓ |
จุดเด่น | ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง, ตั้งเวลาล่วงหน้าการซัก, โปรแกรมล้างถัง, บันทึกโปรแกรมที่ซักประจำ, ถ้าไฟฟ้าขัดข้อง เครื่องทำงานต่อจากเดิมได้ |
อ่านกันมาถึงตรงนี้คงจะได้คำตอบสำหรับ เครื่องซักผ้าฝาบน ยี่ห้อไหนดี กันแล้วใช่ไหมครับ เวลาซักผ้าก็อย่าลืมเลือกใช้ผงซักฟอกที่เหมาะกับฝาบนด้วย สังเกตได้ที่มุมถุงก่อนซื้อ ถ้าเกิดฟองล้นเครื่องขึ้นมางานจะเข้าได้นะ อาจจะทำให้เครื่องเสียไวขึ้น หลังจากปั่นหมาดเสร็จก็อย่าเผลอทิ้งผ้าคาเครื่องซักผ้าไว้นาน เดี๋ยว รอยยับ กลิ่น และแบคทีเรีย จะถามหาเอา สุดท้ายนี้ก็ขอให้ได้เครื่องซักผ้าบนที่ถูกใจ ใช้งานทนทาน ไม่มีปัญหากันนะครับ
ทำงานด้านสื่อโฆษณามานานกว่า 5 ปี เป็นนักซื้อตัวยง ที่มีประสบการณ์ใช้สินค้ามากมายหลายอย่าง เลยมีบทความใหม่ๆ ออกมาชวนผู้อ่านให้ซื้อสินค้ากันบ่อย ๆ ทั้งของอาหารเสริม เทคโนโลยี แกดเจ็ต ของใช้ในบ้าน และอื่น ๆ คัดเลือกสินค้ามาแล้วซื้อตามไม่มีผิดหวังแน่ ๆ